(จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)  (อ่าน 59869 ครั้ง)

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ทุกอย่างลงตัวละ

ยังไม่จบใช่ป่าว?

แล้วสรุปว่าใครชนะ??

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0




ตอนที่ 26
ก็แค่เกมเกมหนึ่ง
 

“เร็วๆสิวะไอ้ตาม  มึงขาสั้นหรือมึงคลานกันแน่วะเนี่ย!”
ผมตะโกนเร่งเพื่อนสนิทตัวดีที่เดินตามหลังมาอย่างอ้อยอิ่ง
“โห  ไอ้เหี้ย!  มึงได้สิวะ  มีแค่ตุ๊กตา  แต่กูนี่!  หอบดอกไม้มาทั้งสวนจนแทบจะมองไม่เห็นทางอยู่แล้ว  จะให้เดินไวได้ยังไงล่ะเว้ย”
“มึงควรเน้นด้วยว่าตุ๊กตาที่อยู่บนหลังกูตอนนี้คือตุ๊กตานกกระจอกเทศขนาดเท่าของจริง  สัตว์โลกน่ารักตัวโปรดของน้ำ!”
ใช่แล้ว  เพื่อเซอร์ไพรส์น้ำ  ผมเลยสั่งทำตุ๊กตานกกระจอกเทศขนาดเท่าของจริงแล้วเอาแบกขึ้นหลังมาเพื่อจะมอบให้น้ำในวันนี้ไม่ว่าเธอจะได้ตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม  โดยที่ผมได้ทำการปลอมตัวใส่วิกผมสั้นปกปิดผมยาวของตัวเองก่อนจะสวมแว่นกรอบดำให้ดูท่าทางเอ๋อๆเปลี่ยนลุกต์ตัวเอง
“ขอโทษนะครับ  ห้องที่จัดการประกวดครั้งสุดท้ายวันนี้ไปทางไหนเหรอครับ”
“อ๋อ  ขึ้นไปชั้นสามแล้วเลี้ยวซ้ายสุดทางเดินเลยค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ  ไปเร็วไอ้ตาม!”
ผมเร่งเพื่อนรักอีกครั้ง
วันนี้ผมยังไม่ได้เจอไอ้หน้าหนวดเลยตั้งแต่เช้า  ไม่แม้จะได้คุยโทรศัพท์กันเพราะทางนั้นเองก็ต้องเตรียมตัวสำหรับการเป็นกรรมการครั้งสุดท้ายด้วย  หลังเสร็จงานประกวดจะได้เจอกันไหมนะ  คิดถึงนิดๆแล้วแฮะ
“คนเยอะว่ะ  นี่มาดูการประกวดหรือมาฟังประกาศล็อตเตอรี่เนี่ย”
“มึงก็ช่างเปรียบนะ”
ผมว่า  เราสองคนช่วยกันเบียดเสียดยัดเยียดตัวเองเข้าไปด้านในเพื่อดูการประกาศผลรอบสำคัญอย่างใกล้ชิด
“กูว่ามึงจะแทรกกายผ่านชาวบ้านชาวช่องเข้าไปง่ายกว่านี้ถ้าไม่มีนกกระจอกเทศอยู่บนหลังนะ”
“ไม่ได้เว้ย!  กูจะเอาไว้เซอร์ไพรส์น้ำ”
“เขาเห็นกันทั้งบางแล้วเหอะ  มันเซอร์ไพรส์ตรงไหนวะ”
ผมขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดกับมันเลยออกเดินต่อจนสามารถทะลวงเข้าไปถึงหน้าเวทีได้ในที่สุด  ต้องขอบคุณไอ้นกกระจอกเทศบนหลังผมที่ทำให้คนอื่นๆพากันตกใจเลยแหวกทางออกให้ได้เดินอย่างสบายๆ
ภายในห้องมีเพียงแสงไฟสลัวจากบนเวทีเท่านั้น  ส่วนด้านล่างจะมืดสนิทเพื่อไม่ให้ผู้เข้าประกวดบนเวทีมองเห็นจะได้ไม่เสียสมาธิ  อีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาเดินรอบสุดท้ายก่อนประกาศผลแล้ว  เพราก่อนหน้านี้ผมมัวไปเสียเวลาอยู่กับการคุกเข่าอ้อนวอนขอสอบกับทางอาจารย์จอมเขี้ยว  กว่าจะทำให้ใจอ่อนได้ก็กินเวลาการประกวดไปตั้งเยอะ
“รอบสุดท้ายนี่ใส่ชุดราตรีเดินใช่ไหมวะ”
“น่าจะใช่นะ”
ตอบแบบขอไปทีเพรากำลังชะเง้อคอมองหาน้ำว่าจะเดินออกมาตอนไหน
ผมไม่เคยเห็นตัวเองตอนอยู่บนเวทีมาก่อน  และก็ไม่อยากรู้ด้วยว่าตอนนั้นสภาพของผมเป็นยังไง  แต่มาวันนี้  ผมได้มาที่นี่ในฐานะคนเชียร์  มันทำให้ผมอยากจะเห็นน้ำเจิดจรัสและส่องประกายอยู่บนนั้น  รอวันที่สายน้ำชีวิตของผมจะกลายเป็นแสงดาวที่ทอประกายอยู่บนท้องฟ้าให้ผู้คนได้ชื่นชม
พรึ่บ!
แสงไฟถูกดับลงจนมืดสนิทก่อนจะค่อยๆติดขึ้นมาทีละดวงจากบนเวที  ผู้เข้าประกวดที่เข้ารอบมาคนแรกเดินอวดโฉมบนเวที  มะนาวนั่นเอง  เธอมาในชุดราตรีสีดำโดดเด่นกับเครื่องเพชรที่เข้ากันเป็นอย่างดี  ดูสวยและเซ็กซี่ในแบบของเธอ  เป็นการดึงตัวตนของนางงามแต่ละคนมาใช้ได้อย่างลงตัวมากๆ  หัวใจผมเต้นตึกตักด้วยตื่นเต้นเฝ้ารอวินาทีที่น้ำจะเดินออกมา  มันตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าตัวเองเป็นคนไปเดินอยู่บนนั้นเองเสียอีก
ทำให้ได้นะน้ำ
ต้องทำให้ได้นะ!
แปะๆๆๆๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นมาระลอกหนึ่ง  บาร์บี้ในชุดราตรีสีแดงแสนสวยขับกับสีผิวเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มสดใส  เรียกเสียงปรบมือจากคนดูได้อย่างมากล้น  ผมเองก็เผลอไปชั่วขณะเหมือนกัน  เธอสวยยิ่งกว่าวันไหนๆ  สวยจนผมแทบจะลืมภาพของยัยลูกครึ่งจอมแสบคนนั้นไปเลย!
“เหี้ย!  แม่ของลูกกูชัดๆ”
ไอ้ตูมตามพึมพำเสียงดังลั่น
แม่ของลูกบ้านมึงสิ  ก่อนจะพูดอะไรถามความเห็นน้องสาวกูด้วย  ใครอยู่ตำแหน่งไหนกูยังไม่แน่ใจเลยเหอะ
“เฮ!!!”
แปะๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงปรบมือดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพร้อมเสียงเฮที่ดังกว่าครั้งไหนๆ  สปอร์ตไลท์ฉายตรงไปยังผู้เข้ารอบคนสุดท้ายที่เดินออกมาจากทั้งหมดห้าคน
“น้ำ…”
หัวใจผมแทบหยุดเต้น
ไม่รู้ว่ามันล่องลอยไปอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้
น้ำในชุดราตรีสีขาวที่เหมือนกับมีสายน้ำไหลวนอยู่รอบตัวของเธอเพราะที่ชุดประดับไปด้วยเพชรเม็ดเล็กๆระยิบระยับคล้ายกับส่องแสงได้  ผมถูกเกล้าขึ้นเผยให้เห็นลำคอระหงส์และช่วงไหล่ที่เรียบเนียน  ใบหน้าหวานล้ำกับรอยยิ้มของนางฟ้าสะกดใจทุกคนในห้องนี้…
สวยมาก…
สวยเหลือเกิน
น้ำของไฟ…
น้ำตาของผมไหลออกมาจนไม่สามารถหยุดมันได้  ความตื้นตันจุกขึ้นมาเต็มอก  ผมดีใจที่ได้เห็นน้ำทำตามความฝันของตัวเอง   ดีใจที่ได้เห็นแสงส่องประกายออกมาจากตัวน้องสาวผมคนดี
งดงามมากเลยน้ำ
เธองดงามสมกับที่เป็นนางฟ้าตัวน้อยของพี่จริงๆ
“ไอ้ฟาย  มึงร้องไห้เหรอวะเนี่ย”
“เรื่องของกูน่า”
ผมเบี่ยงหน้าหลบ  แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่น้ำ  ดีจริงๆที่เรื่องมันลงเอยแบบนี้  ดีที่น้ำหายทันและสามารถกลับมาประกวดช่วงสุดท้ายด้วยตัวเองได้  เพราถ้าคนที่ขึ้นไปยืนอยู่บนนั้นตอนนี้เป็นผม  ผมมั่นใจว่าตัวเองคงไม่สามารถทำได้ดีอย่างน้ำแน่นอน
การเดินโชว์ตัวรอบสุดท้ายผ่านพ้นไป  ซึ่งผู้เข้ารอบสามคนสุดท้ายก็คือน้ำ  บาร์บี้  และมะนาว  วินาทีสุดจะตื่นเต้นเร้าใจมาถึง  ทั้งห้องเงียบเพื่อร่วมลุ้นไปกับรางวัลในครั้งนี้  ผมเองก็ลุ้นจนเยี่ยวเหนียว  เผลอไปคว้ามือไอ้ตูมตามมาจับไว้  เหงื่อไหลตั้งแต่ใบหน้าเปียกลงไปยันไข่เลยทีเดียว
“เราจะเริ่มประกาศจากรองชนะเลิศอันดับสองกันก่อนนะครับ  รองชนะเลิศอันดับสองได้แก่…!”
“…”
“ได้แก่เบอร์ 14 น้องมะนาว  วรรณพร  วาทศิลป์ศรครับ  ขอเสียงปรบมือให้เธอด้วยครับ”
ผมปรบมือเสียงดังเต็มแรงดีใจไปกับมะนาวที่ได้รางวัลที่ 3 ไปครอบครอง  ผมคิดอยู่แล้วว่าสวยเก่งอย่างเธอจะต้องได้สักรางวัลมาแน่นอน!
“ต่อไปชื่อที่ผมจะประกาศคือชื่อของผู้ชนะเลิศที่ได้ตำแหน่งดาวมหาลัยระดับประเทศไปครองนะครับ  และผู้ที่ได้อันดับหนึ่งก็คือ…!”
“…”
“…”
“…”
“…”
“…”
“หมายเลข  13 น้องน้ำ  ธารทิพย์  ธรรมสุวรรณ ครับ   ยินดีกับเธอด้วยจริงๆ  สาวน้อยผู้ได้ฉายานางฟ้าแห่งวงการนางงามคนแรกของประเทศไทย  ที่นอกจากจะได้คะแนนโหวตอย่างล้นหลามจากคนดูแล้ว  ยังได้คะแนนโหวตจากผู้คนในห้องส่งและคณะกรรมการไปแบบเต็มๆอีกด้วย  ปรบมือครับบบ!”
“เฮ!!!  อ๊ากกกกกก!”
ผมกระโดดโลดเต้น  ดีใจเสียจนแทบลืมสิ้นความเป็นคนกันไปเลย  ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม  น้องสาวของผมชนะ!
น้ำได้ตำแนห่งดาวมหาลัยระดับประเทศไปครอบครอง!
“ยินดีด้วยนะน้ำ!  พี่ยินดีด้วย!!!”
ผมตะโกนเสียงดังอย่างไม่อายใคร  น้ำที่กำลังรับมงกุฎและสายสะพายอยู่บนเวทีหันมาทางต้นเสียง  ผมกับน้องสาวสบตากัน  ส่งผ่านความรู้สึกมากมายผ่านทางสายตาที่มีแค่เราเท่านั้นที่รู้
ทำได้ดีมากเลยน้ำ
น้ำทำได้ดีมารกจริงๆ
พยายามอย่างเต็มที่  เหนื่อยมามากเพื่อความฝันในครั้งนี้
ยินดีด้วยนะ
พี่ยินดีกับเธอจริงๆ
“ไฟ…!”
เหนือความคาดหมายแบบสุดๆ  น้ำวิ่งจับมงกฏและสายสะพายกระโดดลงจากเวทีมาหาผมท่ามกลางสายตาของทุกคนและแสงแฟลชของนักข่าว น้องสาวตัวดีพุ่งเข้ากอดผมทั้งน้ำตาพร้อมร้องไห้โยเยเป็นเด็กๆ
“ไฟ  ฮือๆๆ  ไฟ…  น้ำทำได้แล้ว  น้ำทำเสร็จแล้วนะไฟ  ไฟเห็นไหม”
“เห็นแล้วครับ  ไฟเห็นแล้ว  น้ำเก่งมากเลย  น้องสาวของไฟเก่งที่สุดในโลกเลยนะ”
ผมลูบหัวน้ำอย่างเอ็นดู  กอดเธอเอาไว้แนบแน่นเพื่อแสดงความยินดีกับเธอในครั้งนี้
“ขอโทษนะคะคุณน้ำ  ไม่ทราบว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครเหรอคะ?  คนรักของคุณน้ำหรือเปล่า”
นักข่าวคนหนึ่งผ่าคำถามเข้ามากลางวง  ผมรีบผละตัวออกจากน้ำเตรียมจะชิ่งหนี  ลืมไปเลยว่าผมจะให้นักข่าวรู้ถึงการมีตัวตนของผมไม่ได้  ถ้าหารที่เราหน้าตาเหมือนกันจะส่งผลทำให้มีคนสงสัยเรื่องแปลกๆขึ้นมา  หนทางการก้าวสู่เวทีนางงามระดับโลกของน้ำอาจต้องสั่นคลอนก็ได้
หมับ!
“เขาคือพี่ชายของน้ำเองค่ะ  เป็นพี่ชายแท้ๆเพียงคนเดียวของน้ำ”
น้ำคว้ามือผมเอาไว้ไม่ให้เดินหนีพร้อมกับประกาศลั่นทุกอย่างเอาเอง  เธอเอนหน้าซบแขนผมด้วยท่าทางดีใจกับการเปิดตัวครั้งนี้
“น้ำ  จะดีเหรอ”
“ดีสิ  น้ำอยากให้ทุกคนได้รู้  ว่าน้ำมีพี่ชายที่แสนดีและรักน้ำมากกว่าใครในโลกอย่างไฟอยู่ด้วย  เพราะถ้าน้ำไม่มีพี่ชายของน้ำคนนี้  น้ำก็คงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้  ขอบคุณมากนะไฟ  ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างน้ำ  ขอบคุณที่ทำทุกอย่างเพื่อน้ำ  ทำเพื่อความฝันลมๆแล้งๆของน้องสาวคนนี้  ขอบคุณจริงๆ”
“น้ำ…”
“น้ำรักไฟมากนะ  พี่ชายที่แสนดีของน้ำ”
เราสองคนโผเข้ากอดกันอีกครั้ง  เป็นการดราม่าออกสื่อครั้งแรกในชีวิตกูเลย
เอาเถอะ  ยังไงเสียน้ำก็สามารถทำตามความฝันของตัวเองสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว   ผมในฐานะพี่ชายก็มีแต่จะต้องอยู่เคียงข้างคอยเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนเธอต่อไปเท่านั้น
 
