บทที่ 9 : เส้นทางมังกร (4)
สิบสามปีก่อน
“กินแต่ผลไม้จะพอกระเพาะหรือ”
เอเลียตถาม ระหว่างมองเด็กสาวก้มๆ เงยๆ หาลูกเบอร์รีในพุ่มไม้ที่แห้งใกล้ตาย
ครั้งแรกที่พบกัน เขาปล่อยเธอไป จากนั้นก็แวะมาหาเป็นประจำ บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ
เธอน่าสนใจ น่าค้นหา เขาเกือบหัวเราะเมื่อเธอพูดคำว่า ‘เพื่อน’ เขาจำไม่ได้ว่าเพื่อนคืออะไร เป็นอย่างไร ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินคำว่าเพื่อนผ่านไปหลายศตวรรษแล้ว
เขาตัดสินใจ ‘ทำความรู้จัก’ กับเด็กสาวชาวดาร์กเอลฟ์ผู้นี้ อย่างที่เพื่อนน่าจะทำกัน ถามคำถาม วนเวียนข้างกาย อาจมีแกล้งกันบ้าง เขารู้สึกกระชุ่มกระชวย ว่ากันว่าแท้จริงแล้วภายในของผู้ชายคือเด็กตลอดกาล อาจเป็นความจริง
“พอเจ้าค่ะ” กวินีเวียร์หันมายิ้ม หยิบลูกเบอร์รีวางบนผ้าในอ้อมแขน “แต่…” คิ้วสีเงินขมวดเข้าหากัน “น้องชายของข้าอยู่ในวัยกำลังโต เขาต้องกินอย่างอื่นบ้าง”
ตอนเงยตัวขึ้นมา พุ่มไม้เกี่ยวมวยผมของเธอหลุดรุ่ย ปอยผมสีเงินแนบอย่างน่าเสน่หาอยู่บนหลังต้นคอ
“ขออนุญาต” เอเลียตใช้นิ้วช้อนปลายผมให้ “ข้ามุ่นผมไม่เป็น แต่พอถักเปียได้ น่าจะสะดวกเวลาเก็บผลไม้มากกว่า”
กวินีเวียร์หน้าแดง จับมือเขาไว้ “อย่าเจ้าค่ะ เราไม่ถักเปีย”
“กลัวเหมือนเอลฟ์หรือ”
“เราไม่ถักเปีย” ดาร์กเอลฟ์ไม่ถักเปีย กวินีเวียร์ย้ำคำ
“เหตุผลล่ะ”
เธอรูดนิ้วเก็บผมจากมือเขา “อย่างที่ท่านพูด เราไม่เหมือนเอลฟ์”
“เจ้าไม่รู้จักเปียมังกร” เอเลียตอมยิ้มแบบเด็กที่อยากแสดงอะไรบางอย่างแทบทนไม่ไหว เขาตัดผมสั้น เกวนโดลินจึงไม่เห็นเปียสักเส้น
กวินีเวียร์เม้มปาก “เปียก็คือเปีย จะต่างกันอย่างไรเจ้าคะ”
“นั่นสิ” เอเลียตเห็นด้วย “แต่เผื่อเจ้าติดใจอยากทราบ เปียมังกรไม่ต่างอะไรจากเปียของเอลฟ์หรอก ไม่นึกว่ากับทรงผมพวกเจ้าก็เหยียดรังเกียจกัน น่าสังเวชจริงแท้”
“ข้าจัดการเองได้เจ้าค่ะ” เด็กสาววางห่อลูกเบอร์รี ปล่อยผมจากมวยให้สยาย ผมของเธอหอมอ่อนๆ จากกลิ่นดอกไม้ป่าที่ใช้สระผม “ทรงผมสำคัญจริงๆ ข้ายอมรับว่าข้าไม่ชอบถักเปียเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่มีเจตนาว่าเจ้า กวินีเวียร์ ข้าลองหัดหยอกเจ้าดู...เห็นได้ชัดว่าไม่ฉลาดเลย”
เด็กสาวอึกอัก “ข้าแค่...ไม่เคยมี...เอ่อ...ชายใดเสนอตัวช่วยจัดผมให้มาก่อน” เธอรีบมุ่นผมใหม่ แก้มเป็นสีแดง
“ข้าไม่ได้พบใครมานาน” เอเลียตดึงลูกเบอร์รีมาชิม “ไม่ค่อยได้สมาคมกับใคร ทักษะการพูดคุยถูกทิ้งบนหิ้ง ข้าไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่ตัวเองปฏิบัติกับหญิงสาวได้...อืม มารดาข้าเรียกว่า ‘ไม่น่ารัก’ ”
กวินีเวียร์ยิ่งฟังก็ยิ่งมุ่นผมไม่เป็นมวย เธอรู้สึกขัดเขินอย่างประหลาดยามเขาสุภาพ ไม่คุกคามน่ากลัว
“รอที่นี่ ข้าจะไปหาของขวัญไถ่โทษ”
เด็กสาวดาร์กเอลฟ์ถอนใจ ทรุดตัวนั่งรออย่างที่มังกรบอก
ครู่หนึ่ง เอเลียตก็กลับมาพร้อมกวาง
เขาแบกกวางบนบ่า เดินมาหาเธอสบายๆ ไม่ทราบว่ากวินีเวียร์มองออกไหม แต่มันไม่ใช่กวางท้องถิ่น ขนของมันสีขาว จุดแต้มเป็นสีเงิน บ่งชัดว่ากวางตัวนี้มาจากทางเหนือของรูเมเรียร์ บนเขาสูง ห่างจากที่นี่แบบใช้เวลาเดินเท้าเป็นเดือน
กวินีเวียร์ตาโต เธอเลี่ยงไม่กินเนื้อสัตว์ เพราะมักได้ยินเสียงพวกมันวอนขอชีวิต
“ข้า...เอ่อ…”
“สำหรับน้องชายเจ้า” เอเลียตขัดเสียก่อน “เขายังเด็กใช่ไหม เด็กกำลังโตต้องกินอาหารดีๆ”
เด็กสาวเงียบ เธอเข้าใจความจริงของโลก จึงเดินไปที่กวางตัวนั้น เอ่ยปลอบโยนมันให้หายตระหนก ให้มันหลับตาลงอย่างสบาย...โดยลืมนึกถึงการตื่นขึ้นมาอีก
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
“ไม่ต้องพูด ‘เจ้าค่ะ’ ได้ไหม ฟังเหมือนไม่ใช่เพื่อนกัน”
“เจ้าค่ะ...ข้าหมายถึง...ค่ะ”
เอเลียตยิ้ม เขาแปลงมือของตัวเองให้เป็นกรงเล็บมังกร แล้วจบชีวิตของกวางชะตาขาดอย่างรวดเร็ว
“เจ้าหันหลังดีกว่า หรือไม่ก็หลับตา ข้าคิดว่าต่อจากนี้คงไม่น่าชมนัก” ชายหนุ่มถกแขนเสื้อเตรียมชำแหละเนื้อกวาง
‘ข้าชำแหละเนื้อสัตว์เป็นค่ะ’ นางตอบพลางหันหลัง
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าถ้าเราคุยกันทางจิตบ่อยๆ เราจะปิดกั้นกันได้ยากขึ้น”
“ข้า...” กวินีเวียร์พรั่นใจ “ค่ะ ข้าเข้าใจ”
‘เจ้าไม่ชอบให้ข้าอยู่ในหัวของเจ้าหรอก’
กวินีเวียร์ไม่ตอบ แต่ใบหูลู่ลง ร้อนทั่วใบหน้า เธออาจคิดไปเอง แต่ประโยคเมื่อสักครู่ไม่ใช่การข่มขู่...เธอสัมผัสได้ถึงการเกี้ยวพา
ข้าคงคิดไปเอง เธอเตือนตัวเอง
“เสร็จแล้ว” เอเลียตยกแขนปาดเหงื่อ เขาไม่ได้ล่าเหยื่อเองมานาน กล้ามเนื้อที่ฝืดฝืนเริ่มเข้าที่ “อ้อ…”
“คะ?” ดาร์กเอลฟ์สาวหันมา เอ่ยขอบคุณและหยิบผ้าออกมาช่วยเช็ดมือ
“เจ้าไม่ได้คิดไปเอง” เอเลียตยิ้ม ตาโค้งขึ้นเล็กน้อย
คราวนี้มังกรได้เห็นใบหน้าสวยคมแดงระเรื่อ
“เจ้าเช็ดมือให้ข้าแรงไปแล้วหนา” เอเลียตจับมือกวินีเวียร์อย่างสุภาพ เขาหัวเราะเบาๆ “อยู่กับเจ้า ข้ายิ้มและหัวเราะมากกว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมาเสียอีก อา...ครั้งนี้ข้าพูดจากใจจริง ไม่ได้เกี้ยวพา”
หัวใจของเด็กสาวเต้นตึกตัก เมื่อตกลงกันไว้ว่าจะไม่เข้าไปในใจของอีกฝ่าย เธอก็เห็นเขาเป็นบุรุษมากกว่าเป็นมังกร
เธอเงยหน้ายิ้มน้อยๆ ทำตัวไม่ถูก มือยังวางค้างไว้
“ให้เรารู้จักกันมากกว่านี้อีกหน่อย กวินีเวียร์…” เอเลียตกระซิบ เขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ “อย่าเพิ่งตัดสินว่าข้าเป็นอย่างไร”
ชายหนุ่มเข้าใจแล้ว...ว่าเขาถูกดึงดูดด้วยความดีงาม ความบริสุทธิ์ในตัวของดาร์กเอลฟ์ผู้นี้
ช่างอันตรายจริงๆหูของมังกรได้ยินเสียงหัวใจเด็กสาวเต้นแรง “ข้า...ข้าควรกลับแล้ว กวาง...ข้าจะค่อยๆ ขนไปเอง ท่านไม่ต้องลำบาก”
“เจ้ากลัวข้าลักน้องชาย” เอเลียตเอียงใบหน้าคล้ายต้องการสูดกลิ่นแก้มของอีกฝ่าย “ไม่ต้องห่วง ข้าจะไปส่งเจ้า ไกลเท่าที่เจ้าอนุญาต”
กวินีเวียร์ไม่ได้เบือนหน้าออก เธอพาน้องชายหนีจากจอมทัพทมิฬมาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า มีแต่สัตว์ป่าเป็นเพื่อน แต่ละวันคิดแต่เรื่องคุ้มครองน้องชายให้อยู่รอด ความคิดที่จะมีใครมาคุ้มครองเธอคือเรื่องฝันเพ้อ
และมังกร...เอเลียต เขาทำให้เธออบอุ่นใจอย่างไม่สมควรเลย
——————————————————————————————-
ปัจจุบัน
เด็กหนุ่มอายุราวสิบห้าปีผุดลุกขึ้นเมื่อเห็นเกวนโดลิน เขานั่งอยู่ทางขวาของราชามังกร—ของเอเลียต
“รากาลหรือ” เกวนโดลินประหลาดใจ เธอรับรู้ตัวจริงของเขาจากเสียงของจิตอันร่าเริง
เด็กหนุ่มยิ้มแป้น เขาคือมังกรที่เกวนโดลินเลี้ยงดูแทนมารดา เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเอเลียต เป็นเจ้าชายหนึ่งเดียวในราชวงศ์มังกรอันเก่าแก่
ตั้งแต่อดีตกาล มังกรเพศชายถือกำเนิดยากกว่ามังกรเพศหญิง ในอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งหมายถึงฝูงมังกรอย่างต่ำหนึ่งร้อยตัว อาจมีอยู่เพียงสิบถึงยี่สิบตัวเท่านั้นที่เป็นเพศชาย และอาจมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่แข็งแรงพอจะคุ้มครองอาณาจักรและสืบพันธุ์ได้ มังกรเพศชาย โดยเฉพาะองค์ชายมังกรที่สืบทอดสายเลือดแข็งแกร่งเข้มข้นของราชามังกร จะสำคัญเป็นพิเศษ
เกวนโดลินคิดว่ารากาลคือเด็กน้อยตัวเล็กๆ มาตลอด เพราะร่างมังกรของมังกรน้อยนั่งตักเธอได้พอดี เธอมักจะกอดเขา กล่อมเขานอนหลับ หอมแก้ม เล่าเรื่องภายนอกให้ฟัง ถึงเวลาก็พาไปอาบน้ำ ขัดถูเกล็ดอ่อนนุ่มจนสะอาดไปทั้งตัว
อยู่ๆ มาเห็นในสภาพเด็กหนุ่มเฉกนี้ ขนาดใบหน้าที่ปั้นให้เรียบเฉยยังเกิดอาการประหม่า
“ว่าอย่างไร กวินีเวียร์ เจ้าเพิ่งเคยพบรากาลในร่างมนุษย์ใช่หรือไม่”
เอเลียตยังคงเหมือนครั้งแรกที่เจอกันไม่มีผิด หนุ่มแน่น สุภาพ และเจ้าชู้ เขาเป็นผู้ใช้เวทเปลี่ยนโฉมให้มังกรทุกตนในที่นี้ เป็นพลังและสิทธิ์ที่ราชาเท่านั้นพึงมี
“เจ้าค่ะ” ดาร์กเอลฟ์ตอบ นับแต่ถูกจับตัวมาเป็นทาส เธอสำรวมตัวเอง
อาหารเริ่มทยอยมาทีละอย่าง เริ่มจากจานเรียกน้ำย่อย ไม่มีใครพูดคุยกัน มังกรสตรีไม่เหลือบมองดาร์กเอลฟ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ยกเว้นมังกรที่นั่งใกล้ราชาที่สุด—มารดาของรากาล ‘เดลฟีน’
เกวนโดลินนั่งนิ่ง ไม่แตะต้องอาหาร เหมือนเป็นรูปปั้นสวยงามที่ถูกนำมาวางประดับไว้เฉยๆ เธอทรมานทุกเมื่อยามต้องพบหน้าราชามังกร น้ำหนักของปลอกคอเหล็กหนักถ่วงคอ เหงื่อท่วมมือ
เอเลียตสังเกตเกวนโดลิน เขาชิมซุป ร้องอืมด้วยความพอใจ “รสชาติเป็นอย่างไร รากาล”
“อร่อย...พ่ะย่ะค่ะ” รากาลยิ้ม เจ้าชายเพิ่งเคยลิ้มรสอาหารแบบดาร์กเอลฟ์เป็นครั้งแรก “เกวนเล่าให้ลูกฟังบ่อยๆ เรื่องแดนทมิฬ ไม่นึกว่าจะได้ลองชิมอาหารจากฝั่งนั้น”
“พ่อเดาว่าลูกคงชอบเรื่องเกี่ยวกับอาหารเป็นพิเศษ...ลูกกำลังโต จะมีอะไรดีไปกว่าการกินของอร่อยจริงไหม”
เกวนโดลินฟังบทสนทนาไหลผ่านหู เธอรู้ดีว่าราชามังกรจงใจเรียกนามเก่าของเธอ เขากำลังข่มขู่ว่า ‘เจ้าไม่มีทางหนีจากชีวิตที่ละทิ้งมาพ้นหรอก’
“นกต่างหากพ่ะย่ะค่ะ ลูกชอบนก เกวนเป็นเพื่อนกับนกหลายตัว พวกมันมีเรื่องจากข้างนอกมาเล่าให้ฟังเสมอ” รากาลหันมาส่งยิ้มให้เกวนโดลิน
“ใช่...จ้ะ” เกวนโดลินตอบ มันยากเหลือเกินที่ต้องปั้นหน้านิ่งเฉย ไม่แสดงออกว่าเธอ ‘กลัว’ บิดาของเขาเหลือเกิน
เธอกลัวราชามังกรเล่าความจริง ว่าเธอเคยทำอะไรไว้บ้าง แล้ววันหนึ่งรากาลจะไม่ชอบเธอ เกวนรักรากาล มังกรน้อยเป็นแรงใจเพียงหนึ่งเดียวของเธอในสถานที่นี้
มังกรสตรีมักมีอารมณ์ฉุนเฉียวร้ายกาจและหวงตัวผู้ พวกนางอาจพลั้งมือทำอันตรายลูกมังกรแรกเกิด ลูกมังกรส่วนมากจึงถูกเลี้ยงดูโดยบรรดาทาสีแม่นมพี่เลี้ยงที่ถูกคัดเลือกมาโดยมารดามังกร
ทว่าเอเลียตไม่ขอความเห็นจากเดลฟีน อยู่ๆ ก็พาดาร์กเอลฟ์ตัวเมียกลับมา ให้เลี้ยงดูบุตรชายแสนสำคัญของนาง
“พวกเจ้าล่ะ ไม่มีความเห็นกับอาหารมื้อนี้หรือ” เอเลียตถามบรรดาภรรยาทั้งเก้า พวกนางเงียบเฉย คล้ายกำลังต่อต้านสามี ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าคือเรื่องอะไร
“เฮเลน ฟีโอนา...ไม่มีหรือ”
ไม่มีหรอก...แต่เพราะอยากเอาใจสามี จึงมีมังกรบางนางเริ่มพูด เมื่อสตรีเริ่มพูดจะเหมือนไฟลามทุ่ง บทสนทนาบนโต๊ะอาหารครึกครื้นขึ้นโดยมีราชาเอเลียต เดลฟีน และรากาลเป็นจุดศูนย์กลาง
เดลฟีนเอ่ยแสดงความดีใจ กอดและจูบบุตรชายที่ในที่สุดก็จะย้ายเข้ามาอยู่ในราชวังแล้ว นางทำเช่นดาร์กเอลฟ์ไร้ตัวตน
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครใส่ใจเธอ เกวนโดลินจึงลุกขึ้น เดินเลี่ยงออกไปนอกระเบียง ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
รากาลจะไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว เธอถูกเรียกมางานเลี้ยงเพื่อให้ทราบเรื่องนี้ ต่อไปเธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว...ยิ่งคิดเกวนก็ยิ่งเศร้าด้วยความคิดถึงน้องชาย
ดาร์กเอลฟ์สาวทรุดตัวลง ร้องไห้เงียบๆ
เทพีจันทร์ ถึงข้าจะเขียนจดหมายบอกน้องไปว่าข้าไม่เป็นไร แต่ที่จริงแล้วข้าอยากพบเขาใจจะขาด...ข้าอยากพบฮีมเดียร์—————————————————————————
A/N มันร้าว มันรันทดใจ แงๆๆ เมื่อก่อนก็เหมือนจะดีค่ะ แต่ไม่รู้มีอะไรเกิดขึ้น เกวนถึงพาโคลด์หนีไปที่ป้อมของเอลฟ์
ป.ล. 1 ได้เห็นรากาลในร่างมนุษย์แล้วจ้า ตอนแรกเราตกใจ ไม่นึกว่าคุณ FOULSOUL จะให้รากาลโตขนาดนี้ คือเราจิ้นว่าราลกาลเป็นเด็กน้อย 7-8 ขวบมาตลอด ;w;
ป.ล. 2 เกวนไม่กล้าอาบน้ำกับรากาลแล้ว /ปกติเวลาเกวนอาบน้ำจะพาลูกมังกรเข้าไปอาบด้วย เปลือยๆ เลยค่ะ...เพราะเกวนไม่คิดว่ารากาลจะมีร่างมนุษย์โตขนาดนี้...เราว่าป๊ะป๋าของรากาลจงใจแหงๆ ค่ะ (-*-) ชิชะ หวงกระทั่งกับลูกของตัวเองติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz