……………………………….
หลังถวายอาหารเพลและรับศีลรับพรกรวดน้ำแล้ว คุณภัสสรก็เดินนำลงจากศาลาวัด ไม่ได้อยู่ร่วมทานอาหารกับคนที่มาทำบุญคนอื่น เพราะตั้งใจจะกลับไปเตรียมปาร์ตี้ให้เพื่อนของลูกชาย ทว่า…แม้จะรีบกลับ แต่คุณภัสสรก็ไม่ลืมจะสนใจหญิงชราที่หล่อนสนิทสนมด้วย ระหว่างที่เดินลงบันไดจึงกวาดตามองหาสามยายหลาน
“หาใครเหรอแม่” สหรัฐเอ่ยปากถามเมื่อเห็นมารดากวาดสายตามองไปทั่ว
“คุณยายน่ะสิ ขาแกไม่ค่อยดี แม่เลยว่าจะให้เสือไปส่งซะหน่อย แต่…คงกลับกันไปแล้วละมั้ง ไม่เห็นเลย” คุณภัสสรตัดใจเมื่อไม่เห็นทั้งหญิงชราและหลาน หล่อนกำลังจะเดินตรงไปยังลานวัดที่ใช้จอดรถ ทว่าเสียงดังมาจากข้างหลังซะก่อน
“เอ่อ…กลับไปก่อนเลยนะครับ” ประโยคนั้นทำเอาทั้งสหรัฐและมารดาต้องหันมอง คนพูดคือภูผาที่ทำหน้าตามึนๆ
“อ้าว มึงจะไปไหน” สหรัฐถาม ในขณะที่นภศรก็มองมาที่ภูผาอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก
“กู…มีธุระกับไอ้น้องนิดหน่อย” นภศรชะงัก เพราะเท่าที่จำได้เขาไม่มีธุระอะไรกับภูผาเลยสักนิด
สหรัฐเลิ่กคิ้วมองเพื่อนสองคนที่คนนึงทำหน้ามึนไม่สนใจโลก อีกคนทำหน้างงสงสัยหนัก เขากลั้นยิ้มแทบไม่ทันเมื่อคิดว่าวันนี้ดูท่าทาง ‘ไอ้ภู’ จะฉลาดอะไรขึ้นมาอีกแล้ว
“เฮ้ย!...มีธุระอะไรกับไอ้น้องวะ วันนี้วันเกิดมัน ธุระของมึงเอาไว้วันหลังได้มั้ย” สหรัฐแกล้งถาม
“ไม่ได้!!!” ภูผาร้องเสียงแข็งก่อนจะรู้สึกตัว ก็เลยต้องรีบแก้
“เอ่อ!...แบบ…แบบ…มันธุระด่วน…เอ่อ…แปบเดียวหน่า กูไม่เอาไอ้น้องไปนานหรอก มึงพาแม่กลับไปพักผ่อนที่บ้านเหอะ คุณแม่ดูท่าทางจะเหนื่อย…” ภูผาพยายามหาข้ออ้าง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงคิดจะทำอะไรบางอย่าง…คงเพราะเพิ่งมานึกออกว่าวันนี้วันเกิดมันล่ะมั้ง…เขามันทั้งโง่ ทั้งบื้อ วันเกิดเพื่อนสนิทก็เสือกลืมซะงั้น…แล้วมารู้เอาวันนี้ จะไปหาของขวัญอะไรได้ไง…
“แม่กูเนี่ยนะเหนื่อย? แม่กูขึ้นวัดบ่อยยิ่งกว่าไปทำงานอีก โอ๊ย! แม่…” ทันทีที่พูดออกไปแบบนั้นสหรัฐก็ได้รางวัลจากคุณแม่เป็นการบิดหูทันที
“เสือนี่นะ!... ภู งั้นเดี๋ยวแม่กับเสือกลับไปก่อน แล้วอย่าพาน้องไปไหนนานนะ เย็นนี้แม่จะจัดปาร์ตี้วันเกิดให้น้องรู้มั้ย…” สหรัฐเบ้หน้ากับประโยคสุดท้ายของแม่ ดูเหมือนแม่เขาจะหลงใหลได้ปลื้มกับ ‘ไอ้น้อง’ ยิ่งกว่าสิ่งใด ขนาดวันเกิดไอ้น้อง แม่เขายังเป็นตัวตั้งตัวตีจัดปาร์ตี้ให้เลย!!
