➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➽ ย้ำรัก. love Again. ➽ [บท 36 เอ๋?] 13/8/60 P.14  (อ่าน 70834 ครั้ง)

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

  - บทที่ 17 – เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย -


----------------------------------


สวัสดีครับ ผมยีนส์ อดีตประธานเชียร์ เพิ่งปลดประจำการสดๆ ร้อนๆ วันนี้ตอนตีสาม ถึงชื่อตำแหน่งมันจะดูเท่ แต่ความตรากตรำนั้น ขั้นสุด

เพราะช่วงเวลาที่ค่อนข้างจำกัดแล้วสิ่งที่ต้องทำนั้นมากเกินกว่าจะจินตนาการได้ มันถูกบีบอยู่ภายในเวลาดำรงตำแหน่งที่โคตรสั้น (แม้จะรู้สึกยาวนานเหมือนชาตินึง) ไม่เหมือนนายกสโมที่เป็นขี้ข้าคนทั้งคณะอยู่หนึ่งปี หรือประธานรุ่นที่ต้องทำหน้าที่ไปจนตายกันไปข้าง ของผมแค่เดือนเศษๆ แต่เป็นหนึ่งเดือนที่หนักหนาสาหัสมาก ซ้อมก็หนัก เรียนก็ต้องเรียน เรียนเสร็จก็ต้องเตรียมนั่นเตรียมนี่รอน้อง ข้างหน้าดูหล่อแต่เบื้องหลังผมก็จับกังคนนึงเลยล่ะทั้งแบกหามล้มลุกคลุกคลาน วันๆ เชียร์จบงานก็ไม่จบ ต้องคุยกันต่อยันตีสองตีสามแทบทุกวัน ปัญหาที่ดูไม่มีอะไรแต่มันคือปัญหาอย่าง น้องไม่เข้าเชียร์ น้องนั่งไม่ตรงแถว น้องยุกยิก น้องเจ็บคอแล้วไอ พวกรุ่นพี่ลากแตะเข้าห้องเชียร์ ล้วนต้องเก็บมาถกกัน

ชีวิตส่วนตัวคือพังมาก ขนาดพวกมีแฟนอยู่ในคณะที่รู้ว่าความเป็นทีมเชียร์ต้องทำอะไรบ้างยังหาว่าไม่ใส่ใจไม่ให้เวลา คนไหนมีแฟนเป็นคนนอกคณะก็มีอันเลิกรากันเลยล่ะครับ

แต่ในส่วนตัวของกระผมนั้น... ไม่มีปัญหานั้น (ยักไหล่แบมือ)

เพราะแฟนของผมที่ทุกคนเข้าใจนั้น ไม่มีทางงอแงที่ผมไม่มีเวลาให้แบบนี้แน่ๆ ตรงกันข้าม เธอดี้ด้าจนผมต้องโทรเช็คทุกชั่วโมงเวลารู้ว่าออกไปงานเลี้ยงที่มีอยู่ได้แทบทุกวัน

ทำไมเธอต้องดีใจที่ผมไม่อยู่คุมน่ะเหรอ? ก็เพราะผมบังคับให้เขามาเป็นแฟนผมน่ะสิ

ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่เพราะรักมากก็เลยปล่อยไปไม่ได้ น้องสาวคนแรกของผมทั้งคน!

ครับ

โนอาเป็นลูกพี่ลูกน้องรุ่นๆ เดียวกันที่เป็นผู้หญิงคนแรก เป็นที่รอคอยของผมและบรรดาพี่น้องมากๆ ตอนเด็กๆ เธอตัวเล็กมากแถมยังขี้โรคคอยเดินตามผมตลอดเวลา แต่ตอนนี้พอเริ่มเป็นสาวกลับจ้องแต่จะหลบผมไปให้ผู้ชายจีบ

เหอะ! ฝันไปเถอะ น้องผมผมเลี้ยงมา หวงยิ่งกว่าไข่ในหิน คิดจะจีบรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ

ผมไม่เคยบอกใครนะว่าผมกับโนอาเป็นแฟนกัน แค่เวลาคนถามผมแค่ไม่ปฏิเสธ และบังคับโนอาว่าห้ามปฏิเสธ

มีแค่พวกเพื่อนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม กับป้องน้องรหัสผมที่รู้เรื่องนี้ จะไม่รู้ได้ไง ย้อนไปตอนป้องขึ้นปีสองผมบังคับให้มันล็อกรหัสในการจับน้องรหัสเมื่อปีที่แล้วเองกับมือ(อำนาจมืดมีอยู่จริง) แรกๆ เธอก็เข้าใจผมนะ คงเพราะกลัวโดนรับน้องโหดๆ กลัวโดนแกล้ง พอคนรู้ว่าเป็นแฟนผมก็ไม่ค่อยมีใครกล้า แรกๆ จึงเลยร่วมมือเป็นอย่างดี

เวลาไปไหนมาไหนผมไปรับไปส่ง เวลาทำกิจกรรมผมจะคอยยืนใกล้ๆ โนอาจะได้ไม่เหงา ข้ามคณะไปหาเพื่อให้ได้กินข้าวด้วยกันตอนเที่ยง เวลาไปร้านเหล้าผมจะให้โนอานั่งข้าง ไม่ก็โต๊ะที่มีแต่ผู้หญิง

ถ้ามีคนปากหมา ผมก็สวนกลับไปตรงๆ ‘กูรักของกู ผิดตรงไหน’ เพื่อนๆ ผมจะชินจนเลิกถามเลิกแซวกันไปแล้ว

การสร้างภาพคู่รักของผมกับน้องเป็นไปด้วยดีมาตลอด ผมตั้งใจว่าจะไม่มีแฟนไปจนอย่างน้อยเรียนจบ กะว่าชิลแน่ๆ เพราะเรียนปีสามปีสี่ก็ว่าหนักแล้วกิจกรรมก็แน่นมากด้วยไม่มีเวลาหาหรือรักษาความรักวัยเรียนได้แน่ และผมก็ค่อนข้างมีบทเรียนจากความรักครั้งก่อนๆ ที่จบไม่สวยนัก

ผมนอนใจจนกระทั้ง... มีคนชื่อ เมหล่อ เข้ามาในชีวิต

ในห้องประชุมของพวกเราทีมเชียร์ จะมีทั้งไวท์บอร์ทและโปรเจคเตอร์ เพราะพวกเราที่ไปไหนมาไหนได้ไม่สะดวกนักจะมีชมรมโฟโต้คอยส่งข่าวสาร พวกนี้เป็นมนุษย์บ้ากล้อง คือมึงไม่น่ามาเรียนวิดวะ มึงน่าจะไปนิเทศถ่ายภาพไปเลยถ้าจะพกกล้องโปรแทนมือถือขนาดนี้ เวลาในคณะมีกิจกรรมอะไร ทั้งจับสายรหัส ประชุมห้อง เข้าเชียร์ เลือกดาวเดือนห้อง ปาตี้หลังเลิกเรียน พวกนี้ไปด้วยหมด ได้ภาพมาหมดทั้งภาพสวยๆ ดูดี หรือเหี้ยๆ ของเพื่อนหรือคนรู้จักของพวกเรา ผมเห็นเมครั้งแรกในภาพพวกนั้นแหละครับ ตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกเลย เมถูกถ่ายเดี่ยว ในมุมแบบเนตไอดอลขึ้นกล้องโปร ภาพคมชัดขึ้นขอบ ผมสะดุดตาแล้วนึกชื่นชมว่า ‘น้องผู้ชายคนนี้หล่อดี แต่หน้าแอบหวาน’ เพราะทั้งที่เขาใส่ชุดนักศึกษาชายแต่ให้อารมณ์แบบ สวยๆ ยังไงไม่รู้

ตอนนั้นผมคิดเลยนะว่า ‘ทำไมกูมองผู้ชายสวย?’ คิดว่าตัวเองเรดาร์พังหันมานิยมผู้ชายซะแล้ว คงเพราะโสดนานไปแห้งแล้งจนเอาหมดว่างั้นสินะ เห้อ ทั้งปลงทั้งอนาถใจ

แต่เสียง อิ้อ้ะวี้ว้าย ทำให้เจ้าของภาพรีบอธิบาย

“น้องคนนี้เป็นทอมนะ เหมือนจะอยู่ห้องเจ็ด”

วูบนั้นเหมือนมีน้ำทั้งหมาสมุทรหยดลงทรายที่แห้งผาก

แต่เอ้ะ! ทำไมกูต้องดีใจ? เฮ้ย ถ้าเป็นทอมเขาก็ไม่สนใจผู้ชายอยู่ดีป่าววะ?

“งั้นก็แต่งตัวผิดระเบียบสิ นั่นมันชุดนักศึกษาชาย” ผมจะหันไปสั่งฝ่ายระเบียบให้ไปจัดการ แต่แค่หันไปก็เจอสายตาต่อว่าจากทีมเชียร์หญิงเกือบทุกคน

“อย่าเข้มงวดไปหน่อยเลยพี่ยีนส์อ่ะ”

“นั่นดิ จะซีเรียสอะไรนักหนา เนอะ” เอาสิเอา เป็นทั้งน้องทั้งเพื่อน ผมได้แต่ทำหน้าเหนื่อย

อีพวกบ้า เมื่อกี้แค่น้องอีกคนใส่รองเท้าเหยียบส้นมึงยังลิสต์ไว้ว่าจะไปจัดการเลย ความยุติธรรมผันแปรกับอะไรผมคำนวณไม่ออกเลยเจอพวกนี้อยากจะงอแงบ้าผู้... บ้าทอม

หลังจากนั้นโฟโต้ก็เหมือนจะรู้ใจเก็บภาพเมหล่อมาให้พวกสาวๆ ทีมเชียร์ได้กระชุ่มกระชวยทุกวันไม่มีขาด ทั้งตอนหลับในห้อง(ผมว่าโฟโต้มันคงลงซ้ำวิชาปีหนึ่ง) เข้าเชียร์ด้วยชุดถูกระเบียบ ไปกินข้าวกับบรรดาแฟนสาว เลือกดาวห้อง ซ้อมบาส เดินเข้าห้องน้ำหญิง แม้แต่ตอนสำลักข้าวแล้วต้องให้เพื่อนตบหลังให้ ถ้าผมเป็นเมแล้วรู้ว่ามีคนตามแอบถ่ายรูปตลอดเวลาแบบนี้ผมคงกรี๊ดแตก(?)

ทุกอย่างก็ผ่านไประยะนึงทีมีแต่พวกผู้หญิงที่กรี้ด จนวันนั้น ประกวดดาวเดือน พวกผู้ชายก็แตกฮือบ้าง เพราะหลังจากเมเดินมาโหม่งผม ไอ้พวกที่อยู่ด้วยจำน้องได้ทันที มันเห็นน้องไม่สู้ ทำทีแกล้งขู่น้องกันยกใหญ่ แม่งพูดไปหน้าแดงกันทั้งฝูง (กูสงสัยตัวก็ดำยังจะแดงกันได้อีกนะพวกมึง) จนผมต้องห้ามทัพก่อนจะเลยเถิด หลังจากแยกกันยังไม่ทันเข้าห้องเก็บตัว แค่เลี้ยวหักมุมลับตาน้อง ขบวนองครักษ์ส่วนตัวของผมก็ทรุดลงพื้นแปะกำแพงอ่อนยวบไปหมด

“เชี้ย ใจเย็นเข้าห้องก่อน” ผมใช้เสียงเบาที่สุดแต่ก็เข้มที่สุด

“เป็นอะไรกันวะ พวกมึง เฮ้ยๆ” ป้องไปเขี่ยเพื่อนมัน แน่นอน ด้วยตีน

“แม่ง เพราะกูขาดแสงสีและนีน้อยมานานแน่ๆ น้องเมโคตรทำกูหวั่นไหว”

“เออ พอแต่งแบบนี้แม่งเชี่ยโคตรพ่อโคตรแม่ไม่น่าเป็นทอมเลย”

“น้องอาจจะไม่ได้เป็นถาวรก็ได้นะ” มันสามคนคุยกัน ยังไม่ยอมลุก

“มึงรู้จักน้องเขารึไง”

“เปล่า กูปลอบใจตัวเอง”

“ถ้ารู้ว่าแต่งหน้านิดติดขนตาหน่อยจะปิ้งขนาดนี้ กูเลิกทำว้ากแล้วไปจีบน้องตั้งแต่เปิดเทอมแล้ว”

“น้องสูงกว่ามึงอีกนะ ม็อต” ผมแย้ง

“ความสูงไม่มีผลกับแนวนอน”

“เสื่อมสัส ไป รีบเข้าห้อง” ผมไล่ทั้งหมด

หลังจากนั้น มันก็ไปกระจายข่าวว่าเมในร่างหญิงนั้น สวย สวยมาก สวยโคตรพ่อโคตรแม่สวย อาการมันน่ะ เวอร์ แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธเรื่องที่พวกมันบอกเธอสวย ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอมปกติคงไม่ขนาดนี้ แต่ในช่วงเชียร์ที่ชีวิตขาดชูรสและสิ่งจรรโลงใจทุกประการแล้ว นี่คือสรรค์ของพวกมันก็ว่าได้ เพราะถึงไม่อยากเราก็ต้องทนดูหน้าสดของพี่ๆน้องๆทีมเชียร์ด้วยกัน มันไม่ใช่สิ่งที่จะพูดออกสื่อได้ ผมขอข้ามตรงนี้ไป

ตอนโหวต ด้วยความยังเพ้อไม่เลิก พวกมันเดินกระจายกันออกไปตามมุมต่างๆ ที่น้องไม่เห็น เขียนป้ายบอกบรรดาเพื่อนมัน ว่าโหวตดาวเบอร์ 7 ให้ทีมเชียร์ด้วย

ผมที่ได้แต่นั่งนิ่งๆ ก็มองหลานชายที่เป็นเหมือนความหวังใหม่ของผม แต่เหมือนจะมีคนเข้าใจผิดว่าผมมองตัวเองนะ หันไปชวนหลานผมให้มองผมด้วย แน่ะ หลงตัวเองก็เป็นนะเรา แบบนี้ไม่ดี ไม่ดีนะ

ในการเรียกรหัสน้องแยกออกมาหลังจากนั้น มีคนเรียกเมออกมาทุกครั้ง ผมก็แค่แว้บไปดูทุกครั้งที่มีจังหวะ

จากพยายามทำเป็นไม่สนใจ ผมก็ผ่ายแพ้แก่ตัวเองแบบไม่รู้ตัวซ้ำแล้วซ้ำอีก

ที่ผมคิดที่ผมทำไปเนี่ย ไม่ได้ตั้งใจเลยนะ มันเป็นไปเอง ทั้งที่ผมยังยึดความตั้งใจเดิมว่าจะไม่มีใครไปเรื่อยๆ เพราะคนอื่นคิดว่าผมมีโนอาอยู่แล้ว พยายามสวมบทบาทนั้นให้เนียน แต่ผมก็ยังหยุดตัวเองไม่ให้แกล้งเมไม่ได้ ทำไมผมจะไม่รู้ตัวว่าที่ผมทำออกไปนั่นมันดูเหมือน จีบ มากแค่ไหน

เมื่อเช้ามืดหลังออกจากห้องเชียร์หลังหมดวาระของประธานเชียร์ ผมสามารถกลับมาเป็นตัวเอง เดินไปในคณะอย่างสบายอกสายใจไม่ต้องวางท่าให้ปีหนึ่งรู้สึกยำเกรงอีกต่อไป เดินไปไหว้พี่ๆบัณฑิตที่มาให้กำลังใจพวกผม และดูน้องปีหนึ่ง รับไหว้น้องปีสองปีสาม ทักทายเพื่อน ไปตลอดทาง เหมือนยกภูเขาออกจากอกพวกเราทั้งหมดพร้อมๆ กัน

ตอนนั้นผมไม่ได้เห็นเมคนแรกหรอกไอ้ม็อตคนเดิมเห็นแล้วส่งเสียงเตือนเราทันที

“เฮ้ย น้องเมวะๆ” ผมมองตาม เป็นโต๊ะโซนที่โนอาบอกว่าหลานจะนั่งกับเพื่อนแถวนั้นจริงๆ

เขากำลังท้าวโต๊ะลุกขึ้นยืน หันหลังเหมือนจะเดินไปยังทางออกโรงอาหารอีกด้าน สกิลการสปีดตัวแบบนักบอลยังคงดีเลิศ แทบไม่รู้ตัว ผมมายืนปลายเท้าชิดกับเมอย่างตั้งใจ

“เดินไม่ระวังอีกแล้ว” ผมพยายามทำหน้านิ่งให้ดูซีเรียสอยู่นะ แต่เหมือนแก้มมันอยากจะยิ้ม

เขาดูแปลกใจ และแน่นอน ดูไม่พอใจสุดๆ

“ขอโทษครับ” ผมเกือบจะฉีกยิ้มเมื่อเขายอมเอ่ยปากขอโทษทั้งที่เอาจริงๆ ตัวเองไม่ได้ผิดเลย

กำลังมองใบหน้าเล็กใกล้ๆ เพลินๆ รู้ตัวอีกทีเขาก็หายไปอย่างกับซินเดอร์เรลล่าตอนนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน

สิ่งที่เขาทิ้งไว้น่ะเหรอ มันมองไม่เห็น แต่เติบโตขึ้นในใจผมอย่างไม่รู้ตัว

ผมยกมือตัวเองขึ้นมาดู จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเมื่อกี้ผมคว้าเมไว้ ดูจากสีหน้า คงโดนตบ(?) เอ่อ ไม่สิ โดนต่อยล่ะมั้ง

“มึงทำงี้กับขวัญใจพวกกูได้ไงว่ะ” ม็อต ตามมาถึงมันก็ใส่ผมเลย

“พี่มีโนอาอยู่แล้วอย่าม่อดิ โลภนะพี่อ่ะ” ไอ้ป้องน้องรัก ถ้ามึงไม่รู้ความจริงกูจะคิดว่ามึงกำลังว่ากูเหี้ย แต่เอาจริงๆมันรู้ว่าผมสามารถม่อใครเมื่อไหร่ก็ได้เพราะไม่ได้ผิดกับใคร ดังนั้นผมเลยรู้ว่ามันกำลังกวนตีนผม กวนตีบกับหาว่าผมเหี้ย เหตุผลไหนก็ไม่ดีป่าววะ

“พูดถึงแม่ แม่ก็มา ยีนส์แม่มึงมา”

“แม่จ๋า ลูกผิดไปแล้ว” โนอาคว่ำปากใส่ผม ฮ่าๆๆๆ

โนอารู้ครับ ว่าในกลุ่มพวกที่ทำว้าก เมมีความหมายยังไง เพราะบางครั้งเธอก็นั่งประชุมกับพวกผมหลังจบเชียร์แต่ละวันเพราะมาส่งเสบียงและทำการบ้านกับเพื่อน ทุกคนสอบสวนเรื่องเมจากโนอาแทบทุกตารางนิ้วที่เข้าถึงได้ รู้กระทั้งรอบอกรอบเอว เห็นทุกคนกระตือรือร้นก็หันมาถามผม ‘ไม่สนใจเมเหมือนคนอื่นบ้างรึไง’ ก็ตอนนั้นผมยังไม่รู้ตัวก็เลยตอบแบบกวนตีนไป ‘ไม่ล่ะ ชอบอึ้มๆ’

ก็ไม่คิดนี่นา จริงๆที่ทำเมื่อกี้ก็ไม่ได้คิด ร่างกายมันไปเอง ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ



ตอนตีห้า ผมมาส่งโนอาที่หอ จริงๆก็กลับหอตัวเองด้วย ห้องผมอยู่ข้างกันครับ โนอาห้องซ้าย ผมห้องขวา

“พี่ยีนส์แกล้งเมแบบนั้นทำไม?”

“อ้าว เห็นจริงๆ เหรอเนี่ย ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน

เอาจริงๆนะ ถ้าโนอารู้ว่าผมมีคนที่ชอบ คงรีบบอกให้ไปจีบเลย คนอื่นจะได้มาจีบตัวเองได้สักที คือผมกลัวเรื่องนี้ เลยไม่กล้าบอกตรงๆ

“ตอบ”

“ก็ไม่มีอะไรนี่ เห็นมันฮ็อต ก็เลยอยากแกล้ง”

“อย่าทำแบบนั้นอีก เมมันไม่ชอบผู้ชายอยู่แล้ว เดี๋ยวมันต่อยเอาก็จะหาว่าเด็กมันผิดอีกอ่ะ”

เอ้ะ?! เดี๋ยวนะ ผมขอทบทวนความหมายของคำพูดน้องก่อน

ห้าม เมไม่ชอบผู้ชายหรอก เดี๋ยวจะโทษเมหาเรื่อง?

“เราชอบเมเหรอ?” ผมเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ

“...” ผลที่ได้คือ โนอาไม่ตอบ

ชิบหาย!

โนอาไม่ตอบอะไรเลย ยังคงมองผมด้วยสายตาหาเรื่อง แถมยังไล่ผมออกจากห้องบอกจะนอนแล้ว

คืออะไร?

คือยังไง?

ครั้งนี้ผมเพิ่งจะติดใจสาวสักคนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปี แล้วยังไง แล้วเป็นคนเดียวกันกับที่โนอาชอบงั้นเหรอ?

ไม่หรอก ตั้งแต่เด็กจนโตโนอาไม่เคยมีแฟนเป็นทอม หรือเลสเลยนี่นา

แต่ก็นะ จากเด็กตัวเล็กๆหน้าเลอะขี้มูกเลอะน้ำตา แป็ปๆ เธอยังโตเป็นสาวจนกลายเป็นดาวมหาลัยจนผมแทบจะตั้งตัวไม่ทันเลย จะนับประสาอะไรกับเรื่องหัวใจที่แสนล้ำลึก

เชี้ย!

ผมทรุดลงนั่งยองๆ กลางทางเดินกุมหัวตัวเองจนหัวฟู

กูควรเครียดเรื่องน้องจะกลายเป็นดี้ หรือกลัวคนที่เล็งโดนแย่งก่อนดีวะอารมณ์นี้ เชี้ยแม่ง แบบนี้ต้องกินเหล้า

ผมกลับเข้าคณะที่ยังคงมีพวกทีมงานกลุ่มนึงยังมีแรงฉลองจบเชียร์กันอยู่ นั่งกินจนหลับไปตอนฟ้าเริ่มสว่าง โดนปลุกอีกทีก็โน้นเลย น้องเริ่มมา กิจกรรมรับน้องในคณะกำลังจะเริ่ม





ทั้งที่เขารูปลักษณ์เขาไม่ได้มีทรวดทรงอกเอวแบบที่ผมเคยชอบ ทั้งที่ผมสั้นแทบกุดนั้นไม่ได้ชวนมองเลย ทั้งที่ผมเคยชอบผู้หญิงผมยาว ทั้งที่เสียงดัดจนทุ้มห้าว ทั้งพี่พ่นแต่คำหยาบ ความอ่อนหวานแบบผู้หญิงที่หายังไงก็หาไม่เจอ แล้วทำไมผมต้องนั่งเท้าคางคิดถึงเขาเป็นสาวน้อยซะเองด้วยเนี่ย

วันนี้ยังไม่เห็นเลย หลานผมเจอแล้วมันเข้ามาทักกับแนะนำข้างรหัสแล้ว (ดีมากพาข้างรหัสเข้าเชียร์ รู้งานสุดๆ) แต่ตอนนั้นก็ไม่กล้าถามว่า ‘เพื่อนไปไหน?’ ผมเลยตระเวรทักท้ายเพื่อนและเล่นกับน้องตามซุ้มต่างๆไปเรื่อย เผื่อเขามาแล้วไปแอบอยู่ไหน จนแอบไปได้ยินว่าเพื่อนมันเองก็ชวนเมมารับน้องในคณะด้วยลูกไม้ต่างๆ เต็มที่แล้วเช่นกัน


ส่วนตอนนี้น่ะเหรอครับ ผมกำลังรอเมด้วยอารมณ์แบบ ผู้ชนะ ฮ่าๆๆๆๆ ตอนนี้โนอาไม่ตอบไลน์ไม่รับสาย คงยังไม่ตื่น ช่วงที่น้องยังไม่มาทำให้ผมหรือเมสับสน ขอเล่นก่อนแล้วกัน

“กรี้ด น้องเมมาซุ้มเรา” ผมได้ยินเสียงน้องปีสามคนนึงกรีดร้อง ทั้งที่มองไม่เห็น แต่เดาว่าเขาต้องผงะถอยหลัง จนเกือบจะวิ่งหนีเลยล่ะ

“มาทางนี้คะ มาๆ” อ้าว มาจากทางนั้นเหรอ ชิบหาย ดักผิดทาง เขาเดินเข้ามาตรงข้ามที่ผมรออยู่เลย

“มาคะ กินอะไรมารึยัง เล่นเกมมั้ย หรือจะมาสมัครเป็นสตาฟ ผ่านค่ารับเลย” ได้ข่าวว่าคนตัดสินใจไม่ใช่มึงนะ ป้าตุ๊ก

“เออ ผมแค่มาเอาเค้กที่เพื่อนฝากไวั” เมมองตุ๊กที่เกาะแขนแน่นไม่มีท่าว่าจะปล่อยง่ายๆ แล้วก็สายตาอีกนับสิบที่มองเขาเป็นตาเดียว

ผมรอ รอว่าเขาจะมองมาทางนี้เมื่อไหร่ รอสบตาเขา

“เค้กเหรอ ไม่เห็นนะ” ผมรออยู่นาน เขาก็ไม่มองมาสักที คงได้เวลาแสดงตัว

“เฮ่ ทางนี้” ผมชูเค้กขึ้นบนอากาศ

“ไอ้เชี้ยยีนส์ มึงทำหล่ออีกแล้ว” แน่นอนครับ เป็นคำชมจากไอ้ม็อต เจ้าเก่าเจ้าเดิม “เอามานี่เลย กูหมั่นไส้”

“อ้าว ฮ่าๆๆๆ” เค้กถูกแย่งไปจากมือผม มันคงกลัวผมทำคะแนนกับเมล้ำหน้ามากๆ แต่ไงเขาก็ไม่สนใจมึงหรอกไอ้ม็อต

พอกลับมาคิดได้ว่าบางทีเมอาจจะชอบโนอาเหมือนกับที่โนอาชอบเม ผมก็รู้สึกหดหู่จนอยากจะยกเข่าขึ้นมากอด แม่ง มันหล่อนะเมอ่ะ น้องผมก็โคตรสวย ผมเห็นทอมหล่อๆ เพื่อนผมก็มีแฟนสวยระดับโออากันทั้งนั้น ยิ่งคิดได้ยิ่งหมดพลัง

“นี่ครับ น้องเม”

“ฮะ ขอบคุณครับ”

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นนั่งนี่ก่อนค่อยกลับสิ”

“ผู้ชาย ออกไป น้องเขาสนใจผู้หญิงย่ะ”

“เฮ้ย น้องเขาไม่ได้พูดเลย มึงเป็นเมียน้องเหรอมาตอบแทนเนี่ย”

“ตอนนี้ยัง แต่ก็อยากอยู่นะ” เมยอมให้ซบตุ๊กแต่โดยดี

หมดกัน จบแล้วมั้ง ผมนั่งอยู่มุมที่แสนไกลจากจุดศูนย์กลาง ไม่มีใครสนใจผมเลยตอนนี้

แต่มองดีๆ รอยยิ้มแหยๆ นั้นทำให้ผมมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอีกนิด อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่ยิ้มตอบรับ แต่เป็นยิ้มที่ยิ้มไปตามมารยาทเท่านั้นเอง มั้งนะ

“เมมานั่งนี่ดีกว่า ปลอดภัยเมื่อฝากไว้กับประธานเชียร์”

“ประธานเชี้ยดิ” โตเพื่อนรัก ถ้าไม่ใช่เพื่อนผมจะเตะให้

“เออ มึงรีบเอาน้องออกมาเลย ไอ้ยีนส์ตัวดีสุด มึงไม่รู้เหรอมันอ่อยน้องหลายทีแล้วนะ” ม็อตรีบแจง

“เออ พี่กูเอาจริงนะเว้ย” ปกป้องผู้รู้ใจ ไม่เสียแรงที่รู้มากกว่าใคร

“ไม่เป็นไร พี่ยีนส์มีโนอาอยู่แล้ว จะทำอะไรได้ คงจะแกล้งพวกมึงนั้นแหละ แกล้งพวกโสดโดนเทอย่างพวกมึงไง”

“เออ มึงอยากมีแฟนเป็นดาวคณะดาวมหาลัยอย่างไอ้ยีนส์ก็บอก” พวกผู้หญิงยังไว้ใจผม หันไปเถียงกันเอง

ระหว่างมันเถียงกัน ผมดึงถุงเค้กตรงหน้าเมมา เปิดถุง แกะกล่อง วางช้อนให้ข้างๆ แล้วเลื่อนไปให้ตรงหน้า

เมมองเค้ก แล้วเหลือบตามามองผม โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นสักองศาเดียว

ทำไมผมรู้สึกว่ามันเย็นชาและห่างเหินนะ

จะว่าไปผมก็ห่างเหินกับน้องก็ไม่แปลก เราไม่เคยรู้จัก หรือพูดคุยกันส่วนตัว แต่เย็นชาเนี่ย อีกนิดจะเป็นสายตาเกลียดชังแล้วนะ ชิบหาย ไงวะเนี่ย ควรทำเป็นรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวดีล่ะเนี่ย

ผมเลือกยิ้มที่คิดว่าอบอุ่นให้ไป

“ทำแบบนี้ทำไม?”

“เทคน้องตามประสารุ่นพี่ ทั่วๆ ไป ผิดตรงไหน”


“น้องเม บอกพี่ได้ป่าว ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ”

“อืม แค่คุยกันรู้เรื่องก็พอมั้งครับ ผมไม่ได้ชอบแบบไหนเป็นพิเศษ” ทำไมทีพูดกับคนอื่นยังยิ้มได้หน้าตาเฉย

“แล้วผู้ชายไม่สนใจหน่อยเหรอ” ม็อตมานั่งทำหน้าอ้อน(ตีน)อยู่ข้างๆ ผม

“ผู้ชายที่ไหนจะสนใจผมพี่ ไม่มีความเป็นผู้หญิงสักนิด”

“โอ้ย แถวนี้มีเต็มเลยน้อง ฮ่าๆๆ” ปกป้องผู้อารมณ์ดีตลอด

“พวกมึง แมนๆ ใครว่าน้องน่าสนใจยกมือขึ้น ใครเขินมึงก็ก้มหน้าลงไป” ผมตะโกนบอกจนได้ยินไปทั่ว ด้วยน้ำเสียงทรงพลังที่ถูกฝึกโปรเจคเสียงมาจนเป็นเลิศ “หันไปดูสิ”

ยกกันเกือบหมด ทั้งผู้ชายผู้หญิง เพราะความแมนมีอยู่ในผู้หญิงวิดวะสินะผมลืมไป มีมือขวาผมนับยอด แล้วพอเมหันกลับมา ผมยกมือตัวเองขึ้นช้าๆ ต่อหน้าเม

“ป้อง อย่าลืมนับกู”

“ทั้งหมด 23 ผู้ชาย 13 หญิง 10 ครับ”



“มึงก็ยกเหรอยีนส์ กูเริ่มระแวงมึงแล้วนะ” เพื่อนผู้หญิงสักคนพูด แต่ผมไม่ได้หันไปดูว่าใคร เพราะกำลังเล่นเกมจ้องตาอยู่




....................


  << มีต่อ >>
          v
          v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2016 12:33:46 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 << ต่อ บท 17 >>



.............



“ก๊อกๆๆๆ”

เฮ้ย ใครมาเคาะประตู?

พรึบ ผมลืมตาเต็มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เพราะแขนข้างนึงมะนาวยังจองไว้เป็นฐานที่มั่น

เอ้ะ หรือฝัน?

“ก๊อกๆๆๆ”

ไม่ทันสิ้นความคิดเสียงเดิมก็ก้องซ้ำในจังหวะที่เร็วขึ้น

“นาว นาว”

“อื้ม จะนอน” เจ้าของชื่อบิดตัวไปนอนขดอีกทางคล้ายรำคาญผม

“มีคนมา ลุก ใส่เสื้อผ้าก่อน”

มะนาวสลึมสลือ เปิดตาหันมามองผม เขาขมวดคิ้วเป็นเชิงถามว่าจริงเหรอ พอดีกับเสียงเคาะห้องดังขึ้นอีกครั้ง เขาเลยทำตาโตยันตัวขึ้นนั่ง

“เฮ้ย! เชี้ย ทำไมไม่มีอะไรเลยล่ะวะเนี่ย” เออ มึงล่อนจ้อน

“ทำตัวเองทั้งนั้น เอานี่” ผมมองหาเสื้อผ้า ยัดเสื้อตัวเดิมกับกางเกงนอนผมให้เขาไป ชี้มือไปทางห้องน้ำ

ส่วนผมรีบไปหยิบกางเกงนอนอีกตัวจากในตู้ กับเสื้อกล้าบาสมาใส่มั่วๆ ยังดีที่เมื่อคืนจัดการกับความหายนะในห้องไปตั้งแต่ก่อนนอน ก่อนไปเปิดประตู มั่วแต่มองความเรียบร้อยของห้องกับตัวเอง เลยลืมดูตาแมวไปซะสนิท ว่าใครมา

“ช้าว่ะ ทำอะไรกันอยู่วะ” น้ำเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ ตามด้วยพี่ทะเลแฟนมันที่ทักทายผมน่ารักเช่นเคย

“เห้อ กูยังไม่ตื่นนี่หว่า ได้ยินมึงเคาะประตูกูยังนึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่เลย” ผมแสร้งทำสลึมสลือเกาหัวขยี้ตา ทั้งที่ที่จริงโคตรตกใจจนตาสว่างเต็มที่แล้ว

“หวัดดีแม็ต รบกวนแต่เช้าเลย”

“ดีครับ โทษที่สภาพเป็นงี้นะพี่ ผมยั้งไม่ตื่นดีเลย ห้าวววว”

“เออ สภาพมึงอุกอุยมาก แต่ทำไมเหงื่อแตกวะ แล้วดู เสื้อมึงเป็นรอยพับอย่างกะเพิ่งหยิบมาใส่เมื่อกี้” ไอ้ตาดีน้ำมันช่างสังเกตตลอด เขี่ยๆ รอบยับบนเสื้อผมอย่างรู้ทัน

“เออ กูเพิ่งใส่ กูนอนไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่งกางเกง”

“หราาาาา” เหรอของมึงแรดมาก “มะนาวอ่ะ” ยังดีที่มันรู้งานเปลี่ยนเรื่อง เพราะเปลี่ยนเรื่องได้ตรงประเด็นจับผิดกูมากเลยมึง

“ล้างหน้าอยู่ในห้องน้ำ” ผมได้ยินเสียงน้ำก็ว่าตามไปส่งๆ

“เหรอวะ” ไอ้เลวน้ำส่งสายตารู้ทันมา แม่งย่นคอยิ้มเจ้าเล่ห์ด้วย

จะว่าไป จากที่ผมรู้จักมันดี มันเองก็รู้ใจรู้ไส้รู้พุงผม เพราะฉะนั้นหมอนี่แหละที่ทำให้เรื่องระหว่างผมกับมะนาวไม่ได้รู้กันแค่สองคน แต่กลายเป็นรู้กัน 4 คน ไม่ได้บอกอะไรนะ มันรู้ได้ด้วยตัวเองว่าผมผิดปกติ มันสงสัยผมตั้งแต่เปิดเทอมได้ไม่ถึงอาทิตย์ มันถึงได้เอาเจลมาให้โดยทำเป็นลืมไว้ห้องผมนั้นไง จะบมันดีไหมว่าใกล้หมดแล้ว ขอเพิ่ม

ผมเลยยิ้มตอบด้วยท่าทางเดียวกันกับมันก่อนจะยกมือขึ้นจุ๊ๆ ที่ปาก

“สองคนนี้นี่อะไรอีกแล้วเนี่ย”

“ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรหรอกเล”

“แล้วมึงอ่ะ มาปลุกกูแต่เช้ามีอะไร”

“ก็มึงแหละ ทั้งมึงทั้งนาวเลย ไม่ตอบไลน์ ไม่รับโทรศัพท์ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

“เหรอ พวกกูเมาเลยหลับยาว” ผมหยิบโทศัพท์ขึ้นดู จริงอย่างที่มันว่า มีทั้งมิสคอล ทั้งข้อความ ของมันด้วย ของเมด้วย 98% เป็นการด่า เหอๆ ระหว่างที่ผมเช็คไลน์ มะนาวก็ออกมาพอดี

“อ้าวน้ำ” มะนาวเช็ดหน้าออกมาจากห้องน้ำเขามองไปรอบๆ ห้อง คงแปลกใจที่คนเต็มห้อง แต่ที่แปลกใจสุดคือคนแปลกหน้าสำหรับมัน พี่ทะเล

ผมคิดอยู่นานแล้วว่าเมื่อไหร่สองคนนี้จะได้มีโอกาสเจอกัน ผมอยากให้เขาเจอกันนะ มะนาวคงแปลกใจ ว่าทำไม มีคนที่หน้าตาและบุคลิกคล้ายตัวเองมากขนาดนี้อยู่ด้วย

“เออ” มะนาวกับพี่ทะเลมองหน้ากัน ผมว่ามะนาวคงตกใจพอควร ส่วนพี่ทะเลนั้นคงพอรู้อยู่แล้วพี่แกยิ้มเป็นมิตรให้ น้ำมันคงเคยให้ดูรูปหรือไม่ก็เล่าให้ฟัง

เรื่องที่สองคนนี้ หน้าตาและรูปร่างเหมือนกันมากขนาดไหน

“เอ่อ... น้ำ แฟนมึงเหรอ”

“เออ ฮ่าๆๆๆ เล นี่ไงมะนาว เอิ่มจะบอกยังไงดี ข้างรหัสแม็ตมัน”

“อื้ม ดูก็รู้”

“มึง นี่พี่ทะเล แก่กว่ามึงเยอะเพราะฉะนั้นกราบงามๆ”

“หวัดดีครับ”

“ย้ำจังนะ แก่เนี่ย” พี่ทะเลไม่ได้จริงจัง แต่คงอดทักไม่ได้ เพราะเจ้าตัวพูดไปยิ้มไป

“เอ้ย โทษครับ หยอกเพื่อนน่ะ ไม่มีอะไรน้าอย่าคิดมากสิครับ” ไอ้สองคนนี้โชว์หวานแกว่งมือกันต่อหน้าผมกันมะนาวอย่างหน้าไม่อาย

“ทีนี้รู้แล้วนะ ว่าทำไมกูกับแม็ตถึงเป็นได้แค่อดีตคู่จิ้นกันมาตั้งห้าหกปี”

“ไมอ่ะ?” มะนาวเหมือนจะไม่รู้จริงจัง

มะนาว ชัดขนาดนี้คุณมึงยังจะถาม เซ่อจริงๆ แต่หัวช้าแบบนี้ผมว่าน่ารักตรงนี้แหละ ฮ่าๆๆ

“เพราะ ไม่ใช่สเปคกันไง แต่สเปคดันเหมือนกัน ฮ่าาๆๆ”

“มึงนี่ปากดี”

“เขาเรียกรู้ใจต่างหากเว้ย เล นั่งๆๆ” สองคนชวนกันนั่งบนเตียงผม “นี่ ที่มาแต่เช้านี่ตกลงไม่อยากรู้แล้ว?” ผมดึงเก้าอี้คอมให้มะนาวนั่ง ตัวเองเดินไปหยิบแปรงสีฟัน ยืนแปรงตรงประตูห้องน้ำ

“จะให้ถามอีกทำไม กูอ่านในไลน์แล้วไงเมื่อกี้”

“เอ่อวะ เล ไอ้แม็ตรู้ทัน” แล้วนั้น มึงจะเอียงหน้าซบมือแฟนมึงทำติ๋งอะไร

เลคงคิดเหมือนผม เพราะผลที่ได้คือมันโดนผลักหน้าออกจนสุดแขนพี่ทะเล ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า

“อะไรเหรอ?” มะนาวเลยเป็นคนที่ยังสงสัยแล้วยังไม่รู้เรื่องอะไร

“ไปดำน้ำกัน”

“ต้องวันนี้เหรอ?” ผมถาม เพราะรู้สึกยังอยากนอนอยู่เลย

“เออ ไปมั้ยล่ะ”

“ไป” มะนาวแย่งตอบไม่รอผมคิดหรือสบตาผมเลย

“ไมอยู่ๆ มาชวน” ผมเลยถามกลับ

“รถเลเข้าศูนย์พอดี กูเลยมาชวนมะนาวผู้มีรถ มึงไม่ไปก็ได้นะ เจ้าของรถโอเคแล้วมึงไม่มีประโยชน์”

ผมหยุดแปรงฟันแล้วมองหน้ามะนาว

เจ้าตัวยิ้มแหยๆ ประมารว่า ก็อยากไปนี่

“ที่ไหน”

“สัตหีบ”

“ออกเดินทางเลยใช่ไหม”

“เออดิวะ ถ้าไม่อยากตกเรือก็รีบเลย ไม่ได้ค้างเอาชุดไปเปลี่ยนชุดเดียวก็พอ”

“อื้ม นาว มาแปรงฟัน”

มะนาวรีบกระโดดมาทำตามอย่างว่าง่าย ระหว่างแปรงฟันยังไปจัดกระเป๋าตัวเองด้วย ผมหยิบชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น

“เอาเสื้อแขนยาวสิ แดดร้อนนะ” ผมบอกมะนาว

“มึงไม่เห็นเอาไปเลย”

“ไอ้แม็ตมันไม่ต้องใส่หรอก ตากแดดทั้งวันยังไม่ดำเลยมันอ่ะ”

“จริงดิ”

“แต่ไหม้นะ สามสี่วันลอกเป็นแผ่นๆ แล้วก็เหมือนเดิม”

“ไม่เป็นไร พี่เอากันแดดมา บังคับทุกคนต้องทาก่อนลงรถ” ผมว่าเป็นนิสัยของหมอที่จะป้องกันภัยร้ายให้ตัวเองและคนรอบข้าง

“จริงๆจะให้ทาตั้งแต่ตอนนี้เลย แต่ถ้าทาแล้วไปถึงต้องไม่ทากันอีกแน่”

“มีแต่เด็กดื้อใช่ไหม?”

“ไม่ใช่ เพราะพวกเธอมันนิสัยวิดวะ ไม่สนใจดูแลตัวเอง”

“จริง” มะนาวเห็นด้วย ผมกับน้ำได้แต่หัวเราะ



เราพร้อมเดินทางใน15นาที เอาจริงๆนะ ผมยังงงๆอยู่เลยด้วยซ้ำ

“ไปทางไหน”

“ไม่รู้”

“อ้าว” ไอ้เชี่ยน้ำ

“กูคนหัวหิน ไม่ใช่คนชลบุรีนี่หว่า”

“ก็ให้คนอื่นตอบสิวะ”

“Google map สิ จะไปยากอะไร” มะนาวยกมือถือผมขึ้นมาจิ้มๆเข้าแผนที่ เพราะเนตเครื่องเขาตัดความเร็วแล้วแต่ของผมเพิ่งขึ้นรอบบิลใหม่

“เออเว้ย มันรู้รหัสมือถือมึงจริงด้วย”

“วันเกิดน้องกู ยากตรงไหน”

“ยากนะเว้ย ไงกูก็จำไม่ได้ ต้องเปิดเฟส”



ทริบงงๆ จึงเริ่มขึ้นในเช้าวันอาทิตย์ที่ท้องฟ้าแจ่มใส สดใสจนไม่ทันเผื่อใจว่าถ้าแสงแดดหายไป อะไรจะเข้ามาแทนที่


----------------------------------
TBC.


ตอนตั้งชื่อตอนที่แล้ว บอกตรงๆไม่ได้คิดลึกซึ้ง แต่ก็ถูกอย่างที่คุณ Pumpkin แปลนะคะ ความหมายนั้นแหละ 5555

มาถึงตรงนี้ บทไม่ได้ถูกดัดแปลงเอาใจใครทั้งสิ้น แค่ความจริงปรากฏเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย ฮ่าๆๆๆ (ทนแรงกดดันมิไหว)
เมมเบอว่าพ่อในความหมายของโนอาคือ 'หวงอย่างกะพ่อ!+พ่องงงงงงง' รวมๆกัน 5555+

แยกโพสกัน คงไม่สับสนว่าเปลี่ยนไม้กันตอนไหนเน้อ โพสบนของคุณปู่ยีนส์ โพสล่างกลับมาที่ปัจจุบันของคุณพ่อแม็ต
เปิดตัวพี่ทะเลคุณหมอตัวเล็กใส่แว่น 555 ไม่มีบทเยอะหรอกคะ แค่อยากแนะนำให้รู้จัก 5555


ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกกำลังใจเหมือนเดิมจ้า ติได้เช่นเคย ยินดีปรับเสมอขอให้บอกกัน


ปล.  ใครมีเคล็ดลับปั่นนิยายเร็วช่วยตะโกนบอกหน่อย อยากแบบ คิดปุ้บออกมาเป็นตัวหนังสือ 5555

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2016 04:40:05 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สรุปเมื่อคืนมะนาวจำอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ยคะ
แม็ตคะครั้งต่อไปต้องอัดคลิปเลยค่ะ555555555
 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ชอบพี่ยีนส์ 555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอาใจช่วยพี่ยีนส์นะ
โนอาอย่าขวาง ฮ่าๆ
แมตอัดคลิปเลย พลีส
คนเขียนสู้ๆค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ชอบคู่พี่ยีนส์กับเมไม่แพ้คู่หลัก
อย่าปล่อยน้องเข้าใจผิดนานนะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เฉลยแล้ว เย้ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ปู่ยีนส์กับน้องเมคือดีงาม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

นาวทำไมชอบจำไม่ได้นะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ujeen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กี๊สสสสสสสสสส
เพิ่งเข้ามาอ่าน  ชอบแม็ตอ่าาาาา ขอเลยได้มั้ย(โดนมะนาวถีบ)
ความสัมพันธ์ของแม็ตกับมะนาวเป็นอะไรที่อิ่มเอิบมาก ฟินนนนนน
อยากรู้ความเป็นมาของชนะกับปราณ   ฟ้ากับเท ด้วยจังเลย ซัดนิดก็ยังดี นะๆ
รอค่าาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2016 21:16:43 โดย Ujeen »

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ยีนส์เริ่มรุกหนัก 555 ว่า่แต่โนอาชอบเมจริงดิ แล้วไงล่ะทีนี้
พี่น้องชอบคนเดียวกันอ๋อ อื้อหือ  แย่เลยนะนี่

อยากไปทะเลบ้าง.....คิคิคิ จะตามไปส่อง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
พี่น้องจะตบตีแย่งเมกันเปล่าเนี่ย
แม็ตเอ้ย น้ำมันรู้ทันแล้ว

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #164 เมื่อ30-03-2016 19:52:08 »


- บทที่ 18 - ลมอุ่น -


--------------------------------------------------



พูดถึงความเหมือนของพี่ทะเลกับมะนาวนั้น

สองคนนี้สูงเท่ากันเป้ะ แต่พี่ทะเลจะหนากว่านิดหน่อย เพราะเป็นคุณหมอที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพแน่นอนเขาออกกำลังกาย

พี่ทะเลใส่แว่นตามชะตากรรมหมออ่านหนังสือเยอะ ในขณะที่มะนาวตาดีชนิดที่ว่าสามารถลอกข้อสอบของคนที่นั่งไกลออกไปสองที่นั่งได้สบายๆ (เขาไม่ได้ทำนะ ผมแค่เปรียบเทียบ)

พี่ทะเลเป็นผู้ใหญ่มาก ในขณะที่มะนาวเป็นผู้ใหญ่ แค่บางเรื่องเท่านั้น...

พี่ทะเลมีเหตุผล ส่วนมะนาวก็มีเหตุผล แต่เป็นเหตุผลในมุมแบบของเขา ซึ่ง สำหรับผมผมว่ามันก็น่ารักดี

พี่ทะเลยิ้มง่าย ส่วนมะนาวหัวเราะง่าย

พี่ทะเลขาวซีดแบบคนไม่เจอแดดไม่เจอตะวัน ส่วนมะนาวนั้นผิวผู้ชายทั่วไป

ความละเอียดของผิวใกล้เคียง

ผิวหน้าบาง

ขนอ่อนๆ บนแก้ม

ปลายคางเหมือนกัน

ริมฝีปากบาง ใกล้เคียงกันมากๆ

จมูกรั้น

พี่ทะเลใส่แว่นทำให้ผมรู้สึกว่าเวลามองเขาเหมือนผมกำลังส่องกระจก แต่กับมะนาว นัยน์ตาใสของเขาเปล่งประกายเมื่อมองมาที่ผม

ที่ต่างกันชัดๆ เลย คือความรู้สึกของผมนี่เอง



“สองคนกินอะไรมายัง แวะเซเว่นนะ” ก่อนขึ้นทางด่วน ผมไม่ลืมแวะเซเว่นร้านสะดวกซื้อคู่บ้านคู่เมือง หาเสบียงระหว่างเดินทาง
 
มะนาวได้ขนมมาเยอะมาก เต็มถุงเซเว่นไซซ์ใหญ่ พี่ทะเลมองขนมกรุบกรอบและของหวานบนตักมะนาวด้วยสายตาขยาดกลัว

“มะนาวกินแบบนี้ตลอดเลยเหรอ” ในที่สุดก็เอ่ยปากถามสักที คงอั้นอยู่นานแล้ว

“ไม่หรอกฮะ นานๆ ที”

“อ้อ”

อ้อนี่คือก็แล้วไป สินะ ฮ่าๆๆ ผมเข้าใจพี่เลนะ

“ถ้ามึงตอบว่าครับกินแบบนี้ตลอด ทุกวัน วันละหลายรอบ มึงโดนสวดแน่”

“ฮึ้ย เปล่านะ นานๆ ทีจริงๆ เนอะแม็ตเนอะ”

“ฮ่าๆๆๆ” ผมขยี้หัวมะนาวแล้วออกรถต่อ

แต่เสียงเย็นๆ ที่ดับเสียงหัวเราะน้ำนิ่งก็ดังขึ้น

“อยากกินแบบนั้นเหรอ?”

“เปล่า”

“...” สายตาจับผิด

“เปล่าเลย แค่แซวมะนาวเล่นเฉยๆ มาๆ น้ำกินนี่ไง โยเกิร์ตสูตรน้ำตาลน้อย กับกล้วยหอม แล้วก็ไข่ต้ม อิ่มถึงบ่ายยยย”

“อยากกินอะไรก็ได้นะ กินเลย แต่ถ้าตายเร็วเลหาแฟนใหม่แน่ ไม่ ต้อง ห่วง”

พี่ทะเลเน้นเสียงหนักแน่นที่ประโยคท้าย น้ำนิ่งส่ายหน้า แบบ ไม่ต้องหาใหม่ ไม่กินผมไม่กิน

แต่คนข้างตัวผมสิ ถุงมันฝรั่งทอดกรอบที่กำลังแกะตกตุ้บเลย

“กินๆไปเถอะมะนาว ฮ่าๆๆ ไอ้น้ำมันโดนคุมอาหารเพราะบ้านมันเป็นเบาหวานทั้งบ้าน แถมเมื่อก่อนยังติดหวานจนน่าเป็นห่วง”

“เฮ้ย มะนาว พี่ไม่ได้ว่าเรานะ มะนาวกินได้ๆ”

“ระ เหรอครับ ผมกินได้แน่นะ”


อ้อ ที่ต่างกันชัดๆ อีกอย่าง รังสีความเป็นนางพญาของพี่ทะเลแก่กล้ามาก ผมไม่ใช่คนถูกจู่โจมยังรับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่าง




เพราะเพิ่งตื่นก็เลยไม่มีใครหลับ การเดินทางเต็มไปด้วย... การประชันกันของน้ำกับมะนาว

"เล ป้อนหน่อย"

“มือก็มี จะให้ป้อนทำไม”

“มันมีความตาร้อนอยู่ในน้ำเสียง เลไม่เห็นเหรอ” อันนี้น้ำพูดเองนะครับ ผมกับมะนาวแค่นั่งหัวเราะกันอยู่ข้างหน้า

“ปัญญาอ่อน”

“เลชอบคนปัญญาอ่อนแบบนี้แหละ ไม่เครียด ใช่มะล่า นะๆๆๆ ป้อนๆๆ”

“ไม่ ฮ่าๆๆๆ ไม่เอา กินเองสิโตแล้ว”

“เลแกล้ง”

“ใช่ ไม่โกรธอยู่แล้วนี่” เพื่อนผมยิ้มจนสาวออก

“มึงอยากให้พี่เลป้อนมากๆ ก็มาขับรถ” ผมบอก หันไปบอกมะนาวว่าพร้อมกินเบอเก้อร์คำต่อไปแล้ว มะนาวยื่นให้ต่อหน้าต่อตาไอ้น้ำ

“อยากตายรึไงจะให้กูขับเนี่ย”

“น่ากลัว ฮ่าๆๆๆ” มะนาวหัวเราะร่วน ตั้งแต่ขึ้นรถมานะ มะนาวอารมณ์ดีมาก

ผมมองเขา สลับกับมองถนน ถ้ารู้ว่าพามาเที่ยวแล้วจะอารมณ์ดีขนาดนี้ ต่อไปคงต้องหาเวลาแล้วล่ะ


น้ำยกโทรศัพท์ที่ส่งเสียงขึ้นดู ผมหุบยิ้มทันที

“เมโทรมาวะ” เฮ้ย!

อย่ารับ!

คิดว่าทันไหมครับ? แน่นอนว่าไม่

“ฮัลโหล ว่าไงสุดหล่อ” ผมทำหน้าหวาดเสียวสุดขีดหรี่ตามองถนน เพราะรู้ว่าเมโทรมาทำไม

“มีอะไรเหรอ?” มะนาวผู้ไม่เคยรู้เรื่องอะไรหันมาถามผมงงๆ

“แม็ตขับรถอยู่ ช่าย ไปสัตหีบ เออๆ เดี๋ยวเปิดสปีคเกอร์โฟนแป็ป” น้ำดึงโทรศัพท์ออกจากหู กดเปิดลำโพงแล้วยื่นมากลางรถ

// ไอ้เหี้ยแม็ต วันนี้นี้มึงก็ไม่มา แล้วดู ทิ้งกูไว้กันตัวอะไร //

“พี่กูออกจะใจดีนะ” ผมเลือกตอบเบาๆ ไม่ร้อนสู้มัน

// ห่า กวนตีนกูชิบหาย ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นพี่แก่ใกล้จะตายเองอยู่รอมร่อมีเจอดีแน่ มึงจงใจหลอกกูมาซุ้มทีมเชียร์ทำไมวะ //

“เอ่อ กูเปล่านะเว้ย”

“แม็ตทำอะไรวะเม” มะนาวถามขึ้น

// มันให้กูไปเอาเค้กที่ซุ้มทีมเชียร์ จงใจให้พี่มันกวนตีนกู //

“อ้าว มึงเหี้ยมากแม็ต”

“ฮ่าๆๆๆๆ พี่ยีนส์ต้องชอบมึงแน่เลยเม” น้ำหัวเราะชอบใจ นั้นคือคำสุดท้ายที่เราโต้ตอบมันทันก่อนจะโดนเมด่ากันถ้วนหน้า ยกเว้นมะนาวที่รอด กว่าจะวางสายไปอย่างกับพายุผมนี่หูชาไปข้างนึง


“สรุปมึงหลอกเมไปซุ้มทีมเชียร์ทำไมวะ?” น้ำถามไปหัวเราะไป

“เมมันรู้ได้ไงว่ากูอยู่กับมึง”

“กูเช็คอินว่ากำลังออกเที่ยวไง มึงตอบกูด็วย”

“เหี้ย แท็กกูทำไมวะ คือเมื่อวานกูจะกลับก่อน เลยไปบอกพี่กูให้เขาช่วย พี่กูรู้ว่าเมมาแต่อยู่ซุ้มอื่นไม่เข้าซุ้มเขา เขาเลยให้กูพาเมมาแลกกับเช็คชื่อให้”

“แล้วทำไมมึงต้องกลับก่อน ปกติมึงอะไรก็ได้ อยู่เล่นเกมไปได้เรื่อยๆ นี่นา”

“กูอยู่ได้ แต่ข้างรหัสกูแม่ง ไปสรรหามาจากไหนไม่รู้ มอมตัวเองหลับกลิ้งอยู่ข้างไอ้ดุ๊กดิ้ก กูสงสารเลยจะพากลับไปนอนห้องดีๆ”

“อ้อ เข้าใจและ ข้างรหัสมึงนี่ดีเนอะ เมื่อกี้ยังช่วยไอ้เมด่ามึงอีก ทั้งที่มันเป็นสาเหตุ ไงมึงสำนึกใจบาปของตัวเองยัง”

“ครับ ขอโทษครับ มะนาวผิดไปแล้ว” มะนาวฟุบหน้ากับคอนโซนรถ ทำท่าสะอึกสะอื้นสำนึกผิด

ผมหัวเราะแบบไม่ได้คิดมากอะไร ปัดๆ หัวเขาสองทีเป็นเชิงว่าอย่าไปคิดมาก

“เพื่อนกูพลีชีพเพื่อมึงเลยนะเนี่ย กูว่ากลับไปไอ้เมรอฆ่ามันอยู่”

“กูก็ว่างั้น งั้นกูจะอยู่ใกล้ๆ พี่ยีนส์ดีมะ มันจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้”

“นี่ๆ เมกับพี่ของแม็ตทำไมเหรอ?”

อีกอย่างครับ ที่มะนาวเหมือนพี่ทะเล คือความอยากรู้อยากเห็นแบบน่ารักๆ




เรามาถึงท่าเรือสายๆ พี่ทะเลบอกว่าให้พวกเรารอในรถ เขาลงไปจัดการเรื่องตั๋ว ก่อนลงรถก็ไม่ลืมโยนกันแดดมาให้เราทากับระหว่ารอ

ที่ผมรู้มาคือไม่ใช่ว่ามาถึงแล้วจะได้ตั๋วขึ้นเรือเสมอไป เพราะค่อนข้างจำกัดคนต่อวันต่อรอบ แต่พวกนี้คงจองไว้แล้วล่ะมั้ง

“พี่ทะเลโทรจองไว้เหรอพี่” พี่ทะเลกลับขึ้นมาบนรถพร้อมตั๋วขึ้นเรือสี่ใบ

“เปล่า ให้แฟนเก่าที่ทำงานอยู่นี่จองให้น่ะ”

“เฮ่ แบบนี้ผมต้องคิดมากไหม?”

“ไม่ต้องคิดเลย มันมีแฟนจะแต่งงานอยู่ปีหน้าแล้วเนี่ย”

“แน่นะ”

“แน่ เพื่อนกัน” หลังจากนั่นเขาก็จับมือกันอยู่เบาะหลัง ไม่ได้พูดอะไร นั่งพิงไหล่กันเงียบๆ

เออเนอะ สองคนนี้คุยกันรู้เรื่องง่ายดีจริงๆ

ถึงน้ำมันจะอายุแค่ 18 ตอนคบกับพี่เลเพิ่ง 17 ด้วยซ้ำ มันต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเพื่อจะโตให้ทันพี่เลที่อายุห่างกันตั้ง 6 ปี



.................................




บนเรือ พี่ทะเลกับน้ำ โพสท่าถ่ายรูปกันสุดฤทธิ์ แต่คนที่ผมกะว่าร่าเริงแน่ๆ กลับนั่งหน้าเขียวไม่พูดไม่จา

“เมาเรือเหรอ”

“ไม่รู้ดิ แต่ปกติไม่เคยเป็นไรนะ”

“แป็ปเดียวก็ถึงแล้ว มะนาวสู้ๆ” พี่ทะเลให้กำลังใจครับ แล้วก็ไปเซลฟี่ให้ติดผมกับมะนาวข้างหลังเขา

“หมอเขาว่างั้นอ่ะ อดทนอีกแป็ปนะ หายใจเข้าลึกๆ มองไปไกลๆ เกาะอยู่แค่นี้เอง แป็ปเดียวก็ถึง”

มะนาวทำตาม ผมเดาว่าคงเพราะฤทธิ์จากเหล้าต้ม เมื่อวาน...

จะสงสารดีหรืออะไรดี



มาถึงเกาะแสมสาร เรามานั่งฟังบรรยายเป็นช่วงเวลาที่มะนาวนั่งพัก สักพักก็ดีขึ้น กลับมาร่าเริงนำพวกเราปีนขึ้นรถเพื่อนั่งไปหาดอีกหาด

มาถึงหาดที่ชื่อหาดลูกลม ทุกคนก็แยกย้ายกันไปถ่ายรูป มะนาวเรียกผมถ่ายรูปได้แค่สองรูป ก็วิ่งไปหามุมของตัวเอง ผมยืนมองน้ำทะเล ฟังเสียงคลื่น รู้สึกผ่อนคลาย ทั้งที่ยังเหนื่อยจากอะไรๆ แต่ก็รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนชาร์จแบตให้ตัวเอง ผมนั่งลงบนพื้นทรายแห้งๆ ดูมะนาวถ่ายรูปเท้า รูปหิน รูปคลื่นซัดโขดหินไปตามเรื่อง ผมนั่งเขี่ยทรายอยู่ไม่ไกล กำลังโพสรูปในกรุ๊ปแฟมิลี่อยู่ดีๆ มะนาวก็เรียกผมเสียงอ่อนๆ

“แม็ต แม็ต” ผมหันไป

เฮ้ย!

เลือด!
มะนาวถือมือถืออยู่ในมือ ดึงขากางเกงขวาขึ้น เข่าเขามีรอยเลือดเป็นวง มีจุดเล็กรอบๆ แผลใหญ่ตรงกลางเริ่มมีเลือดไหลหยดเป็นทาง มือซ้ายหงายขึ้น   อุ้งมือมีรอยถลอด เลือดเริ่มซึมแดงออกมาให้เห็น

ผมเดินข้าไปหาเขา จับมือเขามาดู ก้มลงดูที่เข่า งงว่าเกิดอะไรขึ้น

“ลื่นตกหิน ฮ่าๆ”

“ยังจะหัวเราะอีก ไม่เจ็บเหรอ”

“ไม่อ่ะ ตอนนี้ยังงงอยู่ เริ่มชาๆ นะ”

“ไปที่ร่มกัน เดินไหวไหม”

“ไหว”

ถึงเขาบอกไหว แต่ผมก็ยังเข้าพยุงพาเดินมาจนถึงเต็นท์ของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เห็นเราสองคนแต่ไกลแล้วครับ เขายืนรออยู่เพราะเห็นว่าอาการไม่ได้สาหัสอะไร ผมพามะนาวมานั่งลงเก้าอี้ว่างๆ

“โอ้ เรานี่แจ็คพ็อตนี่นา” พี่ทหารแซวครับ ก่อนจะเดินไปหยิบชุดปฐมพยาบาลมาแล้วทำท่าจะทำแผลให้ พร้อมๆ กับพี่เลกับน้ำเดินตามเข้ามา

“พี่ๆ เดี๋ยวผมทำเองก็ได้ครับ พี่ต้องทำงานอีกทั้งวันคงเหนื่อยอีกเยอะเลย มาผมช่วย”

“เหรอ เอางั้นเหรอ” พี่ทหารพูดเหมือนจะลังเล แต่กลับยื่นอุปกรณ์ให้ทันที

“ครับ” พี่ทะเลตอบอย่างแข็งขัน ก็น่าจะบอกพี่ทหารเขาไปว่าตัวเองเป็นหมอ

“นาว มึง กูมีอะไรจะบอก”

“อะไร?”

“พี่ทะเลเป็นหมอที่มือหนักเหี้ยๆ”

มะนาวทำตาโต

“อยากได้สักแผลใช่ไหมพูดแบบนี้”

“ฮ่าๆๆ เปล่าจ้า”

พี่ทะเลจัดการราดน้ำเกลือล้างแผลอย่างชำนาญ เอาก้อนสำลีเช็ดๆ ดูปากแผลทั้งที่มือและที่เข่า บ่นพึมพำว่าไม่มีอะไรติด ใส่ยานิดหน่อย แล้วก็บอก

“เสร็จล่ะ ไปดำน้ำได้”

“หา” อันนี้เสียงผมครับ

“ได้ใช่ไหมพี่เล อุส่ามาผมไม่อยากพลาดดำน้ำ”

“ได้ดิ แผลแค่นี้เอง คนสมัยก่อนแขนขาขาดยังไม่ตายนับประสาอะไรกับแผลแค่นี้ น้ำทะเลแถวนี้ก็สะอาดไม่น่าห่วงหรอก เล่นได้”

“เย่”

“แต่จะดำก็รีบดำนะ สักพักมันคงอักเสบ จะเริ่มปวด ขึ้นมาค่อยทำแผลอีกรอบ”

“ไปๆๆ” มะนาวคว้าอุปกรณ์ดำน้ำตื้น กับชูชีพขึ้นใส่ กวักมือเรียกผมให้แต่งตัว

“จะลงน้ำจริงเหรอ?”

“ลงดิ อยากดูปะการังนะ อุส่ามาถึงที่ ไม่ได้จะมาง่ายๆนะเว้ย”

“แต่”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก หมอบอกได้ก็ได้ดิ้ เนอะ”

“...” ผมไม่พูดอะไร มองแผลมะนาวที่ยังสดใหม่ด้วยความเป็นห่วง

“แต่ถ้ามึงไม่อยากให้ลงน้ำ กูไม่ลงก็ได้นะ แต่... คราวหน้าแผลหายจะให้พามาใหม่ ฮ่าๆๆ มาหลายๆรอบเลยดีมะ”

มะนาวพูดอย่างพยายามร่าเริง ทั้งที่จริงๆ เขาอยากลงน้ำมาก และคงเสียใจมาก ถ้าไม่ได้ดำน้ำ

“เล่นเถอะ แต่ระวังไปโดนอะไรเข้าอีกนะ”

“จ้า”

คงชาติหน้าตอนบ่ายๆ โน้น ผมถึงจะขัดใจเขาได้ ไอ้แม็ตเอ้ย


พวกเราขึ้นเรือยางออกมาดำน้ำตื่นกันกลางทะเล มะนาวรีบร้อนลงทะเลคนแรกคงกลัวผมเปลี่ยนใจไม่ให้ลง เขาลอยน้ำเบาๆไม่ค่อยขยับไปไหน ไม่รู้เจ็บขา หรือเป็นเทคนิคให้ปลาเข้าใกล้

แต่สักพักมะนาวก็ขึ้นไปรอบนเรือ คงเหนื่อยแล้ว ผมรู้สึกโอเคกว่าที่เห็นเข้ารอบนเรือ อย่างน้อยก็ไม่ต้องแช่น้ำนานๆ แต่หางตาผมเริ่มกระตุก ผมหันไปที่ที่มะนาวที่นั่งอยู่บนเรือกับเจ้าหน้าที่ สองคน...

สองคน!

แถมยังคุยกันดูสนุกสนาน ทหารคนนั้นก้มลงจับขามะนาว ก้มดูแผล แล้วหยิบขวดน้ำดื่มล้างแผลให้มะนาว

เออ มึงทำดี กูจะไม่ถือแล้วกัน

“เลดูดิ”

“อะไร”

“ปลาหน้าดำหน้าแดงจะระเบิดอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ” ไอ้น้ำแซวผมจากอีกมุม

กูได้ยินโว้ย

ผมพยายามไม่สนใจ ไม่คิดมาก ดำน้ำต่อ แต่ก็ได้ไม่นานผมเบื่อเกินกว่าจะดูปลาชมปะการังต่อ ผมขึ้นจากน้ำมานั่งบนเรือรอให้หมดรอบ

“ไมรีบขึ้นวะ เสียดาย”

“เดี๋ยวมึงเหงา คราวหน้าค่อยพามาใหม่”

“กูถือว่ามึงสัญญาแล้วนะ ฮ่าๆๆ” คงบังเอิญล่ะมั้ง ที่ผมสบตากับทหารหนุ่มคนนั้นพอดี

ผมยังจำได้นะ ที่มะนาวบอกไว้ ว่าพวกผู้ชายชอบเดินตามเขามา ผมดูเขามาตลอดทำไมจะไม่รู้ ว่ามันจริง!

“เริ่มเจ็บแผลรึยัง” ผมลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งข้างหน้ามะนาว เอียงแผลดู จับขาเขาเบามือกลัวกระทบกระเทือน

“นิดหน่อย พอแล้ว ดูอะไรนักหนา แผลแค่นี้เอง แค่ถลอกไม่ได้ขาขาด”

ผมเลยลุกขึ้นลอยหน้าลอยตามานั่งข้างเขาแบบติดมากๆ

ให้มันรู้ไปสิ ว่าจะยังมีใครกล้ามายุ่งกับมะนาวอีก!


…………………


“เฮ้ย นาวนี่หว่า”

“อ้าว ไอ้พี่ซัน”

“เรียกกูดีๆ ไม่เคยได้ เป็นไงมาไมมึง แล้วไปโดนอะไรมา ซุ่มซ่ามอีกอ่ะดิมึง”

ขึ้นจากน้ำ ระหว่างรออาบน้ำจืด มีคนเดินเข้ามาทักมะนาวคงมากับเรือรอบหลังจากเรา เขามากันเป็นกลุ่มหญิงหนึ่งชายสอง คนที่ชื่อซันเป็นผู้ชายตัวสูงผอม ผมยาวมัดจุกไว้ตรงท้ายทอย ใส่หมวกใส่แว่นกันแดด ไม่ใส่นาฬิกาแต่มีกำไล ใส่แหวน สะพายกระเป๋ากล้อง เจาะหูข้างขวาข้างเดียวสามรู เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ดูชิลๆ

จริงๆ ก็ดูชิลทั้งสามคน

“เออ ผมมันซุ่มซ่ามเอง มากับเพื่อนพี่ นี่แม็ต ข้างรหัสผมที่คณะ กับน้ำเพื่อนผม พี่ทะเล พี่น้ำมัน”

“เฮ้ย ถ้ากูไม่รู้จักพี่มะม่วงกับไอ้ยมกูจะคิดว่านี่พี่แท้ๆ ของมึงเลยนะเนี่ย”

“ไอ้พี่ซัน อย่าลาม พี่เลแก่กว่าพี่อีก”

“เฮ้ยจริงดิ้ หวัดดีพี่ พี่หน้าโคตรเด็ก”

“เขาสายดูแลสุขภาพ”

“เดี๋ยว มึงมีพี่สองคน ชื่อมะม่วงกับมะยมเหรอ” น้ำถามเสียงใส

“เออ กูคนเล็ก ถึงเอาแต่ใจไง” น้ำฟังแล้วอ้าปากค้าง ส่วนผมนั้น รู้อยู่แล้วว่ามะนาวมีพี่น้องกี่คน และรู้ว่าเขาเป็นน้องคนสุดท้อง

“กูเพิ่งเคยเห็นคนยอมรับว่าตัวเองเอาแต่ใจเนี่ยแหละ”

มะนาวยักไหล่หันไปแนะนำพี่ซันให้เรารู้จัก “นี่พี่ซัน เพื่อนพี่กูครับ”

“หวัดดี นี่โซ่ กับชะเอมเพื่อนพี่”

ทักทายกันพอเป็นพิธีพี่เลกับไอ้น้ำก็หายไปทางห้องอาบน้ำ

“มึง ขอน้องเขาถ่ายรูปได้ป่ะ?” ชะเอมหญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มทำท่ากระซิบกระซาบแต่ได้ยินไปทั่ว

“เออ กูว่าคอนเซปได้อยู่นะ”

“ไหนบอกแค่เซอร์เวย์ไม่ถ่ายคนไง” พี่ซันออกความเห็น

“ก็ไหนๆ ก็มาแล้วอ่ะ  มึงคิดดูถ้าได้โลเคชั่นนี้ หุ่นงี้ กูว่ากูจบแน่ นี่เลยชิ้นโบว์แดง”

“โบว์แดงเลยเหรอ โบราณมากมึง” เขาหันไปคุยกันสามคน พวกผมยืนตัวเปียกมองหน้ากัน รู้สึกงานจะเข้ายังไงไม่รู้ ด้วยอะไรๆ รู้สึกว่าที่เขากำลังคุยกันมันหมายถึงพวกผม

“เอาจริงเหรอ ไม่ได้เตรียมพร๊อพสำหรับคนมานะเว้ย”

“ลองดูเสียหายอะไร กล้องมึงถ่ายได้ 34 รูปรึไง ถ่ายๆ ไปเถอะ”

“เออ มะนาว รีบกลับรึเปล่า” ประชุมกันเสร็จ ในที่สุดพี่ซันก็เป็นตัวแทนมาเจรจา

“ไม่พี่ มีอะไรก็ว่ามา” มันนั่งกระดิกขาที่เจ็บรอแบบโคตรกวนตีน ดูท่าจะสนิทสนมกันมากจริงๆ

“พี่มาเซอร์เวย์ฉากถ่ายหนังจบกันอยู่ เรากับเพื่อนมาเป็นนายแบบให้หน่อย อ้าว อีกสองคนหายไปไหน”

“ได้ตังป่ะ?”

“ถ้าผ่านมึงได้แน่ เพราะอาจจะต้องมาเล่นด้วยเลย ฮ่าๆๆ เอาน่า ถือว่าช่วยๆ กัน กล้องพวกกูแพงนะเว้ย ถ่ายไงมึงก็หล่อ”

“พี่จะให้คนไหนถ่ายบ้างอ่ะ ผมบังคับเพื่อนไม่ได้หรอกนะ ต้องลองถามทีละคน”

“หมดเลยสี่คน รูปที่ใช้จริงๆเป็นแบบหันหลัง ไม่ค่อยเห็นหน้าหรอก ถ้าจะถ่ายข้างหน้าเก็บไว้เทียบนิดหน่อยเอง ขั้นแรกยังไม่โปรโมทมึงไม่ต้องกลัวแค่พรีเซ็นคอนเซปกับอาจารย์ เอาน่า ช่วยพวกพี่หน่อย”

“เหรอ อื้มมม”

มะนาวมองหน้าผม

“เอาไงดีล่ะ?”



…………………………………



เราออกจากเกาะกันในตอนบ่าย แวะหาร้านอาหารทะเลแถวบางแสน กว่าจะกลับมาถึงห้องก็เกือบสามทุ่ม มะนาวถึงห้องก็ทิ้งตัวลงนอนกางแขนบนเตียง ส่วนขานั้น เจ็บ ฮ่าๆๆๆ

“ไปอาบน้ำ จะได้มาทำแผลอีกรอบก่อนนอน”

“ไม่ต้องทำหรอก พรุ่งนี้ค่อยทำ อันนี้หมอตัวจริงทำให้เลยนะเว้ย สะอาดปลอดภัยไม่ต้องกังวน”

“กังวนสิ”

“พอแล้วมึง มึงจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไง”

“ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย แค่ทำแผล”

“ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่ทุกเรื่อง”

“...”

“มึงทำเพื่อกูเยอะมากเลย ขอบคุณนะ”

“ไม่ต้องขอบคุณ เปลี่ยนเป็นทำตัวน่ารักๆ เหมือนเดิมก็พอ”

“อย่าใช้คำว่าน่ารักนะเว้ย!”

“อ้าว ทำไม?”

“ผู้ชายที่ไหนเขาจะชอบให้คนอื่นมาชมน่ารักวะ”

“ฮ่าๆๆๆ มึงนี่ น่ารักจริงๆ”

“แง้งๆๆๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆ”


หลังจากนั้นมะนาวก็คอยแต่ไล่ผม ไม่ให้คอยมองตามเขาตลอดเวลา

ทำได้ที่ไหนล่ะ?


“มีซ้อมทุกวันเลยเหรอ”

“ไม่ซ้อมอย่างเดียว มีแข่งวันพุธนี้แล้วเนี่ย”

“อ้าว จริงดิ”

“อันนี้เป็นกีฬาเฟรสชี่เดี๋ยวหลังมิทเทอมมีกีฬามหาลัย ไปแข่งกับคณะอื่นๆ อีก แต่ต้องคัดตัวรวมกับปีสองปีสาม”

“งั้นวันนี้ กูไปดูนะ จบเชียร์แล้วโคตรว่า แค่คิดว่าตอนเย็นไม่มีอะไรทำก็เบื่อล่ะเนี่ย”

“อยู่ห้องอ่านหนังสือไม่ดีกว่าเหรอ” ผมเลิกป้ายความผิดให้แผลเขาเดี๋ยวจะหาว่าผมขี่บ่นเป็นตาแก่อีก

“ไปอ่านโน้นก็ได้” มะนาวป้องปากกระซิบ “กูจะไปสืบเรื่องพี่ปราณกับพี่ชนะ”

ก็นั้นแหละ ที่ผมห่วง มะนาวบอกว่าพี่ชนะกับพี่ปราณ เป็นแฟนกันแล้ว จากหลักฐานแค่ว่าเขาเดินตามไปขึ้นรถในวันนั้น จริงอยู่ที่พี่ปราณไม่มาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ มะนาวอีก ไม่มานั่งเฝ้าที่โรงอาหาร ไม่คอยเดินตาม หรือดักรอหน้าตึกเวลาเลิกเรียน แต่ใครจะรู้ว่าตกลงเขาคบกันจริงไหม

“นะ”

อ้อนไม่ต้องมาก แค่ ‘นะ’  คำเดียวผมก็ยอมอีกแล้ว



........................


“ไง ทำไมมาทีไรเจอน้องนาวทุกที”

“อ้าวพี่ชนะ หวัดดีพี่”

“พี่ชนะหวัดดีครับ” ผมกับมะนาวยกมือขึ้นไหว้พี่ชนะตามธรรมเนียม

ตอนนี้เป็นช่วงพัก ผมวิ่งวอร์มจนเหงื่อโทรม ส่วนใหญ่ผมถูกเมไล่เตะ เลยสะบักสะบอมกว่าปกติ

พี่ชนะยังอยู่ในชุดทำงาน แขนเสื้อพับขึ้นเกือบถึงศอกเนคไทปลดหลวมๆ กับปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนท่าทางสบายๆ เขามานั่งที่ว่างๆ ข้างมะนาว

“แนะ มาหาแฟนอีกแล้วเหรอพี่”

“เออ เดี๋ยวมันเห็นต้องบ่นอีกแน่”

“บ่นไรอ่ะ”

“มันไม่อยากให้พี่มาดู หรือ มาหา” คนพูดมีท่าทีสงสัยในคำตอบตัวเอง

“อ้าว ทำไมอ่ะ มีแฟนมาให้กำลังใจดีจะตาย”

“ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อายมั้งที่แฟนเป็นผู้ชายตัวดำแถมมีหนวด หึหึ” ผมไม่คิดว่าพี่ชนะคนที่ผมเคยเจอ จะดูอ่อนล้าหมดแรงได้ขนาดนี้ มะนาวเคยบ่นว่าปกติเขาเป็นคนดุ จริงจังกับน้องๆ พูดเสียงดัง และเข้มงวดมากด้วย “นานมากแล้วนะที่พี่ไม่มีแฟน การแคร์ใครสักคนนี่มันทำให้เราวุ้นวายเป็นสาวน้อยได้แม้จะแก่แล้วก็เถอะ”

“ทำไมเหรอพี่”

“เขาเหมือน ยังไม่ลืมคนรักเก่า...” เขาเหม่อมองไปที่พี่ปราณ ที่เห็นพี่ชนะแล้วเช่นกัน แต่ทั้งคู่ไม่ได้ส่งเสียงหรือมีท่าทีทักทายกัน เหมือนคนไม่รู้จักที่แค่บังเอิญสบตา

ข้างหลังพี่ชนะ ผมกับมะนาวลอบสบตากัน ผมรีบพิมพ์ข้อความใส่มือถือแล้วยัดใส่มือให้เขาอ่าน ‘อย่าบอกพี่เขาเชียวนะว่าคือใคร’
มะนาวเงยขึ้นถามด้วยสายตา

‘ทำไมวะ?’

ผมได้แต่สายหัว แล้วขอตัวลงไปซ้อมบาสต่อ

ลงมาข้างล่าง พี่ปราณนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาว พิมพ์ไลน์แล้วเงยขึ้นมองพี่ชนะกับมะนาวด้วยสายตาแบบ ไม่พอใจ

แล้วเขาจะไม่พอใจอะไรกันล่ะเนี่ย หึงที่แฟนตัวเองคุยกับคนอื่น หรือหึงคนอื่นมาคุยกับมะนาว จากการกระทำที่ผ่านๆมาของไอ้พี่ปราณ ผมเดาไม่ออกเลย ว่ามันจะรู้สึกยังไงกันแน่

เท่าที่ดูเขาชอบมะนาว มากไม่มากไม่รู้ แต่ระยะเวลายาวนานมากแล้ว แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอดีตสำหรับเขา หรือมันยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน แม้จะมีคนออกตัวบอกว่าเขาเป็นแฟนกัน แต่ความรู้สึกคนมันเปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ เหรอ ลบทิ้งแล้วตั้งโปรแกรมใหม่ได้ทันทีเหรอ? ผมเชื่อว่าไม่มีใครนับ 1 2 3 แล้วเลิกรักใครได้ทันที

ผมซ้อมแบบไม่ค่อยมีสมาธิ รู้สึกความอยากรู้อยากเห็นแบบของพงศ์เข้ามาสิงสู่ คอยเหลือบตามอง คอยสังเกตพฤติกรรมของทั้งสามคนทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่นานพี่ปราณก็เดินออกไปจากโรงยิม พี่ชนะตามออกไปแบบไม่ได้กระชั้นชิดจนคนอื่นผิดสังเกตุ

แต่ผมสังเกตุ! ผมรู้ผมเห็น

มะนาวซะอีก นั่งตัวสั่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คงอยากแอบตามไปแต่กลัวโดนจับได้


เวลาผ่านไปจนผมเผลอลืมไป พี่ปราณกลับเข้ามานานแล้ว แต่พี่ชนะไม่ สักพักมะนาวเดินลงมาข้างสนามเรียกผม

“อะไร?”

“พี่ชนะให้ไปนั่งเป็นเพื่อน เอามือถือกับกุญแจรถไป ซ้อมเสร็จก็โทรมา” มะนาวพูดเสียงเบาแทบกระซิบ เพราะกลัวคนอื่นได้ยิน คนอื่นที่ว่าคงไม่พ้นพี่ปราณ


“อื้ม ดูแลตัวเองด้วยนะ”


“จ้าพ่อ ไปแล้ว กูอยากรู้ ฮ่าๆๆ”




--------------------------------------------------
TBC.



ใครใจตรงกับมะนาว ยกมือค่า   :a1: :a1:
ยอมรับว่าคิดชื่อตอนตอนนี้ไม่ออก ใครมีชื่ออื่นเสนอมั้ยคะ 555+
ตอนหน้าเป็นตอนแยก by ชนะ ผู้พ่ายในเกมรัก
55555 โอเค ได้ชื่อตอนตอนหน้าล่ะ

โปรดอย่าเบื่อที่พ่อแม็ตยังคงเหมือนเดิม มะนาวก็เรื่อยๆเหมือนเดิม แต่คู่อื่นล้ำหน้าไปมาก ฮ่าๆๆ
แหมมมมม ความรักของคู่ใครคู่มันจะเอาอย่างเลียนแบบกันมิได้ เน้อ



เพจที่นานๆแปะที >>
https://web.facebook.com/Brosohub/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2016 12:35:21 โดย Brosohub »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #165 เมื่อ30-03-2016 21:28:38 »

 :pig4:

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #166 เมื่อ30-03-2016 21:38:51 »

มาต่อแล้ววว ขอบคุณค่ะ  ขำมะนาวกับแม็ตดูอยากรู้เรื่องชนะเอามาก ๆ55

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #167 เมื่อ30-03-2016 21:41:28 »

อยากรู้เรื่องคนอื่นเขาจริงๆเลยนะมะนาว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #168 เมื่อ30-03-2016 21:51:50 »

 :เฮ้อ: เหมือน มะนาวหาเรื่องใส่ตัว ทั้งที่รู้ว่าปรานชอบตัวเองมาตลอด
ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวได้ จะเกิดเรื่องไหมนะ
ปรานจะตัดใจได้ยังไง เมื่อมะนาวมาป้วนเปี้ยนใกล้คนรักใหม่
หรือเป็นเพราะมะนาวคิดช้าเป็นปกติอยู่แล้ว   :katai1:
สนุก ชอบ คู่แมท มะนาว ยีนส์ เม  :mew1:
รอ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #169 เมื่อ30-03-2016 21:52:30 »

 :a1: :a1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
« ตอบ #169 เมื่อ: 30-03-2016 21:52:30 »





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #170 เมื่อ30-03-2016 21:59:32 »

เรื่องเสือกขอให้บอก 5555

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #171 เมื่อ30-03-2016 23:11:52 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #172 เมื่อ31-03-2016 12:32:06 »




เบรนใหญ่เท่าบ้าน 5555+
นิยายผมใสๆ (หราาาาาาา) เลยใส่สีพาสเทล ฮ่าาาาา

ออฟไลน์ PaiPo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ย้ำรัก. love Again. [บท 18 ลมอุ่น] 30/3/59 P.6
«ตอบ #173 เมื่อ01-04-2016 00:56:42 »

ขอเม้นต์สองตอนรวดนะ เราไปอยู่ป่ามา 555+
กรี้ดดดดดดดดดดดดด พี่ยีนโคตรหล่อ แต่เมหล่อกว่า ชอบบบบบบบบบบบบเม *ตบตีแย่งจากยีนและโนอา*
ชอบมะนาวตอนเมาจริงๆ นางอยากทำอะไรก็ทำ คือทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ


ชนะปราณ สั้นๆ :a1: :a1:

ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

  - ชนะปราณ - by ชนะผู้พ่ายในเกมรัก -


ชีวิตคนเรามักวุ้นวายอยู่แต่กับเรื่องความรัก ถ้ามันยังไม่นิ่ง ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เขาก็ยังไขว่คว้าหามาเป็นของตัวเอง เจ้าความรัก

ผมก็เหมือนคนอื่นๆ ถึงแม้ไม่ศรัทธาแต่ลึกๆก็ยังคอยมองหาใครสักคน ที่จะทำให้ผมหยุดตามหาไม่ต้องเดินทางไกลเพียงลำพัง คนที่พร้อมจับมือและเดินไปด้วยกัน

ผมหามานาน บางทีก็หยุดรอให้จังหวะดีๆผ่านเข้ามา รอจนมีพร้อมทุกอย่าง บ้านรถ หน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคม แต่ความรักเป็นอะไรที่ยากเกินควบคุม

ความรักของผมไม่เคยไปถึงฝั่งฝัน ผมต้องผิดหวังมานับสิบครั้งแล้วในชีวิต จนผมเริ่มจะเหนื่อย จนผมเริ่มท้อ

ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชาย ล้วนผ่านมา เพื่อผ่านไป

ผมต้องตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆ เลือกไม่รักคนน่ารักๆ อย่างมะนาวหลานในสายรหัส เพียงเพราะกลัวจะอกหักอีก ซึ่ง ดูท่าแล้วผมอกหักแน่ถ้าชอบมะนาว ดูจากสายตาเพื่อนมัน... แก่ๆ อย่างผมนี่ถอยแทบไม่ทัน

เพราะผ่านโลกมามาก เริ่มรู้ว่าอะไรควรเสี่ยงไม่ควรเสี่ยง จนหลังๆ กลายเป็นผมเริ่มหลีกทางทันทีถ้ามีทีท่าว่าจะต้องเป็นฝ่ายเจ็บ

และครั้งนี้ แม้ผมรู้ดีว่าการยื่นมือเข้าไปยุ่งกับคนที่เพิ่งอกหัก จะต้องเจอกับอะไร

ถูกมองเป็นตัวแทนที่มีค่าไม่เท่ากัน ไม่ถูกใส่ใจ ไม่ต้องแคร์ ทั้งที่อยู่ด้วยกันแท้ๆ แต่กลับหว้าเหว่

ทั้งที่รู้ ทั้งที่มองสบตากันแล้วไม่เห็นตัวเองอยู่ในแววตาเขา แต่ผมก็ยังอยากมองเห็นเขาอยู่ในสายตาผม

ผมรักเขาไหม?

ผมก็ไม่รู้

แต่ที่รู้ คืออยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ ผมอาจจะเหงาเกินไป อยู่คนเดียวนานเกินไปความรู้สึกนี้จึงเกิดขึ้น มันอาจจะเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ที่บังเอิญผ่านเข้ามา แต่ตอนนี้เป็นเขา

เขาไม่เหมือนใคร พูดน้อย ถามคำตอบคำ ไม่เคยตั้งเงื่อนไขไดๆ และไม่เรียกร้องอะไร เหมือนเราเป็นคู่รักเก่าแก่ที่เริ่มหมางเมินเพราะเริ่มเบื่อที่อยู่ด้วยกัน ทั้งที่ที่จริงเราเพิ่งรู้จักกันได้ม่ถึงเดือน เวลาที่อยู่ข้างนอกก็เหมือนคนไม่รู้จักคนนึง

แต่อะไรบางอย่างในตัวเขาดึงดูดผมมากว่าใคร แม้ความรู้สึกว่าไม่ถูกรักนั้นชัดเจนจนผมไม่กล้าคาดหวังอะไรในการคบกันครั้งนี้ ผมก็ยังคงเลือกเป็นฝ่ายไล่ตาม

มันทำให้ผมรู้สึกตัวเองกำลังอกหัก แม้ในยามที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน



“มาทำไม บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมา”

“แค่อยากมาดู เมื่อเช้าตัวร้อนมากนะ”

“ไม่ได้เป็นอะไร หายแล้ว กลับไปก่อนเถอะ”

“...” ผมชั่งใจ ท่าทีของเขาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เขาไม่อยากเจอและไม่อยากเข้าใกล้

“สองทุ่มก็กลับแล้ว เดี๋ยวนั่งแทคซี่กลับเองไม่ต้องวนมารับนะ” เขาเรียกผมออกมาเพื่อพูดแค่นี้ก็ทำท่าจะเดินจากไป

“ทำไมอยากให้พี่กลับจังนะ จะแอบไปเจอใครรึไง?” คำพูดของผมหยุดปราณไว้ ไม่ใช่เขาคนเดียวที่เป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่ผมก็รู้สึกได้ ว่าการกระทำของตัวเองมันเด็กแค่ไหน

“หมายความว่ายังไง?” เขาถอยกลับมาพร้อมมือที่กำหมัดแน่น

“ทำไมไม่อยากให้อยู่ ทำไมต้องคอยไล่ ทั้งที่พี่แค่เป็นห่วงไม่อยากให้หักโหม” ผมสุดกลั้นเริ่มเสียงดังและจริงจังจนเริ่มกลัวตัวเอง

ความอัดอั้นที่รู้สึกไม่เป็นที่รักทำให้ความน้อยเนื้อต่ำใจปะทุออกมาในที่สุด

“นี่คิดว่าผมจะมีคนอื่น?”

“แล้วมีรึเปล่าล่ะ?”

“...” ปราณขมวดคิ้วมองหน้าผมอย่างหาเรื่อง แต่ไม่ยอมพูดอะไร ไม่ยอมรับ หรือกระทั้งแก้ตัว

“ถ้ามีก็บอก พี่จะได้หลีกทางให้” ต่างจากผม ที่พูดออกไปเหมือนใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย เสียงแทบขาดหายไปในตอนท้าย รู้สึกใจหายกับคำพูดตัวเอง

ทำปากดีนะมึง ถ้าเขาจะไปจริงอย่างกับทำใจได้?

“แม่ง อะไรของพี่วะไอ้พี่ชนะ” ปราณผลักอกผมจนเซถอยหลังชนกำแพง เขาทำท่าฉุนเฉียวรำคาญผมอีกแล้ว “คุยไปก็คุยไม่รู้เรื่องหรอก กลับไปค่อยคุยกันที่ห้อง”

“ไม่! คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

“นี่ นิผมมาซ้อม ถ้าพี่ไปทำงานแล้วผมไปนั่งเฝ้า พี่จะชอบไหม?”

“...”

“อย่าทำเหมือนผมพร้อมจะนอกใจพี่อยู่ตลอดเวลาแบบนี้ได้ไหม อย่าบีบให้ผมต้องทำ”

ไม่!

“ทำอะไร?”

อย่า อย่าตอบ

“ทำให้เรากลับไปเป็นแค่คนอื่น”


ผมพูดไม่ออก ก่อนนี้ผมคิดว่าทำใจได้ ไม่รู้เลยว่าผมกลัวคำคำนี้มากแค่ไหน จนกระทั้งเขาพูด เขาพูดสิ่งที่ผมกลัวจนแทบตัวสั่น หัวใจดิ่งวูบเหมือนตกลงเหว ผมยืนค้างพูดอะไรไม่ออกขยับไปไหนไม่ได้

ถ้าผมจะอกหักเพิ่มจำนวนขึ้นอีกสักครั้ง ทำไมมันน่ากลัวเหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น

กับแค่ อีกครั้ง...

ผมน่าจะชินแล้วนี่นา ผมน่าจะคุ้นเคย แต่ทำไม... มันช่าง เจ็บ 

กับเรื่องความรัก ผมไม่เคยชนะใครเลย


ผมยืนบื้ออยู่ตรงนั้นเป็นสิบนาที จนมีคนเดินผ่านมาผมถึงตั้งสติได้

ผมยกโทรศัพท์โทรออก

“มะนาว ไปหาอะไรกินเป็นเพื่อนพี่หน่อย”

“อื้ม ก็นิดหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”

“ได้ รอที่รถนะ”

ไม่นานมะนาวก็เดินเอียงๆ ออกมายืนงงอยู่หน้าโรงยิม ผมขยับรถไปเปิดกระจกใกล้ๆ

“ขึ้นมาสิ”

มะนาวพูดทักทายก่อนขึ้นรถมาแล้วเริ่มต้นซักทันที

“ทะเลาะกันเหรอพี่ เขากลับเข้าไปชู้ตเอาๆ”

“อื้ม เขาบอกพี่น่ารำคาญ ถ้ายังทำตัวน่ารำคาญได้เลิกกันแน่ เห้อ”

“พี่ทำอะไรเหรอ”

“ก็แค่ที่มาแบบวันนี้ มั้งนะ พี่ก็ไม่แน่ใจว่าทำอะไรให้เขาไม่พอใจไว้บ้าง”

“แล้วไงอ่ะ”

“พี่หลุดปาก แต่ พี่ก็กลัวจริงๆ ว่าเขาจะกลับไปหาคนรักเก่า” ผมจอดรถริมถนน หน้าร้านอาหารที่แสงไฟขาวสว่าง ดูก็รู้ว่าขายเค้ก

“อ้าว ผมนึกว่าจะไปร้านเหล้า”

“ไม่ดีกว่า พี่ไม่อยากเมากลับไป เดี๋ยวจะยิ่งคุยไม่รู้เรื่อง ไป กินไรก็กิน พี่เลี้ยง”

“แน่นอน พี่เป็นพี่สายตรงผมเลยนะ” มะนาวทวงสิทธิความเป็นน้อง

“ฮ่าๆๆ อย่าเยอะนะ พี่พกตังมาไม่เยอะ” อย่างว่า เขาร่าเริงและน่าอยู่ใกล้ๆ แต่ความน่ารักของเขาแทบไม่มีผลกับใจผมเลยในเวลานี้ มีแต่เรื่องปราณเต็มไปหมด
 


สั่งอาหารเสร็จ มะนาวก็เร่งให้ผมเล่าต่อ ว่าไปเจอกันได้ยังไง

“วันนั้นพี่ก็มาแถวนี้แหละ วันเชียร์ของศิษย์เก่าที่เรากลับไปก่อน ตอนนั้นดึกแล้วคนเริ่มกลับ พี่เห็นปราณดื่มอยู่คนเดียวที่มุมร้านท่าทางเมามาก แต่ก็ยังกินไม่หยุด พี่ดูอยู่นาน เขาหยุดคิดอะไรแป็ป เขาก็ยกแก้วขึ้นซดเอาๆ พี่เลยเข้าไปทัก”

“หลังจากคืนนั้น พี่ก็ทึกทักเอาเองเลย ว่าเราเป็นแฟนกัน หึหึ ทั้งที่เขาก็บอกนะ ว่าเพิ่งอกหักมา พี่ก็หลับหูหลับตาบอกว่ารับได้ ตอนแรกไม่คิดอะไร กะว่าคบไม่นานอยู่แล้ว ให้ผ่านไปสักพักจะถูกทิ้งก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของอนาคต อีกอย่างพี่อกหักจนชิน อกหักอีกทีคงไม่เป็นไร ตอนนั้นคิดอย่างนั้นจริงๆ”

“พี่กะอกหักตั้งแต่เริ่มคบเขาเลยเหรอ”

“ตั้งแต่เดินเข้าไปทักเขาพี่ก็เตรียมใจไว้แล้ว”

“งี้นี่เอง”

“อะไรเหรอ”

“ผมว่าพี่ปราณรู้สึกได้นะ ว่าพี่คิดอย่างนี้”

“คงงั้น วันนี้ก็บอกเขาไปแล้วว่าถ้ามีคนอื่นก็บอก จะได้ถอยให้”

“เฮ้ย แบบนั้นไม่ได้ดิพี่”

“มันเป็นความจริงนี่”

“ความจริงแต่พูดออกไปตรงๆ แบบนั้นไม่ได้นะ”

“...”

“มันเหมือนอะไรรู้ไหมพี่ มันเหมือนกับว่าพี่ไม่ได้รักเขามากมายอะไร ไอ้เรื่องรักจริงมั้ยรักมากไม่มากผมไม่รู้นะว่าพี่มีความรู้สึกแบบนั้นกับพี่ปราณมากแค่ไหน แต่ถ้าพี่ยังอยากให้พี่สองคนคบกับไปได้เรื่อยๆ ไปนานๆ พี่ลองทำเป็นไม่รู้สึกอะไร คือ จะอธิบายยังไงดี แบบว่า พี่อย่าพูดทำนองว่าพร้อมเลิก ให้ทำเป็นแฮปปี้ดี มีเขาแล้วมีความสุข แค่นี้พอ เพราะยิ่งพี่พูดว่าจะเลิก ถ้าเขารำคาญแล้วบอกก็เลิกๆ ไปซะสิ ต่างคนต่างหลุดปากอะไรจะเกิดขึ้นพี่”

“คงได้เลิกกันจริงๆ”

“แล้วพี่อยากเลิกเหรอ”

“ไม่เลย ไม่อยาก ยิ่งไม่อยากพี่ยิ่งกลัว”

“แสดงออกว่ากลัวเขาทิ้งทำได้นะพี่ แต่แสดงออกว่าพร้อมเลิกเนี่ย ไม่ดีนะ”

“เออ ขอบใจ จะพยายาม”

“กลับไปก็คุยกันดีๆ”

“จะได้คุยรึเปล่าก็ไม่รู้”

“เขาขี้โมโหเหรอ?”

“กับคนอื่นเข้าดีนะ ยิ้มง่าย ดูอบอุ่น แต่กับพี่เขา เขากลายเป็นคนขี้หงุดหงิด โมโหง่าย อยากใส่อารมณ์ก็ขึ้นเลย บทจะดีก็ดีซะเฉยๆ แปรปรวนตามไม่เคยทัน”

“ผมว่านั้นแหละตัวจริงเขา”

“รำคาญพี่ซะมากกว่ามั้ง”

“ไม่หรอก ผมว่าเขากำลังแสดงตัวตนจริงๆของเขาให้พี่เห็นแค่คนเดียว”

หลังจากนั้นมะนาวก็ยังเจื้อยแจ้วไปได้เรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะพูดเก่งขนาดนี้ เจอกันครั้งก่อนๆเขาแทบไม่พูดเลย อาจเพราะอยู่ในวงและคนเยอะ

เขาทำให้ผมรู้ว่าผมพลาดอะไร แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่ากลับตัวเปลี่ยนตัวเองเอาตอนนี้จะทันไหม อาจจะสายไปแล้ว ก็เขาดูไม่รักผมเลย


โทรศัพท์มะนาวส่งเสียง คนที่โทรมาคือเพื่อนคนเดิม

“ไง ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ”

ถ้าเพื่อนมะนาวซ้อมเสร็จ ปราณก็คงเลิกแล้วเหมือนกัน ผมควรจะเอาไงดี รอเขามาหา ชวนเขาไปต่อ หรือกลับไปคุยกันที่คอนโด กลับตอนนี้เขาจะยังโมโหหงุดหงิดใส่ผมอยู่ไหม? รอดึกๆให้เขาอารมณ์ดีขึ้นก่อนดีไหม?

“อยู่ร้านข้าวแฟ ...ช่าย ไม่ได้กินยังหัวค่ำอยู่เลยนะเว้ย กินข้าวเสร็จละกำลังกินเค้ก... อ้อได้ ว่าอีกทีสิ พี่ชนะ มีข้อความฝากถึง” ผมหลุดจากการเหม่อลอยหันมาหาคนตรงข้าม “ฝากบอกไอ้แก่ด้วย ว่าจะกลับไปรอที่คอนโด ถ้าไม่เห็นหน้าในครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก

“หา”

“แค่นี้ใช่ไหมมึง เคๆ แม็ตบอกแค่นี้พี่ ที่พี่ปราณฝากบอก”

“ปรานเหรอ?” ฝากเหรอ?

“เขารออยู่ รีบกลับดิพี่”

“แล้ว แล้วถ้าเขาแค่เรียกไปบอกเลิกล่ะ” ผมเริ่มกลัวอย่างไม่มีเหตุผล

“ก็ง้อแบบที่คนรักเขาง้อกันจิ แบบนั้นๆ อ่ะ เข้าใจใช่ป่ะ?”

“งั้น งั้นพี่กลับก่อนนะ ฝากเช็คบิลด้วย อ่ะนี่”

“โชคดีพี่ เป็นไงรายงานผลด้วยน้า” มะนาวยังถือสายอยู่ ใช้อีกมือโบกลาผม รึโบกไล่ก็ใกล้เคียง




ผมรีบบึ่งกลับคอนโดเต็มสปีด ใจนึงก็ดีใจพอรู้ว่าผมรออยู่ เขายังคิดถึงผม ที่สำคัญการบอกแบบนั้นกับคนอื่นก็ไม่ต่างกับการบอกว่า ‘คนนี้แฟน’ แค่ไปหาในคณะยังโดนไล่แบบรังเกียจเลย เขายิ่งไม่เคยทำสิ่งที่ใกล้เคียงการบอกใครต่อใครว่ากำลังคบกับผม

อีกใจก็กลัวอย่างที่ออกปากถามมะนาว ถ้าเขาเรียกมาบอกเลิกล่ะ? ความกลัวข้อนี้มากมายนัก มากจนผมไม่อยากกลับห้องตอนนี้ อยากยืดเวลาออกไปอีกหน่อย ไม่อยากให้จบ

ผมกดลิฟต์ขึ้นคอนโดด้วยความร้อนรน กลัวจะช้าไป กลัว กลัวไปหมด จากที่ไม่อยากกลับ แต่พอคิดถึงคำพูดเขาผมก็วิ่งไปตามระเบียงทางเดินเพื่อให้ถึงห้องเร็วที่สุด เปิดประตูเข้าห้องอย่างรีบร้อน


แต่ กลับพบกับความว่างเปล่า


ไม่มี ไม่เห็นเขาเลย


เขาไปแล้ว ผมมาช้าไป

ทั้งที่บอกว่าทำใจมาตลอด ทั้งที่บอกตัวเองซ้ำๆว่าอกหักเพิ่มอีกสักครั้งคงไม่เป็นไรมาตลอด

ความเสียใจแล่นเข้ามาเต็มพื้นที่ แค่คิดว่านี่อาจจะโอกาสสุดท้ายสำหรับคนนี้ ไม่ไหว ผมรับไม่ได้

ผมกดโทรออกหาเขา แต่มันกลับเป็นการตอกย้ำว่าเขาไม่ยอมคุยกับผม เขาตัดสายผมทิ้งอย่างไรเยื่อใย

ผมทรุดลงคุกเขากับพื้น

มองมือถือในมืออยากจะปาทิ้ง แต่เรี่ยวแรงเหือดหายไม่มีแม้แรงจะกดโทรซ้ำ


ออฟไลน์ Brosohub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

แกร็ก


ข้างหลังผมมีคนเปิดประตู เดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ

ปราณเดินเข้ามาในห้อง เขาวางมือถือที่ยังสว่างอยู่ลง กระเป๋าลงข้างกัน หยิบของในกระเป๋ากางเกงออกวางไม่พูดไม่จา

ผมมองเขางงๆ อ้าว เพิ่มมาถึง อ้อ ผมกลับมาถึงก่อน?

“ป่ะ” เขาพยักหน้าเรียกผม ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างประตูห้องน้ำกับห้องนอน

“...”

“นั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้น มาอาบน้ำ”

“เอ๋”

“จะอาบไม่อาบ ลีลาได้อาบคนเดียวนะ” เขายอมขยายความให้ผมเข้าใจแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่ได้ปิดประตู

“อาบครับอาบ” ผมทิ้งมือถือไว้บนพื้น แทบวิ่งตามเขาเข้าห้องน้ำ

“อ่ะ” ผมวิ่งมากอดเขาจากข้างหลัง ปราณที่เพิ่งถอดเสื้อยังไม่เสร็จดีสะบัดเสื้ออกจากปลายแขนอย่างทุลักทุเล ผมไม่สน ผมจะกอด “เป็นอะไร?”

“คิดถึง”

“บ้ารึไงก็เพิ่งเจอกันเมื่อกี้ จะมาคิดถึงอะไรนักหนา” เขาทำเสียงเสียงจิ๊จ๊ะแบบคนขี้หงุดหงิด

“พูดจาใจร้ายทำไมต้องยิ้ม”

“ยิ้มที่ไหน ซักไซ้น่ารำคาญ อื๋ออออ” ผมดึงเขาพลิกตัวจูบปิดปากคนปากดี ถ้าเมื่อกี้ไม่เห็นในกระจกผมคงหมดกำลังใจ ถ้าฟังแต่เสียง ผมคงถอดใจอีกรอบ

“จะไม่ให้พูดอีกเลย”

ผมดึงพรวดกางเกงบาสของเขาไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม ปราณเองก็ปลดกระดุมเชิ้ตให้ผม ระหว่างผมถอดเสื้อตัวเอง ปราณก็ปลดกางเกงผมไปกองอยู่ที่พื้น มือเขาลูบคลำเป้าผม ไม่ยอมถอดกางเกงในให้ผมสักที อึดอัดจะแย่

เรากอดจูบพากันมาใต้ฟักบัว เปิดน้ำรดเราทั้งคู่ แต่ไม่มีอะไรเย็นลง มีแต่ร้อนขึ้นๆ

“อ้า”

“อ่ะ ปราณ” เขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้น กลืนกินผมอย่างกระหาย ปลายนิ้วคลึงก้อนกลม เรียวลิ้นร้อนลูบเลียไปทั่ว ผมเปียกถูกผมลูบประคองเข้ามา เรียวปากบางโอบกลืนผมเข้าออก จนผมเผลอสวนเบาๆ

“พอ พอแล้ว”

“พออะไรเหรอ?” ปราณถอดปากออกมาเงยหน้าถามผม สาวมือให้ผมยังไม่หยุด ผมเห็นเขาเองก็ช่วยตัวเองอยู่ ภาพนี้ช่างบั่นทอนความอดทน

“มา” ผมรั้งเขาให้ลุกขึ้นยืน จูบปากเขาอีกครั้ง สองมือลูบไล้ไปตามเนื้อตัวเปียกชื้น มือกดสบู่เหลวมาป้ายบั้นท้ายเขา ผมจับพลิกให้เขาหันหน้าเข้ากำแพง ปลายนิ้วสอดใส่ทาสบู่ในช่องทางคับแคบ ริมฝีปากจูบแผ่นหลังเบาอย่างหลงไหล

“ต้องอย่างนี้สิ ไม่น่ารำคาญแล้ว”

“ทีหลังชอบอะไรก็บอกสิ”

“ก็ไม่เห็นเคยถามเลยไม่รู้จะบอกยังไง”

เออ ก็จริงของเขา ในขณะที่ผมเอาแต่เก็บเรื่องเขาไปน้อยเนื้อต่ำใจ ผมกลับไม่ค่อยใส่ใจพูดคุยกับเขาเท่าที่ควร

“ใส่เลยดีไหม” สองนิ้วผมแหวกช่องทางเขาซ้ำๆ ปิดน้ำแล้วเริ่มเอาปลายนุ่มจ่อหมุนวนไปมารอบๆทางเข้า

“ก็ น่าจะดีนะ”

“อื้ม แค่น่าจะเหรอ”

“ใช่ ก็ไม่รู้ ต้องลองดู”

“งั้น ลองดูนะ” ผมกดหัวเข้าไปช้าๆ สองมือเขาเกาะผนังแน่น แอ่นสะโพกให้ผมมากขึ้น

“อ้า เกือบดีแล้ว”

“อื้ม  พี่กำลังดีเลย” ผมดันเข้าไปจนสุดทาง แล้วยืนนิ่งจับสะโพกเขาไว้ไม่ยอมขยับ

“ไม่เอาแบบนี้”

“ไม่เอางั้นถอดนะ”

“ไม่นะ” ปราณทั้งบีบรัดส่วนนั้น ทั้งใช้มือดึงผมไว้ เล่นเอาอยากจะซี้ดออกมาดังๆ

“ก็ไม่เอาไง”

“เอา”

“อะไรนะ?”

“เอาผมหน่อย อื้อ อ่ะ อ่า พี่ชนะ พี่ นะ อ้า” ผมรู้แล้วทำไมผมไม่อยากเลิกกับเขา

เพราะผมติดใจลีลาการอ้อนของเขานี่เอง แม้มันจะไม่บ่อย แม้มันจะกินช่วงเวลาแค่น้อยนิดที่อยู่ด้วยกัน แต่มันคือความจริงใจที่ยอมเอ่ยปากกับผมตรงๆ

ผมกระแทกจนเขาแทบติดกำแพง

ปราณกัดปากเก็บเสียง เหมือนต่อสู้กับอะไรสักอย่าง

ฮื้ม ปากเล็กน่าจูบ

ผมผ่อนจังหวะให้ช้าลงดึงปลายคางเขาให้รับจูบเปลี่ยนจังหวะเป็นเนิบช้าแต่หนักแน่น

“ไง ชอบช้าๆ หรือชอบเร็วๆ”

“ชอบหมดเลย”

หลังจากนั้นผมก็ใส่ไม่ยั้งเพราะเสียงที่บอก

“ดี อื้ม ดีจัง”

มันเร่งอารมณ์ผมให้กระจุยกระจาย ดี ดีไปหมด ทุกอย่างขาวโพลน

ยกแรกจบไปอย่างเต็มอิ่มในห้องน้ำ ทั้งที่ยังไม่ทันเริ่มอาบน้ำเลยด้วยซ้ำ และกว่าจะอาบน้ำให้กันเสร็จ ยกสองก็กำลังจะเริ่ม

กลับออกมาเขาก็ยังไม่ให้ผมนอนหลับ แต่ให้ผมนอนเฉยๆ ส่วนเขา ขย่มไม่ลืมหูลืมตา ร่างกายมีมัดกล้ามอย่างนักกีฬา จังหวะที่เขาเป็นคนควบคุม เส้นผมที่ปรกหน้า เสียงกัดกรามข่มอารมณ์ อกราบที่ขยายจากการโกยลมหายใจเข้าปอด

เสียงทุ้มอ้อนขอ ปลายนิ้วเชื้อเชิญให้ผมสัมผัสร่างกายเขา

ปราณทิ้งตัวลงมาซ้ำๆพร้อมๆกับจังหวะที่ผมแอ่นรับ ผมดึงเขาให้เอียงลงมาจูบผม ลิ้นดุนดันกันอย่างดุเดือด สองมือเขาจิกไหล่ผมจนเจ็บก่อนเขาจะหยุดนิ่งไปปล่อยให้ผมสวนขึ้นซ้ำๆ ที่เดิม ผมกดสะโพกเขาให้ทับลงมา ผมปล่อยในตัวเขา พร้อมๆกับรู้สึกถึงน้ำลื่นๆ ของเขาเปรอะเปื้อนตัว

ผมกระชับกอดเขาไว้ จูบข้างแก้ม จูบขมับ ใช้ปลายจมูกดันเปลือกตา จูบหน้าผากของเขาซ้ำไปซ้ำมา

“อื้ม พอแล้ว”

“จุ๊บๆๆๆ”

ผมแกล้งจูบเขาซ้ำๆ จนเขาทนไม่ไหว ประกบปากดูดผมจนเคลิ้ม ก่อนจะฉวยโอกาสลุกหนีไปซะดื้อๆ

“เดี๋ยวพี่ทำให้” ผมหมายถึงทำความสะอาด ซึ่งก็รู้คำตอบดี

“ไม่ต้อง” เขาพูดแค่นั้น

เห้อ กลับมาเย็นชาเหมือนเดิมอีกแล้ว

เขานั่งหย่อนขาลงปลายเตียง รวบรวมกำลังลุกขึ้นยืน

หลังเสร็จภารกิจ เขาไม่เคยยอมให้ผมแตะต้อง เวลาที่ไม่ใช่เวลาแบบนั้น

ทั้งที่ผมอยากทำให้เขาทุกอย่าง นั่นของผมแท้ๆ กลับไม่ให้ผมรับผิดชอบ เหมือนเสร็จแล้วก็เฉดหัวทิ้งแบบพวกหมดประโยชน์ แต่คิดไปคิดมาคนที่ได้ มันผมไม่ใช่เหรอ? เอ ผมก็ยังงงๆว่าตกลงควรนอนตีพุงสบายใจ หรือน้อยอกน้อยใจที่เขาไม่ให้ยุ่งกับตัวเขากันแน่

ผมนอนพิงหัวเตียง มองไปที่ประตูห้องน้ำ พอเสร็จปั้บ ผมก็ถูกกันออกจากเขตของเขาทันที

เป็นแบบนี้ตลอด จะให้ผมกล้าคิดเข้าข้างตัวเองยังไงไหว

ตั้งแต่วันแรกที่มาที่นี่ เขาก็เป็นแบบนี้ ทั้งที่วันนั้น เขาเมาจนแทบสิ้นสติแต่ก็ยังผลักผมออกจากห้องน้ำได้สำเร็จ แต่ล้างตัวเสร็จเขาก็กลับมานอนข้างๆผมนะ ผมดึงมากอด เขาก็ไม่ว่า หรือจะนอนห่างๆ เขาก็ดูโอเค

ตอนแรกผมนึกว่ามันจะจบแค่คืนเดียวด้วยซ้ำ แต่ด้วยความหน้าด้านผมไลน์ไปบอกเขาว่า ‘บังเอิญผ่านมาทำงานใกล้ๆมหาลัย กลับพร้อมกันไหม?’ เขาดันตอบตกลง ที่จริงแล้วตัวผมอยู่คนละซีกโลกผมนี่รีบขับรถข้ามกรุงเทพเพื่อไปรับเขาเลย คิดแล้วก็ตลกตัวเอง จากนั้นก็ยัดเยียดกุญแจให้เขารับไว้ บอกอ้อมๆว่าพร้อมต้อนรับเสมอ ซึ่งเขาก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี หลังเรียนเสร็จเขาก็มา หลังกินเหล้าเสร็จดึกๆดื่นๆ เขาก็มาทิ้งตัวนอนข้างผม

นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองมาถึงทุกวันนี้ ถึงจะดูรำคาญผม พูดจาไม่เพราะบ้าง แต่เขาเองก็คงมีใจไม่มากก็น้อย ไม่งั้นคงไม่กลับมาซ้ำๆ กลับมาหาผมด้วยตัวเอง

สักพักปราณก็เดินออกมา มีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว เขานั่งลงข้างๆ พิงแขนผม เหมือนจะอิงซบ แต่ก็ไม่

“อะไร ยังไม่พอเหรอ?” ผมแกล้งถาม

“ขออะไรอย่างสิ” แต่เขาก็ไม่สนใจการหยอกล้อของผมสักนิด

“อีกยกเหรอ ได้เลย” ผมพูดทีเล่นทีจริง รู้สึกแปลกๆที่เขาพูดคุยด้วย เพราะทุกทีเขาแทบไม่พูดอะไร แทบไม่พูดถึงเรื่องส่วนตัว ไม่เรียกร้อง ไม่เคยขออะไร

“ไม่ใช่เรื่องนั้น ฟังก่อน”

“หื๋อ?”

“อย่าพูดว่าจะเลิกกันอีกได้ไหม?”

“อันนั้นปราณเป็นคนพูดนะ”

“แล้วใครที่ว่าจะถอยน่ะ ใคร” ผมอึ้ง เขาดูเก็บกดและอยากพูดเรื่องนี้จริงจัง

“เอ่อวะ แต่ ก็ปราณเอาแต่ไล่กลับ” ผมพูดด้วยท่าทางน้อยใจโอเวอร์ ให้ดูตลกปนน่าสงสาร แต่เหมือนเขาจะไม่ได้รู้สึกสงสาร แต่เป็นความรู้สึกสะใจแปลกๆ

“หน้าพี่ตลกดีเวลาเหวอ” เสียงหัวเราะในคอ บอกว่าเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ นี่คงกำลังนึกหน้าผมตอนหน้าเสียเพราะโดนไล่อยู่ล่ะสิ

ผมอึ้ง ตลกตรงไหน ข้างใต้ใบหน้าจริงจังของเขา เขากำลังขำเหรอ? ฟังดูไม่น่าเชื่อได้

“ทำไมไม่อยากให้ไปหา ไม่อยากให้เป็นห่วงเหรอ”

“กลัวไปหลงเสน่ห์คนอื่น”

“เอ๋?” อ้อ มะนาวน่ารัก เขาอาจจะกำลังเข้าใจผิด แฟนมะนาวก็มี เขาก็น่าจะรู้ ได้ข่าวว่าเป็นคู่จิ้นที่ดังมาก

“คนที่พี่นั่งด้วยอ่ะ” เขาเอ่ยขึ้น คงกำลังลังเข้าใจผิด ไม่นะไม่ใช่ๆ

“มะนาวเหรอ? มะนาวเป็นน้องในสาย ไม่มีอะไรจริงๆ”




“เมื่อก่อนผมชอบเขามาก”




“...” ว่ายังไงนะ?


“มะนาวเป็นรุ่นน้องในโรงเรียน ผมเคยสอนบาสเขา เคยพยายามจีบเขา คอยตามเขา แต่เขาไม่เคยสนใจผมเลย” เสียงของเขาผ่านผมไปและหายไปกับความว่างเปล่าภายในใจ “ตอนจบ ม. 6 แล้วมาเรียนที่นี่ ผมก็ถือโอกาสที่ห่างกันพยายามลืมเขา แต่พอมาเจอเขาอีกที ผมก็รู้ว่าผมยังลืมเขาไม่ได้”

การที่คนที่เรารัก มาบอกว่าเขารักคนอื่น มาย้ำอยู่ข้างหูว่าเขารู้สึกดีกับคนอื่นแค่ไหน คำพูดของเขามันทำร้ายผมจนพรุนไปทั้งตัว
หน้าชา

“วันที่พี่เจอผม ผมตัดสินใจว่าจะตัดใจจากเขาสักที” มือเล็กแต่กระด้างแบบคนเล่นกีฬา เขาสอดมือมากุมมือเย็นๆของผมไว้
ทำแบบนี้อีก ทำไม?

“นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจอพี่หรอกนะ ตอนปีหนึ่งผมเจอพี่บ่อยจนจำหน้าได้ รู้ว่าเป็นพี่บัณฑิตแต่ไม่เคยเข้าไปไหว้เลย คนอะไรก็ไม่รู้จบไปตั้งนานแล้วก็ยังกลับมากินเหล้าที่เดิมๆ ที่อื่นมีก็ไม่ไปกิน ไม่รู้ติดใจอะไรแถวมหาลัย”

ยิ้มทำไมกัน? เพื่ออะไร

“ตอนพวกพี่เลี้ยงสาย ผมก็เจอพี่อีก ก็เลยรู้ว่าพี่เป็นปู่ของปู่ของลุงมะนาว” อย่า ไม่ต้องมามองหน้า อย่ามาสบตา ผมค่อยๆหลบตาเขา ไม่กล้ามองตาเขา แววตาที่ไม่มีผมอยู่เลย

“งั้นที่วันนั้นยอมคุยด้วย เพราะหวังเข้าใกล้มะนาวงั้นเหรอ ที่ไม่อยากให้ไป เพราะไม่อยากให้ไปยุ่งกับมะนาวของเธองั้นเหรอ?” ผมค่อยๆแกะมือตัวเองออกจากมือเขา





พอเถอะ พอที




“เฮ้ย ไม่ใช่!”

“ไม่ใช่ได้ยังไง ปราณบอกเองว่าเคยชอบมะนาวมาก” ผมไม่เข้าใจ ผมเห็นเขากำลังยิ้ม ผมเห็นเขาไม่ได้ทุกข์ไม่ร้อน ทั้งที่ผมกำลังใจสลาย หายใจแทบไม่ออก

“ก็ใช้คำว่าเคยแล้วไง มันไม่ชัดพออีกเหรอ”


หมายความว่ายังไง?


“ที่ไม่อยากให้เข้าใกล้มะนาว เพราะกลัวพี่จะไปชอบมะนาว ไม่ได้กลัวมะนาวมาสนใจพี่ นี่พี่เข้าใจที่ผมพูดไหม คือด้วยความที่ผมเคยชอบเขามาก่อนผมเลยรู้ว่ามะนาวน่ารักแค่ไหน มีแรงดึงดูดคนรอบข้างที่อธิบายไม่ได้ ผมก็กลัวว่าพี่อยู่ใกล้น้องมันพี่จะไปชอบมะนาว ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วผมจะอยู่ยังไง?”

“เดี๋ยว ยาวไป ไม่เข้าใจ อธิบายอีกทีสิ” มือผมสั่นไปหมด แม้เขาจะพยายามจับมือผมอีกครั้งจนสำเร็จ แต่มันก็ยังสั่น

“ผมกลัวนี่ ถ้าพี่ทิ้งผมไปชอบคนอื่น ผมอยู่ไม่ได้แล้วนะ รักไปเยอะแล้ว ก็อย่างว่า ความสัมพันธ์ของเรามันก็แค่เซ็กซ์กันไม่ได้มีใจผูกมัดตั้งแต่... อื้ม” ผมดึงเขามาจูบ กอดเขาเต็มแรง

“รักจริงนะ”

“ไม่จริงเท่าไหร่หรอก”

“ปากดี จุ๊บๆๆๆ” ผมจูบเขาไปทั่ว แม้จะไม่ใช่คำว่า ‘ผมรักพี่’ แต่มันคือความหมายนั้น อะไรก็ได้ ยังไงก็ได้ ผมโอเค โอเคมากๆ

“ฮ่าๆๆๆ พอๆๆ ง่วงแล้ว นอนเถอะ”  เขาพลักผมออกทั้งที่ใบหน้าซับสีเลือด เขากำลังเขิน พยายามดุงผ้าห้มมาคลุมตัวเอง

“กะว่าอีกยก ไม่แล้วเหรอ?”

“พอแล้ว วันนี้ผมซ้อมบาสมานะ”

“เหรอ ซ้อมบาสนี่ไม่ดีเลยเนอะ”

“หึๆๆๆ”

“งั้นใส่คาไว้เฉยๆ ได้มะ?” ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“จะบ้าเหรอ เป็นตาแก่โรคจิตรึไง นอนๆ ไป นี่ กอดนี่หลับๆ ไปเลย” เขายัดหมอนข้างที่มีเยอะมากมาให้ผม

“งื้อๆ” เขานอนตะแคงหันหลังให้ผมเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป เหมือนเขิน มากกว่าเบื่อขี้หน้า

“เอาน่า นอนไปก่อน ตื่นเช้าค่อยว่ากันอีกที โอเคยัง?” เขาพูดโดยที่ไม่หันมามองผม

วันนี้เขาพูดเยอะกว่าทุกๆวัน

“โอเคก็ได้”

“ปราณ”

“หื๋อ?”

“พี่ก็รักเรานะ” ผมกระซิบข้างหูเขา โยนหมอนข้างทิ้ง แล้วดึงเขามากอด แผ่นหลังที่เหมือนรอคอย

“ครับ ห้ามพูดแบบนี้กับคนอื่นนะ” เขาดึงมือผมไปจูบ ก่อนจะกุมมือผมให้ผมกอดรอบตัวเขาให้แน่นขึ้น

“ไม่มีทาง” ผมจูบท้ายทอย จูบใบหู ไซ้จมูกข้างขมับ แล้วรับจูบเขาที่เอียงให้ มันอ่อนโยนและแฝงมาด้วยคำพูดอ้อนอ่อนหวานที่เขาไม่เคยแสดงออก

“ถ้าผมบอกไปมันจะเหมือนคนเอาแต่ใจไหม?”

“บอกอะไร บอกมาเลย บอกเถอะ พี่แก่แล้วตามเด็กไม่ทัน”

“ทั้งที่ผมนอนอยู่ข้างๆ พี่ก็ยังเอาแต่กอดหมอนข้าง” เขาเริ่มพูดทันที และเสียงแข็งมาก

ผมกอดเขาแน่นขึ้น

“ทั้งที่ผมก็มาหาแทบทุกวัน แต่ก็ยังกล้าคิดว่าผมจะมีคนอื่น”

ผมขนลุก

“ทั้งที่ผมยอมทุกอย่าง พี่ก็ยังเงอะงะงุ้มง่ามไม่ได้อย่างใจ เหมือนจะแคร์ แต่ก็ไม่พูดไม่ถาม เอาแต่เงียบ เอาแต่คิดอะไรอยู่คนเดียว แฟนนะเว้ย ไม่ใช่ศาลพระภูมิเอาไว้กราบไหว้บูชาไม่มาแตะต้อง”

“ก็เราเหมือนจะไม่ชอบเวลาทิ”

“ดูตัวเองทำหน้าดิ ดีกว่าผมรึไง” ผมพูดไม่ทันจบเขาก็สวนขึ้นมาก่อนอย่างกับอัดอั้นอะไรมา

ผมลองนึกหน้าตัวเอง ตอนที่สงสัยผมทำหน้ายังไงนะ หรี่ตาย่นคิ้วนิดๆ เม้มปาก

แล้วเวลากลัวเขาไปแล้วไม่กลับมา ผมทำหน้ายังไงนะ ตัวเกร็ง กอดอก เม้มปากเน้นกว่าเดิม สายตาก็ระแวงระวัง ผิวเข้ม หนวดรกนิดๆ หน้าดุๆ

“ขอโทษ ก็หน้าพี่เป็นอย่างนี้”

“ทั้งที่ทำหน้าจริงจังเหมือนหุ้นขาดทุน แต่ก็ยังยื่นกุญแจห้องให้ แถมยังเดินไปบอกยามหน้าตาเฉยว่าแฟนผมจำหน้าไว้ด้วยจะได้ผ่านเข้าออกคอนโดได้ ทึกทักว่าผมเป็นนั้นเป็นนี่ด้วยทั้งที่ไม่เคยถามความเห็นผมสักคำ ไอ้เรารึก็เข้าข้างตัวเองว่าคนแก่คงหลงเราปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวจะปรับปรุงสีหน้าให้ดีขึ้น ยิ่งอยู่กลับยิ่งบูด”

ผมกอดเขาแน่นขึ้น เสียดายเวลา ถ้ารู้ว่าเขาก็คิดเรื่องผมมากขนาดนี้

“ไม่บูดแล้วๆ”

“จนทุกวันที่ผมรีบกลับ หรือแกล้งหลับต่อจนพี่ออกไปทำงาน ก็เพราะกลัวโดนไล่ตะเพิดไม่ให้มาอีกหรอกนะ”

จริงเหรอ หน้าผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ปราณ พี่ขอโทษ พี่ไม่ตั้งใจ

“ต่อไปมีอะไรก็บอกได้ไหม อย่าเอาแต่เงียบ”

“พูดๆๆๆเดี๋ยวจะพูดทุกอย่างเลย” หวังว่าเขาจะพูดเหมือนกัน แต่ถึงเขาไม่พูด ผมก็จะคอยถามเอง

ผมกระชับอ้อมกอดที่คิดว่าอบอุ่น จนเขาแทบแบนติดตัวผม อิงหน้าซบกับผมเขา

“อื้ม แต่ตอนนี้ผมอึดอัด”

อ้าว

“กอดไง” ผมพูดเสียงอ่อย รักก็กอดไง ผมยอมคลายแขน ให้เขาหายใจ แต่เขากลับผลักผมออกแล้วขยับไปมา หันหน้ามาทางผม

“ไอ้แบบเมื่อกี้เรียกรัด กอดต้องแบบนี้”


ตั๊ลล้ากกกกกก


เด็กเวลาไม่ดื้อมันน่ารักแบบนี้เอง กอดของเด็กมันช่างทำให้กระชุ่มกระฉวย

ผมรู้สึกย้อนวัยเด็กลงสักสิบยี่สิบปี มีแฟนเด็กคงต้องทำตัวเด็กตามสักนิดสักหน่อย จะเอาแต่อารมณ์จริงจังผมคงต้องไปนั่งตะกุยผนังคร่ำครวญว่าทำไมอย่างโง้นทำไมอย่างงี้อีก เสียเวลา



ก่อนนี้ผมมองความรัก เพียงรูปแบบของรัก เลือกที่รูปแบบไม่ได้มองลึกไปถึงปัจจัยอีกมากมาย และมองเขาเป็นเขา แยกจากกัน ทำให้ผมไม่เข้าใจทั้งความรัก และไม่ได้เขา แต่ต่อไปผมจะให้ความหมายกับเขาว่าเขาคือความรักของผม เขาและความรักจะได้ไม่แยกจากกัน และไม่ไปจากผม


คืนนี้ผมคงนอนหลับสนิทจริงๆ หลับได้อย่างไม่ต้องกังวนเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ได้เขามาไว้ในอ้อมกอด ผมเพิ่งรู้วันนี้ ว่าใจเขา ก็อยู่กับผม




-------------------------------
TBC.


ตอนแรกกะเขียนดราม่า ไปๆมาๆ ทำไมคนเขียนรู้สึกคู่นี้เป็นคู่ตลก 555

เจอกันตอนหน้า



ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คู่นี้มันมีปัญหาเพราะไม่เคยเปิดปากคุยกันใช่ไหม

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ตลกอะแหละดีแล้ว
 :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
อย่าดราม่าเลยค่ะ เอาแค่พอกล้อมแกล้มเนาะ ฮ่าๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด