ตอนที่ 26
ก็แค่เกมเกมหนึ่ง
“เร็วๆสิวะไอ้ตาม มึงขาสั้นหรือมึงคลานกันแน่วะเนี่ย!”
ผมตะโกนเร่งเพื่อนสนิทตัวดีที่เดินตามหลังมาอย่างอ้อยอิ่ง
“โห ไอ้เหี้ย! มึงได้สิวะ มีแค่ตุ๊กตา แต่กูนี่! หอบดอกไม้มาทั้งสวนจนแทบจะมองไม่เห็นทางอยู่แล้ว จะให้เดินไวได้ยังไงล่ะเว้ย”
“มึงควรเน้นด้วยว่าตุ๊กตาที่อยู่บนหลังกูตอนนี้คือตุ๊กตานกกระจอกเทศขนาดเท่าของจริง สัตว์โลกน่ารักตัวโปรดของน้ำ!”
ใช่แล้ว เพื่อเซอร์ไพรส์น้ำ ผมเลยสั่งทำตุ๊กตานกกระจอกเทศขนาดเท่าของจริงแล้วเอาแบกขึ้นหลังมาเพื่อจะมอบให้น้ำในวันนี้ไม่ว่าเธอจะได้ตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม โดยที่ผมได้ทำการปลอมตัวใส่วิกผมสั้นปกปิดผมยาวของตัวเองก่อนจะสวมแว่นกรอบดำให้ดูท่าทางเอ๋อๆเปลี่ยนลุกต์ตัวเอง
“ขอโทษนะครับ ห้องที่จัดการประกวดครั้งสุดท้ายวันนี้ไปทางไหนเหรอครับ”
“อ๋อ ขึ้นไปชั้นสามแล้วเลี้ยวซ้ายสุดทางเดินเลยค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ ไปเร็วไอ้ตาม!”
ผมเร่งเพื่อนรักอีกครั้ง
วันนี้ผมยังไม่ได้เจอไอ้หน้าหนวดเลยตั้งแต่เช้า ไม่แม้จะได้คุยโทรศัพท์กันเพราะทางนั้นเองก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการเป็นกรรมการครั้งสุดท้ายด้วย หลังเสร็จงานประกวดจะได้เจอกันไหมนะ คิดถึงนิดๆแล้วแฮะ
“คนเยอะว่ะ นี่มาดูการประกวดหรือมาฟังประกาศล็อตเตอรี่เนี่ย”
“มึงก็ช่างเปรียบนะ”
ผมว่า เราสองคนช่วยกันเบียดเสียดยัดเยียดตัวเองเข้าไปด้านในเพื่อดูการประกาศผลรอบสำคัญอย่างใกล้ชิด
“กูว่ามึงจะแทรกกายผ่านชาวบ้านชาวช่องเข้าไปง่ายกว่านี้ถ้าไม่มีนกกระจอกเทศอยู่บนหลังนะ”
“ไม่ได้เว้ย! กูจะเอาไว้เซอร์ไพรส์น้ำ”
“เขาเห็นกันทั้งบางแล้วเหอะ มันเซอร์ไพรส์ตรงไหนวะ”
ผมขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดกับมันเลยออกเดินต่อจนสามารถทะลวงเข้าไปถึงหน้าเวทีได้ในที่สุด ต้องขอบคุณไอ้นกกระจอกเทศบนหลังผมที่ทำให้คนอื่นๆพากันตกใจเลยแหวกทางออกให้ได้เดินอย่างสบายๆ
ภายในห้องมีเพียงแสงไฟสลัวจากบนเวทีเท่านั้น ส่วนด้านล่างจะมืดสนิทเพื่อไม่ให้ผู้เข้าประกวดบนเวทีมองเห็นจะได้ไม่เสียสมาธิ อีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาเดินรอบสุดท้ายก่อนประกาศผลแล้ว เพราก่อนหน้านี้ผมมัวไปเสียเวลาอยู่กับการคุกเข่าอ้อนวอนขอสอบกับทางอาจารย์จอมเขี้ยว กว่าจะทำให้ใจอ่อนได้ก็กินเวลาการประกวดไปตั้งเยอะ
“รอบสุดท้ายนี่ใส่ชุดราตรีเดินใช่ไหมวะ”
“น่าจะใช่นะ”
ตอบแบบขอไปทีเพรากำลังชะเง้อคอมองหาน้ำว่าจะเดินออกมาตอนไหน
ผมไม่เคยเห็นตัวเองตอนอยู่บนเวทีมาก่อน และก็ไม่อยากรู้ด้วยว่าตอนนั้นสภาพของผมเป็นยังไง แต่มาวันนี้ ผมได้มาที่นี่ในฐานะคนเชียร์ มันทำให้ผมอยากจะเห็นน้ำเจิดจรัสและส่องประกายอยู่บนนั้น รอวันที่สายน้ำชีวิตของผมจะกลายเป็นแสงดาวที่ทอประกายอยู่บนท้องฟ้าให้ผู้คนได้ชื่นชม
พรึ่บ!
แสงไฟถูกดับลงจนมืดสนิทก่อนจะค่อยๆติดขึ้นมาทีละดวงจากบนเวที ผู้เข้าประกวดที่เข้ารอบมาคนแรกเดินอวดโฉมบนเวที มะนาวนั่นเอง เธอมาในชุดราตรีสีดำโดดเด่นกับเครื่องเพชรที่เข้ากันเป็นอย่างดี ดูสวยและเซ็กซี่ในแบบของเธอ เป็นการดึงตัวตนของนางงามแต่ละคนมาใช้ได้อย่างลงตัวมากๆ หัวใจผมเต้นตึกตักด้วยตื่นเต้นเฝ้ารอวินาทีที่น้ำจะเดินออกมา มันตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าตัวเองเป็นคนไปเดินอยู่บนนั้นเองเสียอีก
ทำให้ได้นะน้ำ
ต้องทำให้ได้นะ!
แปะๆๆๆๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นมาระลอกหนึ่ง บาร์บี้ในชุดราตรีสีแดงแสนสวยขับกับสีผิวเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มสดใส เรียกเสียงปรบมือจากคนดูได้อย่างมากล้น ผมเองก็เผลอไปชั่วขณะเหมือนกัน เธอสวยยิ่งกว่าวันไหนๆ สวยจนผมแทบจะลืมภาพของยัยลูกครึ่งจอมแสบคนนั้นไปเลย!
“เหี้ย! แม่ของลูกกูชัดๆ”
ไอ้ตูมตามพึมพำเสียงดังลั่น
แม่ของลูกบ้านมึงสิ ก่อนจะพูดอะไรถามความเห็นน้องสาวกูด้วย ใครอยู่ตำแหน่งไหนกูยังไม่แน่ใจเลยเหอะ
“เฮ!!!”
แปะๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงปรบมือดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพร้อมเสียงเฮที่ดังกว่าครั้งไหนๆ สปอร์ตไลท์ฉายตรงไปยังผู้เข้ารอบคนสุดท้ายที่เดินออกมาจากทั้งหมดห้าคน
“น้ำ…”
หัวใจผมแทบหยุดเต้น
ไม่รู้ว่ามันล่องลอยไปอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้
น้ำในชุดราตรีสีขาวที่เหมือนกับมีสายน้ำไหลวนอยู่รอบตัวของเธอเพราะที่ชุดประดับไปด้วยเพชรเม็ดเล็กๆระยิบระยับคล้ายกับส่องแสงได้ ผมถูกเกล้าขึ้นเผยให้เห็นลำคอระหงส์และช่วงไหล่ที่เรียบเนียน ใบหน้าหวานล้ำกับรอยยิ้มของนางฟ้าสะกดใจทุกคนในห้องนี้…
สวยมาก…
สวยเหลือเกิน
น้ำของไฟ…
น้ำตาของผมไหลออกมาจนไม่สามารถหยุดมันได้ ความตื้นตันจุกขึ้นมาเต็มอก ผมดีใจที่ได้เห็นน้ำทำตามความฝันของตัวเอง ดีใจที่ได้เห็นแสงส่องประกายออกมาจากตัวน้องสาวผมคนดี
งดงามมากเลยน้ำ
เธองดงามสมกับที่เป็นนางฟ้าตัวน้อยของพี่จริงๆ
“ไอ้ฟาย มึงร้องไห้เหรอวะเนี่ย”
