CHAPTER 4
" วันนี้อาการเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ท่านไอร่า"
ไอร่าลืมตาตื่นจากห้วงฝันแล้วหันไปทางต้นเสียง ก่อนจะต้องยกมือปิดตาเมื่อเห็นแสงสีขาวที่สาดส่องเข้ามาผ่านช่องหน้าต่างบานใหญ่ ลีเดีย..แม่นมของโครอส นางเป็นคนคอยดูแลเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ลีเดียเป็นคนใจดีอ่อนโยนเหมือนแม่นมของเขาตอนเด็ก แม้เขาจะรู้สึกขัดเขินในตอนแรก แต่เขาก็ยอมให้ลีเดียคอยเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาในระหว่างที่เขานอนซม ปกติแล้วลีเดียจะมาพร้อมเซรีน่า หลานสาวที่เกิดจากน้องสาวคนเล็กของอลัน
" ดีขึ้นมากแล้ว ต้องขอบคุณท่านมากที่ช่วยดูแลข้าจนหายดี"
" เป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้วเจ้าค่ะ เซรีน่า ส่งผ้าชุบน้ำให้ท่านไอร่าเช็ดหน้าสิ"
ไอร่ารับผ้าเนื้อดีจากเด็กสาวมาเช็ดใบหน้า ก่อนจะขอให้ลีเดียช่วยเตรียมน้ำสำหรับอาบน้ำ หลายวันมานี้เขาได้แต่เช็ดตัวเพราะมีไข้ ตอนนี้เขาหายดีจนเกือบเป็นปกติแล้ว จึงอยากชำระล้างร่างกายให้สะอาดบ้าง ลีเดียกับเซรีน่าขอตัวออกไปเตรียมน้ำให้เขา ระหว่างรออาบน้ำไอร่านึกถึงความฝันเมื่อก่อนรุ่งสาง เขาฝันถึงเหตุการณ์ที่ผ่านแล้วเมื่อครั้งวัยเยาว์
" ทำไมเสด็จแม่ถึงทรงชอบมองผืนป่าแห่งโบรเนียนักล่ะพะยะค่ะ"
" เพราะแม่คิดถึงป่าแห่งสายลมหนาว ..แต่คงไม่มีวันได้กลับไปยังผืนป่าแห่งนั้นได้อีก"
" ทำไมหรือพะย่ะค่ะ"
" นั่นเพราะหัวใจแม่ไม่ได้อยู่ที่ป่าแห่งนั้นแล้ว"
" หัวใจ? หัวใจของเสด็จแม่ก็ต้องทรงอยู่ที่เสด็จแม่สิพะยะค่ะ จะอยู่ที่ผืนป่าได้อย่างไร"
" หัวใจของมารดาเจ้าไม่ได้อยู่ผืนป่าอีกแล้วไอร่า แต่อยู่ที่ข้าต่างหาก"
" เสด็จพ่อ! ทรงกลับมาจากการตรวจตราเมืองแล้วหรือพะยะค่ะ"
" ไดโอเนียดวงใจข้า... ข้ากลับมาแล้ว"
สายพระเนตรของพระบิดาที่มองเสด็จแม่ในวันนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจเขา แม้จะมีผู้คนกล่าวหาว่าเสด็จแม่ทรงใช้มนต์ดำทำให้เสด็จพ่อลุ่มหลง แต่เขารู้ดี..สายพระเนตรของเสด็จพ่อไม่เคยเป็นเช่นนั้น ดวงตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักมากกว่าความลุ่มหลงอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
" ไอร่าลูกรัก ซักวันเจ้าจะพบผู้ที่มอบหัวใจรักให้เช่นกัน"
" ข้ามอบหัวใจให้เสด็จพ่อ เสด็จแม่ และไซธีเรียแล้วพะยะค่ะ"
" เมื่อเจ้าเติบใหญ่ขึ้นเจ้าจะเข้าใจ.. ไอร่าลูกรัก เจ้าจงเลือกผู้ที่จะมอบดวงใจให้ดี หัวใจของเจ้าสำคัญมากนัก ทั้งกับผู้ที่เจ้าจะมอบดวงใจให้และจะสำคัญต่อแดนเหนือเช่นกัน"แดนเหนือ..ดินแดนแห่งสายลมหนาวแต่ต่อให้มันหนาวเย็นและมีแต่หิมะปกคลุมเพียงใดก็ยังมีวันที่แสงแดดสาดส่องได้เช่นกัน
เขายืนมองฝูงชนกับเสด็จพ่อที่ระเบียงหน้าปราสาท วันนั้นเป็นที่มีแสงแดดอบอุ่นที่หาได้ยากในช่วงปลายฤดูหนาว..
" เสด็จแม่ตรัสว่า ซักวันลูกจะเป็นผู้นำฤดูใบไม้ผลิมาสู่ไซธีเรีย แต่ฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ในดินแดนนี้ได้หรือพะยะค่ะเสด็จพ่อ"
" ซักวันมันจะเป็นเช่นนั้นไอร่า หลังสิ้นสุดเหมันตฤดูที่เจ้าได้พบรักแท้ ดินแดนแห่งนี้จะมีฤดูใบไม้ผลิมาเยือนครั้งแรกเหมือนดั่งเช่นใจของเจ้า มันจะเป็นฤดูแห่งการถือกำเนิดครั้งแรกในไซธีเรีย ประชาชนของเราจะได้รับความสุขที่ลูกนำมามอบให้แก่พวกเขา ไอร่า เจ้าต้องรักษาหัวใจของตนไว้ให้ดี หัวใจของลูกจะเป็นตัวตัดสินว่า เจ้าจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ดินแดนนี้หรือจะเป็นผู้นำความหนาวเหน็บจากความตายมาสู่ไซธีเรีย"ตั้งแต่เด็กไอร่าเคยได้ยินคำทำนายนี้มาหลายครั้ง แต่ละครั้งจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละทัศนคติหรือความมุ่งหวังของแต่ละคน และแม้เนื้อความในคำทำนายจะมีมีสองทางคือ ทางหนึ่งเขาจะนำพาความสุขอันแสนรุ่งเรืองมาให้ ส่วนอีกทางคือเขาจะนำพาความทุกข์ที่หนักกว่าการเยือนขุมนรกมาสู่ไซธีเรีย แต่ผู้คนมักเลือกฟังสิ่งที่น่ายินดีเท่านั้น ดังนั้นเส้นทางที่ว่าเขาจะนำความทุกข์มาให้จึงถูกลบเลือนไป
ไอร่าคิดว่าตัวเขาตอนนี้ไม่น่าที่จะนำความสุขไปมอบให้แก่ใครได้ แม้จะไม่ได้มอบความทุกข์แต่ก็ไม่ได้มอบความสุขเช่นกัน เพราะเขายังต้องอยู่อย่างหลบซ่อน ต้องหลบหนีจากการตามล่าที่ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ แต่เขาเชื่อว่าถ้าเขาถูกไอเรสจับได้ เขาคงไม่มีวันได้ทำให้ใครมีความสุขได้อีก เพราะไอเรสคงทรมานเขาให้ตายทั้งเป็นก่อนจะฆ่าเขาให้ตายโดยที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์อื่นใดได้อีก นอกจากตอบสนองความสุขให้ไอเรสที่ได้จากการทรมานตัวเขาอย่างทารุณ
ไอร่าคิดอย่างเศร้าหมองใจเมื่อนึกถึงอนาคตอันไม่แน่นอน แต่แล้วความคิดของไอร่าก็ต้องหยุดลง เมื่อมีแมวสีดำตัวใหญ่กระโดดขึ้นมาบนเตียง แมวตัวนั้นจ้องมองเขาอย่างเพ่งพินิจและมันเดินเข้ามาใกล้โดยไม่ละสายตาออกจากใบหน้าเขา
" เจ้ามาได้ยังไง เจ้าแมวน้อย"
ไอร่ายิ้มให้เจ้าแมวน้อยที่มองเขาไม่วางตา ความจริงจะเรียกแมวน้อยก็ไม่ถูกซักเท่าไหร่ เพราะมันเป็นแมวแสงจันทร์สีดำตัวโตเต็มวัย มันตัวใหญ่เท่าเสือแต่ปราดเปรียวมากกว่า
เมี๊ยว เมี๊ยว~
เจ้าแมวใหญ่ทิ้งน้ำหนักลงบนตัวเขาทั้งตัวแล้วไซ้หัวถูใบหน้ากับตัวของไอร่าอย่างออดอ้อน ความจริงแล้วลิงซ์ตั้งใจจะแอบเข้ามาในห้องของไอร่าเพื่อที่จะจัดการกับของเล่นชิ้นใหม่ตามที่คนหาอาหารบอก มันไม่ชอบให้โครอสสนใจสิ่งอื่นหรือคนอื่น โครอสต้องเป็นเจ้านายของมันแต่เพียงผู้เดียว แต่เมื่อมันเข้ามาพบคนที่ถูกเรียกว่าของเล่นชิ้นใหม่ เพียงแค่เห็นหน้า.. มันก็รู้สึกถึงความอบอุ่นจากมนุษย์ผู้นี้ และเมื่อมองสบตากับดวงตาสีน้ำตาลคู่งาม มันก็ตัดสินใจมอบชีวิตให้ทันที คนงามของเจ้านายมีค่าควรแก่การปกป้องเช่นเดียวกับเจ้านายของมัน
" เจ้าช่วยลุกออกไปหน่อยได้ไหม ตัวข้าร้อนจนเหงื่อออกแล้ว"
ไอร่ายิ้มหวานให้เจ้าแมวดำอย่างเอ็นดู มันช่างน่ารักและว่าง่ายเพียงแค่เขาเอ่ยปากมันก็ทำตาม แต่ยังไม่วายนอนลงข้างๆให้เขาลูบคางให้
" เจ้าชื่ออะไรเจ้าแมวน้อย ขอดูที่ปลอกคอของเจ้าหน่อยนะ ลิงซ์...กลุ่มดาวบนฝากฟ้า เป็นชื่อที่เหมาะกับจ้ามาก"
ไอร่ากล่าวแล้วเกาคางให้ลิงซ์ที่ตอนนี้นอนหงายอย่างไม่เหลือศักดิ์ศรีแมวจอมหยิ่งทะนง มันจะหยิ่งทะนงไปทำไมในเมื่อมีคนงามมาคอยเอาใจแบบนี้ ไอร่ายิ้มขำให้กับท่าทางของลิงซ์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงของคนในปราสาทที่แสนจะใจร้ายนี้
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ไอร่าต้องรีบคว้าผ้าคลุมข้างเตียงมาคลุมไว้ แม้ว่าตอนนี้จะมีเพียงสตรีสูงวัยกับเด็กน้อยเข้ามาแต่เขาก็ไม่อยากประมาท
" ลีเดียเจ้าค่ะ"
ลิงซ์ที่ได้ยินเสียงคนนอก ก็พลิกตัวกลับมานอนหมอบอยู่ข้างไอร่าอย่างไว้ตัว มันเชิดหน้ามองประตูและนอนนิ่งเหมือนเสือที่พร้อมจะกระโจนใส่เหยื่อ
" ลิงซ์! มันทำอะไรท่านไอร่าหรือเปล่าเจ้าคะ!"
ลีเดียร้องอย่างตกใจที่เห็นลิงซ์อยู่บนที่นอน เจ้าแมวตัวแสบนี่คอยตามไล่กัดสัตว์เลี้ยงตัวอื่นของโครอสมานักต่อนักแล้ว คราวนี้ถ้ามันทำให้ท่านไอร่าเป็นรอยแม้แต่เล็กน้อย นางกับหลานสาวคงไม่มีหัวอยู่บนบ่าแน่
" ท่านอย่าตะโกนสิลีเดีย ลิงซ์ตกใจจะแย่แล้ว"
ลีเดียมองคนพูดแล้วมองลิงซ์ที่ทำท่าน้อยใจหันไปออดอ้อนคนที่นั่งอยู่บนเตียง ถ้าไม่กล้วว่าจะเป็นการเสียมารยาทนางก็อยากจะตะโกนร้องแล้วหัวใจวายซักครั้งที่เห็นลิงซ์ทำตัวสมแมวเป็นครั้งแรกแบบนี้ เมื่อลีเดียหายตกใจกับภาพที่หาดูได้ยากของลิงซ์ และมองจนแน่ใจแล้วว่าลิงซ์คงไม่ทำอะไรไอร่าแน่แล้ว นางจึงนำน้ำไปเทใส่อ่างน้ำหลังม่านกั้นเพื่อให้ไอร่าได้ล้างตัว
" พี่สาว ท่านทำยังไงลิงซ์ถึงได้เชื่อฟังเจ้าคะ"
ไอร่ามองเด็กหญิงที่ถามเขาเสียงใส เซรีน่าเป็นเด็กหญิงอายุแค่สิบปีหน้าตาน่ารัก นางจับจ้องเจ้าลิงซ์อย่างสนอกสนใจแต่คงดีกว่านี้ถ้าไม่เรียกเขาว่าพี่สาว
" เซรีน่าเจ้าอย่าเสียมารยาท ต้องเรียกว่าท่านไอร่า ขอประทานโทษด้วยนะเจ้าคะท่านไอร่า"
" ไม่เป็นไรหรอกลีเดีย เซรีน่า ข้าเป็นพี่ชายไม่ใช่พี่สาว ถ้าเจ้าอยากเรียกก็ควรเรียกข้าว่าพี่ชาย"
" ข้าไม่เคยเห็นพี่ชายที่ไหนงามเท่าท่านไอร่ามาก่อนเลยเจ้าค่ะ ขนาดเจ้าหญิงที่ปราสาทฝั่งตะวันตกยังงดงามไม่เท่าท่านเลยนะเจ้าค่ะ"
ไอร่าฟังเด็กน้อยเจื้อยแจ้วแล้วหนักใจ ..เจ้าหญิงปราสาทฝั่งตะวันตกอย่างนั้นเหรอ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่กษัตริย์แดนตะวันออกจะมีเจ้าหญิงและเหล่าสนมชายามากมาย เพราะเสด็จพ่อของเขาก็มีเช่นกัน แต่การที่เขาต้องเข้ามาอยู่ในปราสาทแห่งนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจะพาความเดือนร้อนมาสู่ตัวเขามากแค่ไหน ความริษยาของสตรีเป็นสิ่งที่น่ากลัวพอๆกับความลุ่มหลงของบุรุษ
" ท่านไอร่าอย่าได้ใส่ใจคำพูดของเซรีน่าเลยเจ้าค่ะ นางยังเด็กไม่ประสาดิฉันต้องขออภัยด้วย"
ไอร่ายิ้มบางให้ลีเดีย เขาพยายามปลอบใจตนเองว่าคงไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงไปมากกว่านี้ เพราะเขาจะรีบหาทางหนีออกไปจากปราสาทแห่งนี้ในโดยเร็ว ไอร่าเดินเข้าไปหลังม่านแล้วทำความสะอาดร่างกายจนเรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยปากขอรับอาหารที่ห้องอาหารด้านนอกแทนการทานในห้องนอน เขาควรจะต้องออกจากห้องนี้ได้แล้ว เขาต้องเริ่มหาลู่ทางในการออกจากที่แห่งนี้และทำการหลบหนีกลับเข้าผืนป่ามนตราอีกครั้ง
" เซรีน่า เจ้าจะยินดีแนะนำปราสาทให้ข้าฟังหน่อยได้ไหม ว่ามีที่ไหนน่าเดินเล่นบ้าง"
ไอร่าเลือกที่จะถามจากเซรีน่าเพราะคิดว่านางยังเด็ก คงสามรถบอกเล่าเรื่องที่ทางต่างๆให้เขาฟังได้โดยไม่สงสัยอะไรมาก
" ถ้าเจ้าอยากรู้จักปราสาทของข้า ก็ควรถามข้าผู้เป็นเจ้าของ แล้วข้าจะยินดีพาเจ้าไปชมปราสาทด้วยตนเอง"
ไอร่าหยุดเดินเมื่อได้ยินคำพูดเชิงรู้ทันของผู้เป็นเจ้าของปราสาท ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาพร้อมผู้ติดตาม อลัน..คนที่ลงมือสังหารสหายของเขา
" ข้าคงไม่รบกวนเวลาของผู้ที่เอาแต่เข่นฆ่าและช่วงชิงอิสระไปจากผู้อื่น ถ้าเจ้าว่างนักก็จงไปสวดภาวนาให้แก่ผู้ที่ต้องจบชีวิตลงด้วยมือของเจ้าเสียบ้าง จะได้ไม่ถูกเคียดแค้นจนมากเกินไปนัก"
" ข้าไม่ใส่ใจชีวิตที่ดับสูญไปแล้วหรอกนะ เพราะข้าจะขอใช้เวลาในการเอาใจสิ่งมีชีวิตที่แสนสวยงามตรงหน้าดีกว่า"
" เจ้ามันคนไร้จิตใจหรือยังไงถึงได้ไม่เห็นคุณค่าของชีวิตผู้อื่นแบบนี้"
โครอสมองแมวป่าที่เริ่มขู่ฟ่ออย่างพอใจ คนงามปากเก่งของเขาคงหายดีแล้วถึงได้เริ่มต่อปากต่อคำอย่างไม่กลัวเกรง แต่พอเขาเดินเข้าไปใกล้ อีกฝ่ายก็เดินถอยห่าง ช่างทำตัวสมเป็นลูกแมวที่เก่งแต่ขู่ฟ่อแต่ไม่กล้าเข้าใกล้ เห็นแล้วชวนให้น่ากลั่นแกล้งเสียจริง
" ข้าย่อมมีจิตใจแน่นอน แต่ถ้าเจ้าจะสอนให้ข้ารู้จักคุณค่าของชีวิต ข้าคงต้องขอความกรุณาจากเจ้าในการสอนสั่งข้าให้เป็นคนดีตามที่เจ้าต้องการ"
" ข้าไม่มีวันมอบความกรุณาและเสียเวลาเปล่าไปกับคนชั่วอย่างเจ้า"
อลันกับลีเดียมองตากันอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ลีเดียคิดว่านางไม่ควรไปแจ้งให้ฝ่าบาททรงทราบเลยว่าท่านไอร่าหายดีแล้วและจะทานอาหารที่ห้องอาหาร ก็ดูสิป่านนี้แล้วทั้งคู่ยังเดินไปได้ไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ ฝ่ายอลันก็ได้แต่นึกเหนื่อยใจที่พอนายของเขาได้ยินว่าคนที่นอนซมหายดี ก็ทิ้งงานตรงหน้าแล้วรีบเดินมาแหย่เจ้าแมวป่าให้ขนพองเล่น
" พระองค์ควรเสวยพระกระยาหารเช้าได้แล้วพะยะค่ะ ช่วงสายพระองค์ทรงมีประชุมกับคณะเสนาบดีฝ่ายการทหารนะพะยะค่ะ"
" ไปสั่งเปลี่ยนการประชุมเป็นวันพรุ่งนี้ วันนี้ข้าจะใช้เวลาเล่นกับเจ้าแมวป่า"
โครอสกล่าวแล้วสั่งให้อลันหาอาหารให้ลิงซ์ที่คอยเดินตามคนงามของเขาอย่างหวงแหน มันทำท่าไม่ยอมจากไปแต่เมื่อเสียงหวานบอกให้มันไปหาอาหารรองท้องก่อนมาเล่นกันใหม่ ลิงซ์ก็ยอมเดินตามอลันไปแต่โดยดี
" ข้านึกแปลกใจนักที่เมืองของเจ้ายังไม่ล่มสลาย ทั้งที่มีกษัตริย์เอาแต่ละทิ้งราชกิจแบบนี้"
" เมืองของข้าคงไม่ล่มสลายแต่ถ้าเป็นแดนเหนือก็คงไม่แน่"
โครอสพูดกับคนที่เริ่มปากดี การที่อีกฝ่ายเปรยขึ้นมาเหมือนไม่ใส่ใจ ทำให้เขาอย่างแกล้งคนตรงหน้าให้ร้อนรนบ้าง ฝ่ายไอร่าเองก็เริ่มแอะใจ คนผู้นี้จะกล่าวถึงแดนเหนือทำไม หรือจะรู้ว่าเขาเป็นเจ้าชายจากแดนเหนือ ไม่น่าใช่..อีกฝ่ายคงพิจารณาจากรูปลักษณ์ของเขามากกว่า
" ข้าไม่เห็นว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกับแดนเหนือ"
" เจ้าคงรู้ดีว่าทำไมข้าถึงได้พูดถึงดินแดนแถบเหนือจริงหรือไม่ องค์ชายไอร่า ไดแอน ไซธีรา"
คราวนี้ไอร่าตัวชาวาบ อีกฝ่ายรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นเจ้าชาย หรือตอนที่เขาไม่ได้สติได้เผลอหลุดปากอะไรออกไป
" ข้าว่าท่านดูเหมือนคนล้มทั้งยืนนะองค์ชายไอร่า อาจเป็นเพราะท่านยังไม่ทานอาหารเช้าให้ข้าช่วยอุ้มไปดีหรือไม่พะยะค่ะ"
" ไม่ต้อง! ข้ามีขาเดินไปเองได้"
ไอร่าบอกเจ้าคนที่ยียวนกวนประสาท ก่อนเรียกลีเดียให้เดินนำไปยังห้องอาหาร แม้จะยังกังวลใจกับคำพูดนั้นแต่เขาต้องใช้เวลาในการไตร่ตรองมากกว่านี้ การทุ่มเถียงโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสืบเรื่องของตนเองมามากแค่ไหนคงไม่ฉลาดนัก โครอสมองคนที่เดินหนีไปอย่างนึกขัน ก่อนออกเดินตามอย่างอารมณ์ดี
โครอสนั่งลงบนโต๊ะอาหารฝั่งตรงข้ามกับเจ้าแมวป่าที่ไม่ยอมถอดถ้าคลุมออกแม้ว่าเขาจะไล่คนนอกไปหมดแล้ว คนตรงหน้าระวังเรื่องการเปิดเผยใบหน้ามากและไม่ว่าเขาสอบถามยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอกเหตุผล และยังขู่ว่าถ้าเขายังไม่หยุดตั้งคำถามจะเอามีดกรีดหน้าตนเองเสีย ถ้ามันจะทำให้เขาหยุดซักถามได้
" ข้าจำได้ว่า ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าอย่าได้คิดทำร้ายร่างกายตนเอง"
" ไม่จำเป็นต้องใช้มีดข้าก็มีอีกหลายร้อยวิธีที่จะทำลายร่างกายนี้ให้เสียโฉม ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะยังกล้าเข้าใกล้ข้าอยู่อีกหรือไม่ ถ้าข้าหน้าตาอัปลักษณ์เสียโฉมไปทั้งตัว"
โครอสมองคนที่กล้าข่มขู่เขาด้วยความโกรธขึ้ง ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเขาขนาดนี้ต่อให้เป็นคนที่ถูกใจ เขาก็ต้องสั่งสอนอีกฝ่ายได้รู้จักความน่ากลัวของเขาบ้าง แต่แล้วความโกรธของโครอสก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นคนตรงหน้าพยายามฝืนกินอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ มือขาวเริ่มทานช้าลงแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดกิน ทั้งที่เขาเองก็วางมือจากอาหารไปได้ซักพักแล้ว
" เจ้าหิวมากรึไง ถึงได้ทานอาหารไม่หยุดมือ"
" ข้าไม่ใช่คนกินทิ้งกินขว้าง"
ไอร่าตอบแล้วพยายามกลืนเนื้อกระต่ายตรงหน้า เขากินจนอิ่มจุกแต่เพราะนิสัยที่ต้องทานอาหารให้หมดทำให้เขาเสียดาย กลางป่าเขาอาหารไม่ใช่สิ่งที่หากันได้โดยง่าย ยิ่งเป็นเนื้อสัตว์เขายิ่งไม่อยากเหลือทิ้ง สัตว์ใหญ่น้อยต้องสิ้นชีวิตลงเพื่อเป็นอาหารให้เขา เขาไม่อยากทำให้ชีวิตเหล่านั้นสูญเปล่า ทั้งแดนเหนือก็หนาวเย็น พืชผลออกดอกผลมาไม่มากอย่างแดนตะวันออก นั่นทำให้เขาต้องทานอาหารอย่างรู้ค่าและไม่ท้ิงเปล่าให้เสียของ
" อาหารบนโต๊ะก็เหมือนเครื่องประดับเจ้าไม่จำเป็นต้องทานจนหมด"
" ถ้ามันเป็นเหมือนเครื่องประดับ คราวหน้าเจ้าก็ควรทานเพชรพลอย ถ้าทานไม่หมดมันจะได้ไม่เน่าเสีย"
" ดินแดนข้ามีอาหารมากพอเลี้ยงผู้คนไปถึงสิบปี ข้าว่าคงไม่ต้องให้เจ้ามากังวลแทนในเรื่องนี้"
" มีได้ก็หมดได้ เจ้าไม่ควรประมาทกับเรื่องเล็กน้อย หากปีใดมีฝนแล้งติดต่อกันหรือมีพายุโหมพัด เจ้าจะไปหาเสบียงที่ไหนไปแจกจ่ายประชาชนในเมื่อเจ้าไม่รู้จักกักตุนเสบียงอาหาร"
โครอสยกยิ้มให้คนตรงหน้าอย่างพอใจ ความเป็นผู้นำยังคงไหลเวียนอยู่ในสายเลือดสีน้ำเงินอย่างเข้มข้น แม้เจ้าชายองค์นี้จะออกจากไซธีเรียมาแล้ว แต่ความห่วงใยในผู้คนยังคงฉายชัดจากคำพูด แต่คนงามของเขาจะมีดีอีกแค่ไหนเขาคงต้องคอยดู
" เลิกฝืนทานได้แล้ว อาหารที่เหลือข้าจะสั่งคนนำไปเป็นอาหารให้สัตว์เลี้ยง ส่วนผลไม้มันคงไม่เน่าเสียในวันนี้ ข้าจะให้นางกำนัลนำไปเก็บในครัว"
ไอร่ารับฟังแต่ยังไม่ยอมวางมือ เขาพยายามทานผลไม้อีกหน่อยจนโครอสต้องฉุดมือเขาให้เดินออกจากห้องก่อนที่เขาจะฝืนทานไปมากกว่านี้ ไอร่าพยายามบิดข้อมือออกแต่กลับถูกบีบกระชับแรงขึ้น เจ้าคนผู้มีนิสัยยังไงกันทำไมถึงชอบบังคับคนอื่นนัก
" ปล่อยมือข้าเดี๋ยวนี้! "
" ข้ากลัวว่าเจ้าจะหลงทาง ให้ข้าจับมือนำเจ้าไปดีกว่านะ"
" แค่เดินตามคงไม่ต้องใช้สมองมากนัก ปล่อยมือข้าได้แล้วเจ้าคนชั่ว"
" ถ้าเจ้ายังดื้อดึง ข้าจะใช้ปากของข้าปิดปากเจ้าซะ"
" เจ้า!!"
" และเจ้าควรให้เกียรติข้าที่เป็นกษัตริย์ ณ ดินแดนนี้ องค์ชายแห่งไซธีเรียไร้การศึกษาหรืออย่างไรกันถึงได้ไม่รู้จักคำว่ามารยาท"
ไอร่าเม้มปากแน่น ก่อนจะพยายามข่มความโกรธ ถ้าคนตรงหน้าให้ความน่าเคารพเหมือนเสด็จพ่อหรือกษัตริย์องค์อื่น เขาคงให้เกียรติไปแล้ว แต่จะให้อีกฝ่ายดูหมิ่นราชวงศ์ของเขาก็คงยอมไม่ได้ ไอร่าจึงต้องกลั้นใจกล่าวออกไป
" ต้องขออภัยด้วย แต่หากท่านประสงค์การให้เกียรติ ท่านควรมอบมันให้แก่ข้าเช่นกัน"
" ข้าย่อมให้เกียรติท่านแน่นอน คนงาม และจะให้เกียรติมากขึ้นถ้าท่านทำตัวอ่อนหวานว่าง่าย"
การเรียกบุรุษว่าคนงามเป็นการให้เกียรติตรงไหนกัน! ไอร่านึกอย่างเข่นเขี้ยวแต่แล้วเขาก็ต้องยอมเดินตามแต่โดยดี เมื่อเริ่มตกเป็นเป้าสายตาจากการทุ่มเถียงที่ไร้สาระ เจ้าของปราสาทเดินนำเขาไปถึงอุทยานหลวงสวยงามขนาดใหญ่ มันตกแต่งอย่างงดงามสมกับเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง เมื่อเดินเข้าไปถึงสวนส่วนกลางที่ทีสระน้ำใสและน้ำพุพวยพุงขึ้นมา ในที่สุดเจ้าคนเอาแต่ใจก็ยอมปล่อยมือเขาเสียที