“ครับแม่ ไปแปบเดียวครับ” ภูผารับคำหนักแน่น เขามองสองแม่ลูกขึ้นรถและขับออกไป จนลับสายตา นภศรถึงได้หันมามอง
“มีธุระอะไรกับกูเหรอ” ภูผาหันมามองคนถามแล้วยักไหล่
“เดี๋ยวก็รู้หน่า เฮ้ยๆ…” แล้วภูผาก็วิ่งเข้าไปหาเด็กวัดคนนึงที่วิ่งอยู่ในลานแถวนั้น ร่างสูงถามอะไรบางอย่างจนเจ้าหนูนั่นชี้ไม้ชี้มือ บอกทิศทาง ถึงได้กลับมาหานภศรที่ยังยืนงง
“มาทางนี้” แล้วภูผาก็ออกเดินนำโดยไม่หันมามองคนที่เขาชวนเลยแม้แต่นิดเดียว
……………………
ภูผาหยุดที่หน้ากุฏิหลังหนึ่ง เขาชะเง้อคอมองขึ้นไปก่อนจะส่งเสียงเรียก
“หลวงพ่อครับ หลวงพ่อ…” แปบเดียว ภิกษุชราก็เดินออกมา
“มีอะไรหรือโยม ขึ้นมาข้างบนสิ” ท่านเอ่ยจากเฉลียง ภูผาเลยรีบก้าวขาขึ้นบันไดหน้ากุฏิ ทว่า…ใครบางคนที่เดินตามเขามาตั้งแต่แรกดันไม่ยอมก้าวขาขึ้นตาม ร่างสูงหันลงไปมองแล้วกวักมือเรียก
“ขึ้นมาดิน้อง ยืนเป็นคุณชายอยู่ได้…” นภศรไม่เข้าใจว่าธุระของมันคืออะไร ทำไมอยู่ดีๆถึงมาหาหลวงพ่อ แต่ก็ยอมก้าวขาขึ้นตาม และทันทีที่นั่งพับเพียบข้างภูผาอยู่ที่เฉลียง ร่างสูงข้างกายก็เอ่ยปากขึ้นมาทันที
“ผมจะมาขอหลวงพ่อให้รับสังฆทานน่ะครับ” นภศรหันมองคนพูดที่ปากว่าจะถวายสังฆทานแต่เขาไม่เห็นมันจะถือถังสังฆทานมาด้วยเลย
“…แต่ผมขอเปลี่ยนจากถังเป็นเงินแทนได้มั้ยครับ พอดีผมไม่มีถังสังฆทาน” แล้วภูผาก็ควักกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาหยิบธนบัตรออกมาวางตรงหน้า
“โยม…ไม่มีซองใส่เลยหรือ” พลวงพ่อถาม
“ไม่มีครับ ผมไม่เคยมาที่นี่ เลยไม่รู้ว่าต้องไปซื้อหาอะไรที่ไหน หลวงพ่อช่วยรับหน่อยนะครับ ผมอยากถวายสังฆทานจริงๆ” เมื่อเห็นความตั้งใจจริงของพุทธศาสนิกชนอย่างภูผา หลวงพ่อเลยยอมพยักหน้ารับ
เสียงสวดถวายสังฆทานดังขึ้น นภศรแม้จะสงสัยแต่ก็ยอมเอ่ยปากไปด้วย ไหนๆก็หลวมตัวมากับไอ้เกรียนภูผาแล้ว จะนั่งบื้อไม่อ้าปากก็ใช่ที่
ภิกษุชราสวดมนต์รับสังฆทาน ก่อนจะพยักพเยิดไปที่เงิน
“โยมเอาไปหยอดในตู้บริจาคที่ศาลานะ…แล้วนี่ กรวดน้ำเสีย” หลวงพ่อท่านเลื่อนภาชนะสำหรับกรวดน้ำมาให้ ภูผาจึงหันไปมองนภศร
“เจ้าของวันเกิด กรวดน้ำสิ” เขาว่าอย่างนั้น นภศรจึงเอื้อมมือไปจัดการ ภูผาพนมมือ ขณะมองมือขาวค่อยๆรินน้ำใสลงใส่ถ้วย
เขาอธิษฐานขอให้มันมีแต่ความสุข ขอให้มันยิ้มด้วยหัวใจที่เต็มตื้น ขอให้มันหัวเราะออกมาจากหัวใจที่ร่าเริง ขอให้มันแข็งแรง ไปไหนมาไหนก็ปลอดภัย ไม่มีอะไรมาเบียดเบียน ขอให้มันทำอะไรก็สำเร็จสมกับที่มันเป็นคนตั้งใจจริง
และที่สำคัญ…เขาขอให้มันอยู่กับเขา อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป…
เสียงสวดมนต์เงียบลงไปแล้ว ขณะที่นภศรปิดฝาขวด เขาพนมมือกราบพระ พร้อมๆกับภูผา
“เอาไปเทใต้ต้นไม้ใหญ่นะ” หลวงพ่อพูด
“ครับ หลวงพ่อ…เอ่อ…หลวงพ่อช่วยให้พรหน่อยนะได้มั้ยครับ พอดีวันนี้วันเกิดเพื่อนผม เอาพรแบบจัดหนักเลยนะครับ มันยังไม่จบมหา’ลัย แต่ชอบทำหน้าเหมือนเข้าเบญจเพส เขาว่าช่วงเบญจเพสจะเกิดเรื่องไม่ค่อยดี ถ้ายังไง หลวงพ่อให้พรแบบอายุมั่นขวัญยืนอะไรอย่างงี้ก็ได้ครับ” นภศรอยากจะชกสักเปรี้ยง ไม่งั้นก็ด่าเอาไอ้ภูหูตึง แต่ติดที่ว่าอยู่ในวัดและอยู่ต่อหน้าพระภิกษุ เขาก็เลยได้แต่คาดโทษเอาไว้ในใจ
…ออกจากวัดนะมึง!! ไอ้ภู!!!!!...
“พรที่ประเสริฐที่สุดคือความรักและความหวังดีจากคนรอบข้าง…อาตมาขอให้โยมได้รับพรนั้นตลอดไป…” นภศรได้แต่ยกมือไหว้รับ เมื่อพระชราหันมากล่าวกับเขา
“โยม…คิดจะบวชไหม” และคำถามต่อมา ก็ทำเอานภศรต้องเงยหน้ามอง หลวงพ่อยังคงจ้องมาที่เขาราวกับรอคำตอบ
“ตั้งใจว่าจะบวชหลังจากเรียนจบครับ” จริงๆแล้วบ้านเขาเป็นคนจีน ไม่มีธรรมเนียมบวชทดแทนบุญคุณ แต่นภศรตั้งใจจะบวชให้มารดาที่จากไป และบวชให้ป๊ากับเฮีย…ผู้ชายสองคนที่เป็นทุกอย่างของเขา…และที่สำคัญ…เขาอยากบวช…เพื่ออย่างน้อย ก็จะได้ขออโหสิจากภูผา…ที่เขาคิดกับมันอย่างไม่บริสุทธิ์ใจมาตลอด
“ดี…จะได้มีเวลาสงบจิตสงบใจ”
“เพื่อนผมมันมีเรื่องไม่สบายใจหรือครับ หลวงพ่อ ผมเป็นเพื่อนมันมาตั้งนาน ไม่เห็นรู้เลยว่ามันมีเรื่องในใจ” ภูผาถามขึ้นทันควัน หลวงพ่อหันมาทางคนถามแล้วยิ้มบาง
“ปุถุชนทุกคนล้วนมีเรื่องในใจทั้งนั้น เพียงแต่ว่า…บางคนรู้ใจตัวเอง และอีกหลายคน…ไม่รู้…”
เมื่อสายตาของหลวงพ่อจับจ้องมาที่ภูผา ร่างสูงก็ได้แต่เลิกคิ้วแล้วถามตัวเองว่าเขามีเรื่องในใจงั้นหรือ?
