- บทที่ 18 - ลมอุ่น - --------------------------------------------------
พูดถึงความเหมือนของพี่ทะเลกับมะนาวนั้น
สองคนนี้สูงเท่ากันเป้ะ แต่พี่ทะเลจะหนากว่านิดหน่อย เพราะเป็นคุณหมอที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพแน่นอนเขาออกกำลังกาย
พี่ทะเลใส่แว่นตามชะตากรรมหมออ่านหนังสือเยอะ ในขณะที่มะนาวตาดีชนิดที่ว่าสามารถลอกข้อสอบของคนที่นั่งไกลออกไปสองที่นั่งได้สบายๆ (เขาไม่ได้ทำนะ ผมแค่เปรียบเทียบ)
พี่ทะเลเป็นผู้ใหญ่มาก ในขณะที่มะนาวเป็นผู้ใหญ่ แค่บางเรื่องเท่านั้น...
พี่ทะเลมีเหตุผล ส่วนมะนาวก็มีเหตุผล แต่เป็นเหตุผลในมุมแบบของเขา ซึ่ง สำหรับผมผมว่ามันก็น่ารักดี
พี่ทะเลยิ้มง่าย ส่วนมะนาวหัวเราะง่าย
พี่ทะเลขาวซีดแบบคนไม่เจอแดดไม่เจอตะวัน ส่วนมะนาวนั้นผิวผู้ชายทั่วไป
ความละเอียดของผิวใกล้เคียง
ผิวหน้าบาง
ขนอ่อนๆ บนแก้ม
ปลายคางเหมือนกัน
ริมฝีปากบาง ใกล้เคียงกันมากๆ
จมูกรั้น
พี่ทะเลใส่แว่นทำให้ผมรู้สึกว่าเวลามองเขาเหมือนผมกำลังส่องกระจก แต่กับมะนาว นัยน์ตาใสของเขาเปล่งประกายเมื่อมองมาที่ผม
ที่ต่างกันชัดๆ เลย คือความรู้สึกของผมนี่เอง
“สองคนกินอะไรมายัง แวะเซเว่นนะ” ก่อนขึ้นทางด่วน ผมไม่ลืมแวะเซเว่นร้านสะดวกซื้อคู่บ้านคู่เมือง หาเสบียงระหว่างเดินทาง
มะนาวได้ขนมมาเยอะมาก เต็มถุงเซเว่นไซซ์ใหญ่ พี่ทะเลมองขนมกรุบกรอบและของหวานบนตักมะนาวด้วยสายตาขยาดกลัว
“มะนาวกินแบบนี้ตลอดเลยเหรอ” ในที่สุดก็เอ่ยปากถามสักที คงอั้นอยู่นานแล้ว
“ไม่หรอกฮะ นานๆ ที”
“อ้อ”
อ้อนี่คือก็แล้วไป สินะ ฮ่าๆๆ ผมเข้าใจพี่เลนะ
“ถ้ามึงตอบว่าครับกินแบบนี้ตลอด ทุกวัน วันละหลายรอบ มึงโดนสวดแน่”
“ฮึ้ย เปล่านะ นานๆ ทีจริงๆ เนอะแม็ตเนอะ”
“ฮ่าๆๆๆ” ผมขยี้หัวมะนาวแล้วออกรถต่อ
แต่เสียงเย็นๆ ที่ดับเสียงหัวเราะน้ำนิ่งก็ดังขึ้น
“อยากกินแบบนั้นเหรอ?”
“เปล่า”
“...” สายตาจับผิด
“เปล่าเลย แค่แซวมะนาวเล่นเฉยๆ มาๆ น้ำกินนี่ไง โยเกิร์ตสูตรน้ำตาลน้อย กับกล้วยหอม แล้วก็ไข่ต้ม อิ่มถึงบ่ายยยย”
“อยากกินอะไรก็ได้นะ กินเลย แต่ถ้าตายเร็วเลหาแฟนใหม่แน่ ไม่ ต้อง ห่วง”
พี่ทะเลเน้นเสียงหนักแน่นที่ประโยคท้าย น้ำนิ่งส่ายหน้า แบบ ไม่ต้องหาใหม่ ไม่กินผมไม่กิน
แต่คนข้างตัวผมสิ ถุงมันฝรั่งทอดกรอบที่กำลังแกะตกตุ้บเลย
“กินๆไปเถอะมะนาว ฮ่าๆๆ ไอ้น้ำมันโดนคุมอาหารเพราะบ้านมันเป็นเบาหวานทั้งบ้าน แถมเมื่อก่อนยังติดหวานจนน่าเป็นห่วง”
“เฮ้ย มะนาว พี่ไม่ได้ว่าเรานะ มะนาวกินได้ๆ”
“ระ เหรอครับ ผมกินได้แน่นะ”
อ้อ ที่ต่างกันชัดๆ อีกอย่าง รังสีความเป็นนางพญาของพี่ทะเลแก่กล้ามาก ผมไม่ใช่คนถูกจู่โจมยังรับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่าง
เพราะเพิ่งตื่นก็เลยไม่มีใครหลับ การเดินทางเต็มไปด้วย... การประชันกันของน้ำกับมะนาว
"เล ป้อนหน่อย"
“มือก็มี จะให้ป้อนทำไม”
“มันมีความตาร้อนอยู่ในน้ำเสียง เลไม่เห็นเหรอ” อันนี้น้ำพูดเองนะครับ ผมกับมะนาวแค่นั่งหัวเราะกันอยู่ข้างหน้า
“ปัญญาอ่อน”
“เลชอบคนปัญญาอ่อนแบบนี้แหละ ไม่เครียด ใช่มะล่า นะๆๆๆ ป้อนๆๆ”
“ไม่ ฮ่าๆๆๆ ไม่เอา กินเองสิโตแล้ว”
“เลแกล้ง”
“ใช่ ไม่โกรธอยู่แล้วนี่” เพื่อนผมยิ้มจนสาวออก
“มึงอยากให้พี่เลป้อนมากๆ ก็มาขับรถ” ผมบอก หันไปบอกมะนาวว่าพร้อมกินเบอเก้อร์คำต่อไปแล้ว มะนาวยื่นให้ต่อหน้าต่อตาไอ้น้ำ
“อยากตายรึไงจะให้กูขับเนี่ย”
“น่ากลัว ฮ่าๆๆๆ” มะนาวหัวเราะร่วน ตั้งแต่ขึ้นรถมานะ มะนาวอารมณ์ดีมาก
ผมมองเขา สลับกับมองถนน ถ้ารู้ว่าพามาเที่ยวแล้วจะอารมณ์ดีขนาดนี้ ต่อไปคงต้องหาเวลาแล้วล่ะ
น้ำยกโทรศัพท์ที่ส่งเสียงขึ้นดู ผมหุบยิ้มทันที
“เมโทรมาวะ” เฮ้ย!
อย่ารับ!
คิดว่าทันไหมครับ? แน่นอนว่าไม่
“ฮัลโหล ว่าไงสุดหล่อ” ผมทำหน้าหวาดเสียวสุดขีดหรี่ตามองถนน เพราะรู้ว่าเมโทรมาทำไม
“มีอะไรเหรอ?” มะนาวผู้ไม่เคยรู้เรื่องอะไรหันมาถามผมงงๆ
“แม็ตขับรถอยู่ ช่าย ไปสัตหีบ เออๆ เดี๋ยวเปิดสปีคเกอร์โฟนแป็ป” น้ำดึงโทรศัพท์ออกจากหู กดเปิดลำโพงแล้วยื่นมากลางรถ
// ไอ้เหี้ยแม็ต วันนี้นี้มึงก็ไม่มา แล้วดู ทิ้งกูไว้กันตัวอะไร //
“พี่กูออกจะใจดีนะ” ผมเลือกตอบเบาๆ ไม่ร้อนสู้มัน
// ห่า กวนตีนกูชิบหาย ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นพี่แก่ใกล้จะตายเองอยู่รอมร่อมีเจอดีแน่ มึงจงใจหลอกกูมาซุ้มทีมเชียร์ทำไมวะ //
“เอ่อ กูเปล่านะเว้ย”
“แม็ตทำอะไรวะเม” มะนาวถามขึ้น
// มันให้กูไปเอาเค้กที่ซุ้มทีมเชียร์ จงใจให้พี่มันกวนตีนกู //
“อ้าว มึงเหี้ยมากแม็ต”
“ฮ่าๆๆๆๆ พี่ยีนส์ต้องชอบมึงแน่เลยเม” น้ำหัวเราะชอบใจ นั้นคือคำสุดท้ายที่เราโต้ตอบมันทันก่อนจะโดนเมด่ากันถ้วนหน้า ยกเว้นมะนาวที่รอด กว่าจะวางสายไปอย่างกับพายุผมนี่หูชาไปข้างนึง
“สรุปมึงหลอกเมไปซุ้มทีมเชียร์ทำไมวะ?” น้ำถามไปหัวเราะไป
“เมมันรู้ได้ไงว่ากูอยู่กับมึง”
“กูเช็คอินว่ากำลังออกเที่ยวไง มึงตอบกูด็วย”
“เหี้ย แท็กกูทำไมวะ คือเมื่อวานกูจะกลับก่อน เลยไปบอกพี่กูให้เขาช่วย พี่กูรู้ว่าเมมาแต่อยู่ซุ้มอื่นไม่เข้าซุ้มเขา เขาเลยให้กูพาเมมาแลกกับเช็คชื่อให้”
“แล้วทำไมมึงต้องกลับก่อน ปกติมึงอะไรก็ได้ อยู่เล่นเกมไปได้เรื่อยๆ นี่นา”
“กูอยู่ได้ แต่ข้างรหัสกูแม่ง ไปสรรหามาจากไหนไม่รู้ มอมตัวเองหลับกลิ้งอยู่ข้างไอ้ดุ๊กดิ้ก กูสงสารเลยจะพากลับไปนอนห้องดีๆ”
“อ้อ เข้าใจและ ข้างรหัสมึงนี่ดีเนอะ เมื่อกี้ยังช่วยไอ้เมด่ามึงอีก ทั้งที่มันเป็นสาเหตุ ไงมึงสำนึกใจบาปของตัวเองยัง”
“ครับ ขอโทษครับ มะนาวผิดไปแล้ว” มะนาวฟุบหน้ากับคอนโซนรถ ทำท่าสะอึกสะอื้นสำนึกผิด
ผมหัวเราะแบบไม่ได้คิดมากอะไร ปัดๆ หัวเขาสองทีเป็นเชิงว่าอย่าไปคิดมาก
“เพื่อนกูพลีชีพเพื่อมึงเลยนะเนี่ย กูว่ากลับไปไอ้เมรอฆ่ามันอยู่”
“กูก็ว่างั้น งั้นกูจะอยู่ใกล้ๆ พี่ยีนส์ดีมะ มันจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้”
“นี่ๆ เมกับพี่ของแม็ตทำไมเหรอ?”
อีกอย่างครับ ที่มะนาวเหมือนพี่ทะเล คือความอยากรู้อยากเห็นแบบน่ารักๆ
เรามาถึงท่าเรือสายๆ พี่ทะเลบอกว่าให้พวกเรารอในรถ เขาลงไปจัดการเรื่องตั๋ว ก่อนลงรถก็ไม่ลืมโยนกันแดดมาให้เราทากับระหว่ารอ
ที่ผมรู้มาคือไม่ใช่ว่ามาถึงแล้วจะได้ตั๋วขึ้นเรือเสมอไป เพราะค่อนข้างจำกัดคนต่อวันต่อรอบ แต่พวกนี้คงจองไว้แล้วล่ะมั้ง
“พี่ทะเลโทรจองไว้เหรอพี่” พี่ทะเลกลับขึ้นมาบนรถพร้อมตั๋วขึ้นเรือสี่ใบ
“เปล่า ให้แฟนเก่าที่ทำงานอยู่นี่จองให้น่ะ”
“เฮ่ แบบนี้ผมต้องคิดมากไหม?”
“ไม่ต้องคิดเลย มันมีแฟนจะแต่งงานอยู่ปีหน้าแล้วเนี่ย”
“แน่นะ”
“แน่ เพื่อนกัน” หลังจากนั่นเขาก็จับมือกันอยู่เบาะหลัง ไม่ได้พูดอะไร นั่งพิงไหล่กันเงียบๆ
เออเนอะ สองคนนี้คุยกันรู้เรื่องง่ายดีจริงๆ
ถึงน้ำมันจะอายุแค่ 18 ตอนคบกับพี่เลเพิ่ง 17 ด้วยซ้ำ มันต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเพื่อจะโตให้ทันพี่เลที่อายุห่างกันตั้ง 6 ปี
.................................
บนเรือ พี่ทะเลกับน้ำ โพสท่าถ่ายรูปกันสุดฤทธิ์ แต่คนที่ผมกะว่าร่าเริงแน่ๆ กลับนั่งหน้าเขียวไม่พูดไม่จา
“เมาเรือเหรอ”
“ไม่รู้ดิ แต่ปกติไม่เคยเป็นไรนะ”
“แป็ปเดียวก็ถึงแล้ว มะนาวสู้ๆ” พี่ทะเลให้กำลังใจครับ แล้วก็ไปเซลฟี่ให้ติดผมกับมะนาวข้างหลังเขา
“หมอเขาว่างั้นอ่ะ อดทนอีกแป็ปนะ หายใจเข้าลึกๆ มองไปไกลๆ เกาะอยู่แค่นี้เอง แป็ปเดียวก็ถึง”
มะนาวทำตาม ผมเดาว่าคงเพราะฤทธิ์จากเหล้าต้ม เมื่อวาน...
จะสงสารดีหรืออะไรดี
มาถึงเกาะแสมสาร เรามานั่งฟังบรรยายเป็นช่วงเวลาที่มะนาวนั่งพัก สักพักก็ดีขึ้น กลับมาร่าเริงนำพวกเราปีนขึ้นรถเพื่อนั่งไปหาดอีกหาด
มาถึงหาดที่ชื่อหาดลูกลม ทุกคนก็แยกย้ายกันไปถ่ายรูป มะนาวเรียกผมถ่ายรูปได้แค่สองรูป ก็วิ่งไปหามุมของตัวเอง ผมยืนมองน้ำทะเล ฟังเสียงคลื่น รู้สึกผ่อนคลาย ทั้งที่ยังเหนื่อยจากอะไรๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนชาร์จแบตให้ตัวเอง ผมนั่งลงบนพื้นทรายแห้งๆ ดูมะนาวถ่ายรูปเท้า รูปหิน รูปคลื่นซัดโขดหินไปตามเรื่อง ผมนั่งเขี่ยทรายอยู่ไม่ไกล กำลังโพสรูปในกรุ๊ปแฟมิลี่อยู่ดีๆ มะนาวก็เรียกผมเสียงอ่อนๆ
“แม็ต แม็ต” ผมหันไป
เฮ้ย!
เลือด!
มะนาวถือมือถืออยู่ในมือ ดึงขากางเกงขวาขึ้น เข่าเขามีรอยเลือดเป็นวง มีจุดเล็กรอบๆ แผลใหญ่ตรงกลางเริ่มมีเลือดไหลหยดเป็นทาง มือซ้ายหงายขึ้น อุ้งมือมีรอยถลอด เลือดเริ่มซึมแดงออกมาให้เห็น
ผมเดินข้าไปหาเขา จับมือเขามาดู ก้มลงดูที่เข่า งงว่าเกิดอะไรขึ้น
“ลื่นตกหิน ฮ่าๆ”
“ยังจะหัวเราะอีก ไม่เจ็บเหรอ”
“ไม่อ่ะ ตอนนี้ยังงงอยู่ เริ่มชาๆ นะ”
“ไปที่ร่มกัน เดินไหวไหม”
“ไหว”
ถึงเขาบอกไหว แต่ผมก็ยังเข้าพยุงพาเดินมาจนถึงเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เห็นเราสองคนแต่ไกลแล้วครับ เขายืนรออยู่เพราะเห็นว่าอาการไม่ได้สาหัสอะไร ผมพามะนาวมานั่งลงเก้าอี้ว่างๆ
“โอ้ เรานี่แจ็คพ็อตนี่นา” พี่ทหารแซวครับ ก่อนจะเดินไปหยิบชุดปฐมพยาบาลมาแล้วทำท่าจะทำแผลให้ พร้อมๆ กับพี่เลกับน้ำเดินตามเข้ามา
“พี่ๆ เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ครับ พี่ต้องทำงานอีกทั้งวันคงเหนื่อยอีกเยอะเลย มาผมช่วย”
“เหรอ เอางั้นเหรอ” พี่ทหารพูดเหมือนจะลังเล แต่กลับยื่นอุปกรณ์ให้ทันที
“ครับ” พี่ทะเลตอบอย่างแข็งขัน ก็น่าจะบอกพี่ทหารเขาไปว่าตัวเองเป็นหมอ
“นาว มึง กูมีอะไรจะบอก”
“อะไร?”
“พี่ทะเลเป็นหมอที่มือหนักเหี้ยๆ”
มะนาวทำตาโต
“อยากได้สักแผลใช่ไหมพูดแบบนี้”
“ฮ่าๆๆ เปล่าจ้า”
พี่ทะเลจัดการราดน้ำเกลือล้างแผลอย่างชำนาญ เอาก้อนสำลีเช็ดๆ ดูปากแผลทั้งที่มือและที่เข่า บ่นพึมพำว่าไม่มีอะไรติด ใส่ยานิดหน่อย แล้วก็บอก
“เสร็จล่ะ ไปดำน้ำได้”
“หา” อันนี้เสียงผมครับ
“ได้ใช่ไหมพี่เล อุส่ามาผมไม่อยากพลาดดำน้ำ”
“ได้ดิ แผลแค่นี้เอง คนสมัยก่อนแขนขาขาดยังไม่ตายนับประสาอะไรกับแผลแค่นี้ น้ำทะเลแถวนี้ก็สะอาดไม่น่าห่วงหรอก เล่นได้”
“เย่”
“แต่จะดำก็รีบดำนะ สักพักมันคงอักเสบ จะเริ่มปวด ขึ้นมาค่อยทำแผลอีกรอบ”
“ไปๆๆ” มะนาวคว้าอุปกรณ์ดำน้ำตื้น กับชูชีพขึ้นใส่ กวักมือเรียกผมให้แต่งตัว
“จะลงน้ำจริงเหรอ?”
“ลงดิ อยากดูปะการังนะ อุส่ามาถึงที่ ไม่ได้จะมาง่ายๆนะเว้ย”
“แต่”
“ไม่ต้องคิดมากหรอก หมอบอกได้ก็ได้ดิ้ เนอะ”
“...” ผมไม่พูดอะไร มองแผลมะนาวที่ยังสดใหม่ด้วยความเป็นห่วง
“แต่ถ้ามึงไม่อยากให้ลงน้ำ กูไม่ลงก็ได้นะ แต่... คราวหน้าแผลหายจะให้พามาใหม่ ฮ่าๆๆ มาหลายๆรอบเลยดีมะ”
มะนาวพูดอย่างพยายามร่าเริง ทั้งที่จริงๆ เขาอยากลงน้ำมาก และคงเสียใจมาก ถ้าไม่ได้ดำน้ำ
“เล่นเถอะ แต่ระวังไปโดนอะไรเข้าอีกนะ”
“จ้า”
คงชาติหน้าตอนบ่ายๆ โน้น ผมถึงจะขัดใจเขาได้ ไอ้แม็ตเอ้ย
พวกเราขึ้นเรือยางออกมาดำน้ำตื่นกันกลางทะเล มะนาวรีบร้อนลงทะเลคนแรกคงกลัวผมเปลี่ยนใจไม่ให้ลง เขาลอยน้ำเบาๆไม่ค่อยขยับไปไหน ไม่รู้เจ็บขา หรือเป็นเทคนิคให้ปลาเข้าใกล้
แต่สักพักมะนาวก็ขึ้นไปรอบนเรือ คงเหนื่อยแล้ว ผมรู้สึกโอเคกว่าที่เห็นเข้ารอบนเรือ อย่างน้อยก็ไม่ต้องแช่น้ำนานๆ แต่หางตาผมเริ่มกระตุก ผมหันไปที่ที่มะนาวที่นั่งอยู่บนเรือกับเจ้าหน้าที่ สองคน...
สองคน!
แถมยังคุยกันดูสนุกสนาน ทหารคนนั้นก้มลงจับขามะนาว ก้มดูแผล แล้วหยิบขวดน้ำดื่มล้างแผลให้มะนาว
เออ มึงทำดี กูจะไม่ถือแล้วกัน
“เลดูดิ”
“อะไร”
“ปลาหน้าดำหน้าแดงจะระเบิดอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ” ไอ้น้ำแซวผมจากอีกมุม
กูได้ยินโว้ย
ผมพยายามไม่สนใจ ไม่คิดมาก ดำน้ำต่อ แต่ก็ได้ไม่นานผมเบื่อเกินกว่าจะดูปลาชมปะการังต่อ ผมขึ้นจากน้ำมานั่งบนเรือรอให้หมดรอบ
“ไมรีบขึ้นวะ เสียดาย”
“เดี๋ยวมึงเหงา คราวหน้าค่อยพามาใหม่”
“กูถือว่ามึงสัญญาแล้วนะ ฮ่าๆๆ” คงบังเอิญล่ะมั้ง ที่ผมสบตากับทหารหนุ่มคนนั้นพอดี
ผมยังจำได้นะ ที่มะนาวบอกไว้ ว่าพวกผู้ชายชอบเดินตามเขามา ผมดูเขามาตลอดทำไมจะไม่รู้ ว่ามันจริง!
“เริ่มเจ็บแผลรึยัง” ผมลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งข้างหน้ามะนาว เอียงแผลดู จับขาเขาเบามือกลัวกระทบกระเทือน
“นิดหน่อย พอแล้ว ดูอะไรนักหนา แผลแค่นี้เอง แค่ถลอกไม่ได้ขาขาด”
ผมเลยลุกขึ้นลอยหน้าลอยตามานั่งข้างเขาแบบติดมากๆ
ให้มันรู้ไปสิ ว่าจะยังมีใครกล้ามายุ่งกับมะนาวอีก!
…………………
“เฮ้ย นาวนี่หว่า”
“อ้าว ไอ้พี่ซัน”
“เรียกกูดีๆ ไม่เคยได้ เป็นไงมาไมมึง แล้วไปโดนอะไรมา ซุ่มซ่ามอีกอ่ะดิมึง”
ขึ้นจากน้ำ ระหว่างรออาบน้ำจืด มีคนเดินเข้ามาทักมะนาวคงมากับเรือรอบหลังจากเรา เขามากันเป็นกลุ่มหญิงหนึ่งชายสอง คนที่ชื่อซันเป็นผู้ชายตัวสูงผอม ผมยาวมัดจุกไว้ตรงท้ายทอย ใส่หมวกใส่แว่นกันแดด ไม่ใส่นาฬิกาแต่มีกำไล ใส่แหวน สะพายกระเป๋ากล้อง เจาะหูข้างขวาข้างเดียวสามรู เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ดูชิลๆ
จริงๆ ก็ดูชิลทั้งสามคน
“เออ ผมมันซุ่มซ่ามเอง มากับเพื่อนพี่ นี่แม็ต ข้างรหัสผมที่คณะ กับน้ำเพื่อนผม พี่ทะเล พี่น้ำมัน”
“เฮ้ย ถ้ากูไม่รู้จักพี่มะม่วงกับไอ้ยมกูจะคิดว่านี่พี่แท้ๆ ของมึงเลยนะเนี่ย”
“ไอ้พี่ซัน อย่าลาม พี่เลแก่กว่าพี่อีก”
“เฮ้ยจริงดิ้ หวัดดีพี่ พี่หน้าโคตรเด็ก”
“เขาสายดูแลสุขภาพ”
“เดี๋ยว มึงมีพี่สองคน ชื่อมะม่วงกับมะยมเหรอ” น้ำถามเสียงใส
“เออ กูคนเล็ก ถึงเอาแต่ใจไง” น้ำฟังแล้วอ้าปากค้าง ส่วนผมนั้น รู้อยู่แล้วว่ามะนาวมีพี่น้องกี่คน และรู้ว่าเขาเป็นน้องคนสุดท้อง
“กูเพิ่งเคยเห็นคนยอมรับว่าตัวเองเอาแต่ใจเนี่ยแหละ”
มะนาวยักไหล่หันไปแนะนำพี่ซันให้เรารู้จัก “นี่พี่ซัน เพื่อนพี่กูครับ”
“หวัดดี นี่โซ่ กับชะเอมเพื่อนพี่”
ทักทายกันพอเป็นพิธีพี่เลกับไอ้น้ำก็หายไปทางห้องอาบน้ำ
“มึง ขอน้องเขาถ่ายรูปได้ป่ะ?” ชะเอมหญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มทำท่ากระซิบกระซาบแต่ได้ยินไปทั่ว
“เออ กูว่าคอนเซปได้อยู่นะ”
“ไหนบอกแค่เซอร์เวย์ไม่ถ่ายคนไง” พี่ซันออกความเห็น
“ก็ไหนๆ ก็มาแล้วอ่ะ มึงคิดดูถ้าได้โลเคชั่นนี้ หุ่นงี้ กูว่ากูจบแน่ นี่เลยชิ้นโบว์แดง”
“โบว์แดงเลยเหรอ โบราณมากมึง” เขาหันไปคุยกันสามคน พวกผมยืนตัวเปียกมองหน้ากัน รู้สึกงานจะเข้ายังไงไม่รู้ ด้วยอะไรๆ รู้สึกว่าที่เขากำลังคุยกันมันหมายถึงพวกผม
“เอาจริงเหรอ ไม่ได้เตรียมพร๊อพสำหรับคนมานะเว้ย”
“ลองดูเสียหายอะไร กล้องมึงถ่ายได้ 34 รูปรึไง ถ่ายๆ ไปเถอะ”
“เออ มะนาว รีบกลับรึเปล่า” ประชุมกันเสร็จ ในที่สุดพี่ซันก็เป็นตัวแทนมาเจรจา
“ไม่พี่ มีอะไรก็ว่ามา” มันนั่งกระดิกขาที่เจ็บรอแบบโคตรกวนตีน ดูท่าจะสนิทสนมกันมากจริงๆ
“พี่มาเซอร์เวย์ฉากถ่ายหนังจบกันอยู่ เรากับเพื่อนมาเป็นนายแบบให้หน่อย อ้าว อีกสองคนหายไปไหน”
“ได้ตังป่ะ?”
“ถ้าผ่านมึงได้แน่ เพราะอาจจะต้องมาเล่นด้วยเลย ฮ่าๆๆ เอาน่า ถือว่าช่วยๆ กัน กล้องพวกกูแพงนะเว้ย ถ่ายไงมึงก็หล่อ”
“พี่จะให้คนไหนถ่ายบ้างอ่ะ ผมบังคับเพื่อนไม่ได้หรอกนะ ต้องลองถามทีละคน”
“หมดเลยสี่คน รูปที่ใช้จริงๆเป็นแบบหันหลัง ไม่ค่อยเห็นหน้าหรอก ถ้าจะถ่ายข้างหน้าเก็บไว้เทียบนิดหน่อยเอง ขั้นแรกยังไม่โปรโมทมึงไม่ต้องกลัวแค่พรีเซ็นคอนเซปกับอาจารย์ เอาน่า ช่วยพวกพี่หน่อย”
“เหรอ อื้มมม”
มะนาวมองหน้าผม
“เอาไงดีล่ะ?”
…………………………………
เราออกจากเกาะกันในตอนบ่าย แวะหาร้านอาหารทะเลแถวบางแสน กว่าจะกลับมาถึงห้องก็เกือบสามทุ่ม มะนาวถึงห้องก็ทิ้งตัวลงนอนกางแขนบนเตียง ส่วนขานั้น เจ็บ ฮ่าๆๆๆ
“ไปอาบน้ำ จะได้มาทำแผลอีกรอบก่อนนอน”
“ไม่ต้องทำหรอก พรุ่งนี้ค่อยทำ อันนี้หมอตัวจริงทำให้เลยนะเว้ย สะอาดปลอดภัยไม่ต้องกังวน”
“กังวนสิ”
“พอแล้วมึง มึงจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง”
“ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย แค่ทำแผล”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่ทุกเรื่อง”
“...”
“มึงทำเพื่อกูเยอะมากเลย ขอบคุณนะ”
“ไม่ต้องขอบคุณ เปลี่ยนเป็นทำตัวน่ารักๆ เหมือนเดิมก็พอ”
“อย่าใช้คำว่าน่ารักนะเว้ย!”
“อ้าว ทำไม?”
“ผู้ชายที่ไหนเขาจะชอบให้คนอื่นมาชมน่ารักวะ”
“ฮ่าๆๆๆ มึงนี่ น่ารักจริงๆ”
“แง้งๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ”
หลังจากนั้นมะนาวก็คอยแต่ไล่ผม ไม่ให้คอยมองตามเขาตลอดเวลา
ทำได้ที่ไหนล่ะ?
“มีซ้อมทุกวันเลยเหรอ”
“ไม่ซ้อมอย่างเดียว มีแข่งวันพุธนี้แล้วเนี่ย”
“อ้าว จริงดิ”
“อันนี้เป็นกีฬาเฟรสชี่เดี๋ยวหลังมิทเทอมมีกีฬามหาลัย ไปแข่งกับคณะอื่นๆ อีก แต่ต้องคัดตัวรวมกับปีสองปีสาม”
“งั้นวันนี้ กูไปดูนะ จบเชียร์แล้วโคตรว่า แค่คิดว่าตอนเย็นไม่มีอะไรทำก็เบื่อล่ะเนี่ย”
“อยู่ห้องอ่านหนังสือไม่ดีกว่าเหรอ” ผมเลิกป้ายความผิดให้แผลเขาเดี๋ยวจะหาว่าผมขี่บ่นเป็นตาแก่อีก
“ไปอ่านโน้นก็ได้” มะนาวป้องปากกระซิบ “กูจะไปสืบเรื่องพี่ปราณกับพี่ชนะ”
ก็นั้นแหละ ที่ผมห่วง มะนาวบอกว่าพี่ชนะกับพี่ปราณ เป็นแฟนกันแล้ว จากหลักฐานแค่ว่าเขาเดินตามไปขึ้นรถในวันนั้น จริงอยู่ที่พี่ปราณไม่มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ มะนาวอีก ไม่มานั่งเฝ้าที่โรงอาหาร ไม่คอยเดินตาม หรือดักรอหน้าตึกเวลาเลิกเรียน แต่ใครจะรู้ว่าตกลงเขาคบกันจริงไหม
“นะ”
อ้อนไม่ต้องมาก แค่ ‘นะ’ คำเดียวผมก็ยอมอีกแล้ว
........................
“ไง ทำไมมาทีไรเจอน้องนาวทุกที”
“อ้าวพี่ชนะ หวัดดีพี่”
“พี่ชนะหวัดดีครับ” ผมกับมะนาวยกมือขึ้นไหว้พี่ชนะตามธรรมเนียม
ตอนนี้เป็นช่วงพัก ผมวิ่งวอร์มจนเหงื่อโทรม ส่วนใหญ่ผมถูกเมไล่เตะ เลยสะบักสะบอมกว่าปกติ
พี่ชนะยังอยู่ในชุดทำงาน แขนเสื้อพับขึ้นเกือบถึงศอกเนคไทปลดหลวมๆ กับปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนท่าทางสบายๆ เขามานั่งที่ว่างๆ ข้างมะนาว
“แนะ มาหาแฟนอีกแล้วเหรอพี่”
“เออ เดี๋ยวมันเห็นต้องบ่นอีกแน่”
“บ่นไรอ่ะ”
“มันไม่อยากให้พี่มาดู หรือ มาหา” คนพูดมีท่าทีสงสัยในคำตอบตัวเอง
“อ้าว ทำไมอ่ะ มีแฟนมาให้กำลังใจดีจะตาย”
“ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อายมั้งที่แฟนเป็นผู้ชายตัวดำแถมมีหนวด หึหึ” ผมไม่คิดว่าพี่ชนะคนที่ผมเคยเจอ จะดูอ่อนล้าหมดแรงได้ขนาดนี้ มะนาวเคยบ่นว่าปกติเขาเป็นคนดุ จริงจังกับน้องๆ พูดเสียงดัง และเข้มงวดมากด้วย “นานมากแล้วนะที่พี่ไม่มีแฟน การแคร์ใครสักคนนี่มันทำให้เราวุ้นวายเป็นสาวน้อยได้แม้จะแก่แล้วก็เถอะ”
“ทำไมเหรอพี่”
“เขาเหมือน ยังไม่ลืมคนรักเก่า...” เขาเหม่อมองไปที่พี่ปราณ ที่เห็นพี่ชนะแล้วเช่นกัน แต่ทั้งคู่ไม่ได้ส่งเสียงหรือมีท่าทีทักทายกัน เหมือนคนไม่รู้จักที่แค่บังเอิญสบตา
ข้างหลังพี่ชนะ ผมกับมะนาวลอบสบตากัน ผมรีบพิมพ์ข้อความใส่มือถือแล้วยัดใส่มือให้เขาอ่าน ‘อย่าบอกพี่เขาเชียวนะว่าคือใคร’
มะนาวเงยขึ้นถามด้วยสายตา
‘ทำไมวะ?’
ผมได้แต่สายหัว แล้วขอตัวลงไปซ้อมบาสต่อ
ลงมาข้างล่าง พี่ปราณนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาว พิมพ์ไลน์แล้วเงยขึ้นมองพี่ชนะกับมะนาวด้วยสายตาแบบ ไม่พอใจ
แล้วเขาจะไม่พอใจอะไรกันล่ะเนี่ย หึงที่แฟนตัวเองคุยกับคนอื่น หรือหึงคนอื่นมาคุยกับมะนาว จากการกระทำที่ผ่านๆมาของไอ้พี่ปราณ ผมเดาไม่ออกเลย ว่ามันจะรู้สึกยังไงกันแน่
เท่าที่ดูเขาชอบมะนาว มากไม่มากไม่รู้ แต่ระยะเวลายาวนานมากแล้ว แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอดีตสำหรับเขา หรือมันยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน แม้จะมีคนออกตัวบอกว่าเขาเป็นแฟนกัน แต่ความรู้สึกคนมันเปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ เหรอ ลบทิ้งแล้วตั้งโปรแกรมใหม่ได้ทันทีเหรอ? ผมเชื่อว่าไม่มีใครนับ 1 2 3 แล้วเลิกรักใครได้ทันที
ผมซ้อมแบบไม่ค่อยมีสมาธิ รู้สึกความอยากรู้อยากเห็นแบบของพงศ์เข้ามาสิงสู่ คอยเหลือบตามอง คอยสังเกตพฤติกรรมของทั้งสามคนทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่นานพี่ปราณก็เดินออกไปจากโรงยิม พี่ชนะตามออกไปแบบไม่ได้กระชั้นชิดจนคนอื่นผิดสังเกตุ
แต่ผมสังเกตุ! ผมรู้ผมเห็น
มะนาวซะอีก นั่งตัวสั่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คงอยากแอบตามไปแต่กลัวโดนจับได้
เวลาผ่านไปจนผมเผลอลืมไป พี่ปราณกลับเข้ามานานแล้ว แต่พี่ชนะไม่ สักพักมะนาวเดินลงมาข้างสนามเรียกผม
“อะไร?”
“พี่ชนะให้ไปนั่งเป็นเพื่อน เอามือถือกับกุญแจรถไป ซ้อมเสร็จก็โทรมา” มะนาวพูดเสียงเบาแทบกระซิบ เพราะกลัวคนอื่นได้ยิน คนอื่นที่ว่าคงไม่พ้นพี่ปราณ
“อื้ม ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“จ้าพ่อ ไปแล้ว กูอยากรู้ ฮ่าๆๆ”
--------------------------------------------------
TBC.
ใครใจตรงกับมะนาว ยกมือค่า
ยอมรับว่าคิดชื่อตอนตอนนี้ไม่ออก ใครมีชื่ออื่นเสนอมั้ยคะ 555+
ตอนหน้าเป็นตอนแยก by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก
55555 โอเค ได้ชื่อตอนตอนหน้าล่ะ
โปรดอย่าเบื่อที่พ่อแม็ตยังคงเหมือนเดิม มะนาวก็เรื่อยๆเหมือนเดิม แต่คู่อื่นล้ำหน้าไปมาก ฮ่าๆๆ
แหมมมมม ความรักของคู่ใครคู่มันจะเอาอย่างเลียนแบบกันมิได้ เน้อ
เพจที่นานๆแปะที >> https://web.facebook.com/Brosohub/