กว่าจะหลุดพ้นจากพวกนักข่าวที่พยายามจะขอสัมภาษณ์ผมกับน้ำคู่กันและอยากให้ผมถอดแว่นออกมาได้ก็ทำเอาแทบแย่  ได้ข่าวว่าคนที่ได้ตำแหน่งคือน้องสาวกูนะ  ไม่เข้าใจเลยว่าพวกมึงจะต้องการสัมภาษณ์กูไปทำซากแมวน้ำอะไร!
“ไงไอ้เปลว  ไม่ได้เจอกันตั้งหลายเดือน  ไม่เปลี่ยนไปเลยนะมึง”
ผมรีบถอยหลังกลับไปหลบหลังกำแพงแทบไม่ทัน  ทั้งที่ตั้งใจจะเดินไปเข้าห้องน้ำแท้ๆเชียว  ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงเมื่อกี้มีชื่อไอ้หน้าหนวดหลุดออกมาด้วย  ผมคงไม่สนใจขนาดนี้
ว่าแล้วก็ชะโงกหัวออกไปเสือกดูสักนิดว่าใครกันที่มาเรียกสุดที่รักของผมอย่างสนิทสนมแบบนั้น!
“หือ?”
คิ้วขมวดมุ่น  มองหน้าคนที่กำลังยืนสนทนากับไอ้หน้าหนวดอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ผมแอบเท่าไหร่นักอย่างแปลกใจ
นะ….หน้าคุ้นๆแฮะ  เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
ที่ไหนกันนะ?
ที่…
“ถ้าไอ้ตามมันไม่โทรมาบอกว่าเจอมึงที่นี่  กูก็คงไม่กลับมาหรอก”
ตาม?!
นึกออกแล้ว!
ผู้ชายคนนี้มันลูกพี่ลูกน้องกับไอ้ตูมตามนี่หว่า  ผมเคยเจอแค่ครั้งเดียวตอนงานเลี้ยงวันเกิดไอ้ตูมตามเมื่อประมาณครึ่งปีก่อน  รู้สึกว่าวันนั้นพี่ชายมันคนนี้จะจัดงานปาร์ตี้ให้ที่ผับแห่งหนึ่ง  แถมเขายังเชิญเพื่อนมาซะเยอะแยะ  แต่ผมไม่ค่อยได้สังเกตนักหรอกว่าใครเป็นใครเพราะส่วนใหญ่ก็นั่งอยู่แต่กับไอ้ตูมตามและกลุ่มเพื่อนในคณะแค่นั้น
เท่ากับว่าไอ้ตูมตามมันรู้จักกับคุณเปลวมาก่อนงั้นเหรอ?  หรือสาเหตุที่มันชอบทำหน้าตาไม่ชอบคุณเปลวจะเป็นเพราะเคยมีเรื่องกันมาก่อน?
“แล้วเป็นไงบ้างวะคืนนั้น  สรุปใครชนะพนันเกมเปิดซิงน้องไฟคนงาม  เสียดายที่กูมีงานด่วนเลยไม่ได้อยู่รอดูว่าใครได้หิ้วน้องไฟกลับไปแดก  ฮ่าๆๆๆ”
“!!!”
หัวใจหล่นตุ้บไปที่ตาตุ่ม
ใครก็ได้บอกผมที  ว่าสิ่งที่ผมได้ยินมันไม่ใช่แบบที่ผมคิด
บอกผมทีว่าน้องไฟที่พวกเขาพูดถึงมันไม่ใช่ผม
ต้องไม่ใช่ผม!!!
“เรื่องนั้น…”
“มึงเองก็วางขันเล่นด้วยคนแรกนี่หว่า  ถ้ากูเดาไม่ผิดคนที่ได้แดกแม่งต้องเป็นมึงแน่ๆไอ้เปลว  ขาวๆตัวเล็กๆแบบนั้นสเป็กมึงอยู่แล้วนี่หว่า  เป็นไงวะ  เด็ดไหมเพื่อนน้องชายกูคนนี้”
“เดี๋ยวก่อน  มึงฟังกูก่อน  คือเรื่องนั้น…”
“เฮ้ยๆ  มึงไม่ต้องพูด  กูรู้ว่ามึงอยากจะบอกอะไร  เปิดซิงหนุ่มน้อยเฟรชชี่ที่ไม่เคยผ่านมือใครแบบนั้นคงสุขจนถึงสวรรค์เลยสินะ  ฟิตจนเสียวเลยดิใช่ป่ะ”
ตัวของผมสั่นเทิ้มไปหมดกับความจริงที่ได้ยิน
ทำไมเขาถึงชอบทำตัวเหมอนเคยรู้ผมมาก่อน…
ผมรู้แล้ว
ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสของเขานัก…
ผมรู้แล้ว
แต่ที่ไม่รู้ก็คือทำไม…ผมถึงไม่เคยเอะใจเลยว่าผู้ชายที่ทำเหมือนรู้จักผมดีคนดีเคยทำชั่วอะไรไว้กับบ้าง!
“ไอ้ฟาย! มายืนทำอะไรตรงนี้วะ  แอบดูผู้หญิงเข้าห้องน้ำหรือไง”
เสียงของไอตูมตามเรียกความสนใจจากผู้ชายสองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่  คุณเปลวเบิกตากว้างเมื่อหันมาเห็นผม  ไอ้ตูมตามที่มองเลยไปยังจุดที่ผมกำลังยืนมองอยู่ก็ตกใจเช่นกันเมื่อเห็นว่าตรงนั้นมีคุณเปลวและพี่ชายของมัน
“ไอ้ฟาย…”
“คุณไฟ!”
พลั่ก!!!
หมัดเน้นๆถูกปล่อยลงเต็มๆหน้าของไอ้เลวระยำจนมันล้มลงไปกองกับพื้น  ผมรีบตามนั่งคร่อมก่อนจะปล่อยหมัดต่อแบบไม่ยั้ง  ทั้งหมัดทั้งน้ำตาพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย
“ทำไม!  ทำไมวะ!  มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง!  ที่แท้มึงก็แค่หลอกฟันกูสินะ  ไอ้เหี้ย!”
พลั่ก!  พลั่ก!  พลั่ก!
“มึงฟังแล้วจำใส่หัวเหี้ยๆของมึงไว้นะ  ว่ากูเป็นคน  ไม่ใช่ตุ๊กตายางที่มึงกับเพื่อนนึกจะอยากเล่นเกมหลอกฟันแล้วมึงจะทำได้  เพราะกูมีหัวใจ  กูมีความรู้สึก และกูเจ็บเป็น!”
“คุณไฟ  ผม…”
“เอาสิ มึงทำเสร็จแล้วนี่  ทำได้มากกว่าที่มึงเล่นเกมกับเพื่อนมึงไว้ด้วยซ้ำ  เพรามึงไม่ได้ได้แค่ตัวของกู  แต่มึงยังได้หัวใจกูไปอีกด้วย  มึงเอาเลย  มึงบอกเพื่อนมึงไปเลยว่ามึงได้กับกูกี่ครั้ง  ได้กันท่าไหนบ้าง  ที่ไหนบ้าง  ทั้งในรถ  ตรงระเบียง บนเตียง  โต๊ะกับข้าวหรือแม้แต่ราวตากผ้าก็ได้มาหมดแล้ว  มึงบอกเพื่อนมึงไปเลย  มึงบอกไปให้หมด!!!”
“เฮ้ย!  ไอ้ฟาย  ใจเย็นมึง  คนมองกันใหญ่แล้ว”
“ก็ปล่อยให้มองไปสิวะ  กูไม่มีอะไรจะอายแล้วเว้ย  ยางอายบนหน้ากูมันไม่เหลือแล้ว!”
ผมพยายามสะบัดตัวเองออกจากการเกาะกุมของไอ้ตูมตามที่เข้ามาแยกผมออกจากคุณเปลว
ความเจ็บปวดที่ได้รับมันสร้างความเจ็บยิ่งกว่าการโดนตบหน้าตรงๆไม่รู้กี่เท่า   นี่สินะความลับที่คุณเปลวปิดบังเอาไว้  นี่สินะสิ่งที่ไอ้ตูมตามรู้มาและอยากให้เขาบอกผมด้วยตัวเอง
นี่สินะ  เหตุผลที่เพื่อนของผมเกลียดเขา…
“คุณไฟ  ฟังผม…”
“พอเถอะครับคุณเปลว!”
“…”
“ถ้าผมไม่เกรงใจว่าคุณคือเพื่อนของพสุธา  ผมคงตั๊นหน้าและด่าคุณไปนานแล้ว  แต่เพราะผมยังเกรงใจพี่ผมอยู่  ผมถึงได้ให้เวลากับคุณ  ให้เวลาคุณได้สารภาพความผิดครั้งนั้นกับไอ้ฟายด้วยตัวเองคุณเอง  แต่คุณก็ไม่ทำ”
“ผมไม่ได้คิดจะปิดบังคุณไฟนะครับ  ผมอยากจะบอกเรื่องทั้งหมด  แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร”
“ผมกลัว”
“…”
“ผมกลัวว่าคุณไฟจะโกรธและทิ้งผมไป   ผมรักคุณนะครับ  ผมรักคุณจริงๆ”
“เก็บคำว่ารักของมึงไว้ไปพูดในนรกเหอะไอ้เวร!”
พลั่ก!
กระโดดถีบยอดหน้ามันส่งท้ายก่อนจะวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต  หัวใจของผมไม่ได้เต็มไปด้วยความร้อนรุ่มอย่างเดียวเท่านั้น  หากแต่มันยังอัดแน่นไปด้วยความโกรธ  ความเสียใจของการถูกหลอกและการถูกหักหลังถาโถมเข้าใส่จนตั้งตัวไม่ทัน
“ไอ้ฟาย!  รอด้วยสิวะ  ไอ้ฟาย!”
“มึงไม่ต้องตามกูมา  ไอ้เพื่อนเหี้ย!”
“กูทำอะไรผิดอีกเนี่ย!”
“มึงไม่ยอมบอกกูเรื่องมันไง  จะว่าไม่ผิดอีกไหม!”
หมับ!
“ไม่ผิด!”
ไอ้ตูมตามวิ่งตามผมทันสมชื่อ
มันกระชากผมเข้าหาและดันตัวให้ผมหันกลับไปเผชิญหน้ากับมัน  พอมายืนใกล้ๆแบบนี้แล้วถึงเพิ่งรู้สึกว่าความจริงตัวผมเตี้ยกว่าเยอะพอสมควรเลยนี่หว่า
“ลองใครได้มาเป็นกู  แล้วเห็นมึงรักมันมากขนาดนั้นก็ไม่มีใครกล้าบอกหรอก  หรือเป็นมึง  มึงจะกล้าบอกกู?”
“บอก!”
“…”
“ได้ที่ไหนล่ะวะ”
น้ำตาแทบจะร่วงลงมาอีกรอบ  แบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าการจับได้ว่าไอ้หน้าหนวดแอบไปมีเมียน้อยหรือพีคหน่อยก็ไปมีผัวอีกนะ
“เห็นไหม  ถ้าเป็นมึง  มึงก็ไม่บอกกู”
“แล้วยังไงวะ  กูควรทำยังไงต่อไปดี  กลับไปต่อยมันจนกว่าแม่งจะกระอักเลือดตายเลยดีไหม”
“แล้วมึงก็จะได้ไปนอนเล่นในคุกแทนการอยู่เคียงข้างน้ำ  คอยสนับสนุนให้น้ำทำตามความฝันของตัวเอง  จะเอาแบบนั้นไหมล่ะ”
“อย่าประชดกูดิ  กูเจ็บอยู่นะ”
ผมพึมพำ  มองค้อนไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาไม่เคยจะช่วยอะไรผมได้เลยสักอย่าง  สิ่งที่มันถนัดมีเพียงเรื่องเดียวคือการหาเรื่องมาให้ผมต้องเดือดร้อน
ตัวอย่างเช่นการสวมรอยเป็นน้ำจนได้กลับเข้ามาพัวพันกับไอ้หน้าหนวดอีกครั้งในที่สุด…
วงวนชีวิตรักของกูทำไมมันหน้าเศร้าอย่างงี้วะ
แถมยัง…จบลงแบบไม่ค่อยสวยอีกด้วย


บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาแล้วจ้าา   ความลับที่คุณเปลวของพวกเราปิดบังเอาไว้  แต่มีเหรอที่ความลับเหล่านั้นจะจบลงแต่เพียงเท่านี้  อย่าลืมสิว่าคุณเปลวของเราคือสตอลคเกอร์ของพี่ไฟเชียวนะ 555555+  สำหรับเรื่องราวในคืนเกินเหตุนั้น  จะไม่มีการเขียนถึงในเล่มหลักนะคะ  มีเพียงกล่าวถึงเล็กน้อยแต่ไม่ขยายความว่า  เพราะเล่มขยายความของเหตุการณ์ในคืนนั้นจริงๆคือเรื่องสั้นเล่มแถมขนาด A6 'เรื่องคืนนั้น' ที่มีเฉพาะคนสั่งซื้อนิยายเข้ามาในรอบพรีออเดอร์เท่านั้นจ้า  แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะงงนะคะ  ทุกอย่างจบลงตัวในเล่มเล็ก  แค่พวกการขยายความความหลังจ่างๆจะมีเฉพาะในเล่มแถมรอบพรีฯค่ะ ^^
จุ๊บๆๆๆๆ



ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เฮอะเหอพระยาค่ะ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0






ตอนที่ 27
แอบมองมานาน
 
ครืด…ครืด…
“…”
ครืด…ครืด…
“…”
ครืด….ครืด…
“ไฟ!  มือถือสั่นอยู่นะ  รับๆไปเถอะ”
“ไม่”
ผมตอบทันควัน  ผ่านมาสิบวันแล้วหลังจากที่ได้รู้ความจริงเรื่องเกมบ้าๆนั่น  ไอ้หน้าหนวดพยายามโทรหาผมวันละเป็นร้อยสาย  พยายามไปดักรอที่คณะและมาหาที่บ้านแต่ผมก็หลีกเลี่ยงได้ตลอด  ยังไงผมก็ไม่มีทางยอมเจอหน้ามันเด็ดขาด!
เพราะอะไรน่ะเหรอ…
เพราะถ้าผมเจอหน้ามัน  ผมอาจจะใจอ่อนยอมให้ออภัยมันยังไงล่ะ!  สิ่งที่มันทำไว้เลวร้ายยิ่งกว่าที่คุณพิมทำเสียอีก  ผมจะต้องใจแข็งและเด็ดขาด  ต้องไม่กลับไปหาผู้ชายเลวๆพรรค์นั้นอีก!
“ไฟ  น้ำว่าแบบนี้ไม่ดีเลยนะ  ไม่ว่าจะเรื่องอะไร  คนเป็นแฟนกันก็ควรหันหน้าคุยกันนะ  ถึงจะเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายทำผิด  แต่ถ้าเรื่องนั้นมันเป็นเพียงอดีต  ไฟก็ไม่ควรเอามันมาเกี่ยวกับปัจจุบัน  มันดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย”
“น้ำ!  นี่ตกลงน้ำอยู่ข้างใครเนี่ย”
“น้ำอยู่ข้างสิ่งที่จะทำให้ไฟมีความสุขไงล่ะ  เพราะน้ำรู้ว่าสิบวันมานี้ไฟไม่ได้มีความสุขเลย  ไฟคิดถึงเขา  ไฟอยากเจอเขา  แต่เพราะไฟทิฐิและก็ดื้อมาก!  ก็เลยต้องมาทนเจ็บปวดแบบนี้”
“ใครบอก  ไฟไม่ได้เจ็บปวดอะไรเลยสักนิด  น้ำอ่ะมั่วแล้ว”
“ตามใจแล้วกัน!  น้ำเตือนแล้วนะว่าให้เปิดใจคุยกันไปซะ  แต่ในเมื่อไฟไม่ยอมฟัง  ถ้าต้องมานั่งร้องไห้เสียใจทีหลัง  น้ำจะไม่ปลอบจริงๆด้วย”
ดีจริงๆชีวิตกู
มีน้องสาวกับเขาคนเดียวก็ไม่ค่อยจะเข้าข้างพี่ชายเลย!
“อ้อ  จริงสิ  น้ำลืมบอกไป  เพื่อนๆสมัยมอปลายนัดรวมรุ่นกันนะ  พวกนั้นทำเรื่องขอเช่าหอประชุมของโรงเรียนเอาไว้แล้ว  อาจารย์ประจำชั้นพวกเราในตอนนั้นก็จะมาด้วย”
“อาจารย์กุ๊กไก่ก็มาใช่ไหม”
ผมถามน้ำด้วยความดีใจ
อาจารย์กุ๊กไก่คืออาจารย์ฝึกสอนในสมัยที่ผมเรียนอยู่ ม.4  เธอมาสอนวิชาศิลปะ  เป็นผู้หญิงที่วาดรูปเก่งมากๆ  เรียกได้ว่าเธอคือคนจุดประกายความฝันของผม  ทำให้ผมอยากเรียนด้านนี้  ตอนนั้นเราสนิทกันเหมือนพี่น้องเลยล่ะ  แต่พอเธอฝึกสอนจบก็สอบติดครูที่โรงเรียนแถวภาคใต้  พวกเราก็เลยไม่ได้เจอกันอีกเลย  แต่หลังๆมานี่ผมรู้ว่ามีเพื่อนในห้องบางคนไปเจอเฟซบุ๊คส่วนตัวของอาจารย์เข้าก็เลยได้คุยกัน   บางทีพวกมันอาจจะชวนอาจารย์มาด้วยก็ได้
“ได้ยินว่ามานะ  มีคนในห้องชวนน่ะ”
“งั้นไปๆๆๆ  งานจัดวันไหนเหรอ”
“อาทิตย์นี้  ธีมงานคือใส่ชุดสมัยเรียนไป  ดีนะที่น้ำยังเก็บชุดสมัยมอปลายของเราสองคนไว้น่ะ”
“อยากให้ถึงวันอาทิตย์เร็วๆจังเลย  ไฟมีเรื่องอยากคุยกับอาจารย์เต็มไปหมดเลยแหละ”
“ไฟนี่นะ  ชอบอาจารย์กุ๊กไก่จริงๆเลย  น้ำจำได้ว่าช่วงนั้นเพื่อนๆในห้องพากันแซวว่าไฟแอบรักอาจารย์  และน้ำก็คิดว่าไฟต้องชอบอาจารย์แน่ๆเหมือนกันนะ”
“ถ้าหมายถึงตอนนั้นล่ะก็…ใช่  ไฟชอบอาจารย์กุ๊กไก่  แต่น่าเสียดายที่อาจารย์เขามีคนรักอยู่แล้ว  รู้สึกจะเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน  ไฟก็ไม่เคยเจอหรอกนะ  แต่เขาขับรถมารับอาจารย์กุ๊กไก่ที่โรงเรียนทุกเย็นเลยล่ะ  รถนี่หรูมาเลย  เด็กมอสี่ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างไฟไม่มีอะไรไปสู้เขาหรอก”
พอนึกถึงวันวาน  ความรักครั้งแรกที่มีต่ออาจารย์ในโรงเรียนแล้วก็อดยิ้มไม่ได้  มันเป็นความรักแบบเด็กๆที่ออกไปในแนวชื่นชมเสียมากกว่า  น่าอิจฉาผู้ชายคนนั้นชะมัดที่ได้ผู้หญิงอย่างอาจารย์กุ๊กไก่ไป
“เอาน่า  ถึงตอนนั้นจะไม่สมหวังในความรัก  แต่ตอนนี้ไฟก็มีความรักที่ดีแล้วไม่ใช่เหรอ  เปิดใจแล้วรักษามันเอาไว้สิ”
น้ำกระโดดมานั่งข้างๆพลางเหลือบมองไปทางมือถือของผมที่ยังสั่นไม่เลิก
“ไม่ต้องมาชงเลยยัยตัวแสบ”
ป้อก
“โอ๊ย!  น้ำเจ็บนะ”
หน้างอง้ำพลางยกมือขึ้นลูบหน้าผากป้อยๆ  ผมแสร้งหัวเราะร่า  ทำวางท่าไม่สนใจสายที่โทรเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
จะบ้าหรือไงวะ  ถ้าโทรครบพันสายแล้วกูยังไม่รับ  มึงก็จะโทรสายที่หนึ่งพันหนึ่งหรือไง!
ผมน่ะ…
ไม่มีวันใจอ่อนหรอกนะ
 
วันอาทิตย์
“ไงวะไอ้ฟาย  ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
‘ไอ้กั้ง’  เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งเดินเข้ามาทักผม  ก่อนที่เพื่อนๆอีกเกือบฝูงที่มาถึงงานก่อนแบ้วจะกรูกันเข้ามา  ผมยกมือขึ้นยิ้มกว้างเตรียมจะเอ่ยทักทายกับเพื่อนๆ  แต่ความตั้งใจกลับต้องพังครืนเมื่อบรรดาฝูงหมาพวกนั้นไม่ได้พุ่งเข้ามาหาผมอย่างที่คิด  แต่กลับเดินเลยตรงเข้าไปหาน้ำแทน
“น้ำ!  เป็นยังไงบ้าง  สวยขึ้นเป็นกองเลยนะ  พวกเราเห็นเธอในการประกวดแล้ว  เก่งมากๆเลย”
“ไม่เท่าไหร่หรอก  แต่ก็ขอบใจนะที่เชียร์”
“ถ้ารู้ว่าโตมาจะสวยขนาดนี้  ฉันจีบเธอทำแฟนไปนานแล้ว”
“บ้าเหรอ  ไม่เอาน่า”
ไอ้…
ไอ้เพื่อนเหี้ย!   ไม่มีใครเห็นหัวกูเลยสักคนใช่ไหมเนี่ย
ผมเลยสนใจพวกมันแล้วหันซ้ายหันขวาหาคนที่เฝ้ารอ  ไม่แน่นะ  การได้มาเจอกับอาจารย์กุ๊กไก่อีกครั้งอาจจะเป็นพรหมลิขิตที่ต้องการให้ผมกลับเข้าสู่เส้นทางของความเป็นลูกผู้ชายตามเดิม  ถ้าผมสามารถทำให้ความสัมพันธ์นี้คบหน้าไปได้และเริ่มต้นใหม่  ผมก็อาจจะลืมไอ้หน้าหนวดได้ในสักวัน
สักวันหนึ่ง…
“มองหาใครอยู่เหรอจ๊ะ”
“อาจารย์!!”
ดวงตาแพรวพราวเมื่อหญิงสาวที่เป็นรักครั้งแรกปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า  อาจารย์กุ๊กไก่อย่างสวยน่ารักเหมือนเดิม  รอยยิ้มที่ใจดีอบอุ่นของเธอทำให้ผมนึกถึงใครบางคน
ไม่ๆๆๆ  มึงต้องไม่นึกถึงมันอีก  เลิกคิดเรื่องคนเลวๆพรรค์นั้นได้แล้ว
“ไม่คิดว่าจะได้เจอนายนะ  ฉันดีใจจริงๆ”
“ผมก็ดีใจที่ได้เจออาจารย์ครับ  กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกันเลย”
“เพราะตัวฉันเองก็ตั้งใจจะไม่ติดต่อกับนักเรียนรุ่นแรกที่ตัวเองได้สอนเหมือนกันนั่นแหละ  ฉันกลัวว่าฉันจะคิดถึงเด็กๆที่นี่จนไม่เป็นอันทำอะไร  ก็เลยไม่ติดต่อกลับ  แต่พอดีคราวนี้มีเรื่องที่ฉันต้องจัดการ  ก็เลยยตกปากรับคำมางานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ไงล่ะ”
“เรื่องที่ต้องจัดการ?”
“ไปหาที่เงียบๆนั่งคุยกันได้ไหม  ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนายอยู่พอดี”
ผมพยักหน้ารับ  แม้จะยังงงๆว่าคนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีอย่างผมกับอาจารย์มีเรื่องอะไรให้คุยกันด้วยงั้นเหรอ  แต่พอคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสที่จะให้ผมได้พัฒนาความสัมพันธ์กับอาจารย์  ความหวังอันริบหรี่ก็ส่องแสงออกมาทางปลายอุโมงค์…
เพื่อกู้ศักดิ์ศรีความเป็นชายคืนมา…
ผมต้องมีแฟนเป็นผู้หญิงให้ได้!
 
อาจารย์กุ๊กไก่พาผมเดินออกมานั่งที่สวนหย่อมด้านหน้าหอประชุม  มีเสียงดนตรีจากในงานดังมาเป็นระยะๆ  บริเวณโดยรอบมีแค่เราสองคนเท่านั้น   ผมยิ้มและพยายามหวนคิดถึงความรู้สึกเมื่อครั้งอดีต  ความปลาบปลื้มและชื่นชมอาจารย์จนหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
และครั้งนี้…ผมก็อยากให้ความรู้สึกเหล่านั้นกลับมา  ทว่ามันกลับ…
“ไม่ได้ผลเหรอเนี่ย”
พึมพำกับตัวเองเมื่อในหัวใจพบเจอเพียงแค่ความว่างเปล่า  ไม่มีความหวือหวาตื่นเต้นใดๆทั้งที่เมื่อก่อนแค่อาจารย์เดินผ่านผมก็แทบจะกรี๊ดเป็นผู้หญิงแล้ว
“มานั่งสิ”
“ครับ?”
“ตอนนี้เราไม่ได้เป็นอาจารย์กับนักเรียนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว  เพราะงั้นจะนั่งใกล้กันก็คงไม่แปลก  จริงไหม?”
“เอ่อ…”
“มาเถอะน่า”
อาจารย์กุ๊กไก่กระชากข้อมือผมให้นั่งลงข้างเธอ  เป็นการนั่งที่ใกล้กันมาก  มากจนแทบจะขึ้นไปนั่งตักอีกฝ่ายได้เลยทีเดียว
ถ้าเมื่อก่อนได้นั่งแบบนี้  เชื่อว่าผมคงหัวใจวายตายไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
“อาจารย์มีอะไรจะคุยกับผมงั้นเหรอครับ”
“อย่างแรกเลยนะ  ฉันแต่งงานแล้ว  ตั้งแต่เมื่อปีก่อน  แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังท้องด้วย”
“จริงเหรอครับ!”
ผมมองท้องอาจารย์ก่อนเป็นอันดับแรก  เพราะมันยังดูแบนราบไม่มีวี่แววของคนท้องเลยสักนิด  ไม่ใช่ว่าคนท้องจะต้องมีอะไรกลมๆเหมือนยัดลูกนิมิตไว้ในท้องเหรอวะ?
“ไม่ต้องจ้องท้องฉันจนตาจะถลนแบบนั้นหรอก  นี่มันท้องสาวนะ  ท้องแรกก็แบบนี้แหละ”
“ท้องสาว  ถ้าจำไม่ผิดผมว่าอาจารย์อายุสาม…”
โป๊ก!
“อ๊ากก  เจ็บ!”
“ปากหมาเหมือนเดิมเลยนะนายไฟ  ใครเขาให้นายพูดเรื่องอายุของผู้หญิงต่อหน้าต่อตาแบบนี้กันฮะ  มันเสียมารยาทรู้หรือเปล่า”
“ขอโทษครับ”
ก็เห็นบอกท้องสาว  ไอ้เราก็แค่คิดว่าอาจารย์พูดผิดเลยกะจะแก้ให้เฉยๆเองนะ  ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือเลยเหรอ  ยังโหดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยวุ้ย
“ปล่อยเรื่องท้องของฉันไปก่อน  มาคุยเรื่องที่ฉันอยากจะบอกนายกันดีกว่า”
“ครับ  ว่ามาสิ  ผมรอฟังอยู่”
ครืด…ครืด…
“เอ่อ…”
ครืด…ครืด…
“ฉันว่ามือถือนายน่าจะมีคนโทรเข้านะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ  ช่างมันเถอะ  อาจารย์พูดเรื่องที่ต้องการพูดมาดีกว่า  ผมอยากฟัง”
ว่าพลางหยิบมือถือขึ้นมากดปิดเครื่องและเก็บลงไปในกระเป๋ากางเกงต่ออย่างไม่ใยดี  สี่วันมานี้ไอ้หน้าหนวดไม่โทรมาเลยสักสาย  ข้อความก็ไม่มีสักฉบับ  แม้แต่ไลน์ก็เงียบฉี่  จนผมคิดว่าบางที่มันอาจจะถอดใจและเลิกคิดง้อผมแล้วก็ได้  แต่การที่จู่ๆก็โทรมาแบบนี้  คิดว่าผมจะยอมรับสายง่ายๆหรือไง
ไม่มีทางเสียหรอก!
“นายจำเรื่องแฟนของฉันที่ฉันบอกตอนมาเป็นอาจารย์ฝึกสอนที่นี่ได้ไหม  คนที่มารับฉันทุกวันน่ะ”
“จำได้สิครับ ถึงจะไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง  แต่ผมก็เห็นเขามารับอาจารย์ตลอด  มีอะไรเหรอครับ”
“คือว่านะ  ความจริงแล้วคนๆนั้นไม่ใช่แฟนของฉันหรอก  แต่เป็น…พี่ชายของฉันเอง  เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ  พอดีช่วงที่ฉันมาฝึกสอนเขาก็เพิ่งย้ายกลับมาทำงานที่ไทยหลังจากไปทำงนที่อเมริกามาตลอดตั้งแต่เรียนจบ  ก็เลยอาสามาคอยรับส่งฉันเพราะคอนโดฯที่ฉันอยู่ทางมันค่อนข้างเปลี่ยว  บวกกับตอนนั้นมีข่าวลือเรื่องที่นายแอบชอบฉันดังกระฉ่อนไปทั่วโรงเรียน  ทางผอ.ก็เรียกฉันเข้าไปพบเรื่องนี้  พอไม่รู้จะทำยังไง  ฉันก็เลยหลอกนายไปว่าคนที่มารับฉันทุกวันเป็นแฟนฉัน  เพราะคิดว่าคงทำให้นายตัดใจได้  ฉันไม่อยากมีปัญหาตอนฝึกสอนเพราะมันจะทำให้ฉันไม่ผ่านการฝึกสอนน่ะสิ”
ผมนั่งฟังความจริงจากปากอาจารย์กุ๊กไก่อย่างงงๆ  ถึงเรื่องทั้งหมดที่เธอพูดมาจะเป็นความจริง  แต่แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่เธอต้องมาเล่าให้ผมฟังตอนนี้กันล่ะ?
“ช่วงที่ฉันฝึกสอน  หลังเลิกเรียนนายจะมาขอให้ฉันสอนนายวาดรูปตลอด  ถึงฉันจะมีประชุมกับพวกอาจารย์หลังเลิกเรียน  ไม่ว่าจะนานแค่ไหนนายก็จะนั่งรอฉันในห้องศิลปะเสมอ  จำได้หรือเปล่า”
“จำได้สิครับ  ตอนนั้นผมเหมือนเด็กบ้าที่เอาแต่นั่งรออาจารย์เพียงเพราะถึงจะแค่นาทีสั้นๆ  แต่ถ้าได้อยู่ด้วยกันแค่สองคนผมก็มีความสุขแล้ว”
“ตอนนั้นนายน่ะ…คอยเฝ้าดูฉันตลอดเลยใช่ไหม  นายถึงได้รู้หมดทุกอย่างว่าฉันชอบอะไรและไม่ชอบอะไร  แถมยังคอยช่วยเหลือฉันในเรื่องที่นายสามารถทำได้อีกด้วย”
“กำลังจะบอกว่าผมเหมือนสตอร์กเกอร์ใช่ไหมครับเนี่ย”
คิดภาพเด็กที่ปัจจุบันท่าทางของโคตรห่าม  นิสัยโคตรเถื่อน  แต่เมื่อก่อนเสือกทำตัวหน่อมแน้มคอยแอบดูแลผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบสิ
คิดภาพไม่ออกสินะ  กูยังคิดถึงภาพตัวเองในตอนนั้นไม่ออกเลย
“เอาล่ะ  ขอฉันเข้าเรื่องเลยแล้วกัน  ถ้าช้ากว่านี้จะไม่ทันเวลาเอา”
“ไม่ทันเวลา?  มีอะไรเหรอครับ  หรืออาจารย์มีธุระต่อ?”
“คนที่มีธุระต้องไปต่อคือนายต่างหากล่ะ”
“หา?”
“นี่…ฟังให้ดีนะ  สี่ปีที่แล้ว  ช่วงเวลาที่นายคอยเฝ้ามองฉัน  ช่วงเวลาที่นายนั่งรอฉันคนเดียวในห้องศิลปะน่ะ  มีอีกคน…ที่เขาทำแบบนั้นเหมือนกัน”
“…”
“ทำเหมือนที่นายทำ  ตอนที่นายนั่งวาดรูปรอฉัน  ก็มีอีกคนที่เขายืนมองนายอยู่ไม่ไกล  คอยเฝ้ามองเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งรอฉันอย่างมีความสุข  มองดูความมุ่งมั่น  ความพยายามของเด็กคนนั้นตลอดหนึ่งเทอมที่ฉันมาฝึกสอน”
“ดะ…เดี๋ยวก่อนนะครับ  อาจารย์จะบอกอะไรกับผมกันแน่  ผมไม่เข้าใจ”
“ไฟ  มีคนๆหนึ่งที่แอบมองนายมานาน  แอบมองนายมาตลอด  แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร  ไม่กล้าแม้แต่จะปรากฏตัวมาทำความรู้จักกับนายเพราะนายยังเด็กเกินไป  และเขาไม่ต้องการให้เด็กที่สดใสบริสุทธิ์อย่างนายต้องแปดเปื้อน  สิ่งที่เขาทำทุกเย็นเวลามารอรับฉันคือคอยแอบมองนายเท่านั้น”
“อาจารย์กำลังจะบอกว่า…ผู้ชายที่มารับอาจารย์ทุกเยนในตอนนั้น…แอบชอบ…”
“รัก”
“…”
“พี่ชายของฉันเขาแอบรักนายมาตลอด  ตกหลุมรักนายแบบไม่รู้ตัว  แรกๆเขาแค่คอยมองนายเพื่อฆ่าเวลาในช่วงที่รอฉันเลิกงานเท่านั้น  แต่หลังจากที่เฝ้ามองทุกวัน  ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจก็ไม่ใช่แค่การแอบมองอีกต่อไป  เขาถลำลึกกับเด็กที่ไม่เคยจะได้พูดคุยกันแม้แต่คำเดียว  ตกหลุมรักเด็กที่ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ามีเขาอยู่บนโลกใบนี้”
“…”
“เขาเฝ้ามองนายมาตลอด  แม้ว่าฉันจะฝึกสอนจบไปแล้ว  เขาก็ยังแวะเวียนมาที่นี่บ่อยๆเพื่อแอบมองนาย  มองแค่นาย…ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา”
“…”
“จนวันหนึ่งที่เขามีโอกาสได้เจอกับนายตรงๆ  แต่เพราะนายไม่เคยรู้จักเขามาก่อน  ก็เลยไม่ใส่ใจทั้งที่อยู่ใกล้กันเพียงนิดเดียว  ความรู้สึกที่อัดแน่นในใจมาตลอดหลายปีทำให้เขาทำในสิ่งที่ค้านกับเรื่องที่พยายามทำมาตลอด  คือเขาจะไม่มีวันดึงนายเข้ามาแปดเปื้อนกับความรู้สึกของตัวเขาเอง  แต่แล้วก็ทำไม่ได้   เขาสะกดกลั้นความรู้สึกที่มีให้นายไม่ไหวอีกต่อไป  ความคิดด้านมืดส่งผลให้เขาลืมสิ้นทุกสิ่งและทำให้นายเป็นของเขาในคืนนั้น  คืนวันเกิดของตูมตาม”
ถึงตรงนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกแรงโน้มถ่วงของโลกดึงให้ร่วงลงไปสู่หุบเหวที่ลึกที่สุด
ในหัวหนักอึ้งและดวงตาก็พร่ามัวไปด้วยน้ำใสๆ  ริมฝีปากสั่นระริกค่อยๆเอื้อนเอ่ยคำถามออกมา
“พี่…พี่ชายของอาจารย์  ชื่ออะไรเหรอครับ…”
“เปลว”
“…”
“พี่ชายของฉันชื่อเปลว”
“ฮึก…”
“ฉันรู้เรื่องที่พี่เปลวแอบรักและแอบมองนายมาโดยตลอด ฉันเคยห้ามและขอให้เขาเลิกคิดหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เคยได้ผล   จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อนมีงานเลี้ยงส่งพี่เปลวที่บ้าน ฉันถึงได้รู้ว่าระหว่างเขากับนายมันเกิดเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ขึ้น  ฉันก็เลยไปปรึกษาน้ำ  น้ำเลยขอร้องเพื่อนในห้องของนายให้จัดงานเลี้ยงรุ่นนี้ขึ้น  เพื่อหาโอกาสให้ฉันได้เจอกับนายและบอกนายเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
“…”
“ไฟ  ฉันจะไม่บอกว่าสิ่งที่พี่เปลวทำมันผิดหรือไม่ผิด  จะไม่แก้ตัวแทนอะไรทั้งนั้น  แต่ขอร้อง  ช่วยฟังความจริงทั้งหมดจากปากพี่เปลวได้ไหม  อย่าตัดสินในสิ่งที่แม้แต่ตัวนายเองก็ยังไม่แน่ใจว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ผม…”
พูดไม่ออก
ในหัวมันตื้อไปหมดแล้ว  แถมน้ำตามากมายยังไหลลงมาไม่ขาดสายสร้างก้อนสะอื้นในคอทำให้ผมยิ่งพูดยากมากขึ้นไปอีก
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ  แอบมองงั้นเหรอ…
ตกหลุมรักมาตลอดงั้นเหรอ…
เพราะแบบนี้สินะ  เพราะอย่างนี้นี่เอง  ไอ้บ้านั่นมันถึงได้รู้จักผมดีนัก  ซ้ำยังชอบทำเหมือนว่ารู้จักกันมานาน  ทั้งที่ผมคิดว่าเราเจอกันครั้งแรกแค่ในคืนวันเกิดของไอ้ตูมตามตอนที่มันเล่นเกมเปิดซิงผมกับเพื่อนๆของมันเสียอีก
แต่ว่าไม่ใช่…
ผมอาจจะรู้จักเขาวันแรกในวันนั้น
แต่วันแรกที่เขารู้จักผม  กลับเป็นเมื่อสี่ปีก่อน…
สีปี่ที่ผมไม่เคยรู้เลยว่าบนโลกใบนี้มีเขาอยู่
“ดะ…เดี๋ยวก่อนนะครับอาจารย์  เมื่อกี้อาจารย์พูดว่างานเลี้ยงส่งอะไรเหรอครับ  เลี้ยงส่งใคร?”
“เลี้ยงส่งพี่เปลว  ก่อนที่งานประกวดพลิกฟ้าหาดาวจะเริ่มขึ้น   พี่เปลวเตรียมตัวจะกลับไปทำงานที่อเมริกาอีกครั้ง  แต่ทางกองประกวดขอให้พี่เปลวช่วยดูแลการประกวดครั้งนี้ทิ้งทวนก่อนอำลาวงการไป  พอจบงาน  พี่เปลวก็ต้องกลับไปอเมริกาอีกครั้งเพื่อดูแลงานต่อจากคุณลุงน่ะ”
“อะไรนะครับ!  ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย  เขาไม่เคยบอกผมเลยสักนิด!”
“เขาไม่มีโอกาสได้บอกต่างหากล่ะ  เพราะนายไม่รับโทรศัพท์เขา  ไม่ยอมเจอ  ไม่ยอมพูดคุยด้วยเลยไม่ใช่เหรอ”
“เรื่องนั้น…เอาเป็นว่าเขาจะไปวันไหนครับ  คุณเปลวจะต้องเดินทางเมื่อไหร่!”
“คืนนี้”
“ฮะ?!!!”
อย่าบอกนะว่าไอ้ที่บอกว่าจะไมทันเวลาเมื่อกี้คือหมายถึงเรื่องนี้?!
ปี๊นๆ!!!
“ไอ้ฟาย!  ขึ้นรถเร็วเข้า  กูจะไปส่ง”
“ไอ้ตาม!  น้ำ!”
“ขึ้นมาเร็วๆสิไฟ  จะไปสนามบินไม่ใช่เหรอ”
น้ำที่นั่งอยู่เบาะหลังตะโกนเรียกพร้อมส่งยิ้มมาให้  ไอ้ตูมตามเองก็ยักคิ้วให้ผมเหมือนกัน
“ไปสิ  ไปเปิดใจถามทุกอย่างที่นายอยากรู้และค้างคามานาน  ฉันเชื่อว่าตอนนี้พี่เปลวคงพร้อมที่จะบอกนายทุกอย่างแล้ว”
“อาจารย์…”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม  ช่วยเชื่ออาจารย์ของนายคนนี้อีกสักครั้งได้ไหม”
“…”
“ช่วยเชื่อว่าพี่เปลวรักนายจริงๆ  เขารักและจริงใจกับนายคนเดียวมาตลอด  ทุกสิ่งที่ผู้ชายที่ชื่อเปลวมี  แม้แต่ชีวิตและลมหายใจ  ขอให้เชื่อฉัน…ว่าเขาสามารถมอบมันให้นายได้อย่างไม่ลังเล”
“…”
“…”
“…”
“…”
“ครับ  ผมเชื่ออาจารย์”
ผมยิ้มให้อาจารย์กุ๊กไก่แทนการขอบคุณที่ไม่รู้จะเอ่ยมันออกมายังไงดี  ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถที่ไอ้ตูมตามสตาร์ทรออยู่ก่อนแล้ว
“พร้อมนะ  สุดหล่อจะซิ่งแล้วนะเว้ย”
“เหยียบให้มิดเป็นฟาสต์แปดไปเลยนะตาม”
“ครับผมคุณน้ำ  ไอ้ตามจัดให้!”
ไอ้ตูมตามทำท่าตะเบ๊ะรับคำของน้ำก่อนจะเหยียบคันเร่งพุ่งทะยานออกจากประตูรั้วโรงเรียนไปอย่างรวดเร็วอย่างที่มันบอกจริงๆ
“ไอ้เหี้ยตาม  ไฟแดง!  ไฟแดง! ไอ้สัตว์  หยุดสิโว้ยยย!”
กูจะมีชีวิตรอดกลับไปง้อผัวกูไหมเนี่ยยยย!



บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  ความจริงที่ว่าคุณเปลวนั้นหลงรักพี่ไฟมานานแส้นนานนนนน  ช่างโรแมนติกเสียจริงๆ  งานนี้ถึงเวลาพี่ไฟตามไปง้อผัว อุ๊บ! ง้อสุดที่รักบ้างแล้ว  อยากรู้นักว่าจะตามไปทันไหม?!
สำหรับนักอ่านคนไหนที่สั่งซื้อเรื่องนี้ไว้ บิวไดเืำการจัดส่งไปหมดแล้วนะค้า  ยังมีตกหล่นบ้างบางท่าน กำลังจะตามไปเน้อ  ขอบคุณสำหรับทุกแรงสนับสนุนค่ะ  จุ๊บๆๆๆ



ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0



บทส่งท้าย
ขอโอกาสได้เริ่มต้นใหม่
 
สนามบิน
“คุณเปลว!  คุณเปลว!”
ผมตะโกนเรียกชื่อเขาลั่นสนามบิน  วิ่งวนไปทั่วเพื่อตามหาเขาแต่ก็ไม่พบ  น้ำกับไอ้ตูมตามเองก็ช่วยกันแยกย้ายไปตามหา  เราสามคนวิ่งกลับมารวมตัวกันที่จุดนัดพบ  สภาพแต่ละคนกระเซอะกระเซิงในชุดนักเรียนมอปลาย  โชคดีหน่อยที่ตัวผมนั้นเลือกที่จะใส่ชุดพละสมัยนั้นมาแทนชุดนักเรียนกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน  ก็เลยเป็นเสื้อวอร์มแขนยาวกับกางเกงขายาวแทน  ต่างจากไอ้ตูมตามที่เป็นกางเกงขาสั้นกับเสื้อนักเรียนแขนสั้นรัดติ้วเพราะมันเอาชุดสมัยนั้นมาใส่ทั้งที่ตัวเองตัวใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมาก
แน่นอนล่ะว่าคนมองกันทั้งสนามบิน…
“เจอไหมวะไอ้ตาม”
“ไม่เจอเลยว่ะ  น้ำล่ะ”
“น้ำก็ไม่เจอเหมือนกัน  แปลกนะ  ตามเวลากว่าเครื่องจะออกก็อีกตั้งสิบห้านาที  มันต้องทันสิ  นี่ไม่ใช่ละครหลังข่าวสักหน่อย”
น้ำเริ่มหัวเสีย  ผมกดจิ้มโทรศัพท์หาเขาเป็นรอบที่ร้อย  แต่ผลของมันก็เหมือนเดิมคือมีผู้หญิงมารับสาย!
 
‘ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการฝากหมายเลขโทรกลับ…’
 