...ทว่าคำตอบที่ได้คือ…ไม่มี…เขาไม่มีเรื่องเครียดเรื่องไม่สบายใจอะไร ชีวิตทุกวันนี้ลงล็อกเป๊ะๆ มีสาวๆควงไปนั่นมานี่เรียกความกระชุ่มกระชวย มีเพื่อนสนิทที่ไปไหนมาไหนมองตากันก็รู้ใจ และที่สำคัญ…ไม่มีสอบเหอะ!! อย่างงี้เขาเรียกว่าช่วงชีวิตบรรเจิด!!!
“เอาน้ำไปรดใต้ต้นไม้เถอะ จะได้กลับกัน เดี๋ยวแม่ไอ้เสือรอ” นภศรหันมาบอกกับคนข้างกาย ภูผาพยักหน้ารับ ก่อนที่พวกเขาจะเอาน้ำที่กรวดแล้วไปรดใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วกลับมาคืนถ้วยให้แก่หลวงพ่อแล้วจึงลาจากมา
…………………………
สองร่างเดินเคียงข้างลัดเลาะไปตามเส้นทางใต้ต้นไม้ร่มรื่น ความสงบของวัดทำให้ใจผ่องแผ้ว จนเหมือนสามารถสูดลมหายใจเข้าปอดได้มากกว่าเคย นภศรหลับตาลงขณะก้าวขาช้าๆ แล้วสูดอากาศลึกๆ ภูผาหันมองแล้วยิ้มบาง
“สุขสันต์วันเกิด” แล้วประโยคนั้นของร่างสูงก็ทำเอาคนกำลังดื่มด่ำกับความสงบถึงกับหายใจสะดุด นภศรลืมตาขึ้นมาทันที เขาหันมองคนที่กำลังเดินข้างๆและส่งยิ้มมาให้
…จริงด้วย…เมื่อกี้มันก็ขอให้หลวงพ่อให้พรเขา เพราะวันนี้เป็นวันเกิดเขา…
…หรือที่มันพาเขามาถวาย ‘สังฆทาน’ ที่ไม่มีแม้แต่ถังสังฆทานจะเป็นเพราะมันจะ… ‘ฉลองวันเกิด’ ให้อย่างนั้นหรือ…
พอถูกนภศรจ้องมากๆเข้า ภูผาก็ได้แต่ยกมือเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ
“กูลืมอ่ะนะว่าวันนี้วันเกิดมึง เพิ่งมานึกออกเมื่อกี้ตอนที่แม่ไอ้เสือพูด กูไม่มีของขวัญให้ ก็เลย…คิดว่าพามึงมาถวายสังฆทานดีกว่า แล้ว…เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปซื้อของขวัญมาให้แล้วกัน” นภศรหัวเราะเบาๆกับคำพูดของภูผาที่จะว่าซื่อก็ซื่อ จะเกรียนก็เกรียน
“พรุ่งนี้จะเอาของขวัญมาให้กูทำไม วันนี้วันเกิดกู พรุ่งนี้ไม่ใช่” ภูผาทำหน้าปั้นยาก
“อ่า…มึง…อย่างอแงดิวะ กูพามาถวายสังฆทานแล้วไง ของขวัญมึง กูติดไว้ก่อนดิ”
“ขอบใจ…แต่แค่มึงพากูไปถวายสังฆทานทั้งๆที่ไม่มีแม้แต่ถังจะถวาย กูก็ดีใจมากแล้ว ของขวัญอะไรนั่นไม่จำเป็นหรอก”
“เอาจริงอ่ะ ไม่ต้องเอาของขวัญก็ได้เหรอวะ?”
จริงๆแล้วภูผาก็ไม่เคยให้ของขวัญวันเกิดเพื่อนผู้ชาย ถ้าให้แบบขำๆไม่จริงจังก็เคยสมัยมัธยม รวมกลุ่มออกเงินซื้อของสิ้นคิดประเภท ผ้าขาวม้า ขันน้ำ หรือแม้แต่ธูปเทียนให้เป็นของขวัญเพื่อนสนิทๆอยู่หรอก…แต่…เขาจะซื้อผ้าขาวม้า ขันน้ำ หรือธูปเทียนให้คนอย่าง ‘นภศร อาชาอาจ’ ที่มีป๊าเป็นเจ้าพ่อได้มั้ย? คำตอบก็คือไม่ด้ายยย…เดี๋ยวป๊ามันส่งคนมาเป่า ชีวิตเขาก็จบดิวะ!
“เออ ไม่ต้องหรอก”
“ดี กูได้ไม่เปลือง” ภูผาว่าอย่างนั้นแล้วยักคิ้ว
“หน้าอย่างมึงรู้จักกับคำว่าเปลืองด้วยเหรอ” นภศรตบหัวไอ้คนข้างกายอย่างหมั่นไส้
“โฮย ดูถูก! รู้จักดิ! อย่างน้อยกูก็สะกดถูกเว้ย!” ภูผายังมีหน้าอวดความสามารถของตัวเอง ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่ศาลาวัดเพื่อนำเงินที่ถวายสังฆทานไปหย่อนใส่ตู้
นภศรมองตามหลังเพื่อนรัก รอยยิ้มบางจุดอยู่ที่มุมปากอย่างมีความสุข
…เขารู้ว่าเขาบาป ที่เอาความใจดีของภูผามาเยียวยาหัวใจอันแห้งผาดของตัวเอง…แต่เพราะความใจดีของภูผา ถึงทำให้เขายังทนยืนข้างมันไหว…ยังสามารถหายใจร่วมกับมันในฐานะเพื่อนสนิทได้…
…เพราะความใจดีของภูผา…เขาถึงได้รักมัน…
“ยืนบื้ออะไรอยู่ เสือกยืนตากแดดอีก ไม่สบายขึ้นมาป๊ามึงเอาเรื่องกู กูตายนะเว้ย!” เสียงดุอย่างไม่จริงจังนักดังขึ้น ทำเอานภศรตื่นจากภวังค์หันมองคนที่ควรจะเดินขึ้นศาลาไปแล้ว แต่กลับมายืนอยู่ข้างเขานี่
“ไปๆ เอาตังค์ไปหยอดตู้…” แล้วมือหนาก็คว้าข้อมือเขาลากไปที่ศาลา นภศรนิ่งไปกับความอุ่นร้อนที่ข้อมือแต่ก็ก้าวขาเดินตาม
…แผ่นหลังกว้างของคนที่เดินนำอยู่เบื้องหน้าสะท้อนอยู่ในสายตา…
ไม่ว่าจากนี้ไปอีกกี่สิบปี ต่อให้ทั้งเขาและมันจะเป็นได้แค่เพื่อนกัน แต่เขาก็ขอ…ขอให้ผลบุญใดๆก็ตามที่เขาทำ ส่งไปถึงภูผาให้มันมีชีวิตยืนยาว ให้มีแต่ความสุข ให้มีแต่ความสมหวัง ถ้ามันแต่งงานมีครอบครัว ก็ขอให้ครอบครัวมันอบอุ่น ถ้ามันมีลูกก็ขอให้ลูกมันน่ารัก เลี้ยงง่าย นิสัยดี ขอให้มันพบพานแต่คนดีๆจากนี้ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
…แล้วเขา…จะเป็น ‘เพื่อน’ ที่ดีของมันตลอดไป…
………………………..
งานปาร์ตี้ที่คุณนายภัสสรจัดให้เพื่อนลูกชายนั้นถูกสหรัฐเรียกลับหลังว่าเป็น ‘ปาร์ตี้สุขภาพดี’ เพราะอาหารในงานไม่ต้องมองหาเหล้ายาปลาปิ้งให้เมื่อยลูกตา เนื่องจากมีแต่สลัด ปลากะพงนึ่ง ปลาจาระเม็ดนึ่ง ปลาอะไรอีกไม่รู้ที่เอามานึ่งเรียกได้ว่านึ่งกันแทบหมดทะเล แล้วยังมียำวุ้นเส้นที่หัวหอมโคตรเยอะ ส่วนเค้ก…อย่าหวังว่าจะมี เนื่องจากคุณภัสสรกลัวหุ่นของเพื่อนลูกชายจะไม่ดี ก็เลยไม่สั่งเค้กมา และที่สำคัญ…มีน้ำผักผลไม้รวมเอาไว้เชี้ยส!!!!
“หมดวันนี้ไป หน้ากูท่าทางจะเขียวว่ะ” สหรัฐหันไปบ่นกับภูผาหลังจากกลับขึ้นมาบนห้องนอนเมื่อปาร์ตี้เลิก
“เมื่อกี้กูไปฉี่ ฉี่กูยังสีเขียวเลย” ภูผาเสริม ยามคิดถึงน้ำผักผลไม้ที่ตัวเองดื่มตลอดงาน แม้รสชาติมันจะเข้าท่า แต่…ความเขียวของมันนั้น เกินกว่าจะเรียกว่าถูกใจ…
“แล้วนี่ไอ้น้องไปไหนแล้ว” สหรัฐถามอีก
“ไปส่งป๊ากับเฮียที่หน้าบ้าน” ปาร์ตี้เลิกตั้งแต่ยังไม่สองทุ่ม และสองแขกรับเชิญที่มาร่วมงานคือป๊าและเฮียของนภศรก็จะกลับต่างจังหวัดกันเลย
สหรัฐพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอนหลังลงนอนแผ่บนเตียง ภูผาเหลือบมองเพื่อน เห็นว่าในห้องมีกันแค่เขากับมันนับว่าเป็นโอกาสเหมาะในการถามเป็นอย่างยิ่ง
“เสือ”
“หือ…” มันหลับตาไปแล้วแต่ก็ยังขานรับเขา
“…เอ่อ…มึง…มึงให้อะไรไอ้น้องวะ” ของขวัญจากทุกคนยกเว้นของภูผาอยู่ที่นภศรหมดแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่ได้แกะ แต่ภูผาก็ทนความอยากรู้ไม่ไหวต้องมาแอบถามกับเพื่อน เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องอยากรู้แค่ว่าสหรัฐให้อะไร ทีของคุณภัสสร ของป๊า หรือของเฮีย เขายังไม่เห็นอยากจะรู้เลยว่าให้อะไร
สหรัฐลืมตามอง แล้วยักคิ้ว
“แหวนหมั้น”
“เฮ้ย!”
“มึงไม่ได้ให้อะไรมันนี่หว่า…กะจะหาของที่ดีกว่ากูล่ะสิ” สหรัฐถามเยาะๆ แต่ภูผาเงียบกริบไม่ยอมพูด
“กูแนะนำให้มั้ย ว่าจะให้อะไรไอ้น้องดี…รับรองว่าดีกว่าของขวัญกูแน่นอน” ภูผาคิดเสมอว่าสหรัฐคือเพื่อน แต่วันนี้...ณ ตอนนี้...เขากลับรู้สึกว่าสหรัฐคือคู่แข่ง...แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพยายามแข่งอะไรกับสหรัฐ
“อะไร” ภูผาถามแต่หน้าตาทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆที่ตั้งใจฟังจนแทบลืมหายใจ
“ก็…”
“…..”
“ก็…”
“…..”
“…ใจมึงไง…” คนฟังหันขวับมองคนพูดทันที สหรัฐยักคิ้ว
“ให้ใจเพื่อน…ดีกว่าของขวัญราคาแพงเป็นไหนๆ หรือมึงว่าไม่จริง” เขาว่าอย่างนั้นแล้วลุกจากเตียงเดินไปหยิบกีต้าร์โปร่งที่วางอยู่มุมห้อง ก่อนจะเดินกลับมายัดใส่มือภูผาที่ยังนั่งหน้ามึน
“แค่เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ มึงคงเล่นได้ใช่มั้ย” สหรัฐแนะกลายๆแล้วเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำ ทิ้งเพื่อนรักให้นั่งอยู่แบบนั้นนานไปอีกหลายนาที
………………………….
นภศรหมุนตัวจะกลับเข้าบ้าน หลังจากส่งบิดาและพี่ชายขึ้นรถไปแล้ว ทว่ายังไม่ทันจะเดินขึ้นบันได ใครบางคนก็เดินลงมาพร้อมกับกีต้าร์โปร่งเสียก่อน
“มึงจะไปไหนน่ะ” เขาถามตอนที่ภูผาเหยียบบันไดขั้นสุดท้ายพอดี
“ไปดีดกีต้าร์”
“หือ อะไรนะ?”
“มากับกูแล้วกัน” ภูผาไม่ได้ดึงแขน แต่หมุนตัวออกเดินนำไปยังหลังบ้านที่ไม่มีใคร นภศรเดินตามจะเรียกเอาไว้เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมภูผาถึงมาอารมณ์เปลี่ยวคิดจะเล่นกีต้าร์เอาตอนกลางคืนแบบนี้
“ภู…เอ่อ…”
“กูเล่นได้ไม่กี่เพลง เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ก็ไม่รู้ว่าคอร์ดจะมั่วรึเปล่า…เอ่อ…ถ้า…ถ้ามึงทนฟังได้จนจบ กูก็…ก็…” ภูผาเอ่ยปากทั้งๆที่ยังเดินนำอยู่ข้างหน้าและไม่ยอมหันมองคนที่เดินตามหลัง
นภศรมองแผ่นหลังคนพูด จากความสงสัยในตอนแรกกลายเป็นความอิ่มเอิบแผ่ซ่านไปทั้งหัวใจ
“มั่วก็ไม่เห็นเป็นไรนี่…” เขาเอ่ยปากไปแบบนั้น ทำเอาภูผาต้องหันกลับมามอง นภศรยิ้มให้
“มึงตั้งใจดีดไม่ใช่เหรอ ต่อให้ผิดตั้งแต่โน้ตตัวแรกยันตัวสุดท้าย…กูก็ดีใจที่ได้ฟัง…” ภูผานิ่งงันก่อนจะกลายเป็นยิ้มกว้าง เขาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ม้าหิน นภศรก็ตามไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย
แล้วจากนั้น…เสียงกีต้าร์ก็ดังขึ้น โน้ตแต่ละตัวลอยอยู่ในอากาศขับขานเป็นบทเพลงแทนของขวัญที่หาไม่ได้จากที่ไหน…
บนชั้นสองของบ้าน สหรัฐยืนพิงกรอบหน้าต่างแล้วยิ้มบางอย่างมีความสุข เสียงกีต้าร์แผ่วเบาลอยเข้าหูเขา เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์…เพลงที่ไอ้โง่ภูผาให้ไอ้น้องเป็นของขวัญวันเกิด…คนรับคงตื้นตันจนลืมไม่ลง แต่คนให้เนี่ยสิ…มันจะรู้ตัวบ้างมั้ยว่ามันไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้ใคร…
…และนับจากนี้ไป สหรัฐมั่นใจเสียด้วยซ้ำว่ามันก็จะไม่ทำแบบนี้ให้ใครอีก…เขาเชื่อว่าสำหรับภูผา ไอ้น้องคือคนพิเศษ เป็นเพื่อนที่พิเศษยิ่งกว่าใคร…
…น่าเสียดายที่มันไม่รู้ใจตัวเอง…น่าเสียดายที่เขากระตุ้นเท่าไหร่มันก็มองตัวเองไม่ออก…ภูผาซื่อและบื้อ แต่ในความซื่อบื้อของมันคือความจริงใจ มันรู้สึกแบบไหนมันก็แสดงออกแบบนั้น แม้ในการแสดงออกหลายครั้งจะต้องมีข้ออ้างโง่ๆนำเสนอมาด้วยก็เถอะ…
…มันจะเหนื่อยบ้างมั้ยที่ต้องคอยหาข้ออ้างให้ตัวเอง…สหรัฐเคยอยากถาม แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ถาม เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองหาข้ออ้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าในการทำอะไรสักอย่างเพื่อนภศร…
เสียงกีต้าร์เงียบไป ทำเอาสหรัฐตื่นจากภวังค์ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย มั่นใจว่าเพลงยังไม่จบ แต่…ทำไมเสียงกีต้าร์ไม่มีแล้วล่ะ…
“เอ่อ…กู…กูว่ากูลืมแล้วว่ะ…มันเล่นยังไงต่อวะ” ไอ้คนดีดกีต้าร์เงยหน้าถามคนฟัง ขยับนิ้วสองสามทีได้ยินเสียงตะแน๊วๆไม่เป็นเพลงก็ตัดใจล้มเลิกแล้วเสนอใหม่
“…เอ่อ…ถ้ายังไง มึงเอาเพลงช้างแทนได้มั้ย”
แล้วบรรยากาศดีๆก็มลายหายวับ สหรัฐยิ้มค้างพอๆกับที่เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ค้างเติ่ง เขาเหลือบตาลงไปมองไอ้คนดีดกีต้าร์ในสนามหญ้าหลังบ้านแล้วนึกเข่นเขี้ยวไอ้เพื่อนโง่บรรลัยที่โชว์พาวครึ่งๆกลางๆแล้วเสือกทำตัวเกรียนตบท้ายขอเปลี่ยนเพลงกลางอากาศ
…ให้มันได้อย่างงี้สิวะ!...
…กะอีแค่เพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ยังไม่มีความสามารถดีดให้จบ ถ้าอย่างนั้นกูก็ไม่หวังให้มึงรู้ใจตัวเองแล้วล่ะ!! ไอ้ปัญญาเต้าหู้!!!!!...
FIN
ภูน้อง (แอนด์พี่เสือน้องแยมเล็กๆ) ส่งท้ายปีกระต่าย อิอิ
ขอบคุณพื้นที่บอร์ด ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ และทุกกำลังใจ
ขอบคุณความคิดถึงที่มีให้บัว ให้งานของบัว และให้ตัวละครของบัวนะคะ ขอบคุณมากๆสำหรับปีนี้
ส่วนปีหน้า…ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ (พูดเหมือนมีนิยายจะลง ทั้งๆที่จริงๆแล้วยังไม่ได้เริ่มพิมพ์เลย กร๊ากกกก )
HAPPY NEW YEAR 2012 ล่วงหน้าค่ะ