DLC
ตอนที่ 01
วันเด็กของผู้ใหญ่
เป็นเพราะตื่นตอนเกือบห้าทุ่มกว่าจะยอมนอนก็เกือบหกโมงเช้า กันต์รู้สึกได้เลยว่าร่างกายยังคงอ่อนเพลียเพราะเหนื่อยสะสมมาตลอดหลายวัน ฟื้นตัวอีกครั้งก็โน่นเลยบ่ายโมงครึ่ง
ผู้ชายที่คลื่นไส้เพราะสำลักความสุขหันไปมองแฟนเด็กข้างตัว มองชีวิตคู่ที่เริ่มต้นได้สักพักแล้วแต่เขากลับรู้สึกเหมือนเพิ่งเห็นอีกฝ่ายนอนเตียงเดียวกันเป็นครั้งแรก ผ้าห่มที่เคยร้อนจนน่ารำคาญระหว่างจ้ำจี้ในตอนนี้ได้รวมร่างกับลูกลิงจนเป็นดักแด้ กันต์เขี่ยแก้มคนหลับเบา ๆ ก่อนจะก้มลงไปจุ๊บพลางคิดว่าถ้าเชร์เป็นคนเงียบ ๆ พูดจาไพเราะรื่นหูทุกคำ จากตอนนั้นจนถึงตอนนี้กันต์กวินทร์จะเป็นอย่างไร?
จะรักได้มากขนาดนี้ไหม หรือแค่เฉย ๆ จนไม่มีความสนใจ เรื่องนั้นเขาคิดไม่ออกเลย
คว้าผ้าขนหนูลุกขึ้นไปอาบน้ำเพราะอยากโชว์ความเป็นพ่อบ้านเต็มแก่ หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็มองวัตถุดิบในตู้เย็นที่ทำให้ลำบากใจเหลือเกินว่าจะทำอะไรเป็นมื้อเช้าควบเที่ยงดี ก็รู้ว่าเด็กคนนั้นอยู่ง่ายกินอะไรก็ได้ขอแค่อิ่ม แต่ด้วยความเป็นแฟนเขาก็อยากทำให้มันพิเศษหน่อยอย่างน้อยก็ทางรสชาติ ว่าแต่จะทำอะไรดีล่ะ? สำหรับคนปากแตกเสต็กก็กับไก่ทอดคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสักเท่าไหร่ งั้นเป็นข้าวต้มเห็ดดีไหม นอกจากจะกินง่ายแล้วยังเพลย์เซฟสำหรับคนทำอาหารไม่เก่งด้วย
“หาววววววววววววววววววววววววววววว”
เสียงบิดขี้เกียจเข้ามาถึงห้องครัวได้แสดงว่าซิมบ้าน้อยคงฟื้นตัวอย่างเต็มที่แล้ว กันต์คนข้าวต้มในหม้อ ระหว่างนั้นก็เปิดยูทูปเพื่อย้ำให้แน่ใจว่าที่ทำไปทั้งหมดมันถูกต้องไม่มีอะไรผิดพลาดไป บอกตามตรงว่าไม่อยากเห็นเชร์ทำหน้าเหยเกแล้วพูดว่า ‘พี่ นี่มันหมาไม่แดกนะ’ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงอยากผูกคอตายมากกว่าจนก้มหน้าฟังจนจบ
“หอม”
เสียงแหบของคนเพิ่งตื่นมาพร้อมอ้อมกอดจากด้านหลัง กันต์ไม่เคยเฉยกับการออดอ้อนของเด็กคนนี้ได้เลยสักครั้ง โดยเฉพาะตอนอีกฝ่ายมุดหน้ากับแผ่นหลังเขาเพื่อสูดดมกลิ่นแบบที่เจ้าตัวบอกว่าชอบนักหนา
“ตื่นนานยัง?” สิ้นสุดคำถาม เจ้าของหน้าหล่อ ๆ ก็หันหน้ามาให้คำตอบเป็นการส่ายศีรษะ “เข้าปีใหม่ก็เลยเริ่มทำหน้าที่เมียเต็มตัวเลยดิ โซคิ้วท์”
“ก็นิดนึงครับ สามีพี่ขี้เซา ขืนรอให้ตื่นเองคงหิวจนเป็นโรคกระเพาะ”
“ทีหลังก็ปลุกดิโธ่” เด็กขี้อ้อนซบหน้าผากลงกับอกเขาพร้อมถู ๆ บดเบียดจนต้องตวัดแขนกอด
“พี่อยากทำอาหารให้เรากินบ้าง”
“อยากกินฝีมือพี่เหมือนกัน”
“งั้นไปแปรงฟันเร็วครับ”
“กินเลยไม่ได้เหรอ หิวอะ”
“ถ้าไม่แปรงพี่ไม่ให้กิน”
“หมายถึงคนหรือข้าวต้ม ขอคำตอบแน่น ๆ เน้น ๆ” เด็กแสบขมวดคิ้วเงยหน้ามอง
“Both.” ที่ทำยาวจนถึงตีห้าไม่น่าเข็ด สงสัยอยากมีคนอยากโดนในครัวอีกรอบ
“สองนาทีขาดตัว!!!”
“ห้าครับ”
“นานขนาดนั้นต้องแปรงยันคอหอยแล้วไหม พอเข้าปีใหม่นอกจากจะเป็นโหมดเมียแล้วก็จะเอาบทพ่อด้วยช่ะ?!” ซนที่หนึ่ง กันต์เอามือศีรษะคนที่พยายามหาทางเข้าไปชิมข้าวต้มเห็ดที่ยังทำไม่เสร็จ
“ใช้เวลาแค่นั้นเห็นทีคงต้องมีคนถูกส่งไปเจอหมอฟัน”
“ไร พี่ทำเหมือนผมเป็นเด็กอนุบาล” อย่าว่าแต่หมอฟัน หมอดู หมอนวดบักแหลมก็เจอมาหมดแล้ว!!!
“แล้วใครทำให้พี่ทรีทเราอย่างนั้นหื้อ?” กันต์ก้มลงไปจุ๊บหน้าผากจนคนเพิ่งตื่นเซถอยหลัง ท่าทางตอนขมวดคิ้วพลางกุมขมับนั่นน่ารักน้อยเสียที่ไหน
“กาก” เจ้าตัวแสบอ้าปากหาวจงใจกวนเขาอีกครั้งแล้วฮัมเพลงขณะออกไปจากครัว ท่าทางการเดินเกาก้นทำให้เขาต้องลอบถอนหายใจพลางส่ายศีรษะหน่าย ๆ
ไม่ว่าจะแฟนหรือคู่ขาในอดีตก็ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ ถึงคนเหล่านั้นจะกล้าแก้ผ้าต่อหน้าเขาอย่างไม่ขลาดอาย แต่อย่างน้อยทุกคนก็รู้ว่าการเกาก้นต่อหน้าคนอื่นก็เป็นเรื่องที่ชวนขมวดคิ้ว ซึ่งเด็กคนนั้นเคยแคร์เสียที่ไหน ให้ตาย เขาต้องโดนเล่นของใส่แน่ ๆ
*
อย่างที่รู้ว่ากันต์กวินทร์เป็นนักธุรกิจ ดังนั้นหากจะทำอะไรสักอย่างก็ต้องมีการวางแผนไว้แล้วส่วนหนึ่งว่าควรลงทุนและไม่ควรกับสิ่งไหน เรื่องบ้านก็ใช่ และสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันก็เหมือนกัน ซึ่งการโทรหาแจ็คในบ่ายวันปีใหม่ก็คือหนึ่งในนั้น เขาชอบตรงที่คุยกันไม่กี่นาทีอีกฝ่ายก็เข้าใจและทำตามอย่างว่าง่าย
‘ผมอยากให้คุณไปร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แล้วประกอบคอมที่เกมเมอร์ระดับท็อปใช้ ผมต้องการสองโต๊ะเอาไว้ให้เชร์สตีม ส่วนอีกหนึ่งเป็นของผม’
‘เดี๋ยว บอสจะเล่นเกมเหรอครับ?’
‘ใช่ ผมอยากใช้เวลากับน้องชายคุณมากกว่านี้หน่อยน่ะ แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะ พอถึงช่วงซ้อมทีมเดี๋ยวผมจะแยกไปทำอย่างอื่น อาจจะเข้าฟิตเนสหรืออ่านหนังสือ’
‘โหบอส จริงจังใช่ไหมครับ?’
‘กับน้องคุณหรือเกม’
‘ไอ้แหลมก็ด้วย เกมก็ด้วยครับ’
‘ครับ ผมจริงจัง เผื่อน้องคุณจะตาเป็นประกายตอนเห็นผมฆ่าคนตายในเกม’
‘ถ้าอยู่ด้วยกันตอนนี้บอสคงเห็นผมเอามือทาบอก โอเคบอส ว่าแต่จะให้ผมเอาไปส่งวันไหนครับ?’
‘ผมต้องการวันนี้ ถ้าได้ก่อนหัวค่ำมันคงดีมาก คุณว่าไง?’
‘เอ่อ... ผมเกรงว่าอาจจะต้องค่ำ ๆ หน่อยน่ะสิครับ เพราะมันต้องเตรียมของแล้วก็ประกอบชิ้นส่วน ช่างอาจจะทำไม่ทันเพราะนี่ก็บ่ายแล้ว’
‘ใช้เงินเร่งเขาสิแจ็ค ทั้งหมดเท่าไหร่ค่อยมาเบิกกับผม’
‘เอางั้นเลยนะ ...โอเคครับบอส’
‘ส่วนคุณ อยากได้อะไรก็ชี้นิ้วสั่ง เรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เดี๋ยวผมจัดการให้’
‘บอส ที่ผมตอบปากรับคำเพราะเต็มใจช่วย นี่ไม่ได้คาดหวังประโยชน์อะไรเลยนะ ว่าแต่ อะไรก็ได้จริง ๆ เหรอครับ จำกัดไหมว่าต้องกี่ชิ้น?’
‘ตามใจคุณสิ ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้พนักงานวีไอพี อีกอย่าง พอคุณมาถึงคอนโดแล้วเราจะได้นั่งคุยกันเรื่องเกมที่คุณเคยเสนอมาเมื่อตอนนั้น ผมอยากให้ทุกคนเริ่มกระตือรือร้นเตรียมซุ่มทำเกมใหม่ตั้งแต่ตอนนี้เลย’
ความต้องการของกันต์เป็นไปตามที่คาดไว้ เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงแจ็คกับพนักงานร้านอุปกรณ์ไอทีก็มาถึง ชายหนุ่มยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองลูกลิงที่ตาเป็นประกายสุด ๆ ตอนเห็นพี่ชายกำลังต่อสายจัดเตรียมโต๊ะคอมใหม่เอี่ยมซึ่งคิดไม่ผิดเลยที่ให้แจ็คเป็นคนเลือก เพราะคนรู้ใจเชร์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งก็คือลูกจ้างของเขา
“มึงไปนั่งตรงนั้นเลยไป”
“โหยไรมึงพี่ นี่โต๊ะใคร บอสซื้อให้กู” คนเป็นลูกจ้างหันไปคาดโทษเด็กแสบที่ไม่เคยอยู่เฉยได้ กวนทั้งคำพูดและท่าทางสุดท้ายก็ถูกแจ็คถีบออกไปให้พ้นจากระยะแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เชร์เข็ดหลาบ “กูแค่เจ็บปากเฉย ๆ แต่มือไม่ได้เป็นง่อยน้า”
เรื่องนั้นแจ็คเข้าใจ แต่วันนี้เขาจัดอุปกรณ์ไอทีเป็นค่าแรงไปหลายชิ้นตามที่บอสเปิดทางให้แล้วไง ซึ่งถ้าจะให้ไอ้เด็กเวรนี่มานั่งงมเองก็กลัวจะถูกมองด้วยหางตา ทุกวันนี้บอสหลงมันแค่ไหนเขารู้เสียยิ่งกว่ารู้ อุ้มขี้อุ้มเยี่ยวได้คงทำไปแล้ว สังเกตได้จากมรสุมลูกโป่งบนเพดานที่ช่างร้านไอทียังกวาดตามองอย่างสะพรึง แม้แต่ตอนจะกลับก็ยังหันมาเหลียวหาผู้หญิงและแน่นอนว่าที่นี่ไม่มีสาวหุ่นไซส์เอสนมตู้มของบอสอย่างที่คาดหวังไว้ ดังนั้นแจ็คจะปรนนิบัติประกอบนู่นนี่นั่นให้เพื่อชดเชยกับค่าแรงที่สอยไปนั่นแหละ
“บอสด่ามันหน่อยสิครับ”
“เขาเคยฟังผมที่ไหนล่ะ” แจ็คมองเจ้านายที่กอดอกกึ่งนั่งกึ่งยืนอยู่ตรงหลังโซฟา สุดท้ายเขาก็ต้องยอมให้ไอ้เด็กเกรียนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย พอบอสหันไปทางอื่นก็เนียนเบิ้ลกะโหลกไปทีหนึ่งเอาให้หายหมั่นตีน
กันต์เข้าไปในครัวเพื่อเอาน้ำดื่มเพิ่มให้ลูกจ้างที่ง่วนอยู่กับเรื่องของเขาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว พอกลับมาถึงก็เห็นภาพแสนอบอุ่นแบบทุลักทุเลของสองพี่น้องที่เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวทำร้ายร่างกาย ซึ่งคนที่ทำให้ผู้ชายเงียบ ๆ อย่างแจ็คหมดความอดทนได้ก็คงไม่ใช่ใครนอกจากลูกลิงของเขา
สองคนนั้นเต็มไปด้วยความหลงใหลในเกมและคอมพิวเตอร์ มีหลายเรื่องที่กันต์ไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ฟังไปเรื่อย ๆ ได้อย่างไม่รู้จักเบื่อ พอโต๊ะเกมเมอร์ทั้งสองถูกประกอบตกแต่งเป็นที่เรียบร้อยเชร์ก็ขึ้นไปนั่งชันเข่าบนเก้าอี้แล้วหมุนตัวไปรอบ ๆ ก่อนจะหยุดเพื่อมองมาและทำปากจู๋แบบที่ถ้าอยู่สองคนคงต้องมีคนเจ็บแผลซ้ำเพราะโดนปล้ำจูบแน่ ๆ
ฟ้ามืดแล้ว... เชร์อาสาเข้าไปทำมื้อเย็นให้ซึ่งแจ็คก็อยู่กินด้วยตามคำชวนของคนเป็นเจ้านาย
วันที่หนึ่งผ่านไปอย่างเรียบง่าย... กระทั่งถึงเสาร์ที่สองของเดือนมกรา
“พร้อมยังจ๊ะ ป๊ะป๋าจะพาหนูไปเที่ยววันเด็กแล้วดีใจไหมเอ่ย?”
“...”
กันต์ก้มลงมองเสื้อผ้าที่ไม่มีโอกาสได้เลือกใส่เองพลางเงยหน้าขึ้นมองอีกคนอย่างเว้าวอน เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาด ๆ และหมวกแก๊ปกับผ้าปิดปากสีดำนั่นมันใช่สไตล์กันต์กวินทร์ตรงไหนหรือ ทำไมถึงทำเขาได้ลงคอ
“เชร์ครับ พี่ขอเป็นเชิ้ต --”
“วันนี้วันอะไร?”
“วันเด็ก”
“นั่นไง! ละเมื่อคืนใครบอกจะตามใจผมหนึ่งวัน?”
“...”
เพราะโรงแรมที่เชียงใหม่เกิดปัญหากันต์กวินทร์จึงต้องรีบไปจัดการอย่างกะทันหัน กว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติก็กินเวลาไปหลายวัน ด้วยความคิดถึงแฟนบวกกลัวโดนน้อยใจจึงตามไปหาถึงหอพักทันทีที่กลับถึงกรุงเทพฯ ซึ่งกันต์ก็นั่งรอสตรีมเมอร์คนเก่งปิดกล้องเสียก่อนแล้วค่อยเข้าไปกอดหอมพร้อมยื่นข้อเสนอว่า
‘ขอโทษที่ไม่ค่อยได้รับสายนะครับ เดี๋ยววันเด็กพี่จะชดเชยให้ จะตามใจเราทุกอย่างเลย เพราะงั้นเชร์อย่าโกรธพี่นะ ระหว่างที่ไม่เจอกันน่ะพี่คิดถึงเรามากที่สุด’
คนถูกง้อขมวดคิ้วมองงง ๆ เหมือนประหลาดใจว่าเขากำลังทำบ้าอะไร กันต์กวินทร์จึงสาธยายถึงความยุ่งยากในโรงแรมอีกเพื่อให้ดูมีน้ำหนักมากขึ้นเพราะกลัวแฟนเด็กไม่เชื่อ ก็ถ้าสามวันก่อนไม่พลั้งปากพูดไปว่า ‘เมื่อกี้พอร์ชโทรมาบอกว่าตอนนี้อยู่ไทยแล้ว’ กันต์กวินทร์ก็คงไม่ล่กขนาดนี้
เขาเคยเป็นผู้ชายฉลาดคิดฉลาดพูดกว่านี้จนสูญเสียความเป็นตัวเองไปหลังจากหลงแฟนเด็กจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่เข้าใจว่าพูดเรื่องพอร์ชไปเพื่ออะไร จะเชื่องเกินไปแล้วไหม ไม่ต้องรายงานอย่างซื่อสัตย์ก็ได้ไม่ใช่เหรอ กันต์กวินทร์ควรหัดพูดไม่ครบบ้างถ้าการเล่าทั้งหมดจะนำหายนะนำมาสู่
พอร์ชเหมือนเป็นชื่อต้องห้ามที่ซิมบ้าน้อยได้ยินเมื่อไหร่เป็นไฟลุกท่วมตัว เขาหาเรื่องตายชัด ๆ นึกแล้วก็เวทนาตัวเอง
ระหว่างนั้นก็ได้แต่คิดว่าอธิบายมากเกินไปหรือเปล่า มันเยอะจนดูเหมือนคนพยายามแก้ตัวกลบเกลื่อนความผิดไหม เขากังวลมากแต่อยู่ ๆ เชร์ก็ผุดรอยยิ้มชั่วร้ายที่ทำให้ฉุกคิดได้ว่าไม่ควรยื่นข้อเสนอแบบนั้นทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้แสดงออกเลยด้วยซ้ำว่ากำลังนอยด์
“55555555555555555555555555555555”
เสียงหัวเราะอัดหน้านี้เจ็บปวดแค่ไหนกันต์เข้าใจธีร์แล้ว...
“ถ้าบังเอิญเจอคนรู้จักเชร์คิดว่าเขาจะมองพี่แบบไหน ที่รักคิดตรงนี้ด้วยสิ”
“ชุดนี้ไม่ดีตรงไหน พี่ดู! เสื้อ กางเกง รองเท้า ทุกอย่างผมตั้งใจซื้อให้พี่ แล้วมันเป็นเงินที่ได้มาอย่างยากลำบากด้วย ราคาไม่แพงเท่าสูทพี่แต่มันแพงต่อใจผมรู้ปะ?”
นั่น งานชักแม่น้ำทั้งโลกมาอ้าง
“แถมยังซักให้หอม ๆ ไม่หลงเหลือกลิ่นใหม่ให้กวนใจด้วย”
“แต่ --”
“ไม่ชอบใช่ปะ ห๊ะ เป็นงี้ใช่ไหม พี่ ผมเสียใจว่ะ อยากร้องไห้แล้วไปนั่งกินชาบูหมูหายท่ามกลางสายฝน” คนเล่นละครเก่งเบ้ปากบีบน้ำตาแห้ง กันต์จึงกุมขมับกับสภาพตัวเองที่คงถูกมองตั้งแต่เดินออกจากหอยันขึ้นรถ
“โอเคครับ พี่จะใส่”
“กู้ดบ๋อยยย” นั่นไง พอใจอ่อนให้หน่อยก็มีเด็กแถวนี้อยากสวมบทแด๊ดดี้ กันต์หรี่ตามองคนตรงหน้าที่สวมเชิ้ตดำ กางเกงสแล็คและรองเท้าหนัง เซ็ทผมอย่างดีก่อนจะเอาหมวกแก๊ปมาสวมให้เขาแล้วก็มีน้ำใจโอบแก้มลงไปจูบปลอบ
“เราไปกินข้าวกันดีไหมครับ ไปแถว ๆ บ้านแจ็คก็ได้ เซนทรัลเวสต์เกตน่าจะคนน้อย”
“ทุกที่คนเยอะหมดแหละที่รัก ไปงานเกมกับผมสิ พี่อยากเสพบรรยากาศไม่ใช่ไง?” เชร์คงสนุกมากเขารู้ได้เลย ทั้งสีหน้าท่าทางล้น ๆ จนเหมือนเด็กเจ็ดขวบที่นั่งตั้งตาขีดปฏิทินเพื่อวันนี้นั่นน่ะ...
วันนี้วันเด็กนะ ไม่ใช่วันฆ่าผู้ใหญ่
“คนจะมองว่าพี่เป็นเฒ่าทารกนะครับ”
แหลมหันหน้าเข้าหาคนขี้กังวลที่คิดว่าตัวเองทุเรศทั้งที่หล่อมากขนาดนี้ มันก็ถูกที่บอสไม่เชี่ยวเรื่องการแต่งตัวแบบวัยรุ่น แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเดินเข้าไปในงาน พวกเกมเมอร์สาว ๆ คงมองจนคอหันแข่งกับหมูในร้านข้าว
“โอเคครับ พี่ไม่พูดแล้ว” โถ... เอ็นดูความหงอเพราะกลัวถูกเขางอน อยากจับคนบางคนไปส่องกระจกจริง ๆ จะได้เห็นสีหน้าตัวเองตอนนี้ว่าควรเปลี่ยนเป็นเมียไอ้แหลมสักแค่ไหน
“พี่แค่ไม่ชินกับลุคนี้ แต่มันดีโคตร ๆ เลยนะเว้ย”
“เพราะเราอยากแกล้งพี่น่ะสิ”
“แกล้งไร?” พูดจบก็เอามือบอสมาจับแหนมตัวเองพิสูจน์ความหนักแน่นให้รู้ว่ามันแข็งตัวได้เพราะเห็นความหล่อในรูปแบบใหม่ ซีอีโอหนุ่มในลุคสตรีทลดระดับสายตาลง จังหวะนั้นเขาจึงเขย่าเป้าตัวเองยืนยันซ้ำก่อนบอสกลับมาสบตากันอีกครั้ง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?”
“ตั้งแต่เห็นพี่ใส่แต่กางเกงยีนส์”
“แล้วทำไมไม่บอก พี่จะได้จัดให้สักรอบก่อนออกจากห้อง”
“เอาใหญ่ละ เดี๋ยวนี้ใช้คำพูดคำจาเกรียนเก่งละน้า” แหลมหรี่ตามองคนตรงหน้า มันเขี้ยวทุกทีเวลาได้ยินบอสพูดอะไรอย่างนี้ ก็เลยแอบบีบแหนมไปทีนึงจนมีคนแอบงอตัวเป็นกุ้ง
“เดี๋ยวเถอะ”
“มาไว ๆ ประตูงานเปิดสิบโมงนะเว้ย ผมไม่อยากสาย”
“ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวพี่หาเส้นลัดคิวให้ อยากเล่นเกมไหนก็บอก ทำไมต้องไปต่อแถวให้เมื่อยขาด้วย” กันต์อยากจะล้วงกระเป๋ากางเกง แต่ยีนส์ตัวนี้ก็น่าอึดอัดเกินกว่าจะทำอย่างนั้น เขายังคงเอาแต่ก้มลงมองสภาพตัวเองซ้ำ ๆ ระหว่างเดินตามแฟนเด็ก
“อรรถรสของงานเกมคือการต่อแถวนาน ๆ เพื่อเล่นเกม พี่ต้องลิ้มรสชาติแบบนี้สักครั้งแล้วจะรู้ว่ามันโคตรคุ้ม หรือว่าเริ่มแก่แล้วก็เลยกลัวปวดแข้งปวดขา”
“แก่แต่อุ้มเราเข้าเอวได้แล้วกันครับ ที่พี่ห่วงคือคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายหรอก กลัวกลับมาบ่นอิดออด ‘พี่กันต์ค้าบ นวดให้หน่อย ปวดไปหมดแล้ว’”
“ผมทำเสียงงุงิแบบนั้นเหรอ ออกสาวเวอร์”
“ถ้าใส่กระโปรงกับวิกก็คงใช่นะครับ”
“พูดงี้ช่ะ? ปะ! กลับไปแต่งหญิงมันทั้งคู่เนี่ย เดินเฉิดฉายสปอตไลท์ส่องในงาน รับรองได้ออกข่าวหน้าหนึ่งคอลัมน์เกมเมอร์”
“เดี๋ยวเถอะ”
“55555555555555555555555555555555”
ทั้งคู่หยั่งเชิงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร พอคนพี่แกล้งเดินชนไหล่นำหน้าไปก่อน คนน้องก็เร่งฝีเท้าแล้วเดินชนแขนบ้าง เล่นกันอย่างนั้นเหมือนอยากให้เข้าธีมวันเด็ก
*
แหลมรู้ว่าบอสไม่ชอบจุดที่มีคนเยอะ ๆ แต่งานเกมก็คืองานเกม ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ทุกคนล้วนแต่สนใจเรื่องเดียวกัน แหลมถลกแขนเสื้อตนเองขึ้นเพื่อติดสายคาดข้อมือแล้วตามด้วยปั๊มตรายาง ระหว่างนั้นก็หันไปเช็กคุณซีอีโอสักหน่อย รายนั้นเหมือนจะขมวดคิ้วอยู่เล็กน้อยเพราะไม่ชอบให้ข้อมือเลอะด้วยอะไรแบบนั้น แต่พูดก็พูดเหอะนะ ไอ้แหลมโคตรชอบให้บอสแสดงความไม่พอใจเล็ก ๆ ออกมาผ่านทางสีหน้าแบบที่ว่า ‘พี่ไม่ชอบเลย แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเรานะครับเชร์’
“พวกพี่ ๆ เราล่ะ?”
“วันนี้พี่ธีร์ ไอ้โซ่มีแจกลายเซ็นกับเกมเมอร์ช่องอื่นอยู่บูธข้างในนู้น มันมากันตั้งแต่เช้าละ”
“อ่า นั่นสินะครับ ธีร์เป็นคนดังในวงการนี้”
“แซ่บลิ้นปะ นั่นแค่พวกปลายแถวของทีมนะ ส่วนเทพอย่างผมไม่มีเวลาไปนั่งทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก พี่ธีร์แม่งชอบสร้างซีนไง ทางงานอ้าปากเชิญหน่อยก็ตอบตกลงทันทีไม่มีเล่นตัว แบบว่าชอบไปนั่งยิ้มหล่อ ๆ หลอกชาวบ้านชาวช่องเพราะอยากเช็กเรต ส่วนไอ้โซ่คือน้ำท่วมปาก จำเป็นต้องไปเพราะคิดว่าการปฏิเสธผู้ใหญ่คือเรื่องไม่ดี”
“แล้วแจ็คกับตุ้บตั้บล่ะครับ จะมาด้วยไหม?”
“พี่ตั้บพาลูกไปสวนสัตว์ ส่วนพี่แจ็คน่าจะอยู่กับพี่ ๆ ร้านซ่อมรถแถวบ้านมัน”
“หืม รถเสียเหรอ?”
“เปล่า มันสนิทกัน ไปนั่งซ่อมรถช่วยชาวบ้านแบบไม่คิดตังค์แล้วอ้างว่าฆ่าเวลาอะ”
กันต์ขมวดคิ้วคิดตามแล้วพยักหน้า ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีกิจกรรมในวันเด็กที่แตกต่าง และธีร์กับโซ่ก็ยังคงใช้เวลาร่วมกันโดยมีคำว่าพี่น้องคนสนิทเป็นฉากหน้า
ชายหนุ่มดึงผ้าปิดปากขึ้นเพื่อไม่ให้ถูกมองมากไปกว่านี้ น่าอึดอัดเป็นบ้า ทำไมต้องจ้องกันขนาดนั้น ใส่ชุดนี้แล้วมันทำให้ดูเป็นเฒ่าทารกจริง ๆ สินะ เชร์กำลังฆ่าเขาทางอ้อม
“พี่ ๆ ใช่พี่แหลมปะครับ?” เจ้าของชื่อในวงการเลิกคิ้วพลางหันไปตามเสียง “เฮ้ยพวกมึง พี่แหลม ๆๆๆ” ทุกสายตาหันมาทางนี้เพราะเสียงเด็กผู้ชายที่มากับเพื่อนวัยเดียวกันราว ๆ สี่-ห้าคน
“เฮ้ยยยยยยยยยย” คนอัธยาศัยดีกล่าวทักทายพร้อมแท็กมือ กันต์กวินทร์กำลังตระหนักถึงความโด่งดังของแฟนเด็กในวงการอีสปอร์ต แม้จะไม่เท่าตัวท็อปอย่างธีร์แต่หลังจากเข้ามาเพียงครู่เดียวแล้วโดนทักอย่างนี้ก็ถือว่าความโด่งดังยังพอมีอยู่บ้าง
“วันนี้แต่งหล่อจังวะพี่ มาอ่อยสาวเหรอ?”
“ก็พูดไป นี่ตื่นมาก็เป็นอย่างนี้เลย” มันเขี้ยวความหล่อธรรมชาติ กันต์มองกลุ่มเด็กตรงหน้าซึ่งคงดูตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยกับการเจอนักกีฬาในทีมดัง
“ว่าแต่พี่มากับใครอะ ใช่พี่ธีร์ปะ?”
“พี่ธีร์ใส่เสื้อสีม่วงแจกไลน์เซ็นอยู่บูธที่เพิ่งผ่านมาเมื่อกี้จะมาพี่ธีร์อะไร?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งตบศีรษะเพื่อนพร้อมย้ำเรื่องที่เพิ่งผ่านไป คนที่ถูกมองเป็นธีร์เกมเมอร์จึงยืนนิ่งโดยไม่ปริปากพูดอะไร
“นี่ลูกพี่กู เจอกันตอนไปแข่งเกาหลี”
“...” คนถูกสวมบทบาทให้ถึงกับเลิกคิ้วมอง
จากที่เคยสนใจซิมบ้าน้อย ตอนนี้เด็กหนุ่มทั้งกลุ่มและคนที่ต่อแถวอยู่รอบข้างต่างก็หันมาสนใจ ‘ลูกพี่ที่เจอกันตอนไปแข่งเกาหลี’ ซึ่งคนที่เพิ่งหัดเล่นเกมไม่ถึงสิบห้าชั่วโมงถึงกับเลิกลั่ก
“คนเกาหลีเหรอ? เช้ด ๆๆๆๆ”
“ชื่อไรอะพี่ แล้วเขาฟังที่เราคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย?”
“ฟังไม่ออกหรอก ยิ้มแล้วหลอกด่าว่ากระจอกพี่แกยังยืนเฉยเลยไม่เชื่อลองได้” กันต์เลิกคิ้วถลึงตามองแฟนเด็กเป็นเชิงถามว่าเอาจริงหรือแค่พูดเล่น แต่ยังไม่ทันเห็นรีแอคชั่นตอบกลับเด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ฝ่ามือก็ชะโงกหน้าเข้ามา
“กระจอก ๆๆๆๆๆ อันยอง ๆๆๆ ยองเซโย”
“...”
“อาร์ยูโข่เหรี๊ยน?” สำเนียง ถ้าพูดออกไปว่า ‘ผมคนไทย’ จะเกิดอะไรขึ้น กันต์เหล่มองเด็กแสบที่วางยาเขาด้วยการพยักหน้ารัว ๆ และยังคงสนุกอย่างต่อเนื่อง “เข้ โอป้าสาด ชื่อล่ะพี่ชื่อ?”
ยัง ยังไม่จบ...
“คุณซอย เรียกเต็ม ๆ ว่าซอยเตียงทรุด”
ทรุดจริงไม่ล้อเล่น เมื่อไหร่ลงสนามเป็นต้องปวดเอวทุกทีฉายานี้พี่แกได้แต่ใดมา แหลมมองกลุ่มเด็กน้อยหัวเกรียนที่สตันท์ไปหลังจากได้รู้ชื่อ และบอสผู้แสนน่ารักก็รับมุกอย่างดีโดยการโค้งศีรษะเล็กน้อย แหม่... นี่ก็เล่นละครเก่งใช่ย่อย
“ว่าแต่คุยกันมาตั้งนานนี่พี่จำผมได้ใช่ปะ?”
“เหยทำไมจะจำไม่ได้ นี่ไปตัดผมมาช่ะ จำได้ว่าคราวก่อนยาวกว่านี้” เชร์โยกตัวซ้ายขวามองศีรษะกลม ๆ ของกลุ่มเด็กมัธยม
“ใช่ ๆ ‘จารย์ฝ่ายปกครองลากผมไปล่อหน้าเสาธงอะแม่งโคตรอาย”
“แล้วไปตัดทำไมวะ สมัยเรียนกูไม่เคยตัดอะ ไถได้ไถเหอะ กูไปเรียนทั้งหัวแหว่งข้างเดียวอย่างนั้นนั่นแหละ” แค่นึกภาพเด็กแสบไม่ยอมทำตามกฎระเบียบโรงเรียนก็อมยิ้มเล็ก ๆ ...แน่ล่ะ เพราะถ้าทำอะไรปกติเหมือนชาวบ้านคงไม่ใช่เชร์แล้ว
“โห แต่พี่จำพวกผมได้ด้วยว่ะ โคตรดีใจ” สีหน้ากลุ่มเด็กหนุ่มดูปลาบปลื้มขณะที่ซิมบ้าน้อยเอื้อมมือขึ้นไปตบบ่าตัวเด็กคนหนึ่ง
“ดูก่อนนี่ใคร?”
“งั้นเดี๋ยวผมไปหน้าเวทีก่อนนะพี่ ช่วงสิบเอ็ดโมงครึ่ง BMA48 จะขึ้นโชว์ เดี๋ยวไม่มีที่ยืน”
“เออ ไว้คุยกันเว้ย ขอให้ฟิน ๆ” เด็กมัธยมทั้งกลุ่มเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม ทั้งสองฝั่งโบกมือลาก่อนเชร์จะก้าวขยับตามแถวที่ใกล้เข้าไปถึงคิวเล่นเรื่อย ๆ
“เมื่อกี้สนุกใหญ่เลยนะครับ...” ชายหนุ่มก้มลงไปกระซิบ และคนที่ตั้งชื่อเกาหลีให้เขาก็หันมาลอบยิ้มอย่างชอบใจ
“ชอบชื่อปะ ด้นสดเลยนะ”
“ขี้แกล้งจริง ๆ” อดไม่ได้จึงหยิกแก้มเด็กแสบไปหนึ่งทีในจังหวะที่ไม่มีใครสนใจมองมาทางนี้แล้ว “ว่าแต่เราจำแฟนคลับได้ด้วยเหรอครับ ความจำดีเอาเรื่อง”
คนถูกถามเม้มริมฝีปากก่อนจะช้อนตามอง และตอนนั้นกันต์กวินทร์ก็ได้รู้ผ่านทางสีหน้าอีกฝ่ายว่าควรเก็บประโยคเมื่อครู่กลับมากินแล้วกลืนลงคอไปเสีย
“อย่าบอกว่าไม่ได้?”
“ก็เออสิ ใครจะไปจำได้อะ ไปงานแต่ละทีคนเดินมาด่ามาทักไม่รู้ตั้งกี่ร้อย” แหลมป้องปากกระซิบ ล่อกแล่กหันซ้ายขวาเช็กว่ามีใครแอบฟังอยู่หรือไม่
“แล้วเราก็คุยเป็นตุเป็นตะอย่างนั้นแถมยังทักเรื่องทรงผมเนี่ยนะ?”
“พี่ ยังไงเด็กมัธยมก็ต้องตัดผมอยู่แล้วเว้ย เนียนไปก่อนเดี๋ยวเด็กมันเสียใจ” คิวเริ่มขยับเข้าไปใกล้แล้ว กันต์อมยิ้มภายใต้ผ้าปิดปากสีดำพลางส่ายศีรษะกับความแฟนเด็ก
บรรยากาศในงานเริ่มคึกครื้นมากกว่าตอนเพิ่งเข้ามา จากที่มองเห็นพรมแดงบนพื้นปัจจุบันทางเดินก็อัดแน่นไปด้วยผู้คน กันต์ไม่เคยพาตัวเองมาเบียดเสียดขนาดนี้แม้แต่ในงานเลี้ยงเมื่อต้องเข้าสังคม หลายครั้งที่ต้องขมวดคิ้ว แต่พอลดระดับสายตาลงแล้วเห็นเชร์อยู่ตรงหน้า ความอึดอัดทั้งหมดก็จางหายไปเสียดื้อ ๆ
คิดว่าจะได้ต่อแถวทั้งวันเพราะคงมีอีกหลายเกมที่ซิมบ้าน้อยอยากลองเล่น แต่กันต์คิดผิด เพราะสุดท้ายแล้วเด็กคนนี้ก็พาเขาออกไปหาธีร์กับโซ่ นั่งคุยกันและออกไปนั่งกินข้าวในร้านเงียบ ๆ ระหว่างนั้นธีร์ก็ถามว่าหลังจากนี้จะทำอะไรต่อ ซึ่งเชร์ก็ตอบว่าจะกลับไปนอนห้องเพราะขี้เกียจแล้ว ดังนั้นงานเกมจึงจบลงตอนบ่ายสามครึ่ง
“ที่อยากกลับก่อนเพราะเป็นห่วงพี่ใช่ไหมครับ?” คนขับเปิดคำถามขณะรถติดไฟแดงอยู่บนถนน แหลมหันไปมองเสี้ยวหน้าหล่อที่ไม่มีผ้าปิดปากสีดำคอยปกปิดอีกแล้ว ก่อนจะขานตอบในลำคอเพราะถูกรู้ทัน
“ปีนี้คนเยอะกว่าทุกปีอะ กลัวพี่เหนื่อย” เรื่องแกล้งบอสอะไอ้แหลมพอใจแล้ว เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเหนื่อยจนพรุ่งนี้ต้องนอนซม เพราะแค่ยืนนาน ๆ ก็น่าจะปวดขาเอาเรื่องอะ
“คิดมาก” เด็กหนุ่มไม่ได้กังวลถึงเผ้าผมที่เซ็ทมาเป็นอย่างดี แม้ในตอนนี้ที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมาวางลงบนศีรษะแล้วยีเบา ๆ แหลมมองรอยยิ้มเล็ก ๆ บนหน้าบอสอีกครั้ง กระทั่งเจ้าของความหล่อนั้นหันมาสบตากัน และเขาก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้โน้มไปหอมแก้มแฟนขี้เอาใจได้
“รางวัล”
“รักเลยใช่ไหมครับ?”
“เออ รักมากเลยเนี่ย วันนี้ทำตัวน่ารักจริง ยอม” แหลมยื่นมือไป และคนที่ยังไม่ต้องขับรถก็แปะมือซ้ายลงมาพร้อมสอดประสานนิ้ว วันนี้บอสจะเกินไปละ ตอนแรกก็รู้สึกผิดเล็ก ๆ เพราะคิดว่าพาบอสไปลำบากลำบน แต่พอเห็นรอยยิ้มเมื่อกี้ก็โล่งใจ
“ตอนแรกพี่ก็อึดอัดเพราะไม่ชอบจุดที่มีคนเยอะ ๆ แต่วันนี้พี่สนุกจริง ๆ นะครับ เพราะงั้นเราไม่ต้องคิดมากนะ”
“เรื่องชุดพี่ด้วยใช่ปะ?”
“ยกเว้นเรื่องนี้ไว้ คราวหลังถ้าจะชวนอีกก็ให้พี่ได้เลือกชุดเองเถอะนะครับ” ทันทีที่พูดจบเด็กแสบก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างไม่กักเก็บ ก่อนจะจุ๊บหลังมือเขาซ้ำ ๆ
“หล่อนะเว้ย ดีกว่าพี่ธีร์อีก”
“ไม่ใช่เพราะเราไม่เคยเห็นพี่ชายหล่อตั้งแต่ไหนแต่ไรหรอกเหรอครับ?” กันต์เหล่มองคนข้าง ๆ ก่อนจะต้องจำใจละมือออกเมื่อขึ้นสัญญาณไฟเขียว
“พี่ธีร์มันหน้าตาดี แต่คนที่จะหล่อได้ก็คือแฟนผมคนเดียวเว้ย”
ตั้งแต่เริ่มโตเป็นหนุ่มกันต์ก็ไม่เขินกับคำว่า ‘หล่อ’ แล้ว ยกเว้นแต่ตอนนี้ที่อยู่ ๆ เชร์ก็ทำให้รู้สึกว่าการถูกชมด้วยคำนี้มันมีความหมาย บรรยากาศรถติดในวันเด็กก็ไม่ได้น่าเบื่ออีกต่อไป กันต์รู้สึกว่าอะไร ๆ ก็ดีขึ้นได้เพราะเด็กผู้ชายคนนี้
ชายหนุ่มอมยิ้มกับบรรยากาศบนท้องถนนที่มีเสียงร้องเพลงของเชร์คลอไปตลอดทาง เสียงที่เขาชอบฟังกำลังแกล้งดัดให้ตลกบ้าง จริงจังบ้าง แล้วแต่เพลงที่วิทยุจะแรนดอมมา
(ต่อด้านล่างนะคะ)