บทที่ 16 : เจรจา (2)
“หึ ตอนไหนกัน”
ซิกฟรีดไม่โต้เถียงในประเด็นที่ทราบแก่ใจว่าโคลด์ไม่ฟัง
และเขาจะไม่พูดว่ามันยากเย็นแค่ไหนที่เลือกเส้นทางนี้
เอริแอดเน่ถูกดาร์กเอลฟ์ทำให้เสียเกียรติ ทั้งยังปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าเผ่าทมิฬซึ่งทะลักทลายเข้ารูเมเรียร์ช่วงสงครามก่อความวุ่นวายในรูเมเรียร์ เป็นโจรปล้นทรัพย์ เผาที่อยู่ แย่งชิงอาหาร หรือหนักกว่านั้นคือเป็นนักรบและนักฆ่ารับจ้าง
คิงริวอร์นอร์ใช้ไม้แข็งกับดาร์กเอลฟ์ แต่กระทำโดยลับ เพราะชาวรูเมเรียร์ปฏิเสธความรุนแรง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่สงครามเพิ่งสงบ
กบฏดาร์กเอลฟ์ที่พระองค์จับได้จะถูกเฉือนเนื้อทีละชิ้นแล้วโยนให้สุนัขกิน จนกว่ามันจะคายข้อมูลความลับซึ่งเป็นประโยชน์จึงจะได้ความตายอันเมตตา
“ข้าไม่ได้อยากตั้งรกรากในรูเมเรียร์หรือมีศักดิ์มีสิทธิ์เท่าเทียมกับเอลฟ์” โคลด์โต้ตรงๆ “ดาร์กเอลฟ์มีศักดิ์ศรี มีบ้านเกิดอยู่แล้ว ไม่ต้องมาขอปันทานจากเอลฟ์ คนอื่นข้าไม่ทราบ แต่ข้าไม่เคยอยากได้ทานของเจ้า จงอย่าถือโทษ หากข้าไม่ซาบซึ้งในกิจของเจ้า”
“ถ้าอย่างนั้นข้าคงไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้าแล้ว”
“หึ ถึงจะพูดอย่างนั้น ข้าเองก็หนีตายเข้ามาในแผ่นดินเอลฟ์” โคลด์ไม่ลืมความจริงอันขัดแย้งกับสิ่งที่เขาเชื่อ “สิ่งที่เจ้าทำอาจมีประโยชน์แก่ดาร์กเอลฟ์ที่เหนื่อยล้ากับแดนทมิฬ แต่พวกมันต้องรู้อยู่แก่ใจว่าการเหยียดเผ่าพันธุ์จะไม่มีวันหายไป กฎหมายแก้คำว่า ‘ทาส’ ออกจากปากคนได้ แต่แก้ออกจากใจคนไม่ได้” โคลด์หยุดไปครู่ “เอาเถอะ ถึงจะแค่เปลี่ยนคำเรียก แต่ข้ายกความดีข้อนั้นให้เจ้า”
“จำทหารเอลฟ์ที่เจ้าอ้างว่าต้องนำของไปตอบแทนให้มันได้ไหม” ซิกฟรีดลูบผิวใบไม้ กลิ่นหอมของใบบลีดระเหยขึ้นจากรอยช้ำ “คนที่เจ้าใช้อ้างกับข้า ไม่ให้ข้ากอดเจ้าต่อ”
“ทำไม” โคลด์ตาขวาง
“จำวันแรกที่เจ้าพบเอลฟ์ตะวันออกได้หรือไม่”
“เขามาโผล่ในอาศรมเอง” วันนั้นอยู่ๆ เอลฟ์ผมสีทองแดงก็เข้ามาจูบมือเขา เอ่ยทักทาย ขยิบตาให้ โคลด์ที่ตั้งตัวไม่ทันได้แต่ยืนตัวแข็งเป็นหิน
“พวกเขาเหยียดเจ้าหรือไม่” ซิกฟรีดสูดกลิ่นใบไม้
“แล้วจำญาติของเจ้าที่หัวเราะเยาะเราตอนเจ้าพาข้าเข้าวังได้ไหม จำอาจารย์ของเจ้าที่เรียกเจ้าไปดุเพราะจูงดาร์กเอลฟ์เดินไปเดินมาในวังได้ไหม จำควาร์ในอาศรมที่เหยียดข้าได้ไหม”
“ข้าจำได้” ซิกฟรีดหันมาหาโคลด์ “และจำโคลด์ในอาศรมได้” แววตาด้านขวาของราชาอ่อนโยน “เจ้าไม่เหยียดข้า...ไม่เหยียดเอลฟ์”
ซิกฟรีดอยากแตะข้างแก้มโคลด์แต่ยั้งมือไว้ “ข้าทำสิ่งนี้คนเดียวไม่ได้ แต่หากมีคนคิดเหมือนข้า...มันก็อาจเป็นไปได้”
“ข้าทำสิ่งที่เกวนอยากให้ทำเท่านั้น” โคลด์ตอบปกป้องตัวเอง เขาไม่ยอมรับว่าเขาทำดีกับเอลฟ์บางคนเพราะเหนื่อยกับการเหยียด...เหนื่อยกับการเกลียดชัง
ที่สำคัญ เขาหลวมตัวไปช่วยไอ้เด็กเอลฟ์ตรงหน้าจากฝูงหมาป่าเอง
“เกวนโดลิน...ต้องการให้เจ้าเกลียดข้าที่บังเอิญเกิดมาเป็นเอลฟ์หรือ”
“อย่าเอานางมาใช้ประโยชน์ นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเจ้า”
ซิกฟรีดจึงมองโคลด์นิ่งๆ มองอารมณ์สั่นไหวในดวงตาสีม่วงคู่สวย
“ปัญหาอยู่ที่ไหน โคลด์ สตาร์…” เขาพูดคล้ายรำพึง “เจ้าเกลียดเอลฟ์จนเกลียดข้าหรือ”
“ข้าไม่ได้เกลียดเจ้าเพราะเจ้าเป็นเอลฟ์ ข้าเกลียดเจ้าเพราะเจ้าเป็นเจ้า” โคลด์ถูกปลูกฝังให้เกลียดชังเอลฟ์ แต่สำหรับซิกฟรีด เขาเกลียดซิกฟรีดก่อนความเป็นเอลฟ์เพราะเรื่องเจ็บแสบเรื่องหนึ่ง
“ช่วงหนีจากอาศรมแรกๆ มีวันหนึ่งเจ้าบอกให้ข้าไปได้ แต่พอข้าไปกลับต้องหนีการตามล่าจากควาร์คนอื่นเหมือนหมา เจ้าผิดคำพูด เจ้าหวังให้ข้าลืมเรื่องนั้นหรือ ข้าเกลียดเจ้านับแต่นั้น!”
เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้โคลด์ไม่เคยเชื่อคำพูดของซิกฟรีดที่มักบอกว่า
‘เจ้าปฏิเสธได้’
“อา...เจ้าตั้งใจฟังเรื่องที่ข้าเล่าจริงหรือไม่” ซิกฟรีดถาม
“เจ้าบอกว่าข้าปฏิเสธได้ แล้วหมาตัวไหนมันสั่งให้ควาร์จับข้ากลับมา!”
“ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์”
โคลด์หัวเราะไม่ออก เขาถามแบบหลุดปาก “จริงสิ”
“ข้าเป็นนักโทษในอาศรม คำพูดของข้าเทียบได้กับลม ข้าติดค้างคำขอโทษที่โพล่งบอกอนุญาตเพื่อปัดรำคาญ”
โคลด์ก้มหน้า เขานึกทบทวน ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด และสรุปกับตัวเองว่าไม่อาจเถียงเรื่องนี้ได้เต็มปาก
“แล้วคิงริวอร์นอร์มีเหตุผลอะไรต้องขังข้าไว้กับเจ้า”
“แล้วคิงริวอร์นอร์มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ขังข้ารับใช้คนสนิทเอาไว้กับเจ้านายของมัน”
“ข้ารับใช้คนสนิท? ทาสต่างหาก แค่ดาร์กเอลฟ์ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า อายุไม่ถึงเกณฑ์ไปรบด้วยซ้ำ”
“จะมีดาร์กเอลฟ์สักกี่คนที่เสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าชายจากฝูงหมาป่า จะมีดาร์กเอลฟ์สักกี่คนที่ยอมลำบากเดินทางมายังอาศรมกับเจ้าชายเอาแต่ใจ...มองจากภายนอก เจ้าภักดี”
ขณะอธิบาย ซิกฟรีดแปลกใจที่ตนนิ่งได้ถึงขนาดนี้ ใบหน้าด้านซ้ายไม่แสบร้อน ไม่เจ็บปวด
“และจะมีเจ้าชายสักกี่คนที่มีเรื่องชกต่อยกับควาร์ในอาศรมเพราะมันแกล้งข้ารับใช้...มองจากภายนอก ถึงเจ้าไม่เชื่อ แต่คนอื่นคิดว่าเราผูกพันกันมากจริงๆ”
โคลด์ฟังและคิดตาม เขานิ่งอยู่นาน มือที่พร้อมชักอาวุธมาตลอดทั้งคืนผ่อนคลายลงเป็นครั้งแรก
“แต่เจ้าไม่เคยอธิบาย เพราะเจ้าพูดมากไม่ได้ พี่ชายของเจ้าจับตาดูอยู่ ข้าก็ไม่เคยอธิบาย เพราะข้าตีสองหน้าอยู่”
ความเงียบคือการยืนยัน
“พูดออกมา เจ้าเป็นราชาแล้ว ยังจะเงียบใส่ข้าอีก ข้าเข้าใจไม่ได้ถ้าเจ้าเงียบ!”
“ใช่ สิ่งที่เจ้าเอ่ยมาถูกต้องแล้ว” นิ้วและฝ่ามือของซิกฟรีดเปื้อนสีแดงจากใบบลีด ไม่นานคงชา เขาคิดไปว่ามันจะใช้กับหัวใจที่เจ็บปวดได้หรือไม่
“ข้าถูกสาป...” จู่ๆ ซิกฟรีดก็เอ่ย
“หน้าเจ้า ริวอร์นอร์เป็นคนสาป มาลแกธบอกข้าแล้ว หัวใจมังกรศิลาเป็นยา ข้าทราบ ข้าทำลายมันกับมือ” โคลด์กลับมาตั้งท่าระวังตัว หากซิกฟรีดจะเอาโทษเขาเรื่องนี้...
“ข้ากำลังกลายเป็นเดรัจฉานช้าๆ” ซิกฟรีดสารภาพอย่างจริงใจ
“เหมือนพี่ชายของเจ้ารึ” คำพูดนั้นประชดประชัน
“ภายในของข้าเต็มไปด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง ข้าแทบควบคุมสัญชาตญาณดิบไม่ได้” ราชาเอลฟ์ตวัดสายตามองโคลด์ สตาร์
“จะโกรธข้าก็ได้ ข้าทำลายยารักษาคำสาปของเจ้า” โคลด์โต้แบบไม่ยี่หระ ทว่าซิกฟรีดตอบสิ่งที่โคลด์ไม่คาด
“หากข้าอยากได้ตัวเจ้า ข้าต้องได้...ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม” ซิกฟรีดหลับตา “ทั้งที่...ข้าไม่อยากให้เจ้าเกลียดเลย”
“เจ้าจะบอกว่าเจ้าเป็นบ้าเพราะข้า?” โคลด์หรือฮีมเดียร์ทึ่ง “จะบอกว่าเจ้ายินดีเอาตำแหน่งราชาและแผ่นดินมาแลกกับดาร์กเอลฟ์คนหนึ่ง?”
“ข้าจะเก็บไว้ทั้งหมดไม่ได้หรือ” มือที่เลอะสีแดงจากใบของต้นบลีดค่อยๆ ชา “ข้าเป็นราชาไม่ใช่หรือ”
“เจ้ามันริวอร์นอร์คนที่สองชัดๆ” โคลด์เอ่ยตามตรง “สมมติข้ายอมเป็นชู้รักของเจ้า ตอนเช้าเจ้ากอดเอริแอดเน่ กอดบุตรชายบุตรสาวที่เกิดกับนาง ตอนกลางคืนเจ้ามากอดข้า ในที่ที่เจ้าซ่อนข้าไว้จากสายตานางหรือ”
“ข้าจะไม่ซ่อนเจ้าจากใคร” คำพูดของซิกฟรีดฟังดูเสียสติ
“แล้วเจ้าจะแนะนำข้ากับเอริแอดเน่ว่ายังไง จะบอกว่า ‘พี่หญิง โปรดใช้สามีร่วมกับดาร์กเอลฟ์ผู้นี้’ หรือ”
“นางทราบมาโดยตลอดว่าข้ารักเจ้า”
“ข้าอยากสมเพชนาง”
หากท่านหญิงเอริแอดเน่ได้ยินบทสนทนานี้ ไม่ทราบว่านางจะคิดอย่างไร
“...แต่ข้าสมเพชไม่ลง...นางไม่ใช่คนดีนัก ข้าดมกลิ่นพวกเดียวกันออก แต่ข้ายังสงสารนางอยู่ดี”
น่าแปลกที่ซิกฟรีดไม่เถียง แม้จะไม่พอใจที่โคลด์พาดพิงถึงพี่หญิง แต่ก็ไม่เถียง
“ข้ามอบความรู้สึกให้เจ้าขยี้จนแหลกแล้ว เจ้าสามารถปฏิเสธข้าได้เช่นเดิม โคลด์ สตาร์” ซิกฟรีดอ่อนล้าเต็มทน “แต่ข้าจะไม่ปล่อยมือจากเจ้าเป็นครั้งที่สอง”
โคลด์สังเกตคำสาปบนใบหน้าราชาเอลฟ์ มันคล้ายมีชีวิตลุกลามได้เองเมื่อเจ้าของร่างเกิดอารมณ์ด้านลบ
“เจ้าเป็นราชาเพื่ออะไร” โคลด์ถามเพื่อเรียกสติ
“ข้าเคยบอกเจ้าเมื่อนานมาแล้ว และเพิ่งบอกเจ้าไปเมื่อสักครู่ ข้ายินดีเอ่ยมันอีกกี่ครั้งก็ได้”
“ถ้าข้าเป็นราชา…” ครั้งหนึ่ง...ซิกฟรีดเคยกระซิบข้างหูโคลด์ยามกอดอีกฝ่ายไว้อย่างเปี่ยมความรู้สึก
ทว่าคำต่อมาโคลด์ไม่มีโอกาสได้ยิน...จนกระทั่งตอนนี้
“หากเจ้าต้องการอิสระ ข้าก็จะมอบอิสระของทั้งโลกให้เจ้า”
น่าเสียดายที่ในอดีต ราชาแห่งรูเมเรียร์เป็นผู้ครอบครองความทรงจำชิ้นนี้...แต่เพียงผู้เดียว
—————————————————————————
A/N ช่วงนี้ราชาทำคะแนน ให้เค้าหน่อย ฮือๆติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarzป.ล. ปกติเราจะอัพเที่ยงคืนของทุกวัน ยกเว้นวันไหนไม่สะดวกก็จะอัพก่อนหรืออัพทีหลัง
หากใครรอตามอยู่ให้รอฟังข่าวได้ที่หน้าเพจของเราค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
และ...ขายของ งานหนังสือนี้ เรามีนิยายวายออกใหม่อย่างน้อย 2 เล่ม
ตีพิมพ์กับสนพ. 1 และทำมือ 1 (มะใช่เอลฟ์น้า) คนที่สนใจอยากให้ค่าขนมนักเขียน ติดตามได้ที่เพจเช่นกันจ้า จุ๊บๆ
ป.ล. 2 คอมเมนต์อ่านครบค่ะ อา อยากตอบจัง ช่วงนี้ปิดเล่ม ตอบช้านิดจ้า (ปิดเล่มอีกแล้ว แงๆ ของเก่าจบไปแล้วทำเล่มใหม่ค่ะ)