อีบ้า!  มึงเป็นเมียน้อยมันใช่ไหมเนี่ย  ไปเรียกมันมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย!
“ปิดเครื่องอ่ะ”
“แหงล่ะ  จะขึ้นเครื่องใครเขาเปิดกันวะ”
“แต่มันก็ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่หรือไง  จะรีบปิดเครื่องหาแมวอะไรเนี่ย!”
“กูไม่รู้เว้ย  กูไม่ใช่คุณเปลว!”
“โอ๊ย!  พอได้แล้วทั้งสองคน!  มัวแต่เถียงกันแบบนี้มันช่วยให้หาคุณเปลวเจอหรือไง  น้ำว่าเราไปถามที่เคาน์เตอร์ให้ดีกว่า  ให้เขาช่วยประกาศเรียกคุณเปลวให้”
“จริงด้วย  ฉลาดมากเลยน้องสาวพี่!”
ผมดึงน้ำเข้ามาจุ๊บเหม่งไปหนึ่งทีเพื่อเป็นรางวัลก่อนจะวิ่งตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือ
ไอ้หน้าหนวด  ไอ้โรคจิตวิตปริตมือปลาหมึก!  กูยังมีเรื่องคาใจอีกมากมายที่อยากจะรู้และอยากจะถามมึงตรงๆ  มึงต้องมาอยู่ตอบกูก่อนสิ  ต้องพูดทุกอย่างให้กูฟังจากปากของมึงเอง!
“ตามนี้นะครับคุณคนสวย  ช่วยผมที”
หลังจากที่อธิบายเรื่องพอสังเขปให้ทางพนักงานที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ฟังเสร็จผมก็ยกมือไหว้เขาเพื่อขอร้องอีกที  น้ำกับไอ้ตูมตามเองก็ช่วยอีกแรง
“ขอร้องนะคะพี่  ช่วยพี่ชายฉันด้วยนะคะ”
“นะครับพี่สาวสุดสวย  ช่วยเพื่อนผมหน่อยนะ  แค่ประกาศตามผัวให้มันเฉยๆเอง  นะครับๆๆ”
“ไอ้เหี้ยตาม!”
ผมแหวใส่เสียงดังกับคำว่า ‘ผัว’ ที่มันพูดออกมาแบบเต็มปากเต็มคำ
บางทีมึงก็ไม่ต้องบอกเขาหมดเปลือกขนาดนั้นก็ได้มั้ง!
“คะ…แค่ประกาศเรียกชื่อก็พอใช่ไหมคะ  งั้นรอสักครู่นะคะ  ดิฉันจะประกาศให้เดี๋ยวนี้  แต่อีกแค่ห้านาทีเครื่องก็จะออกแล้ว  ฉันไม่แน่ใจว่าเขาจะยังอยู่ด้านในหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรครับ  ผมเชื่อว่าเขาจะต้องได้ยิน”
เสียงที่ผมต้องการจะส่งไป…
ผมเชื่อมั่นว่าเขาจะต้องได้ยินมันอย่างแน่นอน!
“ขอโทษนะครับ  ผมขอประกาศเอง”
“อ๊ะ!  คุณคะ  ไม่ได้นะคะ”
“น้ำ  ไอ้ตาม  ช่วยหน่อย”
สิ้นคำสั่งของผม  น้ำกับไอ้ตูมตามก็ช่วยกันเข้าไปล็อคตัวพนักงานประชาสัมพันธ์เอาไว้  ส่วนผมก็แย่งเอาไมค์มาถือไว้เองก่อนจะกรอกเสียงใส่ลงไปทันที
[ไอ้หน้าหนวด!  คุณได้ยินเสียงของผมไหม!]
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็หยุดชะงัก  คนที่รู้ว่าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อยู่ไหนพากันหามามองทางผม  ส่วนคนที่ไม่รู้ก็หันซ้ายหันขวาหาลำโพงที่กระจายเสียงเพื่อฟังอย่างสนอกสนใจ
[ผมรู้เรื่องทุกอย่างแล้วนะ  ผมรู้แล้วว่าความรู้สึกที่คุณให้ผมมามันมากมายแค่ไหน  ชาตินี้ทั้งชาติหรือแม้จนผมตายไปเกิดใหม่ชาติหน้าก็คงไม่มีใครที่จะรักผมเท่าคุณอีกแล้ว  และผมเองก็ไม่ต้องการให้ใครมารักผมอีกแล้วด้วย!]
ผมมองนาฬิกาข้อมือสลับกับประตูขาเข้าอย่างมีความหวัง
ออกมาสิคุณเปลว  กลับมาหาผมสิครับ…
[ผมขอโทษที่เอาแต่ใจ  ขอโทษที่ไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรและเชื่อแต่ความคิดของตัวเอง  ขอโทษที่ไม่เคยรู้เลยว่าที่ผ่านมาคุณอดทนกับเด็กดื้ออย่างผมมากมายขนาดไหน   ผมขอโทษ…  แต่อย่าลงโทษผมด้วยวิธีนี้เลย  อย่าไปจากผม  อย่าจากกันไปโดยที่เรายังไม่เข้าใจกัน  อย่าปล่อยให้เรื่องของเราต้องจบลงแบบนี้  ผมยังไม่อยากให้มันจบ  ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ  คุณเปลว…กลับมาหาผมเถอะนะครับ  กลับมาใช้คำว่าเราร่วมกันเหมือนเดิมนะ]
10…
หัวใจแทบแตกสลายเป็นผุยผง  เข็มวินาทีที่จะต่อเวลาให้ผมค่อยๆเดินต่อไปทีละนิดๆ
9…
พระเจ้า…ถ้าหากว่าผมยังพอมีบุญที่เคยช่วยไม่ให้หมามันกัดหลงเหลืออยู่บ้าง  ขอให้เขากลับมา  ขอให้เสียงที่ผมส่งไปดังถึงเขาที
[กลับมาเถอะครับ…]
“ไฟ…”
[ได้โปรด…]
“ไอ้ฟาย…”
[ผมขอโทษ…]
3…
[ผมยอมแล้ว…]
2…
[ผม…]
1…
[รักคุณนะครับ]
…………………………….
…………………..
……………
“เที่ยวบินไปอเมริกาออกแล้วค่ะ  เสียใจด้วยนะคะ”
พนักงานที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเอ่ยพูดกับผมเสียงเศร้า  ผู้คนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็พากันส่งเสียงให้กำลังใจผมกันถ้วนหน้า
“ไฟ…”
“ฮะๆ   ไฟคิดอยู่แล้วล่ะว่าคงไม่ทัน  ไฟบ้าเองที่คิดว่าการต่อเวลาห้านาทีมันจะสร้างปาฏิหาริย์ให้ได้  ไฟบ้าเอง  บ้าเอง…”
“อย่าร้องสิไฟ  ไม่ร้องนะ  โอ๋ๆ”
“คุณไฟ!!!”
เสียงเรียกคุ้นเคยดังขึ้น  ผมรีบหันไปทางต้นเสียงที่ยืนห่างออกไปพอสมควร
คุณเปลวในสภาพเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยออกนอกกางเกงและผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเหมือนคนผ่านสมรภูมิรบมามองผมราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
ไม่ใช่ฝันใช่ไหม
เป็นเขาจริงๆ…
“คุณเปลว!”
ไม่สนอะไรทั้งสิ้น  ผมออกตัววิ่งเข้าไปหาเขาเหมือนที่เขาเองก็วิ่งตรงเข้ามาหาผมเช่นกัน  เราต่างโผเข้ากอดกันและกันอย่างแนบแน่น  คุณเปลวกอดและอุ้มผมขึ้นจนตัวลอย  ความคิดถึงมากมายทำให้ผมก้มหน้าลงไปจูบเขาอย่างไม่แคร์สายตาของใครทั้งนั้น
หลังจากที่จูบกันอย่างเนิ่นนาน  ผมก็ผละริมฝีปากออกมา  สองมือวางบนบ่าแกร่งไว้เพราะยังถูกเขาอุ้มอยู่  ก้มหน้ามองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเศร้าๆ  ขณะที่เขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมา
“คุณ…ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องเหรอครับ”
“พอดีผมมัวแต่คิดเรื่องของคุณไฟก็เลยลืมเอาตั๋วมา  แถมยังลืมกางเกงใน  นาฬิกา  นู่นนี่นั่นอีกมากมายก็เลยต้องกลับไปเอา   คิดไม่ถึงว่าพอกลับมาอีกทีจะได้ยินคุณถ่ายทอดสดความรู้สึกที่มีต่อผมให้คนทั้งสนามบินฟังแบบนี้”
ใบหน้าสูบฉีดไปด้วยความอายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเพิ่งบ้าระห่ำทำอะไรลงไปบ้าง  แต่พอมองไปรอบๆแล้วเจอสายตากรุ้มกริ่มของผู้คนในสนามบินที่มองมาเป็นตาเดียวก็รู้ได้ทันทีว่า…
มึงอายตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะไอ้ไฟ
“เมื่อกี้คุณบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยอยากจะถามอยากจะได้ยินจากปากของผมเองมากมายเลยใช่ไหมครับ  ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เราคงต้องใช้เวลาคุยกันทั้งคืนแล้วล่ะมั้ง”
“คิดอีกที…ไว้คุยกันพรุ่งนี้ก็ได้นะ  ผมไม่รีบขนาดนั้น”
“ไม่เอาน่า  ผมไม่อยากปิดบังอะไรอีกแล้ว  เราไปคุยกันคืนนี้เลยดีกว่านะครับ”
“ก็บอกว่าไม่เอา  เฮ้ยยย  ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ!”
ร้องเสียงดังพลางดิ้นไปมาเมื่อร่างสูงเปลี่ยนท่าจากที่อุ้มผมในตอนแรกเป็นอุ้มพาดบ่าแทน
“คุณตูมตาม  ผมฝากส่งคุณน้ำกลับบ้านด้วยนะครับ  ส่วนคุณน้ำ...คืนนี้คุณไฟคงไม่กลับบ้าน  แต่ไม่ต้องห่วง  ผมจะดูแลเป็นอย่างดีเลย”
“รับทราบค่ะ  น้ำฝากไฟด้วยนะคะคุณเปลว  ถ้าดื้อล่ะก็…ยินดีให้ลงโทษตามแบบฉบับของคุณเลยค่ะ”
“น้ำ!  ทำไมพูดแบบนี้เล่า!”
แม้แต่น้ำก็ทำร้ายผมเหรอเนี่ย  ทำไมไปๆมาๆทุกคนถึงมาอยู่ข้างไอ้หน้าหนวดกันหมดเลยล่ะ!
“ฝากเพื่อนรักของผมด้วยนะครับ  ถึงมันจะปากหมา  สกปรก ซกมก  ทำเหี้ยอะไรไม่เป็นนอกจากเห่าไปวันๆ  แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ผมรักมาก  และผมไม่อยากเห็นเพื่อนผมต้องเสียใจอีก”
“ผมรับรอง  คุณไฟจะไม่มีทางเสียใจหรือเสียน้ำตาเพราะผมอีกเด็ดขาด  ถ้าผมผิดคำพูด  คุณกระทืบผมได้เลย”
“คุณบอกเองนะครับ  ถ้างั้นฝากเพื่อนผมด้วย”
“ไอ้เหี้ยตาม!  ทำไมพูดจาเหมือนจะส่งกูเข้าห้องหอแบบนั้นวะ  กูจะกลับกับมึง  เอากูไปด้วย!”
เพี๊ยะ!
“!!!”
“เงียบแล้วยอมไปกับผมดีๆเถอะนะครับ  ดูซิ  บั้นท้ายของคุณเสียงยังฟิตอยู่เลย  แสดงว่าพร้อมรบคืนนี้แล้วสินะ”
“พูดบ้าอะไรเนี่ย!”
หมดคำจะบรรยายแล้วจริงๆ
คงไม่ต้องให้สาธยายต่อหรอกนะว่าหลังจากขึ้นรถไปกับมันจนกระทั่งถึงโรงแรมผมโดนอะไรไปบ้าง
เอาเป็นว่า…
เสียว…!!!
สุดๆไปเลยแล้วกัน
 
-         จบ     -



บับเบิ้ลบิวชวนคุย :


มาอัพบทส่งท้ายแล้วนะคะ  ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาจนถึงบทสุดท้ายน้า  แต่ถ้าอยากเต็มอิ่มจริงๆโหลดอีบุ๊คมาอ่านจะเต็มอรรถรสกว่าจ้า  จุ๊บๆๆๆ





ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อ่านรวดเดียวเลย  สนุกมากค่า

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอ้ยยยยย ไฟจ๋า อายไหม อิอิ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
สนุกๆ อ่านรวดเดียวจบเลย //เข้างานเช้าอีกด้วย
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ ของคุณเปลว - นายไฟ นะครับ ^^

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
จบง่ายไปสำหรับเรานะ อ่านแล้วมันยังคาใจหลายๆเรื่องเลยไม่ค่อยอิน

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
 :hao7: :hao7: :hao7:
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ miwmiwzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คือควรสงสารไฟมั้ย 55555

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ิbenz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ yokibear

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สรึกมากค่ะ ขอบคุณนะคะ จะตามหนังสือค่าาา nccccc!!

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รักกันน่ารักดี แต่อยากรู้เรื่องบาร์บี้กับคุณพิม แล้วก็เรื่องพนันคืนนั้นมากกว่านี้จัง ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด