ก้าวที่ยี่สิบเก้านั่งคิดก็แล้ว
นอนคิดก็แล้ว
จะทำยังไงมันถึงจะพูดคำนั้นออกมาให้ผมหายคาราคาซังซักที
เพราะเมื่อคืน
ขนาดผมมอมเหล้ามันแล้วแท้ๆ
แต่ก็ยังไม่เผลอหลุดปากออกมา
เอ
หรือว่ามันจะทำไปเพราะสงสารผม
ที่ผมเกือบตายเพราะมัน
พอหลังจากตื่นนอนเสร็จในตอนเย็น
ไอ้พวกน้องชายผมมันก็กลับไปแล้วแหละครับ
แต่ผมก็ยังคงติดใจเรื่องที่มันพูดในวงเหล้าไม่หาย
จนเป็นที่มาของแผนการ.............
" เดฟ เดี๋ยวชั้นคงต้องกลับไปอยู่บ้านแล้ว...."
"ทำไม อยู่กับกูมันเป็นไร "
ไอ้เดฟพูดแทรกก่อนที่ผมจะทันได้พูดจบด้วยซ้ำ
ขณะที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์กันอยู่ในตอนเย็น
"เปล่า ก็แค่ชั้นชักจะเกรงใจ.."
"ไม่ต้องมาอ้าง มึงอยากกลับไปก็บอกดีๆ ......................แต่อย่าหวังว่ากูจะให้ไป"
มันยังคงพูดขัดผมอีกครั้ง
แลว่ามันจะไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดเลยมากกว่า
เพราะการที่ผมจะอยู่กับมันไปตลอดมันก็กระไรอยู่
เป็นอะไรกันก็ไม่แน่ชัด
ถึงแม้จะเป็นแค่แผนก็เถอะ
แต่ส่วนลึกในใจผมเองก็ยังคงคิดอยู่เหมือนกัน
ว่าผมอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร เพราะมันไม่มีความชัดเจนเอาซะเลย
แล้วผมก็เป็นห่วงเรื่องบ้านกับน้องผมด้วย
ไหนจะเรื่องค่าเทอมอะไรต่างๆ อีก
"มึงคิดอะไรอยู่"
จู่ๆ มันก็ถามผมขึ้นหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบไปนานพอควร
"เปล่า"
"มึงตอบกูมาตรงๆ ข้องใจอะไรกูมึงถามมาตรงๆ ดีกว่า อย่าให้กูต้องบังคับ"
"เปล่า"
"มึงอย่ามาโกหก กูมองตามึงกูก็รู้แล้วว่ามึงคิดอะไรอยู่ บอกมา"
มันปิดเสียงโทรทัศน์แล้วหันหน้ามามองผมอย่างจริงจัง
จนผมเองก็ชักกลัว
"นายจะให้ชั้นอยู่กับนายไปทำไม"
"แล้วมึงจะไปทำไม"
มันย้อนกลับ
"ก็ชั้นต้องไปดูแลน้อง ดุแลบ้าน อีกอย่างชั้นต้องออกไปหางานทำมั่งสิ นายอย่าลืมนะว่าชั้นต้องดูแลน้อง จะให้มาอยู่กับนายทั้งวันไม่ได้หรอก"
ผมตอบมันยาวอย่างที่ใจคิด
เพราะไหนๆ มันก็เปิดโอกาสให้แล้ว
"เรื่องเงินมึงไม่ต้องห่วงหรอก น้องมึงก็เหมือนน้องกู กูเลี้ยงได้ "
"แล้วทำไมนายต้องมาเลี้ยงชั้นด้วย"
"แล้วทำไมมึงถึงคิดว่ากูจะไม่เลี้ยงมึง"
"......................."
"แล้วก่อนที่มึงจะขอกู มึงคิดหรอว่ากูจะให้มึงกลับไปอยู่บ้านมึงน่ะ"
"...................."
โอ้โห
เจอไปสองประโยค
ผมก็ได้แต่อึ้งแหละครับ
เพราะไม่รู้จะไปขุดสมองจากซีกไหนมาคิดคำตอบให้มันได้
ช่างสรรหาคำมาพูดให้คนจนมุมได้ดีจริงๆ
"ชั้นถามนายจริงๆ นะ ทำไมนาถึงต้องอยากให้ชั้นอยู่ด้วย"
ผมตัดสินใจถามมันเอาดื้อๆ เนี่ยแหละครับ
"กูไม่รู้"
"นายไปคุยอะไรกับพวกน้องๆ ชั้นไว้"
"เปล่า"
หลังจากพูดจบ
ไอ้เดฟมันก็เริ่มหันรีหันขวางซึ่งไม่ใช่อาการที่คนอย่างมันควจะเป็นสักนิด
วะฮ่าๆ พระเจ้า
ไอ้เดฟเสียศูนย์
"แต่เมื่อคืนชั้นได้ยินนะว่านายบอกว่ารักชั้น"
"................"
คราวนี้มันเลิกกระสับกระส่ายแล้วครับ
แต่เปลี่ยนเป็นยืนจ้องหน้าผมนิ่งแทน
"................"
"มึงอย่ามั่ว "
"ชั้นไม่ได้มั่ว"
เอาเถอะครับถึงมันไม่ได้พูดตรงๆ แต่ผมก็ไม่ได้มั่วนะ
เพราะมันน่าจะหมายความอย่างนั้น ตามตรรกกะแล้ว
"กูจำได้หมดแหละว่ากูพูดอะไรไปบ้าง"
ชิ
จำได้ ว่าไม่ได้รักน่ะสิ
เอาวะ
ไหนๆ ก็ไหนๆ
"โอเค งั้นชั้นก็จะกลับไปอยู่บ้านแระ ยังไงอยู่นี่ไปก้เหมือนเดิม ถือซะว่าชั้นไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน"
ผมพูดพร้อมกับหันหน้าเตรียมเดินทำทีไปเก็บเสื้อผ้า
แต่ในใจก็แอบหวังว่ามันจะยอมเปิดปากอะไรออกมาบ้าง
"................."
"มึงอยากไปก็ไปแล้วกัน กูขี้เกียจพูดแล้ว"
เฮ้ยยย
ทำไมมันไม่เป็นอย่างที่คิดว่า
ง้อกูหน่อยดิ
นานๆ ที่กูจะมีแผนการนะเว้ย
"ไปสิยืนบื้ออยู่ได้ "
มันยังมีหน้ามาไล่ผมอีกครับ
ก็ได้
อยากให้ไปก็จะไป
กูไม่รักมึงแล้ว
ไอ้เดฟ ไอ้ควายยยย
แล้วผมก็เดินสะบัดหน้าใส่มันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ให้รู้ซะมั่งว่ากูโกรธ
แต่มันก็ยังไม่ง้อหรอกครับ
มัวแต่ยืนอึ้ง
คงไม่คิดว่าจะเห็นผมแรด เอ้ย มีมารยา ได้ขนาดนี้
..............................
..............................
" มึงจะเอาไปแต่ของตัวเองรึไง"
ไอ้คนที่ยืนดักรออยู่ที่หน้าประตูพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทำเอาผมสะดุ้งจนเผลอปล่อยกระเป๋าเลยทีเดียว
"อะไร แค่นี้ทำเป็นตกใจ "
"..................."
"มึงยังไม่เก็บของให้กูใช่ไหม"
"เก็บของ ? ทำไมต้องเก็บ"
"อ้าว ถ้าไม่เอาของไป แล้วกูจะใส่อะไร หรือมึงจะให้กูแก้ผ้าทั้งวันทั้งคืน มึงนี่ ทำตัวเหมือนคนมีสมองบ้างสิ"
" ..... ถ้ากูมีสมองกูคงไม่รักมึงหรอก"
ไอ้ผมก็ได้แต่บ่นอุบอิบอยู่กับตัวแหละครับ
ใครจะไปกล้าพูดเสียงดังกับท่านชายล่ะ
"มึงบ่นอะไร"
น่าน
มันยังอุตว่าได้ยินแน่ะ
ดุเอาๆ
ประจำเดือนไม่มารึไงวะ
"ไป เข้าไปเก็บของให้กูด้วย"
"นายจะเอาไปทำไม "
เฮ้ออ
ในที่สุด
มันก็เว้นช่องให้ผมได้ถามมันสักที
"มึงจะไปอยู่อยากไปเยี่ยมบ้านไม่ใช่รึไง"
อืม
มันก็จริง
แต่...
"ชั้นบอกนายว่าชั้นจะกลับไปอยู่บ้าน ไม่ใช่ไปเยี่ยมบ้าน"
"อ้าวหรอ สงสัยกูจะฟังผิด"
แล้วมันก็ทำหน้าตอแหลประหนึ่งว่าฟังผิดจริงๆ
ให้ตายสิ
ไอ้มารยาตัวพ่อ
คนอย่างมันมีหรอครับที่จะฟังผิด
ขนาดผมแอบนินทามันในใจมันยังได้ยินเลย
แล้วก็มาแอ๊บเนียนว่าฟังผิด
แล้วมันจะทำเพื่อ ?
"อย่ามาโม้ คนอย่างนายเนี่ยนะจะฟังผิด"
ผมถามมันกลับพร้อมจ้องหน้ามัน
แล้วคนอย่างไอ้เดฟมีเหรอครับที่จะหลบ
เพราะต่อให้มันทำผิดแบบจับได้คาตา คาตัว
แต่มันก็ไม่เคยหลบหน้าใครหรอก
เพราะมันหน้าด้าน
เหอๆ ๆ
"เออ คนอย่างกูเนี่ยแหละฟังผิด จะเอาไง จะแค่ไปเยี่ยมหรือไม่ต้องไปเลย"
อ้าว
ไหงกลายเป็นงี้ล่ะครับ
เอ๊ะ
หรือว่า
วะฮ่าๆ ๆ
ไอ้เดฟมันจะง้อผม
"ชั้นจะไปอยู่เลย ไม่ใช่แค่ไปเยี่ยม แล้วนายก็ไม่ต้องไปด้วย"
ได้ทีผมต้องแกล้งต่อหน่อยล่ะครับ
เอ่อ
ถ้าสิ่งที่ผมคิดมันถูกนะ
เพราะไม่งั้นซวยแน่ๆ
"ไม่ได้ กูไม่ให้ไป"
มันพูดพร้อมกับดึงกระเป๋าในมือผมไปถือไว้
"ก็ไหนตอนแกรนายบอกให้ไปไง "
"กูบอกแล้วไงว่ากูฟังผิด"
"ชั้นว่านายฟังรู้เรื่องเรื่องแล้วนะ อย่ามาอ้างว่าฟังผิดหน่อยเลย"
"แล้วกูจะโกหกมึงไปทำไม"
"เพราะกลัวเสียฟอร์มน่ะสิ"
"กูจะเสียฟอร์มเรื่องอะไร มึงอย่ามามั่ว เอากระเป๋าไปเก็บได้แล้ว"
"ไม่...........จนกว่านายจะบอกมาก่อน "
" มึงอย่ามาขึ้นเสียงกับกูนะ"
"ชั้นไม่ได้ขึ้นเสียง นายนั่นแหละ อย่าพูดเสียงดังได้ไหม แล้วก็ไม่ต้องสั่งแล้วด้วย เพราะถ้าวันนี้ชั้นไม่ได้คำตอบชั้นก็จะไป"
"คำตอบอะไรของมึง"
มันจ้องหน้าผมนิ่ง
"นายจะให้ชั้นอยู่กับนายไปทำไม"
"....................."
"เพราะว่านายรู้สึกผิดที่ทำให้ชั้นต้องเจ็บตัวใช่ไหม"
"มึงคิดว่ากูจะยอเอาตัวกูไปวุ่นวายกับมึงเพราะเรื่องแค่นั้นหรอวะ"
"....................."
"...................."
"งั้น นายก็......"
"มึงเอาให้ตรงเลยดีกว่า "
"นายคิดว่าชั้นจะถามอะไร"
"กูรู้แล้วกัน เห็นเมื่อคืนมอมเหล้ากู กะจะให้กูพูดล่ะสิ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ"
"...................."
"กูก็อยากรู้จากปากมึงเหมือนกัน ว่าที่มึงอยู่กับกูเพราะกูบังคับมึงใช่รึเปล่า"
"เฮ้ย ไม่ใช่"
ผมรีบปฏิเสธเสียงหลง
โดยไม่ทันคิดว่าเป็นแผนการของมัน
"ฮ่าๆ งั้นแสดงว่ามึงเต็มใจ"
"..................."
"แปลว่ามึงกับกูก็ยินยอมด้วยกันทั้งสองฝ่าย แล้วมึงจะอยากรู้อะไรอีกวะ"
มันถามผมกลับ
เหมือนกับจะแกล้งเล่นๆ
ทั้งที่มันก็รู้ว่าผมอยากรู้เรื่องอะไร
" เปล่า ไม่มีไรหรอก เดี๋ยวชั้นไปเก็บของให้แล้วกัน"
เหมือนขูดเลือดเอากับปูจริงๆครับ
ยังไงก็ไม่มีทางเจอ
"เดี๋ยว"
มันพูดพร้อมกับดึงแขนผมไว้
"คำๆ นั้นมันมีค่ากับมึงมากหรอวะ"
"มันก็ไม่จำเป็นหรอก ถ้าหากถ้าหากมีการกระทำ หรืออะไรที่มันทดแทนกันได้ ไม่ใช่มืดมนแบบนี้"
"แล้วที่ผ่านมามึงไม่เคยสังเกตอะไรบ้างเลยรึไง"
"อะไร"
"มึงคิดว่าแต่ก่อนกูเป็นคนยังไง"
"เจ้าชู้ เลว .. "
"พอ ได้ทีเอาใหญ่นะมึง "
"..............."
"คนอย่างกูมันเคยทำแบบที่ทำบมึงให้ใครไหม"
"ไม่เคย เพราะนายไม่เคยทำให้ใครเจ็บเกือบตายเหมือนชั้น"
"มึงยังไม่ลืมเรื่องนั้นหรอวะ "
"จะให้ลืมมันก็ลืมได้หรอกนะ แต่มันก็ยังคงค้างใจ ว่าทำไมนายถึงทิ้งชั้นไป แล้วทำไมนายถึงกลับมา"
"..............."
"จนบางครั้งชั้นเองก็ไม่แน่ใจ ว่าระหว่างเรามันคืออะไร แล้วเหตุการณ์ต่อไปมันจะเป็นยังไง"
พอได้พูดถึงเรื่องเก่าๆ แล้ว
มันก็เหมือนกับเอามีดไปขูดแผลที่กำลังตำสะเก็ดอยู่ให้เลือดมันไหลอีกครั้ง
ทำให้คำพูดต่างๆ มันพรั่งพลูออกมาโดยอัตโนมัติ
จนผมต้องเบือนหน้าหนีมันขณะที่พูด
เพื่อไม่ให้มันเห็นน้ำตาที่กำลังจะไหล
" เฮ้ออออออออ"
"..................."
"กูเองก็ยอมรับ ว่าแต่ก่อนกูมันก็ทำกับมึงไว้เยอะจริงๆ .......... แต่มึงก็ต้องเข้าใจ ว่ากูมันเป็นคนยังไง "
"................."
"กูคงไม่ขอให้มึงลืมเรื่องที่ผ่านมาหรอกนะ เพราะกูเองก็ยังไม่ลืมมันง่ายๆ เหมือนกัน แต่ถ้ากูจะพูดไปมึงก็อาจจะหาว่ากูน้ำเน่าอีกแหละ ว่าตอนที่กูรู้ว่ามึงป่วย กูแทบช็อค และกูก็เพิ่งได้รู้ใจกูตอนนั้นนั่นแหละ"
" แล้วไง"
ผมกลั้นใจถามมันออกไป
หลังจากที่จู่ๆ มันก็หยุดพูดเอาดื้อๆ
"กูเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามึงคิดกับกูยังไง แล้วเรื่องอะไรกูจะบอกมึงวะ"
เค ........... ซึ้ง
"นายบอกชั้นมาก่อนสิ"
"เรื่องอะไร มึงเป็นพี่ ต้องเสียสละ"
โห
พอตอนนี้มานับอายุ
"นายนั่นแหละ เป็นผู้นำหน่อยดิ"
"พูดงี้ มึงยอมให้กูเป็นหัวหน้าครอบครัวอ่ะดิ"
"เฮ้ยยย "
" เอางี้ มึงกับกูพูดขึ้นพร้อมกัน ถ้ากูนับหนึ่งถึงสาม พูดขึ้นมาเลยนะ ว่ามึงรู้สึกยังไง กูเองก็จะพูดเหมือนกัน"
"ปัญญาอ่อน"
ผมบ่นเบาๆ
"หรือมึงจะบอกก่อน"
"เคๆ ๆ "
"หนึ่ง "
"......."
"สอง "
"........"
ผมได้แต่รออย่างใจจดใจจ่อ
"สาม"
"ชั้นรักนาย"
"กูจะเย็-มึงตลอดไปปปป"
"เฮ้ยย โกงนี่หว่า"
ผมพูดพร้อมกับก้มหน้างุด
ก็ใครจะไม่อายล่ะครับ
ไม่ได้หน้าหนาอย่างบางคนนี่
"เหอะน่า จะอยากฟังทำไมนักหนา "
"..................."
กูไม่พูดด้วยแล้ว
อารมณ์ตอนนี้มันกึ่งๆครับ
ทั้งโกรธ ทั้งงอน ทั้งอาย
"มึงจะอะไรนักหนา กับอีแค่คำๆ เดียว"
"ก็แค่คำๆเดียว แล้วให้กันไม่ได้รึไง"
"ได้ ..... เอางี้แล้วกัน เข้าไปเก็บของในห้องกับกูก่อน แล้วเดี๋ยวจะบอกให้ฟัง"
มันพูดด้วยสีหน้าน่าสงสัย
มันต้องมีอะไรแน่ๆ
"ไม่อ่ะ ไปเก็บเองดิ "
"งั้นกูก็จะไม่บอก "
"เออ ก็ได้ "
แล้วทำไมผมต้องตามใจมัน
เออ
ว่าแต่....
ทำไมผมต้องอยากรู้ขนาดนั้นล่ะครับ
ก็อีแค่คำๆเดียว
"เฮ้ยย อะไรเนี่ย"
ผมคิดอะไรเพลินไปหน่อยสิครับ
เพราะขนาดเดินเข้ามาในห้อง
จนโดนมันจับทุ่มลงเตียงยังไม่รู้ตัวเลย
"กูบอกแล้วไง ว่าเดี๋ยวจะบอก แต่รอก่อนนะ ขอทำธุระก่อน"
"อย่ามาขี้โกงนะ ไหนบอกว่าจะเก็บของไง"
"เหอะน่า ของเมื่อไหร่ก็เก็บได้ แต่นี่ มันเก็บไม่ลงแล้ว"
มันชี้ไปที่น้องชายมัน
ที่ดูท่าแล้วคงจะเก็บไม่ลงอย่างที่มันพูดจริงๆ
"หื่น"
ผมว่ามันไปเบาๆ
"ฮ่าๆ ก็ใครอยากมายั่วกูก่อนล่ะ"
"ใครยั่ว"
นั่นดิ
ใครไปยั่วมันตอนไหน
จำได้ว่าทั้งเศร้า
ทั้งโกรธ
ทั้งงอน
ผมยังไม่ได้ไปยั่วมันตอนไหนเล้ยยย
"ก็มึงนั่นแหละ แม่ง วันนี้ขยันงอนกูเหลือเกิน เล่นเอากูอยากจับกดลงบนพื้นหน้าห้องตั้งนานแล้ว"
อ้าว
นี่ผมผิดใช่ไหม
กูจะจำไว้
ว่าอย่างอนมึง
ไม่งั้นงานจะเข้ากู
"ไอ้บ้า มีอารมณ์กับคนโกรธ"
" ฮ่าๆ ๆ มึงก็ขยันโกรธ ขยันงอนกูบ่อยๆ แล้วกัน "
"เรื่องดิ"
เฮ้ออ
สุดท้ายผมก็ต้องยอมมันจนได้แหละครับ
ก็มันเป็นของเขาทั้งตัวและใจแล้วนี่ครับ
แต่อย่างน้อย
ผมก็รู้นะครับ
ว่ามันเองก็รักผมแหละ
ก็แค่ปากหนักไปหน่อยแค่นั้นเอง(มั้ง)
ไม่เป็นไรหรอกครับ
เพราะมันยังมีเวลาให้ผมค้นหาไอ้คำๆ นี้อีกทั้งชีวิต
คงไม่มีอะไรที่จะต้องเสียแล้วแหละครับ
ก็อย่างที่มันบอกด้วยแหละ
จะอะไรนักหนากับอีแค่คำๆ เดียว
แต่ก็นั่นแหละครับยิ่งได้มายากแค่ไหน
เราก็จะยิ่งเห็นคุณค่า
ยิ่งมันปากหนักแค่ไหน
ผมก็จะยิ่งค้นหามากขึ้น
ฮ่าๆๆๆ
ไอ้เดฟมึงระวังไว้
แต่นี้ต่อไป
กูจะตามล่ามึงเองงงงงงงงงงง
ปล.นิยายเรื่องนี้สอนให้ว่า " ปูไม่มีเลือด อย่าไปขูดเลือดเอากับปู "
เจอกันเรื่องหน้าค้าบบบบบบบบบ
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
จบแบบนี้หลายๆ คนอาจจมองว่ามันคลุมเคลือ
หรือไม่กระจ่าง
อย่างเช่น เดฟทำไมทิ้งอิงไป แล้วเดฟหายไปไหน ไปทำอะไรกับน้อง ฯลฯ
แต่ต้องเข้าใจแหละครับ
ว่าผมแต่งจากการเล่าของตัวนายเองที่ไม่ได้อยู่กับเดฟตลอดเวลา
ทำให้บางแง่มุมก็ไม่ได้รู้ หรือไม่ได้สนใจจะรู้
จึงไม่สามารถจะรู้ได้ทุกเรื่อง
และอีกอย่าง
หากจะให้ไอ้เดฟมันพูดอะไรที่ค้างคาใจออกมาหมด ว่าไปทำอะไรที่ไหนอย่างไร
หรือบอกรักยังไง
ความเป็นเดฟก็จะหายไป
และที่มันต้องจบ เพราะเนื้อเรื่องโดยรวมมันจบแล้ว
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ส่วนเรื่องจะบอกรักยังไง มันเป็นเรื่องที่อีกยาวนาน
เพราะคนอย่างไอ้เดฟไม่รู้มันจะมีคำๆ นี้มอบให้อิงรึเปล่า (แลว่าคนแต่งคิดว่ามันมีชีวิตจริงๆ )
เหอๆ ๆ
(จริงๆ ไม่มีไรหรอก ไอ้ตั้มมันสมองตัน เลยตัดจบ คริคริคริ)
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
จบบริบูรณ์ค้าบบบบ
เห็นเลขงามเลยขอตัดจบ
แหะ ๆ ๆ
คิดตอนจบไว้ตั้งหลายแบบ
แต่เอาแบบนี้แหละ
ดูเหมือนไม่จบดี
ปล.2 ขอบคุณมิตรรักแฟนนิยายที่ติดตามอ่านเรื่องของผมนะค้าบบบ
แล้วอย่าลืมติดตามเรื่องต่อๆ ไปด้วยเน่อ
ถึงไอ้ตั้มมันจะขี้เกียจตัวเป็นคน สารพัดข้ออ้าง แต่ก็อย่างว่าแหละครับ
บางครั้งสมองมันตื้อๆ ตันๆ ก็แต่งไม่ได้ ก็อย่าว่าเลยนะครับ
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ ที่ยังรอ และมาเม้นให้อย่างสม่ำเสมอ