บทที่ 10 : ราชันพันธนาการ (2)
โคลด์หายใจถี่ แรงบีบหัวใจคลายลงจนเจ็บน้อยกว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา เพราะเขาได้พบผู้เรียกหาตามสัญญาแล้ว
สภาพดาร์กเอลฟ์โทรมสุดขีด เขาอดอาหารอยู่ในทางใต้ดินหลายวัน พอออกมาได้ก็เจอเวทบังคับให้เดินทางมาหาซิกฟรีด คงเหลือเพียงดวงตาสีม่วงวาววามอย่างสัตว์จนตรอก...ที่บอกว่าไม่ยอมแพ้
“มันช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้”
ซิกฟรีดเอ่ยภาษาเก่าแก่ พรายน้ำรูปลักษณ์เหมือนแมลงปอบินขึ้นมาจากบ่อลึก มันจุมพิตริมฝีปากของดาร์กเอลฟ์ก่อนกลับเป็นหยดน้ำ โคลด์รู้สึกถึงรสฉ่ำหวาน ความเจ็บปวดลดลง ความเหนื่อยล้าคลายออก
โคลด์ทรุดตัวลงกะทันหัน “ทำให้เสียงนี่หยุดที!”
ราชาหนุ่มยกมือขึ้น ก่อนจะกำแล้วทำท่าคล้ายกระตุกสายจูงสุนัข โคลด์ผวาเข้ามาใกล้ทันที
ใกล้ แต่ยังอยู่ในระยะที่ไม่สามารถกระโจนเข้าไปชกหน้ายโสของเอลฟ์ได้ โดยเฉพาะยามที่โคลด์อ่อนแรงเช่นนี้
ซิกฟรีดย่อตัวลง โคลด์ได้เห็นใบหน้าด้านซ้ายที่น่าเกลียดน่ากลัวใต้แสงจันทร์ ซิกฟรีดไม่ใส่หน้ากาก เขาตั้งใจเปิดเผยความอัปลักษณ์ให้อีกฝ่ายชม ระหว่างที่โคลด์ไม่อยู่ ดูเหมือนมันจะลามไปมากทีเดียว รอยแผลเป็นกินบริเวณจากใบหูซ้ายจนถึงปีกจมูกซ้าย แทบจะครึ่งหน้า เส้นเลือดสีดำเต้นตุบๆ อยู่ใต้ผิวหนังซีดบาง ซิกฟรีดคล้ายซากศพมากกว่าราชาเอลฟ์
“เจ้าทำข้าไว้มากทีเดียว” มือใหญ่วางบนศีรษะโคลด์ ลูบราวกับปลอบสัตว์ ก่อนค่อยๆ ขยุ้มผมให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน
เสียงในหัวของโคลด์ดังขึ้นจนน้ำตาไหล จากนั้นก็หยุดฉับ
ซิกฟรีดคลายเวทพันธะออก ตรารูปกริชหายไป หัวใจของโคลด์เสียววูบเหมือนตกจากที่สูง แม้จะไม่มีเสียงปวดกะโหลกแล้ว แต่โคลด์ยังได้ยินเสียงหลอนอยู่ ทำให้อยากอาเจียนเพราะเมาคลื่นเสียงที่ดังติดต่อกันหลายวันหลายคืน
“เจ้าก็ทำข้าแสบ ข้ามาแล้ว จะเอาอะไรก็ว่ามา...” ดาร์กเอลฟ์แข็งใส่ แบบที่เขาทำกับมาลแกธ “เรียกข้ามาเพราะมีของที่อยากได้ใช่ไหม สั่งมา!”
“ตัวเจ้า”
ซิกฟรีดตอบกลับในทันที คำพูดหนักแน่น เหมือนว่าไตร่ตรองมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเห็นสมควรดีแล้ว ดวงตาสีส้มเงินด้านขวาแทบหลอมดาร์กเอลฟ์เข้าไป แทบจะขังเอาไว้ข้างในนั้นตลอดกาลหากทำได้
“สิ่งที่ข้าต้องการ คือตัวเจ้า”
โคลด์หัวเราะอย่างไม่อยากเชื่อ “หาคู่นอนไม่ได้หรือ แค่นี้ต้องใช้เวทเรียกมา”
“คู่นอน?” ซิกฟรีดเหยียดยิ้ม เสียงหัวเราะแตกพร่าลอดจากลำคอซึ่งมีบาดแผลฉกรรจ์พาดอยู่ “ไม่ ข้าต้องการเจ้ามากกว่านั้น” ริมฝีปากด้านซ้ายบิดเบี้ยว
“เจ้าได้แค่นั้น” สิ่งที่โคลด์สงสัยอาจได้รับการเฉลยในวันนี้ ซิกฟรีดรู้ว่าเขาทำอะไรได้ และคิดใช้ประโยชน์จากพลังควบคุมคนตายของเขา
“เกวนโดลิน” ซิกฟรีดไล่มือมาที่ปลายคางของโคลด์ ไม่กลัวว่าจะโดนกัดมือ
“ทำไม” ดาร์กเอลฟ์ยกยิ้มอย่างชั่วร้ายไม่แพ้อีกฝ่าย
“ข้าจะช่วยให้เจ้าสมรัก แต่เจ้าต้องอยู่กับข้า” ราชาไล่สายตามองใบหน้าโคลด์ ตั้งแต่หน้าผากจนริมฝีปาก รูปลักษณ์ภายนอกของดาร์กเอลฟ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ภายในเปลี่ยนไปมหาศาล
สายตาพินิจพิเคราะห์หยุดอยู่ที่ดวงตาสีม่วง
ซิกฟรีดเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง
เขาก็เปลี่ยนไปมากทีเดียว
“เพ้อเจ้ออะไรอยู่ เจ้าเรียกใช้ตราทาส เจ้าบังคับข้าไม่ได้แล้ว”
โคลด์รู้สึกโง่นิดๆ ที่ลืมคิดให้รอบคอบกว่านี้ ซิกฟรีดเรียกใช้ตราทาสได้ ถ้ามันถูกเรียกใช้ก่อนหน้าเขาจะไปสุสานวิหารร้าง เขาย่อมยอมมา
โคลด์ให้เวลาซิกฟรีดตัดสินใจเรื่องหัวใจมังกรศิลาตั้งเจ็ดวันเพราะต้องการกดดันอีกฝ่ายให้กังวล สับสน เพิ่มโอกาสการเรียกใช้ตราทาส
แต่ซิกฟรีดไม่ยอมใช้จนเขาตัดสินใจกลับแดนทมิฬ แล้วมาเรียกใช้เอาตอนนี้...ถือว่าเลวร้ายสุดขีด
เข็มทิศคนตายซึ่งมีปฏิกิริยาต่อพรสวรรค์ของเขาคงบอกจอมทัพทมิฬแล้วว่าเขายังมีชีวิตอยู่
ตลกร้ายอะไรอย่างนี้!
“เวทพันธะไม่ใช่ตราทาส เจ้ายินดีรับสัญญาไว้เอง เวทของควาร์ไม่ผูกใครไว้อย่างเวทฝั่งทมิฬหรอก...ดาร์กเอลฟ์”
ซิกฟรีดพูดความจริง ทว่าเป็นความจริงบางส่วน เวทของควาร์ไม่สามารถผูกใครไว้ได้ ‘โดยสมบูรณ์’ หากเจ้าตัวไม่ยินยอม อย่างแรก ตราประทับปริศนาบนคอที่โคลด์เรียกมันว่า ‘ตราทาสของควาร์’ ความจริงแล้วไม่ใช่ตราทาส ซ้ำยังร่ายไม่สมบูรณ์เนื่องจากโคลด์ไม่ได้เอ่ยรับ อย่างที่สองคือเวทพันธะบนอกซ้าย...
ซิกฟรีดไม่เคยให้ทางเลือกกับโคลด์...ไม่เคยเลย ในตอนนั้น ถ้าโคลด์ต้องการอิสระ ไปจากเขาเพื่อตามหา ‘คนรัก’ ก็ต้องรับปาก ตกลงยินยอมอย่างเสียไม่ได้
ใครกันเล่าที่ร้ายกว่า
เอลฟ์...หรือดาร์กเอลฟ์“ข้ารู้ว่าเจ้ามีแผนอะไร เจ้าคงคิดมาอย่างดีแล้วว่า ทั้งเกวนโดลินคนสำคัญและเจ้า ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกับมังกรได้ แต่คิดจะเป็นศัตรูกับข้าด้วยอย่างนั้นหรือ...ฮีมเดียร์”
ซิกฟรีดเรียกชื่อจริงของโคลด์ ชัดถ้อยชัดคำ
“ไอ้เด็กเอลฟ์” โคลด์คำรามลอดไรฟัน
ความจริงแล้ว ซิกฟรีดรู้จักชื่อจริงของโคลด์ก่อนที่กอห์นดีเอนจะรายงานเสียอีก เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่ได้ยินคำทำนายจากบิดาแห่งนภา พระองค์กระซิบชื่อผู้ที่มีส่วนในสงครามสามแผ่นดินหลายชื่อด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ ‘ฮีมเดียร์’
ทว่าความทรงจำถูกกาลเวลาชะจนเลือน ซิกฟรีดเพิ่งระลึกได้เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากกอห์นดีเอนพูดถึง ‘ราชาคนตาย เจ้าชายกระดูก’ มันวาบขึ้นมาเหมือนสายฟ้าฟาดนภาให้แยกออก
“เจ้าจะหนีไปที่ไหนพ้น” ราชาหนุ่มใช้ข้อนิ้วไล้แก้มโคลด์ช้าๆ เกือบจะนุ่มนวลเหมือนสัมผัสของคนรัก สายตาก็ไล้ไปตามกรอบหน้าคมของดาร์กเอลฟ์
“ข้าไม่อยู่กับเจ้า อยู่กับเจ้าข้าไม่ได้อะไรเลย”
ซิกฟรีดโน้มใบหน้ามาใกล้ แววตามีแรงดึงดูดมหาศาล “เจ้าอยากได้อะไรล่ะ ไม่ใช่เกวนโดลินหรอกหรือ”
“ข้าไม่อยู่กับเจ้า” โคลด์ย้ำ “เจ้าจะเอาข้าไว้ในฐานะอะไร ข้าจะอยู่ที่ไหน ที่พูดปาวๆ ว่าให้อยู่ด้วยนี่คิดเรื่องพวกนี้มาหรือยัง”
“ข้าต้องการให้เจ้าอยู่ข้างๆ” ข้อนิ้วเลื่อนไปที่ปลายใบหู ซิกฟรีดค่อยๆ แตะมันอย่างแผ่วเบา
โคลด์เบี่ยงหน้าออก ไม่ให้แตะส่วนที่สงวนไว้สำหรับคนรัก “อยู่ทำอะไร คอยซ่อมสายพิณเวลาขาดหรือไง หรือช่วยเลี้ยงลูกๆ ในอนาคตของเจ้า” ตรงนี้โคลด์หัวเราะ “เอริแอดเน่ เจ้าไม่สมรสแล้วตั้งนางเป็นราชินีซะที ต้องรอไว้ทุกข์ให้ริวอร์นอร์ครบกี่ปีหรือ!”
“เจ้ารู้ไหมว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงจะเกิดอะไรขึ้น” ซิกฟรีดเอียงใบหน้าด้านซ้ายไปทางแสงจันทร์ เส้นเลือดสีดำเต้นริก คล้ายได้รับพรหล่อเลี้ยงจากเทพีจันทร์ “คำสาปจะแข็งแกร่งขึ้น เผ่าทมิฬน่าจะทราบดี”
“ข้าไม่สนใจ” โคลด์ตอบห้วนๆ “ข้าสนแต่ว่าเราแยกทางกันเมื่อสามปีก่อน ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องต้องทำ เจ้าทำเรื่องของเจ้าสำเร็จแล้ว ข้ากำลังทำเรื่องของข้า ใช่ ข้าเอาคืนเจ้าเรื่องหัวใจมังกรศิลา แต่เจ้าคงไม่ต้องการคำขอโทษ เพราะข้าก็ไม่ขอโทษหรอ—”
ริมฝีปากช่างต่อว่าถูกครอบครองทั้งที่คำพูดยังพรั่งพรูออกมาไม่หมด
ซิกฟรีดโดนกัดปาก
ทว่าสัมผัสกลับร้อนแรงขึ้น โคลด์ถูกกัดกลับ ท้ายทอยก็ถูกดันจนแนบชิด
“ข้ารักคนอื่น” โคลด์พูดขณะพยายามเบือนหน้าหนี
“เจ้าคิดว่าข้าสนหรือ” ซิกฟรีดแสยะยิ้ม
“งั้นสนตำแหน่งที่แย่งพี่ชายคนรองมาหน่อยไหม ผู้หญิงที่แย่งเขามาด้วย”
“อา…” อาจได้ผล ซิกฟรีดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะที่ฟังดูวิกลจริต
“เราควรไปคนละทาง” โคลด์เอ่ยอย่างใจเย็นที่สุด แวบแรกเขาจะอ้างว่าตนรักมาลแกธเพื่อให้เรื่องมันวุ่นวายขึ้นไปอีก เผื่อราชาจะแตกกับแดนตะวันออก แต่แวบต่อมาเขาผลักทางเลือกนี้ออกไปก่อน
ใช่ว่าเขากลัวการยุแยงจะไร้ประโยชน์เพราะซิกฟรีดกับมาลแกธย่อมเห็นแผ่นดินเกิดสำคัญเป็นที่หนึ่ง
การยุแยง หากทำได้ถูกจุด มักได้ผลดีกว่าที่คิด
แต่โคลด์อยากต่อต้านคำสอนของบิดาบุญธรรม ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยรักดุจบิดาแท้ๆ
‘เมื่อพบใคร ให้คิดว่าควรใช้ประโยชน์จากอีกฝ่ายอย่างไร จุดอ่อนของมันคืออะไร จะกำไว้อย่างไร คลายออกอย่างไร บดขยี้มันอย่างไร’
หรือไม่...ข้าก็แค่ไม่อยากเพิ่มปัญหาให้มาลแกธ“พระจันทร์เต็มดวง...โคลด์ สตาร์ มันทำให้คำสาปของริวอร์นอร์แข็งแกร่งขึ้น” ซิกฟรีดจับมือโคลด์มาแนบใบหน้าซีกซ้ายของตัวเอง “เสียงกระซิบของมันต้านทานได้ยากขึ้นเรื่อยๆ”
ปกติซิกฟรีดจะสวมหน้ากากเงินไว้เกือบตลอดเวลา ไม่ใช่เพื่อปิดบังโฉม แต่เพื่อบรรเทาคำสาปน่าสะพรึงของกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์พระองค์ก่อน คำสาปนั้นทำให้เขาไม่สามารถคิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล ศีลธรรมจรรยาลดต่ำลง เป็นคำสาปเปลี่ยนเอลฟ์ให้ต่ำกว่าเดรัจฉานอย่างช้าๆ และทรมานเป็นที่สุด
คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์เป็นยอดนักรบ
และเป็นจอมเวทผู้เก่งกาจทั้งเวทขาวและเวทดำ
“เจ้ารักเอริแอดเน่หรือเปล่า” โคลด์ถามวัดใจ
นามของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ทำให้ซิกฟรีดอ่อนลง แต่ก็เพียงเล็กน้อย แทบไม่สังเกตเห็น “ข้ารักนางอย่างพี่หญิง ข้าย่อมต้องดูแลนางเมื่อสิ้นพี่เฟรธูริน”
“แล้วข้าเป็นอะไร”
—————————————————————————
A/N เป็นอะไรไม่รู้ รอดูตอนต่อไปเนอะ <3
ป.ล. 1 “สิ่งที่ข้าต้องการ คือตัวเจ้า” ซิกฟรีดกระตุกสายจูงได้ S มากค่ะ...ใครลงเรือลำนี้ก็...
ป.ล. 2 เรือมาลแกธก็แอบมีโมเม้นต์น้า
"ทำไมข้าต้องโดนลูบหัวเหมือนสุนัข..." โคลด์โอดกับผู้กำกับติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz