ตอนที่ 5 : หนูน้อยชอบทะเล (1)
“มากันแล้วครับ ออกรถได้เลย” ตะวันบอกเมธเมื่อเห็นรถของรหัสเลี้ยวเข้ามาในปั๊มน้ำมัน พวกเขานัดเจอกันระหว่างทางเพื่อไม่ให้เสียเวลา ตะวันเดินทางมากับเมธและเด็กชายดล เขาชวนน้องสาวมาด้วยแต่จันทร์ติดธุระเรื่องเรียน เจ้าตัวแทบจะตีอกชกหัวตัวเอง จนเขาต้องบอกให้เลิกเล่นใหญ่ได้แล้ว
“เพื่อนของตะวันชื่ออะไรบ้าง มากันกี่คน ผมจะได้เรียกถูก” เมธชวนตะวันคุย เด็กชายดลนั่งเก้าอี้เด็กที่เบาะหลัง ขึ้นรถมาได้ไม่นานก็หลับปุ๋ย
“มากันสามคนครับ เพื่อนผมชื่อคนโปรดกับไทย ส่วนอีกคน...” ตะวันลังเลก่อนตัดสินใจพูดออกไป “อีกคนชื่อพี่รหัสเป็นรุ่นพี่พวกผมครับ แล้วก็เป็นแฟนกับคนโปรดด้วย”
“ชื่อรหัสหรือหมายถึงพี่รหัส”
“ชื่อรหัสครับ”
“ชื่อแปลกดี ผู้หญิงชื่อรหัสผมไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“ไม่ใช่ครับพี่รหัสเป็นผู้ชาย” ผมรอปฏิกิริยา แต่นอกจากอาการเลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อย สีหน้าของเมธก็เป็นปกติดี
“ขอโทษทีผมไม่รู้”
“ไม่เป็นไรครับ เป็นใครก็ต้องคิดว่าเป็นผู้หญิง ว่าแต่..” ตะวันลอบมองคนขับ “คุณเมธไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ”
“ไม่มีครับ เดี๋ยวนี้ถือว่าธรรมดามาก ผมออกจะชื่นชมด้วยซ้ำที่กล้าแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา”
“ผมกลัวว่าหนูดลมาด้วยแล้วคุณเมธจะกังวล ขอโทษที่ไมได้บอกก่อน แต่ผมบอกเพื่อนไปแล้วว่าให้ช่วยระวังด้วย”
“ไม่ต้อง ฝากตะวันบอกเพื่อนด้วยว่าให้ทำตัวตามสบาย”
“ครับ” ตะวันแอบกัดริมฝีปาก มีบางเรื่องที่คาใจเขาตั้งแต่เมื่อวาน คิดกลับไปกลับมาว่าสมควรจะถามหรือไม่ แต่เมื่อคิดถึงคำพูดของคนโปรดกับไทย ที่ว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงหึงแฟนทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย เขาจึงกลัวว่าจะทำให้เมธมีปัญหาที่เขายื่นมือเข้ามายุ่งแบบนี้”
“ผมถามอะไรนิดได้ไหมครับ” ตะวันพูดไปแล้วอดหัวเราะขำตัวเองไม่ได้ “ดูเหมือนผมจะถามนิดหนึ่งหลายครั้งเหลือเกิน” เขาแซ็วตัวเอง
“หึๆ ถามได้ ตะวันอยากถามอะไรถามมาเลย”
“คือผมเคยได้ยินคุณเมธพูดว่าอดีตภรรยา แต่เมื่อคืนคุณอิมพูดว่าเป็นภรรยาผมเลยไม่แน่ใจ คือที่ถามเพราะจะได้เรียกได้ถูกต้อง และผมกลัวว่าจะทำตัวจุ้นจ้านเรื่องหนูดลมากจนเกินไป” ผมรีบบอกเหตุผลที่ถาม กลัวว่าเมธจะคิดไปไกล
ชายหนุ่มเงียบมากจนตะวันใจไม่ดี อีกฝ่ายมองไปข้างหน้าสายตาใช้ความคิด ตะวันเกือบหลุดปากขอโทษและบอกว่าไม่ต้องบอกเขาก็ได้ แต่เมธพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ผมกับอิมเราหย่ากันแล้ว แต่อิมคงไม่รู้ว่าจะแนะนำตัวยังไง จะบอกว่าเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่ ผมเลยไม่ได้ขัด”
“อ๋อครับ” ตะวันคิดว่าการที่เมธไม่พูดขัดขึ้นมาเป็นเพราะเมธให้เกียรติภรรยา ตะวันไม่รู้ว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไรกัน เขายังไม่สนิทกับเมธมากพอจะถามละลาบละล้วงเรื่องภายในครอบครัวได้ แต่จากที่เห็นตะวันคิดว่าเป็นเพราะหนูดล และดูเหมือนว่าอิมเองยังมีเยื่อใยให้กับเมธอยู่มาก ถ้าฟังจากคำพูดเมื่อคืน
“เมื่อคืนหนูดลตื่นเต้นไหมครับ” ตะวันเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นว่าใบหน้าของเมธดูเคร่งขรึมขึ้น
“มาก ผมต้องกล่อมอยู่นานกว่าจะยอมนอน พูดแต่พี่ใจดีจะพาไปทะเล คนขับรถอยู่นี่ทั้งคนไม่เห็นพูดถึงเลย” ตะวันหัวเราะออกมาเบาๆ สีหน้าของเมธเองก็ดีขึ้นเมื่อพูดถึงลูกชาย
“คงดีใจที่ได้ไปเที่ยวครับ”
“นั่นสิ ผมน่าจะพาแกไปตั้งนานแล้ว แต่มันติดอะไรหลายๆ อย่าง”
“ไม่เป็นไรนี่ครับ ยังไงวันนี้ก็ได้ไป” ตะวันยิ้มให้กำลังใจ
“ทานขนมไหมครับ” เขาเกือบลืมไปเลยว่าเมื่อครู่ลงไปซื้อน้ำกับขนมจากร้านค้าในปั๊มน้ำมัน
“ก็ดีครับ ผมชักง่วง”
“ถ้าง่วงมากบอกได้นะครับ ผมขับไม่เป็นแต่ให้ไทยมาเปลี่ยนให้ได้ เพื่อนผมขับรถใช้ได้คุณเมธไม่ต้องห่วง”
“ขอบคุณมาก ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวผมบอก” ตะวันจัดการแกะถุงขนม เขายื่นถุงเข้าไปใกล้เมธมากที่สุด เพื่อให้อีกฝ่ายหยิบสะดวก
ตะวันสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือใหญ่กระทบเข้ากับมือของเขา เมธจึงดึงมืออกเพื่อให้เขาหยิบก่อน
“ทำไมตะวันถึงชวนผมกับลูกไปเที่ยวทะเล”
“ผมคิดว่าเด็กๆ น่าจะชอบครับ”
“มีเหตุผลอื่นไหม”
“ไม่มีครับ” ตะวันเอะใจกับคำถาม เขาหันไปมองเมธตาโต “หรือคุณเมธคิดว่าผมแอบชอบคุณเมธอยู่ ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่อย่างนั้น” ตะวันรีบปฏิเสธเป็นการใหญ่
“หึๆ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ทำไมตะวันถึงคิดว่าผมจะคิด” ตะวันถึงกับพูดไม่ออก โธ่จะให้เขาบอกได้ยังไง ว่าเป็นเพราะคำว่าเนื้อคู่ของคนโปรดและเพราะจันทร์ที่เอาแต่พูดเรื่องลูกเขยของบ้าน
“ว่าไงครับ ไม่เห็นตอบผมเลย ว่าทำไมถึงคิดว่าผมจะคิดแบบนั้น”
“คุณเมธแกล้งผม” ตะวันบอกได้จากดวงตาแพรวพราวของอีกฝ่าย มันมีรอยยิ้มหัวแฝงอยู่
“ใครว่า ผมอยากรู้จริงๆ” เมธหัวเราะออกมา เขาชอบเวลาตะวันทำหน้างอนแบบนี้ มันน่าแกล้งจริงๆ นั่นแหละ
“ก็หนูดลดูเศร้ามากนี่ครับ ผมไม่อยากเห็นแกเศร้า เท่าที่ฟังคุณเมธเล่ามาผมว่าแกเศร้ามาพอแล้ว”
“ขอบคุณครับตะวัน” เสียงของเมธอ่อนโยนรวมถึงสายตาที่มองมา มันทำให้ตะวันหน้าแดงเรื่อด้วยความเก้อเขิน เขารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ
“คุณเมธอยากมาใช่ไหมครับ” ตะวันนึกได้จึงถามให้แน่ใจ เขาไม่รู้ว่าเมธถามเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเหตุใด
“อยากมา ไม่อย่างนั้นผมคงปฏิเสธไปแล้ว”
“พ่อ” เสียงงัวเงียเรียกขึ้นเบาๆ ทำให้การสนทนาหยุดลง ตะวันเอี้ยวตัวไปมองในขณะที่เมธมองผ่านกระจกมองหลัง
“ตื่นแล้วเหรอครับ” หนูน้อยพยักหน้า ยกมือขึ้นขยี้ตาจนตะวันต้องรีบดึงมือออกให้
“ไม่ขยี้ตาครับเดี๋ยวตาอักเสบ พอรถจอดเราค่อยไปล้างหน้ากัน เดี๋ยวพี่ตะวันพาไป”
“ครับ” เด็กชายยอมเอามือลง หันไปมองนอกหน้าต่างรถสลับข้างซ้ายข้างขวา “พี่ใจดีไหนทะเล”
“ยังไม่ถึงครับ”
“ไกลเหรอ”
“ไม่ไกลแล้วครับ อีกแป๊บเดียวหนูดลก็จะได้เห็นทะเล”
“พ่อบอกทะเลเค็มห้ามดื่ม”
“ถูกต้องครับ”
“ต้องจับมือผู้ใหญ่ด้วย ลงไปคนเดียวเดี๋ยวทะเลโกรธดล” ตะวันหันไปมองคนขับ อดยิ้มไม่ได้กับวิธีการบอกลูกชายของคนตัวสูง
“ไปกับพี่ตะวันได้ครับ เราจับมือกันเดิน ทะเลไม่โกรธแน่นอน”
“พี่ใจดีใจดี” หนูน้อยยิ้มหวาน ตะวันใจละลายทุกครั้งที่เห็น เขาแพ้ทางของหนูน้อยจริงๆ ตะวันมองเด็กชายด้วยสายตาอ่อนโยน โดยไม่มีรู้ว่ามีคนมองพวกเขาอยู่
เมธนิ่งฟังการสนทนา เขายิ้มน้อยๆ รู้สึกโชคดีที่ได้เจอกับตะวัน คนที่เพิ่งรู้จักแต่กลับทำเพื่อลูกชายเขามากถึงเพียงนี้ สายตาของเมธสลดลงเมื่อคิดถึงใครอีกคนขึ้นมา
อิมกับเขาแต่งงานกันได้เกือบสองปี ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี อิมเป็นผู้หญิงยุคใหม่ มั่นใจในตัวเอง กล้าพูดกล้าคิด นั่นคือสิ่งที่เมธคิดว่าเขาชอบ
จนถึงวันนั้นวันที่เขาได้พบกับเด็กชายดลที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เมธบอกภรรยาว่าเขาถูกชะตากับเด็กชายมาก และอยากรับมาเลี้ยง อิมเองก็ชอบเด็กชายตัวน้อยเช่นกัน เพราะหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ดื้อและไม่ซน อิมจึงไม่ขัดข้องอะไร ออกจะโล่งใจด้วยซ้ำเพราะอิมไม่อยากท้องในขณะที่เขาอยากมีลูกมาก
แต่เมื่อเมธรับเด็กชายเข้าสู่ครอบครัว ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป เด็กชายขี้อายและขี้กลัวมาก จึงขัดกับอิมที่เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง อิมเริ่มหงุดหงิด รำคาญ นานวันเข้าก็เริ่มดุ ยิ่งดุเด็กชายดลก็ยิ่งกลัว เมธต้องคอยห้าม เขาพยายามบอกกับภรรยาว่าทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เขาเดาว่ามันคงช้าเกินไปสำหรับอิม ชีวิตครอบครัวของเขาเริ่มพังไม่เป็นท่า
อิมไม่ชอบอยู่บ้าน แต่เด็กชายดลก็ยังไม่พร้อมจะออกไปเจอผู้คนข้างนอก ถ้าไปก็เอาแต่กอดเขาแน่น ไม่ยอมพูดยอมจา เมธพยายามแก้ไขสถานการณ์โดยการจ้างพี่เลี้ยงอาชีพมาดูแล เพื่อจะได้มีเวลาส่วนตัวกับภรรยาบ้าง แต่ดูเหมือนมันยังไม่เพียงพอสำหรับอิม สุดท้ายอิมจึงยื่นข้อเสนอให้กับเขา ว่าให้ยกเด็กชายดลให้พ่อแม่ของเขาดูแลแทน เพราะท่านรักและเอ็นดูเด็กชายมากเช่นกัน หรือไม่อย่างนั้นก็หย่ากับเธอ
เมธยอมตกลง มันไม่ใช่สิ่งที่ภรรยาเขาคิดว่าจะได้ยินแต่ก็ไม่ยอมลดทิฐิเช่นกัน เมื่อพูดออกมาแล้วก็ต้องทำ แม้ว่าเขาจะบอกให้ลองคิดอีกทีก็ตาม สุดท้ายทะเบียนหย่าก็อยู่ในมือของพวกเขา
ก่อนออกจากบ้านอิมบอกกับเขาว่าถ้าเขายอมทำตามที่เธอขอ เธอก็พร้อมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมธไม่ตอบอะไร เขาไม่ได้ไม่รักอิม เขาไมได้เห็นเด็กชายดลดีกว่าภรรยา แต่ความรับผิดชอบเมื่อตัดสินใจรับมาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด และที่สำคัญเขารักเด็กชายมากจริงๆ
มันไม่ควรจบลงแบบนี้แต่เมธก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่เขาที่เลือก แต่เป็นภรรยาที่เลือกแล้วว่าอยากให้มันเป็นแบบนั้น
“คุณเมธครับ”
“ครับ?!” เมธหันไปมองตะวัน
“ใกล้ถึงทางเข้าแล้วนะครับ”
“โทษทีผมคิดอะไรเพลินไปหน่อย” เมธเปิดไฟเลี้ยว ชะลอรถเพื่อเข้าช่องซ้าย บ่อยครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ แต่เมธคิดว่าทุกอย่างได้เกิดขึ้นแล้วสิ่งที่เขาทำได้คือดำเนินชีวิตต่อไป บางทีมันอาจถูกลิขิตมาให้เป็นแบบนี้
ตะวันเลือกมาที่สวนสน เขาเตรียมเสื่อ อาหารและอุปกรณ์ต่างๆ มาจากบ้าน อยากให้หนูน้อยรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด
“ทราย” เด็กชายดลจับมือพ่อข้างหนึ่ง ชี้มือไปที่พื้นทรายข้างหน้า ตะวันกับไทยกำลังช่วยกันปูเสื่อและจัดเตรียมข้างของ
“จ๊ะเอ๋” คนโปรดเอามือปิดหน้าแล้วโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋หนูน้อย เด็กชายดลถอยกรูด แทรกตัวเข้าไประหว่างขาของผู้เป็นพ่อ ตกใจแต่ไม่ถึงกับกลัว
“คนโปรดดด” ตะวันเรียกเพื่อนเสียงอ่อนใจ คนโปรดหันมาทำหน้าเหรอหรา
“อ้าว ก็เห็นเด็กชอบเล่นแบบนี้กันไม่ใช่เหรอ โอ๊ย!” คนโปรดยกมือขึ้นจับหน้าผาก “พี่รหัสตีผมทำไมครับ”
“ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับ แกยังไม่คุ้นเท่านั้นเอง เดี๋ยวก็ดีขึ้น” เมธรีบบอก คนโปรดเอียงคอซ้ายขวามองหน้าคนพูด
“พี่เมธนี่ดูดีๆ แล้วหล่อมากเลยนะครับ”
โป๊ก! “โอ๊ย!” คนโปรดยกมือขึ้นกุมศีรษะ หันไปทำตาโตใส่แฟน “ผมชมคนอื่นก็ไม่ได้เหรอครับ” ไทยนึกอยากช่วยรหัสซ้ำเพราะหมั่นไส้ที่เพื่อนเล่นใหญ่มาก
“มีมารยาทหน่อย”
“ขอโทษครับ” คนโปรดทำหน้าจ๋อยหันไปขอโทษเมธ “ขอโทษที่ผมเสียมารยาทชมพี่เมธว่าหล่อ ขอโทษที่ผมเสียมารยาทเรียกพี่เมธว่าพี่ ขอโทษที่พี่รหัสใช้กำลังต่อหน้าเด็ก ผิดมากกว่าผมตั้งเยอะแต่ดันไม่รู้ตัว เดี๋ยว! กลัวแล้วคร้าบบ” คนโปรดวิ่งหนีไปรอบๆ เมื่อรหัสทำท่าว่าจะเอ็นดูแฟนหนัก
“คิกคิก” เมธเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เขาก้มหน้าลงมองพบว่าลูกชายที่ซุกหน้าอยู่กับขากำลังหัวเราะน้อยๆ สายตาจับจ้องมองคนโปรดที่วิ่งยกไม้ยกมือไปรอบๆ
“หนูดลหนีเร็ว ยักษ์มาแล้ว” คนโปรดร้องบอก เด็กชายไม่ยอมขยับแต่แอบมองคนโปรดด้วยดวงตาสดใส จนอีกฝ่ายวิ่งหอบแฮกมาหยุดยืนตรงหน้า ยื่นมือให้พร้อมรอยยิ้มที่สดใสเหมือนคนที่ไม่เคยมีความทุกข์มาก่อน “ไปเร็ว หนีกัน” เด็กชายดลสีหน้าลังเล แต่ก็ยอมยื่นมือน้อยๆ ออกไปหา คนโปรดจับมือกระชับ ออกวิ่งช้าๆ เพื่อให้หนูน้อยวิ่งทัน แต่ทำท่าเหมือนกำลังวิ่งเร็วมาก
“ยักษ์มาแล้ว ยักษ์มาแล้ว” รหัสยืนทำหน้ากึ่งบึงกึ่งขำ คนโปรดขยิบตาให้รัวๆ รหัสถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะวิ่งตามหลังทั้งสองคนไปช้าๆ มีไทยวิ่งตามไปเล่นด้วยอีกคน
“ยักษ์มาแล้ว” เสียงเล็กร้องออกมาเบาๆ มือจับมือคนโปรดแน่น ใบหน้าสดใส เมธยืนมองนิ่ง เขารู้สึกอิ่มเอม มีความสุขจนท่วมท้น จนได้ยินเสียงชัตเตอร์ดังขึ้นเบาๆ เมธหันไปมองตะวันส่งยิ้มให้เขา
“ไม่ถ่ายวีดีโอไว้เหรอครับ”
“จริงสิ” เมธรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขากดบันทึกภาพความทรงจำครั้งนี้เอาไว้ ลูกชายตัวน้อยกำลังยิ้มอย่างมีความสุข แม้จะยังเป็นรอยยิ้มน้อยๆ แต่เมธก็ดีใจมากแล้ว
“ขอบคุณนะตะวัน” เมธหันไปมองคนที่ยืนอยู่เคียงข้าง
“ไม่เป็นไรครับ ผมก็ดีใจที่หนูดลมีความสุข”
สายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มประสานกัน ถ้าโชคชะตามีอยู่จริง วันนี้ก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีแล้ว
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin