มาละครับ เคลียร์งานนานไปหน่อย จนจะเย็นแล้วพึ่งจะมาลงครับ^^""
บทที่ 9 มาแล้วครับ บทนี้จะหนักไปทางบิ๊กเล็กน้อย เพราะเจ้าตัวกำลังอยู่ในช่วงตัดใจล้วนๆ ส่วนแทนเองก็ได้แต่เป็นห่วงบิ๊กอย่างเดียว
ตอนนี้เขียนถึงบท 19 แล้ว เอาเวลางานผสมเขียนนิยาย เกือบไม่ได้นอนละครับ^^""
มาดูกันต่อดีกว่าครับ
**********
Chapter 9 ที่ลานจอด Big Bike บิ๊กหยิบสวมถุงมือกับปรับสายกระเป๋าสะพายข้างให้กระชับกับหลัง ตรงหน้าผมตอนนี้เป็น Ducati Diavel Carbon Red ที่บิ๊กเรียกว่า “น้องถ่าน” มอไซค์คันใหญ่ที่ผมเห็นใครขี่ก็เท่ห์มาก หน้าตาดุดันไม่แพ้เจ้าของรถในเวลานี้
"เอาไปใส่ซะ" บิ๊กยื่นหมวกกันน็อคเต็มใบที่เจ้าตัวใช้ให้ผม" ผมรับหมวกมา งงนะ ว่าบิ๊กไม่ต้องใส่เหรอ?
"แล้วบิ๊กจะใส่อะไร" ผมถามอย่างซื่อๆ แต่เจ้าตัวอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ เลยไม่ตอบผม ก่อนจะคร่อมลงน้องถ่าน แล้วสตาร์ทเครื่อง
“อยากหลุดจากเบาะแล้วหัวฟาดพื้นตาย ก็ตามใจ” น้ำเสียงบิ๊กดูหงุดหงิดมาก ผมใส่หมวกลงไป แต่ปรับสายและล็อคไม่ถูกอยู่นาน จนบิ๊กดับเครื่องแล้วกางขาตั้ง ลงมาจากรถ
“มานี่!!!" เสียงเรียกแบบใส่อารมณ์ ทำให้ผมรู้สึกกลัว บิ๊กปรับสายรัดหมวกให้ผมแบบคนมีอารมณ์ บางช่วงทำผมเจ็บคางนิดหน่อย
"เกาะเอวไว้ ถ้ากลัวก็โอบไปเลย" ผมซ้อนท้ายน้องถ่านแล้ว บิ๊กออกตัวช้าๆ ค่อยๆ คลานไปจนถึงทางออกห้างฯ พอเข้าถนนใหญ่ แรงกระชากของรถ ทำให้ผมต้องกอดเอวบิ๊กไว้ไม่ให้ร่วง บิ๊กขับมุดตามช่องไปมา และเลี้ยวขวาขึ้นสะพานหัวช้างตอนไฟเหลืองนับเหลือแค่ 1 วินาทีสุดท้าย
แรงกระชากลูกต่อมาเกิดขึ้นเมื่อรถเข้าทางตรง นาทีนี้ เหมือนผมนั่งรถไฟเหาะ แต่ผมมั่นใจบิ๊กว่าขับปลอดภัยนะ แล้วบิ๊กก็มาส่งผมถึงหน้าคอนโดอย่างปลอดภัย ผมลงจากน้องถ่าน ก่อนจะถอดหมวกคืนให้
"ขอขึ้นไปห้องแทนได้ปะ จะล้างหน้า คราบน้ำมันจากท่อไอเสียรถเมล์เกาะหน้าอยู่" หน้าบิ๊กตอนนี้ มองดีๆ เลอะฝุ่นกับคราบเขม่าไอเสียจากการขับต่อท้ายรถเมล์ที่พ่นควันดำจริงๆ ผมพาบิ๊กเข้าห้อง เมื่อถึงห้อง บิ๊กกึ่งวางกึ่งทุ่มหมวกกันน็อกลงโซฟาจนสะเทือน เหวี่ยงกระเป๋าสะพายลงโซฟาต่อ ตามด้วยถอดแว่นแล้วโยนออกจากตัวลงพื้น ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมถือวิสาสะ เอาแว่นตาบิ๊กไปล้างน้ำยาล้างจาน แล้วเอาผ้าเช็ดจอคอมฯ ที่พึ่งซักมา เช็ดจนแว่นตาสะอาด กลับมาใสเหมือนเดิม บิ๊กเข้าห้องน้ำไปพักใหญ่ ก่อนจะออกมาแบบหน้าเปียก หัวเปียก น้ำหยดจนปกคอเสื้อโปโลเปียก ผมวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กส่งให้
“เมื่อกี้สระผมนิดนึง คันหัว ใช้แชมพูกับทำอ่างเลอะ โทษด้วย" ถึงน้ำเสียงจะแข็งๆ แต่บิ๊กก็ยังมารยาทดีอยู่ บิ๊กเช็ดหน้ากับหัวและคอ พอส่งผ้าคืนผมแล้ว ผมส่งแว่นตาให้
"ขอบใจที่ล้างให้" บิ๊กใส่แว่นเสร็จ ผมเตรียมน้ำเย็นให้อีกแก้ว บิ๊กมองผมด้วยตาขวางจากอารมณ์ที่ค้างอยู่ ก่อนจะหยิบแก้วไปดื่มจนหมด แล้วเดินไปวางคืนที่ครัวเหมือนเดิม
"ขอบใจ" ผมอยากปลอบเรื่องที่บิ๊กเจอมานะ แต่ไม่รู้จะทำไง หลังจากเดินลงเข้าลิฟท์มา จนมาส่งถึงน้องถ่านแล้ว บิ๊กสวมหมวกแล้วปรับสายรัดใหม่สักครู่
"เราขอโทษนะ ถ้าบิ๊กไม่พอใจที่..." บิ๊กเอื้อมมือมาแตะไหล่ผม
"นายก็แค่คนที่ไม่เคยเข้าใจเรา คนแบบนาย มีเยอะ เราก็แค่ได้มาเพิ่มอีกคนเอง" บิ๊กคร่อมแล้วสตาร์ทเครื่อง ก่อนจะขับออกไปช้าๆ แต่พอออกถนน เสียงท่อยังคงดังอยู่นานพักใหญ่
ผมไม่เห็นหน้ากับแววตาบิ๊กตอนพูดประโยคเมื่อครู่นี้หรอก เพราะหมวกกันน็อกบังไว้ ผมรู้สึกไม่ดีเลย...ที่ช่วยให้อะไรๆ ดีกว่านี้ไม่ได้
ผมมันคงไม่รู้อะไรจริงๆ แหละ...ผมแค่อยากทำให้บิ๊กรู้สึกดีกว่านี้ แค่นั้นเอง
………………..
สับสน...คือความรู้สึกของผมตอนนี้ ผมได้แต่บิดน้องถ่าน และพามุดตามช่องไปมา แหกไฟเหลืองวินาทีสุดท้าย ไม่ก็ไฟแดงวินาทืแรกบ้าง ผมอยากระบาย ผมหงุดหงิด เสียใจ ทุกอย่างเหี้ยมากสำหรับผมตอนนี้ ผมคิดไม่ออกจะทำไงดี เอาวะ ให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า ผมกลับไปสยามพารากอนอีกรอบ ถ้าคะเนจากเวลาที่ดูหนังแล้ว อีกไม่เกินชั่วโมง น่าจะออกมาได้แล้ว
แล้วจะไปรอที่ไหนดี? หน้าโรงหนังละกัน ยังไงตรงบันไดหลัก ก็น่าจะลงมา ผมเดินวนเวียนแถวนั้นด้วยการฟังเพลงฆ่าเวลาไป iPhone ก็กวนประสาท วนแต่เพลงอกหักให้ผมอยู่ได้ แมร่ง!!! อยากปาทิ้ง ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงเต็ม ผมคงไม่เจอแล้วแหละ กลับดีกว่า....
สองทุ่มตรง น้องถ่านติดอยู่ท่ามกลางรถที่กำลังจะออกจากห้างฯ คลานไปตามข่องที่พอจะผ่านไปได้บ้าง แล้วผมก็เจอของดี MINI สีเหลืองคันที่ส่งแพรวเมื่อวาน ผมพยายามหาช่องคลานไปจนเกาะแถวท้ายรถเป้าหมายของผมได้ เมื่อถึงคิวออกจากห้างฯ ผมวิ่งตามอยู่ห่างประมาณสองช่วงคันได้ แล้ว MINI สีเหลืองคันนั้นก็ไปจอดที่ร้านส้มตำเจ้าดังแถวถนนนราธิวาส ร้านนี้ใหญ่พอที่ผมจะเลือกมุมนั่งกินโดยไม่ให้สองคนนี้สังเกตได้ ผมนึกออกละจะเอาใครมาช่วยดี
“ไอ้เชี่ยโจ กูอยู่ร้านส้มตำแถวบ้านมึงอะ มากินกับกูหน่อย” ผมส่งข้อความไปหาโจ มันคงงง ว่าปกติผมไม่เคยชวนมันกินแค่สองต่อสองแบบนี้
โจ : “ไอ้บิ๊ก กูกินข้าวกับที่บ้านอิ่มแล้ว มาชวนเชี่ยไรตอนนี้” กูรู้แล้ว ไม่ได้ดูเวลาไม่เป็น
“กูเลี้ยง มากินน๊า” มาก็มาเถอะ ห่าน!!!
โจ “เบียร์ฟรีด้วยนะ ไม่งั้นไม่ไป” เออ!!! ไอ้เห็นแก่กิน ฟวย!!!
“เจอกันที่ร้านนะ ออกมาเดี๋ยวนี้นะเว็ย” วางสายเสร็จ ผมเดินเข้าไปหาที่นั่งมุมที่ไกลพอที่คู่ชู้ผมจะมองไม่เห็นผม มองแล้วอารมณ์แมร่งขึ้นจริงๆ
สิบนาทีต่อมา โจในสภาพชุดอยู่บ้านก็มาถึงร้าน เสื้อบอลเน่าๆ กับบ็อกเซอร์สั้นจนโจน้อยจะลอดออกมาได้ รองเท้าแตะเน่าๆ ที่ไปบ้านมันทีไรก็ใส่แบบนี้ตลอด ไม่นึกว่ามากินข้าวกับกูก็ชุดนี้ด้วย ซกมกสัดๆ
“ไอ้บิ๊ก เรียกกูมาเนี่ย มีอะไรวะ” ไอ้โจที่บอกว่ากินข้าวกับที่บ้านแล้ว ลงมือจกส้มตำกับข้าวเหนียวก่อนใคร แล้วบอกว่าอิ่มแล้ว ไอ้ตอแหล!!!
“มึงหันหลังทาง 7 นาฬิกา จะเห็นชายหญิงคู่นึง ชายมหาลัยขับ MINI สีเหลืองที่จอดอยู่ริมถนน หญิงประมาณ ม.4” โจหันไปมองสักครู่ แล้วกลับมาพยักหน้าให้ผมรู้ว่า เห็นเป้าหมายแล้ว ในขณะที่มือเริ่มรินเบียร์ให้ผม
“นั้นแพรว ที่มึงบอกว่าจีบติด จะมาเปิดตัวเร็วๆ นี้ใช่ปะ” เออ นั้นแหละไอ้โจ
“แล้วทำไมไปอยู่กับหนุ่มขับ MINI ละวะ หรือหญิงมึงไม่อยากเป็นสก็อยแล้ว” ปากก็กิน แถมยังพูดมากด้วยนะมึง
“กูไม่รู้เว้ย เรียกมึงมานั่งเป็นที่บังสายตา เผื่อเค้าเห็นกูนั่งอยู่” ไอ้โจ ไม่ต้องหัวเราะในลำคอก็ได้ ถ้าไม่หยุด กูแช่งให้พริกติดคอ
“ชายบิ๊กผู้ฟันสาวแล้วทั่วทิศ หมดปัญญาสู้หนุ่มขับ MINI เออ ฮาวะ” จะแดกก็แดกไป ไม่ต้องพล่ามมาก ผมอยากได้จังหวะเข้าไปถามแพรวตรงๆ ซะที ว่าตกลงแล้วจะเอายังไง การมาคอยตามแบบนี้ ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายร้อนรุมกว่า
อาหารบนโต๊ะค่อยๆ หมดลงไป ผมได้กินไม่เยอะมาก หิวแต่กินไม่ค่อยลง ส่วนไอ้โจก็ลาภปากมันไป ในขณะที่โต๊ะของแพรวก็เช็คบิลออกไป ผมควักแบงค์พันให้ไอ้โจทันที
“จ่ายให้กูด้วย ขาดเท่าไหร่ มาเก็บทีหลัง” ผมคว้ากระเป๋ากับหมวกกันน็อกไป
“เชี่ยบิ๊ก แล้วถ้าไม่พอละห่า เอ้ย กลับมาก่อน” ไม่ต้องห่วงไอ้โจ บวกไว้แล้ว ไม่เกินพันแน่นอน
ตรงหน้าผมไม่เกินสองช่วงคันรถ MINI สีเหลืองยังคงคลานไปตามการจราจร ไม่รู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ไหน แต่ผมจะเก็บข้อมูลให้มากที่สุด...คืนนี้เคาะประตูบ้านแพรว ผมก็เอาวะ หลังจากขับตามอยู่ชั่วโมงกว่าๆ ขับจนออกนอกเมืองมาถนนเส้นที่ออกต่างจังหวัดได้ MINI สีเหลืองคันนั้น ก็เลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูดที่ค่อนข้างดูดี ผมพาน้องถ่านตามเข้าไปจนเห็นว่าเข้าห้องไหนไป
เอาไงต่อดีละเรา คืนนี้คงอีกยาว...กลับบ้านก็ได้วะ บิ๊กเอย ท่องไว้ ก็แค่ผู้หญิงที่เคยผ่านมือ...หรือควรท่องว่า ผู้หญิงก็แค่ของกิน อิ่มแล้วก็หากินใหม่ดีกว่า
แต่ผมอยากหยุดกิน แล้วเริ่มต้นจริงๆ กับใครสักคนไม่ได้เหรอ
………………..
ผมนั่งมองเบอร์บิ๊กในสมุดโทรศัพท์ ผมอยากทักไปหาบิ๊ก จะคุยไรดีละ? กดเปิดข้อความใหม่แล้ว จะส่งไรไปคุยดีละ...กลัวจะรบกวนเค้าเปล่าๆ งั้น
“กลับบ้านแล้วยังครับ” ผมส่งข้อความแรกไปหาบิ๊ก ไม่ถึงสามนาทีต่อมา บิ๊กตอบกลับมาว่า
บิ๊ก “กินข้าวกล่อง 7-11 ริมถนน หิวอยู่” บิ๊กตอบกลับมา พร้อมภาพถ่ายข้าวกล่องที่หมดไปแล้วกับกล่องที่กินอยู่ล่าสุด วางอยู่เบาะหลังน้องถ่าน มีภาพข้างหลังเป็น 7-11 ที่บรรยากาศเหมือนขับไปถนนนอกเมืองแล้ว
“อย่าคิดมากนะ เรื่องวันนี้อะ เราเป็นห่วง” ผมไม่กลัวบิ๊กดุผมนะ
บิ๊ก “อือ แนะนำเพื่อนสวยๆ น่ารักๆ ให้ซิ จะได้สบายใจ : P” แบบนี้แปลว่าอารมณ์ดีใช่ไหมบิ๊ก
บิ๊ก “แทน ขอโทษที่เราเหวี่ยงใส่ไปเมื่อตอนเย็นนะ” ไม่โกรธบิ๊กซะหน่อย ผมยิ้มก่อนจะตอบว่า
"เราเข้าใจว่าบิ๊กรู้สึกยังไง อย่าคิดมากนะ อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้” ผมอยากให้บิ๊กมองโลกในแง่ดีบ้าง
บิ๊ก “เมื่อกี้ เราตามคู่นั้นไปถึงโรงแรมม่านรูด มันก็อย่างที่เห็นอะ คงไม่ต้องคุยอะไรแล้ว” ยิ้มที่มีเมื่อครู่ของผม หายไปทันที ผมเกลียดผู้หญิงคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก
“เราขอโทษ” ผมมันไม่รู้อะไรอีกแล้ว
บิ๊ก “ขอโทษทำไม? เรื่องมันจบแล้ว เราก็แค่ต้องไปทำใจ แทนปลอบเราตามหน้าที่ เราขอบใจมากกว่า” ถ้าหายตัวไปหาได้ ผมอยากปลอบบิ๊กตรงหน้ามากกว่า
บิ๊ก “กินข้าวก่อนนะ ว่าจะกินอีก หิว” ผมส่งข้อความสุดท้ายไปว่า
“พาน้องถ่านกลับบ้านดีๆ นะ” สถานะข้อความขึ้นว่าอ่านแล้ว แปลว่าบิ๊กเห็นแล้วแหละ
ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียง อยากมีรูปบิ๊กสักใบไว้ดู ผมคิดถึงคุณชายจอมเหวี่ยงคนนี้อย่างบอกไม่ถูก แล้วผมก็ต้องสะดุ้งกับเสียงโทรศัพท์เข้า ไบร์ทโทรมา
“ว่าไงไบร์ท” ผมกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงตอนนี้
“พรุ่งนี้ว่างเปล่า มาช่วยคุมซ้อมน้อง ม.ต้น แทนโค้ชหน่อย” นึกว่าเรื่องอะไร
“ก็ได้นะ มีใครไปบ้างอะ” ปกติ ถ้าโค้ชติดธุระ จะฝากพวก ม.ปลาย คุมซ้อมแทน
“มีเรากับแทนสองคนแหละ” สงสัยเพื่อนๆ กับพี่ๆ คงไม่ว่างมามั่ง?
“ไมเหลือแค่เราสองคนอะ” ผมกลัวจะคุมได้ไม่ทั่วถึงแค่นั้นแหละ
“ไม่ได้ซ้อมไรเยอะอะ อีกอย่าง แทนบ้านใกล้โรงเรียนสุดด้วยแหละ” ผมชอบโดนเพื่อนกับอาจารย์วานให้มาจัดการธุระของโรงเรียน ก็เพราะความบ้านใกล้นี่แหละ
“โอเคๆ กี่โมงอะ” ถ้าเช้าจะได้นอนเลย
“สิบโมงเช้าถึงเที่ยงอะ โรงยิมนะ” โอเค ถ้าให้ซ้อมกลางแจ้งคงจะไม่ไหวนะ
“งั้นเรานอนแล้วนะ” เวลาตอนนี้ก็จะเที่ยงคืนละ
“ฝันดีนะ อย่าตื่นสายด้วย” เรื่องสายนีควรเป็นไบร์ทมากกว่าปะ
“เราว่าไบร์ทแหละจะสาย นอนละน๊า บาย” เสียงหัวเราะไบร์ทเป็นการสั่งลา ก่อนที่จะวางสายกันไป
ผมแอบนอนไม่ค่อยหลับ อยากเห็นข้อความว่าบิ๊กถึงบ้านแล้วก่อน ถึงจะหลับได้ จะเที่ยงคืนแล้ว ผมนอนมอง iPhone เหมือนมันเป็นบิ๊กที่กำลังนอนข้างๆ ผม ผมรอให้เค้ากลับบ้านอยู่นะ ถึงยังก็ไม่รู้...หยิบมาเช็คข้อความก็แล้ว ก็ไม่ตอบซะที ส่งไปเองก็ได้
“นอนแล้วนะ เราแค่อยากรู้ว่าบิ๊กเข้าบ้านยัง” กลัวจะทำให้คุณชายเค้ารำคาญ ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ผมเคลิ้มๆ จะหลับแล้ว ข้อความตอบกลับของบิ๊กก็โผล่มา
“เข้าบ้านแล้ว อาบน้ำแล้ว อยู่บนเตียงแล้ว ตอบไว้ล่วงหน้าแล้ว โอเค?” หลับได้แล้วเรา คนที่เราห่วง ถึงบ้านเรียบร้อย
“ครับผม ฝันดีนะ” คืนนี้ผมนอนฝันดีละ
“ไม่อยากฝันดี อยากฝันเปียก เปียกหนักๆ ยิ่งดี : P นอนละ บาย” หมกหมุ่นจริง คุณชายเนี่ย
ผมเอามือถือไปชาร์จที่หัวเตียง แล้วหรี่ไฟลง ผมดีใจที่วันนี้ผมได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ผมถามตัวเองว่ารู้สึกไงกับบิ๊กตอนนี้
ลองสักครั้งดู ถึงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ผมมีความสุขที่ได้มีเค้าในใจผมนะ
………………..
เช้าแล้ว...วันนี้วันศุกร์ นอนไม่ค่อยหลับ ผมเกลียดผู้หญิงคนนั้นไม่ลง ทั้งที่รู้ว่าผมเป็นแค่ของกินชั่วคราวของเค้า หกโมงเช้าแล้ว ห้าชั่วโมงเต็มๆ ที่นอนไม่สนิท ลุกไปเปิดตู้เย็นในห้อง ดาวแดงสักกระป๋อง เดินออกมาระเบียงห้องนอน ยืนมองฟ้าไปเรื่อยเปื่อย จิบเบียร์ช้าๆ
อยากลืม...ให้หมด ผมไม่น่าเอาใจไปให้ทั้งหมดเลย อยากถามแพรวด้วยตัวเองว่า “ทำไม” แล้วเบียร์ก็หมดกระป๋อง ผมล้างหน้าสักหน่อย แล้วเปลี่ยนชุดเป็นชุดเต็มยศสำหรับซิ่งน้องถ่าน พร้อมกระเป๋าสะพายใบเล็กคาดที่อกอีกใบ เช้ามืดวันศุกร์แบบนี้ ผมพาน้องถ่านวิ่งรวมกับคนที่ออกมาทำงานยามเช้า แวะเติมน้ำมันสักนิด แล้วจุดหมายก็ไปจบที่หน้าบ้านแพรว
มาทำไมวะ...มาก็ไม่เจออยู่ดี ไปไหนดี...พอผมพาน้องถ่านหันหัวกลับ ออกมา วิ่งไปได้สักครู่ ผมสวนกับรถ MINI สีเหลืองที่เคยมาส่งแพรวที่บ้าน ผมหยุดน้องถ่านทันที ผมเหลียวหลังแล้วเปิดกระจกหมวกกันน็อกมองแพรวที่กำลังโบกมือให้รถที่มาส่งเธอ กลับรถออกไป
แพรวน่าจะเห็นผมแล้ว เพราะเธอยืนมองมาทางผม ผมก็มองอยู่เช่นกัน ผมปิดกระจกหมวก ก่อนจะพาน้องถ่านคลานช้าๆ ไปจอดข้างๆ แพรว สายตาของผู้หญิงที่ทำให้ผมคิดมากตอนนี้ ดูไม่มีความกังวลเท่าผมเลย ผมถอดหมวกกันน็อกออก มองหน้าเธอแล้ว กลับถามไม่ออกว่าจะเริ่มยังไงดี
“บิ๊กเลิกตามเราเถอะ” เธอคงเดาได้ว่า ผมแอบสะกดรอยเธออยู่
“เราอยากรู้แค่ ทำไม” แค่นั้นแหละ
“เราคบกับพี่เค้าก่อนรู้จักบิ๊กนะ แต่ช่วงที่ผ่านมา เราทะเลาะกับพี่เค้าเยอะ ขอโทษที่เกินเลยกับบิ๊กไป” ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมรู้สึกจุกในคอจนถามต่อไม่ถูกแล้ว แต่ถ้าคือการเล่นละคร ก็ตีบทแตกมาก
“ระหว่างเรากับเค้าละ เลือกใคร” ผมอยากได้ยินแค่คำตอบนั้น สีหน้าแพรวดูไม่หนักใจเลย ก่อนจะบอกว่า
“เราเลือกพี่เค้า ขอโทษด้วย” แพรวหันหลังเดินไปเปิดประตูอัลลอยด์เข้าบ้านไป ก่อนจะมองผมผ่านช่องประตูแล้วบอกผมแค่
“ขอโทษนะ” ผมยืนมองแพรวจนเดินเข้าบ้านไป ก่อนจะสวมหมวกกันน็อกแล้วพาน้องถ่านวนไปรอบกรุงเทพยามเช้า
ขอให้ผมไม่ต้องเจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลย...
**********
บทที่ 10 แทนจะได้ดูแลบิ๊กแบบใกล้ชิดละครับ และหลังจากนี้ ต้นรักของบิ๊กกับแทนจะชัดเจนขึ้นแน่นอน เพราะบิ๊กคือคนช่วยให้แทนพ้นจากเรื่องที่ทุกข์ที่สุดเรื่องหนึ่งสำเร็จครับ
บทที่ 10 เจอกันวันจันทร์บ่ายๆ ครับผม^^
ขอบคุณทุกคนสำหรับการติดตามครับ^^