เหมือนตุลย์จะหอบเหนื่อย มือมันพยายามควานหากระดาษ กว่าจะยื่นถึงผม ผมก็กลืนหยาดรักของมันไปหมดแล้ว เก็บรายละเอียดเรียบร้อย จนมันได้แต่อึ้ง
“รสชาติเป็นไงมั่งวะ”
“เลี่ยน เค็ม แหวะ” ผมทำเสียงอีเดียจสุดๆ
“แล้วกินทำไม”
“แฟนเซอร์วิสไง” ผมบอกมันยิ้มๆ แล้วก็เอาลิ้นออกมาเลียที่ขอบปาก เผื่อจะมีร่องรอยหลงเหลือ
“พอแล้วเนอะ นอนเถอะว่ะ” ผมชักชวน
“อะไรแค่เนี้ยเหรอ กูยังไม่อยากพอเลย”
“ต่างคนก็ต่างอยากรุกนี่นา ตกลงกันไม่ได้ก็อย่าทำเลย”
“แต่กูอยากต่อนี่นา” ตุลย์มันทำสีหน้าจริงจัง ซวยแล้วไง กูว่าสีหน้าแบบนี้อันตรายว่ะ
ผมลุกขึ้นขึ้นแล้วพลิกกายวิ่งหนีมัน แต่ตอนนี้เสื้อผ้าไม่เหลือติดกายสักตัวแล้วจะให้ไปไหนได้ ผมก็เลยวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในห้องค่อยๆ ก้มหยิบเสื้อผ้าตัวเอง แล้วก็ วิ่งหนีไปที่ประตูห้อง แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูออกได้ร่างใหญ่กว่าผมก็ตามมาทันรั้งเอวผมไว้แน่นจนขยับไม่ได้ แน่จริงมึงเอาลีลามาสู้ดิวะ แม่งขี้โกงใช้กำลัง กูตัวบางกว่าอยู่แล้วนี่ ผมโหยหวนได้เพียงในใจ แต่สิ่งที่บอกมันไปมีแต่เสียงอ้อนวอน
“อย่าทำกูเลยตุลย์” ผมอ้อนวอนขณะที่ร่างหนาเบียดร่างมาชิดกับผมที่ติดแหง็กกับประตูไปไหนไม่รอด
“ไม่ได้ ก็มึงอยากยั่วยวนกูก่อน” มันตอบกลับมา
“กูยั่วมึงตอนไหน”
“ทุกตอน!” มันเอาที่ไหนมาพูด!! ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยจริงนะครับ
เพราะความที่ร่างเปลือยเปล่า ตุลย์มายืนซ้อนหลังอยู่ผมก็เลยรู้สึกบางอย่างที่พองตัวอยู่เบื้องหลัง เพิ่งจะแฟบไปแล้วจะพองอะไรเร็วนัก ผมอยากร้องไห้เมื่อนึกถึงขนาดของบางอย่างที่อยู่ข้างหลัง
แล้วตอนนี้มันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง กดไหล่ผมกับประตูห้องนอนมัน แรงเยอะสุดๆ พอรู้ว่าคราวนี้มีแววเสียเอกราช ก็ไม่อยากจะยอมท่าเดียว ดิ้นรนแต่ก็ดิ้นไม่หลุด ส่วนมันก็เอาแต่จูบเส้นผม ใบหู แถมยังเอาลิ้นออกมาเลียที่ใบหูผมอีก อึ๋ย... จั๊กจี้ มือคลึงเคล้นที่ยอดอกจนแข็งเป็นไต แล้วผมก็พลอยมีอารมณ์ไปกับมันด้วยแล้วสิ มันจูบไหล่ผมลงไปจนกระดูกสันหลัง มือก็ไปสนใจปรนเปรอแก่นกายของผมเป็นที่เรียบร้อย หน้ากระตุ้นด้วยมือหลังกระตุ้นด้วยปาก นอกจากนี้ยังรู้สึกถึงก้อนเนื้อที่มาเสียดสีอยู่ที่แก้มก้นอีก เสียวใจแทบขาดรอบที่สอง ในที่สุดสิ่งแปลกปลอมก็แทรกลงไปตามร่องสวาททางด้านหลังของผมเข้าจนได้ หนึ่งนิ้ว เสียวแปล๊บๆ เจ็บ...จนต้องซื้ดปากอย่างอดไม่ได้ พยายามจะดิ้นอีกแต่ก็ยิ่งถูกกดหนักเข้าไปอีก ไอ้บ้านั่นก็พยายามเพิ่มจำนวนนิ้วต่อไปอีกจนผมอยากหยุดหายใจแล้วแหละตอนนี้ ได้แต่กลั้นเสียงครางแล้วก็พยายามอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
“หยุดเถอะว่ะ กูเจ็บนะ”
“แต่กูอยาก” เออกูรู้แล้วแหละ ฮือๆ
จากนิ้วก็เปลี่ยนเป็นของจริงซึ่งเทียบกันไม่ได้เลยกับตอนแรก ก็แทบจะแทรกไม่เข้า ผมได้แต่กัดริมฝีปากล่างจนไม่รู้ว่าจบเกมนี้แล้วมันจะช้ำหรือเป็นแผลไปเลยไหม ถึงจะโอดครวญอย่างไรมันก็คงหยุดไม่ได้แล้วแหละตอนนี้ ผมเองที่รุกมาตลอดก็เข้าใจดี คนข้างหลังก็ยังมีความพยายามจนถึงขีดสุด ความเปียกชื้นด้านหน้านิดหน่อยก็ยังเองไปป้ายด้านหลัง รั้งใบหน้าผมไปจูบไล่ความเจ็บ แล้วก็กดสะโพกลงมาย้ำๆ จนในที่สุดมันก็ ผ่านไปได้.... แล้วผมก็เลยน้ำตาร่วง ตอนนี้จากกลั้นเสียงครางกลายเป็นกลั้นสะอื้นไปแล้วต้องเอาปากกัดหลังมือตัวเองแทน ตุลย์นิ่งไปแป๊บนึงก่อนจะค่อยๆ ขยับตัว และช่วยปรนเปรอให้ด้านหน้าต่อ
พอเริ่มปรับตัวได้ อะไรๆ ก็เริ่มดีขึ้น จากเจ็บก็เริ่มเสียวซ่าน จนแอ่นตัวตาม ตอบรับกับจังหวะการเคลื่อนกายของมันโดยอัตโนมัติ
“ฟิตโคตรอ่ะมึง” ยังมีหน้ามาบอก ของมึงใหญ่มั่งเหอะ ทำกูเจ็บจะตายห่า ฮึกๆ กัดหลังมือต่อ พยายามไม่ร้อง ไม่คราง แต่พอเจอแรงกระแทกแต่ละทีก็เผลอหลุดก่อนจะปิดปากตัวเองเก็บเสียงทุกที แต่อีกฝ่ายก็ยังเอาแต่ใจตัวเองต่อไม่เลิก มันจับมือผมออกจากปาก
“ร้องดิ กูอยากได้ยิน” ไม่เอา กูไม่อยากให้มึงรู้ว่ากูรู้สึกดีโว้ย กูถูกข่มเหงกูไม่ได้เต็มใจเลยมึงรู้ไหมเนี่ย บอกตัวเอง แต่ก็ยังทนให้มันทำต่อไปอีกโดยไม่ได้ขัดขืนอะไรแล้ว ตุลย์ป่ายนิ้วมือมาตามใบหน้าของผมแล้วแตะที่ริมฝีปาก ไล้ไปตามริมฝีปาก ผมก็เลยงับไว้อยากจะกัดให้สะใจแต่ไม่ได้ทำ เพียงแค่ขบเบาก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดบรรเทาความรู้สึกปวดมวนในท้องน้อยตอนนี้
แล้วหลายๆ อย่างก็ไปตามจังหวะของมัน จากยืนก็ลงไปกองกับพื้น สงสัยเสร็จไปคนละรอบพอมาต่ออีกทีเลยนาน ท้ายสุดผมก็นอนหงายลงกับพื้นห้อง ปล่อยให้ตุลย์เป็นฝ่ายนำไป ตอนนี้จะรุกหรือรับช่างมันแล้ว รู้แต่ว่า.... มันมีความสุขมากเลย ทั้งห้องได้ยินแต่เสียงครางของเราร่วมกัน ก่อนที่ผมจะเข้าเส้นชัยไปก่อนตามด้วยตุลย์ที่มันปล่อยใน ... ผมก็หมดแรงนอนแผ่ ส่วนมันก็ซบกายลงมาทับผม
หนักโว้ย!! แต่ไม่ได้ผลักออก
พักเหนื่อยครู่หนึ่งก่อนที่ตุลย์จะอุ้มผมไปนอนสบายๆ อยู่ที่เตียง พอตื่นมาก็ต่ออีกหลายยกจนผม แทบคลานกลับบ้าน
ประสบการณ์เกมรับ ครั้งแรกของผมโคตรน่าประทับใจ...
ทั้งเจอของใหญ่ ไม่ใช้สารหล่อลื่น ไม่สวมถุงยาง หลั่งใน มีอะไรเลวร้ายกว่านี้ไหม?
ท้ายสุด สิ่งที่ทำให้ผมเจ็บใจที่สุด คือคำพูดของตุลย์คำสุดท้ายที่บอกกับผมตอนที่มันขับรถมาส่งผมที่หอคือ
“ถ้ามึงท้อง มึงต้องบอกกูนะ!” กูจะท้องให้มึงได้เหรอ ไอ้สาด
จะมีใครชั่วกว่านี้มีอีกไหม?
อะไรที่เป็นมัน ที่ผมเคยชอบ ตอนนี้ผมเกลียดทั้งหมด!!
เมื่อเวลาแห่งห้วงอารมณ์หมดลงสิ่งที่ตามมาคือสิ่งที่ผมบอกกับตัวเอง “รักสนุก ไม่ผูกพัน” ทุกอย่างจบลงแล้ว ผมบอกตัวเองอย่างนั้น ก็มันบอกเองว่า “ถ้ายอม” ก็จะล้างหนี้ติดค้างนั่นทั้งหมด ต่อจากนี้มันคงไม่มาตามกวนใจอีกแล้วมั้ง ผมบอกตัวเอง ความรู้สึกโหวงๆ ในใจที่เกิดขึ้นคืออะไรกันนะ แค่ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนนี่มันทำให้ผมฝังใจได้เชียวหรือ อยากจะหัวเราะตัวเองให้ฟันหัก แต่เสียงหัวเราะที่ออกมาในตอนนั้นทำไมฟังคล้ายเสียงสะอื้นเข้าไปทุกที
หลังจากนั้นผมก็ไข้ขึ้น เลยไม่ได้ไปเรียนหลายวัน และกว่าจะมาร้องเพลงก็ผ่านไปอาทิตย์กว่าแล้ว ทั้งๆ ที่ผมคิดว่าทำใจเรื่องมันได้แล้ว ขณะที่ผมขึ้นเวทีไปร้องเพลงนั้น สายตาก็ไปกระทบกับกลุ่มคนที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าสุด มันเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพวกไอ้ตุลย์ มันจะโผล่มาทำไมตอนนี้วะ
ถึงตอนนี้ผมตกใจแล้วก็ประหม่าซะจนเกือบไม่มีสมาธิร้องเพลงเอาแต่จ้องหน้าไอ้ตุลย์ที่ปากคุยกับเพื่อนแต่ตามันมองมาทางผมเกือบตลอดเวลา เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ อย่าไปกลัวมันสิวะ มันอาจจะแค่มากินเหล้าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลยก็ได้ บอกตัวเองอย่างนั้น ทั้งๆ ที่อดใจเต้นไม่ได้ พอร้องเพลงจนหมดคิวผมก็รีบจ้ำอ้าวเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ
ล้างตาตัวเอง เมื่อกี้นี้กูตาฝาด เมื่อกี้นี้ไม่เห็นอะไร
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกเข้ามาและผมหันไปมอง ก็พบว่าโจทก์เดินเข้ามาพร้อมเพื่อนของมันคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนมันเดินสวนไปที่โถฉี่ แต่ตุลย์ยืนขวางประตูห้องน้ำ ผมเดินสวนกำลังจะเดินหนีออกไป
“เดี๋ยวสิมึง อย่าเพิ่งไป” มันอาจจะเรียกผม แต่เรื่องอะไรผมจะอยู่ เร่งฝีเท้าจะออกไปให้ได้แต่มันกลับรั้งแขนผมไว้กระชากจนข้อมือเกือบหลุด
“กูเรียกไม่ได้ยินหรือไง” มันถามท่าทางจะอารมณ์ไม่ดี
“เรียกกูเหรอ กูจะไปรู้ได้ไง กูไม่ได้ชื่อมึงซะหน่อย” ผมกวนตีนมันกลับไป
มันยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่ง “เหรอ งั้น..ที่รักอย่าเพิ่งไป อยู่คุยกันแป๊บ” อะไรของมันวะ อยู่ดีก็ทำเสียงหวาน
“แค่นอนด้วยกันคืนเดียวไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนรักกันหรอกนะ เรียกว่าคู่ขา หรือคู่นอนชั่วคราวน่าจะถูกกว่า”
“ถ้ามึงต้องการอย่างนั้นกูก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ แต่บอกตามตรงว่ากูนึกติดใจมึงขึ้นมา อยากเป็นขาประจำ บอกกูทีว่ากูควรจะต้องทำยังไง” หึ! ติดใจเหรอ เจริญล่ะ
“สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือทำใจ เพราะในเมื่อหนี้ติดค้างของเราไม่เหลือ กูก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลับไปหามึงอีก ปล่อย”
“ก็เรื่องเก่าจบ เรามาสร้างเรื่องใหม่ก็ได้นี่” มันบอกพลางยื่นกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้ผม มันเป็นเช็คระบุจำนวนเงิน ห้าหลัก
“จะให้กูเหรอ ให้กูทำไม”
“ทดแทนที่กูทำให้มึงไปเรียนก็ไม่ได้ มาทำงานก็ไม่ได้ตั้งหลายวัน” เออ รู้ดีจริงมึง ที่กูต้องเป็นอย่างนั้นก็เพราะมึงใช้กำลังข่มเหงกูโดยที่กูไม่เต็มใจ เอาแต่ใจตัวเอง แล้วก็เรียกร้อง ตักตวง เห็นแก่ได้ โดยไม่นึกถึงสภาพสังขารกูบ้างเลยไม่ใช่เหรอไงวะ!
“ขอบใจ กูไม่เอา”
“เอาไปเถอะ กูรู้ว่ามึงต้องการใช้เงิน ถือว่าเป็นทิปที่บริการดี วันหลังเผื่อเรียกใช้กันใหม่” พูดเหมือนกูขายตัวเลยนะมึง!
“หุบปากหมาๆ มึงไว้เหอะ” ผมตวาด เลือดขึ้นหน้าแล้วเหวี่ยงกำปั้นหวังต่อยปากคนตรงหน้าให้ได้สักหมัด แต่อีกฝ่ายยกมือขึ้นมารับกำปั้นผมไปกำไว้หน้าตาเฉย ไม่สะดุ้งสะเทือนอะไร
“เฮ้ยมีเรื่องอะไรกันวะตุลย์” เพื่อนมันร้องถามขึ้นมาเห็นว่าเราสองคนเริ่มจะวางมวยกันแล้ว จะเข้ามาช่วย หมาหมู่หรือไง เอาดิ กูกลัวที่ไหน
“ไม่มีอะไรหรอกเดฟ แต่ผัวเมียทะเลาะกันนิดหน่อย”
อะไรนะ! เมื่อกี้มันว่าอะไรนะ ปกติแล้วใครจะมองหรือเข้าใจยังไงผมไม่สนหรอกนะเรื่องรสนิยมทางเพศของผมเนี่ย แต่ทำไมพอได้ยินคำๆ นี้จากปากมันแล้วผมหน้าร้อนผ่าววะ มันคงเป็นเพราะถ้ากับคนอื่น ยังไงผมก็ดูเป็นรุกเสมอ แต่กับคนตัวโตตรงหน้ามองยังไง ผมก็ต้องเป็นฝ่ายเป็นเมียมันมากกว่าไง พูดอะไรของมึง มึงรู้ไหมว่าทำกูอาย...
“เชี่ยนี่ ปากดี” ผมด่ามันเบาๆ มันจับมือผมที่กำมือให้ลดลงมาอยู่ข้างลำตัวแล้วกุมไว้
“เออ งั้นคุยกันดีๆ กูไม่รบกวนแล้ว” เข้าใจอะไรง่ายชิบหายไอ้นี่! เพื่อนมันว่าแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป แล้วปล่อยให้ผมอยู่กับไอ้ตุลย์ตามลำพัง มึงกลับมาเถอะกูไม่อยากอยู่กับมันสองต่อสอง เดี๋ยวมันเกิดอารมณ์เปลี่ยวขึ้นมากูจะทำไง ยังไม่ทันคิดได้นาน มือที่ถูกเกาะกุมก็ถูกกระชาก
“เดี๋ยวโว้ยจะพากูไปไหน” มันลากผมเข้าไปในห้องส้วมแคบๆ ของร้านอาหาร แล้วล็อกประตู
สถานการณ์ย่ำแย่ยิ่งกว่าเก่าอีก ผมถอยหลังจนติดกำแพงห้องน้ำ แต่อีกฝ่ายก็ยังขยับตามมาเอาขาเบียดกับท่อนขาผม กลัว... ว่ะ กูยังไม่หายเจ็บเลย มึงจะ “ทำ” อีกแล้วเหรอเนี่ย!!
“อย่านะโว้ยกูจะร้องให้…” ผมโวยวายแต่มันเอามือปิดปากผมไว้
“น่า.. กูจะเปลี่ยนเสียงร้องของมึงเป็นเสียงครางเอง” มันบอกด้วยสายตาเจ้าชู้
ผมกัดริมฝีปากแน่นเงยหน้าขึ้นมองหน้ามัน และบอกตัวเองว่า...
ผมเกลียดทุกอย่างที่เป็นมัน!
ทั้งสายตาคมที่ทอดมองลงมาสะกดผมให้ขยับตัวแทบไม่ได้ ศีรษะได้รูปโน้มต่ำลง ลมหายใจที่เป่ารดทำให้หายใจแทบไม่ออก มือข้างหนึ่งยึดปลายคางไม่ให้หันหนีริมฝีปากหยักสวยที่เคลื่อนลงมาปิดก่อนจะแทรกเรียวลิ้นลงมาเพื่อแลกเปลี่ยนความหวานของกันและกัน เกลียดอ้อมแขนแข็งแรงที่โอบร่างผมเข้าไปชิด ก่อนจะซุกซนเปะป่ายมือไปตามลำตัวใต้เสื้อยืดตัวบาง จนผมปั่นป่วนท้องน้อย เกลียดลีลารักที่มันกำลังจะปรนเปรอให้ต่อไปนี้ ที่มันทำให้ผมเผลอไผลไปกับความสุขอันนั้นจนลืมได้ทุกสิ่งทุกอย่าง…
เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ผมเกลียดมากกว่าตัวมัน
คือตัวผมเอง
ทำไมกูไม่ขัดขืนมันวะ!
...........
เรอื่งของพี่ตุลย์มีลงที่กระทู้นี้ สองตอนนะคะ
ซึ่งตอนนี้นิแยกเอาเรื่องนี้ไปเปิดกระทู้ใหม่แล้ว เพราะว่า กลัวว่าตอนพิเศษมันจะทำกระทู้นี้รกๆ
แต่นิไม่ได้ลบเนื้อหาออกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25704.newอย่าถามนะคะ ว่านายเอกของตุลย์ชื่ออะไร เวลาเล่า ใช้คำว่าผมทั้งตอน ฮาๆ เป็นความลับราชการค่ะ อิอิ
เนื้อเรื่องนี้เป็นของเทอมที่แล้วค่ะตอนนั้นตุลย์อยู่ปีสอง กันย์ยังอยู่ม.6 อยู่เลยค่ะ
ตอนนี้ตุลย์อยู่ปีสาม
และอย่าถามว่าคู่นี้เป็นไงต่อ เพราะไม่ตอบแน่ๆ (พล็อตเบาโหวง)
ขอเขียนกันย์-กิ๊งคู่เดียวให้รอดก่อนนะคะ คู่อื่นค่อยว่ากันเถอะค่ะ แค่ ตอนนี้ตอนเดียวก็เหนื่อยโฮกแล้ว
............
PoP~Pu อ่านะ รอก่อนค่ะใกล้แล้ว ขอไปเรียงพล็อตแป๊บ มัวไปหวิวๆกับตุลย์อยู่นาน อิอิ ขอบคุณมากค่ะ เรื่องรูปโดนใจมาก กึนซอกๆๆๆๆๆ
TeuyHom ไม่น่าถามเลย ก็ไม่พูดแต่สายตามองที่ใครล่ะ คริคริ
คนของเธอ เสิชเอาในกูเกิ้ลค่ะ หล่อๆ ทั้งนั้น
ReiiHarem ออนทอปอีกนานแหงๆ อิอิ
Asuke ชอบกิ๊งๆๆๆๆ
ZakeiHarha ใกล้แล้วค่ะ อิอิ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
Rhythm รอต่อไปค่ะ
nidnoi นายเอกค่ะ ถ้าไม่มีพลิกกลับนะ เจ้าสาวที่กลัวฝน? นั่นสินะ