“เรื่องของกูน่า”
ผมเบี่ยงหน้าหลบ แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่น้ำ ดีจริงๆที่เรื่องมันลงเอยแบบนี้ ดีที่น้ำหายทันและสามารถกลับมาประกวดช่วงสุดท้ายด้วยตัวเองได้ เพราถ้าคนที่ขึ้นไปยืนอยู่บนนั้นตอนนี้เป็นผม ผมมั่นใจว่าตัวเองคงไม่สามารถทำได้ดีอย่างน้ำแน่นอน
การเดินโชว์ตัวรอบสุดท้ายผ่านพ้นไป ซึ่งผู้เข้ารอบสามคนสุดท้ายก็คือน้ำ บาร์บี้ และมะนาว วินาทีสุดจะตื่นเต้นเร้าใจมาถึง ทั้งห้องเงียบเพื่อร่วมลุ้นไปกับรางวัลในครั้งนี้ ผมเองก็ลุ้นจนเยี่ยวเหนียว เผลอไปคว้ามือไอ้ตูมตามมาจับไว้ เหงื่อไหลตั้งแต่ใบหน้าเปียกลงไปยันไข่เลยทีเดียว
“เราจะเริ่มประกาศจากรองชนะเลิศอันดับสองกันก่อนนะครับ รองชนะเลิศอันดับสองได้แก่…!”
“…”
“ได้แก่เบอร์ 14 น้องมะนาว วรรณพร วาทศิลป์ศรครับ ขอเสียงปรบมือให้เธอด้วยครับ”
ผมปรบมือเสียงดังเต็มแรงดีใจไปกับมะนาวที่ได้รางวัลที่ 3 ไปครอบครอง ผมคิดอยู่แล้วว่าสวยเก่งอย่างเธอจะต้องได้สักรางวัลมาแน่นอน!
“ต่อไปชื่อที่ผมจะประกาศคือชื่อของผู้ชนะเลิศที่ได้ตำแหน่งดาวมหาลัยระดับประเทศไปครองนะครับ และผู้ที่ได้อันดับหนึ่งก็คือ…!”
“…”
“…”
“…”
“…”
“…”
“หมายเลข 13 น้องน้ำ ธารทิพย์ ธรรมสุวรรณ ครับ ยินดีกับเธอด้วยจริงๆ สาวน้อยผู้ได้ฉายานางฟ้าแห่งวงการนางงามคนแรกของประเทศไทย ที่นอกจากจะได้คะแนนโหวตอย่างล้นหลามจากคนดูแล้ว ยังได้คะแนนโหวตจากผู้คนในห้องส่งและคณะกรรมการไปแบบเต็มๆอีกด้วย ปรบมือครับบบ!”
“เฮ!!! อ๊ากกกกกก!”
ผมกระโดดโลดเต้น ดีใจเสียจนแทบลืมสิ้นความเป็นคนกันไปเลย ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม น้องสาวของผมชนะ!
น้ำได้ตำแนห่งดาวมหาลัยระดับประเทศไปครอบครอง!
“ยินดีด้วยนะน้ำ! พี่ยินดีด้วย!!!”
ผมตะโกนเสียงดังอย่างไม่อายใคร น้ำที่กำลังรับมงกุฎและสายสะพายอยู่บนเวทีหันมาทางต้นเสียง ผมกับน้องสาวสบตากัน ส่งผ่านความรู้สึกมากมายผ่านทางสายตาที่มีแค่เราเท่านั้นที่รู้
ทำได้ดีมากเลยน้ำ
น้ำทำได้ดีมารกจริงๆ
พยายามอย่างเต็มที่ เหนื่อยมามากเพื่อความฝันในครั้งนี้
ยินดีด้วยนะ
พี่ยินดีกับเธอจริงๆ
“ไฟ…!”
เหนือความคาดหมายแบบสุดๆ น้ำวิ่งจับมงกฏและสายสะพายกระโดดลงจากเวทีมาหาผมท่ามกลางสายตาของทุกคนและแสงแฟลชของนักข่าว น้องสาวตัวดีพุ่งเข้ากอดผมทั้งน้ำตาพร้อมร้องไห้โยเยเป็นเด็กๆ
“ไฟ ฮือๆๆ ไฟ… น้ำทำได้แล้ว น้ำทำเสร็จแล้วนะไฟ ไฟเห็นไหม”
“เห็นแล้วครับ ไฟเห็นแล้ว น้ำเก่งมากเลย น้องสาวของไฟเก่งที่สุดในโลกเลยนะ”
ผมลูบหัวน้ำอย่างเอ็นดู กอดเธอเอาไว้แนบแน่นเพื่อแสดงความยินดีกับเธอในครั้งนี้
“ขอโทษนะคะคุณน้ำ ไม่ทราบว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครเหรอคะ? คนรักของคุณน้ำหรือเปล่า”
นักข่าวคนหนึ่งผ่าคำถามเข้ามากลางวง ผมรีบผละตัวออกจากน้ำเตรียมจะชิ่งหนี ลืมไปเลยว่าผมจะให้นักข่าวรู้ถึงการมีตัวตนของผมไม่ได้ ถ้าหารที่เราหน้าตาเหมือนกันจะส่งผลทำให้มีคนสงสัยเรื่องแปลกๆขึ้นมา หนทางการก้าวสู่เวทีนางงามระดับโลกของน้ำอาจต้องสั่นคลอนก็ได้
หมับ!
“เขาคือพี่ชายของน้ำเองค่ะ เป็นพี่ชายแท้ๆเพียงคนเดียวของน้ำ”
น้ำคว้ามือผมเอาไว้ไม่ให้เดินหนีพร้อมกับประกาศลั่นทุกอย่างเอาเอง เธอเอนหน้าซบแขนผมด้วยท่าทางดีใจกับการเปิดตัวครั้งนี้
“น้ำ จะดีเหรอ”
“ดีสิ น้ำอยากให้ทุกคนได้รู้ ว่าน้ำมีพี่ชายที่แสนดีและรักน้ำมากกว่าใครในโลกอย่างไฟอยู่ด้วย เพราะถ้าน้ำไม่มีพี่ชายของน้ำคนนี้ น้ำก็คงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ ขอบคุณมากนะไฟ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างน้ำ ขอบคุณที่ทำทุกอย่างเพื่อน้ำ ทำเพื่อความฝันลมๆแล้งๆของน้องสาวคนนี้ ขอบคุณจริงๆ”
“น้ำ…”
“น้ำรักไฟมากนะ พี่ชายที่แสนดีของน้ำ”
เราสองคนโผเข้ากอดกันอีกครั้ง เป็นการดราม่าออกสื่อครั้งแรกในชีวิตกูเลย
เอาเถอะ ยังไงเสียน้ำก็สามารถทำตามความฝันของตัวเองสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว ผมในฐานะพี่ชายก็มีแต่จะต้องอยู่เคียงข้างคอยเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนเธอต่อไปเท่านั้น
กว่าจะหลุดพ้นจากพวกนักข่าวที่พยายามจะขอสัมภาษณ์ผมกับน้ำคู่กันและอยากให้ผมถอดแว่นออกมาได้ก็ทำเอาแทบแย่ ได้ข่าวว่าคนที่ได้ตำแหน่งคือน้องสาวกูนะ ไม่เข้าใจเลยว่าพวกมึงจะต้องการสัมภาษณ์กูไปทำซากแมวน้ำอะไร!
“ไงไอ้เปลว ไม่ได้เจอกันตั้งหลายเดือน ไม่เปลี่ยนไปเลยนะมึง”
ผมรีบถอยหลังกลับไปหลบหลังกำแพงแทบไม่ทัน ทั้งที่ตั้งใจจะเดินไปเข้าห้องน้ำแท้ๆเชียว ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงเมื่อกี้มีชื่อไอ้หน้าหนวดหลุดออกมาด้วย ผมคงไม่สนใจขนาดนี้
ว่าแล้วก็ชะโงกหัวออกไปเสือกดูสักนิดว่าใครกันที่มาเรียกสุดที่รักของผมอย่างสนิทสนมแบบนั้น!
“หือ?”
คิ้วขมวดมุ่น มองหน้าคนที่กำลังยืนสนทนากับไอ้หน้าหนวดอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ผมแอบเท่าไหร่นักอย่างแปลกใจ
นะ….หน้าคุ้นๆแฮะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
ที่ไหนกันนะ?
ที่…
“ถ้าไอ้ตามมันไม่โทรมาบอกว่าเจอมึงที่นี่ กูก็คงไม่กลับมาหรอก”
ตาม?!
นึกออกแล้ว!
ผู้ชายคนนี้มันลูกพี่ลูกน้องกับไอ้ตูมตามนี่หว่า ผมเคยเจอแค่ครั้งเดียวตอนงานเลี้ยงวันเกิดไอ้ตูมตามเมื่อประมาณครึ่งปีก่อน รู้สึกว่าวันนั้นพี่ชายมันคนนี้จะจัดงานปาร์ตี้ให้ที่ผับแห่งหนึ่ง แถมเขายังเชิญเพื่อนมาซะเยอะแยะ แต่ผมไม่ค่อยได้สังเกตนักหรอกว่าใครเป็นใครเพราะส่วนใหญ่ก็นั่งอยู่แต่กับไอ้ตูมตามและกลุ่มเพื่อนในคณะแค่นั้น
เท่ากับว่าไอ้ตูมตามมันรู้จักกับคุณเปลวมาก่อนงั้นเหรอ? หรือสาเหตุที่มันชอบทำหน้าตาไม่ชอบคุณเปลวจะเป็นเพราะเคยมีเรื่องกันมาก่อน?
“แล้วเป็นไงบ้างวะคืนนั้น สรุปใครชนะพนันเกมเปิดซิงน้องไฟคนงาม เสียดายที่กูมีงานด่วนเลยไม่ได้อยู่รอดูว่าใครได้หิ้วน้องไฟกลับไปแดก ฮ่าๆๆๆ”
“!!!”
หัวใจหล่นตุ้บไปที่ตาตุ่ม
ใครก็ได้บอกผมที ว่าสิ่งที่ผมได้ยินมันไม่ใช่แบบที่ผมคิด
บอกผมทีว่าน้องไฟที่พวกเขาพูดถึงมันไม่ใช่ผม
ต้องไม่ใช่ผม!!!
“เรื่องนั้น…”
“มึงเองก็วางขันเล่นด้วยคนแรกนี่หว่า ถ้ากูเดาไม่ผิดคนที่ได้แดกแม่งต้องเป็นมึงแน่ๆไอ้เปลว ขาวๆตัวเล็กๆแบบนั้นสเป็กมึงอยู่แล้วนี่หว่า เป็นไงวะ เด็ดไหมเพื่อนน้องชายกูคนนี้”
“เดี๋ยวก่อน มึงฟังกูก่อน คือเรื่องนั้น…”
“เฮ้ยๆ มึงไม่ต้องพูด กูรู้ว่ามึงอยากจะบอกอะไร เปิดซิงหนุ่มน้อยเฟรชชี่ที่ไม่เคยผ่านมือใครแบบนั้นคงสุขจนถึงสวรรค์เลยสินะ ฟิตจนเสียวเลยดิใช่ป่ะ”
ตัวของผมสั่นเทิ้มไปหมดกับความจริงที่ได้ยิน
ทำไมเขาถึงชอบทำตัวเหมอนเคยรู้ผมมาก่อน…
ผมรู้แล้ว
ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสของเขานัก…
ผมรู้แล้ว
แต่ที่ไม่รู้ก็คือทำไม…ผมถึงไม่เคยเอะใจเลยว่าผู้ชายที่ทำเหมือนรู้จักผมดีคนดีเคยทำชั่วอะไรไว้กับบ้าง!
“ไอ้ฟาย! มายืนทำอะไรตรงนี้วะ แอบดูผู้หญิงเข้าห้องน้ำหรือไง”
เสียงของไอตูมตามเรียกความสนใจจากผู้ชายสองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่ คุณเปลวเบิกตากว้างเมื่อหันมาเห็นผม ไอ้ตูมตามที่มองเลยไปยังจุดที่ผมกำลังยืนมองอยู่ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นว่าตรงนั้นมีคุณเปลวและพี่ชายของมัน
“ไอ้ฟาย…”
“คุณไฟ!”
พลั่ก!!!
หมัดเน้นๆถูกปล่อยลงเต็มๆหน้าของไอ้เลวระยำจนมันล้มลงไปกองกับพื้น ผมรีบตามนั่งคร่อมก่อนจะปล่อยหมัดต่อแบบไม่ยั้ง ทั้งหมัดทั้งน้ำตาพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย
“ทำไม! ทำไมวะ! มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง! ที่แท้มึงก็แค่หลอกฟันกูสินะ ไอ้เหี้ย!”
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
“มึงฟังแล้วจำใส่หัวเหี้ยๆของมึงไว้นะ ว่ากูเป็นคน ไม่ใช่ตุ๊กตายางที่มึงกับเพื่อนนึกจะอยากเล่นเกมหลอกฟันแล้วมึงจะทำได้ เพราะกูมีหัวใจ กูมีความรู้สึก และกูเจ็บเป็น!”
“คุณไฟ ผม…”
“เอาสิ มึงทำเสร็จแล้วนี่ ทำได้มากกว่าที่มึงเล่นเกมกับเพื่อนมึงไว้ด้วยซ้ำ เพรามึงไม่ได้ได้แค่ตัวของกู แต่มึงยังได้หัวใจกูไปอีกด้วย มึงเอาเลย มึงบอกเพื่อนมึงไปเลยว่ามึงได้กับกูกี่ครั้ง ได้กันท่าไหนบ้าง ที่ไหนบ้าง ทั้งในรถ ตรงระเบียง บนเตียง โต๊ะกับข้าวหรือแม้แต่ราวตากผ้าก็ได้มาหมดแล้ว มึงบอกเพื่อนมึงไปเลย มึงบอกไปให้หมด!!!”
“เฮ้ย! ไอ้ฟาย ใจเย็นมึง คนมองกันใหญ่แล้ว”
“ก็ปล่อยให้มองไปสิวะ กูไม่มีอะไรจะอายแล้วเว้ย ยางอายบนหน้ากูมันไม่เหลือแล้ว!”
ผมพยายามสะบัดตัวเองออกจากการเกาะกุมของไอ้ตูมตามที่เข้ามาแยกผมออกจากคุณเปลว
ความเจ็บปวดที่ได้รับมันสร้างความเจ็บยิ่งกว่าการโดนตบหน้าตรงๆไม่รู้กี่เท่า นี่สินะความลับที่คุณเปลวปิดบังเอาไว้ นี่สินะสิ่งที่ไอ้ตูมตามรู้มาและอยากให้เขาบอกผมด้วยตัวเอง
นี่สินะ เหตุผลที่เพื่อนของผมเกลียดเขา…
“คุณไฟ ฟังผม…”
“พอเถอะครับคุณเปลว!”
“…”
“ถ้าผมไม่เกรงใจว่าคุณคือเพื่อนของพสุธา ผมคงตั๊นหน้าและด่าคุณไปนานแล้ว แต่เพราะผมยังเกรงใจพี่ผมอยู่ ผมถึงได้ให้เวลากับคุณ ให้เวลาคุณได้สารภาพความผิดครั้งนั้นกับไอ้ฟายด้วยตัวเองคุณเอง แต่คุณก็ไม่ทำ”
“ผมไม่ได้คิดจะปิดบังคุณไฟนะครับ ผมอยากจะบอกเรื่องทั้งหมด แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร”
“ผมกลัว”
“…”
“ผมกลัวว่าคุณไฟจะโกรธและทิ้งผมไป ผมรักคุณนะครับ ผมรักคุณจริงๆ”
“เก็บคำว่ารักของมึงไว้ไปพูดในนรกเหอะไอ้เวร!”
พลั่ก!
กระโดดถีบยอดหน้ามันส่งท้ายก่อนจะวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต หัวใจของผมไม่ได้เต็มไปด้วยความร้อนรุ่มอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่มันยังอัดแน่นไปด้วยความโกรธ ความเสียใจของการถูกหลอกและการถูกหักหลังถาโถมเข้าใส่จนตั้งตัวไม่ทัน
“ไอ้ฟาย! รอด้วยสิวะ ไอ้ฟาย!”
“มึงไม่ต้องตามกูมา ไอ้เพื่อนเหี้ย!”
“กูทำอะไรผิดอีกเนี่ย!”
“มึงไม่ยอมบอกกูเรื่องมันไง จะว่าไม่ผิดอีกไหม!”
หมับ!
“ไม่ผิด!”
ไอ้ตูมตามวิ่งตามผมทันสมชื่อ
มันกระชากผมเข้าหาและดันตัวให้ผมหันกลับไปเผชิญหน้ากับมัน พอมายืนใกล้ๆแบบนี้แล้วถึงเพิ่งรู้สึกว่าความจริงตัวผมเตี้ยกว่าเยอะพอสมควรเลยนี่หว่า
“ลองใครได้มาเป็นกู แล้วเห็นมึงรักมันมากขนาดนั้นก็ไม่มีใครกล้าบอกหรอก หรือเป็นมึง มึงจะกล้าบอกกู?”
“บอก!”
“…”
“ได้ที่ไหนล่ะวะ”
น้ำตาแทบจะร่วงลงมาอีกรอบ แบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าการจับได้ว่าไอ้หน้าหนวดแอบไปมีเมียน้อยหรือพีคหน่อยก็ไปมีผัวอีกนะ
“เห็นไหม ถ้าเป็นมึง มึงก็ไม่บอกกู”
“แล้วยังไงวะ กูควรทำยังไงต่อไปดี กลับไปต่อยมันจนกว่าแม่งจะกระอักเลือดตายเลยดีไหม”
“แล้วมึงก็จะได้ไปนอนเล่นในคุกแทนการอยู่เคียงข้างน้ำ คอยสนับสนุนให้น้ำทำตามความฝันของตัวเอง จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ”
“อย่าประชดกูดิ กูเจ็บอยู่นะ”
ผมพึมพำ มองค้อนไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาไม่เคยจะช่วยอะไรผมได้เลยสักอย่าง สิ่งที่มันถนัดมีเพียงเรื่องเดียวคือการหาเรื่องมาให้ผมต้องเดือดร้อน
ตัวอย่างเช่นการสวมรอยเป็นน้ำจนได้กลับเข้ามาพัวพันกับไอ้หน้าหนวดอีกครั้งในที่สุด…
วงวนชีวิตรักของกูทำไมมันหน้าเศร้าอย่างงี้วะ
แถมยัง…จบลงแบบไม่ค่อยสวยอีกด้วย
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาแล้วจ้าา ความลับที่คุณเปลวของพวกเราปิดบังเอาไว้ แต่มีเหรอที่ความลับเหล่านั้นจะจบลงแต่เพียงเท่านี้ อย่าลืมสิว่าคุณเปลวของเราคือสตอลคเกอร์ของพี่ไฟเชียวนะ 555555+ สำหรับเรื่องราวในคืนเกินเหตุนั้น จะไม่มีการเขียนถึงในเล่มหลักนะคะ มีเพียงกล่าวถึงเล็กน้อยแต่ไม่ขยายความว่า เพราะเล่มขยายความของเหตุการณ์ในคืนนั้นจริงๆคือเรื่องสั้นเล่มแถมขนาด A6 'เรื่องคืนนั้น' ที่มีเฉพาะคนสั่งซื้อนิยายเข้ามาในรอบพรีออเดอร์เท่านั้นจ้า แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะงงนะคะ ทุกอย่างจบลงตัวในเล่มเล็ก แค่พวกการขยายความความหลังจ่างๆจะมีเฉพาะในเล่มแถมรอบพรีฯค่ะ ^^
จุ๊บๆๆๆๆ