นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า  (อ่าน 75119 ครั้ง)

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
อ่านแฃ้วติดพันมากกกเงื่อนงำเยอะเหลือเกินเรื่องนี้

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เพิ่งรู้ว่าเสี่ยวหลงก็ปากร้ายใช่ย่อยเหมือนกันนะเนี่ย :laugh:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
แหม......แม่เหนียงช่างกล้านะยะหล่อน

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่17



ในที่สุดค่ำคืนก็มาเยือน หลังจากหาที่พักเหมาะๆกับก่อกองไฟเรียบร้อยแล้ว พวกเขาสามคนก็นั่งล้อมวงรอบกองไฟเสี่ยวหลงยังคงเป็นเสี่ยวหลง เด็กน้อยไม่ยอมหลับนอนง่ายๆชวนเขาคุยเรื่องนี่นั้นไปเรื่อยเปื่อย ปกติก็วุ่นวายมากอยู่แล้วตอนนี้กลับมีอู่เม่ยเหนียงร่วมวงด้วยยิ่งทำให้บรรยากาศรอบตัวครึกครื้นจนเกินความจำเป็น



“พี่ใหญ่กับเสี่ยวหลงเป็นพี่น้องกันหรือ ทำไมข้ารู้สึกว่าพวกท่านสองคนหน้าตาไม่คล้ายกันเลย”

ถ้าเป็นคำถามประมาณนี้เสวี่ยหมิงย่อมสามารถตอบได้ ดังนั้นจึงบอกความจริงไปไม่ปิดบัง



“ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เป็นเด็กน้อยนี่เองที่ต้องการให้ข้าเป็นพี่ของมัน” ตอนนี้เองที่เสี่ยวหลงส่งเสียงประท้วงหงุงหงิง



“พี่ใหญ่อ่า ท่านจะบอกว่าท่านไม่อยากมีข้าเป็นน้องอย่างนั้นหรือ”



ท่าทางกระเง้ากระงอดแสนดัดจริตชวนให้หมั่นไส้ยิ่งนัก เสวี่ยหมิงจะว่าเหนื่อยก็เหนื่อย เขาอ่อนล้าพอดูที่ต้องรับมือกับสองเด็กน้อยมาทั้งวัน ดังนั้นจึงไม่มีอารมณ์จะแกล้งหยอกเย้าเสียเท่าใด



“เฮ้อ...ข้ามีทางเลือกด้วยหรือ”



“พี่ใหญ่คะ แล้วพี่ใหญ่กับเสี่ยวหลงพบเจอร่วมเดินทางกันด้วยเพราะเหตุใดคะ”



“แหม ก็ต้องเป็นเพราะพี่ใหญ่ตกหลุมรักข้าตั้งแต่แรกพบนะสิ”



เสี่ยวหลงรี่ตีสีใส่ไข่ เม่ยเหนียงทำหน้าพะอืดพะอมบอกชัดว่าไม่เชื่อง่ายๆ ในขณะเดียวกันเสวี่ยหมิงก็ซัดมะเหงกลงกลางกบาลของมันตูมใหญ่ เสี่ยวหลงลูบบริเวณที่ถูกตีพลางแสร้งทำน้ำตาตก



“อย่าได้เชื่อวาจาจากปากสุนัขไม่ เราพบเด็กน้อยนี่ที่เมืองตงถิง ตามจริงเราแค่ให้ซาลาเปาเพียงจำนวนหนึ่ง ไม่คาดว่าเป็นกรรมของข้าเด็กน้อยนี่ตามติดไม่ลดละทำให้ข้าต้องรับผิดชอบรับมาไว้ข้างตัวทั้งยังต้องตามหาบิดาให้มันด้วย”



“พี่ใหญ่อ่า ไม่ใช่เพราะว่าท่านหลงใหลในตัวข้าหรอกหรือ” เสี่ยวหลงจีบปากจีบคอ ดูท่าจะไม่หยุดเหลวไหลง่ายๆ



“โธ่เอ๊ย ที่แท้เจ้าก็ไม่ต่างจากข้า”



เม่ยเหนียงหัวเราะคิกคิก ที่แท้แล้วพี่ชายท่านนี้ก็เป็นพวกใจอ่อนชอบช่วยเหลือนับว่านางเลือกเข้ามาพัวพันได้ถูกคนจริงๆ นอกจากนั้นนางยังถูกใจพี่ชายท่านนี้อย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าเพราะอะไรนางจึงรู้สึกเช่นนี้กับคนแปลกหน้า ไม่สิอาจเป็นเพราะประทับใจในตอนที่ถูกช่วยในครั้งแรก นอกจากนั้นทั้งที่นางถือวิสาสะตามมาอย่างเอาแต่ใจ พี่ใหญ่คนนี้ยังยื่นมือช่วยนางทั้งที่ไม่จำเลยอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้นางจึงเกิดความคิดที่อยากชิดใกล้สนิทสนมกับพี่ใหญ่ให้มากยิ่งขึ้น



ตามจริงแล้วหากว่านางอยากหนีให้พ้นจากปัญหาของนาง นางย่อมต้องหลบหนีทั้งหลบซ่อนตามลำพังให้แนบเนียนที่สุด แต่เพราะเกิดติดใจในตัวพี่ใหญ่ผู้นี้เสียแล้ว นางจึงใช้ตั๋วเงินว่าจ้างหวังว่าจะได้ใกล้ชิดกันขึ้นอีกนิด ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่นานจะต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง



“ย่อมต้องแตกต่างอยู่แล้วเม่ยเหนียง เพราะข้าเป็นผู้เดียวที่ได้นอนก่ายกอดพี่ใหญ่ทุกค่ำคืน” เสี่ยวหลงกล่าววาจาวางโต เนื้อหาคำพูดที่ชวนให้อับอายเช่นนี้เสวี่ยหมิงยอมรับว่าอยากทุบตีมันเสียหลายๆที



“พี่ใหญ่ท่านกับเสี่ยวหลงคบหากันเป็นคู่รักหรือคะ”



ตามจริงแล้วนางหาได้แปลกใจไม่ นับตั้งแต่เล็กจนเติบโตมาถึงขนาดนี้ นางได้ออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ พบผู้คนมาก็มาก แค่บุรุษรักชอบบุรุษด้วยกัน นางเห็นมาหลายคู่จนชาชิน ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกรังเกียจ ทั้งยังเกิดความสนใจในชีวิตรักของเสี่ยวหลงกับพี่ใหญ่



“เฮ้อ...เสียดายที่ยังไม่ใช่เช่นนั้น พี่ใหญ่กับข้าเรายังไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ กล่าวคือมีเพียงข้าคนเดียวที่กระตือรือร้นจะสานสัมพันธ์”



เสี่ยวหลงยักไหล่ นับว่าปากสุนัขยังกล่าวเรื่องเท็จจริงได้ไม่มากก็น้อย เสวี่ยหมิงที่ปากคอสั่นเทาในคราแรกด้วยความอับอาย กลับมากล่าววาจาต่อได้อีกครั้ง



“เด็กน้อยนี่น่าตายนัก ชอบนอนละเมอก่ายกอดข้าจนถึงเช้า เม่ยเหนียงเจ้ามีวิธีแก้ไขบ้างหรือไม่”

เม่ยเหนียงหัวเราะเสียงใส ใบหน้าเจ้าเล่ห์แสนกล บอกได้เลยว่าเสี่ยวหลงไม่ชอบซักนิด คิดจะเล่นงานมันอย่างนั้นหรืออย่าได้หวังว่ามันจะยอมง่ายๆ



“จับมัดไว้ทั้งคืนดีหรือไม่พี่ใหญ่ สมัยข้ายังเป็นเด็กคนในบ้านข้าก็ชอบละเมอเดิน พวกข้าเลยจับมัดเอาไว้ทั้งคืนมิให้ออกไปปเดินเตร่จนเกิดอันตราย”



“น่าสนใจยิ่ง ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวหลงคืนนี้ลองนอนทั้งถูกมัดเป็นอย่างไร”



 เสวี่ยหมิงยอมรับว่ากำลังล้างแค้นเสี่ยวหลงที่พูดจาเลอะเทอะให้เขาได้อาย นอกจากนั้นยังเกรงว่าเด็กน้อยนี่จะเข้ามาก่ายกอดเขาตลอดคืนจนเช้าให้เม่ยเหนียงดูตำตา หากไม่มีผู้พบเห็นยังทำใจได้ แต่ถ้าต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นเห็นจะยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้



“พี่ใหญ่ให้ข้ามัดเสี่ยวหลงให้เองเถอะค่ะ” เม่ยเหนียงขานอาสา เสี่ยวหลงฮึ่มแฮ่แสดงท่าทางข่มขู่อย่างโจ่งแจ้ง



“ลองเข้ามาสิ ข้าจะจูบเจ้าเสียให้เข็ด” เสี่ยวหลงถูมือไปมาแล้วหัวเราะฮิฮะ ท่าทางเจ้าชู้ยักษ์แบบนี้ เม่ยเหนียงขยาดเล็กน้อยจนต้องหันไปฟ้องพี่ใหญ่



“พี่ใหญ่เขาคิดลวนลามข้า”



“ถ้าเจ้าไม่เข้ามาเชิญชวนใครจะกล้าลวนลาม” เสี่ยวหลงทำปากจู่แล้วส่งเสียงจุ๊บๆๆ สองมือทำท่าขยำขยี้คล้ายตาเฒ่าลามกก็ไม่ปาน แน่จริงก็เข้ามาสิข้าจะลงโทษเสียให้หนำใจไม่ไว้หน้าแม้กระทั่งพี่ใหญ่ของมันอย่างแน่นอน



“เสี่ยวหลงอยู่นิ่งๆนะห้ามขยับ” คำประกาศิตจากพี่ใหญ่ทำให้มันไม่กล้าขัดขืน แน่ล่ะมันไม่อยากขัดใจพี่ใหญ่ของมัน ดังนั้นจึงได้แต่เข้นเขี้ยวมองดูให้เด็กหญิงจับมันมัดเป็นบ๊ะจ่าง เอาเถอะอย่างน้อยตอนนี้มันก็ถูกจัดวางให้นอนเคียงข้างพี่ใหญ่



“พี่ใหญ่โหดร้าย” มันแสร้งทำกระซิกกระซิก ทว่าพี่ใหญ่กับเม่ยเหนียงหาได้สนใจมันไม่ ทั้งสองต่างพากันเข้านอน เสี่ยวหลงนอนตาโพลงรอคอยให้คนทั้งคู่หลับลึก จึงเริ่มต้นวางแผนการ



คิดหรือว่าเชือกแค่นี้พันธนาการมันเอาไว้ได้ เสี่ยวหลงแค่ใช้ลูกไม้เล็กน้อยก็สามารถแก้เชือกที่เม่ยเหนียงมัดได้จนหมด ทว่าครานี้มันจะแสร้งทำเป็นแก้ไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากพี่ใหญ่ ดูสิว่าคนใจร้ายจะทนต่อลูกอ้อนของมันไหวหรือไม่



เสวี่ยหมิงลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ เมื่อตื่นขึ้นก็พบว่าเสี่ยวหลงนอนขดอิงแอบเขาทั้งที่ถูกมัดอย่างน่าสงสาร ดูจากคิ้วที่ขมวดเข้าหากันทั้งที่ยังหลับคาดว่าคงผ่านค่ำคืนมาอันทรมานไม่มากก็น้อย



เสวี่ยหมิงไล่มองไปตามจุดที่ถูกมัดอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขาพบว่าข้อมือของเสี่ยวหลงมีรอยช้ำจากการมัด เม่ยเหนียงคงรัดเชือกแน่นไปหน่อยกระมัง เกิดเป็นรอยแผลเช่นนี้ คิดแล้วก็สงสารทั้งยังรู้สึกผิด ดังนั้นจึงรีบแก้มัดให้เสี่ยวหลงอย่างเบามือ



“พี่ใหญ่ใจร้าย” ระหว่างที่แก้มัดเสี่ยวหลงก็ละเมอตัดพ้อเขา ยิ่งตอกย้ำให้เสวี่ยหมิงรู้สึกผิดมากขึ้น



“พี่ใหญ่ขอโทษนะเสี่ยวหลง” เสวี่ยหมิงกระซิบเสียงแผ่ว พอแก้มัดออกหมด ก็ใช้มือลูบหัวเด็กน้อยเบาก่อนกล่าววาจาอ่อนโยนปลุกให้มันตื่นขึ้นจากการหลับไหล



“เสี่ยวหลงตื่นเถิด เช้าแล้ว”



“พี่ใหญ่....” เสี่ยวหลงตื่นจนได้ เด็กน้อยยิ้มหวานให้เขาทั้งสะลึมสะลือ



“เอ๊ะ...พี่ใหญ่แก้มัดข้าแล้วรึ” เสี่ยวหลงทำหน้างงงันแต่ไม่นานนักก็ยิ้มกว้างออกมา ท่าทางไม่ถือโทษโกรธแม้เพียงนิด นอกจากจะทั้งน่ารักน่าสงสารยังทำให้เสวี่ยหมิงนึกไม่ให้อภัยตัวเองขึ้นมา



“เสี่ยวหลงพี่ใหญ่ทำเกินไปหน่อย เจ้าอย่าได้ถือโทษโกรธพี่เลยนะ”



“ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่คงรำคาญที่ข้าละเมอกอดท่านอยู่ทุกค่ำคืนข้าไม่โทษท่านหรอก”

 เสี่ยวหลงไม่เพียงไม่โกรธเท่านั้นแต่ยังแสดงออกถึงความเข้าอกเข้าใจ นั่นยิ่งทำให้เสวี่ยหมิงย่ำแย่ หากเด็กน้อยนี่ตัดพ้อมาซักนิดเขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้มาก



“พี่ใหญ่ท่านลูบหัวข้าที่สิ คืนนี้ทั้งคืนข้ารู้สึกหวาดกลัวมาก ท่านช่วยปลอบขวัญข้าทีนะ” เสี่ยวหลงยื่นศีรษะกลมทุยมายังเบื้องหน้าทั้งยังหลับตาพริ้ม เสวี่ยหมิงหากว่าทำให้มันดีใจได้บ้างก็ไม่คิดที่จะขัดใจ



เสวี่ยหมิงลูบมือลงไปบนศีรษะของเสี่ยวหลงแผ่วเบา เด็กน้อยหลับตาดื่มด่ำไปกับฝ่ามือของเขา ไม่นานนักเขาก็อดใจไม่ได้ที่จะไล้มือไปยังแก้มนิ่มของเสี่ยวหลง เด็กน้อยคลอเคลียมือของเขาด้วยการถูไถใบหน้าไปมากับมือเบาๆทั้งยังเอนหน้าซบลงบนฝ่ามือส่งสายตาหวานซึ้งกินใจมาให้



เหตุใดจึงมองเขาด้วยสายตาเช่นนี้นะ ทันทีที่คิดเช่นนั้นหัวใจของเสวี่ยหมิงก็กระตุกสั่น ใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ การที่เขาเป็นเช่นนี้มิใช่เกิดความรู้สึกบางอย่างต่อเด็กน้อยนี่หรอกหรือ



ทั้งๆที่กังวลต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน แต่ร่างกายเจ้ากรรมกับไม่ฟังความคิด มือของเขายังคงลูบไล้แก้มนิ่มของเสี่ยวหลงอยู่เช่นเดิม จิตใจเผลอไผลไปกับรอยยิ้มยั่วยวนของเด็กน้อยจนไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก



กระนั้นใช่ว่าจะเคลิบเคลิ้มหลงใหลได้นาน เมื่อเม่ยเหนียงพลิกตัวเล็กน้อยและมีทีท่าว่าจะตื่น เสวี่ยหมิงก็ผละมือออกแทบไม่ทัน เสี่ยวหลงได้แต่บิดปากอย่างเสียดาย มันกำลังรุกคืบเข้าหาพี่ใหญ่อยู่แท้ๆ ดันมีตัวมารมาขัดความสุขเสียได้



“พวกท่านตื่นกันแล้วหรือ” เม่ยเหนียงบิดขี้เกียจไปมา นางช่างกระฉับกระเฉงนักเมื่อตาสว่างก็ลุกขึ้นจัดแจงอาสาไปหาฟื้นมาหุงหาอาหารแทบจะในทันที



“ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวหลงไปเป็นเพื่อนเม่ยเหนียงนะ ข้าจะไปหาปลาที่แม่น้ำใกล้ๆนี่”



หลังจากจัดแจงหน้าที่กันเรียบร้อย พวกเขาก็พากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ เสวี่ยหมิงยังไม่อาจสลัดภาพรอยยิ้มของเสี่ยวหลงไปจากใจได้ เหตุใดเจ้าถึงได้ยิ้มยั่วยวนกวนราคะข้าถึงเพียงนั้นนะเจ้าเด็กบ้า



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



เฉลยเกี่ยวกับเม่ยเหนียงนิดหน่อย 5555555



ชื่อนาง555555 เราดูบูเซ็คเทียนแล้วชอบชื่อนี้ อย่าล้อมากนะอายยยย 55555



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
เสี่ยวหลงนี่มารยาเยอะจิงๆ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :z2: เม่ยเหนียงแน่ใจแล้วรึที่จะมาสู้กับหลงน้อย(?)  :hao7: มารยาหญิงกับมารยาชาย(!?) อะไรจะเหนือกว่า???  :laugh:  o17

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
หลงๆเอ็งแรดยกกำลัง10เล๊ยยยย

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
มาต่ออย่างไวเลยทันใจมาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสี่ยวหลง เสวี่ยหมิง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เสวี่ยหมิงเริ่มหวั่นไหวแล้ววว :katai5:

ออฟไลน์ game6969

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นกำลังใจให้ยุแล้วคัฟ สู้ๆนะคัฟ รออ่านตอนต่อไปยุนะคัฟ

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
เสี่ยวหลงงงงง มารยาจริงๆ  :hao7:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
มายานี้..ตาเฒ่าจูก็สอนเจ้าด้วยหรือเสี่ยวหลง ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
นี่ ๆ ๆ เสี่ยวหลง "กวนราคะ" ล่ะ ไม่ใช่ "กวนประสาท"
ว้าย ๆ ๆ

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่18



หลังจากพี่ใหญ่ของมันใช้ให้มาช่วยอู่เม่ยเหนียงเก็บฟื้นมาทำเชื้อเพลิง มันกับเด็กหญิงก็พากันเดินหาทิ้งระยะห่างจากพี่ใหญ่ของมันมาไกลโข ระหว่างที่ช่วยกันหาสิ่งที่ต้องการอยู่นั้นจู่ๆอู่เม่ยเหนียงก็เปิดบทสนทนาหลังจากต่างคนต่างเงียบอยู่นาน



“เจ้าชอบพี่ใหญ่หรือเสี่ยวหลง”



“แน่นอน” มันตอบไปตามตรงไม่ได้คิดจะปิดบังแต่อย่างใด



“ก็น่าจะมีหวังอยู่หรอก พี่ใหญ่เองก็ดูมีใจให้เจ้าอยู่นะ”



“เมื่อเช้าเจ้าตื่นอยู่สินะ” สิ่งที่มันคาดไว้ไม่ผิด เม่ยเหนียงเผยยิ้มเจ้าเล่ห์เพทุบาย



“ข้าเองก็นอนอยู่ไม่ไกล นอกจากเจ้ากับพี่ใหญ่จะสนทนาเสียงดัง บรรยากาศร้อนระอุยังประทุจนข้าทนนอนแทบไม่ไหว”



 เม่ยเหนียงหัวเราะคิกๆ การที่นางไม่แสดงที่ท่ารังเกียจหรือไม่พอใจ เสี่ยวหลงอนุมาณเอาว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้คิดแย่งชิงพี่ใหญ่กับมัน นับว่าเด็กหญิงนี้ทำถูกต้องแล้ว คนอย่างมันมีหรือจะยอมให้คู่แข่งมาลอยหน้าลอยตาแม้แต่จะเป็นสตรีก็ตาม



“ถ้าเจ้าสมหวังก็ดีนะ”



เม่ยเหนียงกล่าวขณะก้มลงเก็บกิ่งไม้แห่ง เสี่ยวหลงไม่คาดว่าจะได้รับคำอวยพรจากเด็กหญิงที่เพิ่งพบกันแค่ไม่กี่วัน กระนั้นมันรู้สึกชอบรอยยิ้มปราศจากการปั้นแต่งยามกล่าวคำนั้นออกมา



โอ....ถ้าเป็นแผนการก็นับว่าเด็กหญิงนี่เล่นละครได้ถูกบท มันยอมรับว่ารู้สึกดีกับนางมากขึ้น แต่ใช่ว่าจะไม่ระแวงที่มาที่ไปของนาง ไม่ว่าจะเป็นการโผล่มาอย่างกะทันหันก็ดี การตามติดอย่างหน้าด้านก็ดี ล้วนเป็นเรื่องราวที่ไม่ปกติธรรมดา



 เฮอะ ก็หวังว่าเจ้าจะไม่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้พวกเราพี่น้องมากไปกว่านี้ก็แล้วกัน



หลังจากนั้นต่างคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เม่ยเหนียงรู้สึกได้โดยสัญชาติญาณว่าเสี่ยวหลงไม่ชอบนางอาจจะเพราะว่าเกรงนางจะแย่งความรักไปจากพี่ใหญ่ นอกจากนั้นนางเข้าใจดีการปรากฏตัวแบบมีพิรุธของตนเองใครๆก็คงไม่ไว้ใจ มีแต่พี่ใหญ่เสวี่ยหมิงนี่แหละที่ยอมรับสภาพของนางง่ายๆ ข้อนี้ทำให้นางประทับใจอย่างยิ่ง



เมื่อเสี่ยวหลงและเม่ยเหนียงกลับมาพร้อมฟืน เสวี่ยหมิงที่มีทั้งปลาและกระต่ายก็ทำการจุดไฟเพื่อปรุงอาหารก่อนจะเริ่มออกเดินทางอีกครั้งในตอนที่รับประทานมื้อเช้าจนอิ่มหนำกันทุกคนแล้ว



การเดินทางเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เสวี่ยหมิงนำพาเด็กน้อยทั้งสองข้ามทุ่งหญ้ามาจนถึงสถานที่หนึ่ง ที่นั่นมีแปลงผักสวนดอกไม้และบ้านหลังเล็กๆอยู่ไม่ห่างไปนัก



“ว้าวดอกไม้สวยเหลือเกินค่ะพี่ใหญ่” เม่ยเหนียงชี้ชวนให้เขาดู นางไม่รอช้าเกี่ยวแขนลากเขาไปดูใกล้ๆ



“เหมาะกับข้าไหมคะ” เม่ยเหนียงเด็ดดอกไม้มาทัดหูตามใจชอบ ดอกไม้กับอิสตรีเป็นของคู่กันโดยเฉพาะกับเม่ยเหนียงที่มีความงามโดดเด่นยิ่งส่งเสริมรูปโฉมนางให้ดูกระจ่างตากว่าเดิม



“พี่ใหญ่ๆ เหมาะกับข้าไหม”



เสี่ยวหลงเลียนแบบเม่ยเหนียงแทบจะในทันที ดูก็รู้แล้วว่ากำลังล้อเลียนเม่ยเหนียงและเรียกร้องความสนใจจากเขา ยิ่งมันบิดตัวไปมาแสดงท่าทางเขินอายยามที่เขาปรายตาไปมอง กับเม่ยเหนียงที่ชัดแจ้งว่าตนถูกล้อเลียนนางถึงกับขยี้เท้าไปมาแล้วเบ้ปาก แต่เขานี่สิคาดไม่ถึงจริงๆที่แอบคิดว่าท่าทางอันเต็มไปด้วยจริตจะก้านนี่ช่างน่ารักเหลือเกิน

       

        “ใช่เจ้าน่ารักมาก”



เผลอกล่าวชมออกไปตามใจคิด ตอนนี้เองที่เม่ยเหนียงดวงตาเบิกกว้าง นางทำสีหน้าเอือมระอา ที่นางทำเช่นนั้นเพราะเสี่ยวหลงยิ้มกว้างตรงเข้ามาออดอ้อนออเซาะด้วยการกอดแขนแล้วถูไถใบหน้าลงมาบนแขนของเขา



“พี่ใหญ่ไม่ได้เอ่ยนามซักนิดอย่าได้หลงตัวว่าพี่ใหญ่ชมเจ้า”



 เม่ยเหนียงเท้าเอวไม่ยอมแพ้ นางไม่ยอมแพ้เสี่ยวหลงเรื่องความงามอย่างเด็ดขาด ยิ่งเสี่ยวหลงทำสีหน้าเหนือกว่าทั้งยังแลบลิ้นปริ้นตา นางพลันรู้สึกเหมือนมีกองรบลั่นอยู่ในใจ



“พี่ใหญ่ ท่านไม่ได้ชมเสี่ยวหลงใช่หรือไม่ ท่านชมข้าสินะ”



ถูกเม่ยเหนียงเขย่าแขนไปมา เสวี่ยหมิงคิดว่าตนทำในสิ่งที่ผิดผลาดมากไปเสียแล้ว ได้แต่ยิ้มแห้งๆอยู่ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุระหว่างเสี่ยวหลงและเม่ยเหนียง



ขณะที่อยู่ในช่วงวิกฤตินั้นเอง ตรงหน้าเขาพบชายสามคนกำลังฉุดลากเด็กสาวชาวบ้านมาตามทาง เด็กสาวผู้นั้นพอเห็นเขาก็ขอร้องให้ช่วยทั้งน้ำตานองหน้า



“คุณชายช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ”



“อย่าเข้ามายุ่งนะ เจ้าคนแปลกหน้า เด็กสาวนี่เป็นของท่านเหลยเฟิง มือขวาของรักษาการณ์พรรคมังกรพิโรธหลงเยี่ยอิ่ง อย่าเข้ามาสอดจะดีกว่าถ้าไม่อยากมีปัญหากับพรรคมังกรพิโรธอันยิ่งใหญ่”



เสวี่ยหมิงขมวดคิ้วเข้าหากัน หลงเยี่ยอิ่งนี่คือศิษย์พี่รองไม่ผิด คราวก่อนที่มีเรื่องกับเยิ่นเสียนฉีก็เป็นคนของศิษย์พี่รอง ครานี้คนพวกนี้ก็เป็นคนของศิษย์พี่รองเช่นเดียวกัน



ใจหนึ่งไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวให้ตัวตนเปิดเผยสร้างความบาดหมางกับศิษย์อาจารย์เดียวกัน แต่เห็นเด็กสาวร่ำไห้น้ำตาเป็นสายทำให้เขาไม่อาจทนดูดายได้



“นางเหมือนไม่เต็มใจไปกับท่าน แน่ใจหรือว่านางเป็นคนของท่านเหลยเฟิง” เสวี่ยหมิงถาม



“เพ้ย เจ้าอย่าได้สอดนางผู้นี้ติดหนี้นายท่านของเรา ย่อมต้องตามไปเป็นวัวใช้จนกว่าจะหมดหนี้”

หนึ่งในสามลูกน้องของเหลยเฟิงขู่ตะคอก ตอนนี้พวกมันมองมาด้วยแววตาไม่เป็นมิตร พร้อมจะต่อยตีกับเสวี่ยหมิงได้ทุกเมื่อ



“ไม่จริงเลยเจ้าค่ะคุณชาย คนพวกนี้ฉุดคร่าหญิงสาวมากมายไปจากบ้านเพื่อนำไปให้คนชั่วเหลยเฟิง คุณชายช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ”



“หุบปากนางแพศยา” กล่าวจบหนึ่งในชายทั้งสามก็ตบหน้าเด็กสาวเคราะห์ร้ายฉาดใหญ่ ไม่คาดว่าคนที่ขยับไปก่อนเขาจะกลายเป็นอู่เม่ยเหนียง นางกระโจนเข้าไปต่อยตีกับชายสามคนอย่างไม่กลัวเกรง



“นางก็มีฝีมือเหมือนกันนะพี่ใหญ่” เสี่ยวหลงเอ่ยชม เนื่องจากว่าถึงแม้จะสามรุมหนึ่งแต่เม่ยเหนียงก็หาได้เพลี่ยงพล้ำไม่



“ยังมีหน้ามาลอยหน้าลอยตาอีก รีบไปช่วยเม่ยเหนี่ยงจัดการสิ”



 ต้องรอให้กระตุ้นเร้าเสี่ยวหลงถึงจะยอมลงมือตามจริงมันแค่แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ ทว่าภายในที่นี้คงไม่มีใครอยากรู้เรื่องของเหลยเฟิงมือขวาของหลงเยี่ยอิ่งตัวปลอมไปมากกว่ามันอีกแล้ว มันช่างน่าบัดซบนัก ตอนนี้มันได้แต่ต้องอยู่เฉยปล่อยให้ผู้อื่นแอบอ้างชื่อของมันไปทำเรื่องที่ไม่เห็นชอบมากมายเยี่ยงนี้



“พวกแกอย่าคิดนะว่า ว่าเรื่องมันจะจบลงง่ายๆ” พวกมันล่าถอยพร้อมกับฝากรอยแค้นหลังจากที่ถูกเสี่ยวหลงและเม่ยเหนียงจัดการจนราบคาบ



“อย่ากลับมาอีกนะไอ้พวกสวะ”



ท่าทางดุดันด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวของเม่ยเหนียงไม่คลาดจากสายตาของเสวี่ยหมิงและเสี่ยวหลง ทั้งคู่ครุ่นคิดว่าเหตุใดนางจึงมีความรู้สึกร่วมกับการถูกรังแกของเด็กสาวแปลกหน้าถึงเพียงนี้ นางเป็นผู้มีคุณธรรมล้ำลึกถึงขั้นนั้นเชียวหรือ เสวี่ยหมิงคาดว่าเม่ยเหนียงอาจมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งก็อาจเป็นได้



“ขอบคุณทุกท่านมากเจ้าค่ะ ถ้าอย่างไรไปดื่มชาที่บ้านของข้าก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ”



เสวี่ยหมิงรับคำทันที ถ้าเป็นไปได้อยากจะสืบหาตัวตนของศิษย์พี่หลงเยี่ยอิ่งดูซักหน่อย จากเหตุการณ์ครานี้และเหตุการณ์ของเยิ่นเสียนฉี เขาคาดว่าศิษย์พี่ผู้นี้คงมิใช่คนดี ทำให้นึกถึงวาจาของอาจารย์ที่ว่าหลงเยี่ยอิ่งมีนิสัยค่อนไปทางร้ายและเจ้าเล่ห์เจ้ากลมากที่สุดคนหนึ่ง



เมื่อตัดสินใจจะไปตามคำเชิญ เสวี่ยหมิงกับพรรคพวกก็เดินไล่หลังเด็กสาวชาวบ้านไปนางมีชื่อว่าอาเจิน พวกเขาเดินติดอาเจินไปได้ไม่นานนักก็พบว่ามีชายผู้หนึ่งนอนสลบอยู่ที่หน้าบ้าน ลักษณะคล้ายถูกทำร้ายโดยการเอาไม้ฟาดหัวเพราะมีเลือดไหลออกจากที่ตรงนั้นมาจนถึงขมับ



“ท่านพ่อ” อาเจินรีบเข้าไปดูอาการชายผู้นั้น เสวี่ยหมิงไม่รอช้าตรงเข้าไปช้อนอุ้ม



“บ้านของเจ้าคือหลังนี้ใช่หรือไม่”



 อาเจินพยักหน้า เสวี่ยหมิงพาคนเจ็บเข้าไปในบ้านโดยมีอาเจินนำทางไปจนถึงเตียง ถึงแม้มีเรื่องหลายเรื่องที่จะถามแต่ต้องอดใจรอจนกว่าอาเจินจะปฐมพยาบาลผู้เป็นพ่อเสร็จ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยนางก็นำชามาต้อนรับขับสู้พวกเขา



“ต้องขออภัยที่เรามีแต่ชาถูกๆนะเจ้าคะ”



“ไม่เป็นไรหรอกแม่นางเจินชากานี้ก็ชุ่มคอดี” เม่ยเหนียงกล่าวหลังจากจิบชาจนหมดถ้วย เสวี่ยหมิงรออยู่นานแล้วในที่สุดก็ได้โอกาสถามเสียที



“เหตุใดคนของเหลยเฟิงถึงมาฉุดคร่าเจ้าเช่นนี้ล่ะอาเจิน”



“เรื่องมันยาวเจ้าค่ะ ข้ารู้มาไม่มากนัก กล่าวคือในละแวกนี้เหลยเฟิงใช้คนของเขามาซื้อบุตรีซึ่งยังไม่แต่งงานไปจากพ่อแม่หลายต่อหลายคนเจ้าค่ะ คนส่วนใหญ่ขายบุตรสาวไปเพราะเงิน แต่บางคนจำต้องขายให้เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของพรรคมังกรพิโรธ ตัวข้าเองก็ถูกพวกมันติดต่อมาเพื่อที่จะซื้อเช่นกัน แต่ว่าท่านพ่อของข้าไม่ยอมดังนั้นมันจึงทำร้ายพ่อของข้าแล้วฉุดลากข้าไปเจ้าค่ะ”



“เหลยเฟิงผู้นี้แปลกมากเหตุใดจึงกวาดต้อนหญิงสาวมากมายไป” เสวี่ยหมิงตั้งข้อสังเกต จะว่าเป็นคนมักมากในกามก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีคนเช่นนี้ แต่ว่าจะใช่เรื่องเพียงแค่นี้เท่านั้นหรือ



“พี่ใหญ่ข้าได้ยินมาว่ามีวิชาบางประเภทจำต้องดูดพลังหยินจากการมีเพศสัมพันธ์กับอิสตรี คาดว่าอาจเป็นเช่นนั้นก็ได้” เสี่ยวหลงตั้งข้อสังเกต



“ชั่วช้านัก วิชามารเยี่ยงนี้ส่วนใหญ่มีมากในรัฐหลี นึกไม่ถึงว่าชาวยุทธในรัฐฉินเองก็ฝึกปรือวิชาอุบาทว์พรรณ์นี้ด้วย ช่างน่าขยะแขยง....”

เสวี่ยหมิงและเสี่ยวหลงต่างมองหน้ากัน การที่เม่ยเหนียงรังเกียจจนออกนอกหน้านี่มีความนัยหลายอย่าง ทว่ายังคงพับเรื่องนั้นไว้ก่อน



“แล้วจากนี้เจ้าจะเอาอย่างไร บิดาของเจ้าก็บาดเจ็บอยู่เกรงว่าพวกนั้นอาจจะกลับมาอีก” ขณะมี่เสวี่ยหมิงถามบิดาของอาเจินก็ได้สติขึ้นมา อาเจินรี่เข้าไปดูอาการ



“ท่านพ่อฟื้นแล้วหรือคะ”



“อืม....อาเจินคนพวกนี้เป็นใคร”



“คนพวกนี้ช่วยข้าเอาไว้ค่ะท่านพ่อ”



ได้ยินดังนั้นบิดาของอาเจินก็ลุกจากเตียงก้มหัวขอบคุณนับครั้งไม่ถ้วน เสวี่ยหมิงกับพรรคพวกอยู่ดูอาการบิดาอาเจินอีกสองชั่วยามเมื่ออาการน่าจะคงที่ก็เริ่มสอบถามว่าสองพ่อลูกจะเอาอย่างไรต่อไป



“ข้ากับลูกจะหนีไปกบดานที่บ้านของญาติซักพักขอรับ พวกคุณชายไม่ต้องเป็นห่วง” หลังจากกล่าวเช่นนั้นสองพ่อลูกก็พากันเก็บของส่วนตัวเล็กน้อย ในที่สุดทั้งคู๋ก็พร้อมเดินทาง



“อาเจินรับนี่ไปสิ” เสวี่ยหมิงยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งให้อาเจินไม่ใช่เงินจำนวนมากแต่สองพ่อลูกซาบซึ้งในน้ำใจของเขายิ่ง



“ขอบคุณขอรับ/ขอบคุณเจ้าค่ะ” เสวี่ยหมิงมองดูสองพ่อลูกห่างออกไปจนไกลลิบ ใจจริงอยากจะช่วยไปส่งให้ถึงท่าเรือ ทว่าสองพ่อลูกยืนกรานจะเดินทางไปด้วยตนเอง



“พี่ใหญ่ช่างเป็นคนดียิ่ง” เม่ยเหนียงใช้สายตาปลื้มปิติมองมาที่เขา



“แค่ช่วยเหลือนิดหน่อยเงินทองที่ให้ไปก็ไม่ได้มากอะไร”



“แต่ท่านก็ยังมีน้ำใจต่อคนแปลกหน้า” เม่ยเหนียงไม่ยอมแพ้ง่ายๆตอนนี้ประกายตาของนางพร่างพราวดุจดวงดาว เสี่ยวหลงชักรู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงเริ่มล้อเลียนนางเพื่อให้นางได้อาย



“เจ้าคงไม่ได้หลงรักพี่ใหญ่หรอกใช่ไหมเม่ยเหนียง”



ผิดคาดไปจากที่มันคิดไปไกลคาดว่าเม่ยเหนียงจะยอมรับอย่างหน้าด้านว่าชมชอบ ตอนนี้นางกลับหน้าแดงก่ำไม่พูดไม่จาซักคำได้แต่สะเทิ้นมองพี่ใหญ่ของมันอยู่เนืองๆ นังตัวแสบคงหลงรักพี่ใหญ่ของมันแล้วจริงๆ



“เอาเถอะอย่าแกล้งเม่ยเหนียงเลย เรารีบเดินทางต่อกันเถอะ”



มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เสี่ยวหลงต้องยอมสงบศึกเสียก่อน ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่อาจจะโกรธมันที่ตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องเม่ยเหนียงก็เป็นได้ นอกจากนั้นเรื่องของเหลยเฟิงมันอาจจะต้องหาเวลาปลีกตัวไปสืบดูซักเล็กน้อย เกี่ยวกับเรื่องนี้มันต้องวางแผนให้รอบคอบว่าจะทำอย่างไร



เสวี่ยหมิงเดินไปตามทางโดยมีเสี่ยวหลงเข้ามาเกาะแขนข้างซ้ายของเขา น่าแปลกครานี้เม่ยเหนียงไม่เข้ามาเกาะด้วย ปกติสองคนนี้ชอบแข่งกันไปทุกเรื่องแปลกไม่น้อยที่เม่ยเหนียงเอาแต่เดินเงียบๆ กระนั้นใช่ว่าเขาจะจมอยู่กับความคิดเช่นนั้นนานนัก เรื่องของเหลยเฟิงและศิษย์พี่รองสองคนนี้ดึงดูดเขามากกว่าที่จะคิดถึงเรื่องอื่น



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตัวละครใหม่ปรากฏอีกล้าววววววววววววววววววววววว



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
โอ้เงื่อนงำใหม่

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ตามโคนันมาสิบด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :ling3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
อยากให้เสี่ยวหลงบอกความจิงกับเสวี่ยหมิงอะ จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา นี่คิดว่าตอนนี้ปัญหาเริ่มจะบานปลายละ

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
มีปมหลายปมนะ

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
งือออ แลดูชั่วร้ายยย :katai1:

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :hao3: จะกลายเป็นคู่แข่งจริงรึเปล่าน้าาาา เห็นนิยายอัพรีบเข้ามาอ่าน แต่พน.จะสอบหนังสือยังไม่เข้าหัวเท่านิยาย :katai1: :hao7:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่19



หลังจากเดินทางเข้าสู่วันที่สามในที่สุดก็มาถึงเมืองเหวยกังเสียที เสวี่ยหมิงคล้ายโล่งใจที่ได้ปลดปล่อยภาระเรื่องเม่ยเหนียง แต่อีกใจหนึ่งก็นึกเป็นห่วงว่าต่อแต่นี้ไปเด็กสาวจะทำเช่นไรต่อ



“ฮิฮิ ในที่สุดก็ถึงเมืองเหวยกังเสียที ตอนนี้เรากับเจ้าก็ต้องแยกทางกันแล้วสิ เม่ยเหนียง” เสี่ยวหลงดูยินดีปรีดา ในขณะที่เม่ยเหนียงหน้าง้ำลงเรื่อยๆ คาดว่าคงมีเรื่องไม่สบายใจ



“เม่ยเหนียงจากนี้ไปเจ้าจะไปที่ใด ญาติของเจ้าอยู่ที่เมืองนี้หรือไม่”



“โถ่พี่ใหญ่นางให้มาส่งที่เมืองนี้ นางก็น่าจะมีญาติอยู่ที่เมืองนี้ไม่ผิดหรอก”



เสวี่ยหมิงฟังคำไร้น้ำใจของเสี่ยวหลงแล้วก็นึกตำหนิ เขาใช้สายตาพิฆาตมองดูเด็กน้อยจนเด็กน้อยต้องคอหดลงไปเหมือนเต่า ให้ตายสิไม่นึกว่าเสี่ยวหลงจะอิจฉาเม่ยเหนียงอะไรมากมายขนาดนี้ หรือว่าเด็กน้อยนี่กำลังหึงหวง คิดเช่นนี้แล้วใบหน้าของเขาก็เห่อร้อน เสวี่ยหมิงใช้มือลูบแก้มซีกซ้ายคล้ายจะขับไล่ความร้อนระอุออกไป



หมู่นี้รู้สึกว่าจิตใจชักไม่อยู่กับเนื้อตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เสี่ยวหลงเข้ามาออเซาะ เขาเกรงว่าตอนนี้จะถลำลึกตกหลุมพลางใหญ่ที่มีชื่อเสี่ยวหหลงเสียแล้ว และแม้ว่าไม่ต้องมีใครมาบอกเสวี่ยหมิงยังรู้ตัวได้จากหัวใจที่เต้นถี่แรงของตัวเอง เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ตนไม่อาจห้ามใจไม่ให้หลงชอบเด็กน้อยนี่แบบนี้



ช่างน่าตายนัก เป็นเพราะเสี่ยวหลงทำเสน่ห์มารยาใส่เขาหลายครั้ง โดนกระทำเยี่ยงนี้เข้าทุกวันต่อให้เป็นสตรีสูงศักดิ์ผู้แสนเหย่อหยิ่งยังไม่รู้ว่าจะทานทนความน่ารักของเด็กน้อยนี่ไหวหรือไม่ ตามจริงเขาควรจะหักห้ามใจ กับเด็กชายที่เป็นเพศเดียวกันทั้งยังมีศักดิ์เป็นน้อง เขาไม่ควรคิดมีใจด้วยเช่นนี้



ยิ่งเข้าใจสันดานเสี่ยวหลงดีเพราะอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ควรคิดได้ว่าเด็กน้อยนี่อาจแค่หยอกเย้าเล่นสนุก ทว่าภายในใจลึกๆกลับไม่ยอมให้เป็นการล้อเล่น มาตอนนี้เสวี่ยหมิงกลับนึกเป็นจริงเป็นจังอย่างไม่ควรจะเป็น ช่างน่าบัดซบนัก



“ไม่มีหรอกคะพี่ใหญ่”



คำตอบของเม่ยเหนียงทำให้เสวี่ยหมิงหยุดคิดไผลถึงเสี่ยวหลงได้ในที่สุด เขาจะทำอย่างไรกับนางดีนะ ตามจริงเขาควรจะปล่อยนางไปตามทางแล้วมุ่งหน้าเดินทางไปยังพรรคมังกรพิโรธต่อ ทว่าจิตใจกลับมีความเป็นห่วงเกิดขึ้น เข้าใจว่าเขาเองรู้สึกเอ็นดูเม่ยเหนียงอยู่ไม่มากก็น้อย



“พี่ใหญ่ เราไปดื่มสุราที่โรงเตี๊ยมก่อนจากกันดีหรือไม่คะ”



 ไม่ว่าใครก็ดูออกว่านางต้องการจะถ่วงเวลา เสวี่ยหมิงและเสี่ยวหลงเดาว่านางอยากจะอยู่กับพวกเขาให้นานที่สุด ใช่แล้วสำหรับกับนางที่ดันมีใจให้พี่ใหญ่เสียแล้วการที่ต้องมาจากกันโดยไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกหรือเปล่าช่างสร้างความทรมาณให้นางนัก ดังนั้นก่อนจากขอร่ำสุรากับคนในดวงใจเป็นครั้งสุดท้ายเห็นที่จะไม่มากเกินไปกระมัง



“ก็ดีนะพี่ใหญ่ข้าเองก็หิวแล้วเหมือนกัน ตรงนั้นมีโรงเตี๊ยมดูเข้าท่า ครั้งนี้เราสองคนถล่มนางครั้งใหญ่ ให้เม่ยเหนียงเลี้ยงดูให้อิ่มหนำซักครา”



เม่ยเหนียงยิ้มกว้างดูดีอกดีใจ ตอนแรกนางคิดว่าเสี่ยวหลงจะผลักไสนางเต็มที่ ซึ่งในใจเสี่ยวหลงมันแค่เกิดความสงสารเม่ยเหนียงเพียงนิดหน่อย ถึงมันจะหวงพี่ใหญ่ของมันอยู่มาก แต่ไม่ใช่คนใจดำถึงขนาดกีดกันมิให้สังสรรค์ก่อนจากลา



“เข้าใจล่ะ ข้าเองก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน เราไปที่นั่นกันเถอะ”



หลังจากเข้ามาจับจ้องที่นั่งในโรงเตี๊ยม เม่ยเหนียงสั่งสุราแล้วกับแกล้มมามากมาย ดูแล้วมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้น ดังนั้นพวกเขาทั้งสามจึงเริ่มต้นร่ำสุราอย่างครื้นเครง ปกติเสวี่ยหมิงไม่ได้ดื่มเช่นนี้บ่อยนัก เคยคาดว่าไม่กี่จอกก็คงจะเมาไม่รู้เรื่อง ทว่ายามนี้แม้จะดื่มไปหลายต่อหลายอึก ทุกครั้งที่ใกล้กับความเมามาย ท้องน้อยจะร้อนผ่าวคล้ายกับมีลมปรานหมุนเวียนในกระเพราะ จากนั้นความมึนเมาก็หายไปเอง



“พี่ใหญ่กับเสี่ยวหลงช่างคอแข็งนัก”



 เม่ยเหนียงกล่าวชมขณะเทเหล้าลงจอกให้เขากับเสี่ยวหลง ทว่าขณะที่สนุกสนานอยู่นั้นปรากฏมีชายแปลกหน้าผู้หนึ่งเดินตรงเข้ามาหาพวกเขา ดูจากลักษณะร่างกายที่สูงใหญ่กำยำ เสียงฝีเท้าหนักแน่น คาดว่าเป็นชาวยุทธผู้หนึ่ง



“ข้ามีนามว่าอู่เหว่ยกั๊วะ ขอนั่งสังสรรค์กับพวกท่านได้หรือไม่”



เพียงคนแปลกหน้าประกาศนาม เขากับเสี่ยวหลงก็หันไปมองอู่เม่ยเหนียงอย่างไม่ได้นัดหมาย ทั้งสองมีแซ่เดียวกัน เขาคาดเดาว่าคนผู้นี้คงเป็นญาติของเม่ยเหนียงก็อาจเป็นได้



“เชิญท่านนั่งเถอะ”

               เมื่อได้รับคำเชิญจากเสวี่ยหมิง อู่เหว่ยกั๊วะก็ลดกายลงนั่ง

     

         “ก่อนอื่นข้าขออภัยท่านทั้งสองเป็นอย่างมาก ที่คนของข้าทำร้ายท่านถึงสองครั้งสองครา”

     

         “อ้อ” เสวี่ยหมิงเดาว่าคงเป็นกลุ่มอันธพาลที่ตามล่าเม่ยเหนียงก็เป็นได้ ตอนนี้เขามองดูใบหน้างดงามของเม่ยเหนียง นางก้มหน้าลงต่ำทั้งยังมีใบหน้าซีดเผือดคล้ายยอมรับต่อชะตากรรม

       

        “นอกจากนี้ยังขอบคุณที่ช่วยดูแลบุตรสาวของข้า นางตามจริงแล้วต้องเข้าพิธีดูตัวกับเหลยเฟิง แต่ก็หนีมาเสียก่อนอย่างเอาแต่ใจ ช่างน่าอายนักที่ปล่อยให้มารบกวนพวกท่านอยู่นาน”

       

        เหลยเฟิงรึ เสวี่ยหมิงพอจะเดาออกแล้วว่าเพราะอะไรเม่ยเหนียงถึงหนีพิธีดูตัวมา นางคงจะรู้ข่าวคราวเลวร้ายของคนผู้นั้นมาไม่มากก็น้อยกระมังจึงไม่ยอมทำตามบิดานางโดยง่าย ทว่าไม่คิดว่านางจะช่างกล้านักถึงกลับหนีออกจากบ้านมารอนแรมโดยไร้จุดหมาย เสวี่ยหมิงทั้งนับถือและตำหนิในความไม่คิดหน้าคิดหลังไปพร้อมๆกัน

       

       “ข้าจะไม่เข้าพิธีดูตัวกับมันเด็ดขาดท่านพ่อ ข้ามีคนรักอยู่แล้วคือพี่ใหญ่ของข้าพี่เสวี่ยหมิงท่านนี้ ท่านพ่อกลับไปเถอะ ข้าจะออกเดินทางไปกับพี่ใหญ่ของข้า”

       

        เสวี่ยหมิงสะดุ้งตกใจกับการกล่าวอ้างของนาง ตอนนี้เมื่อเขามองไปยังเม่ยเหนียง นางส่งสายตาวอนขอดวงตาแดงก่ำคล้ายจะร้องไห้ ตามจริงเขาควรปฏิเสธให้แน่ชัด ทว่าเมื่อหันไปสบตากับอู่เหว่ยกั๊วะผู้เป็นบิดาของนาง อีกฝ่ายใช้ดวงตาจับผิดมองจนเกิดความอึดอัดนอกจากนั้นเจ้าเสี่ยวหลงตัวดีดันพูดจาไร้สาระออกมาเสียได้

       

        “พี่ใหญ่ก็จะอายอะไรเล่า ท่านคบหากับนางอย่างลับๆมานานแล้วไม่ใช่รึ วันนี้ก็ให้รู้กันไป พ่อของนางจะได้ไม่จับนางสมรสผิดตัว”



เสี่ยวหลงหัวเราะฮิฮะ มันไม่ได้นึกอยากช่วยเม่ยเหนียงแต่อย่างใด แต่การที่พี่ใหญ่ของมันเข้าไปผัวพันกับนาง มันจะทำให้ตัวมันสามารถเข้าไปสืบเรื่องของเหลยเฟิงได้โดยง่าย แวบหนึ่งมันเกิดความปวดร้าวในใจ รู้สึกผิดที่มันวางแผนใช้งานพี่ใหญ่ของมันอีกประการหนึ่งแล้ว

         

      “เอ่อ....คือ.....”

เสวี่ยหมิงมึนงงไปหมด ไม่ว่าจะมองไปทางเสี่ยวหลงหรือเม่ยเหนียงต่างก็มองมาที่เขาด้วยแววตาร้องขอสุดท้ายจำต้องยอมรับสถานะอย่างช่วยไม่ได้

       

       “ข้าเสวี่ยหมิงขอรับ คบหากับเม่ยเหนียงมาพักหนึ่งแล้ว”



 ไม่กล้าโกหกไปมากกว่านั้น เพราะขัดกับความต้องการของตัวเอง แต่ใจหนึ่งก็เกิดความโล่งใจที่ได้ช่วยเหลือเม่ยเหนียงจากการบังคับดูตัวกับเหลยเฟิง ตามจริงคิดดูอีกทีแล้วก็ดีเหมือนกัน เสวี่ยหมิงเองก็อยากจะรู้ว่ามือขวาของศิษย์พี่รองคนนี้เป็นอย่างไร คนส่วนใหญ่มักพูดว่าเจ้านายกับลูกน้องมักมีบางอย่างคล้ายกัน การไปสอดแนมซักคราคงจะไม่ผิดไปหรอกมั้ง



“เฮ้อ....หากท่านยอมรับเช่นนี้ ข้าก็มีเรื่องจะพูดกับท่านอีกมาก คุณชายเสวี่ย ข้าขอเชิญท่านไปพำนักยังค่ายอาชาของข้าซักครา ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไร”



เสวี่ยหมิงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังเสี่ยวหลงทีเม่ยเหนียงที แววตาทั้งสองคู่ยังคงเต็มไปด้วยความอ้อนวอน การตัดสินใจครั้งนี้ไม่รู้ว่าดีหรือผิดพลาดกันแน่ ทว่าเสวี่ยหมิงตอบรับคำเชิญของอู่เหว่ยกั๊วะ



“ขอรบกวนด้วยท่านด้วย”

ดังนั้นทั้งหมดจึงออกมาที่ด้านนอกโรงเตี๊ยม ที่ด้านนอกพบผู้คนจำนวนหนึ่งน่าจะเป็นคนของอู่เหวยกั๊วะ



“พวกเจ้าแบ่งม้าให้แขกและลูกสาวของข้าสามตัว”



“สองตัวก็ได้ ข้าจะนั่งกับพี่ใหญ่ของข้า” เสี่ยวหลงกล่าววาจาวางโต แต่อู่เหว่ยกั๊วะไม่ได้ถือสาไม่นานนัก คนของเขาก็นำม้ามาจากคอกม้าจำนวนหนึ่ง ทันทีที่เห็นม้าเสี่ยวหลงก็อุทานอย่างสบใจ



“นี่มันม้าพันธ์เหงื่อโลหิตนี่”



“ม้าเหงื่อโลหิตหรือ”



 เสวี่ยหมิงเคยแต่ได่ยินไม่เคยเห็นม้าจริงมาก่อน ดังนั้นจึงเข้าไปสำรวจใกล้ๆ ว่ากันว่า ตามตำนานม้าพันธุ์ดังกล่าวยามที่ออกวิ่ง บริเวณแผงคอจะมีเหงื่อไหลออกมา เป็นสีแดงสดคล้ายเลือด นอกจากนั้นม้าเหงื่อโลหิตมีฝีเท้าเร็ว ความอดทนสูง มักจะใช้เป็นพาหนะในการเดินทางระยะไกล และใช้ในพิธีการเดินสวนสนามของเหล่าเชื้อพระวงค์กับแม่ทัพนายกองชั้นสูงของรัฐฉิน ครานี้ได้มาเห็นนับเป็นบุญตาแท้ๆ



“ตระกูลอู่ของเรา มีอาชีพต้อนม้าและเพราะพันธ์ม้าเหงื่อโลหิตมาหลายรุ่นแลวค่ะพี่ใหญ่”



 เม่ยเหนียงกล่าวกับเขาก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าที่เตรียมมาเพื่อนาง เมื่อเห็นดังนั้นเสวี่ยหมิงและเสี่ยวหลงก็ไม่รอช้าจัดแจงขึ้นบนหลังม้าของตนบ้าง แล้วเริ่มต้นออกเดินทางไปยังที่ตั้งของค่ายอาชา



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ตอนนี้มาสั้นๆตอนหน้าจะพยายามให้ยาวกว่านี้ เย้ๆๆๆๆหวงัว่าจะมีคนตามอ่านอยู่น้า



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
สั้นเกินไปจะเอายาวๆๆๆๆๆๆ :hao5:

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อ้าว พัวพันหนักกว่าเดิม

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เสี่ยวหลงจะเอาไงต่อไป

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด