【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35  (อ่าน 234587 ครั้ง)

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 26 : เงาอาดูร (7)

เอริแอดเน่ก้าวไปดูคนของตัวเองทันที นางแตะเส้นชีพจรข้างลำคอ “ไม่ใช่เวท...พิษ” สตรีอิซิลดาร์เชี่ยวชาญการใช้เวทมนตร์และยาพิษ พิจารณาจากอาการตัวร้อน หายใจลำบาก เหงื่อออกท่วม ปากกลายเป็นสีม่วงซีด ไม่มีกลิ่นอายเวทมนตร์

เอริแอดเน่คิดถูกต้อง เวเรด้าตามโธรอสมา และถูกล้อมจับ นางถูกโอริมฟาดจนศีรษะเป็นแผลแตก จากนั้นก็แหวกวงล้อมของอมนุษย์ที่เป็นบริวารของนางแม่มดแมรี่โกลด์ นางแม่มดย่อมเป็นผู้ใช้พิษ แค่เพียงแผลบาดที่แขน พิษก็เข้าสู่ร่างกายของเวเรด้า นางตัดสินใจช่วยเจย์แม้รู้ว่าตนถูกพิษ สู้กับควิลดอร์ได้จนสุดความสามารถก็ล้มลง

“วางนางลง!” เอริแอดเน่สั่ง

ควิลดอร์จะทำตามที่ราชาริวอร์นอร์สั่งเท่านั้น เขาหลุบตาขณะหันไปหาพระองค์เพื่อขออนุญาต ซึ่งพระองค์ก็ให้เขาวางนางลงได้

“ท่าน...หญิง” เวเรด้าพึมพำ น้ำตาคลอ

“นางแม่มดของเจ้าอยู่ที่ไหน” เอริแอดเน่หันไปถามริวอร์นอร์เสียงเฉียบ ทหารของริวอร์นอร์เป็นใคร มีความสามารถอะไรบ้างนางย่อมรู้ โธรอส โอริม และควิลดอร์ไม่ใช่ผู้ใช้พิษ

“น่าจะไม่อยู่แล้ว” ริวอร์นอร์เอ่ยเรียบๆ เขาย่อตัวลงคุกเข่าข้างกายเวเรด้า นิ้วแข็งแรงแตะชีพจรบริเวณลำคอนาง สำรวจลักษณะบาดแผลที่แขนซึ่งพิษซึมแทรกเข้าไป

“นางแค่หยอก” ราชามงกุฏดำให้เอริแอดเน่ดูขอบรอยแผล “ขอบมีรอยไหม้ ร่างกายร้อนจัด เป็นไปได้มากว่านางถูกพิษในกลุ่มเพลิง แก้ได้ด้วยเวทวารีของเจ้า”

“งั้นหรือ” เอริแอดเน่ขึงตา “นางแค่หยอกหรือ” นางเอ่ยทวนคำ “ช่างรู้ใจกัน น่าเสียดายที่นางไม่อยู่แล้ว ข้าจะได้หยอกนางคืนบ้าง”

“เราหยอกนางแทนเจ้าแล้ว”

คำตอบที่ได้ฟังทำให้สีหน้าของท่านหญิงทะมึน “ข้าจะกลับราชวัง” นางวางมือบนหน้าผากของเวเรด้า

“เอริแอดเน่...อีกคนหนึ่ง ทำไมเจ้าไม่ออกมาจากเงา เราส่งนางแม่มดไปให้เจ้าหยอกมิใช่หรือ” ริวอร์นอร์หยัดกายขึ้น ก่อนหน้าเขาสั่งให้แมรี่โกลด์ทักผู้ที่มีใบหน้าเหมือนกับเอริแอดเน่ว่า ‘เงา’ ริวอร์นอร์กำชับให้นางออกเสียงดังฟังชัด ใช่...เขารู้ว่านางจะตาย และถูกต้อง เขาให้รางวัลนางที่ยุดยื้อเอริแอดเน่จากอุ้งพระหัตถ์ของพระบิดาแห่งความตาย

แมรี่โกลด์ไม่ใช่แม่มดสติดีนักหรอก แต่แม่มดก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ...

มือแบบบางปิดปากเจย์จากด้านหลัง มือนั้นกดลงเป็นเชิงให้โจรหนุ่มที่แอบซ่อนตัวอยู่เงียบ

เจย์เกือบว้ากออกมาแล้ว ใจเขาหล่นทะลุพื้นไปถึงนรก เวลานี้เขาซุ่มอยู่บริเวณเสาใกล้ทางออก เขาเห็นด้านนอกไม่ชัดนักและกำลังจะหาทำเลที่ดีกว่า จนกระทั่ง…

‘โรสเวน!’ เจย์ถลึงตาใส่นาง

โรสเวนกอดเอวเจย์ ดึงเขาออกมา ทำท่าจะลากไปอีกทาง เป็นภาพประหลาดที่นางดึงตัวชายหนุ่มร่างสูงด้วยท่าทางเหมือนเขาเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ

โจรหนุ่มชี้ไม้ชี้มือว่า ‘ข้าใกล้ถึงตัวนางแล้ว ไม่! จะไปไหน!’

‘ไปก่อน’ นางขยับปาก ‘เอริแอดเน่ยังอยู่ดี’ เมื่อเข้ามาในโรงเตี๊ยมได้ โรสเวนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง นางเห็นเอริแอดเน่ลงมาจากบันไดที่ชั้นสอง เห็นราชาริวอร์นอร์โอบเอวนางคล้ายเป็นผู้คุมและเสี้ยวหน้าเรียบตึงของผู้ถูกโอบ อยู่ด้วยกันมาในฐานะที่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน โรสเวนทราบทันทีว่าสีหน้าของเอริแอดเน่ในเวลานี้ไม่ใช่สีหน้าของผู้ที่คิดจะตาย

เจย์มองโรสเวนแบบไม่เชื่อเท่าไหร่ ‘ไปก็ไป’ แต่เขาทำตามนาง นางรู้จักเอริแอดเน่ดีกว่าเขา และเข้าใจสถานการณ์ดีกว่ามาก

โรสเวนถอนหายใจ บีบมือเจย์ ‘พาท่านออกไปก่อน ข้าค่อยกลับไป’ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ถ้าไม่ต้องเกลี้ยมกล่อมเอริแอดเน่ไม่ให้คิดฆ่าตัวตาย โรสเวนก็ไม่อยากเอาชีวิตของเจย์มาเสี่ยง

เจย์ขบกรามน้อยๆ เขาเป็นโจร เรื่องหนีเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษ เรื่องตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วย แต่เวลานี้เขาไม่อยากทิ้งใคร พวกนางไม่เหมือนโจรพวกนั้นที่เขาสามารถทิ้งโดยไม่ต้องคิดมาก

โรสเวนลอบมองเสี้ยวหน้าของเจย์ นางรู้สึกสะท้อนใจ เขาอายุยังน้อยเท่านี้ หากต้องทิ้งพวกนางเอาตัวรอดคนเดียว ในอนาคตหัวใจจะเกิดบาดแผลหรือไม่…

แต่มีบาดแผลก็ดีกว่าตาย!

‘ถ้าข้าเรียกความสนใจได้ล่ะ’ เจย์ขยับปาก ‘ถ้าข้าทำให้พวกมันสับสน เจ้าจะฉกเอริแอดเน่ได้หรือไม่’

แววตาของโจรหนุ่มมั่นคงและเด็ดขาด

เขาเชื่อว่าบิดาแห่งโจรอยู่เคียงข้างเสมอ

และแน่นอน… ‘ต้องรอด’

 

รออยู่นานกับความเงียบ เอริแอดเน่วางมือบนต้นแขนของเวเรด้า ไอเวทสีฟ้าแผ่จากมือนางอาบบาดแผล เมื่อสักครู่นางเคร่งเครียดเกินไป จึงมองลักษณะของบาดแผลไม่ขาด

ไอเย็นจากเวทวารีช่วยประคองอาการของเวเรด้า แต่อย่างไรก็เป็นพิษร้ายกาจของแม่มด หากไม่รีบพาไปรักษา...

“เรียกเงาของเจ้าออกมา หากเจรจาเป็นผลจะได้ออกเดินทาง ช้ากว่านี้...นางเอลฟ์ตะวันออกคงไม่รอด” ริวอร์นอร์แตะไหล่เอริแอดเน่เบาๆ

“เงาของนางอยู่ที่นี่แล้ว” เสียงที่เหมือนกับเอริแอดเน่ตอบ ผู้พูดเดินออกมาจากประตูที่เชื่อมไปทางด้านหลังโรงเตี๊ยม นางเอลฟ์ผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกษัตรีแห่งอิซิลดาร์ทุกประการ นางสวมชุดสีแดงเพลิง ใบหน้างามเฉิดฉันเรียบตึง ไม่ประดับรอยยิ้ม เมื่อมาประจันกับเอริแอดเน่ที่สวมชุดคล้ายกัน ก็ดูราวกับดอกไม้เพลิงสองดอก

เอริแอดเน่ลุกยืน หลุบตามองโรสเวน

ริวอร์นอร์คลี่รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ นัยน์ตาสีดำยังคงร้อนแรงไม่แพ้ครั้งที่เคยเป็นสีแดงโลหิต เขาน้อมศีรษะให้นางเล็กน้อยในฐานะที่นางทำหน้าที่สำคัญ--เงา

ใช่ว่าเชื้อพระวงศ์สำคัญทุกพระองค์จะมีเงา การสร้างและฝึกเงาทำได้ยากยิ่ง ไม่ใช่แค่ใบหน้าเหมือน ท่าทางเหมือน หรือฝึกจนบรรยากาศเหมือนเท่านั้น แต่เงาต้องจงรักภักดีในระดับเกินสามัญ เป็นตัวตายตัวแทน เป็นทหารและเป็นพี่น้อง เคยมีประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งบันทึกในเชิงว่า ‘ราชวงศ์รูเมเรียร์เกือบตกในวิกฤติ เพราะเงาไม่ยอมเป็นเงา มันริอยากเป็นแสงสว่าง’ ถอดความได้ว่ามีเงานึกทรยศ ต้องการสวมรอยเป็นเจ้านายเสียเอง หลังจากนั้น ราชวงศ์รูเมเรียร์ก็ยกเลิกประเพณีการสร้างตัวแทนเงาไป

โรสเวนถอนสายบัวอดีตราชา จากนั้นหันไปพิจารณาท่านหญิงของนาง ไล่จากดวงหน้าซีดเซียว เพราะผอมลงดวงตาจึงดูโตกว่าปกติ ริมฝีปากแห้ง...และบาดแผลเย็บที่ลำคอ

ดวงตาสีหินแก้วประกายรุ้งของโรสเวนมีไอน้ำเอ่อขึ้นมา “ท่านคิดจะตายจริงๆ”

ริวอร์นอร์ได้เห็นเอริแอดเน่หลบตา

เป็นครั้งแรกที่เอริแอดเน่ผู้เย่อหยิ่งหลบตาใครสักคน

“และตอนนี้ท่านเปลี่ยนใจแล้ว...ข้าควรดีใจหรือไม่” เสียงโรสเวนพร่าอย่างน่ากลัว เร็วกว่าใครจะคาด นางก้าวเข้ามา ตบใบหน้าของเอริแอดเน่ดังฉาด

เอริแอดเน่เกิดมาอย่างท่านหญิงสูงศักดิ์ สมัยยังเด็ก หากนางล้มได้แผลเพียงนิดเดียว นางกำนัลแทบจะหมอบกรานเพราะกลัวถูกลงทัณฑ์ จะมีใครกล้าแตะต้องหรืออบรมนางนอกจากท่านย่าของนางเอง

นางพญาแห่งอิซิลดาร์เป็นสตรีที่หยิ่งทะนง ทว่านางยอมให้ ‘เงา’ ตบหน้าตนต่อหน้าคนนอก ซ้ำยังไม่เอ่ยปากเถียง

เพราะครั้งนี้นางทราบว่าตนผิดจริง

นางคิดทิ้งชีวิตโดยไม่คำนึงถึงแผ่นดิน อันว่ากษัตริย์ยืนอยู่เหนือเอลฟ์ทั้งเผ่าพันธุ์ แต่เป็นข้ารับใช้แผ่นดิน มีหน้าที่ปกป้องแผ่นดินจากข้าศึกศัตรูภายนอก คุ้มครองจากความขัดแย้งภายใน ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและปลอดภัย นำความรุ่งเรืองทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณมาสู่เผ่าพันธุ์

ทว่านางกลับเอาความต้องการของตนเป็นที่ตั้ง คิดทิ้งทุกอย่างให้โรสเวน เอริแอดเน่คิดว่าหากมีโรสเวนอยู่ ก็จะมี ‘เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์’ แผ่นดินจะยังมั่นคงและอาจดีกว่าเมื่อปกครองด้วยสตรีที่มีนิสัยแตกต่างจากนางอย่างโรสเวน

จริงหรือ

ทว่าในมุมหนึ่งของหัวใจ เอริแอดเน่กลับทราบดีว่า นางได้ทิ้งภาระหนักหนาให้โรสเวน สิ้นนางแล้วความสัมพันธ์ระหว่างรูเมเรียร์และอิซิลดาร์จะเป็นอย่างไร ท่าทีอันละสายตาไม่ได้ของจอมทัพทมิฬเล่า

นางสั่งบั่นคอริวอร์นอร์ ทำลายขุมกำลังของเผ่าเอลฟ์จากภายในด้วยมือตนเอง และทำลายจิตใจของซิกฟรีดแลกกับชีวิตของตน

เอริแอดเน่หนาวเยือกไปถึงสันหลัง นางพยศร้ายกาจต่อชะตากรรม ให้นางก้มหน้ายอมรับสิ่งที่ริวอร์นอร์และซิกฟรีดกระทำไม่ใช่ตัวนาง นางยินดีแลกชีวิต กระนั้นบิดาแห่งความตายกลับปฏิเสธนางครั้งแล้วครั้งเล่า

นางเห็นความโกลาหลเมื่อรูเมเรียร์ทราบว่าริวอร์นอร์กลับมาแล้วอยู่ไม่ไกล

“ท่านจะโง่อีกกี่ครั้งถึงจะพอใจ” เพราะเป็นเงา สาเหตุที่เอริแอดเน่อยากปลิดชีวิตและยอมอยู่ต่อ โรสเวนใช้ความคิดนิดเดียวก็ทราบ “จนป่านนี้แล้ว ท่านยังให้เขาจูงจมูก”

เอริแอดเน่จ้องตอบตรงๆ นางบีบข้อมือของโรสเวนที่ยกค้างไว้หลังตบนาง ทว่าเค้นคำพูดไม่ออก

โรสเวนหันมองริวอร์นอร์ “เขาต้องการอำนาจของอิซิลดาร์ และท่านเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ท่านคิดว่าตัวเองมีอะไรพิเศษไปกว่านั้นหรือ”

ทุกคำพูดของโรสเวนช่างแทงใจ และเมื่อเอ่ยจากปากนาง ก็คล้ายเงาในกระจกของเอริแอดเน่กำลังบอกตัวนางเอง

ริวอร์นอร์กระตุกยิ้มให้กับเงาที่ปากกล้าไม่กลัวตาย เขาต้องการอำนาจของอิซิลดาร์หรือ...ใช่ แต่เขาก็ต้องการตัวนางด้วย ผลประโยชน์มาพร้อมความรัก นั่นไม่ดีหรืออย่างไร

อ้อ ผสมความชังเข้าไปด้วยในบางอารมณ์ นางฆ่าเขา ทำลายหัวใจเขา--เป็นข้อเท็จจริงที่เขาไม่อาจลืม

“ข้า…” เอริแอดเน่ได้แต่บีบข้อมือของอีกฝ่าย

“เขายังเรียกท่านว่า ‘ราชินีของเรา’ อยู่หรือไม่ ถ้าท่านไม่ใช่ราชินี ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีอำนาจ ท่านก็เป็นได้แค่สตรีโง่เง่าในกำมือเขา” โรสเวนเจ็บปวดที่ต้องพูดออกมาตรงๆ ต้องแสดงความอ่อนแอของเอริแอดเน่ให้บุรุษเหล่านี้ชม ซึ่งนอกจากราชาริวอร์นอร์แล้ว ยังมีทหารของเขา

“ก็ให้เขาเรียกไป!” เอริแอดเน่ขึ้นเสียง “ข้า! คือเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์” ดวงตาของนางมีประกายไฟอันเกรี้ยวกราดและแข็งกร้าวฉายวาบขึ้นมา ไม่ริบหรี่อ่อนแสงดังเช่นก่อนหน้า นางหันไปมองริวอร์นอร์ “ข้าสั่งให้เขารู้ฐานะของตนเมื่อไหร่ เขาก็ต้องทราบ”

ราชามงกุฎดำเหลือบสายตามองนาง ก่อนตวัดกลับไปยังเงา “นางเอลฟ์ตะวันออกต้องการหมอ ส่วนเราและคนของเราต้องการที่พำนักในอิซิลดาร์ ถ้าตกลง เราทั้งหมดจะออกเดินทาง” เขาเจรจาอย่างห้วนและสั้น ทั้งตรงประเด็นแบบไม่ให้พวกนางเสียเวลา

ริวอร์นอร์แสดงความใจกว้างอีกครั้ง เขาไม่จำเป็นต้องรักษาเวลาให้พวกนางเลย จะใช้เวเรด้ามาขู่เอริแอดเน่หรือเงาก็ได้ แต่ไม่ทำ…

ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกมากนักเช่นนี้ โรสเวนคิดว่านางคิดถูกจริงๆ ...ที่ตีเจย์จนสลบไป



—————————————————————————

A/N ฮ่าๆ จริงๆ อยากให้เจย์บู้นะคะ แต่ว่ากลัวไม่รอด จึงต้องตีจนสลบค่ะ \(*0*)/


จบบทเงาอาดูรแล้ว จากไปอีก 2 บทก็จะจบภาคค่ะ

อยู่กับอิซิลดาร์อีก 2-3 ตอน เรื่องจะวนกลับไปทางโคลด์และซิกฟรีดเร็วๆ นี้ค่ะ

ริวอร์นอร์ก็กลับมาแล้วเนอะ ไม่รู้ซิกฟรีดจะว่ายังไง


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2017 01:30:08 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ คงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2017 19:57:24 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โรสเวน คือ สติของเอรี่สินะ


ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ ตงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

คิดเหมือนกันเลยเรื่องความรู้สึกของเอรี่

ยังไงหวังว่าริวอนอร์จะเป็นกำลังให้รูเมเรียต่อกรกับจอมทัพนะ

ไม่ใช่มาสู้กันเอง

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น้องปวดหัวกับความวุ่นวาย ถ้าไม่รักไม่อ่านแน่ๆ

แต่มันหลงเสน่ห์ไปล้าว ก้อต้องตามต่อปายยย

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
เดาใจกันไม่ถูกจิงๆ
อย่างนี้ต้องติดตามไม่ให้คลาดสายตาค่ะ!

:pig4: :pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

ก็เขารักของเขา กิๆ :L2:
"ก็เขารักของเขา" เอรี่ทวนงอนๆ

ถ้าเช่นนั้นใครคือคนที่สั่งให้ทำลายเอรี่? หรือเป็นจอมทัพทมิฬ?

คิด ๆ ไปริวอร์นอร์ไม่น่าจะทำ เพราะเขารักของเขามากจริง ๆ แม้จะถูกทรยศก็ตาม

เอรี่ไม่รักซิกฟรีดฉันชู้สาว นางจึงไม่เคืองแค้น ไม่ผิดหวังจากรัก แต่นางผิดหวังที่น้องชายที่รักกลับไปรักดาร์กเอลฟ์ที่นางชิงชัง

ส่วนความรักกับริวอร์นอร์นั้นร้อนรุ่มด้วยอารมณ์และแผดเผานางเสมอ

อยากฟัดโคลด์หน้ายู่ วรั๊ย!
"งืมๆๆๆ อือๆๆ อย่าฟัดข้า อือๆๆ อื้อๆๆๆ" เสียงร้องของโคลด์จิ๋ว
ริวอร์นอร์นี่ เดาใจยากจังค่ะ ก็ดูรักนะ แต่ทำไมโหดจัง เคยมาปลอบเค้ามั้ย? ;w;
ถ้าเป็นเรา เรารักคนแบบเจย์ดีกว่า ฮือออ ดีต่อใจมากกว่านะคะ
แต่นี่เป็นเอรี่ คงมีแค่เอรี่ที่รู้ว่าอดีตของนางและริวอร์นอร์เป็นยังไง
แล้วทำไมเขาถึงทำลายนางได้ (หรือรออ่าน Ugly Queen แค่กๆ)
อารมณ์เอรี่ก็หวงซิกฟรีด aka ผักกาดขาวน้อย จริงๆ ค่ะ
/แบบ /กอดหนุบ "ผักกาดขาวน้อยของข้าถูกหมูดำ (โคลด์) คาบไปกิน" ;w;

:mew1:
:mew1: :mew1: :mew1:

พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~
โอย เหมือนมานั่งกลางใจนักเขียนเลยค่ะ วรั๊ยๆ
เวลาเขียนตัวละครที่มีอารมณ์ซับซ้อน และมีความสัมพันธ์หลายรูปแบบกับตัวละครหลายคน
มันเขียนยากจริงๆ ค่ะ ที่จะให้คนอ่านเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อ /แปลว่าเราจูนตรงกัน '///' /จับจูบ

ริวอร์นอร์งานดีจริงค่ะ เขียนเองก็จิ้นฮีกับทหารคนสนิทเอง... (จริงๆ คุณ FOULSOUL เขียน เราจิ้นค่ะ 555)

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (1)

ในสระน้ำอุ่นสีฟ้าใส อวลไอน้ำกรุ่นผสานกลิ่นเครื่องหอมที่ทำให้ผิวเนื้อซ่านระยิบ สตรีเอลฟ์สองนางในชุดผ้าแนบเนื้อโปร่งบางเดินลงบันไดฝั่งซ้ายและขวาลงไปหาบุรษที่ยืนอยู่กลางสระ

ราชามงกุฏดำเปลือยเปล่า ร่างกายตั้งแต่สะโพกลงไปซ่อนอยู่ใต้น้ำ กล้ามเนื้อทุกส่วนสัดแข็งแรงเฉกนักรบแห่งรูเมเรียร์ ไล่ตั้งแต่แผงอกกำยำ หน้าท้องเคร่งครัด ไปจนถึงสะโพกสอบแน่น ดวงตาสีดำรัตติกาลจ้องมองพวกนางเช่นดวงตาของสัตว์ร้ายกระหายเนื้อ

แสงยามเที่ยงวันส่องผ่านหลังคากระจกเหนือศีรษะ อาบไล้ผิวขาวละเอียดของนางเอลฟ์ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนให้เรืองรอง ในมือของพวกนางคือถาดวางพู่กัน ผ้า และชามแก้วเจียระไนบรรจุหมึกสีแดง พวกนางวางถาดลอยน้ำ คนหนึ่งยืนด้านหน้า อีกคนยืนด้านหลัง ต่างหยิบผ้าชุบน้ำเหมือนกัน เช็ดอักขระสีทองบนลำคอของเขา

สตรีเอลฟ์ร่วมกันเอ่ยภาษาเวท อักขระที่ถูกเขียนไว้ด้วยฝีมือของแม่มดนอกรีตค่อยๆ ถูกเช็ดจนจาง หมึกสีทองไหลจากลำคอแกร่งสู่แผ่นอกและแผ่นหลัง มือนุ่มนิ่มกดผ้าเช็ดลากตาม กระทั่งสีทองบนร่างกายของเขาหมดไป

พวกนางหยิบพู่กันจุ่มหมึกขึ้นพร้อมกัน หมึกสีแดงข้นทำจากโลหิตผสมหินแก้วบดเป็นผงและเครื่องหอมที่ใช้ในพิธีเวท ปลายพู่กันเรียวเล็กแตะรอยแผลเป็นบนลำคอ บรรจงเขียนอักขระประณีตละเอียดลออทีละตัวอักษร

โฉมงามด้านหน้าเขียนวนทางขวา ขณะโฉมงามด้านหลังเขียนวนทางซ้าย พวกนางสลับที่กันหลายครั้ง ทว่าด้วยสีหน้าท่าทางที่เหมือนกันทุกกระเบียดทำให้แยกไม่ออกว่าคนไหนคือคนไหน ใครคือคนที่เคยอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง

เมื่อเขียนเสร็จ อักขระสีแดงบนลำคอรัดร้อยเกี่ยวกระหวัด กลายเป็นรอยสักรูปมงกุฎหนามคมกริบพันรอบคอเขา มือเล็กคู่หนึ่งแตะที่รอยแผลเป็นด้านหน้า อีกคู่แตะที่รอยแผลเป็นด้านหลัง

พวกนางบริกรรมคาถา

ราชามงกุฎดำเห็นกระแสเวทแห่งผืนน้ำสั่นไหว น้ำในสระช่วยเพิ่มความเข้มข้นของไอเวท ปลายนิ้วที่ลูบไล้อยู่บนลำคอแกร่งทั้งล่อลวงและยั่วยวนใจ เขาร้อนที่ลำคอขึ้นเรื่อยๆ ขณะพวกนางร่ายมนตร์ พร้อมกันนั้นก็เกิดความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของเขา

ผมสีดำกลายเป็นสีทองไล่จากโคนถึงปลาย รวมถึงขนอ่อนทั่วร่างกายก็กลายเป็นสีทอง ดวงตาสีดำมีสีแดงเข้มข้นผุดซ้อนขึ้นมา กลายเป็นสีตาดุจโลหิต รอยสักรูปมงกุฎหนามรอบลำคอเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ ซ่อนรอยแผลเป็นจากการถูกบั่นคอให้ผิวเนื้อบริเวณนั้นเชื่อมกันสนิท

นี่คือเวทอำพรางกายชั้นสูงอันแข็งแกร่ง กระทั่งกลิ่นอายของริวอร์นอร์ก็กลับมามีชีวิต แม้ใช้เวทตรวจสอบก็ไม่อาจทราบว่าเขาคือคนตายฟื้นคืนชีพ

“เจ้ายังต้องกินเลือดและเนื้อเพื่อต่อชีวิต แต่ความหิวจะบรรเทาเมื่อมีเวทของเราช่วยพยุง” พวกนางเอ่ยพร้อมกัน เสียงเสนาะทับซ้อนฟังลี้ลับ มีมนตร์

“ค่าตอบแทนเล่า…” ริวอร์นอร์กระซิบ เขาวางสายตาไปยังพวกนางทีละคน เงาเหมือนเอริแอดเน่ เอริแอดเน่เหมือนเงาไม่ผิดเพี้ยน สมแล้วที่พวกนางเป็นสตรีคนสำคัญแห่งอิซิลดาร์ แผ่นดินที่ขึ้นชื่อในกลตบตาและเวทมากเล่ห์

สตรีด้านหน้าเชิดหน้านิดๆ ไอน้ำทำให้ชุดผ้าขาวบางแนบเรือนร่าง ไม่มีสัดส่วนใดของนางถูกบดบังจากสายตาเขา เพียงแค่ถูกซ่อนเร้นให้ยิ่งน่าค้นหา ขณะสตรีด้านหลังลูบแผ่นหลังเขาลงไปถึงเอว นิ้วเปียกน้ำลื่นผิว ให้สัมผัสน่าพึงใจ

“ให้เจ้าเป็นผู้ชายของเรากระมัง” เสียงร้ายกาจจากด้านหลังบอก ขณะสตรีด้านหน้ายกยิ้มซึ่งร้ายกาจไม่แพ้กัน

ริวอร์นอร์เชยคางสตรีด้านหน้า ก่อนจะหันไปวางมือบนแก้มของสตรีด้านหลัง เขาพิจารณาว่าผู้ใดคือเอริแอดเน่ ถูกต้อง พวกนางรูปโฉมเหมือนกัน กิริยาท่าทางไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับเขาเอริแอดเน่มีเพียงคนเดียว

พวกนางยิ้มท้าทายเขา นางเงา พอแสดงบทแสง ก็ทำได้เหมือนไม่มีที่ติ พวกนางเดิมพันกัน ว่าหากริวอร์นอร์ยอมรับข้อเสนอหรือแยกพวกนางไม่ออก สิ่งที่โรสเวนพูดก็จะเป็นจริง เขาแค่ต้องการ ‘ราชินี’ จะเป็นสตรีคนไหนก็เหมือนกัน

ร่างนุ่มนิ่มของทั้งสองเบียดหากายแกร่ง ออดอ้อนและยินยอมพร้อมใจ อุณหภูมิของน้ำทำให้การแนบชิดยิ่งเร่าร้อนขึ้น

“เจ้า…” ราชามงกุฏดำเอ่ยกับสตรีด้านหลัง “ร้องเพลงให้เราฟังสักท่อนหนึ่ง”

“ข้าไม่ใช่นางขับร้องของเจ้า นางชื่ออะไรนะ คนที่ให้แหวนแก่เจ้า” นางโอบมือจากด้านหลัง ข่วนเล็บบนอกริวอร์นอร์อย่างมีจริต

ริวอร์นอร์หัวเราะในคอ “หากไม่ให้คำใบ้แก่เราสักนิด เราก็จะใช้สัญชาตญาณ ให้บิดานภาชี้ทางแก่เรา”

สตรีด้านหน้ากอบหน้าเขา นางแตะนิ้วบนสันกรามแกร่ง พอใจกับความสง่างามสมชาย “สัญชาตญาณแบบไหนหรือ” บาดแผลที่ลำคอและมือทั้งสองข้างของเอริแอดเน่ได้รับการรักษาแล้ว เขาจึงไม่สามารถแยกพวกนางด้วยร่องรอยบาดแผล

อดีตราชาเอลฟ์หลับตา เขาโน้มใบหน้าไปยังสตรีด้านหน้า สูดกลิ่นบริเวณต้นคอไล่มาจนถึงไหปลาร้า จากนั้นค่อยจับให้นางหันหลังแล้วสูดกลิ่นบริเวณท้ายทอย ริวอร์นอร์โอบเอวนางเข้ามา แนบใบหน้ากับไหล่แบบบาง ก่อนจะแนบริมฝีปากกับหลังใบหู

สตรีด้านหน้าครางในคอ นางยกแขนเกี่ยวคอเขา ขยุ้มเส้นผมที่กลายเป็นสีทอง ริวอร์นอร์สังเกตว่านางจิกเท้าเมื่อใบหูถูกสูดดมลึกขึ้น

“โรสเวนเคยร่วมเตียงกับเจ้า” สตรีด้านหลังบอก ไม่ทราบว่าจริงหรือเท็จ หรือคนไหนคือโรสเวน “เจ้าแยกเราไม่ออกตั้งแต่ตอนนั้น”

ราชามงกุฏดำกอดนางเอลฟ์แน่นเข้า “ผู้ชายก็มีสัญชาตญาณไม่ต่างจากผู้หญิง เขาทราบว่ากำลังกอดใครอยู่…เขาทราบว่าภรรยาของตนลงโทษเขาด้วยการให้ร่วมเตียงกับหญิงอื่น แม้เขาจะไม่เข้าใจเล่ห์กลของนางก็ตาม”

ริวอร์นอร์ลากริมฝีปากลงมาถึงหลังของสตรีด้านหน้า เขาฝังจมูกตามสันหลัง และยามแนบใบหน้าลงไปก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นเบาๆ

ใบหน้าของริวอร์นอร์ถูกจับหันมาด้านหลัง เขาและสตรีด้านหลังจ้องตากัน นางยกยิ้ม “ใครเป็นภรรยาของเจ้าหรือ”

“เอริแอดเน่...หรือเจ้าปลาในอ่างแก้วแห่งอิซิลดาร์”

พวกหน้ามีสีหน้าแข็งค้างไปชั่วขณะเมื่อถูกเปรียบเทียบเช่นนั้น ดวงตาคู่งามสองคู่ฉายแววไม่พอใจ

“น่าขำ ถือดีอย่างไรมาเรียกข้าว่าภรรยา เจ้ากับข้าไม่มีพิธีวิวาห์ด้วยซ้ำ” คนหนึ่งบอก สีหน้าเข่นเขี้ยวของพวกนางเหมือนเงาสะท้อนบนกระจก แต่ลักษณะเฉพาะตัวยามโกรธของเอริแอดเน่เป็นสิ่งที่เลียนแบบได้ยาก

...จะมีใครเลียนแบบองศาใบหูของอีกคนเวลาโกรธได้หรือ โดยเฉพาะท่าทางที่แสดงออกเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่นางถูกเขายั่วยุ

“หูเจ้าชี้แล้ว” ริวอร์นอร์ยกยิ้ม เขาปล่อยสตรีด้านหน้า แล้วหันมาหานางผู้เป็นที่รัก

สตรีด้านหลังยกมือสองข้างจับหูตัวเอง หน้าแดงก่ำ “แค่วันนี้เจ้าโชคดีหรอก” แปลว่านางจะทดสอบเขาต่อไป

“กลิ่นของนางไม่เหมือนเจ้าเสียทีเดียว อาจต้องเคร่งครัดในการกินมากกว่านี้ เราหมายถึงตัวเจ้าเอง นางได้กินอาหารสมบูรณ์ แต่เจ้าได้กินเพียงผลไม้ของเอ็ดราฮิม”

เมื่อไม่ต้องแสดงบทบาทแล้ว โรสเวนก็เอาแขนข้างหนึ่งปิดหน้าอกและยืนเงียบๆ

ครั้งนี้...นางแพ้เดิมพัน

ริวอร์นอร์เข้ามาหาเอริแอดเน่ เขาจับคางนางไว้ “เจ้าคงไม่ใจร้ายปล่อยเราไว้ตรงนี้ใช่หรือไม่”

สายตาของโรสเวนคาดคั้นเอริแอดเน่เช่นกัน ว่าท่านจะปล่อยให้เขาเล่นสนุกต่อไปหรือ

ส่วนเอริแอดเน่เชิดหน้า เอ่ยไม่เร็วไม่ช้า “ไปนอนกับนางแม่มดของเจ้าเถิด”

“เจ้าเป็นใหญ่ที่สุด” ริวอร์นอร์จูบริมฝีปากบึ้งตึงของนาง

โรสเวนเห็นเอริแอดเน่หลุบตาลง ใช้เล็บไล้แผ่นอกของชายตรงหน้าอย่างเหม่อลอย นางก็หมุนตัวเดินออกไป

“โรสเวน” เอริแอดเน่เรียกไว้

ทว่าโรสเวนถอนใจแล้วเดินต่ออย่างไม่ลังเล

จะต้องสนิทสนมกันถึงขั้นไหนหรือ นางถึงมีอิทธิพลต่อเอริแอดเน่ถึงขนาดนี้

เอริแอดเน่เงียบครู่หนึ่งก็เงยหน้าบอกริวอร์นอร์ “ค่าตอบแทนคือตัวเจ้า ใต้คำสั่งของข้า” ความเชื่อมโยงแห่งวรรณะเวทของนางกับเขากลับมาแล้ว เขายอมให้นางชะล้างมนตร์ของนางแม่มดก็จริง แต่นางคิดว่าเขาทราบอยู่แล้วว่ามันจะค่อยๆ เสื่อมไป จึงยอมให้นางล้างมนตร์เพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนอื่น

“เราจะขัดขืนอย่างไรได้เล่า” ริวอร์นอร์จุมพิตนางอย่างดูดดื่ม แขนกระหวัดกอดและดันให้นางเข้ามาใกล้

ราชามงกุฏดำไม่เคยเอื้อนเอ่ยคำรักเลยสักครั้ง

ทว่าร่างกายของเขา...บอกรักนางนับพันครั้ง

—————————————————————————

A/N ขึ้นบทรองสุดท้ายแล้วค่ะ สังเกตว่าเวลาเอริแอดเน่ว่าง่าย ริวอร์นอร์จะพอใจเป็นพิเศษ ...ช่างเป็นคนที่!


ป.ล. วันนี้ลง 2 ตอนนะคะ เลื่อนอ่านตอนต่อไปเลยจ้า -3-



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (2)

ความรู้สึกแรกหลังเจย์ฟื้นคืนสติคือ

ปวดหัวฉิบหาย

ความรู้สึกที่ตามมาหลังเขาครางโอดโอย คลำหัวป้อยๆ และพลิกตัวคือ

นิ่ม…

นุ่ม

เด้งดึ๋ง?

สัมผัสที่บดเบียดเข้ามาทั้งนุ่มทั้งอุ่น โจรหนุ่มดีดเปลือกตาขึ้นแวบหนึ่งแล้วกลับไปหลับตาใหม่ด้วยความตกใจ เนื่องเพราะเวลานี้เขาถูกรายล้อมไปด้วยสตรีโฉมสะคราญนับไม่ถ้วน หญิงที่นอนชิดเขาที่สุด--คนที่เขาลืมตาใส่เมื่อครู่หัวเราะคิกคัก ทำเอาเขาหน้าแดงวูบวาบ มันใช่หรือนั่น คนที่สมควรเขินอายควรเป็นนางไม่ใช่หรืออย่างไร

เจย์แอบลืมตาแบบหรี่ๆ พบว่านางเป็นเอลฟ์ผมสีเทา ใช้นิ้วจิ้มแก้มเขาอยู่ “นี่คือผู้ชายสินะ” นางบอก

เขาจนคำพูดทันที

“เจ้าก็เป็นผู้หญิงสินะ…” เจย์เอ่ยแก้เก้อ เขาตัวแข็ง ไม่รู้จะขยับตัวไปทางไหน โจรหนุ่มอุทาน “อุ…!” เมื่อด้านหลังก็มีสัมผัสนุ่มๆ นิ่มๆ เบียดชิดเข้ามา ไม่เพียงเท่านั้น แขนเรียวบางยังถือวิสาสะกอดเขาจากด้านหลังอีก เจย์มองไล่ไปยังมือที่ลูบหน้าท้องเขา เล็บตะไบคมกริบทาสีเขียวปีกแมลงทับ หลังมือเขียนลายงดงามแปลกตาไปจนถึงข้อมือ

“นี่ๆ อย่าลูบเขาก่อนข้าสิ อ้อ ข้าชื่อซิลเวียนะ” นางบอกเจย์แล้วทำหน้าเหมือนอยากลองแตะหน้าท้องของโจรหนุ่มบ้าง

เจย์ลุกพรวดพราด เขาพบว่าตัวเองสวมแค่กางเกงชั้นในจึงลากผ้าห่มมาปิด พวกนางหัวเราะคิกคักเหมือนเจอเหยื่อตัวน้อย โจรหนุ่มเลิ่กลั่ก เขาชอบสตรีและที่นี่คือสวรรค์...แต่คิดอีกที เขาไม่แน่ใจนัก

เดี๋ยว เอ๊ะ...มองดีๆ เจ้าของมือที่ลูบหน้าท้องเขาเมื่อกี้...ไม่มีหน้าอกนี่หว่า!

ผิวนุ่มนวลขาวผ่อง เอวคอด ยอดอกเล็กสีชมพู บุรุษใดเห็นก็อยากฟอนเฟ้นไปทั้งตัว แต่อย่างไรแผ่นอกก็แบนราบ...เป็นหนุ่มน้อยหน้าตาสะสวยที่ไม่กลัวการสบตา เขายกมุมปากให้เจย์

เจย์ยกมือขึ้นปิดหน้า ส่งเสียงครางลอดฝ่ามือ ก่อนจะขยี้ผมแรงๆ

“ผู้ชายเขินล่ะ” ซิลเวียบอก...แล้วหนุ่มน้อยที่อยู่กับนาง...ไม่เรียกผู้ชายหรือ

“นั่นก็ผู้ชาย” เจย์ชี้ไปทางบุรุษที่ตะไบเล็บแหลมเปี๊ยบ

“เขาเป็นอสรพิษต่างหาก” นางแก้ความเข้าใจผิดของคนตรงหน้า “ไม่ต้องกลัวนะ เขาชอบผู้ชายเหมือนข้า” นางเอ่ยมีจริตแต่เป็นมิตรว่าทุกคนที่นี่ชอบเขา หวังให้เจย์ผ่อนคลายอารมณ์

“ข้าอยู่ที่ไหน” เจย์เข้าเรื่องในที่สุด “โรสเวนล่ะ เอริแอดเน่ เวเรด้า…”

“ท่านหญิงโรสเวน?” ซิลเวียขมวดคิ้ว จับแค่คำแรก ไม่เช่นนั้นคงตำหนิที่เจย์เรียกชื่อท่านหญิงเอริแอดเน่ห้วนๆ “ท่านเป็นผู้บัญชาการหน่วยอสรพิษ ไม่ใคร่ออกมาภายนอกราชวัง แม้แต่ใบหน้าของท่านข้ายังไม่เคยเห็นเลย”

“ไม่มีผู้ใดในพวกเจ้าเคยเห็นโรสเวน แต่เขาเคยเห็น ดังนั้นเขาจึงเป็นแขกคนสำคัญของข้า” สตรีผู้ครองแคว้นเดินเข้ามา ด้านหลังนางคือองครักษ์ผมดำ--ซอนย่า

เมื่อนางเข้ามา ทั้งห้องเงียบกริบ หยุดการเคลื่อนไหว

ซิลเวียเข้าไปรายงานตัวกับซอนย่าพร้อมเอ่ยขอโทษที่องครักษ์สตรีและหน่วยอสรพิษฝึกหัด เข้ามาดู ‘แขก’ โดยพลการ

“ท่านหญิงสั่งห้ามใครเข้ามาไม่ใช่หรือ” ซอนย่าไม่ใคร่พูด ทว่าพูดแต่ละครั้งทำให้คนสะดุ้งไปตามกัน เพราะนางดุและเคร่งครัดกว่าใคร

เจย์เห็นซิลเวียและคนอื่นๆ คุกเข่าทันที ทั้งหมดหมอบกรานโดยมีนางเอลฟ์ผมสีเทาเอ่ยขออภัยอย่างหวาดเกรง “พวกเราแค่อยากมาต้อนรับบุรุษที่ให้ความช่วยเหลือท่านหญิงที่เมืองโรสมินาสเจ้าค่ะ”

ซิลเวียและเอลฟ์ผู้เยาว์ย่อมไม่ทราบเรื่องตัวแทนเงา ซอนย่าจึงรับคำสั่งโรสเวนให้พาเขามาซ่อนในรังอสรพิษโดยบอกคนในหน่วยว่า ‘ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้นี้คือผู้ที่ให้ความช่วยเหลือท่านหญิงเอริแอดเน่หลังเหตุการณ์วังน้ำวนที่เมืองโรสมินาส จงต้อนรับเขาอย่างแขกคนสำคัญ’

“ข้าผิดเอง ใจเย็นๆ นะ...ข้าโวยวายไปเอง” เจย์จะยกมือห้ามทัพ แต่นึกได้ว่าตนใส่เพียงกางเกงเนื้อบางเบาแทบปกปิดอะไรไม่ได้ จึงยืนเก้ๆ กังๆ อย่างนั้น

ซอนย่าตวัดสายตามาทางเจย์ ทำเอาโจรหนุ่มเกือบสะอึก...ทำไมต้องดุขนาดนั้นขอรับ

“ให้พวกนาง...เอ่อ และพวกเขาออกไปก่อนดีไหม”

เมื่อเอริแอดเน่พยักหน้า ซิลเวียและคนอื่นๆ ถึงกับครางออกมาอย่างโล่งใจ รอจนทั้งหมดออกไป เหลือเพียงนาง เจย์ และซอนย่า สามคนอยู่ในห้อง นางก็เดินมานั่งฟูกหนานุ่มวางติดพื้นซึ่งใช้เป็นที่นอนของเจย์ “ยังเจ็บศีรษะอยู่หรือไม่”

“ข้าอยากคุยนะ แต่พวกเจ้าหันหลังสักครู่ได้มั้ย” เจย์วนนิ้ว เป็นเชิงให้พวกนางหมุนตัวหันหลัง “หมุนเลยๆ”

“ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสา” นางตอบ เวลานี้เจย์จะแยกออกหรือไม่ว่านางคือโรสเวนหรือเอริแอดเน่

“ข้าหันหลังเองก็ได้…” เจย์จะบ้าตาย เขาเดินลากผ้าห่มควานหาเสื้อผ้าสวม พอสวมเรียบร้อยก็สบายใจ นั่งคุยกับสตรีได้ไม่มีปัญหา “ตกลงเจ้าฉกเอริแอดเน่ได้หรือเปล่า” โจรหนุ่มเอ่ยถามสตรีตรงหน้า เขาดูมั่นใจมากว่านางคือโรสเวน

“เราต้องตกลงเรื่องการระมัดระวังคำพูดจาของท่านเสียก่อน” โรสเวนแปลกใจที่เจย์แยกนางออก แต่ไม่แสดงออก “เมื่อสักครู่ หากข้าไม่เข้ามา ทั้งหมดในห้องอาจไม่เหลือศีรษะไว้บนบ่า”

เจย์พยักหน้ายอมรับผิด “ข้าขอโทษ ข้าใจร้อนเกินไป”

“ท่านประหม่าหรือ” นางผ่อนคลายอารมณ์ ดวงตาสีสวยมองคล้ายรู้ทัน

“ใจร้อนเรื่องท่านหญิงด้วย ประหม่าด้วย ข้าไม่เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ นัก”

“สตรีอิซิลดาร์ชอบบุรุษรูปร่างสูงใหญ่” นางยกมือคล้ายวัดความสูงให้เจย์ “อย่างท่านนี่ อยู่ในระดับ...อืม…”

“เลือดเอลฟ์ทำให้กล้ามข้าไม่หนาเหมือนพวกมนุษย์” เจย์คอตก “หมู่บ้านข้า ผู้ชายที่ไม่ขาดผู้หญิงต้องร่างหนา บึกบึน เหวี่ยงขวานผ่าฟืนท่อนขนาดนี้ขาดในฉับเดียว” เขาทำมือวัดขนาดท่อนฟืน

“หรือ…” นางยิ้ม “ท่านยังเยาว์ ขอแค่ฝึกฝนร่างกายอีกสักหน่อยก็จะองอาจสง่างามเป็นแน่” นางพูดเอาใจเขาเหมือนชมเด็กชายตัวน้อย ทั้งปลอบโยนและทำให้อารมณ์ดี

“ตกลงว่าท่านหญิงปลอดภัยหรือไม่” เจย์ถอนใจหนักๆ “ส่วนเรื่องที่เจ้าตีหัวข้าค่อยว่ากัน”

โรสเวนคลี่ยิ้มเมื่อเจย์ไม่ถือสาเรื่องนางตีเขาสลบไป และไม่ได้ขอตุ้มหูที่นางมอบให้คืน เพราะจากนี้เขาอาจต้องพบอันตรายยิ่งกว่าที่โรงเตี๊ยมเสียอีก

“นางปลอดภัย...ในเวลานี้ เรื่องของนางข้าให้ท่านถามไถ่นางเองดีกว่า ส่วนถามว่าชิงนางคืนมาได้ไหม...ข้าก็ไม่แน่ใจ ตัวนางอยู่ที่นี่ แต่ใจนางยากจะบอก”

“โอเค...เอาตัวนางก่อน ถ้าตัวนางปลอดภัยก็ถือว่าดีมากแล้ว” เจย์เป่าลมออกจากปาก “เวเรด้าล่ะ”

“นางไม่มีโชคนัก ได้รับพิษร้ายแรงของแม่มด แต่อาการยังทรงตัวอยู่” โรสเวนมองซอนย่า “ซอนย่าจัดการกลบเกลื่อนให้แล้ว แต่ท่านบอกใครไม่ได้เช่นกันว่าเวเรด้าไปที่ไหนหรือทำอะไรมา”

“ข้าเก่งเรื่องรักษาชีวิต และการปิดปากให้สนิทก็เป็นหนึ่งในนั้น” เจย์รับรองกับนาง

เขากำลังถลำลึก...ไม่สิ เขาถลำลงมาจนสุดตัวแล้ว ร้ายกว่านั้น เขาไม่ทราบว่าตนอยู่ในฐานะใด มีหน้าที่อะไร เขาเคยเป็นโจรที่อยากแต่งเมีย แต่เวลานี้เขาไม่แน่ใจสักอย่าง

“เจ้าว่าท่านหญิงอยากจ้างโจรประจำพระองค์หรือเปล่า” เจย์หาที่ทางให้ตัวเอง

สายตาที่โรสเวนมองเจย์มีความรู้สึกตีขึ้นมา มันเหมือนเวลาที่เราห่วงใยหรืออ่อนใจกับใครสักคน “ท่านคงต้องลองถามนางดู แต่ท่านควรตัดสินใจหลังจากทราบว่านางพาใครกลับมา”

“ข้าพอเดาออก” เจย์ถอนใจ “ข้าคงไม่ได้พบนางในฐานะเพื่อนแล้วสินะ”

“อย่างที่ข้าบอก ท่านต้องลองถามนางดู” โรสเวนอยู่คุยกับเจย์อีกครู่หนึ่งจึงเรียกซิลเวียเข้ามาดูแลแขกแทนนาง

แน่นอนว่า ซิลเวียย่อมคิดว่านางได้รับมอบหมายงานจากท่านหญิงเอริแอดเน่


—————————————————————————

A/N ตอนเขียนช่วงนี้ เรารอบทเจย์ได้พบกับเอริแอดเน่อีกครั้ง อยากรู้จังว่าจะเป็นยังไง


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โถ่ สงสารโจรน้อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
คนที่โชคร้ายที่สุดในเรื่องนี้คือ....เจย์ ฮ่า ๆ ๆ

มางง ๆ ถลำลึกงง ๆ โดยไม่รู้ที่มาที่ไปเลย


ฉากในห้องเวทวารีนี่ร้อนประหนึ่งหม้อนึ่งปลา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ริวอร์นอร์ ขนันแหย่ หยอกให้เอริแอดเน่โกรธบ่อยๆ
ทำให้จำลักษณะท่าทางเวลาโกรธของนางได้ ไม่ใช่่ย่อยจริงๆ
ริวอร์นอร์ ปากหนักสินะ ไม่เคยเอื้อนเอ่ยคำรักกับเอริแอดเน่เลย
แต่ทำรักกับนางเป็นพันครั้ง
เชื่อละว่าชอบทำรัก และชอบร่างกายเอริแอดเน่จริงๆ  :o8: :-[ :impress2:

เจย์ ซื่อมากๆ ที่อยากรู้ว่า เอริแอดเน่ อยากจ้างตัวเองเป็นโจรประจำพระองค์หรือเปล่า  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ia091

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจย์ต้องรักนวลสงวนตัวไว้นะ 5555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ คงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
เฮียแกขยันทำการบ้านค่ะ แค่กๆๆ

โรสเวน คือ สติของเอรี่สินะ
ใช่เลยค่ะ สุดยอดสามีแห่งอิซิลดาร์ แงงงงง

:pig4: :pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ ตงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

คิดเหมือนกันเลยเรื่องความรู้สึกของเอรี่

ยังไงหวังว่าริวอนอร์จะเป็นกำลังให้รูเมเรียต่อกรกับจอมทัพนะ

ไม่ใช่มาสู้กันเอง
ดีใจ คิดตรงกันหลายคน -3-

น้องปวดหัวกับความวุ่นวาย ถ้าไม่รักไม่อ่านแน่ๆ

แต่มันหลงเสน่ห์ไปล้าว ก้อต้องตามต่อปายยย
โหย รักเลยค่ะ รู้เลยว่ารักกันจริงๆ ขอบคุณมากๆ นะคะ
มาๆ นวดให้หายปวด

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (3)

รูเมเรียร์ ห้องเก็บของชั้นใต้ดินแห่งหนึ่ง

อิลราลานจ้องอสรพิษตรงหน้า มันสะบักสะบอมเพราะต่อสู้และถูกเขาจับมาเค้นข้อมูล ริมฝีปากอิ่มที่ถูกมัดของมันเปื้อนเลือด เป็นเขาที่ลงมือทำให้เกิดรอยแผลนั้น และเป็นเขา...ที่ถอนฟันพิษของมันเพื่อไม่ให้ชิงฆ่าตัวตาย

‘อสรพิษแห่งอิซิลดาร์’ คือหน่วยลับใต้เงาของท่านหญิงเอริแอดเน่ พวกมันมีหน้าที่สืบข่าว เป็นสายลับ ลอบสังหาร ทำงานสกปรกและสิ่งที่อัศวินออกหน้าไม่ได้ สมาชิกในหน่วยส่วนมากเป็นบุรุษรูปร่างหน้าตาเหมือนอสรพิษร้าย สวย แต่มีเขี้ยวพิษที่ฉกถึงตาย

อสรพิษตัวที่อิลราลานจับมาคือตัวที่ส่งข่าวเรื่องราชามงกุฎดำแก่โรสเวน มันรับหน้าที่สืบข่าวในเขตตะวันตก รวมถึงมีเส้นสายกับนักค้าข่าว วันนั้นนักค้าข่าวแจ้งว่า ‘มีแม่มดนั่งรถม้ามาที่โรงเตี๊ยมเมืองทิลบ็อต จากนั้นโรงเตี๊ยมก็ปิดไม่รับแขกเพิ่ม พร้อมทั้งย้ายแขกที่พักอยู่ออกไป’

ขุนนางปิดโรงเตี๊ยมมีให้เห็นบ่อย ท่านผู้สูงศักดิ์ที่ไม่ใคร่จะหายใจร่วมกับสามัญชนนั้นแทบเดินชนกันในเขตเมืองหลวง แต่แม่มดเหมาโรงเตี๊ยมสิแปลก พึงรู้ไว้ว่าแม่มดเป็นผู้ใช้เวทนอกรีตที่เกลียดสถานที่ชุมชน และสถานที่ชุมชนก็รังเกียจหวาดกลัวพวกนาง อสรพิษจึงทำตามหน้าที่ ตามรอยเบาะแสไป เมื่อถึงก็ซุ่มรออยู่ด้านนอก และได้เห็นชายที่มีลักษณะท่าทางเหมือนราชามงกุฎดำออกมาที่ระเบียง!

เป็นไปได้อย่างไร! มันคิด ทว่าซุ่มรออีกครู่ใหญ่ก็เห็นบุรุษท่าทางอย่างทหารเข้าไปในโรงเตี๊ยม มันลอบหาจุดมองใบหน้าทหารผู้นั้น...จากนั้นจึงแน่ใจว่า นั่นคือ ‘โอริม’ ทหารคนสนิทของราชาริวอร์นอร์

มันหลบออกมาไกลด้วยไม่กล้าประมาทฝีมือทหารเอกที่เก่งเชิงรบกว่ามันไม่รู้กี่เท่า วิ่งไปพลางเขียนสารอย่างรีบร้อน ตั้งใจส่งข่าวด้วยนกกลางคืนกลับไปยังซิลเซเลียน ทว่าเขียนได้ครึ่งเดียวก็ถูกจู่โจม ข้อความในสารจึงไม่ครบ ไม่ทันได้บอกที่อยู่ของราชามงกุฎดำก็ต้องปล่อยนกบินไป

อสรพิษถูกโซ่เวทเข้ารัดอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ การโจมตีแม่นยำจนมันแทบไม่ทันตั้งตัว พอหลบ โซ่ก็ฉกเข้ามารัดอีก จากโซ่หนึ่งเส้นเพิ่มเป็นสองเส้น ผู้โจมตีใช้อาวุธระยะไกลคล่องแคล่วทั้งสองมือ มือขวาเหวี่ยงโซ่เส้นหนึ่งเพื่อบังคับทิศทางการเคลื่อนไหวของมัน มือซ้ายเหวี่ยงโซ่อีกเส้นเพื่อจับรัด โดยโซ่ทั้งสองเส้นไม่ตีกันเลย

ทว่าผู้จู่โจมมันไม่ใช่ทหารของราชามงกุฎดำ กลับเป็นบุรุษปริศนาที่ไม่เปิดเผยว่ารับใช้ฝั่งไหน มันถูกโซ่เวทรัดและลากออกมาไกลจากโรงเตี๊ยม ซึ่งตัวมันเองก็ยอมในคราแรก เนื่องเพราะหากต่อสู้ตรงนั้นจะเสี่ยงต่อการเปิดเผยกิจลับของท่านหญิง

บุรุษผู้นั้นปิดบังใบหน้าด้วยผ้าสีดำ นัยน์ตาแข็งกระด้าง ฝีมือการต่อสู้ยอดเยี่ยมทั้งในระยะไกลและประชิดตัว ในที่สุดอสรพิษก็เพลี่ยงพล้ำ มันถูกจับในลักษณะช้ำไปทั้งร่าง กระดูกซี่โครงหัก ข้อมือบิด ไหล่หลุดตกร่องแร่ง มันแน่ใจอย่างหนึ่งว่าบุรุษปริศนาถูกฝึกมาเช่นเดียวกับมัน…

ฆ่า


ทว่าอสรพิษยังมีชีวิต ครั้งแรกที่มันลืมตาขึ้นเพราะถูกสาดน้ำเย็นจัด บุรุษผู้นั้นเปิดเผยใบหน้าให้มันเห็น ผมสีทองสว่างและผิวขาวจัดบ่งบอกว่าเป็นเอลฟ์แผ่นดินใหญ่อย่างรูเมเรียร์ ใบหน้าหล่อเหลาคมสันรวมไปถึงดวงตาสีฟ้ากระจ่างชวนให้ใจสั่น...หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างออกไป

 

“มีสองทางให้เจ้าเลือก หนึ่ง ตอบคำถามข้า สอง ขัดขืนข้าและถูกตอกเล็บ”

 

เวลานั้นอสรพิษหัวเราะในคออย่างผยองทั้งที่ถูกมัดปาก

มันจึงถูกตอกเล็บ จากนั้นก็ถูกทรมานจนหมดสติครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่ได้สติ มันสังเกตว่าสถานที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่นตอนนี้...มันคิดว่าตนอยู่ในห้องใต้ดินของโรงเหล้า รอบๆ มีเงาสลัวของถังไม้บ่มเหล้าและกลิ่นสมุนไพรหลากชนิดจากชั้นวาง

อิลราลาน--องครักษ์มือซ้ายผู้รับใช้ราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์นั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวเล็กตรงข้ามอสรพิษ มือใหญ่ดันหน้ามันหันไปมา เห็นยังมีปฏิกิริยาตอบโต้ก็ละออก เวลานี้เขาไม่คิดทรมานรีดเร้นอะไรจากมัน ให้มันพัก อันที่จริง...ถือว่าเป็นวิธีการทรมานอย่างหนึ่งเหมือนกัน

แรกทีเดียวเขาได้รับคำสั่งจากราชาซิกฟรีดให้ตรวจสอบสถานที่ฝังพระศพของราชาริวอร์นอร์ในหุบเขาลึก แต่ภายหลังได้รับคำสั่งให้มาสืบข่าวท่าทีของอิซิลดาร์ที่มีต่อรูเมเรียร์ รวมถึงข่าวการเคลื่อนไหวของท่านหญิงเอริแอดเน่ ระหว่างนั้น เขาได้ข่าวแปลกประหลาดจากนักค้าข่าวเกี่ยวกับแม่มด จึงลองมาตรวจสอบ และพบเรื่องน่าสะพรึงที่ไม่คาดคิด

อิลราลานไม่อยากเชื่อสายตาว่าตนเห็นราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

เขาเคาะรหัสผ่านตุ้มหูเวทถึงราชาซิกฟรีดทันที ขณะที่สายตาปะทะกับร่างที่รีบร้อนหนีจากโรงเตี๊ยม จึงตัดสินใจไล่ตามไป และเมื่อเห็นมันเร่งร้อนเขียนสารก็ตัดสินใจเข้าจับกุม...ทว่าสารถูกส่งออกไปแล้ว

เขาพบตราแสดงตัวบนร่างมันว่าคืออสรพิษแห่งอิซิลดาร์

ไม่นานหลังจากนั้น อิลราลานได้รับคำสั่งให้รอ อย่าเพิ่งติดตามบุรุษผู้มีลักษณะเหมือนราชาริวอร์นอร์ไป ให้เลี่ยงสถานการณ์เสี่ยงที่จะเปิดเผยตัว และนำตัวอสรพิษกลับมายังรูเมเรียร์

“น้ำ” อิลราลานปลดผ้ามัดปาก ดึงผมสีม่วงแปลกตาของอสรพิษให้มันเงยหน้าขึ้นแล้วกรอกน้ำลงไป จนบัดนี้มันยังไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ซึ่งถือว่าเป็นอสรพิษที่ดี

ถึงจะหยิ่งทะนงแค่ไหน แต่มันก็มีใจหวาดกลัว เหนื่อย และหิวเช่นคนปกติ เมื่อกระหายถึงขีดสุดก็หน้ามืด เปิดปากรับน้ำ

มันดื่มน้ำจากมือบุรุษรูเมเรียร์ อึกๆๆ

“ดี”

ใบหน้าสวยจัดร้อนแรงแบบอิซิลดาร์ แต่ก็สะบักสะบอมด้วยมือที่ไม่ออมแรงของเอลฟ์นักรบ มันขึงตามองอีกฝ่ายด้วยดวงตาสีเหลืองอำพัน น้ำไหลจากมุมปากถึงคาง รสเลือดจากแผลที่ถูกถอนฟันปนกับรสน้ำ สภาพร่างกายที่หมดทางหนีทำให้มันอยากรีบจบชีวิตเสียที...ใครบ้างจะชอบโดนทรมาน

อิลราลานสอดนิ้วง้างปากมันค้างไว้ นิ้วชี้และนิ้วกลางสวมปลอกเหล็ก กันไม่ให้มันกัด มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบช้อนซุป ตักซุปเข้าปากมัน บังคับให้มันกิน

อสรพิษครางในคอ ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของบุรุษที่จับมันมา มันไม่พูด แทนที่จะฆ่าให้จบๆ กลับเลี้ยงเอาไว้ต่อ น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจตลอดหลายวันไหลออกมา สภาพดูไม่ได้ผิดกับวันแรกๆ ที่ยังผยอง

อิลราลานป้อนซุปจนหมดชามจึงปล่อยมัน เขานั่งตรงข้าม จ้องมองนิ่งๆ ทรมานด้วยความเงียบ...ด้วยความสงสัย เวลาในห้องมืดซึ่งสลัวด้วยแสงตะเกียงยาวนานราวนิรันดร์

องครักษ์รูเมเรียร์ไม่เร่งร้อน การจะกร่อนใจอสรพิษอิซิลดาร์ไม่ควรเร่งเร้า เขาลุกขึ้นเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ก่อนเดินหายไปในความมืด ทิ้งให้อสรพิษจมกับห้วงคิดอันแสนทรมาน

อสรพิษคิดว่าจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายดีไหม แต่เกรงอย่างเดียวคือไม่ตาย แล้วจะทรมานหนักยิ่งกว่าเดิม ชะตากรรมของสายลับที่ถูกจับได้เป็นอย่างไรมันทราบดี ตัดสินใจอยู่นาน มันก้มหน้าลง สะอื้นเบาๆ

พูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย…

“ก็ได้...ข้า…ข้า” ถึงตัดสินใจจะพูดเพื่อจบความทรมาน...แต่จะให้ทรยศท่านหญิง มันก็ยังทำใจไม่ลง จึงได้แต่ทำเสียงอู้อี้ในจมูก

มันสะอื้นไห้สักพักก็รู้สึกถึงมือใหญ่วางบนศีรษะ ลมหายใจเป่าแนบใบหูด้านหลัง กลิ่นหอมหนักเช่นบุรุษแตะจมูก เป็นกลิ่นที่ส่งให้รู้สึกอุ่นในอก ท่ามกลางอากาศเยียบเย็นของห้องใต้ดิน

อสรพิษสะดุ้ง ใบหูอ่อนไวสัมผัส มันหดคอหนี หากเป็นยามปกติมันก็คงใช้วิธียั่วยวนใจบุรุษ แต่ยามนี้บุรุษที่อยู่กับมันเป็นก้อนหินไร้อารมณ์ที่พร้อมทุบมันให้แหลกมากกว่า

“อยากรู้อะไร…”

“ทั้งหมด” เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่เสียงบุรุษคนเดิม มือใหญ่และอุ่นจัดเลื่อนจากศีรษะมาวางบนลำคอของมัน ก่อนจะกำไว้หลวมๆ แล้วดันให้พิงท้องตน มืออีกข้างหนึ่งวางบนอกของมันคล้ายกอดไว้…ช่างนุ่มนวลอ่อนโยน แต่แฝงคำขู่ในทุกสัมผัส

อสรพิษหายใจเข้าและออกอย่างแรง ในใจคิดวกวน มีคนตามมาเก็บข้าหรือ หรือเป็นพวกเดียวกับเจ้าคนเมื่อกี้ แต่ที่มันมั่นใจคือนี่ไม่ใช่เพื่อนอสรพิษ อสรพิษไม่มีบุรุษรูปร่างกำยำเช่นคนที่อยู่ด้านหลัง

นิ้วแข็งแรงดันคางมันขึ้นให้เงยหน้า มันจึงพบว่าบุรุษผู้นั้นคือราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ นัยน์ตาสีแสดล้อมด้วยสีเงินงดงามคล้ายเรืองเรื่อในความสลัว

พูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย… มันคิดเช่นเดิมอีกครั้ง...ทว่าตัดสินใจได้ในที่สุด หากเป็นคนอื่นถาม มันคงลังเลกว่านี้ แต่ก็เลือกเช่นเดิม เวลานี้เห็นหน้าคนถาม ความลังเลของมันถูกพัดกระเจิง “ข้าภักดีต่อนายข้าเท่านั้น”

ดวงตาสีเหลืองอำพันปิดลง มันกัดฟันแน่น รอรับความตาย ถ้าสบายหน่อยคงแค่คอถูกหัก...

“หากเจ้าตาย ใครจะช่วยพี่หญิง” มันได้ยินเสียงร่ายเวทเบาๆ เป็นเวทสำหรับรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้น ทุกรอยช้ำกลับคืนสภาพปกติ ยกเว้นไหล่ ซี่โครง และเล็บที่ถูกตอกที่ต้องรักษาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ

“ราชามงกุฏดำกลับมาแล้ว...ข้าเชื่อว่าอิซิลดาร์กระตือรือร้นกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะพี่หญิง”

อสรพิษเกรงตัวเองจะเผยพิรุธ มันจึงกัดฟัน รู้อยู่แล้วหรือ หรือแค่หยั่งเชิงข้า ถ้ารู้อยู่แล้วจะเอาข้ามาทรมานทำไม

ในที่สุดมันก็คิดออก

สิ่งที่ราชาซิกฟรีดและข้ารับใช้ของพระองค์อยากทราบ ไม่ใช่เรื่องราชามงกุฎดำ แต่เป็นเรื่องท่านหญิงเอริแอดเน่...

“อืม…” ซิกฟรีดแตะลำคอมัน วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ

ชีพจรของอสรพิษนิ่งและเต้นช้าลง มันสงบใจได้แล้ว “นายของข้าไม่เอ่ยถึงองค์ราชาสักคำ ความสัมพันธ์ของพวกท่านคงห่างเหินแล้วกระมัง” มันกล่าวแค่นั้นและเงียบอย่างยอมรับชะตากรรม

“ดูจากที่เจ้ารีบร้อนส่งสาร แปลว่าเอริแอดเน่ไม่ทราบหรือว่าเขากลับมา” อีกเสียงหนึ่งดังจากเงามืดของชั้น คนผู้นี้เร้นกาย ไม่ยอมออกมา

อสรพิษเกร็งตัว กลั้นหายใจ ไม่ยอมเอ่ยปาก ซิกฟรีดจึงลูบแก้มมันอย่างแผ่วเบา “ไม่เป็นไร เจ้าอาจล้า เราจะให้อิลราลานดูแลเจ้า ฟื้นกำลังแล้วเราค่อยพูดคุยกัน”

เมื่อสังเกตภาษาร่างกายของอสรพิษจนพอใจแล้ว คนในเงามืดก็ทำมือให้ราชาออกไปคุยกันด้านนอก

 

“มันมีอะไรขัดๆ กันอยู่นะ” โคลด์เอ่ยกับซิกฟรีด เขาคือคนที่ซ่อนอยู่ด้านหลังชั้นวางสมุนไพร

“เช่นว่า” ซิกฟรีดให้โคลด์เอ่ยต่อ

“ไม่รู้สิ นางปรากฏตัวครั้งแรกหลังเหตุการณ์ที่เมืองโรสมินาสเมื่อไหร่นะ...” ดาร์กเอลฟ์กอดอก ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์

ซิกฟรีดลูบปาก ใช้ความคิด เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างขัดกันอยู่ แต่ยังไม่เอ่ยออกมา

“มันขัดกันจริงๆ นั่นแหละ” โคลด์ทำหน้ายุ่ง “เจ้าบอกว่าฝันเห็นนางที่เกาะซึ่งใช้เก็บพระศพใช่ไหม และถ้าความฝันของเจ้าคือการบอกเหตุโดยมารดานทีจริง แสดงว่าเอริแอดเน่ต้องรู้อยู่แล้วว่าริวอร์นอร์อยู่ที่ไหน ก็นางเอาศพเขาไปคืนชีพ แล้วจะให้อสรพิษมาสืบข่าวเขาทำไม”

“ข้าคิดเหมือนเจ้าเรื่องการคืนชีพ ไม่ว่าฝันบอกเหตุของข้าจะเป็นจริงหรือไม่ แต่หากพิจารณาว่าไม่มีใครทราบสถานที่ฝังพระศพนอกจากข้ากับพี่หญิง ก็เป็นไปได้มากว่าผู้ปลุกชีพริวอร์นอร์ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นนาง อย่าลืมว่าสถานที่ฝังพระศพมีสองแห่ง มีสัตว์พิทักษ์ และมีศิลาเวทป้องกันผู้บุกรุกอย่างแน่นหนา ถ้าเป็นใครอื่นลงมือ...ข้ามั่นใจว่าคงไม่ราบรื่นขนาดที่ข้าจะไม่รู้ตัวจนริวอร์นอร์กลับมา”

โคลด์พยักหน้า “เราไม่รู้ว่าเอริแอดเน่อยู่ในวังตลอดเวลาหรือเปล่า หรือนางคืนชีพให้เขาที่ไหน แต่ถ้าทำในอิซิลดาร์ แล้วริวอร์นอร์กับนางแตกกันทันทีที่เขาคืนชีพ เขาจะไปพักที่โรงเตี๊ยมในอิซิลดาร์ทำไม”

ซิกฟรีดลูบริมฝีปากจนช้ำ กรามขบกันแน่น “อย่างที่เจ้าว่า ถ้า...พี่หญิงเป็นผู้คืนชีพให้ริวอร์นอร์ การส่งอสรพิษมาสืบเรื่องที่ตนเองทำช่างไร้เหตุผล”

“อืม…เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ให้ข้าฆ่ามันแล้วถามเอาจากศพ แบบนั้นจะได้คำตอบชัดเจนกว่า” ชาแมนสายอันเดดมีอำนาจควบคุมศพ บางคนบังคับให้ศพเอ่ยความลับที่ซ่อนไว้ได้ สำหรับโคลด์ที่สามารถควบคุมคนตายด้วยพรสวรรค์แต่กำเนิด เรื่องนี้ง่ายและรวดเร็วกว่ารีดความลับจากคนเป็นเสียอีก

“รอก่อน” ซิกฟรีดเมตตาหรือ...อาจใช่ เขายังไม่อยากเห็นความตายในเวลานี้ โดยเฉพาะความตายที่มีริวอร์นอร์เป็นสาเหตุร่วม “หากมีเหตุจำเป็นหรือสถานการณ์บังคับ ข้าจะให้เจ้าเชือดมัน”

โคลด์ยกมือเป็นทำนองว่ายอม “ก็เจ้าเป็นคนสั่งการนี่นะ ถึงข้าไม่ลังเลจะฆ่าคนของนางก็ตาม” ดวงตาสีม่วงฉายแววอำมหิตวูบหนึ่ง “เอาเป็นว่า เรารู้ว่าในอิซิลดาร์มีการเคลื่อนไหวที่แปลกพิกล และเราไม่ควรมองข้ามมัน”

โดยไร้ที่มา ซิกฟรีดคล้ายสดับเสียงหวานเศร้าของพี่หญิงคาลิเธียล เสียงนั้นขับขานบทเพลงกล่อมเด็ก

‘จงระวังยามอสรพิษเคลื่อนไหว

กายมันขยับเงียบงันในฝันร้าย

หากเผลอไผลความตายคงมาเยือน

เด็กเอ๋ย...จงระวังอสรพิษ

เขี้ยวคมดุจกริชฝังเนื้ออ่อน

มันพร้อมขย้ำเจ้ายามหลับนอน

รีบเถิดจงรีบซ่อนให้พ้นภัย’



—————————————————————————

A/N ยาวๆ กับฝั่งรูเมเรียร์ค่ะ มาให้หายคิดถึงเลย ตอนนี้มีหลายเรื่อง ทั้งความเท่ของอิลราลาน และอสรพิษเชลย (รัก) ของเขา /แค่กๆ และความเท่ของซิกฟรีด ปกติเห็นยอมโคลด์ๆ เอาจริงๆ ก็ดูเท่เลือดเย็นเหมือนพี่ชายเหมือนกันนะ ;w; /ปลื้มใจ


ป.ล. บทนี้วิเคราะห์กันใหญ่

ป.ล. 2 เพลงท้ายบทโดยคุณ FOULSOUL เพราะมากเลย!

ภาพอิมเมจของน้องอสรพิษค่า <3





ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2017 15:31:22 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ชายและหญิงในเรื่องนี้ทำให้หลงเสน่ห์ได้ทุกคนสิน่า

หลงซิกฟรีด เจ้าหัวผักกาดของหมูดำ ฮ่า ๆ ๆ

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
โถ่ สงสารโจรน้อย
โดนแกล้งตลอดเนอะ

คนที่โชคร้ายที่สุดในเรื่องนี้คือ....เจย์ ฮ่า ๆ ๆ

มางง ๆ ถลำลึกงง ๆ โดยไม่รู้ที่มาที่ไปเลย


ฉากในห้องเวทวารีนี่ร้อนประหนึ่งหม้อนึ่งปลา
นึกถึงปลานึ่งมะนาวเลยค่ะ /แผล็บๆ

ริวอร์นอร์ ขนันแหย่ หยอกให้เอริแอดเน่โกรธบ่อยๆ
ทำให้จำลักษณะท่าทางเวลาโกรธของนางได้ ไม่ใช่่ย่อยจริงๆ
ริวอร์นอร์ ปากหนักสินะ ไม่เคยเอื้อนเอ่ยคำรักกับเอริแอดเน่เลย
แต่ทำรักกับนางเป็นพันครั้ง
เชื่อละว่าชอบทำรัก และชอบร่างกายเอริแอดเน่จริงๆ  :o8: :-[ :impress2:

เจย์ ซื่อมากๆ ที่อยากรู้ว่า เอริแอดเน่ อยากจ้างตัวเองเป็นโจรประจำพระองค์หรือเปล่า  :ling1: :ling1: :ling1:
ริวอร์นอร์นี่...ชอบมีโมเมนต์ให้เผลอใจค่ะ แง

เจย์ต้องรักนวลสงวนตัวไว้นะ 5555
5555555555555555  :mc4:

:pig4:
:mew1: :mew1:

ชายและหญิงในเรื่องนี้ทำให้หลงเสน่ห์ได้ทุกคนสิน่า

หลงซิกฟรีด เจ้าหัวผักกาดของหมูดำ ฮ่า ๆ ๆ
ซิกฟรีดนี่ ไม่มาแปบเดียว (หลายแปบอยู่) มาทีก็เร้าใจดีนะคะ /แค่กๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ลุ้น ให้ ซิกฟรีด โคลด์ รู้เรื่องไวๆ
อสรพิษดำ จงรักภักดี ไม่แอะปากเลย
แต่สุดท้ายจะบอกมั้ยนะ
เสน่ห์เปี่ยมจริงๆนะซิกฟรีด
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เชื่อใจใครได้บ้าง แม้กระทั้งคนแต่ง 5555

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (4)


เสียงแตรดังขึ้นเมื่อได้รับสัญญาณว่าขบวนของราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ผ่านเข้าประตูเมืองหลวงซิลเซเลียน ทหารกล้าแห่งอิซิลดาร์กันประชาชนไม่ให้กีดขวางทางเสด็จ พวกมันสวมเกราะเต็มยศเพื่อต้อนรับอาคันตุกะคนสำคัญ เช่นเดียวกับประชาชนซึ่งสวมชุดที่ดีที่สุดมาต้อนรับองค์ราชาผู้มีชัยเหนือกองทัพทมิฬ

ราชาริวอร์นอร์เป็นที่รัก...ใครจะไม่รักและเทิดทูนกษัตริย์ซึ่งกล้านำทัพต่อกรกับจอมทัพทมิฬด้วยพระองค์เองบ้าง ทั้งในรัชสมัยของพระองค์ยังมีการออกกฎหมายควบคุมผู้อพยพชาวดาร์กเอลฟ์ และออกมาตรการปราบกบฏดาร์กเอลฟ์อย่างเด็ดขาด ข่าวนั้นแพร่มาถึงแผ่นดินทางใต้ พระองค์ได้ใจชาวรูเมเรียร์ที่อาศัยอยู่ในอิซิลดาร์ไม่น้อย ซ้ำยังได้ใจชาวอิซิลดาร์ในด้านความเด็ดขาด

ว่ากันด้วยหลักมนุษยธรรม แม้ภายในจะต่างความคิด แต่ภายนอกทุกแผ่นดินยินดีและพร้อมอ้าแขนรับผู้อพยพซึ่งหนีจากไฟสงคราม ทว่าหลังทุกอย่างจบลง ผู้อพยพชาวดาร์กเอลฟ์ส่วนใหญ่ไม่ยอมกลับแผ่นดินเกิด แต่พากันตั้งรกรากที่แผ่นดินอื่น แย่งอาชีพ เบียดเบียนพื้นที่อาศัยและทำกิน รวมไปถึงบางส่วนยังสร้างความเดือดร้อน อาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประหวั่นใจ

ว่ากันด้วยหลักมนุษยธรรม...คงใช้ในช่วงหลังสงครามไม่ได้กระมัง

กลีบดอกไม้สีแดงและสีขาวอมทองโปรยปรายจากด้านบน สีแดงแทนโลหิตอันห้าวหาญ สีขาวอมทองแทนสัตว์เทพผู้พิทักษ์แผ่นดิน--ยูนิคอร์นแห่งแสงซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลอิซิลดาร์ บรรดาสตรีโฉมสคราญแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสได้รับหน้าที่ให้โปรยกลีบดอกไม้ พวกนางเป็นธิดาของขุนนางคนสำคัญในอิซิลดาร์ มีศักดิ์เป็นท่านหญิงตระกูลรอง ทำงานรับใช้เอลเดอร์และท่านหญิงตระกูลหลักผู้มีศักดิ์สูงกว่า พวกนางเก็บอาการตื่นเต้นอย่างแนบเนียน พยายามไม่ชะเง้อมองขบวนบุรุษรูเมเรียร์ซึ่งกำลังผ่านประตูเข้ามา

ราชามงกุฏดำทรงม้าพ่วงพี ขนสีดำมันปลาบ ตาสีแดงเฉกไฟกัลป์ ลมหายใจของมันพ่นไอระอุเช่นอาชาไนยของพระบิดาแห่งสงคราม เมื่อเหยาะย่าง...เสียงเกือกเหล็กดำกระทบกับพื้นหินดังเป็นจังหวะหนักแน่น สมเป็นม้าศึก

ริวอร์นอร์แห่งรูเมเรียร์สวมเกราะเหล็กดำ ศีรษะคาดรัดเกล้าของพิลกริมหรือผู้แสวงบุญ พระองค์จับบังเหียนด้วยมือข้างเดียว บังคับม้าให้ตรงไปตามถนนสายหลักซึ่งเชื่อมกับถนนหลวงของราชวังอิซิลดาร์ ผู้ที่ติดตามพระองค์มาคือโอริม โธรอส และควิลดอร์--นักรบแห่งรูเมเรียร์

เสียงโห่ร้องต้อนรับด้วยความยินดีสะเทือนไปถึงท้องฟ้า ‘ราชามงกุฏดำทรงกลับมาแล้ว!’

หน้าประตูทางเข้าราชวังอันโออ่าเปิดต้อนรับผู้มาเยือนไว้อยู่แล้ว ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ยืนอยู่ด้านหน้าเหล่าเอลเดอร์และสตรีในตระกูลหลัก นางถือดอกไม้สีเพลิงเพื่อมอบแก่บุรุษที่กลับถึงมาตุภูมิ ชุดสีแดงดั่งโลหิตเหมาะสมกับนางยิ่งกว่าสตรีนางใด มงกุฎทองคำและเครื่องประดับร่างกายของนางคืองานศิลป์ชิ้นเอกอันบ่งบอกความมั่งคั่งและประวัติศาสตร์รุ่งโรจน์ยาวนานของแผ่นดินเกิด

นางถอนสายบัวอย่างสง่าให้ราชาผู้องอาจเมื่อพระองค์ลงจากหลังม้ามายืนบนพื้นอย่างภาคภูมิ

“ยินดีต้อนรับสู่อิซิลดาร์ ดีใจเหลือเกินที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มิได้ถูกกบฏดาร์กเอลฟ์บั่นคอดังเช่นข่าวลือ”

มีอันตรายแฝงอยู่ในน้ำเสียงของนาง ทว่าเพียงพอแค่ให้เขาจับสัมผัสได้ ข่าวลืออะไรกัน นางนี่แหละที่อยู่ด้วยตอนซิกฟรีดประทับพระราชลัญจกรลงในประกาศสิ้นพระชนม์ของเขา ไม่ต้องเอ่ยถึงความโกลาหลในท้องพระโรงอิซิลดาร์เมื่อนางแจ้งว่าจะทำการต้อนรับราชาผู้สมควรสิ้นชีพ ระหว่างนางกับเขายังมีข้อตกลงเด็ดขาดว่าห้ามเปิดเผยความจริงว่าผู้ก่อการกบฏคือนาง และผู้บั่นคอเขาคือซิกฟรีด หาไม่แล้วการสังหารราชาเฟรธูรินก็จะถูกเปิดเผยเช่นกัน ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีต่อเขา นาง หรือซิกฟรีด ซ้ำยังทำให้ประชาชนสูญเสียศรัทธาในราชวงศ์

“อา...เรื่องนั้น” ริวอร์นอร์ทอดหางตาลงแบบผู้ที่รู้สึกผิดเหลือใจ “สงครามสร้างบาดแผลฉกรรจ์แก่ใจของเรา เราจึงออกจาริก ส่วนเรื่องที่เราไม่ได้มอบตำแหน่งให้ซิกฟรีดอย่างเป็นทางการนั้น เราขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวเถิด”

หึ ช่างพูดนัก อย่างนี้ก็เหมือนซิกฟรีดขึ้นเป็นราชาเองโดยพลการ และเจ้ามีสิทธิ์ทวงตำแหน่งราชาคืน

ถึงจะเป็นเหตุผลที่เขาและนางตกลงกันเป็นการส่วนตัวในสระน้ำอุ่น แต่เมื่อได้ฟังเขากล่าวอย่างลื่นไหลและมีนัยให้พลิกลิ้น นางก็อดทึ่งฝีมือการแสดงของเขาไม่ได้

“ราชาซิกฟรีดอาดูรท่านมากทีเดียว” นางเยินยอซิกฟรีดด้วยสีหน้าปลอบโยน เห็นอกเห็นใจริวอร์นอร์

“ไม่ได้พบหน้าน้องชายมานาน เราแทบทนไม่ไหวที่จะกลับรูเมเรียร์ แต่เราผ่านทางอิซิลดาร์ก่อน อันที่จริง ท่านหญิงไม่น่าลำบากจัดการต้อนรับยิ่งใหญ่เช่นนี้เลย”

ริวอร์นอร์ช่างถ่อมตัวและสุภาพไม่ผิดกับอดีตราชาเฟรธูริน

ข้าจัดงานต้อนรับเจ้าเพราะเจ้าบังคับให้ข้ารับเจ้าเข้าบ้านมิใช่หรือ! แม้ความคิดจะเผ็ดร้อน แต่ภายนอกของนางกลับสงบ สำรวม “สำหรับวีรบุรุษคนสำคัญแห่งอิซิลดาร์และ ‘อดีต’ คู่หมั้นของข้า จะมีเกียรติใดเหมาะสมกับข้ายิ่งกว่าได้ต้อนรับท่านเป็นคนแรกอีก”

ริวอร์นอร์มองนางอย่างลึกซึ้งโดยไม่ปิดบัง คล้ายประกาศให้ผู้ที่อยู่โดยรอบ--เช่น...เอลเดอร์ รับทราบว่าเขายังอาลัยอาวรณ์ท่านหญิงเอริแอดเน่เพียงใด

“ขออภัยที่เราไปโดยไม่ได้บอกลาเจ้า”

และทำให้ผู้ฟังคิดไปว่าเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์กำลังตัดพ้อตน

ยิ่งเจ้ารั้งเราไว้หน้าประตู เจ้ายิ่งเสียเปรียบ...ราชินีที่รัก

เอริแอดเน่เดือดดาลอยู่ในใจ นางจะไม่ยอมให้ริวอร์นอร์กำชัยในการโต้คารมและชักนำให้บริวารของนางคล้อยตามเขา ทว่านางก็ไม่ประสงค์จะกลับไปหาซิกฟรีดเช่นกัน

“หลังสิ้นท่านเฟรธูรินและสูญเสียท่าน จิตใจของข้าสงบลงมากแล้ว เวลานี้ข้ากลับมาพำนักที่บ้านเกิดเพื่อให้ความสงบแก่จิตใจอันว้าวุ่นของท่านซิกฟรีดเช่นกัน และเมื่อเขาคลายความว้าวุ่นนั้น ข้าก็ยินดีรับใช้เขาในฐานะพระคู่หมั้น”

นางปฏิเสธริวอร์นอร์ด้วยเหตุผลว่าเวลานี้นางเป็นคู่หมั้นของซิกฟรีด และปฏิเสธซิกฟรีดต่อหน้าธารกำนัลอย่างนุ่มนวลด้วยการบอกเป็นนัยว่าจะไม่กลับไปรูเมเรียร์จนกว่าเขาจะ ‘คลายความว้าวุ่นใจ’ ซึ่งความว้าวุ่นใจนั้นย่อมหมายถึงดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์ และนางรู้ดีว่าซิกฟรีดไม่มีวันทำได้

“ดูเหมือนว่าเรามีหลายเรื่องที่ต้องคุยกัน” ริวอร์นอร์ยิ้ม และเผื่อแผ่รอยยิ้มนั้นให้เหล่าเอลเดอร์และบรรดาสตรีตระกูลหลักด้วย “เราจะคุยกันตรงนี้ก็ย่อมได้ แต่คงลำบากท่านเอลเดอร์กระมัง”

“งานเลี้ยงต้อนรับรอท่านและบริวารอยู่” เอริแอดเน่ผายมือ รอจนเขายื่นแขนให้นางเกาะตามธรรมเนียม นางก็เกาะแขนเขาเพื่อเดินเข้าสู่ราชวัง

“เตียงของเจ้าเล่า...จัดเตรียมไว้รอเราหรือไม่” ริวอร์นอร์กระซิบพอให้นางได้ยิน เขาชอบหยอกให้นางหลุดความเยือกเย็น

คำตอบก็คือเล็บคมที่เกร็งขึ้นเล็กน้อยพร้อมจิกเขา และใบหูที่ชี้ตั้งอย่างไม่สบอารมณ์ของนาง

------------------------------------

“มาทางนี้ๆ” นางเอลฟ์ผมสีเทาผู้รับหน้าที่ดูแลเจย์ลากเขาอย่างกระตือรือร้น วันนี้นางต้องพาเขาเข้าราชวัง ก่อนเข้ายังพาไปชมขบวนเสด็จอันเอิกเกริกของราชาริวอร์นอร์ กลีบดอกไม้ยังติดผมนางและเจย์อยู่เลย

โจรหนุ่มปล่อยให้นางลากขณะดึงคอเสื้อปกตั้งไปด้วย “ข้าไม่ชินเสื้อแบบนี้” เขาสวมชุดอย่างชนชั้นสูงในอิซิลดาร์ ทอด้วยไหมนุ่มละเอียดสีเขียวเข้ม ปักลายเครือไม้แดนใต้วิจิตรงดงาม เจย์โดนบังคับให้ตัดผมสั้น (“ข้าก็ไว้ผมสั้นอยู่แล้ว แต่พวกนางบอกว่าเหมือนรังนก” เจย์โอดครวญ) แล้วเสยขึ้นด้วยน้ำมันหอม ถอดร่างโจรล่าสมบัติเป็นชายหนุ่มตระกูลสูง

...และดูหล่อเหลาผิดหูผิดตาเสียด้วย

“อย่าดึงสิ ติดไปก่อน กลับที่พักแล้วค่อยปลดนะ” ซิลเวียปลอบเหมือนหลอกล่อเด็ก พลางคิดว่าชายหนุ่มถอดรูปแล้วดูดีไม่น้อย

“ก็ได้ๆ” เจย์ถอนใจ เขาละมือจากคอเสื้อมาวุ่นวายกับผมต่อ “มันเรียบร้อยเกินไปนะข้าว่า”

“เจ้าแก่กว่าข้าจริงสิ” อยู่ด้วยกันมาหลายวัน ก็มีถามไถ่พูดคุยภูมิหลังกัน ซิลเวียจึงสนิทกับเจย์มากขึ้น “เจ้าเหมือนเด็กดื้อไม่ยอมใส่เสื้อที่อยู่ข้างบ้านข้าสมัยก่อนเลย”

“อายุเป็นเพียงตัวเลขน่า” เจย์เถียงข้างๆ คูๆ เขาดันให้นางเดินต่อ พลางหยิบกลีบดอกไม้ออกจากผมนางด้วย

นางหัวเราะคิก “ไม่ค่อยมีใครแตะผมข้า”

“ทำไมล่ะ เจ้าไม่ชอบสระผมหรือ” เจย์ถามพาซื่อ

“เขาว่าสีผมของชาวตะวันออกจะเปื้อนมือน่ะ” ซิลเวียลูบผมตัวเองอย่างหวงๆ “แต่ท่านหญิงชมว่าผมข้าสวย เพราะงั้นข้าไม่สนพวกนั้นหรอก”

“ถ้ามันเปื้อนมือจริง ข้าจะลูบทั้งวัน สีเงินวิบๆ วับๆ จะได้ติดมือข้า เท่จะตาย”

นางเอลฟ์วัยเยาว์แก้มแดงนิดๆ พึมพำว่า “ขอบใจ”

เจย์ลัดเลาะไปตามทางเดินรอบนอกของราชวัง โดยให้ซิลเวียนำไป เขาไม่ได้สังเกตว่านางเขินอายกับคำชม ความสนใจของเขามุ่งไปที่ห้องรับรองหลักที่ซิลเวียเคยนำชมก่อนหน้า จะต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองก็ต้องเป็นโถงจัดงานเลี้ยงใช่ไหมล่ะ

“ไม่ใช่ เราไม่ไปทางนั้น” นางพาเจย์เดินเลยโถงจัดงานเลี้ยงที่เห็นอยู่ไกลๆ เข้าถนนสายเล็กและประตูข้างไปยังส่วนในที่ลึกกว่านั้น ใช้เวลาเดินราวสิบห้านาทีก็ถึงบริเวณน้ำตกจำลองในราชวังซึ่งไร้ผู้คน นางแตะหลังเจย์ให้ยืนริมน้ำตก

“รอนี่นะ จะมีคนมาพบเจ้า ข้าไปงานเลี้ยงก่อนนะ” นางส่งจูบให้เจย์แล้วรีบร้อนจากไป

จ้ะ...โจรหนุ่มยืนเหม่อ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไปเหมือนนกบินเชียว


—————————————————————————

A/N กลับมาอย่างยิ่งใหญ่เลยค่ะ ริวอร์นอร์


ป.ล. เจย์นี่ฟาดหัวใจสาวๆ อิซิลดาร์เรียบเลยนะ =.=

สมเป็นไทป์ที่สาวๆ และหนุ่มน้อยอิซิลดาร์ชอบ


ป.ล. 2 ลงสองตอนค่ะ กดไปอ่านตอนต่อไปได้เลย ใกล้จะประกาศเปิดจองแล้วนะ จุ๊บๆ



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (5)


รออยู่นานทีเดียว แต่ไม่มีใครมา จนเจย์นึกว่าโดนซิลเวียแกล้งเล่น เสียงไพเราะที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “ท่านดูคันในชุดนั้น”

เจย์มองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นที่มาของเสียง กระทั่งข้อเท้าของเขาโดนจับ ดึงลงสระ ดวงตาของเจย์สบกับตาของนางพรายน้ำในชุดแดง ทว่ามองอีกทีจึงทราบว่านางเป็นคนคุ้นหน้า

เอริแอดเน่ที่อยู่ใต้น้ำเอานิ้วปิดปากเจย์แล้วพาว่ายไปหลังม่านน้ำตก ขึ้นฝั่งที่เป็นลานหินเปิดไปสู่ห้องรับรองอันกว้างขวาง

เจย์เคยหยอกเอริแอดเน่ว่านางเป็นมารดานทีแปลงกายมา เวลานี้เขาเริ่มคิดจริงจัง

“พอชุดนี้เปียกน้ำแล้วหนักมาก” โจรหนุ่มพาตัวเองขึ้นฝั่ง เขายิ้มกว้างให้ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ “ส่วนเจ้าก็สวยมากในชุดสีแดง” คำชมของลูกครึ่งเอลฟ์ตรงไปตรงมา จริงใจ และไม่มีศิลปะเอาเสียเลย

เอริแอดเน่ยกมุมปาก “ซิลเวียชมท่านหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องปากหวานจนทำให้นางเล็กๆ ใจสั่น”

“ข้าเปล่า” เจย์ทำหน้าเหลอหลา ใช่ว่าเขาไม่เคยจีบสตรี เขาปากหวานและเอาใจเป็น แต่กับพวกนางเขาชมด้วยความบริสุทธิ์ใจ

“ท่านออกผจญภัยเพื่อหาเงินตบแต่งภรรยา คนของข้ามีใครถูกใจท่านบ้างหรือยัง” เอริแอดเน่บิดน้ำจากผม นางไม่แปลกใจที่เจย์แยกนางกับโรสเวนได้ เพราะทราบเรื่องนี้จากโรสเวนแล้วเช่นกัน

อาจเพราะโรสเวนไม่ได้แสดงเป็นข้ายามอยู่ต่อหน้าเขาด้วยกระมัง
ไหนเลยเอริแอดเน่จะไม่ทราบความไม่พอใจของโรสเวนเรื่องริวอร์นอร์ และโรสเวนก็อยากให้เจย์ช่วยเตือนสตินางอีกทางหนึ่ง

“ข้าเริ่มติดใจการผจญภัยครั้งใหม่มากกว่าแต่งเมียแล้ว” เจย์เสมองไปทางอื่น เพดานบ้าง ผนังบ้าง ไม่อย่างนั้นสำนึกชั่วของเขาต้องนึกลามก แอบดูเรือนร่างของนางซึ่งถูกขับเน้นด้วยเสื้อผ้าชุ่มน้ำเป็นแน่

“เจย์ พรีออน” เอริแอดเน่จับหน้าเขาให้มองนาง “ท่านจะไม่กล่าวโทษข้าสักคำหรือ” เรื่องที่นางหลอกลวงเขาว่าจะตามไป ทั้งที่ตั้งใจจะจบชีวิต

“ไม่มีประโยชน์อะไรนี่” เจย์ไหวไหล่ “อย่างไรเจ้าก็อยู่ตรงนี้แล้ว ยังพังทลายเหมือนเดิมแต่ดูดีขึ้น”

เอริแอดเน่ยิ้มๆ “ที่นี่เป็นห้องประชุมส่วนตัวของข้า เรามีเวลาอีกนานกว่างานเลี้ยงจะจบ ข้าให้โรสเวนประกบริวอร์นอร์ไว้ และเขายังต้องวุ่นวายกับการรักษาหน้า เรามาคุยกัน ข้ามีเรื่องอยากเล่าให้ฟัง”

เจย์พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้างถึงหู “ดี ข้าอยากรู้จักเจ้า และอยากให้เจ้ารู้จักข้า”

เอริแอดเน่เริ่มเล่าถึงราชาเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ ว่าพระองค์ทรงเป็นราชาเช่นไรและจบชีวิตลงอย่างไร เล่าถึงการชิงบัลลังก์ของริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางในคืนวันอภิเษกสมรส ตามด้วยแผนการล้มบัลลังก์ของริวอร์นอร์และการหมั้นหมายของนางกับราชาองค์ปัจจุบัน--ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ จบด้วยการแตกหักกับซิกฟรีดเพราะนางไม่ยอมรับคนรักดาร์กเอลฟ์ของเขา นำมาสู่การปลิดชีวิตตนเองและปลุกชีพริวอร์นอร์

เอริแอดเน่เล่าทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง ดวงตาของนางมองตรง แอบซ่อนความอ่อนแอในจิตใจได้ราวกับไม่เคยมีมัน

เจย์เงียบไปครู่ใหญ่ และคำแรกที่เขาเอ่ยคือ

“เป็นเจ้านี่ลำบากนะ” เขาอ้าแขนออก “ข้าอยากปลอบเจ้า แต่ควรขอก่อน”

รับรองว่าข้าจะกดสำนึกชั่วให้นิ่ง เจย์บอกกับตัวเองในใจ

เอริแอดเน่แปลกใจกับปฏิกิริยาของเจย์ “เจ้าไม่ตำหนิข้าสักหน่อยหรือ” หางตาของนางทิ้งลง ชายหนุ่มลูกครึ่งทำให้นางนึกถึงท่านเฟรธูรินผู้ไม่เคยตำหนินางเช่นกัน

“เจ้าตัดสินใจไปแล้ว ซึ่ง...ไม่รู้สิ ข้าว่าเจ้าไม่ได้อยากเป็นคนไม่ดีหรอก”

“เจ้ามองข้าดีเกินไป”

เหมือนกับท่านเฟรธูริน

“ข้าอยู่กับคนเลวมาเยอะ” เจย์ว่า “ข้ามองออกว่าใครเลวโดยสันดาน ใครไม่ใช่”

เอริแอดเน่ส่ายหน้า หลุบตาลง

“ตกลงว่าข้าปลอบเจ้าได้หรือไม่ ตัวข้าออกจะชื้นหน่อยๆ”

“ตอนที่ข้าทำผิด ท่านเฟรธูรินเคยกอดข้าไว้ บอกว่าไม่เป็นไร...ข้าไม่คิดว่าตนควรได้รับความใจดีเช่นนั้นอีกครั้ง”

แม้จิตใจส่วนที่อ่อนแอและน่าบดขยี้ของข้าจะต้องการมัน

เจย์ถอนใจแล้วถือวิสาสะกอดนาง “โอ๋...คนเก่ง เจ้าเก่งมากที่ผ่านมาได้ นิ่งซะนิ่ง ข้ายังไม่รู้เลยว่าถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะเก่งแบบเจ้ามั้ย”

เอริแอดเน่น้ำตาไหล นางแข็งขืนในตอนแรก ทว่าค่อยๆ ยอมให้อีกฝ่ายกอด

“เก่งมาก...เก่งมาก”

เจย์เห็นนางซุกหน้าลง ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ “ท่านพี่...เฟรธูริน ท่านพี่เฟรธูริน...” นางพึมพำซ้ำๆ และกอดเขา “ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ท่านพี่เฟรธูริน”

เขาได้แต่ลูบแผ่นหลังแบบบางของนาง กอดไว้ ปกป้องเท่าที่ทำได้ เขารู้ว่านางแกร่ง แต่นางแกร่งมานานเกินไปจนเปราะ

“มีดวอร์ฟ…” เอริแอดเน่เอ่ยช้าๆ เมื่อปรับอารมณ์ได้ “นางยังเยาว์...ปกติข้าไม่สังหารผู้เยาว์...”

“มันผ่านไปแล้ว ค่อยเริ่มใหม่...นะ?”

เอริแอดเน่ส่ายหน้า “ข้าหมายถึง นางอาจจะรอดก็ได้...ถ้ามารดานทีเมตตา เวเรด้าฝีมือยิงธนูยอดเยี่ยมที่สุดในอิซิลดาร์ ข้าให้นางยิงเลี่ยงหัวใจของดวอร์ฟ”

นี่เป็นเรื่องที่เอริแอดเน่ไม่มีวันสารภาพ หากผู้ฟังเป็นซิกฟรีด

“เจ้าอยากให้ข้าไปตามหานางมั้ย”

“ข้าแค่อยากสารภาพ แต่...” เอริแอดเน่เงยหน้าทันควัน นั่นทำให้นางสบตากับเจย์ ใบหน้าอยู่ใกล้กัน

โจรหนุ่มสูดหายใจ เขามองริมฝีปากนาง ใบหน้าเคลื่อนเข้าไปใกล้…

แต่แล้วเขาก็ถอยออกมา

“วันไหนที่เจ้าเบื่อชีวิตนี้ เจ้าไปกับข้า ไปเริ่มชีวิตใหม่ได้เสมอ” เขายิ้มอ่อนโยนให้นาง มือลูบแก้ม จากนั้นก็ใช้นิ้วเกลี่ยผมออกจากหน้าผากให้

“ข้ารับฟัง” เอริแอดเน่ตอบอย่างสงบ นางยอมให้เขาแตะต้องตัวนางมาตั้งแต่เมื่อสักครู่ ทั้งที่หลังเกิดเหตุการณ์นั้น...นางไม่สนิทใจกับชายคนใด “ท่านไปตามหาดวอร์ฟได้ ข้าไม่ห้าม อย่างไรข้าก็ต้องตามหาองครักษ์ของข้า จามิลลา ท่านสามารถแฝงตัวออกจากอิซิลดาร์พร้อมอสรพิษ”

“ข้าไม่รู้จักดวอร์ฟ แต่หากเจ้าต้องการข้าจะตามหานางเพราะเจ้าดูเศร้า ถ้าเจอศพก็เอามาทำพิธี ถ้านางยังมีชีวิตก็ดีไป”

“พิจารณาจากท่าทีของริวอร์นอร์ ท่านไม่อยู่ในอิซิลดาร์จะดีกว่า ข้าไม่คิดว่าเขาจะหึงหวงข้า แต่เขาคงไม่ยอมให้ข้าเปลี่ยนใจ ให้เขาขาดแรงสนับสนุนจากอิซิลดาร์”

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับอสรพิษ ไปตามหาจามิลลาและดวอร์ฟ หวังว่าข้าจะไม่ทำให้พวกเขาอึดอัดนะ…” เจย์ลูบท้ายทอยตัวเอง

“ท่านควรระวังพวกเขาจะกลืนท่านลงไปทั้งตัวมากกว่า ท่านคงไม่ได้บังเอิญเป็นหนุ่มบริสุทธิ์หรอกกระมัง” นางหยอก

เจย์หัวเราะแห้งๆ เขายังจำอสรพิษเล็บคมได้อยู่เลย

“อสรพิษคนหนึ่งของข้าหายไป แต่สืบแล้วไม่ใช่เพราะคนของริวอร์นอร์ อาจเป็นได้ว่า...การกลับมาของริวอร์นอร์ไม่ทำให้รูเมเรียร์แปลกใจเท่าไร”

“ข้าไม่ค่อยสันทัดเรื่องการเมือง เอาเป็นว่าตามหาจามิลลาตามด้วยดวอร์ฟ”

เอริแอดเน่พยักหน้า “แล้วเรื่องใจบุรุษล่ะ ข้าควรเชื่อริวอร์นอร์หรือไม่ เขาร้ายกาจกับทุกคนกระทั่งสายเลือดเดียวกัน...ถ้าเขาแค่พูดสิ่งที่ข้าอยากฟังเล่า”

เจย์เพียงรับฟัง เรื่องนี้เขาไม่สามารถออกความเห็นได้ เขาไม่รู้จักราชาริวอร์นอร์เป็นการส่วนตัว (ลูกครึ่งมนุษย์คนไหนจะไปรู้จักสนิทสนมกับราชาเอลฟ์ได้ละ!) และเขาคิดว่านางเพียงระบายความอัดอั้นตันใจเท่านั้น

ซึ่งเขารับฟัง...เขาพร้อมจะรับฟังนางเสมอ

เมื่อเจย์ไม่ตอบ เอริแอดเน่ก็ไม่คาดคั้น “ตาของท่านมีลักษณะด้อยแบบลูกครึ่งใช่ไหม ข้าสังเกตมานานแล้ว ข้าพอรู้สูตรยาที่ใช้บรรเทาอาการได้ ข้าจะสอนท่านปรุงมัน แต่หากท่านอยากหายขาด ข้าแนะนำให้ตามหาผู้ให้กำเนิด ให้เขายอมรับท่านเข้าตระกูล พลังของบรรพบุรุษจะช่วยท่าน”

“ข้ายอมตาบอดดีกว่า” เจย์กลอกตาไปมา “แค่บรรเทาได้ก็ดีแล้ว ข้าจะตั้งใจเรียน”

“ดี ข้าชอบคนที่มีมานะ” นอกจากเรื่องปรุงยา นางยังต้องการให้เจย์มีทักษะการต่อสู้และการเอาตัวรอด...อีกเยอะๆ เลยล่ะ


—————————————————————————

A/N เฉลยปมสำคัญแล้วค่ะ อิลมาเร ฮือๆๆ โฮวๆๆ เก็บมานานเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ โฮวๆๆ

หวังว่าจะได้เจอกันในภาคต่อไปนะ /อุ้มอิลมากอด ฮือๆๆๆ


และนี่คือ!!! ปกหลัง Elven Almanac Mini Book ตอน ฝนแรก

© ILLREI 2017




มินิบุ๊กนี้เป็นของแถมรอบจองหนังสือชุด Elven Almanac

ที่จะเปิดให้จองในงาน Y Book Fair บูธ A6 ILLREI

วันเสาร์ที่ 1 ก.ค. 60

@ กรมทหารม้าที่2รักษาพระองค์ (BTS สนามเป้า)
เวลา 10.00-16.00 น.

สัมภาษณ์เนื้อหาข้างในโดยลูกต่ายที่ชื่นชอบพรตัวหนึ่ง \(*0*)/

ลูกต่ายยื่นไมค์ให้พี่ชายซิกฟรีด

ลูกต่าย : "เรื่องสั้นนี้มีคอนเซ็ปต์ยังไงฮะ"

พี่ชายซิกฟรีด : "เราปรุงเหล้า"

ลูกต่าย : "ปรุงเพื่อ?"

พี่ชายซิกฟรีด : "เราหัดปรุง"

ลูกต่าย : "เรื่องสมัยไหนฮะเนี่ย หัดปรุงเหล้า"

พี่ชายซิกฟรีด : "ในอาศรม"

ลูกต่าย : "แล้วปรุงเพื่อ?"

พี่ชายซิกฟรีด : "ก็หัดปรุง เลยให้ดาร์กเอลฟ์ลองดื่ม"

ลูกต่าย : "จะมอมเหล้าโคลด์เหรอฮะ!?! แล้วก็ xxx yyy zzz abcdefg ใช่มั้ยฮะ!"

พี่ชายซิกฟรีด : "ไม่ได้กะมอม แต่ได้ก็เอา"

ลูกต่าย : "โอเค ชัดเจนดีนะฮะ!"

พี่ชายซิกฟรีด : "อืม"

ลูกต่ายทำตาสุกใส "จะรออ่านนะฮะ" ปิ๊งๆๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หัวใจที่ไม่ได้เลวโดยสันดานย่อมปรารถนาการให้อภัย

แอรี่ร้ายและลงมือทำมากมายเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่นางก็เจ็บปวด
เฟรธูรินให้อภัยนาง ปลอบโยนจิตใจที่ผุกร่อนนี้ เจย์ก็เช่นเดียวกัน (แม้จะตื้นเขินกว่า เนื่องเพราะไม่ได้รู้เท่าที่เฟรธูรินรู้)

นางจึงปรารถนาดีต่อเจย์ อาจจะเพื่อเยียวยาความรู้สึกผิดต่อเฟรธูรินก็ได้


เจย์จ๊ะ เหล่าอสรพิษอิซิดาร์รอแทะโลม..เอ๊ย! ดูแลจ้ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2017 21:33:09 โดย alternative »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อย่างนี้อิลมาเร รอดแน่
จามิลลา ก็รอดเหมือนกัน

เจย์ แปลงโฉมแล้วหล่อเริด แถมปากหวานแบบธรรมชาติซะด้วย
เจย์ มีจิตใจดีงาม เข้าใจเอริแอดเน่จริงๆ
ไม่โทษ ไม่ปรักปรำ ไม่มองเอริแอดเน่ในแง่ร้ายเลย
เจย์ คงเจออิลมาเร และจามิลลาแน่ๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไปเจย์เราหนีไปด้วยกัน.....เดี๋ยวๆ
เจย์ดูน่ากินมาก :hao6:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
เชื่อว่าเหล่าอสรพิษจะเขมือ-- อ่า.. ดูแลเจย์อย่างดี (ปล่อยให้เค้าเขมือ-- เอ้ย ดูแลเถอะน่า)

รอลุ้นเอรี่และริวอร์นอร์ #ทีมริวอร์นอร์

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (6)

งานเลี้ยงดำเนินมาทั้งวัน แม้เป็นที่กังขาว่าตอนนี้รูเมเรียร์มีราชาสองพระองค์ ทว่าผู้ฉลาดย่อมไม่เอ่ยออกมา ผู้ฉลาดมาเข้าเฝ้าเพื่อแสดงความจงรักภักดี และถวายเครื่องบรรณาการอย่างดีที่สุดแด่มหากษัตริย์ยอดนักรบ

ขุนนางแห่งอิซิลดาร์ ชนชั้นสูง และผู้มีอำนาจจากเผ่าพันธุ์อื่นพิจารณาแล้วว่าราชาผู้กลับมากะทันหันได้รับการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติจากท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ ทั้งที่นางเคยหมางเมินพระองค์...การทำตามเจ้าบ้านย่อมไม่มีอะไรเสียหาย

...นอกจากนี้คณะทูตจากรูเมเรียร์ซึ่งพำนักในอิซิลดาร์ก็มาเข้าเฝ้าเช่นกัน

เมื่อราชสำนักอิซิลดาร์ประกาศว่า จะมีการจัดขบวนและงานเลี้ยงต้อนรับราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์อย่างเกรียงไกร พิราบสื่อสารของรูเมเรียร์ถูกส่งจากหอสื่อสารในอิซิลดาร์อย่างเร่งด่วน ราชสำนักรูเมเรียร์แทบโห่ร้องยินดีกับเนื้อหาในสารนั้น

ราชามงกุฏดำผู้พิชิตจอมทัพทมิฬกลับมาแล้ว!

ที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้น คือของขวัญอันเป็นสัตว์สงคราม--พยัคฆ์ เหยี่ยว อสรพิษ อาชาศึก ตำรา พืชพันธุ์หายาก ผ้าทอลาย เครื่องประดับหินเวทมนตร์ อัญมณี ทองคำ รวมไปถึงสินแร่ล้ำค่าจำนวนห้าสิบคันรถจากทูตสันถวไมตรีของจอมทัพทมิฬ!!!

 

“เอิกเกริก” ริวอร์นอร์อยู่ในห้องส่วนตัวของท่านหญิงคนสำคัญ เขาสางนิ้วไปตามแนวขนมันปลาบของเสือดำ--หนึ่งในของขวัญจากจอมทัพทมิฬ

“เจ้าเข้ามาในห้องข้าได้อย่างไร” เอริแอดเน่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ งานเลี้ยงต้อนรับริวอร์นอร์กำหนดจัดโต้รุ่งเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน นางใช้จังหวะพักผ่อนก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำสลับตัวกลับมา ส่วนโรสเวนเร้นตัวอยู่ในหอคอย

เวลานี้เอริแอดเน่สวมแค่เสื้อคลุมผ้าแพรเนื้อนุ่ม นางกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์

“หายไปไหนมา” ริวอร์นอร์ดันตัวเสือดำให้ย่างไปหานาง ก่อนจะไปนั่งบนโซฟาปลายเตียง

“ไม่เห็นหรือว่าข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด” นางแตะที่สาบเสื้อคลุม จากนั้นตวัดมือลูบแก้มเสือดำ “ทมิฬส่งของขวัญมาให้เจ้า ทีนี้คงโจษจัน” จอมทัพทมิฬทำเช่นนี้ ด้านหนึ่งมองได้ว่าเป็นความใจกว้างของผู้ปกครองแผ่นดินที่มีให้แก่ศัตรูคู่ปรับ อีกด้านหนึ่งคือบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของเหล่าเอลฟ์จากภายใน สร้างความเคลือบแคลงในตัวริวอร์นอร์ใช่หรือไม่…

น่าขำที่อย่างไร...ความสัมพันธ์ก็พังทลายอยู่แล้วละนะ


“เรากับจอมทัพทมิฬเป็นสหายที่ดีต่อกัน” ริวอร์นอร์เผยรอยยิ้มร้ายเกินร้าย “บางครั้งที่ประดาบ เราเหมือนได้พบพี่น้องที่แท้จริง”

“หึ” เอริแอดเน่เหยียดในใจ เสียแรงที่ท่านเฟรธูรินเมตตาเจ้า นางยกมืออย่างนุ่มนวล นางกำนัลก็ถอยออกไป รอจนอยู่ตามลำพัง นางจึงเอ่ย “ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาที่ห้องของข้าอีก”

“ขอรับ...นายหญิง” ริวอร์นอร์ไล้ริมฝีปากขณะพิจารณาสตรีโฉมงามผู้มีพิษร้าย “เราไม่อาจขัดวรรณะเวทของเจ้าได้ก็จริง เอริแอดเน่ แต่เรากุมความลับเดียวกับเจ้า เช่นว่า...เจ้าคืนชีพให้เราอย่างที่เอลฟ์ไม่พึงทำ เจ้าช่วยให้อาเลธตัดคอเรา และเจ้าหยามเกียรติเราด้วยการผนึกวิญญาณในโลงหิน เจ้าไม่คิดว่าเราควรทำดีต่อกันหรือ”

เอริแอดเน่รินสุราทับทิมลงแก้วเจียระไน นางย่างเท้าอย่างนุ่มนวลไปยืนหน้าระเบียงหินอ่อนที่เปิดกว้าง มองทิวทัศน์ท้องทะเลยามเย็นจากมุมงดงามที่สุดของราชวัง--ของกำนัลแด่นางกษัตริย์ ริมฝีปากอิ่มแตะขอบแก้ว ดื่มของเหลวสีแดงใส และเอ่ย

“ความลับที่จะพากันล่มจมทั้งหมดน่ะหรือ” นางกรีดรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าเจ้ารักตัวเองแค่ไหน เจ้าไม่มีทางยอมเสี่ยง”

“เราเรียนรู้อะไรมากกว่านั้นจากความตาย” เห็นว่านางจงใจทิ้งระยะห่าง ริวอร์นอร์ก็อดเข้าไปใกล้เพื่อหยอกเย้าไม่ได้ เขาลุกขึ้น เดินไปยืนซ้อนด้านหลัง ไล้ฝ่ามือกับหลังมือเนียนขาวก่อนจะสอดนิ้วประสานนิ้ว ตรึง...และขังนางไว้ในอ้อมกอด ยัง ยังไม่พอ เมื่อนางทำท่าจะขืนออก จมูกโด่งก็โน้มลงเฉียดปลายใบหูอย่างย่ามใจ

“การเสี่ยงเป็นสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดในเวลานี้ เพราะมันทำให้ใจเต้นแรงจนรู้สึกถึงชีวิต...ที่เจ้ามอบให้”

เอริแอดเน่รู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น มันหนักและรุ่มร้อน ต้นกำเนิดความร้อนมาจากกายเขา ทว่าทั่วสรรพางค์กายของนางเย็นเฉียบ “เจ้ากำลังขู่ข้าเพราะข้าผลักไสเจ้า หรือแค่อยากทำสิ่งที่ขัดกับข้า” นางหันประจันหน้าเขา มือเล็กประสานมือใหญ่ ดันเขาให้ถอยไปยังเตียง หงายหลังและนอนลง “แล้วถ้าข้าอยากทำแบบนี้ เจ้าจะขัดไหม” นางยืนเหนือร่างเขา เล็บคมจิกกลางแผ่นอกแข็งแรง

“ย่อมไม่” ประกายตาขบขันฉายวาบขึ้นมา ริวอร์นอร์ไล้คมเล็บของนางช้าๆ ไปถึงเนื้ออ่อนที่ยึดระหว่างนิ้ว

หัวคิ้วของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ขมวดเข้าหากัน “มักมากไม่เปลี่ยน”

“เรายอมรับ” มืออีกข้างลูบปลีน่อง...สูงขึ้น สูงขึ้นจนถึงขาอ่อนและไม่ยอมหยุดเพียงเท่านั้น

มือของริวอร์นอร์ถูกนางปัดออก “ถือดีอย่างไรมาแตะตัวข้า ข้าไม่ใช่นางบำเรอของเจ้า” ก่อนนี้นางยั่วยวนเขา โอนอ่อนผ่อนตาม เวลานี้แข็งกร้าว ดูขัดแย้งกัน ทว่าทั้งหมดคือเรื่องของการกุมอำนาจ ว่าใครคือผู้นำ และใครคือผู้ตาม เอริแอดเน่อาจเป็นอสรพิษหลังหัก แต่นางไม่มีทางยอมโดนล่ามไว้ใช้งาน

“ผิดแล้ว…” ริวอร์นอร์บีบเคล้นสะโพกแน่น “เราไม่แตะต้องนางบำเรอ พวกนางต่างหากที่ควรให้ความสุขแก่เรา”

“หึ บนเตียงของเจ้ากับพวกนาง ข้าจะเคยเห็นหรือ และข้าไม่สนใจ” นางแกะมือเขาออก ทว่ามือนั้นไม่ยอมขยับ

ริวอร์นอร์ยิ้มมุมปาก เขาดึงนางให้ผวาลงมาทาบทับ ร่างอันนุ่มละมุนไปเสียทุกส่วนเช่นสตรีแนบชิดกับอกแน่นหนั่นอย่างบุรุษ เขาสบนัยน์ตาหยิ่งทะนงของนาง หัวเราะเบาๆ นิ้วช้อนปอยผมสีทองสวยไปทัดหู และถือโอกาสคลึงมันอย่างทะนุถนอม นิ้วของนักรบ...นิ้วของนักฆ่า อ่อนโยนกับนางได้ถึงเพียงนี้

เอริแอดเน่ปรือตาเพราะสัมผัสตรงส่วนนั้นสงวนไว้สำหรับคนรัก นางโกรธ ทั้งโกรธที่ริวอร์นอร์อยู่ใต้อำนาจเวทของนางแต่ทำตัวผยองดั่งเป็นเจ้าของนาง และโกรธตัวเองที่ไวต่อสัมผัสของเขา “ข้ายังเป็นคู่หมั้นของซิกฟรีด เจ้าอยู่ร่วมห้องกับข้า...ไม่เหมาะสม”

ริวอร์นอร์วางมือบนหลังศีรษะของเอริแอดเน่ ลูบเหมือนปลอบโยน “เจ้าปฏิเสธเราได้ไม่ใช่หรือ” เขากระซิบ

หากนางไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง เมื่อครู่...น้ำเสียงทุ้มในอกนั้นเจือการเว้าวอนใช่หรือไม่

“ข้า...”

เมื่อท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์นิ่งไป ริวอร์นอร์ก็ค่อยๆ ดันหลังศีรษะของนางเข้ามาใกล้ ริมฝีปากแตะกันแผ่วเบา เช่นเดียวกับลมหายใจที่แลกเปลี่ยนกันค่อยๆ ถี่ขึ้นและถี่ขึ้น เขาขัดใจนางครั้งแล้วครั้งเล่า แน่นอนว่าจะมีครั้งต่อๆ ไป นางควรยอมเขาหรือ ถ้าไม่ยอมจะทำอย่างไรกับเขาได้

เอริแอดเน่เผชิญการตัดสินใจ ทั้งความรู้สึกและเกมการเมืองล้วนกลายเป็นเรื่องที่คุยกันบนเตียง นางใช้สองมือดันอกริวอร์นอร์ ก้มหน้า สูดลมหายใจ “ข้า...ข้าต้องการเวลาริวอร์นอร์ ถ้าเจ้าพูดความจริง แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร” นางกำหมัดทุบอกเขา “บอกว่าไม่เป็นไร ข้าเข้าใจผิดไปเอง ขอโทษที่สังหารเจ้าหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร และความจริงก็คือ...” นางเงยหน้า “เจ้า...สังหาร...เขา”

ท่านเฟรธูริน ข้าจะยกโทษให้กับคนที่สังหารท่านได้อย่างไร...


“เรายินดีหากเจ้าเอ่ยคำขอโทษ” ริวอร์นอร์จับคางมน “เรามาเริ่มกันใหม่เถิด”

ช่างใจกว้าง…

แต่ในคำเชื้อเชิญก็แสนอันตราย เอริแอดเน่ทราบดี...ริวอร์นอร์ไม่ใช่คนใจกว้างโดยไม่หวังผลใด

ส่วนเรื่องสังหารพี่ชายตัวเอง ริวอร์นอร์ไม่เอ่ยถึง เขาฆ่าเฟรธูรินจริงและไม่นึกเสียใจ

“ข้ายังไม่เชื่อเจ้า” เอริแอดเน่สงบลง ริวอร์นอร์ชอบความโอนอ่อนของนาง ข้อนี้นางเพิ่งแน่ใจ นางอาจโอนอ่อนให้เขาได้โดยไม่ต้องเสแสร้ง แต่นางจะใช้ประโยชน์จากมันเช่นกัน

“ถ้าอยากได้ข้า จงไปขอเอากับซิกฟรีด ทำให้มันถูกต้อง”

แบบนี้สิเจ็บแสบ จงไปขอเอาจากซิกฟรีดเถิด

“ช่างรู้ใจ” ริวอร์นอร์เลียขอบฟัน ดวงตาสีแดงวาวโรจน์ “เราจะติดต่ออาเลธในวันพรุ่งนี้ เขาควรได้เวลาเตรียมใจก่อนพบหน้าพี่ชายที่ตัวเองฆ่า”

“ก็มาดูกันว่าเขาจะยกข้าให้เจ้าหรือไม่”

ริวอร์นอร์ลูบศีรษะเอริแอดเน่พลางส่งเสียงชี่...เหมือนปลอบเด็กหญิงตัวน้อย “ถ้าเขาให้จริงๆ เล่า เจ้าจะรู้สึกอย่างไร”

“ไม่แปลกใจ” เอริแอดเน่ตอบทันที ออกจะไวเกินไป “เขาค่อนข้างไร้เดียงสา เชื่อว่าความรักสำคัญนัก ข้าให้ใจเขาได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่เขาไม่ต้องการมัน”

เอริแอดเน่ถามใจตัวเองเป็นพันๆ ครั้งหลังสิ้นริวอร์นอร์ว่านางสามารถรักซิกฟรีด--เจ้าชายน้อยในความทรงจำได้หรือไม่ นางตอบตัวเองหลายครั้งว่า ‘ได้’ ทว่าเป็น ‘ได้’ ที่หมิ่นเหม่ อันตราย ทุ่มเทความรักอย่างสิ้นหวัง หน้ามืดตาบอด

“ข้าเคยสาบานว่าจะรักและดูแลเขา ไม่ให้เขากลายเป็นคนที่ผิดพลาดเหมือนกับเจ้า...ข้าจะเป็นราชินีของเขา สร้างราชวงศ์อันเกรียงไกร ทว่าทั้งหมดพังทลายแล้ว พังเป็นกองทราย ข้าเป็นคนที่จมไปแล้วครั้งหนึ่งริวอร์นอร์ วันที่ซิกฟรีดหนีออกจากอาศรมควาร์ เขาไม่พูดถึงดาร์กเอลฟ์ แต่เข้ามาเป็นหลักให้ข้าเกาะ เขาขึ้นเป็นราชา รับข้าเป็นคู่หมั้น ทว่าจากนั้นเขากลับคิดขึ้นมาได้ว่า...” นางหัวเราะ “เขายังรักดาร์กเอลฟ์ และจะรักมันไปพร้อมให้ข้าสมรสกับเขา ร่วมเตียงเขา เลี้ยงดูบุตรของเขา” นางอสรพิษแยกเขี้ยว “ข้าไม่เหลือหลักอะไรให้เกาะอีกต่อไป และเจ้าควรระวังให้ดี เพราะสาเหตุที่ข้าจมล้วนมาจากเจ้า!”

“อืม…” ริวอร์นอร์จ้องลึกเข้าไปยังนัยน์ตาใสดุจอัญมณี เขารู้จักนิสัยใจคอของเอริแอดเน่ดี ทว่าเมื่อครู่ นางเพิ่งเปิดเปลือยความอ่อนแอของตน สตรีผู้พังภินท์เพราะรัก นางมีหัวใจที่แสวงหาความสงบ ความดีงาม--สิ่งที่เขาไม่มีให้

“อย่าบังอาจใช้สายตาสมเพชข้า เขาเต็มใจร่วมเตียง ข้าไม่ตกต่ำถึงขนาดบังคับเขา”

“ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ยังไม่แค้นเคืองอาเลธ” ริวอร์นอร์คล้ายหยั่งเชิง

“เจ้าคิดว่าความแค้นของข้าเป็นของไม่มีราคาหรืออย่างไร จะได้เที่ยวยกให้ใครต่อใคร” นางยกมุมปาก ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ

ริวอร์นอร์ส่ายหน้า “เราเพียงคิดว่าหากเจ้าแค้นเคืองอาเลธสักนิด ‘เกม’ ที่เราจะชวนมันเล่นคงสนุกพิลึก”

เอริแอดเน่เห็นแววตาเฉก ‘ราชามงกุฏดำ’ ยามริวอร์นอร์เอ่ยคำว่า ‘เกม’

“ก็ขึ้นอยู่กับว่าเกมของเจ้าน่าสนุกแค่ไหน” เอริแอดเน่มองท้า

“เกมดาษดื่นที่เจ้าเคยเล่นมาแล้ว” ริวอร์นอร์แตะปลายจมูกนาง “ ‘ชิงแผ่นดิน’ ”

เอริแอดเน่ทราบมานานแล้วว่าริวอร์นอร์มีบางสิ่งที่สามารถกระตุ้นเร้าจิตวิญญาณของนางให้ลุกไหม้ บางสิ่งที่ไม่ดีงามทว่าทำให้นางอยากก้าวไปยืนเคียงข้างเขา นางลูบรอยสักบนลำคอเขาแผ่วเบา จุดที่นางแย่งชิงทุกสิ่งของเขามา...และคืนให้เขาไป

“ถ้าเป็นเกมนั้น ไม่ว่าข้าคิดอยากเล่นหรือไม่ เมื่อลงสนามแล้ว ข้าก็จะไม่ปรานีใคร”

“แดนทมิฬอาจอยากร่วมกระดานด้วย” ริวอร์นอร์หลงรักไฟในตัวนาง ไฟที่ผลาญได้ทุกสิ่งอย่างไร้ปรานีแม้กระทั่งตัวเขา ราชามงกุฏดำหยัดกายขึ้น ก่อนจะอุ้มราชินีไร้มงกุฏให้นั่งประจันหน้า สายตาเขาขย้ำทุกสัดส่วนในร่างกายนาง

“นี่หรือคือเวลาที่เจ้าให้ข้า” แค่ไม่กี่นาทีของการพูดคุย ทว่าความไม่มั่นใจของเอริแอดเน่คล้ายถูกชะล้าง เพราะริวอร์นอร์...เพราะมีเขา ไม่ว่าจะความรัก ความชัง หรือความแค้นของนาง ล้วนมีเขาเป็นเชื้อไฟ

“เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ” ริวอร์นอร์เหยียดรอยยิ้มพลางกระซิบใกล้ริมฝีปากแดงชาด

นางกระซิบตอบบนริมฝีปากเขา “คำขอโทษไม่มีประโยชน์ ข้าจะกอดเจ้า มอบความสุขให้แก่เจ้า รึกระทั่งรักเจ้า แต่ข้าไม่ลืมว่าเจ้าเคยทำอะไร ถ้าวันใดข้าพิสูจน์ได้ว่าเจ้าพูดโกหกเรื่องในคืนนั้น ไม่ต้องรอบิดาแห่งความตายมาพบเจ้า ข้าจะส่งเจ้าไปหาพระองค์ในสภาพสัตว์นรกน่าสมเพชเวทนาที่สุดเท่าที่นรกเคยให้กำเนิด”

“เราก็ไม่เคยลืม ‘คืนนั้น’ ”

เอริแอดเน่ทราบดีว่าริวอร์นอร์หมายถึงคืนไหน ศีรษะที่ถูกใบดาบคมกริบบั่นกระเด็นยังตอบสนองในชั่วระยะหนึ่ง นัยน์ตาสีแดงเบิกค้างจ้องนางอย่างโกรธแค้น อย่างรวดร้าว...และเจ็บปวดถึงที่สุด ในชั่วขณะนั้นเอริแอดเน่ทราบดีกว่าใครว่า หากไม่ผนึกวิญญาณให้แน่นหนา ริวอร์นอร์จะกลับมาไม่ว่าในรูปแบบใด

“เท่านี้เราก็รู้สึกเหมือนกันแล้วใช่ไหม ช่างน่าดีใจ” เขาจะสั่งการดาร์กเอลฟ์พวกนั้นจริงหรือไม่ นางยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ที่พิสูจน์ได้คือเขาปล่อยให้นางจมน้ำตายในความโศกเศร้า ไม่เคยแก้ตัว ขอโทษ หรือแสดงความเสียใจ

“เราดีใจตั้งแต่ได้เห็นใบหน้าแหลกลาญของเจ้าในวันที่เจ้าปลุกเราขึ้นมา เจ้าถูกอาเลธหยามน้ำใจ แต่ทำไมกันหนอ ทำไมเจ้าถึงยังเมตตามันเหลือเกิน”

“ข้าจะปล่อยให้เจ้าสงสัยต่อไป” นางยิ้ม

ริวอร์นอร์เลิกคิ้ว “รู้จักหยอกล้อด้วยหรือ” เขากระเซ้านางก่อนจะพลิกให้นอนใต้ร่างตน “รักเราเถิด นายหญิง” ริวอร์นอร์ปัดริมฝีปากกับขนตานางก่อนแนบลงไป

ให้นางแผดเผาเขา...และเขาแผดเผานาง

จนกว่าจะถือกำเนิดใหม่จากเถ้าในดินแดนนิรันดร์


—————————————————————————

A/N ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก อยู่กับริวอร์นอร์เป็นอะไรที่เครียดและกดดันอยู่เหมือนกันนะคะ

แต่ก็หวาน โรแมนติก ใจเต้นไปพร้อมกัน /ช่างเลือกยากจริงๆ XD!


ป.ล. เหลืออีก 1 บทใหญ่ และ 1 บทส่งท้าย Elven Almanac ภาคพันธนาการรักราชันเอลฟ์ ก็จะจบลงแล้วค่ะ

บอกได้เลยว่าเนื้อเรื่องที่เหลือจะกลับไปโฟกัสที่รูเมเรียร์แล้ว ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวอิซิลดาร์กันนะคะ จุ๊บเบาๆ


แฟนอาร์ตสวยๆ คู่ ริวอร์นอร์ x เอริแอดเน่ จากคุณ Ann Sophon ค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ดีใจมากเลย วาดได้ละมุน รู้สึกถึงความรักเลยค่ะ ;w;




ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด