น้ำหนักผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งนั้นมันไม่ง่ายเลยที่จะเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนท่า ช่างแตกต่างกับเรือนร่างที่โอดองบอบบางของหญิงสาว แต่สัมผัสที่รู้สึกกลับตื่นเต้นน่าจับต้อง จนต้นน้ำต้องเผลอลูบไล้เบาๆไปที่ท่อนแขนส่วนที่พ้นชายแขนเสื้อออกมา รอยเส้นเลือดที่ปูดโปนให้เห็นบ้าง สร้างให้เกิดรอยสีเขียวจางเป็นสายไปตามความยาวของแขน ต้นน้ำไม่ได้รู้สึกรังเกียจ แต่กลับยิ่งหลงไหลในผิวที่เกลี้ยงเกลาและใสจนมองเห็นเส้นเลือดตามแขนขนาดนี้
เสียงจังหวะลมหายใจของจินไห่ที่เปลี่ยนไปทำให้ต้นน้ำได้สติ นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ ต้นน้ำเผลอคิดอย่างกังวล เขาจึงพยายามทำภารกิจให้สำเร็จ จะได้นอนและเลิกฟุ้งซ่านเสียที
ต้นน้ำหันไปใช้มือสอดรอบคอจินไห่อย่างเบามือ และจัดแจงเอาหมอนที่ซ้อนกันเกินความจำเป็นออก แล้วจึงค่อยผ่อนแรงให้ศรีษะของจินไห่วางลงบนหมอนอย่างนุ่มนวล
ในเมื่อท่าทางมันเป็นแบบนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะไม่มองหน้าอีกฝ่ายที่หลับอย่างสงบ สันจมูกและสันกรามทีได้รูปตรงหน้ามันช่างดึงดูดสายตาของเขาเสียเหลือเกิน วงตาที่เรียวสวยขนตาที่ยาวได้รูป ตอนนี้เขามองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าที่มองกี่ครั้งก็สมบูรณ์แบบไปหมด ทำไมเขาถึงเพิ่งรู้ตัวนะว่า นี่คือสิ่งที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา จนเขาอยากวาดรูปเก่งๆ เหมือนคนในบันทึกจะได้เก็บรายละเอียดเหล่านี้ด้วยนิ้วมือตัวเอง
ในขณะที่ต้นน้ำกำลังเหม่อลอยกับวงหน้าในระยะประชิด จินไห่ที่นอนนิ่งมาตลอดก็เปลี่ยนอิริยยาบถอย่างไม่ทันตั้งตัว มือจินไห่คว้าร่างต้นน้ำที่สูงว่า 180 เซ็นติเมตรข้ามร่างตนเองไปกอดบนเตียง สร้างความตกใจกับต้นน้ำจนร้องเสียงหลง
“จดๆจ้องๆอยู่นานแล้วนะ รู้ไหมพี่อึดอัด จะทำอะไรก็ทำเสียทีสิ!!” เสียงของคนที่น่าจะหลับไปแล้วดังขึ้น
ต้นน้ำหันไปทำหน้าเหวอใส่คนที่ลืมตาโพรงและแจกรอยยิ้มที่มากเสน่ห์กลับมา
‘ดวงตาสดใสเกินไปแล้วนะ’ ต้นน้ำเผลอคิดในใจ
ไม่ทันที่ต้นน้ำจะเอ่ยสิ่งใด เขาก็โดนอีกฝ่ายที่ดึงเขาให้นอนขนานกับตัวเองบรรจงจูบลงบนริมฝีปากของต้นน้ำอย่างรุนแรง จนได้ยินเสียงฟันกระทบกัน
“โอ้ย!!” ต้นน้ำร้องและผละออกเล็กน้อย
“ขอโทษนะ พี่ตื่นเต้นไปหน่อย ขอโทษนะ คือ ... พี่.. คิดว่ามันน่าจะเป็นเวลานี้แหละ กลัวมันจะเลยช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ไป ขอโทษที ลืมๆ ไปเหอะนะ!!” จินไห่ขอโทษขอโพยและพร้อมจะผละออกไป
แต่ต้นน้ำกลับคว้าแขนจินไห่ไว้ดัง หมับ!!
“เวลานี้แหละ เหมาะแล้ว พี่เนี่ยนึกว่าจะจูบเก่งกว่านี้อีกนะเนี่ย” ต้นน้ำพูดจบก็ดึงอีกฝ่ายเข้ามามอบจุมพิตให้อย่างนุ่มนวล จินไห่ที่ค่อยๆ ลดอาการตกใจลงก็ได้ตอบสนองอย่างนุ่มนวลเช่นกัน
ต้นน้ำค่อยๆ ใช้มือกดหลังอีกฝ่ายให้ลงมาแนบชิดกับพื้นผิวส่วนหน้าของร่างกายของตนเอง จินไห่ที่รับรู้จุดประสงค์ของอีกฝ่ายก็คล้อยตามอย่างที่ต้นน้ำแทบไม่ต้องใช้แรง
ริมฝีปากของทั้งสองบดเบียดกันอย่างเผ็ดร้อน จินไห่ที่มีประสบการณ์ต่ำเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้รู้สึกแปลกใจกับการเล้าโลมจากคนที่อายุน้อยกว่าเขาเกือบครึ่งรอบ กระบวนลิ้นและริมฝีปากที่ดึงและดูด สัมผัสอันลึกล้ำรสสัมผัสมันช่างสุดยอดไปหมด เรื่องจูบเล้าโลมที่ผ่านมา ในชีวิตของเขากลายเป็นเรื่องจืดชืดไปเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ขณะ
ชีวิตที่ผ่านมาของจินไห่ เขามักที่จะไม่ใช่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน คนที่เคยมีความสัมพันธ์ระดับแฟนของเขา ก็มีเพียงคนเดียว คือ เสี่ยวหยู๋ แม้ความสัมพันธ์กับเธอนั้นมันจะสุดยอด แต่ความแปลกใหม่ตรงหน้าก็เป็นประสบการณ์อีกระดับหนึ่งของเขา จินไห่ยินยอมพร้อมใจที่จะรับประสบการณ์ใหม่เต็มที่
ร่างกายที่บดเสียดสีกันอยู่เบื้องล่างนั้น ต้นน้ำรู้ดีว่ามีสิ่งแปลกต่างจากสิ่งที่เขาเคยเผชิญมา ท่อนลำที่แข็งนูนภายใต้ร่มผ้าทางด้านบนมันช่างให้ความรู้สึกอีกแแบบ เขากลับไม่ได้รังเกียจ แต่ไม่รู้ว่าจะจัดการมันอย่างไร เขาจะทำให้คนตรงหน้ามีความสุขกับเรื่องบนเตียงแบบนี้ได้อย่างไร
สิ่งที่แว่บเข้ามาในห้วอย่างแรกที่เป็นคำตอบคือ
‘เรื่องระหว่างผู้ชายน่ะมันง่ายจะตาย มึงไม่ต้องคิดอะไรมาก มึงต้องการอะไรมึงก็ให้เขาแบบนั้นแหละ แต่มันมีอยู่เรื่องหนึ่งที่มึงต้องตัดสินใจ ก็เรื่องตอนจบนั่นแหละ!’
คำพูดยาวเหยียดที่ไอ้ไอซ์เพื่อนยาก พูดกรอกหูอยู่ทุกวันในบทเรียนการเตรียมตัวมีแฟนเป็นผู้ชาย ซึ่งตอนนั้นต้นน้ำก็แค่ฟังผ่านๆ และยังด่ากลับไอ้เพื่อนเวรนั้นที่ทำให้ขนลุกขนพองโดยไม่จำเป็น
แต่ตอนนี้ต้นน้ำเข้าใจแล้ว เวลาเรื่องบนเตียงที่ทำไปด้วยความรักนั้น มันเป็นความรู้สึกที่ตื้นตันและอิ่มฟูในใจยิ่งกว่าการมีมันเพียงเพราะต้องการตอบสนองราคะของร่างกาย
ต้นน้ำแค่ข้องใจเรื่อง ‘ตอนจบ’ ที่เพื่อนเขาพูดถึงต่างหาก
ระหว่างที่ร่างทั้งสองบดเบียดแนบแน่นอยู่บนเตียง จินไห่รู้สึกว่าน้องชายเขามันตื่นเต็มตัวแล้ว ความรู้สึกของเขาตอนนี้พุ่งทะยานทะลุม่านเมฆไปแล้ว การเสียดสีภายใต้ร่มผ้ามันไม่เพียงพอเสียแล้ว
จินไห่จึงตัดสินใจใช้มือที่ขณะนี้ทำหน้าที่ลูบไล้นวดคลึงไปทั่วเนื้อผ้าที่แนบติดร่างกายดึงชายเสื้อขึ้นอย่างช้าๆ และเหมือนต้นน้ำจะรู้จังหวะ เขาขยับให้จินไห่ปลดเปลื้อเสื้อเขาออกอย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน ต้นน้ำเองก็จัดการดึงเสื้อของจินไห่ออกเช่นกันแต่ในความเร็วที่เหนือกว่ามาก ผิดกับจินไห่ที่ค่อยๆ ทำอย่างนิ่มนวล แต่กับต้นน้ำ เขาสามารถถอดเสื้อผ้าคนตรงหน้าออกอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ไม่นานร่างกายของทั้งสองก็เปล่าเปลือย
จินไห่พินิจโครงร่างตรงหน้าที่มีกล้ามเนื้อแบบนักกีฬา ทุกส่วนลีนกำลังดีได้สัดส่วน เทียบกับจินไห่เองแล้ว เขากลับดูผอมเก้งก้างไปเลย จินไห่ใช้มือลูบไล่ไปตามกล้ามเนื้อที่ตอนนี้อุ่นและมีเหงื่อซึมชื้นๆอยู่เล็กน้อย ความรู้สึกที่ตามมาคือความตื่นเต้นจนหัวใจแทบหลุดออกมาจากหน้าอกของเขา
จินไห่ใช้มือไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ ภายใต้การมองดูของคนทางด้านล่าง เขาก็เจอกับตัวปัญหาที่แข็งแรงชูชันซึ่งมีขนาดที่มากกกว่าเขาเล็กน้อย เขาใช่นิ้วมือที่เรียงยาวสัมผัสมันและค่อยๆ กำมันอย่างช้าๆ จินไห่ได้ยินเสียงของต้นน้ำหายในหอบกระชั้นขึ้น เขาจึงรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องแล้ว
จินไห่ใช้มือกระชับให้แน่นขึ้นและเครื่องจักรระบายอารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนมีมาตั้งแต่บรรพกาลก็เริ่มทำงาน เสียงกัดฟันและลมร้อนที่ลอดออกจากปากของชายหนุ่มทางด้านล่างบอกกับเขาว่าเขามาถูกทางแล้ว แม้จะเป็นครั้งแรกแต่ก็มีผู้รู้สอนมาว่า
‘ให้ทำตามสัญชาตญาณของผู้ชายไปเลย ร่างกายผู้ชายมันก็เหมือนกันหมด คิดว่าทำแล้วมันรู้สึกดีก็ทำไป พออยู่บนเตียงจริงๆ เดี๋ยวน้องก็รู้ แต่.... มันอยูที่ตอนสำคัญมากกว่า เพิ่งเคยทำครั้งแรกก็คงต้องเลือกนะ เลือกว่าจะเป็นฝ่ายไหน?’
พี่นีโน่ผู้ไม่เคยอ้อมค้อมได้บอกไว้ ความจริงมันละเอียดกว่านี้เยอะแต่เขาแค่ไม่อยากจะนึกถึง เขาแค่ทำตามที่หัวใจของเขาพาไปเท่านั้นพอ
“พี่ไห่... พอก่อนครับ!!” ต้นน้ำยื่นมือมารั้งมืออีกฝ่ายที่กำลังทำงานเป็นเครื่องจักรอยู่
“พี่ทำเราเจ็บเหรอ หรือว่า ไม่โอเค...งั้น....” จินไห่เลิ่กลักพูดติดขัดแต่ก่อนที่ต้นน้ำจะพูดอะไร จินไห่ก็ทำบางอย่างที่ต้นน้ำคิดไม่ถึง
จินไห่ก้มลงไปและใช้ปากครอบสิ่งนั้นไว้อย่างไม่ถนัด แม้ต้นน้ำพยายามจะห้ามเพราะเขารู้สึกอายและเกรงใจที่จินไห่ที่เป็นผู้ชายแล้วมาทำกับเขาแบบนี้ แต่เพียงครู่เดียว ความรู้สึกประดักประเด่อก็หมดไปเหลือไว้แต่เพียงความรู้สึกหฤหรรษที่ยากจะบรรยาย การกระทำของจินไห่เหมือนจะรู้ถึงจุดอ่อนไหวต่างๆ ของเขา มันทำให้ต้นน้ำอ่อนระทวยจนแทบคลั่ง
หลังจากทำท่วงทางจากรสริมฝีปากอยู่นาน ต้นน้ำจึงตัดสินใจเรื่องหนึ่งขึ้นมาในใจ เขาใช้สองมือรวบศรีษะคนเบื้องล่างขึ้นมาบดบี้ริมฝีปากและแลกลิ้นอย่างไม่รังเกียจว่าเมื่อครู่ปากเนียนนุ่มนี้ได้ไปอยู่ตรงส่วนใดของเขา
โรมรันกันพักใหญ่ต้นน้ำจึงตัดสินใจพลิกตัวอีกฝ่ายลงและเลื่อนหน้าของเขาลงไปจัดการกับอวัยวะสำคัญเบื้องล่างของจินไห่เช่นกัน จินไห่ยินยอมแต่โดยดีแม้แรกๆ จะขัดขืนเพราะความขวยเขินอยู่บ้าง
จินไห่ร้องครางออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แม้สิ่งนี้จะเป็นครั้งแรกของต้นน้ำแต่เขาทำได้ดีจนจิตใจของจินไห่อยากจะกรีดร้องออกมาเพราะความสุขที่อีกฝ่ายมอบให้ เขาทำได้แค่กัดผ้าห่มและทำเสียงแปลกๆ ออกมาเท่านั้น
“พี่ไห่..... ผม ...... ผม.......” ต้นน้ำเงยหน้าขึ้นและมองตาจินไห่ด้วยแรงปรารถนาอันท่วมท้น หลังจากปรนเปรอด้วยปากให้คนตรงหน้าอย่างสุดความสามารถ
จินไห่พยักหน้าอย่างรู้ใจ เขารู้ว่าสุดท้ายอาจจะเป็นเขาที่เป็นฝ่ายยอม เพราะเขารักผู้ชายคนนี้มากเหลือเกิน อะไรที่ทำให้อีกฝ่ายมีความสุขได้เขาก็ทำ
ต้นน้ำไม่รอช้าจัดจินไห่พลิกคว่ำทันที เขาเดินไปหยิบกล่องยาตามที่จินไห่บอกหลังจากที่โดยจับพลิก ต้นน้ำเปิดดูด้านล่างสุดเขาพบถุงซิปที่ใส่อุปกรณ์สำหรับเรื่องนี้ครบชุด แม้จะประหลาดใจตั้งแต่เห็นครั้งแรกเมื่อวันที่เขาศรีษะแตก แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์สงสัยหรือถามไถ่
ต้นน้ำรีบใช้อุปกรณ์ที่เป็นเจลเย็นใสลงบนเป้าหมายทันที
จินไห่มีอาการสะดุ้งตกใจเล็กน้อย จินไห่มีอาการสั่นจนเห็นได้ชัดอาจเพราะอาการกลัวจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง เพราะจินไห่เองก็ไม่เคยเช่นกัน เขาศึกษามาพอสมควรหลังจากรู้ใจตัวเองว่าชอบชายหนุ่มคนนี้มากกว่าน้องคนรู้จัก เขารู้มาว่ามันเจ็บมาก จากการศึกษาผ่านตัวหนังสือ, สื่อภาพเคลื่อนไหว และคำบอกเล่าจากนีโน่ที่พยายามเสนอตัวเป็นครูให้ลองเป็นฝ่ายตั้งรับดู
ส่วนต้นน้ำที่มีทฤษฎีแน่นหัวเพราะเพื่อนสนิทผู้โชกโชนได้สอนสั่งอัดความรู้เชิงปฏิบัติการให้เต็มจนล้น ทั้งที่เขาไม่พยายามจะตั้งใจฟังเลย แต่มือและร่างกายของเขาก็รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ
หลังจากที่ชโลมเจลใสไร้กลิ่นลงไปที่เป้าหมายแล้ว ต้นน้ำพยายามพานิ้วมือของเขาลงไปตามช่องแคบ เขาลูบไล้มันอยู่นานจนได้ยินเสียงพึงใจดังจากในลำคอของผู้นอนอยู่เบื้องล่าง
จินไห่ที่คลายอาการตกใจจากประสบการณ์ที่มีสัมผัสจากมือที่ไม่ใช่ของตนลูบไล้ส่วนสำคัญที่ด่านล่าง ที่ซึ่งเขาทำความสะอาดอย่างดีทุกวันนับตั้งแต่มาค้างแรมที่นี่ ที่เขาคิดวางแผนกับนีโน่ในการสร้างบรรยากาศให้ตนเองแน่ใจและกล้าพอที่จะสารภาพความในใจ จินไห่เริ่มรู้สึกดีกับการโดนสัมผัสอย่างเชี่ยวชาญ มันวาบวามหัวใจและรู้สึกดีภายในเวลาเดียว ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเหมือนอยู่ในฝัน เขาต้องสะดุ้งตกใจเพราะมีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาที่ช่องน้อยๆ ของเขา
ต้นน้ำไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกตื่นเต้นกับการใช้มือเล้าโลมบั้นท้ายใครขนาดนี้ เขาไม่รู้สึกรังเกียจ มีความใคร่รู้ว่ามันจะรู้สึกยังไงหากเขาได้เสพสมกับคนที่เขารู้สึกเต็มตื้นตรงหน้า เขาตัดสินใจทำขั้นตอนถัดไปทันที เขาใช้นิ้วชี้ค่อนๆ ชอนลึกเข้าไปเรื่อยๆ ช้าๆ จนคนตรงหน้าเขาสะดุ้งเกร็งและตกใจ ต้นน้ำมองไปที่คนเบื้องหน้าเป็นเชิงถามว่า ‘ไหวไหม?’ อีกฝ่ายทำเพียงพยักหน้าเป็นการอนุญาตให้ไปต่อได้ด้วสีหน้าแสดงความเจ็บปวด
เมื่อเห็นดังนั้นต้นน้ำจึงได้ใจ เขาจึงเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกสองนิ้ว จินไห่เผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ต้นน้ำรับดึงมือออกทันที
“ผมว่าเราพอแค่นี้เถอะ พวกเรายังไม่พร้อมกับเรื่องแบบนี้จริงๆ” ต้นน้ำขยับขึ้นไปโอบกอดอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไร พี่ยังไหว...” จินไห่มีเสียงหอบถี่
“แต่ว่า....” ต้นน้ำพยายามจะพูดโน้มน้าวโดยการมองไปที่หน้าจินไห่ให้เข้าใจว่าเขาโอเคที่จะหยุดแต่เพียงเท่านี้ แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายทำให้ต้นน้ำตัดสินใจทำต่อ
“ได้ครับ...ผมจะพยายามอ่อนโยนนะครับ” ต้นน้ำตอบรับคนที่ทำหน้ากล้าๆ กลัวๆ ตรงหน้า แต่มือของจินไห่กลับกำแน่นที่ต้นแขนของต้นน้ำจนแดงกล่ำไปเป็นแถบ
ต้นน้ำหยิบซองถุงยางฉีกออกโดยใช้ปากดึงตรงรอยแยกอย่างชำนาญ จินไห่ที่เห็นทุกท่วงท่าตรงหน้าก็ยิ่งทำให้ใจสั่นระรัวเป็นกลองศึก เขายอมรับว่าภาพที่เห็นทำให้อารมณ์ยิ่งพุ่งสูงไปอีก แต่ในใจลึกๆ ก็กลัวสิ่งที่จะตามมาเป็นครั้งแรกอย่างมาก
จินไห่เตรียมใจมาอย่างดีแล้ว ไม่ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งไหน เขาก็พร้อมเต็มใจเพราะว่าเขารักคนๆ นี้มากเหลือเกิน มันมากจนไม่มีเหตุผลเลยเสียด้วยซ้ำ
ต้นน้ำจัดท่าน้องขายของเขาหลังจากสวมปลอกสีขุ่น พื้นผิวส่วนยอดของน้องชายต้นน้ำจรดจ่ออยู่ที่ปากทางที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยของเหลวลื่นหนืด เขามองหน้าที่แดงกล่ำดุจผลแอปเปิ้ลสุกตรงหน้า แล้วจึงค่อยๆดันตัวเองไปด้านหน้าช้าๆ ให้ร่างกายส่วนนั้นค่อยๆ สัมผัสผิวที่บีบแน่นตึงจนเขาต้องร้องออกมา
ความทรมานที่โดนสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาทีละน้อยๆ พร้อมกับความเจ็บปวดที่ไม่เคยลิ้มรสมาก่อน จินไห่ถึงกับพยายามขยับร่างถอยออกจากส่วนทิ่มแทงเข้ามา แต่ไม่สำเร็จเพราะโดนมือหยาบใหญ่ของอีกฝ่ายตรึงไว้ จินไห่ทำได้เพียงใช้มือแต่ละข้างขยำหมอนและผ้าปูที่นอนจนยับยู่
ต้นน้ำกำลังผ่านขั้นตอนที่ยากที่สุด คือในช่วงการถลำเข้าไปถึงช่วงกลาง มันคับแน่นและขยับตัวเข้าได้ยาก ยิ่งได้เห็นคนเป็นพี่เกร็งบิดด้วยความเจ็บปวดตรงหน้า ต้นน้ำยิ่งรู้สึกทำใจเดินหน้าต่อได้ยาก เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องเกรงใจคนตรงหน้ามากขนาดที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
แต่ด้วยอาการบีบรัดของส่วนนั้น ยิ่งอยู่นานยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาพุ่งทยานจนไม่สามารถ ถอนตัวได้ แม้จะยอมรับว่าเกรงใจคนด้านล่างและไม่อยากจะทำร้ายคนๆนี้ไปมากกว่านี้ แต่ในอีกใจหนึ่งซึ่งตอนนี้ทรงพลังกว่ามาก กำลังโน้มน้าวให้เขาทำมากกว่านี้ ต้องการมากกว่านี้ และในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ให้กับความต้องการของตนเอง เขาดันตัวเองไปจนสุดทางอย่างรวดเร็ว
จินไห่อุดริมฝีกปากแทบไม่ทัน เขาร้องอู้อี้อยู่ในลำคนและสั่นไปหมดทั่วทั้งร่าง
ต้นน้ำแม้จะเห็นแบบนั้นแต่เขาหยุดตัวเองไม่อยู่แล้ว เขามองภาพตรงหน้าด้วยความวาบวาม ความเจ็บปวดของคนตรงหน้ายิ่งทำให้เขารู้สึกว่าจินไห่ดูยั่วยวนเพียงใด เขาจึงมอบความรักให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่หยุดหย่อน ต้นน้ำไม่ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของอีกฝ่ายเลย เขารับรู้แต่ว่าเขามีความสุขแค่ไหน จนกระทั่งเขาสัมผัสได้ถึงมืออันเย็นเยียบมาเกาะบริเวณเอวแกร่งของเขา เขาถึงได้รับรู้ว่าความรู้สึกของเขา ในที่สุดก็ส่งถึงอีกฝ่ายจนได้ เพราะรอยยิ้มและใบหน้าดูมีความสุขได้ส่งมาให้เขาอย่างต่อเนื่อง
ต้นน้ำกระหน่ำเพลงรักอีกหลายกระบวนท่าจนกระทั่งทั้งสองหมดแรงไป คืนนี้เป็นคืนที่อบอุ่นที่สุดของจินไห่ เพราะเขาไม่ได้นอนคนเดียวแล้ว และยังมีคนนอนกอดให้อุ่นตลอดทั้งคืน
.....................