“วา” พันเอกเรียกชื่อเขาซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มือแกร่งตวัดเอาเรียวขาข้างหนึ่งของนาวาขึ้นมาวางพาดเบาๆบนบ่าแกร่งก่อนจะเอียงใบหน้าเข้าหาและแลบลิ้นร้อนชื้นออกมาไล้เลียต้นขาเขาแผ่วเบา
“ค...คุณเอก” นาวาเรียกอีกคนเสียงสั่น ดวงตาของพันเอกยามนี้ฉายแววบางอย่างที่ร่างโปร่งไม่เคยเห็น มันลุกโชนไปด้วยเพลิงปรารถนาที่แตกต่างออกไปจากทุกที อุณหภูมิในกายของคนที่นอนอยู่พุ่งขึ้นสูงเมื่อพันเอกลากปลายลิ้นของตนไปมาแผ่วเบา ฝากรอยสัมผัสฉ่ำชื้นฝังลงผิวเนื้ออ่อนละมุนทำเอาอีกคนสั่นไปทั้งร่าง นาวาแทบจะหดขาหนีแต่มือแกร่งของอีกคนก็ยึดมันเอาไว้แน่น พันเอกอ้าปากงับต้นขาของอีกคนแผ่วเบาก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย
“อือ คุณ...คุณเอก” คนตัวเล็กกว่าครางเรียกชื่ออีกคนเสียงแหบระโหย นาวาใจสั่นไปทั่วทั้งอกขณะมองภาพตรงหน้าไม่วางตา พันเอกในตอนนี้ดูเซ็กซี่และน่าสัมผัสกว่าทุกวัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่แต่ในเวลานี้ร่างกายของเขาสั่นระริกไปด้วยความกลัวปะปนกับกระสันอยาก ความร้อนผะแผ่วจากลิ้นของพันเอกลากไล้ไปทั่วเรียวขา ขาอีกข้างถูกยกขึ้นมาพาดบ่าแกร่งจนทำให้ตอนนี้ท่าทีของทั้งคู่ดูล่อแหลมเสียจนหัวใจสองดวงเต้นรัวภายในอก
นาวาทึ้งผ้าปูที่นอนเต็มแรงยามที่ถูกอีกคนดูดดึงผิวเนื้อบริเวณต้นขาด้านในทั้งสองข้าง พันเอกฉกชิมราวกับร่างโปร่งเป็นเนื้ออันแสนโอชะ และเมื่อพอใจร่างแกร่งกำยำตรงหน้าก็ปล่อยขาทั้งสองข้างของเขาให้ตกลงมาแนบอยู่ที่เอวสอบ ร่างโปร่งหอบหายใจตัวแดงก่ำ พันเอกแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนพลางจับขาของนาวาและแยกมันออกกว้าง ดวงตาคมตวัดลงไปมองความแข็งขืนของคนตัวเล็กกว่าที่ตื่นตัวขึ้นเพียงแค่เขาจู่โจมบริเวณซอกขา เรื่อยไปจนถึงจีบพับสีสดทางด้านหลัง เสื้อคลุมอาบน้ำบัดนี้หลุดออกเผยร่างเปลือยสีระเรื่อแก่สายตา ประมุขของบ้านกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กับความเย้ายวนตรงหน้าก่อนจะกระชากเอวคอดของอีกคนเข้าหาเต็มแรง ดึงรั้งร่างขาวให้ลอยหวือจนบั้นท้ายกลมกลึงกระแทกเชิงกรานของอีกคนทำเอาทั้งสองร่างถึงกับหลุดครางด้วยความเร้าอารมณ์
“อื้อ...” เสียงครางแผ่วหลุดออกมาจากกลีบปากอวบอิ่มก่อนที่ริมฝีปากสีชาดของพันเอกจะฉกฉวยลงไปประทับแน่น แขนขาวยกขึ้นโอบรอบลำคอของพันเอกอย่างลืมตัว ปากอิ่มอ้าออกตอบรับสัมผัสของคนด้านบนอย่างยอมจำนน พันเอกปัดป่ายมือไปทั่วร่างขาวโพลนของคนข้างใต้ก่อนจะคำรามเสียงทุ้มต่ำเมื่อนาวาเผลอตัวแอ่นร่างขึ้นบดเบียดจนผิวกายเสียดสีกัน
ความอดทนของชายหนุ่มสิ้นสุดลง
ร่างสูงยืดตัวขึ้นก่อนจะจัดการกับกางเกงขายาวและอันเดอร์แวร์ของตนเอง ฝ่ามือหนาทำเพียงแค่รั้งมันลงเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้ความต้องการดีดตัวออกมาภายนอก นาวาได้สติทันทีที่เห็นความแข็งขืนของคนตรงหน้า ร่างโปร่งขยับตัวหนีอย่างรวดเร็วแต่กลับถูกพันเอกตะครุบเอวเอาไว้ได้เสียก่อน
“จะไปไหน”
“ผะ...ผม...” ร่างโปร่งอึกอัก พันเอกมองแววตาวูบไหวของนาวานิ่งๆก่อนจะเท้าแขนลงกับเตียงกักร่างของอีกคนเอาไว้
“วา” ชายหนุ่มเรียกชื่อของคนตัวเล็กกว่าเสียงนุ่ม นาวาจ้องหน้าของคนที่อยู่ๆก็เปลี่ยนท่าทีจนน่าใจหายอย่างสับสน
“ให้ฉัน...ได้ไหม” พันเอกร้องขอเสียงแหบพร่า จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมของนาวาอย่างแนวแน่ ความปรารถนาล้นปรี่ออกมาทำเอาร่างโปร่งร้อนวูบ กลีบปากเม้มแน่นอย่างสับสนขณะปล่อยกายให้พันเอกขยับเข้าหาและสวมกอดอย่างช้าๆ
“ทำไมอยู่ๆถึงทำแบบนี้” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยปากถามอย่างไม่เข้าใจ พันเอกจูบซับทั่วพวงแก้มสีระเรื่อก่อนจะกระซิบชิดผิวนวลเนียน
“แบบไหน”
“แบบนี้ แบบที่ผมไม่เคยเห็น ทำไมถึงไม่ร้าย” นาวาเสียงสั่นเมื่อถูกอีกคนไล่จูบไปทั่วแก้มเรื่อยลงไปถึงลำคอและแผ่นอกสีซีด คำถามของอีกคนทำเอาร่างสูงชะงัก
“เกลียดรึเปล่าที่ทำแบบนี้” ประมุขของบ้านไม่ตอบแต่กลับถามขึ้นมาแทน นาวาหมุ่นหัวคิ้วอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่ออีกคนขยับลงมากระซิบแผ่วเบาข้างหูพร้อมกับค่อยๆแทรกร่างเข้ามาในตัวของนาวาอย่างช้าๆ
“เกลียดกันมากไหมวา เกลียดฉันมากไหม”
“อ๊ะ! ค...คุณ อาาาาา”
“ถ้าไม่ทำร้าย จะเกลียดกันน้อยลงหรือเปล่า” พันเอกยังคงถามเสียงแผ่วเบาขณะที่ร่างกายกำยำยังคงฝ่าความคับแน่นเข้าหาอีกคนจนสุดความยาว นาวาบีบไหล่กว้างของคนบนร่างแน่น กลีบปากอิ่มเม้มแน่นเมื่อความเจ็บแล่นริ้วไปทั่ว พันเอกผละตัวออกมาเท้าแขนกักร่างของอีกคนไว้และจ้องดวงหน้าขาวที่กำลังแดงก่ำ มือข้างหนึ่งผละจากพื้นเตียง ยกขึ้นมาลูบไล้ผิวแก้มของนาวาแผ่วเบาในขณะที่สะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะ
“อื้อ! ฮ่ะ...อ๊าาาาา” นาวาครางเสียงหวีดหวิว สองมือละลงไปจิกผ้าปูที่นอนแน่น ความร้อนระอุที่กำลังเสียดสีอยู่ภายในร่างทำเอาร่างโปร่งสั่นสะท้าน แผ่นหลังบางแอ่นขึ้น พันเอกเบียดร่างลงไปแนบชิดกับคนด้านใต้ก่อนจะก้มลงไล้เลียริมฝีปากสีสดของนาวาแนบแน่นในขณะที่เอวสอบยังโจนจ้วงถาโถมเข้าหาบั้นท้ายขาวเต็มแรง
สองร่างขยับกายเป็นจังหวะสอดประสาน เสียงบั้นท้ายขาวกระทบกับหน้าขาของร่างสูงใหญ่ดังลั่นไปทั่วบริเวณ นาวากรีดร้องเสียงรัญจวน หลับตาลงซึมซับความอ่อนโยนที่แทรกซ้อนอยู่ในจังหวะที่แสนจะดุดันเร่าร้อนของอีกฝ่าย ใบหน้าขาวเชิดรั้นยามกายแกร่งของอีกคนกระทบจุดเร้าภายในร่าง ลมหายใจร้อนผ่าวของคนตัวโตกว่าเป่ารดทั่วร่างเปลือยเปล่า สองกายแนบชิด ละทิ้งโลกแห่งความเป็นจริงเอาไว้เบื้องหลัง มอมเมายั่วเย้าอยู่กับโลกแห่งราคะที่หลอมรวมทั้งคู่เป็นหนึ่ง
“คุณเอก” นาวาเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสั่นสะท้าน ร่างโปร่งโยกไหวตามแรงส่ง ขาทั้งสองข้างสั่นระริก ช่องทางอุ่นร้อนขยับบีบตัวรัดความปรารถนาที่กำลังเสียดสีเร่งเร้าอย่างไม่ยั้งแรง นาวากัดริมฝีปากแน่น กลัวตัวเองจะส่งเสียงครางลั่นอย่างเผลอไผล เหงื่อกาฬของคนทั้งคู่ชุ่มไปทั่วร่าง พันเอกจ้องใบหน้าบิดเบี้ยวตามแรงอารมณ์ของนาวาด้วยความรู้สึกสับสนก่อนจะเร่งจังหวะ ถาโถมความต้องการตอกย้ำว่าร่างกายนี้เป็นของเขา
นาวาครางเครือด้วยความกระสันซ่าน สะโพกเล็กส่ายรับแรงอารมณ์ของคนด้านบนอย่างร้อนเร่า เสียงจังหวะรักดังก้องไปทั่วโสตประสาท ทั้งคู่ปล่อยกายและใจให้โลดแล่นอยู่ท่ามกลางความต้องการทางร่างกาย กกกอดกดย้ำประสานร่างเป็นของกันและกัน หลงลืมว่าแท้จริงแล้วพวกเขาเกลียดกันมากเพียงใด ลบเลือนความเป็นจริงว่าพวกเขาต่างก็ไม่เคยนึกใยดีอีกฝ่ายเลยแม้เสี้ยววินาที
จังหวะพายุที่โหมกระหน่ำยังคงดำเนินต่อไปเนิ่นนาน พันเอกกระแทกสะโพกหนั่นแน่นเข้าใส่ร่างนาวาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปลดปล่อยความต้องการเข้าไปในร่างของอีกคนหลายครั้งแต่กลับรู้สึกว่ายังไม่หนำใจมากพอ เพลงรักจบลงและเริ่มต้นขึ้นใหม่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา เสียงเรียกชื่อข้างหูดังผะแผ่วผสมผสานกับเสียงครางหวานล้ำ หยาดเหงื่อและน้ำรักเปรอะไปทั่วร่างและเตียงกว้างที่พวกเขาให้รองรับแรงอารมณ์ ท่วงท่าร่วมรักมากมายถูกนำมาใช้โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ต่างคนต่างสาดความต้องการทางเพศใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร
กว่าพายุทุกอย่างจะมอดดับลงเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบรุ่งสาง
พันเอกกระแทกกายหนักแน่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยความต้องการเข้าไปในร่างโปร่งที่นอนหอบตัวแดงอยู่ใต้ร่าง ชายหนุ่มแช่ตัวเองอยู่ในร่างของนาวาเนิ่นนาน ดวงตาคมจ้องลึกลงมองร่างขาวที่เซ็กซี่สะดุดตากว่าทุกทีด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก พันเอกยกมือขึ้นไล้หยาดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่ตามใบหน้าของอีกคนออกแผ่วเบาขณะค่อยๆถอนกายออกช้าๆ
“อืออ...” นาวาครางฮือ ช่องทางด้านหลังที่ผ่านการร่วมรักมาค่อนคืนโล่งวาบเมื่อร่างแกร่งของอีกคนถอดถอนออกไป จีบพับสีสดขยับตัวบีบรัดโหยหาส่วนเติมเต็มก่อนหน้า คราบความต้องการมากมายไหลย้อนออกมาเปรอะไปทั่วผ้าปูที่นอน ผ้าห่มยับยู่ยี่ สภาพเตียงนอนขณะนี้ราวกับผ่านสมรภูมิรบมาก็ไม่ปาน
“นอนพักเถอะ” พันเอกบอกเสียงราบเรียบพลางถอนหายใจ เขาไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงกับคนตรงหน้าไปมากแค่ไหนจะกระทั่งทุกอย่างจบลง ความสับสนที่มีในใจผลักดันให้เรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้น พันเอกหวังจะหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วเขาคิดกับคนตรงหน้าเช่นไรแต่ก็ไร้ประโยชน์
การร่วมรักกับนาวาไม่ได้ทำให้ความขุ่นมัวภายในใจกระจ่างขึ้น ซ้ำยังขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิม
พันเอกไม่อยากยอมรับว่าเขารู้สึกอะไรกับนาวา เขาไม่อยากเรียกอาการไม่พอใจยามมีใครอื่นเข้าใกล้ร่างโปร่งว่า ‘หึง’ ไม่อยากรับรู้ว่าอยู่ๆก็เกิดอาการ ‘หวง’ เชลยแค้นตรงหน้าขึ้นมา
แต่มันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากสองคำนี้เล่า
ไม่อยากยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพียงแค่เห็นนาวาพูดคุยยิ้มแย้มกับผู้ชายคนอื่นความหึงหวงก็แล่นปราดไปทั่วร่าง
ถ้าถามว่าใครใจง่าย พันเอกก็คงต้องตอบว่าตัวเขาเองนั่นแหละ ทั้งๆที่หมกมุ่นอยู่กับความแค้นมาตลอด สนใจแต่ความเจ็บปวดของรามมากเกินไปจนลืมระวังหัวใจของตัวเอง ปล่อยปละละเลยให้ความรู้สึกถูกใจในรสรักและอะไรบางอย่างภายในตัวของนาวาเติบโตขึ้นจนบัดนี้มันเกาะกุมพื้นที่ในหัวใจไปเกือบครึ่ง
ทั้งๆที่แข็งแกร่งมาตลอด แต่พอมาเจอนาวา เพียงครั้งแรกที่เห็นใบหน้าขาวซีดของอีกคนผ่านรูปถ่ายแผ่นเล็กๆ หัวใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าของเขาก็พลันอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ
แต่จะให้เขากลับตัวตอนนี้มันก็คงสายเกินไป นาวาเกลียดเขา และก็คงจะเกลียดยิ่งกว่าเดิมหากเขายังคงดึงดันที่จะทำร้ายอีกคนต่อไป ชายหนุ่มมีทางเลือกไม่มากนัก เขาต้องเลือกระหว่างการละทิ้งความรู้สึกดีๆที่อาจจะพัฒนาเป็นความรักที่มีให้กับนาวา หรือเลือกที่จะเดินหน้าแก้แค้นรามต่อไปโดยต้องทำร้ายนาวาต่ออย่างเลือดเย็น
บางทีคำตอบมันอาจจะไม่ได้ยากเย็นนัก หากแต่พันเอกกลับไม่หนักแน่นพอที่จะเลือกมันมากกว่า เขาไม่รู้...ว่าควรจะเลือกหนทางไหน
ระหว่าง ความสุขในอนาคต กับ ความสมหวังในการแก้แค้น
จะยอมละทิ้งสิ่งที่เคยสูญเสีย เมินความเจ็บปวดที่ตัวเองและน้องชายเคยประสบพบเจอในวัยเยาว์ และเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่และทำความรู้จักกับคนที่ถูกใจตั้งแต่แรกเห็น ทำราวกับไม่เคยมีเรื่องคลางแคลงใจกับอดีตเพื่อนสนิทย่างรามงั้นหรือ
ไม่หรอก...เขาทำไม่ได้
ฝ่ายนั้นฆ่าพ่อแม่ของเขา ทำให้เขาต้องระหกระเหินไร้เสาหลักอยู่นานนับปี ฉกชิงเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตของเขา เหลือทิ้งเอาไว้เพียงกิจการของครอบครัวที่ล้มละลายอย่างไม่เป็นท่ากับหัวใจดวงน้อยๆที่แสนบอบช้ำของพระพาย
แม้ความรักในตัวเพื่อนเก่าแก่บอกให้ล้มเลิกอยู่บ่อยครั้ง หากแต่พอย้อนรำลึกไปถึงสิ่งที่รามเคยทำ ความเจ็บปวดในวันวานก็ยังคงแล่นริ้วไปทั่วทั้งอก
มันพรากพ่อแม่ของเขา
เล่นงานจนบริษัทของเขาย่อยยับ
และที่สำคัญที่สุดคือการทำร้ายจิตใจของพระพาย น้องชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียวก่อนจะหายตัวไป
แล้วเหตุนี้จะให้เขายอมละทิ้งความแค้นที่มีมาเนิ่นนานและเริ่มต้นใหม่ เขาทำไม่ได้
พันเอกทำไม่ได้จริงๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป
- แอบแง้มอดีตของนายหัวกับหนูพายเพิ่มมาอีกจึ๋งนึง แต่ก็คงเดากันได้ไม่ยากอ่ะเนาะ 55555
- เรื่องนี้เป็นวายไทยเรื่องแรกที่แต่ง พล็อตตอนนี้หลวมโครกมากๆ ช่องว่างพรึ่บ ยังไงก็ต้องขออภัยหากมีอะไรไม่สมเหตุสมผลในบางประการด้วยนะคะ ติชมและให้คำแนะนำกันได้ตลอดเลยน้า ^^
- สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกคนด้วยนะคะ เราอ่านแล้วแรงฮึดล้นหลามมาก (แต่หล่อนก็ยังอู้นะยะ 5555) ยังไงก็เจอกันตอนหน้าเน่อ ><