บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (3)
โคลด์นั่งยองๆ อย่างเบื่อๆ อยู่ริมสระน้ำที่เล็กและเงียบที่สุดในส่วนหนึ่งของพระราชวัง มองไปไม่เห็นกิ่งไม้ที่จะเอามาเขียนพื้นเล่นได้สักกิ่ง ไม่มีเศษใบไม้ถูกลืมกวาดแม้สักใบ มีแต่ความสวยงาม เป็นระเบียบ หินแต่งขอบสระแต่ละก้อนตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเท่ากันไร้ที่ติ กับผิวน้ำสีฟ้าใสราบเรียบ
อย่างไรสถานที่นี้ก็ไม่เหมาะกับเขา
ไม่เคยเหมาะ...“ว่าอย่างไร มองหานกคุยด้วยอยู่หรือ ข้าเป็นเอลฟ์ ถ้าเจ้าไม่เกลียดเอลฟ์นัก คุยกับข้าแทนไหม” มีเสียงทักทายโคลด์จากด้านหลัง เสียงนุ่มทุ้มแกมหยอกเอินแสนคุ้นเคย
โคลด์หันไปอย่างเฉื่อยๆ กว่าสมองที่อึมครึมจะประมวลผลว่า ‘ใคร’ ก็ตอนได้เห็นอีกฝ่ายเต็มตา
“เจ้ามาได้ยังไง” โคลด์ทักทายเอลฟ์ตะวันออก ชุดที่ดาร์กเอลฟ์ใส่วันนี้ดูดีกว่าชุดเก่าๆ ปอนๆ ตามปกติ ขับให้ใบหน้าคมคายตามแบบดาร์กเอลฟ์ดูมีราศีขึ้นมากโข
มาลแกธนั่งลงข้างๆ โคลด์ นิ้วอยู่ไม่สุขเอื้อมปัดผมที่ลงมาปรกตาโคลด์ไปทัดหู “ข้าไม่เข้าใจคำถาม ข้ามีม้า ก็ขี่ม้า” เอลฟ์ตะวันออกยิ้มหวานกว่าปกติ เมื่อรวมกับชุดพิธีการแบบชาวตะวันออกแล้ว ควาร์น่ารักคงเป็นลมล้มพับกันระนาว “วันนี้เจ้าหล่อเหลาเอาเรื่อง”
“หน้าตาข้าไม่สำคัญหรอก...ข้าอยากกลับอาศรม”
โคลด์พูดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ เขาเพียรหนีจากอาศรมมาหกปีเต็ม แต่ตอนนี้อยากกลับไปทั้งที่เพิ่งได้ออกมา!
แน่ว่าดาร์กเอลฟ์มีเหตุผลส่วนตัว ข้อแรก นกสีขาวจะมาหาเขาที่นั่น ข้อสอง ในอาศรมทำให้เขารู้สึกดีกว่าอยู่ที่นี่
โคลด์เอื่อยเฉื่อยเกินจะถามว่ามาลแกธเป็นแขกสำคัญหรือ ชุดที่สวมอยู่ก็หรูหราแปลกตาดุจขุนนางชั้นสูง
เขาตอบให้ตัวเองในใจว่า
คงใช่แหละ“เดี๋ยวก็ได้กลับ” มาลแกธวางมือบนศีรษะโคลด์
“ข้าโดนบังคับมา” โคลด์ฟ้อง เขาจับมือมาลแกธให้ลูบค้างไว้เหมือนกำลังหาคนเข้าข้าง
“หากวันหน้าหรือวันไหนๆ สบโอกาส ข้าจะช่วยให้เจ้าหนี” มาลแกธพูดเสียงเบาแต่หนักแน่น “เพราะข้าถูกใจเจ้า”
โคลด์หัวเราะเบาๆ
ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ
“ในวังนี้ ดาร์กเอลฟ์เป็นทาสที่ทำแต่งานหนักกับงานสกปรก” สถานะของโคลด์ดูสูงส่งขึ้นมา เป็น ‘ทาสที่สบายกว่า’
“ไปอยู่กับข้าสิ ที่นั่นดาร์กเอลฟ์เป็นทหารรับจ้าง ล่องเรือไปไกลหน่อย เสี่ยงชีวิตนิด...”
“สักวันหนึ่งนะ” โคลด์ตอบแบบใจลอยไปไกล เขาขุดหินก้อนเล็กขึ้นมาก้อนหนึ่ง ทำให้พื้นหญ้าเขียวสดมีรอยหลุมแหว่ง มือสีเข้มขว้างก้อนหินลงสระน้ำ ทำลายผิวน้ำนิ่งสงบเหมือนหาที่ระบายความอึดอัด
“ท่านมาลแกธ”
เอลฟ์ตะวันออกขยับยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเรียก
ไมเธียน… โคลด์มองตามเหม่อๆ อีกฝ่ายก็แต่งตัวดีไม่แพ้มาลแกธ สวมชุดพิธีการอย่างบุรุษรูเมเรียร์ และ...ดูไม่เหมือนลูกขุนนางตามปกติ
แต่เป็นตัวขุนนางเอง
“ได้เวลาประชุมแล้ว” คำพูดของไมเธียนห้วนกว่าตอนที่อยู่อาศรม
“ขอรับ...ท่านควาร์อาวุโส” มาลแกธตบไหล่โคลด์เบาๆ คล้ายให้กำลังใจ ก่อนจะลุกตามไมเธียนไป
โคลด์ได้ยินชัดทุกคำ แต่สายตาหันไปเหม่อมองสระน้ำต่อ
ควาร์อาวุโสหรือ...บางที ข้าควรบอกซิกฟรีด---------------------------------
“ต้องตามกันทุกก้าวเลยหรือ” มาลแกธเดินตีคู่ไปกับไมเธียน “...ที่รัก”
ไมเธียนหยุดเดินแล้วหันมาทางมาลแกธ เขายกฝ่ามือดันอกอีกฝ่ายเบาๆ “รู้ที่ทางของตัวเองเถิด เอลฟ์ตะวันออก”
“ข้าย่อมทราบดี ที่ทางของข้าคือเป็นหุ้นส่วนกับรูเมเรียร์”
ไมเธียนเหยียดยิ้ม “หุ้นส่วน? โพ้นทะเลมีอะไรมาเสนอรูเมเรียร์ที่อุดมสมบูรณ์เล่า”
“การค้า นักรบ เกลือ...อะไรอีกน้า” มาลแกธนึก “อ้อ ช่วยคานอำนาจอิซิลดาร์”
แดนตะวันออกอยู่ทางใต้ บริเวณทะเลฝั่งตะวันออกของรูเมเรียร์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกาะแยกออกไปต่างหาก ส่วนที่เป็นแผ่นดินเชื่อมกับแคว้นอิซิลดาร์ โดยมีชนกลุ่มน้อยอยู่ตรงรอยต่อเขตแดน
ปกติแล้วเอลฟ์ตะวันออกจะไม่ข้องเกี่ยวกับชาวแผ่นดินใหญ่ พวกเขามีความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณีเป็นของตัวเอง (ซึ่งมีจุดร่วมและจุดต่างจากความเชื่อของดาร์กเอลฟ์ด้วย) เอลฟ์ตะวันออกนับถือ ‘เทพและเทพี’ โดยเฉพาะ ‘เทพีแห่งสงคราม’
ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากแดนตะวันออกไม่ได้ปกครองแบบศูนย์รวมอำนาจ มีกษัตริย์หนึ่งเดียวเหมือนแคว้นรูเมเรียร์ แต่เป็นแบบ ‘ตระกูลใครตระกูลมัน’ มีการสู้รบแย่งชิงอาณาเขตกันบ่อยครั้งเหมือนเผ่าต่างๆ ในแดนทมิฬ จนชาวรูเมเรียร์ให้สมญาว่า ‘พวกป่าเถื่อน’ หรือไม่ก็ ‘พวกไร้อารยะ’
ซึ่งแววตาของไมเธียนก็ประกาศว่ามาลแกธเป็น ‘พวกป่าเถื่อนไร้อารยะ’ อย่างเห็นได้ชัด
“ทุกอย่างที่ท่านว่ามาก็ไม่ผิด เห็นจะมีประการเดียวที่เราต้องค้าน” ควาร์อาวุโสซึ่งมีใบหน้าอ่อนเยาว์เผยยิ้มอ่อนโยน “อิซิลดาร์มีความสัมพันธ์อันดีกับรูเมเรียร์ ชาวแผ่นดินใหญ่พึ่งพากันมายาวนาน ก่อนที่ท่านจะหัดเดินเสียอีก”
มาลแกธไม่ตอบคำ แต่โน้มลงไปกระซิบข้างหูไมเธียน
“ใครจะทราบอนาคตเล่า...ที่รัก”
ไมเธียนระบายลมหายใจหนัก ใบหน้าขึ้นสี ไม่ทราบว่าเพราะโกรธหรือเพราะอารมณ์อย่างอื่นกันแน่ ควาร์อาวุโสดันอกอีกฝ่ายให้ถอยห่าง ก่อนก้าวฉับไปทางที่ประชุม ไม่มีการพูดคุยกันอีก
ทั้งสองเดินมาถึงหน้าทางเข้าโถงว่าราชการ และได้พบกับบุคคลไม่คาดคิดซึ่งมารออยู่
ปกติแล้วบุคคลผู้นี้มักไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจธุระขององค์ราชา
ที่นางมาปรากฏตัวจึงประหลาด
ท่านหญิงเอริแอดเน่จากอิซิลดาร์สวมผ้าคลุมหน้าผืนบางตามธรรมเนียมของเจ้านายฝ่ายหญิงรูเมเรียร์ยามต้อนรับแขกต่างเมืองในคราแรกที่พบหน้า
ผ้าคลุมหน้านี้ไม่อาจปิดบังความงามของนางแม้สักนิด
ด้านหลังของท่านหญิงคือองครักษ์หญิงสองนาง เป็นนักรบสตรีจากอิซิลดาร์ นอกจากความงามเหมือนบุปผาจากป่าลึกแล้ว ท่าทางของพวกนางยังเข้มแข็งเจนศึกไม่ต่างจากองครักษ์ขององค์ราชา
เอริแอดเน่หันมาทางบุรุษทั้งสอง ริมฝีปากยกยิ้มนิ่งสงบ
เห็นได้ชัดว่านางมาต้อนรับมาลแกธ
ทั้งสองเคยได้ยินแต่ชื่อเสียงเรียงนามของกันและกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้า และนางแสดงการให้เกียรติมาลแกธอย่างเปิดเผย
เอลฟ์ตะวันออกน้อมศีรษะทำความเคารพแบบรูเมเรียร์ก่อน แล้วค่อยเอ่ยว่า “ข้ามาจากแดนเถื่อน แต่ยังดีที่เรามีการทักทายหญิงงามเป็นของตัวเอง ไม่ทราบว่าท่านหญิงจะให้เกียรติข้า...ทักทายหญิงงามตามธรรมเนียมปฏิบัติได้หรือไม่”
“อิซิลดาร์ก็เป็นดินแดนนอกรูเมเรียร์ไม่ต่างกัน” เอริแอดเน่ตอบเป็นเชิงอนุญาต
มาลแกธจึงคุกเข้าข้างหนึ่งแล้วจูบหลังมือขาวเนียนของเอริแอดเน่ ไมเธียนซึ่งมองอยู่ถึงกับอ้าปากน้อยๆ
มันกล้าแตะต้องท่านหญิงเชียวหรือองครักษ์หญิงจากอิซิลดาร์ชะงักเช่นกัน ปกติแล้วกระทั่งองค์ราชาริวอร์นอร์ ท่านหญิงยังไม่โปรดเข้าใกล้
“เป็นเกียรติแล้ว” เอริแอดเน่เอ่ยสำรวม “แผ่นดินเรายังต้องพึ่งพากำลังของท่านอยู่อีกมาก”
มาลแกธยกยิ้มแล้วถอยออกมา ให้ท่านหญิงเดินนำเข้าโถงว่าราชการไปก่อน
“เจ้าทำอะไร เอลฟ์ตะวันออก” ไมเธียนกระซิบลอดไรฟัน
“ตาฝ้าฟางแล้วหรือ” มาลแกธกระซิบตอบ “ข้าก็จูบมือท่านหญิงอย่างไรเล่า”
“หัวเจ้าคงบอกลาคอเจ้าเร็วๆ นี้” ไมเธียนเอ่ยอย่างเฉยชา
---------------------------------
คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์และขุนนางคนอื่นๆ ที่มาก่อนยืนล้อมโต๊ะแผนที่อยู่ การประชุมยังไม่เริ่มแต่ราชาต้องการทราบความเคลื่อนไหวของดวอร์ฟ พวกมันไม่ขึ้นกับใครเพราะดินแดนอยู่ห่างไกล สถานะพ่อค้าก็มีอำนาจต่อรอง...ทองคำมีอำนาจต่อรองเสมอ
สตรีผู้เพิ่งเข้ามารู้ที่ทางของตน นางถอนสายบัวให้องค์ราชาแล้วเดินเนิบช้าไปยืนด้านหลังของเขา
เหล่าขุนนางแปลกใจ หลังสิ้นคิงเฟรธูริน ท่านหญิงให้ตัวแทนจากอิซิลดาร์มาร่วมประชุมแทนนางเสมอ นางไม่คอยรับใช้ใกล้ชิดคิงริวอร์นอร์ดังเช่นที่เคยรับใช้ใกล้ชิดคิงเฟรธูริน
ข่าวว่านางไม่รับไมตรีของคิงริวอร์นอร์ก็ไม่เกินจริง เพราะเป็นสิ่งที่เห็นกันชินตา
มาวันนี้นางปรากฏตัว สีหน้าและแววตาของนางที่มองประเมินขุนนางแต่ละท่านคล้ายจักกล่าวว่า
‘การเปลี่ยนแปลงย่อมมาถึงเมื่อสมควรแก่เวลา’
“หน่วยข่าวกรองใต้ดินส่งข่าวมาว่าดวอร์ฟขายอาวุธให้พวกกบฏดาร์กเอลฟ์” ริวอร์นอร์ทราบการมาถึงของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ และขุนนางควาร์ทั้งสองแล้ว “เราควรเริ่มจัดการจากตรงไหนก่อนดีเล่า ท่านหญิง”
จู่ๆ ริวอร์นอร์ก็หันไปทางสตรีซึ่งมีศักดิ์เป็นคู่หมั้นของตน
“ความเห็นของสตรีไม่อาจก้าวล้ำบุรุษ ข้าเป็นเพียงผู้ตามที่ดี และจักพยายามอย่างยิ่งในการช่วยเสริมคำตอบแก่ขุนนางท่านอื่น”
ท่านหญิงปฏิเสธองค์ราชาอีกแล้ว เหล่าขุนนางคิด นางเคยเป็นถึงจอมเวทสงครามในมหาสงครามสองร้อยปี ผู้ลบเมืองทมิฬอันยิ่งใหญ่เมืองหนึ่งให้หายไปจากแผนที่ด้วยความฉลาดเฉลียวและมหาเวทมนตร์เพียงบทเดียว
มีหรือที่คำถามเพียงเท่านี้นางจะไม่มีคำตอบ
ริวอร์นอร์ละสายตาจากเอริแอดเน่ครู่หนึ่ง พลางหันไปยิ้มให้ไมเธียนที่สูดลมหายใจได้ไม่เต็มปอด “อา...อย่าเกร็งไปท่านควาร์อาวุโส เราเพียงใจร้อน ท่านไม่ได้มาสาย”
รอยยิ้มของพระราชาพระองค์นี้...มีอำนาจกดดัน
“สืบมาให้ได้ว่ากิลด์พ่อค้ากิลด์ไหนทำตัวเป็นหนูใต้แผ่นดินเรา” ริวอร์นอร์สั่งขุนนาง ขณะจับจ้องยังใบหน้าหมดจดใต้ผ้าคลุมหน้าของเอริแอดเน่ ราชาเอลฟ์ขึ้นประทับบนบัลลังก์ซึ่งหลอมจากเหล็กดำ มีนางยืนอยู่ด้านล่าง เยื้องไปทางขวา
“ต่อไป...เราอยากฟังรายงานพฤติกรรมของอาเลธ”
เอริแอดเน่เหลือบมองริวอร์นอร์ ทั้งสีหน้า แววตา และท่าทางของเขา ล้วนไม่คลาดจากสายตานาง
“เขาเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทหรือไม่ ท่านควาร์ทั้งสอง” ริวอร์นอร์เท้าศีรษะ ดวงตาสีโลหิตจับจ้องที่เอลฟ์ตะวันออกเป็นพิเศษ โดยที่มาลแกธไม่หลบสายตานั้นเลย
บางสงคราม…
ไม่ได้ฟาดฟันกันด้วยอาวุธ
---------------------------------------------------------------
A/N การเมืองสามเส้าระหว่างรูเมเรียร์ แดนตะวันออก และอิซิลดาร์เข้มข้นมานานแล้วค่ะ มีคอมเมนต์ถามว่า ทำไมเอริแอดเน่ถึงเป็นคู่หมั้นของราชาถึงสามองค์ จริงๆ จะมีคำเฉลยในเนื้อเรื่อง (ละมั้ง) แต่ตอบคร่าวๆ ก็เป็นเหตุผลทางการเมืองค่ะ คืออิซิลดาร์ต้องแต่งกับรูเมเรียร์เพื่อรักษาอำนาจของทั้งสองฝ่าย การแต่งงานนี้ไม่เน้นที่ตัวบุคคล ใครเป็นราชาก็แต่งกับทายาทสตรีที่เป็นเบอร์ 1 ของอิซิลดาร์ ที่เปลี่ยนราชาแล้วไม่เปลี่ยนคู่หมั้นก็เพราะ...เอริแอดเน่เป็นเบอร์ 1 No. 1 ของอิซิลดาร์ไม่เคยเปลี่ยนจ้า <3
ป.ล. มาลแกธก็เข้าวังมาอย่างหล่อ แล้วดู้ดู จีบไปทั่ว -*-
ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz