UN-LOVE SERIESSpecial : นาทีสุดท้ายhttp://www.youtube.com/v/8D6dfVmYuEk?version=3&hl=en_US&rel=0" type=Song Credit: นาทีสุดท้าย by Bodyslam
“ระวัง!!!”
“โครม!!!”
………..
…….
….
ขนตายาวหนากระพริบถี่ๆ ก่อนดวงตาคมดุจะลืมขึ้นช้าๆ
“อือ…” เจ้าของดวงตาครางในลำคอ ก่อนจะค่อยๆ ยกศีรษะขึ้นจากพวงมาลัยด้วยความยากลำบาก
เมื่อตั้งสติลำดับเหตุการณ์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มก็รีบหันไปมองทางขวามือด้วยความเป็นห่วง “เกียร์?”
ร่างสูงปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเอื้อมไปเขย่าน้องชายเบาๆ พร้อมร้องเรียกด้วยความร้อนรน “เกียร์… เกียร์ ฟื้นสิ”
หลังจากเขย่าเรียกอยู่นาน แต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว ชายหนุ่มจึงเปิดประตูลงรถ แล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่น้องชายนั่งอยู่ และค่อยๆ จับคนอายุน้อยกว่าเอนพิงเบาะในท่าที่คิดว่าสบายที่สุด “เกียร์… ไอ้เกียร์… ฟื้นสิ”
“เล่ย์?” เสียงแหบๆ ครางเบาแสนเบา แต่คนเป็นพี่ก็ยังได้ยิน “เออ กูเอง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“เจ็บทั้งตัว” คนเจ็บบอกตามความร้าวระบมที่รู้สึกทั่วสรรพางค์กาย
“แล้วเจ็บตรงไหนเป็นพิเศษ”
หยุดคิดพิจารณาอยู่ชั่วครู่ น้องชายที่ตัวโตกว่าพี่ก็บอกหอบๆ “อกกับขา”
“ขยับขาได้ไหม”
คนตัวโตพยายามขยับขาตามที่พี่ชายบอก แต่ไม่สำเร็จ “ไม่ได้ มันติด”
ดาวฤกษ์ชะโงกหน้าไปดูต้นเหตุที่ทำให้ขาของน้องชายขยับไม่ได้ แต่มองเห็นไม่ชัด จึงอ้อมกลับเข้าไปในรถและก้มลงมองดูขาข้างซ้ายที่ติดอยู่ใต้คอนโซลรถ
ชายหนุ่มจิ๊ปากอย่างไม่ชอบใจ เมื่อเห็นกางเกงยีนส์ตรงแข้งของคนเป็นน้องตุงขึ้นมาอย่างผิดปกติ “ขาหัก”
ได้ยินเสียงพึมพำของคนเป็นพี่ นภสินธุ์ก็ถามหอบๆ “กูจะตายไหมวะ” เพราะพอจะเดาอาการของตัวเองจากความเจ็บปวดทรมานในตอนนี้ได้ว่าคงหนักหนาสาหัสพอสมควร
“ไม่ตาย มึงต้องไม่ตาย” ดาวฤกษ์ยืนยันเสียงหนักแน่นขัดกับความกังวลในแววตา “เดี๋ยวก็มีคนมาช่วย ทนหน่อยนะ”
“ไม่ทนจะทำไงได้ ขาเดี้ยงแบบนี้ กูคงเดินออกไปเองได้หรอกนะ”
อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่อคนเจ็บยังคงสามารถพูดจากวนๆ ตามสไตล์ได้ “เจ็บขนาดนี้ ยังไม่วายกวนตีนนะมึง”
คนเจ็บอมยิ้ม ก่อนจะมองสำรวจพี่ชายที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยบ้าง “มึงบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ร่างสูงชะงักไปชั่วครู่ แปลกใจเช่นกันว่าความรู้สึกร้าวระบมในตอนแรกที่ฟื้นขึ้นมาหายไปไหนแล้ว แต่เพราะอาการบาดเจ็บของน้องชายน่าเป็นห่วงกว่า เขาจึงปัดความสงสัยทิ้งไปโดยไม่ใส่ใจ “นิดหน่อย…”
* * *
ยืนมองคนรักที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยความคิดถึง ร่างสูงก้มลงจุมพิตหน้าผากมน ก่อนกระซิบบอก “กลับมาแล้วครับ…”
ชายหนุ่มเอนตัวลงนอนและสวมกอดร่างโปร่งบางไว้แนบอก ก่อนมือใหญ่จะเลื่อนลูบศีรษะของคนเป็นแฟนเบาๆ อย่างอาทรเมื่ออีกฝ่ายนอนผวาเหมือนกำลังฝันร้าย
ขนตายาวงอนกระพริบถี่ๆ สองสามครั้ง ก่อนดวงตากลมโตจะค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ พร้อมรอยยิ้มยินดี “พี่เล่ย์… กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
เจ้าของชื่อไม่ตอบแต่กระชับกอดแน่นขึ้น…
เพราะอย่างไรคนตัวโตก็กลับมาแล้ว เดี๋ยวค่อยคุยพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย น้ำพุจึงไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบ ทำเพียงยกมือขึ้นลูบคางสากเบาๆ และก่อนจะปล่อยให้ความง่วงงุนดึงเข้าสู่นิทรารมย์ ริมฝีปากสีสดก็คลี่ออกเป็นรอยยิ้มเมื่อสัมผัสอ่อนโยนถูกแตะลงมาบนเปลือกตาทั้งสองข้างและหน้าผากเบาๆ
* * *
“ขอคีม มีเศษกระจก”
“นี่ค่ะ”
“ใครเอาฟิล์มเอ็กซเรย์มาหรือยัง”
“อยู่นี่ค่ะ”
“ตี๊ดดด” สัญญาณเตือนจากเครื่องมอนิเตอร์หัวใจที่ดังขึ้นทำให้ความวุ่นวายภายในห้องผ่าตัดหยุดชะงักชั่วครู่ ก่อนพยาบาลคนหนึ่งจะบอก “หัวใจเต้น 110 ส่วน pulse ox ลดลงเหลือ 88”
“pressure?”
“90/55 ค่ะ” พยาบาลสาวบอก ก่อนจะร้องออกมา “หัวใจเต้นแรงมาก 140 แล้ว”
“เขาเสียเลือดมาก และกำลังจะช็อค”
ร่างสูงเดินเลี่ยงแพทย์และพยาบาลที่กำลังวิ่งวุ่นเข้าไปหาคนเจ็บที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงโดยไม่มีใครห้ามปราม
ชายหนุ่มวางมือลงบนแก้มทั้งสองข้างของน้องชาย ก่อนจะทาบหน้าผากของตนลงบนหน้าผากของอีกฝ่ายพร้อมกระซิบปลอบ “เข้มแข็งไว้ พี่อยู่กับเกียร์ตรงนี้”
และดูเหมือนคนบนเตียงจะรับรู้ได้ถึงความเข้มแข็งที่พี่ชายถ่ายทอดให้ จังหวะการเต้นของหัวใจที่รัวเร็วในตอนแรก จึงค่อยๆ ลดลงจนเหลือเพียง 105 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น
***
“ชะ ใช่ ลูกฉันเอง” สาวใหญ่ในชุดนอนสวมทับด้วยเสื้อคลุมกลับด้านยืนยันตัวตนของคนที่นอนอยู่บนเตียงเสียงเบาหวิว ใบหน้าไร้เครื่องสำอางซีดเซียวเหมือนไม่มีเลือด “ลูกแม่...”
“คุณ!” หนุ่มใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างกันรีบผวาเข้ารับร่างโปร่งบางของภรรยาที่เป็นลมล้มพับไปดื้อๆ เพราะไม่อาจทนรับความสูญเสียในครั้งนี้ไหว “คุณ ทำใจดีๆ ไว้”
“พามานอนตรงนี้ก่อนครับ” นายตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ร้องบอกพร้อมเคลียร์โต๊ะให้ว่าง ก่อนนางพยาบาลจะเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล
ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ คนบนเตียง เหลียวมองเหตุการณ์วุ่นวายภายในห้อง ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่เป็นลม แล้วก้มลงกระซิบบอก “แม่ครับ เล่ย์อยู่ตรงนี้”
“เล่ย์... ลูกแม่...”
เสียงโหยละห้อยพร่ำเพรียกเรียกหาลูกชายคนโตซึ่งเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากซีดพร้อมหยดน้ำใสๆ ที่ไหลรินอาบแก้มทั้งสองข้างของคนที่ยังไม่ได้สติ ทำให้ผู้เป็นสามีถึงกับกลั้นน้ำตาตัวเองไว้ไม่อยู่
หนุ่มใหญ่ยกมือเย็นชืดของภรรยาขึ้นจุมพิตแผ่วเบา ก่อนจะซบหน้าลงกับหลังมือของอีกฝ่ายนิ่งๆ
“พ่อครับ... อย่าร้องไห้” ดาวฤกษ์วางมือลงบนไหล่สั่นสะท้านจากการพยายามกลั้นสะอื้นของคนเป็นพ่อ ที่แม้จะไม่ใช่ผู้กำเนิดที่แท้จริง แต่ก็รักและดูแลตนเหมือนลูกในไส้ “เล่ย์อยู่ตรงนี้...”
***
“ไม่ๆๆ ฮึก ฮึก พี่เล่ย์ ฮือ สัญ ญะ ญา ฮือ”
ร่างสูงคุกเข่าลงข้างๆ คนรักที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นทวงคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ มือบางยกปัดป่าย ไม่ยอมให้เพื่อนเข้ามากอด “ฮึก ฮึก พี่ ฮึก ละ เล่ย์ ฮึก ฮือ”
ลูบศีรษะของคนเป็นแฟนด้วยความอาดูร ดาวฤกษ์กระซิบยืนยัน…
“พี่สัญญา”
+++++unbelievablelove++++
ส่วนหนึ่งในหนังสือที่ไม่ยอมเสร็จซะที กลัวถูกลืมเลยเอามาให้อ่านกันก่อน
ศัพท์ทางการแพทย์ยังไม่ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อาจจะขัดนิดหน่อยนะ