d o u b l e M
t w e n t y – n i n e
“มันเป็นอะไรวะ?” เด็กหนุ่มตัวสูงวางแขนบนไหล่รุ่นน้องที่ค่อนข้างสนิทกันพร้อมเอ่ยถาม
“โค้ชยึดโทร่าแงะ โทรหาไอ้ห้อยไม่ได้” เวฟตอบกลั้วหัวเราะ
มันหงุดหงิดมาตั้งแต่วันแรกที่โค้ชยึดโทรศัพท์แล้ว ไม่ได้ส่งข้อความหรืออะไรไปบอกห้อยศรีด้วยว่าจะไม่ได้ใช้โทรศัพท์ แล้วนี่ก็เป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ค่าย พรุ่งนี้เช้าก็เดินทางกลับกัน โค้ชคืนโทรศัพท์ตั้งแต่การซ้อมครั้งสุดท้ายจบลง แต่มีแค่รามินทร์คนเดียวที่ไม่ได้มือถือคืนเพราะโค้ชหมั่นไส้มันโดยส่วนตัว จริง ๆ ก็แค่จะแกล้งเท่านั้น
ส่วนรายนั้นก็กลายเป็นบ้าแค่เพราะไม่ได้คุยกับแฟน
“ห้อย?”
“ห้อยศรีไง ไอ้มีนอ่ะ”
“อ๋อออออ”
“ไม่ร้องนะ” เวฟตบไหล่เจ็นเนอร์ “เดี๋ยวน้องเวฟดามใจให้เอง คริคริ”
“ไอ้สัด! ไปไกล ๆ ส้นตีนกูเลย”
เวฟหัวเราะร่วนก่อนจะวิ่งหนีเมื่อเจ็นเนอร์ทำท่าว่าจะถีบจริง ๆ โด่วววว แกล้งนิดแกล้งหน่อยทำเป็นขึ้น
- - - - d o u b l e M - - - -
“มึง!” รามินทร์สะบัดไหล่อัตโนมัติเมื่อถูกสัมผัส คนมาใหม่หน้าเจื่อนเล็กน้อยแต่ก็ยังยิ้ม “โทษที”
“อือ” รามินทร์ตอบรับในลำคอ ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น
“มาทำอะไรตรงนี้คนเดียววะ กูเห็นตั้งนานละ”
เขาไหวไหล่ ใช่เรื่องที่ต้องมาพูดมากกับคนที่ไม่สนิท เจ้านั่นเป็นเด็กของอีกโรงเรียนที่มาเก็บตัวเหมือนกัน ชื่อโฟม เคยแข่งกันสองสามแมช
ก็ดี ไม่ได้น่ากลัว แต่ก็ไม่ควรประมาท
“มีโทรศัพท์หรือเปล่า?” รามินทร์ถาม หลังจากเงียบอยู่นาน เด็กหนุ่มร่างโปร่งรีบคลำตามตัวแล้วส่งโทรศัพท์มือถือของตนให้โดยไม่ได้เอ่ยถามเหตุผล “ขอบใจ”
“ทำอะไรอยู่?” รามินทร์กรอกเสียงลงไปเมื่อปลายสายกดรับ
คิดถึงจะแย่...
(“ใครน่ะ?”)
“รามินทร์”
(“..........”)
“มีนครับ”
(“หายไปไหนทำไมเพิ่งโทรมา!!!!”)
เด็กตัวสูงยิ้มมุมปากเมื่ออีกคนร้องโวยวาย
“ก็... ซ้อม”
(“ไม่มีเวลาขนาดนั้นเลยเหรอ...?”) ได้ยินเสียงหงอย ๆ แบบนั้นแล้วอยากจะดึงอีกคนมากอดให้แน่นแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่เพื่อเป็นการปลอบใจ
“มีเวลาพัก แต่โค้ชยึดโทรศัพท์ไป”
(“ง่ะ... แล้วนี่เบอร์ใครอ่ะ?”)
“เบอร์ใครดีนะ”
(“ดี ๆ นะคุณ”)
“หึหึ เพื่อนในค่ายนี่แหละ”
(“อย่าให้รู้ว่ามีกิ๊กนะครับคุณแฟน // รามินทร์ไม่มีหรอก แต่พี่มีนมีไปแล้วววววววว // เชี่ยน้องจิ๋ว!”)
“หมายความว่ายังไง?”
(“จิ๋วก็พูดไปเรื่องอ่ะ”)
“มีน”
(“หูยยย อย่าทำเสียงแข็งงั้นดิ ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ”)
“อย่าให้รู้เอง”
(“จะกลับเมื่อไหร่งะ?”)
เปลี่ยนเรื่องเก่งจริง ๆ
“พรุ่งนี้เช้าครับ”
(“อือ... งั้นแค่นี้แหละ ไม่อยากคุยด้วยแล้วอ่ะ”
และจากนั้นสัญญาณก็ถูกตัดไป... รามินทร์จิ๊ปาก กดลบเบอร์ที่เพิ่งโทรออกล่าสุดแล้วส่งคืนให้เจ้าของ พูดมาได้ยังไงว่าไม่อยากคุยกับเขา นี่ไม่คิดถึงกันเลยใช่ไหม!
“คุยกับแฟนหรอวะ?”
“อืม”
“โห แฟนมึงคงสวยมากอ่ะดิ มีรูปป่ะวะ” เด็กหนุ่งร่างโปร่งพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น รามินทร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นประกายบางอย่างในแววตาคนพูด แต่.. ช่างมันเหอะ จะรู้สึกยังไม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสนใจ
“ไม่สวยหรอก น่ารักมากกว่า”
“หระ หรอวะ”
“รูปก็มี แต่มือถือกูอยู่กับโค้ช คงให้ดูไม่ได้ เพราะ...” รามินทร์เว้นจังหวะ สบตากับเพื่อนใหม่
“เพราะกูหวงมาก” “พูดแบบนี้ยิ่งอยากรู้นะเนี่ย”
“หึ ขอตัวละกัน จะไปคุยกับโค้ช”
รามินทร์บอก อีกคนพยักหน้าหงึก ๆ มองตามแผ่นหลังของคนที่เดินออกไปแล้วตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ แม่ง! ชอบใครก็ต้องแดกแห้วหรือไงวะกู
- - - - d o u b l e M - - - -
“จันทร์เจ้า...”
“ว่า?”
“พี่คิดถึงรามินทร์...” จันทร์เจ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากได้ฟัง ถีบพี่มีนตกเตียงจะโดนรามินทร์ฆ่าไหมเนี่ย
“แล้วมาทำเก่งว่าไม่อยากคุยกับเขา”
“งื่อ... ทำไงเดดดดดด”
“โทรกลับไปดิ”
“มันจะดีหรอ?” พลิกหน้าไปมองเพื่อนตัวจิ๋วตาแป๋ว จันทร์เจ้าพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะกระโดดจากเตียงไปคุ้ยพุดดิ้งนมสดของโปรดมากิน...
วันนี้เป็นอีกวันที่มีนมาอยู่บ้านจันทร์เจ้า แต่เป็นวันที่สามแล้วแหละ พี่มานอนบ้านจันทร์เจ้าได้สองคืนแล้ว เพราะคุณแม่ไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด ปกติก็จะมีรามินทร์ไปอยู่เป็นเพื่อนไง แต่คราวนี้เจ้าหมีไปเข้าค่าย พี่เลยมาอยู่กับจันทร์เจ้าเพราะแม่จ๋าไม่อยากให้อยู่คนเดียว...
มีนพรูลมหายใจออกจากปาก เด้งตัวขึ้นนั่งแล้วตัดสินใจคว้าโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรออกไปที่เบอร์โทรล่าสุดที่โทรเข้ามา...
รออยู่ไม่นาน ปลายสายก็กดรับ
(“สวัสดีครับ”)
“เอ่อ...”
ไม่ใช่รามินทร์หรอ? ใครอ่ะ? อ๋อ! แต่รามินทร์บอกว่ายืมโทรศัพท์เพื่อนในค่ายโทรนี่นา...
(“ใครอ่ะครับ?”)
“คือ... เราจะโทรหารามินทร์”
(“อ่า... รามินทร์เขายืมมือถือผมโทรอ่ะครับ”)
(“จะคุยไหมครับ เดี๋ยวผมตามให้”)
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากฮะ” มีนกดตัดสัญญาณและนั่งหน้ามุ่ยอยูคนเดียว ฮือ! ไอ้หมีนะไอ้หมี แค่พูดเล่นน่ะไม่รู้จักหรอ! ง้อสิง้ออออ รั้งไว้ดิ!!!
“พี่มีน ไปข้างล่างกัน”
“อือ...”
“หน้าหงอยจัง รามินทร์งอนหรอ”
“ไม่รู้... โทรไปแต่เป็นเบอร์ของเพื่อนในค่ายอ่ะ รามินทร์ไม่อยู่กับเขาแล้วด้วย
“กรรม.. ไม่เป็นไรเนอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้รามินทร์ก็กลับแล้ว ไม่เครียด ๆ”
“งื่อ...”
- - - - d o u b l e M - - - -
“พี่ฟ้าาาาาาาาาา” จันทร์เจ้ารีบวิ่งเข้าไปกอดคนที่เดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาในบ้าน
“สวัสดีครับพี่เพลิงฟ้า น้าเจ้า” มีนยกมือสวัสดีสุดที่รักของจันทร์เจ้า
“สวัสดีครับน้องมีน”
“พี่ฟ้าซื้ออะไรมาบ้าง ๆ หนูหิ๊วววววววหิว” เจ้าลูกหมูพูดพร้อมลูบท้องประกอบ มีนแอบเบะปาก ซัดขนมไปตั้งเท่าไหร่ยังจะบอกว่าหิวนะไอ้อ้วน!
“ซื้อมาเยอะแยะเลย มีพุดดิ้งนมสดด้วยยย”
“หู้ววววว รักพี่ฟ้าที่สุดอ่ะ!”
“ตอแหล” เจ้าชีวันมองสองพี่น้องที่รักกันมากเกินไปแล้วเอ่ยแขวะอย่างหมั่นไส้ เขาแย่งถุงในมือเพลิงฟ้าไปถือแล้วเลี่ยงเข้าไปในครัว โดยไม่ลืมชวนมีนเข้าไปด้วย
“น้องไปไหนเจเจ?”
“จริงใจไปซ้อมดนตรีกับเพื่อนจะกลับเย็นๆ จ๋าจ้าออกไปกับคุณยายงับ!”
“อ๋อ เราเข้าไปในครัวดีกว่า~”
- - - - d o u b l e M - - - -
“ไม่ช่วยก็ออกไปไกล ๆ เกะกะ” น้าเจ้าบอกพี่เพลิงฟ้า แต่พี่เพลิงฟ้าส่ายหัวดุ๊กดิ๊กแถมยังแลบลิ้นใส่ ก่อกวนน้าเจ้าต่ออีกนิดหน่อยจนโดนด่าก็หัวเราะร่าแล้วกอดคอจันทร์เจ้าออกไป
“แม่ง...” เจ้าชีวันสบถ อายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วยังจะเล่นเป็นเด็กอีก ไม่อายหลานหรือไง...
“ใจเย็นนะฮะ เดี๋ยวความดันขึ้น” น้าเจ้าหันมาทำหน้าโหด มีนหัวเราะแฮะ ๆ ยิ้มกลบเกลื่อน รีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะโดนน้าเจ้าเขกหัวและไล่ออกไปข้างนอก
“หู้ววววว อร่อยจังเลย!!”
“มีอะไรที่หนูกินแล้วไม่อร่อยบ้าง?”
“บล็อกโคลี่!” ลูกหมูบอกเสียงดัง เรากินได้ทุกอย่างแหละ แต่ขออย่าเป็นบล็อกโคลี่ ไม่ชอบมาก ๆ เลย TwT
“อร่อยออก”
“แตงโมก็อร่อย” มีนเบ้หน้าทันที ปล่อยให้เจ้าลูกหมูหัวเราะชอบใจ ก็รู้ว่ามันมีประโยชน์ แต่เราไม่ชอบหนิ จะให้ทำยังไงล่ะ ฮื่อ ๆ
“อยู่ที่โรงเรียนจันทร์เจ้าเป็นยังไงบ้างน้องมีน?” คนถูกถามกะพริบตาปริบ ๆ เหลือบมองน้าเจ้าที่เป็นคนถามแล้วมองน้องจิ๋วที่ถูกพูดถึง
“ก็... ดีครับ”
“ดีนี่ดียังไง?”
“หนูตั้งใจเรียนที่หนึ่งเลย! Work hard, study harder!”
“and play hardest”
“น้าเจ้าง่าาาาา พี่ฟ้าช่วยหนูด้วยสิ~~~”
“ความจริงทั้งนั้น” มีนและพี่เพลิงฟ้าพูดขึ้นมาพร้อมกัน ลูกหมูตัวขาวหน้ามุ่ยท่ามกลางเสียงหัวเราะของทั้งสามคน
หลังจากทานอาหารกันเสร็จมีนก็อาสาจะทำความสะอาดแต่น้าเจ้าบอกว่าให้แม่บ้านทำ แอบเกรงใจแต่ขัดไม่ได้ พอบ่ายสามก็ขอตัวกลับบ้านตัวเอง จันทร์เจ้าแซว บอกจะไปรอรามินทร์ โธ่ ไม่ใช่สักหน่อย ที่จะกลับเพราะเป็นห่วงบ้านหนอกน่า ไม่เกี่ยวกับรามินทร์เลยสักนิด!
- - - - d o u b l e M - - - -
“รามินทร์!!!” เจ้าของชื่อหันไปมองตามเสียงเรียก ที่เขาคุยกับเวฟอยู่จึงต้องหยุดไว้ เห็นโฟมกำลังวิ่งเข้ามา
“อะไร?”
“มีคนโทรหากูแล้วถามหามึงอ่ะ เนี่ย” ว่าพร้อมกับโชว์เบอร์ให้ดู “แต่กูบอกว่ามึงไม่อยู่ เลยวางสายไป”
“ไอ้สัด! โทรมาตั้งแต่บ่ายทำไมเพิ่งมาบอกวะ!” รามินสบถอย่างหัวเสีย ก่อนเดินแยกไปอีกทางเพื่อโทรออกไปหาเจ้าเหมียว
“เอ๊า...”
“ฮ่าๆ ถ้าเป็นเรื่องนี้แม่งหัวเสียตลอดอ่ะ” เวฟตบไหล่โฟมปุ ๆ
“มันบอกว่ามันโทรหาแฟน แต่ตอนที่กูคุยนั่นมันเสียงพูดชายนี่หว่า?”
“ก็แฟนมันผู้ชายไง”
“เฮ้ย!!!”
“ไม่เฮ้ยอ่ะไอ้สัด มึงรังเกียจหรือไง”
“เปล่า.. กูจะรังเกียจได้ไง” เพราะกูก็ชอบผู้ชาย... “มันเป็นเกย์หรอวะ”
“มันไม่ได้เป็นเกย์ แค่แฟนมันเป็นผู้ชายเฉย ๆ”
คือส้นตีนอะไรวะ...
“งงไรมึง ชอบเพื่อนกูหรือไง?!” โฟมเผลอพยักหน้า “เฮ้ย!!!”
“เชี่ย ไม่ใช่ละ”
“ใช่ไอ้สัดใช่ เมื่อกี้มึงพยักหน้า! มันมีแฟนแล้ว ตัดใจเหอะ”
“มึงไม่บอกกูก็ทำเหอะ”
“ดี! เพราะเพื่อนกูชอบใครไม่ได้แล้ว”
“มั่นใจอะไรขนาดนั้นวะ”
“พูดมากนะมึง ไป!!”
- - - - d o u b l e M - - - -
อ๊อด อ๊อด อ๊อดดดดดดดดดด! รามินทร์ยกยิ้มขำกับตัวเองเมื่อนึกถึงใบหน้าน่ารักที่กำลังบึ้งตึงเพราะการกดกริ่งแสนไร้มารยาทของเขา รอไม่นานคนที่รอก็เดินออกมา
“นิสัยเสีย!!”
“ฮะฮะ คิดถึงมาก เปิดประตูให้หน่อยคร้าบ~”
มีนเหลือกตาใส่ มันใช่เรื่องอะไรที่ต้องมาหาแต่เช้าแบบนี้! ถึงนี่มันจะสิบโมงแล้วก็เถอะ มีนเปิดประตูให้ทั้งอ้าปากหาว ไอ้หมีตัวสูงยิ้มกว้างแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านเข้า แล้วคว้าตัวของมีนเข้าไปกอดแน่น ก่อนจะฝังจมูกกับแก้มนุ่มและสูดกลิ่นหอมประจำกายของอีกคนเข้าปอด
“ง่วง!”
“คิดถึง” มีนจิ๊ปากใส่คนที่ยังคลอเคลียเขาไม่ห่าง ทำเป็นรำคาญทั้งที่แก้มนวลร้อนผ่าว สุดท้ายก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหวจนต้องโอบแขนกอดตอบคนตัวสูง รามินทร์ยิ้มพอใจกับตัวเองแล้วถือโอกาสอุ้มร่างเล็กเข้าไปในบ้าน
หากมีใครมาเห็นเด็กผู้ชายสองคนกอดกันด้วยท่าทางสนิทเกินเพื่อนมันคงไม่ดีสักเท่าไหร่
“คิดถึงนี่ไหม?”
“...”
“คิดถึงไหมครับ?”
“อือ”
“ ‘อือ’ คืออะไรครับ?” พูดจบก็กดริมฝีปากจุ๊บไปทั่วใบหน้าของคนง่วง มีนกลอกตาไปมา ดันหน้ากาก ๆ ของรามินทร์ออก
จะทำอะไรก็ดูสถานที่หน่อยได้ไหม นี่มันห้องรับแขกนะเว้ย ถึงแม่จ๋าจะไม่อยู่ก็เถอะ!
“คิดถึง”
“น่ารักมาก ขอจูบหน่อยครับ”
คราวนี้มีนพลิกหน้าหนี และรีบตะปบปิดปากของรามินทร์ไว้
“ยะ ยังไม่แปรงฟัน”
“ไม่เป็นไร”
“เป็น!! อ๊า!!!! รามินทร์อย่าแกล้ง!!” พี่ร้องเสียงดัง จิกผมของรามินทร์ไปอย่างลืมตัว ไอ้หมีหัวเราะพอใจและดำเนินการไล่จูบหน้าท้องแบนราบของมีนต่อไป ไม่สนเสียงร้องโวยวาย แม่ง!! ไปมุดเสื้อเขาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!!?
“มะ มินทร์ ฮื่อ!” เจ้าตัวเล็กหายใจแรง หดเกร็งหน้าท้องทุกครั้งยามที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายแนบกับหน้าท้อง และยิ่งเกร็งหนักเมื่อลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดไม่หยุด
“จะ จะจูบนี่ไม่ใช่อ่อ… ปละ ปล่อยให้นี่ไปแปรงฟันดิ… มินทร์…”
“โอเค ไปแปรงฟันนะ นี่จะจูบให้ปากช้ำเลย”
“ไอ้บ้า!!!”
รามินทร์หัวเราะตามหลัง เขาก้มลงไปเก็บหมอนที่คนตัวเล็กโยนใส่เมื่อสักครู่ขึ้นไปวางบนฟูกโซฟาเหมือนเดิม เด็กตัวสูงเป่าลมออกจากปาก เขาหลับตาสะกดกลั้นอารมณ์ที่เกิดขึ้น การที่ได้สัมผัสผิวนุ่มนิ่ม และกลิ่นหอม ๆ ที่กระทบจมูกทำให้เขาอดใจแมบไม่ไหว มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีอารมณ์… หากคนตัวเล็กไม่เอ่ยห้าม เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนหันว่าจะทำอะไรลงไปหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำหรอกนะ แต่รามินทร์คิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา
คิดดูสิครับ การที่ต้องอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่น่ารัก น่าฟัดอย่างมีนาแทบทุกวันน่ะ คิดว่าผมจะไม่รู้สึกอะไรงั้นเหรอ หึ น้อยไปน่ะสิ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะอยากทำเรื่องอย่างว่ากับคนที่ตัวเองรัก แต่สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คืออดทนและกลับไปช่วยตัวเอง บัดซบสิ้นดี!
เด็กตัวสูงเดินสะบัดศีรษะเข้าไปในครัว เขาเปิดตู้เย็นและหาวัตถุดิบออกมาทำอาหารเช้าสำหรับเขาและแมวเหมียว… มีขนมปังที่กำลังจะหมดอายุอยู่ งั้นทำแซนวิชก็แล้วกัน…
“มินทร์มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่?” เอ่ยถามแล้วอ้าปากงับแซนวิชไปคำโต ดวงตาสวยปิดหยีเมื่อได้รับรสชาติแสนอร่อยอย่างเจ้าแซนวิชแฮมชีสไข่ดาวฝีมือรามินทร์
เด็กตัวสูงไม่ได้ตอบในทันที่ เขามองท่าทางน่ารักของแฟนตัวเล็กแล้วอมยิ้มอ่อน ๆ มีนโยกตัวไปมาเพราะรสชาติอาหารที่ถูกปาก แก้มขาวบวมตุ่ยเพราะภายในนั้นถูกอัดแน่นด้วยของอร่อย ปฏิกิริยาน่ารักทำเอาคนทำอดปลื้มไม่ได้ รามินทร์ยื่นมือไปเช็ดเศษขนมปังออกจากแก้มขาว และปัดจุกน้ำพุที่อีกมัดผมด้านหน้าออกไปเมื่อมันตกลงมา
“ถึงบ้านตอนเจ็ดโมงกว่า ๆ เอาของไปเก็บ อาบน้ำ แล้วก็มาหามีน”
“Good boy!” เสียงใสร้องชมแต่มันค่อนไปทางแกล้งมากกว่า “มินทร์น่าจะนอนพักก่อน”
“ทนความคิดถึงไม่ไหว”
“แหวะ! อย่ามาเลี่ยน”
“ฮะฮะ ช่วงที่นี่ไม่อยู่ทำอะไรบ้างครับ?”
“ก็… ไปวอแวจันทร์เจ้า ออกไปเดินห้างกับน้องจิ๋วกับไต้ฝุ่นบ้าง ไปบ้านมินทร์ อ่า… ไปเยี่ยมคุณป้าน่ะ แล้วก็เล่นกับทูเตอร์ ทำอะไร... ก็ทั่ว ๆ ไป แล้วก็... คิดถึงบางคน”
“หืม… บางคนที่ว่านี่ใครครับ?”
“นั่นสิ ใครกันนะ ชื่อว่ารามินทร์หรือเปล่า”
“อืม ต้องใช่แน่เลย น่าอิจฉาเขาเนอะ มีนคิดถึงด้วย”
มีนหัวเราะเสียงใส “มินทร์ไม่หึงที่นี่คิดถึงรามินทร์หรอ?”
“ไม่หรอก ใจนี่กว้างดุจท้องทะเล”
คราวนี้มีนได้หัวเราะหนักกว่าเดิม ทำเอารามินทร์หัวเราะตามไปด้วย ความสุขก็เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ อย่างนี้แหละ
“ติ๊งต๊อง!”
“หึหึ”
“อ่า! คนที่มินทร์ยืมมือถือโทรหานี่อ่ะ ใครหรอ?”
“เด็กอีกโรงเรียนที่ไปเก็บตัวเหมือนกันน่ะ”
“หล่อเปล่า?”
“หึ” รามินทร์สั่นหัว “นี่หล่อกว่า”
“ก็ไม่ค่อยหลงตัวเองเท่าไหร่เลยอ่ะ”
“รู้ตัวอะนะ”
“จ้า…”
มีนอาสาจัดการทำความสะอาดเพราะว่ารามินทร์เป็นคนทำให้กินแล้ว แต่ถึงจะบอกแบบนี้รามินทร์ก็ยังเข้ามาช่วยอยู่ดี ช่วยให้ช้ากว่าเดิม เพราะเจ้าหมีนั่นน่ะมัวแต่เกาะแกะพี่ เดี๋ยวก็กอด เดี๋ยวก็หอม ตอนนี้ก็กอดเอวพี่จากข้างหลังแล้วเกยคางบนหัวของพี่ นี่ก็เขินจนขี้เกียจเขินแล้วอ่ะ ลัมคาร์ลลลลลลลลลลล!
ปล. สุดท้ายแม้จะหาเรื่องบ่ายเบี่ยงยังไง เจ้ามีนก็ถูกรามินทร์จูบจนปากช้ำอย่างที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้
สวัสดี…
------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ไว้เจอกันตอนหน้า จุ้บ ๆ .โป้งชี้ก้อย