Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17  (อ่าน 285175 ครั้ง)

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
(จากด้านบน)

.
.
.
.
.



‘........’ ใครวะ


“ฮัลโหล ไม่ทราบว่าใครครับ”


“.......เอ่อ” เสียงผู้ชาย

“ครับ? ใครครับ” ผมถามย้ำอีกรอบ ปกติผมเป็นคนใจเย็นนะครับ แต่ ณ เวลานี้ไม่อยากจะใจเย็นเสียเท่าไร ใครก็ไม่รู้มาขัดจังหวะผมกับเกียร์ มันน่าโมโหจริงๆ เดี๋ยวนี้ยิ่งมีเวลาให้มันน้อยอยู่ด้วย

‘ผมเองครับ พี่ภูมิ’ พี่..? ภูมิ..?

“พี่ภูมิ? อ๋อ หมอภาคภูมิเหรอครับ” ปกติหมอจะเรียกแทนตัวเองว่าผมหรือหมอ มาพูดแบบนี้ผมเลยรู้สึกแปลกหูชอบกล

‘ครับ เรียกพี่ภูมิดีกว่านะ เอ่อ พี่โทรมารบกวนคุณอชิระหรือเปล่าเอ่ย’ มากอะครับ

“ก็..พอคุยได้ครับ แล้วมีอะไรหรือเปล่าครับ โทรมาซะดึกดื่นเลย” ผมพูดขำๆ

‘ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วพี่จะโทรหาไม่ได้เหรอครับ’ หมอพูดเสียงน้อยใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่างอนจริงหรือหลอก แต่ไอ้หมอมันดราม่าใส่ผมหลายทีแล้วนะ เป็นตุ๊ดหรือเปล่าวะ

“เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น..” ยังไม่ทันพูดต่อ เกียร์ก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วมองมาอย่างสงสัย ผมเลยทำสัญญาณไปว่าขอเวลาอีกแปบหนึ่ง

‘เฮ้อ โล่งใจจัง พี่นึกว่าคุณอชิระจะไม่อยากคุยกับพี่เสียแล้ว ฮ่ะฮ่ะ แล้วทำอะไรอยู่เอ่ย’

“กำลังจะอาบน้ำนอนน่ะครับ หมอโทรมาพอดี” นี่ไอรักกำลังจะบอกว่าหมอกำลังรบกวนเวลาส่วนตัวอยู่นะ โปรดเข้าใจเจตนารมณ์ของไอรักด้วยเถอะเพราะตอนนี้คุณหมาน้ำแข็งเริ่มย่างกรายซอยเท้าคิ้วขมวดเป็นปมมาหาผมแล้ว

‘อ๋อ ครับๆ งั้นคุณอชิระไปอาบน้ำเถอะครับพี่ไม่กวนแล้ว เอาไว้วันหลังพี่จะโทรไปหาอีกที เบอร์นี้เบอร์พี่นะครับ’ ไม่บอกกูก็รู้แล้ว

“ครับ”

‘เดี๋ยวๆ อีกเรื่องครับ’

“ครับ?”

‘ไม่ทราบว่าคุณอชิระชื่อเล่นชื่ออะไรเหรอครับ’

“อ๋อ ไอรักครับ”

‘ชื่อน่ารักจัง..งั้นพี่ขอเรียกว่าน้องไอรักได้ไหมครับ’ ห๊า เหมือนสนิทกันมานาน

“เอ่อตามสบายครับ ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

‘ครับ ฝันดีนะครับ..น้องไอรัก’ เหี้ยขนลุก นิ้วโป้งจ่อจะกดวางสายอยู่ตั้งแต่เริ่มรับโทรศัพท์ละ กว่าจะได้วาง

“ใครเหรอ”

“หมอของไอซิสน่ะครับ” มันเลิกคิ้วมองฉงน อย่าว่าแต่เกียร์เลย ผมก็งงไอ้หมอเหมือนกัน เอาเบอร์มาจากไหนยังงงอยู่เลย

“ป่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะ” ผมพูด

เราถอดเสื้อกางเกงออก เกียร์ยื่นมือมาให้แล้วจับมือให้ผมลงอ่าง ล้มตัวนั่งพิงอกมัน ตอนแรกมันก็บอกว่าจะไม่ทำอะไรผม  แต่ไอ้เกียร์น้อยมันดันทรยศชูชันมาโดนตัวผมจนทนไม่ไหวต้องหันไปจูบมันแล้วบอกว่าจะทำก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไร ความจริงผมก็ต้องการเหมือนมันนั่นละ แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ

แต่ก็ไม่มีอะไรมากครับ เราใช้มือให้กันและกันแค่นั้น เอาแค่ให้สบายตัวพอ ส่วนเวลาที่เหลือแค่อยู่ใกล้กันก็มีความสุขแล้ว

อาบน้ำเสร็จผมก็ให้มันใส่เสื้อผ้าของพี่ติมที่แม่บ้านเคยเอามาใส่ที่ตู้ผม มันก็นอนรอให้ผมทาครีมเสร็จถึงจะนอนพร้อมกัน

“ให้ผมปิดไฟเลยไหม” เห็นมันกดโทรศัพท์อยู่เลยถามมันก่อน

“อือ” มันเงยหน้าขึ้นตอบสั้นๆ

“ทำอะไรอยู่เหรอ” ผมปิดไฟแล้วเดินไปตามแสงที่ออกจากโทรศัพท์มัน

“ตั้งนาฬิกาปลุก” มันเบี่ยงมาให้ดู ประมาณว่ากูตั้งนาฬิกาจริงๆนะไม่ได้โกหก พอเสร็จก็ล้มตัวนอน ดึงให้ผมไปก่ายกอด ส่วนมือมันก็ลูบหลังผมเล่น

คืนนั้นเป็นคืนที่ผมหลับสนิทที่สุดหลังจากที่กลับมานอนบ้าน มีอ้อมกอดอุ่นๆ มือสากๆที่คอยลูบไล้ไปทั่วตัวเหมือนเพลงกล่อมคลอเบาๆ มันช่างผ่อนคลายใจได้มากจริงๆ

“ไอรัก...เกียร์ไปก่อนนะ”

ผมสะลึมสะลือตื่นเพราะแรงเขย่า มองนาฬิกาก็เห็นว่ายังไม่เช้าเลยนอนหลับตาลงเพื่อตั้งสติ แต่เพียงพักเดียวก็รู้สึกถึงสัมผัสที่แก้มทั้งสองข้าง ทำเอาผมเผยยิ้มออกมา

“ตีสามครึ่งเอง นอนอีกหน่อยก็ได้..” ผมงึมงำตอบ ดึงให้มันมานอนด้วยกัน ขนาดผมยังง่วงเลย มันคงเพลียมากกว่าผมแน่ๆ

“คนอื่นเห็นแล้วจะว่าไอรักเอาได้นะ” มันพูดเสียงเบา

 “..ฮื้อ..” ผมปรือตามองอีกฝ่ายแล้วส่งเสียงขัดใจ

“นอนเถอะนะคนดีของเกียร์”

มันยอมเอนตัวนอนลงให้ผมกอดแล้วลูบหัวจนผมหลับไปอีกครั้ง ตื่นขึ้นมาประมาณเจ็ดโมงกว่าก็ไม่เห็นเกียร์ ไม่รู้ว่าไปตอนไหนแต่เตียงนอนข้างผมเย็นแล้ว

ผมอาบน้ำแต่งตัว หยิบหนังสือเล่มหนาที่จะสอบวันนี้ลงไปชั้นล่างโดยมีไอซิสวิ่งดุ๊กดิ๊กตามลงมาด้วย เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ปกติไม่พ่อก็พวกพี่ๆที่จะออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่

“ทำไมวันนี้ออกสายจังเลยครับ”

“ขี้เกียจ” พี่ติมตอบกวนๆแล้วกวักมือรียกผมไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง พี่ติมแม่งชอบเล่นแรง ฮึ่มมม ไปนั่งกับพี่อุ่นดีกว่า รายนั้นนุ่มนวลอ่อนโยนกว่าเยอะ เชอะ

“ระวังแด๊ดจะไล่ออกจากตำแหน่งนะครับ”

“ออกก็เข้าใหม่ได้ครับ ว่าแต่เราเถอะจะสอบได้ไหมเนี่ย เห็นถือหนังสือร่อนไปร่อนมา” พี่ติมยักคิ้วยึกๆแล้วหลิ่วตาถาม

“โหย ระดับนี้ เค้าอ่านจบไปหลายรอบแล้วเถอะ พี่ติมมั่ว” ไม่พอ หันไปพยักหน้าให้ทุกคนด้วย เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันทั้งบ้าน

“จะเชื่อดีไหมนะ หนังสือเรียบไม่มีรอยยับขนาดนี้” พี่ติมทำป็นเอามือกรีดหนังสือ แล้วทำหน้าหูหา กวนงะ

“เขาเรียกว่ารักษาของเถอะครับ”

“ฮ่าๆ ติมไปแกล้งน้อง ดูสิหน้ามุ่ยหมดแล้ว” ขนาดแม่ยังหัวเราะคับบ้าน ไอรักละอยากจะโกรธพี่ติมจริงๆ

“ตัวเล็ก”

“ครับ” ขานตอบพ่อ แต่หน้ายังบึ้งไม่หาย

“พรุ่งนี้นายคนนั้นจะมาไหม”

“ห หือ นายคนนั้นใครเหรอครับ” ผมเปลี่ยนหน้าแทบไม่ทัน ดูเหมือนพ่อจะไม่อยากพูดซ้ำสองจึงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปัดๆ

“นายเกียร์อะไรนั่นน่ะ จะมาไหม”

“มาครับมา ทำไมเหรอครับ” ผมตอบ ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

“แด๊ดมีอะไรจะให้ช่วยน่ะ”

“เดี๋ยวไอรักบอกเกียร์ให้นะครับ!”

ผมพูดคุยสักครู่ก็ขอตัวไปมหาลัย แต่ก่อนจะออกรถ แม่ผมก็เรียกเอาไว้

“ม๊าไปช่วยคุยกับแด๊ดมาให้ลูกแล้วนะคะ  ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจของเขานะ”

“จริงเหรอครับ ไอรักถึงได้ว่า แด๊ดดูอ่อนลงนิดหน่อยนะครับ”

“บอกลูกเกียร์ให้พยายามเข้านะคะ” แม่ขยิบตาทีหนึ่งแล้วไล่ให้ไปเรียน

ก็ไม่รู้ว่าพ่อจะให้เกียร์ช่วยทำอะไร แต่หวังว่าคราวนี้พ่อจะเปิดใจยอมรับเกียร์ไม่มากก็น้อยละนะ


………………………………………………..


ผมลงรถมาด้วยความตกตะลึง รีบเดินไปหาเกียร์ที่กำลังจอดมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ในโรงจอดรถ

“เขาทำอะไรกันอะเกียร์” ผมกระตุกเสื้อขาว ตามองไปยังรถสิบล้อคันหนึ่งที่บรรทุกต้นไม้ทุกขนาดเต็มคันรถ มองเลยไปเห็นพ่อผมคุยกับคนงานกันอยู่

“ไม่รู้สิ” ผมก็ถามเกียร์ได้เนอะ บ้านกูนี่หว่าลืมไป

“ทำอะไรกันอยู่เหรอครับ” ผมเดินไปถามโดยมีเกียร์เดินมาตามหลัง มันยกมือไหว้ พ่อมองเกียร์นิ่งแล้วพยักหน้าให้

ถือเป็นสัญญาณที่ดีแล้วใช่ไหม

“ลงต้นไม้ใหม่น่ะ มานี่มา” พ่ออ้าแขนรับแล้วหอมแก้ม ก่อนจะชี้เรียกชื่อต้นไม้แต่ละต้นและความหมายของมันให้เป็นความรู้ ความจริงพ่อผมโตมากับต้นไม้เลยนะครับแล้วก็ชอบต้นไม้เอามากๆ เพราะได้รับอิทธิพลจากแดร์ โอปะ(คุณปู่) ท่านปลูกสวนผลไม้และพืชพันธุ์นานาชนิดอยู่ที่เยอรมันมาตั้งแต่พ่อผมยังไม่เกิดจนตอนนี้ก็ยังคงทำกันอยู่

“แล้วไม่ขนลงไปปลูกละครับ” เห็นคนสวนยืนกันเฉย ทำหน้าอึกอักยังไงพิกล

“อืมนั่นสิ นี่” อยู่ๆพ่อก็หันไปเรียกเกียร์ จากที่มันกำลังมองนกมองต้นไม้อยู่ก็หันกลับมาตอบแทบไม่ทัน

“ครับ”

“ฉันให้เวลาสี่วันหลังจากนี้ ปลูกต้นไม้ในบ้านนี้ให้เสร็จ จัดออกมาให้สวย แล้วทำคนเดียวนะ อย่าคิดว่าจะเรียกใครมาช่วยก็ได้ เข้าใจไหม”

“อะไรนะครับ ให้เกียร์ทำคนเดียวคงไม่ไหวนะครับแด๊ด” ผมโพล่งออกมาอย่างตกใจ ให้เกียร์ขนไปปลูกหมดนี่คนเดียวเลยเหรอ แล้วยังไม่ได้เอาลงมาจากรถบรรทุกสักต้นเลยนะ

“ถ้าอ่อนหัดขนาดนั้นก็กลับไปดูดนมแม่เถอะ” แอบเห็นเกียร์คิ้วกระตุกเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาหน้านิ่งของตัวเองได้อยู่

“ผมทำไหวครับ”

“เกียร์!” ผมพูดเสียงดัง จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว บางต้นไม่ใช่ว่าจะเล็กนะ ไหนจะต้องขุดหลุมปลูกต้นไม้อีก คนเดียวภายในสี่วันคงไม่ไหวแน่ๆ

“แต่อาทิตย์นี้เกียร์ต้องอ่านหนังสือสอบนะครับ อย่างน้อยก็เพิ่มวันหรือขอผลัดไป..”

“ไอรัก ไม่เป็นไร เกียร์ทำได้” เกียร์พูดแทรกขึ้น

“แต่คุณ..” มันจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือละ มันไม่ใช่ผมนะที่อ่านหนังสือไวแล้วทวนจบไปหลายครั้ง มันพึ่งได้อ่านจบไปรอบเดียวแล้วถ้าไปตกลงรับต้องเสนอพ่อผมอย่างนี้ก็ไม่มีเวลาทวนเลยสิ

“ถ้านายทำได้ ฉันจะให้นายคบกับลูกฉันได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เตรียมตัวเลิกกันไปซะ”

“ครับ” พ่อมองตามันนิ่งก่อนจะกระตุกยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“ดีมาก พยายามเข้าละ”


……………………………………..


“เกียร์ คุณอย่าฝืนทำเลย มันจะสองทุ่มแล้วนะครับ” ผมพูดคำนี้มาเป็นสิบรอบแล้ว คำตอบก็ตอบกลับมาเหมือนเคย

“ไอ้ทรุดมันหิวข้าวแล้วมั้งน่ะ” จนป่านนี้ยังยกต้นไม้ลงจากรถไม่หมดเลย

“แม่บ้านให้มันทานข้าวแล้วครับ ไอซิสมันร้องหาคุณต่างหาก” ไม่รู้ว่ามันมาถูไถเสื้อเกียร์ที่อยู่บนตักผมทำไม แต่ขอโมเมไปแล้วกัน

“ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องสอบนะ”

“คุณก็เหมือนกัน คุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมจะไปคุยกับแด๊ดให้รู้เรื่อง”

“ไม่ต้องไป นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขายอมรับเราได้”

“แต่ผมทนไม่ได้อะ” ตอบเสียงสั่นๆ เห็นตัวมันเปื้อนเหงื่อ ตัวเนื้อมอมแมมไปด้วยดินโคลนแบบนั้น ผมทนไม่ได้จริงๆ

“เกียร์ทำได้ หนักหนายังไงเกียร์ก็ทนได้ ขอแค่เชื่อใจกัน ให้เกียร์ทำเถอะ”

“แต่..”

“เพื่อเรา” แววตาอบอุ่นมองมาประสานกับตาผม จะให้ตอบอย่างไรละในเมื่อมันพูดขนาดนี้แล้ว


ก็ได้..ผมเชื่อคุณ


“เฮ้อ..หิวน้ำไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้” หน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อยิ้มออกมาแล้วตอบด้วยเสียงนุ่มที่พาลให้ใจสั่นเล่น

“มีไอรักอยู่ข้างๆก็พอแล้ว”

“บ้า” อาจจะด่าแต๋วไปนิด แต่เวลานั้นคิดคำไหนไม่ออกเลย มันเขินจริงๆนะครับ ผมเดินเข้าบ้านไปสั่งแม่บ้านที่ผ่านมาพอดี



“ผมขอผ้าร้อน ผ้าธรรมดา ขนม ผลไม้แล้วก็น้ำเย็นด้วยนะครับ อ้อเอาเสื้อตัวนี้ไปซักด้วยนะ” บอกก่อนจะออกมานั่งดูมันบนเสื่อผืนเดิม



มันอาจจะไม่ใช่เวลาที่ผมจะโลมเลียมันทางสายตาแต่หุ่นมันดีจริงๆนะครับ ซิกแพ็คนี่เป็นลูกเลย กล้ามขึ้นนูนทำให้ตัวมันล่ำใหญ่ เหงื่อซึมที่ไหลออกมาตามร่างกายกับผิวแทนกร้านแดดนิดๆทำให้มันดูเข้มมากขึ้น



ผมแอบกลืนน้ำลายดังเอื้อก




“ได้แล้วค่ะคุณหนู”



“จ๊ากกกก”



ไอรักตกใจหม๊ดดด แหง่งง แม่บ้านสะดุ้งเกือบทำถาดที่ถือมาหล่นพื้น ไม่ต้องมาตกใจเลยนะอยากมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเอง งานนี้เธอผิดเต็มๆ

“วางไว้แล้วไปได้แล้ว” ผมพูดเสียงดังเพราะยังตกใจไม่หาย

“ค่ะๆ”

“เป็นอะไรหรือเปล่า” เกียร์อย่ามาเลิกคิ้วหล่อๆใส่ตอนนี้ดิ ผมทำหน้าไม่ถูกนะ! ใจเย็นๆอย่าลนลานจนผิดสังเกต

“ป ป เปล่าครับ ลมพัดเย็นดีนะครับ แฮะๆๆ” ไปโน่นเลยกู

เกียร์ทำหน้างงแต่ไม่ได้พูดอะไร เฮ้อโล่งอก

ผมนั่งเรียกสติก่อนจะเดินไปซ้ำเหงื่อที่เกาะบนใบหน้าอีกคน มันสะดุ้งนิดหน่อยแล้วเปลี่ยนมากดยิ้มที่มุมปาก ผมหลุบตาหนีรอยยิ้มนั้นแต่ก็ต้องเจออกหนาที่กระเพื่อมหอบ

โอ้ยยยยยย ไอรักเป็นอะไร ทำไมช่วงนี้หื่นจังวะ สติที่เคยมีแตกกระเจิงหายไปหมดด

“ไปนั่งพักทานขนมกันก่อนดีกว่านะครับ” จะเดินหนีมาก่อน แต่มันเอามือมาเกาะเอวผมแล้วเดินไปพร้อมกัน กลิ่นกายเฉพาะจากตัวมันกับกลิ่นเหงื่อที่ให้อารมณ์ดิบๆเถื่อนนี่มัน… โว้ยยยยยยยยย ไอรักเขินฉิบ

“ไม่สบายเหรอ” อยู่ๆมันก็พูดออกมา

“หือ เปล่านิครับ” มองมันงงๆ

“หน้าแดงน่ะ คิดอะไรไม่ดีอยู่ละสิ” มันยิ้มกรุ้มกริ่ม ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนมากถึงมากที่สุดทันที

“ผมเปล่าคิดอะไรหื่นๆอยู่นะ!”

“อ้อ คิดอะไรหื่นๆอยู่สินะ ทำไมไม่บอกละ เกียร์จะสนองให้ หึหึ” ไอน้ำแข็งบ้าาาาาาาาาาาาาาาาา



TBC---->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+สุขสันต์วันปีใหม่จ้า ทุกๆเรื่องมีแต่ความสุขนะจ๊ะ (ไปอ่านหนังสือสอบก่อนแล้ว ฟิ้วว)

 :L2:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
มาให้กำลังใจเกียร์ไอรัก :L2:
สู้ๆนะ

  :mew1:
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้คนเขียนมีความสุข
มาต่อนิยายบ่อยๆนะคะ
 :L1: :pig4:

ออฟไลน์ loveyous

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
    • Aphrodite Shop
ให้กำลังใจเกียร์ด้วยคนนะครับ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เกียร์ สู้ๆๆๆๆ อย่ายอมแพ้พ่อตาเด้อ เป็นกำลังใจให้
 :L1: :pig4: :L1:


ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เกียร์สู้ๆนะครับ อีกนิดเดียวก็ชนะใจแล้ว ท่านหาโน่นนี่มาให้ทำแสดงว่าเริ่มใจอ่อนแล้วนะ
คุณหมอนี่ดูน่ารำคาญจริงจัง เดี๋ยวไอรักก็โดนลงโทษหรอกปล่อยให้คนอื่นมาเข้าใกล้

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สู้ๆ ทำให้สำเร็จนะ :katai2-1:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวนี้ไอรักหื่นขึ้นนะ

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
พ่อใจร้ายยย ดีนะที่เริ่มรับเกียร์บ้างแล้ว แต่ก็นะT^T สงสารพระเอกต้องนั่งขุดดิน เศร้าแทนไอรักเลย

รอตอนต่อไปค่ะ สู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เป็นกำลังใจให้เกียร์รับมือกับพ่อตา
ส่วนไอรักรู้ตัวไหมว่าหมอแมวจีบ

ออฟไลน์ CHADMM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
สนุกมากๆ รออ่านต่อนะคะ // คนแต่งสู้ๆ!!

ออฟไลน์ CHADMM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
สนุกมากๆ รออ่านต่อนะคะ // คนแต่งสู้ๆ!!

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mahaki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
น่ารักมากกกก เพิ่งเจอเรื่องแรกนะคะที่ไม่มีดราม่ามือที่สามฝั่งพตะเอกเนี่จมีแต่ฝั่งนายเอก แต่ก็ดีแล้วค่ะ :katai2-1: รอตอนต่อไปๆ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
 :L2:
เวลาแค่ 4 วัน เกียร์จะทำไหวเหรอ
ไหนจะอ่านหนังสือสอบอีก เฮ้อ!!

AnimajuS

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
 :impress2:
คิดถึงเกียร์ไอรัก
 :mew1:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
คิดถึงไอรักเกียร์จังเลยค่ะ >_<

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
 สงสัยไอรักไม่ได้จิ๊จ๊ะกับเกียร์นานไปหน่อย เลยเกิดอาการหื่น 5555

+ 1 เป็นกำลังให้น้องคนแต่งนะ
 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่31



“เทอร์มัลไอออไนเซชันเป็นไอออไนซ์อะตอม หรือเป็นโมเลกุลของก๊าซด้วยพลังความร้อนในก๊าซที่มีอุณหภูมิสูง...”


เกือบหกโมงเย็น ผมนั่งอ่านเนื้อหาที่ไม่ค่อยจะเข้าใจให้เกียร์ฟัง ผมบอกแล้วว่านิสัยเกียร์ต้องอ่านทวนอีกรอบถึงจะจำได้ พูดไปมันก็ไม่ฟังผมเลยมาอ่านให้มันฟังแทน แต่ไม่ได้จำใจทำหรอกครับ ผมเต็มใจทำเอง เกียร์ก็ห้ามแล้วห้ามอีกไม่รู้ว่าจะกลัวผมเหนื่อยอะไรนักหนา ผมไม่สนใจหรอกจนตอนนี้มันไม่ห้ามแล้วเปลี่ยนมาหามต้นไม้ไปปลูกแทน

“ตัวเล็ก เกียร์ มาทานผลไม้รองท้องกันก่อนนะลูก” เสียงแม่ดังมาจากข้างหลัง ผมหันไปก็เห็นแม่บ้านยกของมาให้ทาน

“ครับ/กินกันเลยครับ” ผมหันไปมองอีกคนที่พูดประโยคหลัง

“เกียร์มาพักก่อน ทำมานานแล้วนะครับ” มันอ้าปากจะปฏิเสธ ผมเลยส่งสายตาดุๆไปให้ มันพยักหน้าแล้วเดินไปล้างมืออย่างจำใจ

“เกียร์เหนื่อยมากไหมลูก ไม่ไหวก็พอก่อนนะคะ มาม๊าเห็นแล้วปวดใจแทนตัวเล็กจริงๆ”

“ไหวครับ” แม่ยิ้มให้กำลังใจแล้วหันมาพูดกับผม

“ทานกันอิ่มแล้วก็เข้าบ้านได้แล้วนะคะตัวเล็ก”

“แต่ผมอ...” จะบอกว่าอยากอยู่เป็นเพื่อนเกียร์ อ่านหนังสือให้มันฟัง แต่แม่ขัดขึ้นก่อน

“เมื่อกี้แด๊ดลูกโทรมาบอกว่าจะกลับแล้ว ถ้าเห็นว่าไอรักนั่งอยู่ตรงนี้คงจะไม่ชอบใจแน่ๆ”

“..ครับ”

“โถ มานี่มาตัวเล็ก ไม่ต้องหงอยหรอกนะคะ นี่เกียร์ก็เสร็จไปเยอะกว่าที่คิดแล้ว อีกไม่นานต้องทันแน่ๆเลยค่ะ ยิ้มหน่อยสิคะ ทำหน้าเศร้าแบบนี้เดี๋ยวเกียร์จะไม่มีใจจะทำนะคะ” แม่ดึงผมไปลูบหัวแล้วพูดปลอบใจ คำพูดดีๆที่ออกจากปากคนที่เรารัก ถึงจะเป็นเพียงไม่กี่ประโยคแต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะ ผมกอดแม่ตอบ อบอุ่นไปถึงใจเลย ผมไม่เคยแคร์ว่าใครจะมองว่าเป็นลูกแหง่ ก็ผมรักของผมนิครับ

“แล้วพี่อุ่นละครับ” พี่ติมบินไปต่างประเทศตั้งแต่ตอนเช้า แต่พี่อุ่นไปทำงานยังไม่กลับ ผมเลยถามถึง

“เดี๋ยวก็คงกลับค่ะ รายนั้นไม่เถลไถลหรอก” ผมพยักหน้ายิ้มๆ ก็จริงนะครับ พี่อุ่นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ขนาดมีผู้หญิงสวยๆเข้ามาไม่ขาดก็ไม่เคยสนใจนอกจากครอบครัวแล้วก็เรื่องงาน จะมีนานๆที่จะขอออกไปบ้าง ผมก็เข้าใจเขานะครับ ผู้ชายมันก็ต้องปลดปล่อยกันบ้าง แต่พี่อุ่นไม่ได้เจ้าชู้เหมือนพี่ติมนะครับ รายนั้นเจ้าเล่ห์กะลิ้มกะเหลี่ยไปเรื่อย ผู้หญิงเดินตามให้พรึ่บทั้งๆที่ผมคิดว่าพี่อุ่นหล่อกว่าตั้งเยอะ(แต่หน้าก็คล้ายกันนั่นละครับ สรุปผมหล่อสุดในบ้านแล้ว ฮุฮุ)

“เกียร์อิ่มไหมลูก เอาอะไรเพิ่มอีกไหม จ่ามงกุฎ เสน่ห์จันทร์ก็มีนะคะ หรือจะทานแครมบรูเล่กันดี” แม่หันไปถามเกียร์ มันเงยหน้าจากจานข้าวเหนียวมะม่วง

“ไม่เป็นไรครับ”

“เกียร์ไม่ค่อยชอบหวานๆน่ะครับมาม๊า ถ้าเอามะม่วงเปรี้ยวจิ้มเกลือมาจะชอบกว่า” ผมยิ้มแซวๆมัน แต่มันคือเรื่องจริงเพราะเกียร์ชอบทานเค็ม เปรี้ยว เผ็ด ทุกอย่างที่ทำให้กระเพาะพังได้นางชอบครับ แต่อยู่กับผมมันก็ไม่ค่อยได้ทานรสจัดมากหรอกเพราะผมชอบดุมันเรื่องนี้บ่อยๆ

“ฮ่าๆๆ อย่างงั้นเองหรอกหรือ”

“เกียร์อิ่มแล้ว” มันพูดกับผมเบาๆ แต่แม่ก็หันไปสั่งแม่บ้านอยู่ดี ทีกับคนอื่นไม่เคยเห็นมันจะเกรงใจ แต่กับบ้านผมนี่ไม่รู้เป็นอะไรถ่อมตัวเหลือเกิน ขนาดผมยังมองออกเลยว่ามันไม่อิ่ม เหนื่อยจากข้อสอบแล้วยังต้องรีบกลับมาใช้แรงงานอีก ร่างกายมันยังไม่หยุดเลยครับ

“นั่งเล่นกันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวมาม๊าไปดูในครัวก่อน”

“ครับ” แม่ยิ้มหวานให้แล้วเดินออกไป

“มือเปื้อน” ผมหันมามองคนพูด

“อะไรเหรอครับ” อะไรของมัน อยู่ดีๆก็เกริ่นไม่มีคำนำ สารบัญ เล่นเอาไอรักมึนเลย

“มือเปื้อน แต่อยากกินฝรั่ง”

“อยากทานฝรั่งแล้วจะมามองหน้าผมทำไมครับ!?” เฮ้ย อย่ามามองแล้วพูดแปลกๆอะไรแบบนี้นะ เดี๋ยวนี้ไอรักยิ่งหื่นขึ้นยังไงไม่รู้แล้วด้วย พูดไม่ไตร่ตรองให้ผมคิดอย่างนี้เดี๋ยวเกียร์จะโดนกระทำชำเรานะโว้ย

“มือเปื้อนดิน” มันจับเก้าอี้ให้เลื่อนเข้ามาติดกับเก้าอี้ที่ผมนั่ง แล้วแบมือออกเหมือนจะฟ้องว่าเปลอะดินเต็มมือ แต่เมื่อกี้ที่คุยกับแม่ก็ไม่เห็นว่ามือมันจะเป็นอะไรเลยนะครับ เห็นยังถือส้อมจิ้มกินไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย หันมาอีกทีก็เลอะทั่วมือไปแล้วซะงั้น

“แล้วยังไงอะครับ ก็ไปล้างมือสิครับ” ผมมองมันงงๆ ต้องการจะสื่ออะไรวะ หรือมันใช้แรงกล้ามเยอะจนเพี้ยนวะ แต่หน้าอกที่กระเพื่อมสม่ำเสมออยู่ตอนนี้ เห็นแล้วมันน่า...

“มือสกปรก แต่อยากกินฝรั่งไง” ผมสะดุ้งจนมันมองอย่างสงสัย ผมรีบพูดกลบเกลื่อนความหื่น

“อ๋อ จะให้ผมป้อนก็ไม่บอกเล่า พูดอ้อมแม่น้ำคงคาทำไมไกลละ” แหมตาประกายเลยนะ แค่ผมหยิบส้อมแล้วจิ้มฝรั่งจ่อปากมันเอง

“แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ใกล้กว่าเหรอ” เอออออออออออออ จำไว้นะมึง เล่นซะกูไปต่อไม่เป็นเลย

“มันไม่ผจญภัยไงโห่ ยิ่งไกลยิ่งเห็นอะไรที่มากกว่าคุณไม่เคยได้ยินเหรอ”

“กวนจังวะ” มันพูดแล้วเอามือมาวางบนเอวผมเป็นปกติ เหมือนกอดเอวนั่นละครับ แต่ผมรู้สึกแปลกๆจึงขยุกขยิกไม่อยู่สุข ผมไม่ได้เบี่ยงตัวออกหรืออะไรนะครับ แต่มันรู้สึกแปลกจริงๆ เหมือน...มันวูบวาบแถวหน้าท้องยังไงไม่รู้สิ

ช่วยเอามืออุ่นๆกับกลิ่นกายเฉพาะตัวของมึงออกไปไกลๆหน่อยได้ไหมครับเกียยยยยร์

“อยู่นิ่งๆสิ” อ้าว โดนดุอีก กูนั่งจะโด่มาทับหน้ามึงอยู่แล้วมึงไม่เห็นเหรอ

“เกียร์เขยิบไปเถอะ ผม ผม ” โอ้ยแม่ง อยากจะทึ้งหัวลงพื้นจริงๆ

“...” มันเลิกคิ้วสงสัยอยู่นาน จนสายตาเหลือบไปมอง...กระปู๋ของป๋ม แงงงงงงง น่าอายที่สุด

“หึหึ..” เหี้ย หัวเราะหน้าตาอย่างหื่นอะ อย่าขำกันสิวะ แค่นี้หน้าผมร้อนจะแย่อยู่แล้ว ผมรีบเอาขาขึ้นชันเข่าเพื่อปิดไม่ให้มันเห็น

“..มันขึ้นเองอะ..จริงๆนะ” T_T ไหนๆก็ไหนๆ ไอรักขอพูดไปตรงๆแล้วกัน หน้าด้านเกินจะด้านละ

“อยากเหรอ” อย่าเอาอกเข้มๆมาประทะสายตาผมได้ไหมไอ้น้ำแข็งง

“บ้า อยากอะไรเล่า เขยิบไปนั่งไกลๆหน่อยได้ไหมเกียร์ผมเวียนหัว” มันยังกระตุกยิ้มหึหึอยู่ไม่หยุดเลย

“แน่ใจเหรอว่าเวียนหัว” มันกระตุกมือผมแล้วคว้าตัวให้ไปนั่งตักมัน กลายเป็นว่าผมคร่อมตัวมันอยู่ แรงเยอะยิ่งกว่าแมนนี่ ปาเกียวอีก แล้วมันก็หยิบเสื้อนักศึกษาของตัวเองที่พาดบนเก้าอี้มาคลุมตักผมกับมันเอาไว้

“เกียร์จะทำอะไร ไม่เอานะ แล้วเอามาคลุมทำไมครับ!” ผมละล่ำละลักพูด ก็มันรูดซิปกางเกงของผมกับมันลง แล้วคว้าออกแก่นกลางมาประกบกันก่อนรูดเนิบๆตามจังหวะ

“อะ อ..เกียร์ ฮื้อ” ผมมองมือที่ขยับภายใต้เสื้อขาวแล้วต้องเสตาหลบด้วยความเขินอาย กัดบ่ามันเสียเลย เค็มชะมัดฮึ่ยย

มันขยับแรงขึ้นเหมือนลงโทษแล้วผ่อนลงก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้น

“เกียร์ อื้อ เดี๋ยวคนมา ฮะ..เห็น..” ขาเกร็งสั่นไปหมด

“ไม่มีใครเห็นหรอก ฮึ่ม..อย่ากัดปากสิ เกียร์อยากฟังเสียงหวานๆของที่รัก” ผมเหลือบมองรอบๆ ไม่มีใครผ่านมาจริงๆอีกอย่างรอบๆก็มีต้นไม้ใหญ่อยู่แล้ว มันคงคำนวณมาแล้วสินะแต่มันกลางแจ้งเกินไปจนผมตื่นเต้นรนรานไปหมด ผมหันกลับมามองอีกคนที่กำลังจ้องมาเหมือนกัน

“ทำ ทำเร็วๆหน่อย อึก” ผมบอกอย่างพะว้าพะวัง มันยิ่งได้ใจ สาวเร็วขึ้นอีกอย่างเมามัน

เมื่อจะถึงจุด ผมร้องออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว ตัวเกร็งกระตุกน้ำออกมาเยอะกว่าทุกวันจนน่าอาย มันมองมาด้วยสายตาใคร่รัก กระตุกยิ้มน้อยๆแล้วยกมือที่เปื้อนน้ำของผมขึ้นมาเลียตามง่ามมือ

“เกียร์! อย่ากิน มันสกปรกนะครับ!” มันเลียเหมือนน้ำหวาน ผมอายหน้าแดงจนไม่รู้จะแดงอย่างไรแล้ว

“ช่วยเกียร์หน่อย” ว่าแล้วก็เอามือผมไปวางที่..กระปู๋อันใหญ่ของมัน ผมจะชักมือออกก็ไม่ได้จึงต้องขยับมือตามที่มันชักนำ

“จะเสร็จหรือยังครับ..” ผมพูดเบาๆ เขินจริงๆที่ต้องมาพูด มาทำอะไรแบบนี้หน้าบ้าน มันมองตาผม หน้ามันหื่นมากจนผมไม่กล้าสบตา ยังไม่ทันคิดอะไรก็โดนดึงไปจูบอย่างเร่าร้อน

กว่าจะเสร็จผมแทบจะขึ้นอีกรอบเลยให้ตายเถอะ

“คุณว่าเดี๋ยวนี้เราเซ็กซ์จัดไปหรือเปล่า น่าอายชะมัด” จริงๆนะครับ ขนาดตอนนี้ผมยังรู้สึกว่ายังอยากต้องการมันอยู่เลย

“ปกติก็ทำการบ้านให้ทุกวัน ไม่เห็นแปลก” ไอ้บ้า พูดอะไรวะ คนอ่านเขารู้หมด

“ทะลึ่งใหญ่ละ ผมยิ่งกังวลอยู่”

“คิดซะว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศสิ” ใครจะไปหน้าด้านหน้าทนอย่างคุณละครับ

มันจัดการเช็ดมือ รูดซิปกางเกงให้เข้าที่ แล้วคว้าผมไปซบคอมัน หมั่นไส้ว่ะ ขอกัดหน่อยแล้วกันแง่มๆ ผิดคาดนะ ผมนึกว่ามันจะสะดุ้งเจ็บบ้าง แต่นี่ไม่มีเลยแถมยังมีหน้ามาขยำก้นผมเล่นอีก ไอ้น้ำแข็งหื่น

“ว๊าย ขอโทษค่ะๆ” ผมสะดุ้งรีบกระเด้งตัวออกจากอกมันทันทีที่ได้ยินเสียงแม่บ้าน หันไปเห็นแม่บ้านถือถาดมะม่วงกุลีกุจอขอโทษแล้วรีบหันหลังกลับ

“เกียร์อะ!” ผมหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ ทั้งโกรธทั้งเขินแม่งเอ้ย

“เกียร์ไม่รู้เรื่อง” มันส่ายหน้าประมาณว่าอย่ามากล่าวหากูนะ

“ทำไมไม่บอกว่าแม่บ้านกำลังเดินมาทางนี้อะ” มันต้องเห็นสิ นั่งหันหน้าเข้าประตูบ้านขนาดนี้

“เดี๋ยวเขาก็ชิน”

“ยังมาพูดดีอีก ฮึ่ย!”

“ป่ะ ลุก พักมานานแล้ว”

“นั่งพักอีกสักหน่อยก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบเลย”

“เดี๋ยวไม่ทัน”

“ผมขอโทษนะครับที่มาชวนมันทำอะไรแบบนี้” ผมรู้สึกผิด เพราะวันนี้ทั้งวันมันต้องเหนื่อยจากเสียเหงื่อแล้วยังชวนมันเสียน้ำอีก

“ไม่เป็นไร เกียร์ชอบ หึหึ” มันหอมหน้าผากผมแรงๆแล้วลุกขึ้นพร้อมอุ้มผมไปด้วย ก่อนจะวางให้ผมยืนดีๆ

ผมเดินตามจะไปนั่งที่เสื่อผืนเดิม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมันพูดขึ้น

“เข้าบ้านได้แล้ว”

“แต่ผมยังอยากอยู่กับคุณนี่ ขอผมอยู่แปบหนึ่งไม่ได้เหรอ” ผมคิ้วขมวด

“อย่าดื้อสิ เกียร์กำลังทำให้เราได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้เราต้องอดทนไปก่อน เข้าใจไหม” มันดึงผมไปกอดแล้วหอมแก้มเบาๆ

“ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย” ดื้อต้องใช้กับสัตว์หรือคนตัวเล็กน่ารักๆไม่ใช่เหรอ แต่ผมไม่ใช่ไง ตัวอย่างกับตึก หน้าก็ไม่ได้น่ารักสักหน่อย

“หึ ไม่ดื้อเลย หน้าบึ้งไม่ยอมทำตามอย่างนี้เรียกว่าอะไร หื้ม” พูดไปเอานิ้วมานวดตรงระหว่างคิ้วผมเหมือนจะเบา แต่มันไม่เบาก็ตรงที่เป็นแรงมันนี่ละ ขนาดผ่อนแรงแล้วนะยังแรงสำหรับผมเลย

“ก็มันขัดใจอะ แค่ผมจะอยู่ข้างคุณในเวลาแบบนี้ยังไม่ได้เลย แย่ชะมัด” มันกระชับกอดแน่นขึ้น ผมรู้ว่าตอนนี้ผมงี่เง่า แต่ผมไม่อยากทิ้งให้มันอยู่คนเดียวนี่

“เข้าบ้านเถอะนะไอรัก  ป่านนี้แด๊ดของไอรักคงใกล้ถึงแล้ว” ผมนิ่งไปก่อนพยักหน้าอย่างจนใจ

ยังไม่ทันเดินเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงเปิดประตูรั้ว ผมเลยรีบสาวเท้าเข้าไปในบ้านอย่างเร็ว สักพักก็ทำเป็นออกมาต้อนรับเหมือนปกติ พ่อขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนชุด สักพักก็ลงมาคุยเล่นกับผมที่ห้องนั่งเล่น

“กลับมาแล้วเหรอคะ งานเป็นไงบ้าง” แม่เดินเข้ามานั่งข้างผม กลายเป็นผมนั่งตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่

“ระดับนี้แล้ว ไม่มีคำว่าพลาด” ผมเคยบอกแล้วว่าความจริงพ่อผมฮานะครับ ถ้าไม่ติดว่าชอบยิงมุขหน้าตายแบบนี้และไม่โหดเรื่องเกียร์น่ะนะ

“แหมคุณ มั่นใจทุกวันเลยนะคะ” แม่ผมเบะปากใส่ คือพ่อผมเป็นคนเก่งมากน่ะครับแล้วก็ไม่เคยถ่อมตัวด้วย กร๊าก

“สงสัยพี่อุ่นมาแล้วละครับ” ได้ยินเสียงรถจากด้านนอก ผมเลยวิ่งไปรับ เห็นพี่ตัวโตก้าวออกมาจากรถพอดี

“สวัสดีครับ ทำไมกลับดึกจัง” ผมกระโดดกอด

“อูย หนักจังแฮะ คิดถึงเหรอ”

“เปล่า ไอรักหิวจะแย่อยู่แล้ว กร๊ากก โอ้ยเค้าเจ็บนะ” พี่อุ่นเขกหัวดังป๊อกด้วยความหมั่นไส้

“ป่ะ บอกแม่บ้านให้จัดโต๊ะได้แล้ว เดี๋ยวพี่ขึ้นไปเก็บของแปบหนึ่ง” พี่อุ่นหอมแก้มผมแล้วเดินออกไป ผมเลยทำตามที่พี่อุ่นบอกแล้วออกมาเรียกเกียร์ที่ตอนนี้กลายเป็นคนงานไปเรียบร้อยแล้ว ก้มหน้าปลูกต้นไม้งกๆโดยมีคุณไอหมอกไอแดดนั่งลิ้นห้อยเป็นกำลังใจข้างๆ

ผมพามันขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวกัน ผมเปลี่ยนมานั่งข้างพี่อุ่นแทน ส่วนเกียร์นั่งข้างแม่ พ่อนั่งหัวโต๊ะที่เดิม

“ไอซิสไปไหนละครับ” ผมถามแม่ เมื่อกี้ยังเห็นอยู่บนตักแม่อยู่เลย

“น้องร้องหิวข้าว มาม๊าเลยบอกให้แม่บ้านพาไปทานข้าวจ๊ะ” ถึงได้ว่า บ้านเงี๊ยบเงียบไม่มีเสียงเมี้ยวเมี้ยว

“ผมว่าไอซิสโตขึ้นเยอะเลยนะครับ ไม่ได้โตแค่ท้องอย่างเดียวแล้ว” คิดไปก็ขำไป ปกติจะเหมือนเด็กขาดสารอาหารวิ่งไปวิ่งมารอบบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ท้องเริ่มสมดุลกับร่างกายแล้วนะครับ ตัวโตขึ้น ขาก็แข็งแรงขึ้นเยอะเลย

“แล้วไม่ต้องไปถ่ายพยาธิแล้วหรือ” ผมหันไปผงกหัวขอบคุณเกียร์ที่ตักอาหารให้น้อยๆ แล้วหันไปตอบพี่อุ่น

“กะว่าจะให้คนอื่นไปแทนน่ะครับ มันตรงกับวันสอบของเค้าพอดี”

“ตอนเย็นไม่ว่างเหรอ” ผมยิ้มๆไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องไปแทน ความจริงตอนเย็นมันก็ว่างละ แต่ผมไม่อยากทิ้งเกียร์สักเท่าไร

“จะมีใครใจดีพาไอซิสไปหาหมอบ้างหนอ”

“หึหึ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลยตัวเล็ก พี่ไม่ว่างหรอกนะ”

“แป่ว ว่าจะวานสักหน่อย สงสัยคงต้องให้นายไผ่พาไปซะแล้วสิ”

“พรุ่งนี้นายไผ่ไม่ว่างนิคะ เห็นว่าขอลากลับไปดูคุณแม่ที่ต่างจังหวัดจะกลับก็คงจะมะรืนนี้ ให้แม่บ้านพาไปก็ได้ค่ะ” แม่บอก

“ไม่เห็นต้องยุ่งยาก ให้หมอมารักษาที่บ้านสิ” พ่อพูด เออก็จริงนี่หว่า

“เอาอย่างที่แด๊ดบอกก็ได้นะ ยิ่งเป็นลูกแมวอยู่ด้วย ไปโรงพยาบาลก็มีแต่เชื้อโรค”

“ได้ครับ” ผมตอบพี่อุ่น ว่าแต่เบอร์หมอผมก็ไม่ได้บันทึกไว้ด้วยสิ เอาไว้โทรไปหาโรงพยาบาลเลยแล้วกัน

“เกียร์ทานเยอะๆนะลูกจะได้มีแรง”

“ครับ”

“มาม๊าเห็นอีกนิดเดียวก็จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เก่งมากๆเลยค่ะ มาม๊าเอาใจช่วยนะคะ” แม่ผมกระดี๊กระด๊าเกินหน้าเกินตาไปไหมครับ ดูท่าจะรักเกียร์เอามากๆนะนี่

“คุณ” พ่อผมเอ่ยปราม

“ก็จริงนิคะ หรือคุณจะบอกไม่จริงละ” เอาแล้วไง จะทะเลาะกันไหมนั่น ก็แหงสิครับ ไม่มีใครรู้หรอกว่าบ้านมันก็ชอบต้นไม้ไม่แพ้บ้านผมเลย หึหึ

“....” เงียบกริบ พ่อได้แต่นั่งตาแข็งมองทางอื่น นานๆทีแม่จะทำเสียงแข็ง ผมยังกลัวเลย

“เห็นวันนี้มีกล้วยบวชชีไม่ใช่เหรอครับ ยกมาได้แล้วมั้ง”พี่อุ่นทำลายบรรยากาศอึมครึมขึ้น รู้สึกอยากขอบคุณพี่อุ่นมากเลยครับ

ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เกียร์ก็ขอตัวออกไปปลูกต้นไม้ ส่วนผมก็นั่งคุยกับพ่อแม่พี่อุ่นสักพักใหญ่ๆจนพวกเขาง่วงจึงขึ้นไปนอน

“ไอหมอก” ผมร้องเรียกไอหมอกเสียงเข้ม เพราะเมื่อกี้เห็นว่าลับหลังที่เกียร์หันไปยกต้นไม้ มันคุ้ยดินกลบหลุมที่เกียร์เป็นคนขุด เกียร์โดนลูกผมกลั่นแกล้งหรือนี่

“...” มันคิ้วขมวดมองไอหมอกแล้วกลับมามองตัวเอง ประมาณว่ากูอยู่ตรงนี้ทำไมไม่เรียกมัน นี่ไม่รู้เลยใช่ไหมว่าโดนแกล้งอยู่

“มานี่เลยไอหมอก นิสัยไม่ดีเลยนะครับไปทำอย่างนั้นได้ยังไง” ไอหมอกเดินหน้าหงิมๆมานอนแบะตรงเท้าผม สงสัยต้องโดนลงโทษแล้วละ

“กลับเข้าบ้านตัวเองไปเลยนะ”

“หงิง หงิง” มันไม่ชอบอยู่ในกรง ไม่ตกดึกต้องเข้านอนจริงๆมันจะไม่เข้าเลย แต่ถ้ามันจะนอนต้องไปนอนในกรงเพราะผมฝึกมาตั้งแต่เด็ก

“มีอะไรหรือเปล่า” มันพูดพลางกลบดินไปด้วย

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ว่าแต่ไปถึงไหนแล้วเหรอ” มันหันมาแล้วยิ้มเหนื่อยๆเหงื่อไหลเป็นสาย ผมเห็นแล้วใจมันปวดแปลบๆแต่พยายามปั้นยิ้มยืนไม่ให้อีกคนต้องคิดมาก

“เสร็จทันแน่นอน”

“งั้นก็ไม่ต้องทำแล้วละครับ ค่อยมาทำพรุ่งนี้ต่อก็ได้” เหลือพรุ่งนี้กับอีกวันที่จะถึงเส้นตายของมัน จากที่ดูๆแล้วก็เสร็จไปเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว มันปลูกเร็วมาก สมแล้วที่บ้านมันมีป่า ฉะนั้นผมว่าไม่ต้องรีบก็เสร็จทัน

“ขออีกสองต้น” ผมพยักหน้าแล้วเดินไปเอาไอหมอกเข้ากรง เห็นอย่างนี้ ไอรักเป็นคนจริงนะ ทำผิดก็ต้องทำโทษ

ผมหันไปสบตากับไอแดด มันมองเหมือนยังไม่อยากเข้าแล้วตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย ผมเลยตบมือให้เดินตาม ไอแดดหูตั้งหางกระดิกเลยครับ

“ผมช่วยปลูกไหม”

“คนอื่นละ”

“เข้านอนแล้วครับ มา เดี๋ยวผมช่วยนะ” ผมทำท่าจะเข้าไปช่วยแต่โดนมันขัดขึ้น

“นั่งรอไปก่อน จะเสร็จแล้ว”

“ผมอยากช่วยอะ”

“เดี๋ยวเปื้อน”

“เปื้อนก็ล้างไง”

“จะนั่งดีๆไหม” มันพูดเสียงเรียบแต่คำพูดมัน..

“จะดุทำไมอะ พูดดีๆก็ได้” มันเห็นผมหน้าบึ้งแล้วกระแทกก้นกับเสื่อก็ส่ายหน้าออกมา เจ็บแต่ไม่สนโว้ย งอนก่อน

“ป่ะ” มันเดินมาแล้วเรียกให้ผมลุก ผมเลยเดินเมินไม่สนใจมัน

“เป็นอะไร” มันรีบเดินมาขนานผมแล้วถาม

“หึ!” ผมส่งเสียงในลำคอแล้วหันไปอีกทาง

“เป็นอะไรก็บอกสิ” มันจับมือผมให้หยุดเดินแล้วหันมาคุยกันดีๆก่อนจะปล่อยมือออก

“..เกียร์ดุผม” แทบจะนับครั้งได้เลยเวลามันดุผม จะว่าผมโดนมันโอ๋จนเคยตัวก็ได้ แต่ผมไม่อยากให้มันโกรธเลย มันรู้สึกแย่จริงๆ

“เกียร์พูดเฉยๆ ไม่อยากให้ไอรักเปรอะ ขนาดตอนนี้เกียร์ยังไม่กล้าจับไอรักเลย” ถึงได้ว่าไม่ยอมแตะตัวผมเลย

“ผมไม่เคยรังเกียจคุณนะเกียร์ ผมรับคุณได้ทุกเรื่อง คุณอย่าพูดเหมือนไม่เคยรู้จักผมสิ” ผมเดินไปกอดทั้งๆที่ตัวเปียกเหงื่อ ผมรักของผม มากกว่านี้ผมก็ไม่เคยคิดจะรังเกียจ

“เกียร์ไม่ได้คิดแบบนั้น แค่ไม่อยากให้ผิวขาวๆของไอรักต้องเปื้อนแค่นั้น” เกียร์พูดออกมา ผละตัวออกมามองผมแสดงความจริงใจออกมา

“บ้านเราไม่ได้อยู่อินเดียนะครับ ถึงจะหาน้ำล้างยากอะ” ผมเดินไปกอดมันอีกครั้ง เอาสิ ยิ่งมันเว้นระยะห่างผมก็ยิ่งวิ่งเข้าใส่

“งั้นไปอาบน้ำด้วยกันดีกว่า” มันพูด ทำหน้ากรุ่มกริ่มคว้าเอวผมให้รีบเดินขึ้นห้อง

ไอ้น้ำแข็งหื่นอีกแล้วว

แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากช่วยอาบน้ำกัน พออาบเสร็จผมก็เหลือบไปเห็นมือใหญ่ที่ด้านพองก็ทั้งตกใจทั้งสงสาร ทำไมผมถึงพึ่งเห็นหรือผมดูแลมันไม่พอ ผมเลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วรีบจูงมือมันไปนั่งบนเตียงจัดการทำแผลให้ พยายามกดความเสียใจที่มันต้องเป็นแบบนี้เพราะผมแต่ก็ทำไม่ไหว มันได้แต่ลูบหัวปลอบใจผมไม่ให้คิดมากซึ่งมันก็ช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

เรากลับมานอนกอดกันเหมือนเดิม ผมเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คอะไรก่อนนอน เห็นเบอร์แปลกโทรมาอีกแล้ว ผมเลยโทรกลับ

“สวัสดีครับ”

‘ครับน้องไอรัก ทำไมพี่ติดต่อไม่ได้ทั้งวันเลย’ เสียงแบบนี้ หมอภูมิภัทรนี่หว่า

“ผมไม่ค่อยว่างน่ะครับ” ผมตอบไปอย่างงงๆ

‘อ๋อ แล้วอย่างนี้พรุ่งนี้จะพาไอซิสมาหาหมอได้เหรอครับ’

“ว่าจะถามอยู่พอดี วันพรุ่งนี้ช่วยมารักษาไอซิสที่บ้านผมหน่อยได้ไหม สะดวกมาหรือเปล่าครับ”

‘เอ๊ะ ว่างครับว่าง เอาเป็นประมาณกี่โมงดี’ อยู่ๆหมอก็เสียงตื่นเต้นดีใจขึ้นมาเฉย ผมตกใจเลย แต่ต้องผงะอีกครั้งเมื่อไปสบตากับคนข้างๆ ทำไมจ้องจับผิดอย่างนั้นละครับ

“สักประมาณหนึ่งทุ่มก็ได้ครับ” ผมสอบทั้งวันเสร็จประมาณห้าโมง แต่เผื่อเลทหรือรถติดเอาไว้จะได้ไม่ต้องรีบร้อน

‘ได้ครับๆ’ นี่กะจะไม่ถามที่อยู่ผมเลยเหรอวะ แปลกๆนะหมอนี่

“งั้นเดี๋ยวผมส่งที่อยู่ไปให้ในข้อความแล้วกันนะครับ”

‘อ๋อครับ รบกวนด้วย วันนี้พี่คงนอนไม่หลับแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ’

“ฮ่าๆๆเหรอครับ” ผมก็หัวเราะเออออห่อหมกไป ไม่รู้ว่าหมอหัวเราะเรื่องอะไรหรอก

“ใคร” เกียร์เริ่มส่งเสียงถามหลังจากนอนกอดมองผมคุยโทรศัพท์อยู่นาน

‘หืม เสียงใครเหรอครับ หรือผมหูแว่วไปเอง’

“ไม่มีนิครับ แล้วคุณหมอมีอะไรอีกหรือเปล่าครับ” ผมรีบพูดพลางมองอีกคนที่เหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีแล้ว

‘ครับ? เอ่อ พี่แค่อยากโทรหาก่อนนอนน่ะครับ’ มันพูดจบ พอดีกับมือใหญ่เอื้อมมาคว้าโทรศัพท์เปิดลำโพงให้ได้ยินทั้งคู่

เอาแล้วไง ทั้งลูกเห็บทั้งแม่คะนิ้งเคลื่อนตัวมาบ้านไอรักอีกแล้ว อะฮื้อ

‘น้องไอรักง่วงแล้วเหรอ ถ้าไม่ไหวก็ไปนอนก่อนก็ได้นะครับ เอาไว้วันพรุ่งนี้เราก็เจอกันแล้ว’ คิ้วเกียร์เริ่มคิ้วขมวด กำโทรศัพท์ไว้แน่นจนมือขึ้นสีให้เห็น

“หึ...”

“เอ่อ เอ่อครับๆ ผมง่วงแล้ว ขอวางสายแล้วกันนะครับ”

‘ฝันดีนะครับน้องไอรัก’ เหี้ยเอ๊ย ผมรีบพูดขัดแล้วชิงวางสายก่อนที่เกียร์กับไอ้หมอจะพูดอะไรออกมาอีก

“มันเป็นใคร” อย่ามองผมด้วยสายตาคาดคันโกรธเกรี้ยวขนาดนั้นสิครับ ผมกลัวจริงๆนะ ยิ่งมันพูดด้วยเสียงเรียบจนน่าขนลุกแบบนั้นผมไม่กล้าสบตามันเลย

“หมอไอซิสไงครับ” ผมตอบเสียงสั่นกล้าๆกลัวๆ

“คุยกันมานานหรือยัง”

“อ่ะ เอ่อ ครั้งนี้ครั้งที่สอง”

“แล้วไปคุยกับมันทำไม” ผมสะดุ้งทุกครั้งที่มันเอ่ยพูดประโยคใหม่ขึ้นมา

“เขาโทรมาเอง..”

“เอาเบอร์มาจากที่ไหน”

“ไม่รู้..” น้ำตาผมเริ่มคลอ

“ไม่รู้แล้วมันมีเบอร์ไอรักได้ยังไง!” มันตะคอกเสียงดัง กระชากแขนให้ผมเงยหน้าขึ้น แต่ผมกลัวไม่กล้าสบตา


.
.
.
.

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
.
.
.




“โอ้ย.. ผมไม่รู้ อึก ไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ” มันชะงัก คลายแรงที่จับแขนผมลง

“...” ตัวมันสั่น ผมเงยไปมอง เห็นสีหน้าที่โกรธมากจนเส้นเลือดขึ้นข้างขมับทั้งสองข้าง หลับตาข่มอารมณ์เอาไว้

“ผมขอโทษ แต่ผมไม่เคยให้เบอร์ไปจริงๆนะ ฮึก” ผมคิดให้ตายอย่างไรก็คิดไม่ออก ผมไม่เคยบอกหมอจริงๆ ทุกครั้งที่เจอกันก็เป็นเวลาแค่แปบเดียว แต่ครั้งแรกที่เจอกันในโรงพยาบาลใช้เวลานานหน่อย ...หรือว่า…

“หรือหมอจะดูในใบที่ผมกรอก อึก ประวัติ” มันลืมตาขึ้นมา แต่หน้าโกรธขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

“ไอ้สารเลว” มันกัดฟันพูดเสียงเบา ผมรีบกอดมันไว้ทั้งตัว ซุกลงกับอกอุ่น

“อย่าโกรธผมเลยนะ ฮึก ผมไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามา ผมรักคุณคนเดียว อึก คนเดียวจริงๆ อย่าเกลียดผมเลย” ผมรีบพูด ผมไม่เคยเปิดใจเอาไว้เผื่อใครแล้วผมก็ไม่อยากให้เราต้องผิดใจกันเพราะเรื่องพวกนี้

“ไอรักไม่ผิด ..ฮึ่ม ไอ้เหี้ยนั่นฉวยโอกาสด้วยวิธีสกปรก ทีหลังมีใครเข้ามาคุยอย่างนี้รีบบอกเกียร์ เข้าใจไหม” มันถอนหายใจ คลายสีหน้าที่ทำให้ผมกลัวจนตัวสั่นลงแล้วพรั่งพรูคำพูดออกมา

“ครับ อึก ไม่โกรธผมนะ” ผมถามย้ำอีกครั้ง

“อืม” มันกอดแล้วลูบหัวผมอย่างปลอบโยน ผมรีบเช็ดน้ำตาออกแล้วถามสิ่งที่คาใจ

“ว่าแต่..หมอฉวยโอกาสอะไรเหรอครับ” ทำไมต้องทำหน้าเอือมใส่ผมด้วย ไม่เข้าใจ

“มันจะจีบไอรัก”

“เอ๋ หมอไม่เห็นจะตุ้งติ้งสักหน่อย” ผมคิ้วขมวดถาม

“แล้วเกียร์ตุ้งติ้ง?” เออว่ะลืม

“หือ แต่หมอบอกว่าเขามีคนที่ชอบแล้วนะครับ แถมคนนั้นมีแฟนแล้วด้วย”

“แล้วมันยังจะจีบ?!” ผมสะดุ้งกับเสียงดังๆของมัน เล่นเอาใจไอรักหล่นไปถึงตาตุ่ม

“..งะ..คุณรู้ได้ไงอะผมยังไม่รู้เลย แต่ผมก็พูดไปเล่นๆนะครับว่าถ้ารักจริงก็รุกไปเหอะจะได้สู้ให้สุดๆไปเลย โอ้ย! เกียร์เขกหัวผมทำไมอะ!”

“หมั่นไส้ ซื่อจริงๆแฟนกู” มันพึมพำ แต่ผมอยู่ใต้คางมันไงเลยได้ยินเต็มสองรูหู รวมรูอื่นด้วย (รูปาก รูจมูก)

“อะไรของคุณ เดี๋ยวนี้กล้าทำร้ายร่างกายผมเหรอ ฮะ กล้าหือเหรอ” ผมพูดไปบี้แก้มมันจนมันปากจู๋ แฟนใครก็ไม่รู้น่ารักจัง

“ทำให้ร้องไห้อีกแล้ว” มันจับมือผมที่วางอยู่บนแก้มมัน แล้วเอื้อมมาลูบที่เปลือกตาผมแผ่วเบา

“เขาเรียกว่ากำจัดสารพิษออกจากร่างกายหรอกครับ” ผมพูดแก้เครียด

“พรุ่งนี้ไอ้เหี้ยนั่นจะมาใช่ไหม”

“เอ่อ เขาชื่อภูมิภาคครับ” อะเจ้ย มาทำหน้าดุทำไมนี่ ไอ้เราอุส่าห์แก้ไขคำผิดให้

“อย่าพูดชื่อมันให้ได้ยินได้ไหม เกียร์ไม่ชอบ” มันคงไม่ชอบจริงๆ ดูหงุดหงิดจนผมต้องตอบตกลง

“ครับ อย่าโกรธน้า” ไม่ได้หรอกต้องรีบอ้อน เดี๋ยวงานเข้าอีก

“เฮ้อ.. เอาเป็นว่าอย่าอยู่ใกล้ไอ้เหี้ยนั่นเป็นอันขาด ไม่งั้นเกียร์จะ..” มันถอนหายใจปลงๆแล้วทำหน้าครุ่นคิดจริงจัง ผมร้อนๆหนาวๆเลยพูดแทรกก่อนที่จะโดนหนักไปมากกว่าที่ผมคิด

“จะตีหัวผมเบาๆแล้วบอกว่าเกินหนึ่งไม้บรรทัดแล้วนะ! ใช่ไหม” ผมพูดขึงขัง

“จะปาดินใส่หน้าไอ้เหี้ยนั่นแล้วเอาจอบสับหัวมันให้แหลกคามือ” อูย..โหดแบบสุด

“แฮะๆๆๆๆ เอ.. ตั้งนาฬิกาหรือยังหนอ” มันพยักหน้า ผมเลยชวนให้มันนอนไวๆ ความจริงกลัวมันจะลุกขึ้นมาหยิบโคมไฟตีแสกหน้าผมโทษฐานทำตัวให้มันรักมากไปอะสิ กร๊าก T_T



……………………………….



“วันนี้มาหาผมเร็วกว่าทุกวันเลย ทำข้อสอบได้ใช่ม้า” ตั้งแต่ออกจากห้องสอบจนกลับมาถึงบ้านผมกับเกียร์ยังไม่ได้คุยกันเลยครับต่างคนต่างขับรถตรงมาบ้าน พอดีนายไผ่รีบมารับเพื่อที่จะส่งผมแล้วขึ้นรถไปหาคุณแม่ ผมก็สงสารมันนะครับ ต้องมารับผมเพื่อที่จะทำหน้าที่ตัวเองให้เสร็จก่อนจะวิ่งไปเยี่ยมคุณแม่ที่กำลังป่วย ทั้งๆที่แม่ผมบอกให้มันลาทั้งวันจะได้รีบไปหาท่านแต่มันก็ไม่ยอมละทิ้งหน้าที่ของมัน

“พอได้” มันพูดแล้วถอดเสื้อกลางสนามหญ้าแบบไม่อายฟ้าดิน ผมก็ไม่อายครับ นั่งจ้องมันตาปริบๆแถมกอดเสื้อของมันไว้แน่น ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเวลาเห็นหุ่นมันทีไรมือมันจะกำอัตโนมัติตลอด

“แล้วได้เอาหนังสือสอบวันพรุ่งนี้มาหรือเปล่าครับ” มันพยักหน้า ผมเลยเดินไปค้นกระเป๋าเป้ของเกียร์ หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านให้มันฟัง เนื้อเรื่องในหนังสือผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับแต่เกียร์บอกว่าพยายามเน้นตรงสูตรเพราะต้องเอาไปใช้ พวกเนื้อหาที่กำกับให้อ่านผ่านๆก็พอ

เวลาล่วงเลยมาเกือบสองชั่วโมง ผมอ่านสูตรวิศวะให้มันฟังจนจบก็เก็บหนังสือลงแล้วหันไปเล่นกับลูกสามตัวแทน ตาก็มองเกียร์ที่กำลังขุดหลุมอยู่

“เกียร์”

“หืม”

“ไม่เบื่อบ้างเหรอ ผมเห็นคุณรีบกลับมาปลูกต้นไม้อย่างนี้ไม่หยุดเลย” ตั้งแต่วันที่พ่อมอบหมายให้ทำ เวลามันสอบเสร็จก็ไม่แวะที่ไหน ดิ่งตรงมาบ้านผมแล้วปลูกต้นไม้งกๆ พอเสร็จก็นอนบ้านผมจนถึงตีสามครึ่งถึงจะกลับไปคอนโดตัวเอง แต่ผมรู้ว่ามันไม่ได้กลับไปหลับต่อหรอก มันคงไปสะสางงานที่เคยรับมาจากอาจารย์ พอเช้าก็ออกมาสอบ ผมว่ามันรับภาระจนหนักอึ้งเกินไป แต่ผมจะทำไงได้ละนอกจากอยู่ข้างมัน ผมถึงอยากจะนั่งมองมันไม่ห่างไปไหน

“หึ” มันส่งเสียงปฏิเสธในลำคอแล้วส่ายหน้า

“จริงอะ” ผมยิ้มเดินไปยื่นหน้าถามมันใกล้ๆ กลิ่นดินผสมกลิ่นเหงื่อประทุเข้าจมูก

“ดีกว่ากลับไปอยู่ห้องคนเดียว” ผมเม้มปากแล้วพยักหน้า นั่นสินะ ขนาดผมอยู่บ้านหลังใหญ่โตยังเหงาขนาดนี้ แล้วมันที่อยู่ห้องสี่เหลี่ยมคนเดียวจะเหงาขนาดไหน

ถ้าในอดีตเราอาจจะอยู่คนเดียวจนชิน แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว

“เอ๊ะ! อยากอยู่ใกล้ๆผมตลอดก็บอกสิ” ผมทำลายความเศร้าซึ่งมันก็ได้ผล

“มากที่สุด”

อั้ยยะ! จากเครียดจะกลายเป็นเขินแทนแล้วนะนี่

“โอ้ย เกียร์อะ ชอบพูดตรงใจผมเกินไป ให้ผมไม่เขินสักวันจะได้ไหม” มันหัวเราะใหญ่ที่เห็นผมชักดิ้นชักงอ


ครืน ครืน..


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมยกขึ้นมาดูเป็นเบอร์แปลกที่เริ่มคุ้น แต่ผมก็ลืมว่าเป็นใครจึงกรอกเสียงไปงงๆ

“สวัสดีครับ”

‘ครับน้องไอรัก นี่พี่ภูมินะ บ้านน้องนี่ใช่รั้วสูงๆสีขาว บ้านหลังใหญ่เลขที่ XXXใช่ไหมครับ’ ผมสะดุ้งรีบมองหน้าเกียร์ทันที แต่มันกำลังขนต้นไม้ลงหลุมไม่ได้หันมาสนใจอะไร

“ใช่ครับ” รู้สึกผมจะส่งข้อความไปบอกชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ

“งั้นพี่ถึงหน้าบ้านแล้วนะครับ เอ่อ น้องไอรักช่วยบอกให้ลุงยามเปิดประตูให้พี่หน่อยได้ไหมครับ” ลุงยามผมหน้าโหดละสิถึงได้พูดเสียงกล้าๆกลัวๆแบบนั้น แต่ขนาดเกียร์มันยังเข้ามาอย่างไม่กลัวตายจนเขาชินแล้วเลยนะ

“บอกเขาว่าเป็นหมอไอซิสแล้วเข้ามาได้เลยครับ” พูดจบเกียร์หันควับมามองทันที

“เอ่อๆๆ งั้นแค่นี้นะครับ” ตัดสายทิ้งแม่งเลย คนข้างหน้าผมสำคัญกว่า ผมยิ้มแหยไปให้

มันเลิกคิ้วมองท่าทางของผม ถึงจะรู้ว่ามันเชื่อใจผมแต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าไอ้หมอมันจะเล่นพิเรนทร์อะไรให้เกียร์พิโรธหรือเปล่า เสียวๆยังไงไม่รู้

ไม่ถึงนาทีก็ได้ยินเสียงรถยนต์ยุโรปสีขาวรุ่นใหม่ขับเข้ามา เกียร์ยิ้มแสยะเหมือนคนร้ายแล้วหันไปขุดดินต่อ น่ากลัวว่ะ

“น้องไอรักครับ” นั่นไง เสียงนุ่มๆฟังแล้วเอียนหู ฟังกี่ทีก็ไม่ชินแถมขนลุกอีกต่างหาก แล้วยิ่งรอยยิ้มเลี่ยนๆนั้นอย่าให้ผมพูดเลย ขนลุกไปถึงขนหน้าแข้งเลยละ

“ครับ” ผมลุกขึ้นยืนแล้วยกมือไหว้คนที่อายุเยอะกว่า วันนี้หมอมาชุดสีเขียวอ่อนสบายตา

“บ้านสวยมากเลย อยู่กันกี่คนเหรอครับ” ผมเหล่ตาไปมองเกียร์ มันขุดหลุมไม่ได้สนใจ แต่ผมสังเกตเห็นว่ามือที่ผมพันให้เมื่อเช้ามันตึงเหมือนกำแน่นขึ้น

“ห ห้าคนครับ เอ่อเข้าไปนั่งในบ้านก่อนไหมครับ” ไปเถอะนะ อย่าให้ไอรักลำบากใจไปมากกว่านี้เลย

“พี่ขอเดินดูสวนรอบๆก่อนได้ไหมเอ่ย สวนบ้านน้องไอรักร่มรื่นดีนะ” เอาไงดีวะกู ปฏิเสธก็ไม่ได้ จะขยับออกมาอยู่ห่างๆขาเจ้ากรรมก็ก้าวแทบไม่ออก

“อ่าได้ครับ” ผมตอบอย่างจำยอม

“โห กำลังปลูกต้นไม้เหรอ สวยดีนะครับ” หมอเดินเข้าไปใกล้เกียร์แล้วยิ้มให้มัน ถ้ามึงไม่โง่พอ น่าจะรู้ว่าถ้าไม่รีบเดินออกมามึงอาจตายได้

“อ่า เกียร์ครับ พอก่อนไหม” ไม่รู้ละ ผมรีบเดินไปหยิบจอบที่มันถืออยู่แล้วจับมือมันไว้แน่น คือผมกลัวว่ามันจะเอาไปเฉาะหัวหมออย่างที่มันเคยพูดเล่นๆ(มั้ง)กับผมเมื่อคืน หมอมองงงๆแล้วเลื่อนตามามองมือที่ผมกับเกียร์กุมกันอยู่

“เอ่อนี่” หมอมองมือสลับกับหน้าผม เกียร์ยิ้มเยาะแล้วกระชากตัวผมให้ยืนซ้อนด้านหน้าคล้ายจะกอด

“แฮะๆ เกียร์นี่หมอของไอซิสนะ ส่วนหมอครับนี่เกียร์ เป็นแฟนผมเอง” หมอหน้าถอดสี เบิกตากว้างอย่างอึ้งๆ

“..แฟน” ถ้าผมไม่ได้ตาฝาด เหมือนเมื่อกี้หมอจะมีสีหน้าเจ็บปวดแวบหนึ่ง แต่ก็ฝืนยิ้มมาให้

“ครับ แฟน”

“ผู้ชายน่ะเหรอ ผม ไม่อยากจะเชื่อ” หมอพูดเสียงสั่นเบา

“เสือกเหี้ยอะไรละ” ผมแทบสะดุ้งเมื่อมันพูดเสียงเย็นและคำพูดไม่ไว้หน้าใคร อย่ามองน่ากลัวกันแบบนี้ได้ไหม ไอรักอยู่ตรงกลางกลัวจนจะฉี่ราดอยู่แล้ว ลูกๆกูไปไหนหมดวะ เวลาคับขันอย่างนี้ไม่เคยจะช่วยกูเลยสักตัว ฮื้อๆๆๆ

“หึ ดูๆแล้วก็..ธรรมดา ยิ่งคำพูดที่ออกจากปากมอมๆนั่น ผมนึกว่าคนสวนที่บ้าน..”

ปึ้ก!

เหี้ย เอาแล้วไง อย่างเกียร์ไม่ต้องมายืนด่าใคร ลงมือปฏิบัติเลยตลอดดด

“เฮ้ยนาย!...” หมอปัดดินที่เปื้อนบนเสื้อตัวเองออกแล้วจะเอ่ยปากด่าเกียร์แต่ก็ต้องชะงัก.. ผมหันไปมองก็ต้องชะงักอีกคน

สีหน้ามันน่ากลัวเกินไป

“มึงรีบลากร่างเน่าๆของมึงไปรักษาแมวกูแล้วรีบออกไปก่อนที่กูจะเอาเลือดชั่วๆของมึงออกมาประจานให้คนอื่นได้รู้ว่ามึงริอาจอยากเป็นชู้กับแฟนคนอื่น” เสียงลอดไรฟันจากคนข้างหลังทำผมตัวเกร็ง

“นายคิดว่าผมกลัวงั้นเหรอ เหอะ ดูก็รู้แล้วว่าอย่างนายก็ได้แต่ใช้กำลัง ดูแลไอรักไม่ได้หรอก” ผมรีบจับเกียร์ไม่ให้มันกระโจนเข้าใส่

“หมอ  คุณกำลังดูถูกแฟนผมอยู่นะ” ผมก็โกรธเหมือนกันที่หมอมาว่าแบบนี้

“ก็พี่ดูไม่ผิดนิครับ สภาพอย่างนี้จะไปมีอะไรมาปกป้องไอรักได้ ถ้าเป็นพี่ พี่จะทำให้น้องมีความสุขมากกว่าอยู่กับนายคนนี้แน่นอน” เกียร์ปรายตาแล้วบอกคำที่ผมอยากจะพูดมาตั้งนาน

“กูจะอ้วก”

โฮ่ง โฮ่ง แหง่ง  โฮ่ง

ลูกกูเป็นตำรวจหรือเปล่าวะมาช่วยตอนเรื่องจบตลอด ไอหมอกขู่หมอใหญ่เลย ส่วนไอแดดเอาตัวเข้ามาขวางแล้วหันไปเห่าใส่

สู้ๆเข้าลูก เป็นตำรวจพุงย้วยต้องหัดออกกำลังกายหน่อยนะ วิ่งจับผู้ร้ายไม่เคยทันสักราย


“อ้าว หมอมาแล้วเหรอคะ มาๆเข้าบ้านก่อนค่ะ เกียร์ไอรักพอก่อนลูก เข้ามาพักทานข้าวทานน้ำกันก่อน” หมอหันไปไหว้แม่ที่ตะโกนมาจากหน้าบ้าน เดินไปหาแล้วเข้าบ้านกันไป

“เกียร์”

มันเช็ดมือกับกางเกงแล้วคว้าตัวผมไปกอด

“อยากต่อยหน้าแม่งฉิบหาย”

“แล้วทำไมไม่ต่อยละครับ” ผมพูดขำๆ ขนาดผมยังไม่ชอบใจกับการกระทำหมอเลย

“เห็นแก่คนที่บ้านไอรัก ต้องทำคะแนนด้วย” โห ไอ้ขี้ประจบ

“อย่าไปทำเขาเลย โอ้ยเกียร์ เบาๆสิ” มันรัดตัวผมแน่น

“ไปห่วงมันทำไม”

“เสียงแข็งใส่กันทำไมเล่า ผมกลัวคุณติดคุกติดตารางอะสิ ผมยังไม่อยากหาข้าวไปให้แฟนในคุกหรอกนะ”

“แล้วไป”



…………………..………….........



“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” หมอหันมายิ้มตอบให้กับผมและแม่

“คุณหมอรีบไปไหนหรือเปล่าคะ ทานอาหารเย็นกันก่อนไหม” แม่! อย่าชวนเขาเลย แค่นี้ไอรักก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว อย่ามามองตาเยิ้มใส่นักได้ไหมไอ้หมอบ้า ทำไมแม่ผมถึงไม่เห็นสายตาชวนขนลุกนี้นะหรือเขาทำเป็นมองข้ามวะ ผมต้องทำเป็นมองข้ามด้วยไหม

“ขอรบกวนด้วยนะครับ” ไอ้นี่ไม่เคยจะปฏิเสธหรอก


ก๊อก ก๊อก


“อ้าวลูกเกียร์ เสร็จแล้วเหรอคะ” แม่ถามอย่างแปลกใจ เพราะปกติผมต้องเอาช้างมาร้อยเชือกเพื่อฉุดให้มันมาพักบ้างมันถึงจะยอมมา แต่นี่อยู่ดีๆก็เดินเข้าบ้านมาหากันเฉยเลย

“ยังครับ” มันตอบแล้วเดินมายืนข้างผมซะชิด

“เหนื่อยเหรอครับ” ผมเอี้ยวตัวไปถาม มันก้มลงมามองแล้วส่ายหน้า อะไรของเขานะ

“แหม อิอิ” ผมหันไปตามเสียงแม่ เห็นท่านยิ้มกรุ้มกริ่มมองพวกผมสามคน

“มีอะไรเหรอครับมาม๊า”

“เปล่าจ๊ะ เดี๋ยวมาม๊าไปเตรียมอาหารเย็นนี้ดีกว่า เกียร์ก็ใจเย็นๆกับน้องหน่อยนะคะน้องยิ่งอึนๆอยู่ อย่ารุนแรงกันละ” ผมมองอย่างไม่เข้าใจ เกียร์พยักหน้าตอบรับแล้วแม่ก็เดินออกไปจากห้อง

“ไอซิสเป็นไงบ้าง” หมอสัตว์อยู่ตรงหน้าทำไมไม่ถามละครับ หันมาถาม(ว่าที่)หมอคนทำม้ายย

“ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิเรียบร้อยแล้วครับ นอนหลับปุ๋ยเลยดูสิ” ผมจูงมือให้มันมานั่งบนพรมด้านหน้าโซฟาที่ไอซิสนอนอยู่ ยกมือลูบหัวลูกเบาๆ

“ทำเป็นหลับเพลินเลยนะมึง”

“อะไรนะครับ” มันพูดพึมพำอะไรไม่รู้ผมได้ยินไม่ถนัดจึงถามมัน

“หลับเป็นปุ๋ยเลย”

“จะบ้าเหรอเกียร์ หลับปุ๋ยต่างหากเล่า แมวนะไม่ใช่มูลสัตว์”

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”

“เกียยยร์ อย่าว่าลูกผมนะ”

“ลูกเกียร์เหมือนกัน”

“คุณเกี่ยวอะไรเล่า”

“ถ้าไอรักเป็นแม่ เกียร์ก็เป็นพ่อมัน”

“ฮื้อ บ้า พูดอะไรนี่” >////< ให้ตายเถอะ ดูมันตอบ

“น้องไอรัก” ผมหันไปมองคนข้างหลัง ชะอุ้ย ลืมไปว่าหมอยังอยู่

“ครับ?”

“ห้องน้ำอยู่ไหนเหรอ ช่วยพาพี่ไปหน่อยได้ไหม” หมอเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วถามหน้ายิ้มเหมือนปกติ

“อ๋อ ดะ.. เอ่อ ได้ครับๆ” ผมจับมือเกียร์ให้เดินตามมาด้วย

“ยังมีชีวิตอยู่เหรอวะหึ อึก” ผมเอาสอกกระทุ้งท้องมันโทษฐานทำเสียมารยาท

“สมน้ำหน้า” ไอ้หมอยิ้มเย้ยกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ถึงแล้วครับ เอาละเกียร์ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมไปส่งหมอแล้วดันหลังเกียร์ให้เดินไปอีกทาง แต่มีมือมาจับมือผมให้หยุดเสียก่อน

“รอพี่เข้าห้องน้ำแปบหนึ่งก่อนได้ไหม พี่กลัวว่าจะหลงทางน่ะน้องไอรัก”

ปึ้ก!

“จับหาพ่อมึงเหรอไอ้สัตว์!” เกียร์ผลักไหล่จนหมอเซล้มลง แล้วตะคอกด่าเสียงดัง แม่บ้านที่เดินผ่านผวาแล้วรีบเดินหนีไป

“หึ ป่าเถื่อนจริงๆ ดูไม่ออกเหรอว่าผมจับน้องไอรัก ไม่ได้จับมือพ่อสักหน่อย” ไอ้หมอลุกขึ้นมาพร้อมลอยหน้าลอยตาตอบ

“หมอ! พอเถอะครับ อย่าทำให้ผมลำบากใจไปมากกว่านี้เลย” หมอมองมาอย่างตัดพ้อ

“ลำบากใจ?.. น้องให้โอกาสพี่บ้างไม่ได้เหรอ พี่ขอแค่..” ผมพูดขัดขึ้น

“ผมขอโทษนะครับถ้าผมไปทำอะไรที่ทำให้คุณคิดว่าผมจะให้โอกาสนั้น แต่ผมไม่คิดที่จะชอบใครใหม่หรอกนะครับ ผมมีแฟนแล้ว ได้โปรดอย่ายุ่งกับผมหรือกับแฟนผมเลย ผมไม่อยากให้เขาต้องมาผิดใจเพราะเข้าใจผิดแบบนี้อีก แค่ตอนนี้เราก็รับหลายๆอย่างมากพอแล้ว”

“....”

“เลิกคิดแบบนั้นเถอะครับ มันเป็นไปไม่ได้”

“..ทำไมละ มันดีกว่าพี่ตรงไหนกัน” หมอเริ่มตาแดงมองผมอย่างฉงน

“เกียร์เป็นคนที่ผมรัก เข้าใจหรือยังละครับ”

มันจริงนิครับ เกียร์เป็นคนที่ผมรัก แม้ว่ามันจะหึงเหมือนหมาบ้า โหดเหมือนกอริลล่า หรือจะนิ่งเย็นชาเหมือนน้ำแข็งในสายตาคนอื่นแต่ผมก็รักที่มันเป็นมัน ถ้าหมอดีขนาดไหนหรือจะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกมาขอผมเป็นแฟนผมก็ไม่เอาหรอก

เพราะผมเลือกแล้ว ผมรักเกียร์

“..แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ฮ่ะๆ แย่จริงๆ”

“ความจริงหมอก็พยายามมาสักพักแล้วนิครับ แต่คำตอบของผมก็ได้บอกไปเมื่อกี้แล้ว”

“นายโชคดีนะที่น้องรักนายขนาดนี้” หมอหันไปพูดกับเกียร์ มันมองเมินไม่ได้ตอบอะไรแต่ดึงให้ผมขึ้นไปชั้นบน

“แต่นิสัยแย่ๆอย่างนาย น้องไอรักรักเข้าไปได้ไงไม่รู้” มันหันกลับไปมองหน้า คิ้วขมวดแน่น

“อย่าให้กูเจอข้างนอกนะมึง โดนแน่” ยังจะไปขู่เขาอีก หวังว่าจะไม่ถึงกับลงข่าวหน้าหนึ่งหรอกนะ

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ พวกผมก็ลงมาแต่ไม่เจอหมอแล้วละครับ ยังดีที่เมื่อกี้มีแม่บ้านบางคนที่ได้ยิน แต่พ่อแม่และพี่อุ่นไม่ได้ยินจึงไม่มีปัญหาอะไร



………….........………….........………….........…



“เกียร์ เสร็จแล้วครับ ไว้เจอกันที่บ้านนะครับ” ผมวิ่งลงจากคณะหลังจากที่ทำข้อสอบเสร็จ เจอผู้ชายร่างใหญ่หลบมุมอยู่หลังเสาเป็นที่ประจำของมัน บอกเสร็จผมก็รีบเดินไปหานายไผ่

“กลับบ้านเร็ว!” วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พ่อกำหนดไว้ ผมนั่งแทบไม่ติดตั้งแต่อยู่ในห้องสอบแล้วครับ รนจนจะบ้าอยู่แล้ว

ผมรีบเดินลงจากรถ เห็นคนอื่นนั่งเก้าอี้ในสวน เกียร์ขับมาจอดข้างผมติดๆแล้วถอดเสื้อเดินไปปลูกต้นไม้ต่อจากเมื่อวาน โอ้ยฟิตจังโว้ย หมายถึงขยันขันแข็งนะครับไม่ใช่อย่างอื่น

“เหลืออีกกี่ต้นเหรอครับ” ทำไมมีแต่ผมคนเดียวที่รนเนี่ย พ่อแม่พี่อุ่นพี่ติมยืนขำดูผมดิ้นอยู่คนเดียว แงๆๆๆ

“ทำไมไม่นับเองละครับ”

“พี่ติมอะ!” ความจริงผมเห็นละครับว่ามันเหลือแค่สองต้น แต่ผมอยากถามเท่านั้นเอง มันเหงาปากงะ

“สู้ๆนะว่าที่น้องเขย อีกไม่กี่ต้นก็จะเรียกน้องเขยได้เต็มปากแล้ว” พี่อุ่นลุกขึ้นจากเก้าอี้มาตบบ่าเกียร์ เสร็จแล้วก็เอามือที่เปื้อนเหงื่อเกียร์มาลูบหน้าผมตั้งแต่หน้าผากลงมายันปาก อึ๋ยยย อย่าสิพี่ไออุ่น! ไอรักไม่ได้รังเกียจนะ แต่กลัวว่าของจะขึ้นละสิ เดี๋ยวนี้ยิ่งเสี้ยนๆอยู่

“เหนื่อยไหมครับ” ผมหยิบพัดไม้สานสีน้ำตาลล้วนมาพัดให้มัน

“หึ”

“ขำอะไรเล่า”

“ตลก” เออออออออกูรู้ ไม่ตลกมึงไม่ขำหรอก แต่ที่มึงตลกนี่คือท่าทางกูใช่ไหม ใช่ซี๊

“ฮุ่ยเล่ฮุ่ย เอ้า ฮุ่ยเล่ฮุ่ย”

“หึหึหึ”

“จ้ำเอาๆเลยเกียร์”

“ไปเร่งเขาทำไมลูก มานั่งตรงนี้มาตัวเล็ก” แม่ตบเก้าอี้ขาวปุๆ ผมจึงจำต้องเดินคอตกไปหา

ผมนั่งไปสักพักก็ลุกขึ้นไปใกล้ๆเกียร์อีกครั้ง เหลือต้นสุดท้ายเป็นต้นใหญ่กว่าใครเพื่อนเลย มันขุดหลุมจนเสร็จแล้วก็ยกต้นไม้จนกล้ามขึ้นเป็นลูกๆ กลบเสร็จก็ทรุดนั่งพิงต้นนั้นอย่างหมดแรง

“เสร็จแล้ววววว!!!! เย้ๆๆๆ” ผมตะโกนออกมาเกือบสุดเสียงแบบไม่อายใคร คนอื่นๆหัวเราะใหญ่แต่ผมไม่สนหรอก

“แด๊ดด เกียร์ทำสำเร็จแล้วนะ ทุกคนเกียร์ทำเสร็จแล้ว” ผมยิ้มแป้นไปเกาะแขนพ่อกับแม่

“โอ้ยตัวเล็ก หยุดเขย่ามาม๊าก่อนลูก มาม๊าเห็นแล้วค่า”

“แหะๆๆๆ” แอบเห็นพวกพี่ๆยิ้มส่ายหน้าเอือมกับผม แต่ไม่รู้ละก็คนมันดีใจนี่นาทำไงได้

พ่อเดินไปหาเกียร์ที่ยังนั่งพิงต้นไม้อยู่ที่เดิม ดูท่าจะเหนื่อยมากเลยละ หน้ามันนิ่งแต่มุมปากมันกดยิ้มเหมือนคนมีความสุขไม่ต่างกับผม เอ่อ แต่อาจจะต่างเพราะผมยิ้มกว้างมากกก กว้างจนหน้าเมื่อยไปหมดแต่ก็ยังยิ้มสู้!

“เก่งเหมือนกันนิ” พ่อพูดแล้วเผยยิ้มออกมาให้เกียร์ พลอยให้ผมกับเกียร์ยิ้มตามไปด้วย ผมยื่นผ้าขนหนูไปให้แล้วนั่งลงข้างมัน

“ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ภายหน้านายจะต้องเจอกับแรงกดดันมากกว่านี้ ความจริงฉันไม่ได้อยากจะขัดความรักของลูกนักหรอก แต่ฉันอยากรู้ว่านายจะดูแลเขาได้จริงๆหรือเปล่า ฉันคิดว่าถ้าแค่นี้นายยังปกป้องความรักเอาไว้ไม่ได้ก็อย่าคิดที่จะมีมันซะ แต่วันนี้นายก็ทำให้รู้ว่าฉันสามารถฝากฝังลูกฉันกับนายได้ ที่ฉันให้ทำคือบททดสอบก้าวแรกของทั้งสองคน หวังว่าหลังจากนี้จะไม่ทำให้ฉันผิดหวังแล้วกัน”

“หมายความว่าแด๊ดยอมรับเกียร์แล้วใช่ไหมครับ” ผมพูดเสียงตื่นเต้น

“อืม” พ่อพยักหน้าแล้วจับผมลุกขึ้น ก่อนจะยื่นมือไปให้เกียร์ มันมองครู่หนึ่งแล้วเอื้อมจับมือพ่อก่อนจะลุกขึ้น

“งั้นเราไปเลี้ยงฉลองกันไหมคะ” แม่พูดขึ้น ตื่นเต้นไม่แพ้กัน

“ดีเลยครับมาม๊า!”

“แล้วพาไอรักไปไหว้พ่อแม่นายหรือยังละ” พ่อหันไปถามเกียร์

“พาไปแล้วครับ”

“มีปัญหาอะไรไหม เขารับได้นะ?” เกียร์พยักหน้าแล้วตอบ

“ครับ”

“ชวนพ่อแม่เกียร์มาด้วยสิ แด๊ดอยากรู้จัก” ผมกับเกียร์มองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา พ่อเปลี่ยนมาเรียกสรรพนามที่ใกล้ชิดขึ้นกว่าเดิมแล้วยังอยากรู้จักพ่อแม่เกียร์ด้วย

มีความสุขชะมัดให้ตายสิ!


TBC---------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+หมอกสีเทาเคลื่อนตัวออกไปสักทีเล่นเอาโซ่แต่งไปเหงื่อแตกไป โซ่ไม่อยากให้เครียดกันเลยรวบยอดลงทีเดียวยาวๆไปเลย เรื่องนี้มาม่าไม่อยากกินค่ะ เราต้องกินไข่ลูกเขยเท่านั้น! กร๊ากกกกกกกกกก
+พรุ่งนี้หยุดเรียนทำอะไรกันดี ว่าจะไปสยาม หรือจะไปเซ็นลาดดี(ใกล้บ้านอะไม่ใช่อะไร ฮ่าา) ใครมีแผนจะไปที่ไหนก็ส่งเสียงหน่อยนะจ๊ะ

โซ่ :z13:ทุกคน (อะเจ้ย)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทางที่ดี อยู่หน้าจอแต่งนิยายให้เราอ่านดีที่สุดคะ  o11 o11 o11

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เย้ สำเร็จแล้ว
เกียร์หื่นอะ ปลูกเสร็จนี่ไอรักไม่ฟ้าเหลืองเลยเรอะ 55555

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
เย้ เย้ คุณแด๊ดยอมรับเกียร์แล้ว

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
เย้ๆๆๆ  :m3: ดีใจกับเกียร์และไอรักด้วยคน  แด๊ดน่ารักที่สุด กอดแด๊ดหนึ่งที  :กอด1:
บททดสอบของแด๊ด ก็เพราะรักและห่วงไอรักมาก ๆ นั่นแหละน้า
แถมให้คำสอนดี ๆ กับลูกเขยหมาด ๆ อีก เท่ห์มากเลยค่ะแด๊ด
กลับมาเป็นครอบครัวสุขสันต์กันซะที ฟ้าสว่างสดใส เมฆหมอกอึมครึมหายไปแล้วน้า
สองครอบครัวมาเจอกัน คงสนุกสนานเฮฮาน่าดู มีความสุขไปกับไอรักด้วยเลย
ดีจริงที่โซ่ก็ไม่อยากกินมาม่าเหมือนคนอ่านเลย จุ๊บทีนึง  :mew1:
รอตอนต่อไปจ้ะ เรื่องนี้น่่ารักมากมาย ขอบคุณ โซ่ จ้ะ  :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด