@@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์) ตอน เข้าใจให้ตรงกัน
พิพัฒน์ทำแบบนี้ตลอด
หลอกล่อให้หลงมัวเมาจนสุดท้ายก็ไม่อาจต่อต้านได้อีก
ถึงจะรู้อย่างนั้น แต่ไม่ว่ากี่ครั้ง บารมีก็ไม่เคยเอาชนะพิพัฒน์ได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
“อาส์”
พิพัฒน์แหงนเงยใบหน้าขึ้น ฝ่ามือจับแน่นที่ท่อนเอ็นใหญ่โตที่กำลังชูชันตั้งตรง ค่อย ๆ กดแทรกร่างกายของตัวเองลงมาให้ส่วนนั้นชำแรกเข้าไปในช่องทางด้านหลัง ขยับสะโพกเคลื่อนไหวไปมาอีกสองสามครั้งเพื่อให้ความแข็งแกร่งที่ตั้งชันแทรกเข้าไปโดนจุดที่ทำให้ร่างกายรู้สึกร้อน จนต้องเกร็งหน้าท้องเอาไว้ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางพิพัฒน์ก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า
ฝ่ามือร้อนเหนี่ยวรั้งความต้องการของร่างกายตัวเองอย่างรุนแรง สะโพกมนขยับเคลื่อนไหวไปตามความรู้สึก รุนแรงสลับกับเชื่องช้า ร่างกายสัมผัสกันแนบแน่นจนเกิดเสียง เร่งเร้าอารมณ์ความรู้สึกต้องการเป็นของการและกันให้ลึกล้ำของคนสองคนมากขึ้น บารมีช่วยขยับสะโพกกระแทกกระทั้นส่งแรงให้กับพิพัฒน์ที่ยังเคลื่อนไหวสะโพกไปมาอยู่เหนือร่างของบารมี
ร่างกายสอดประสานและขยับเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน
สีหน้าและแววตาร้อนแรงที่บอกทุกความรู้สึกทั้งหมดในเวลาที่สบตากัน ยิ่งเร่งให้ความรู้สึกเตลิดไปไกล
ลมหายใจที่หอบหนักของคนสองคนสอดประสานพร้อมกันรุนแรงไม่หยุด
และเมื่อพิพัฒน์ขยับสะโพกรุนแรง บารมีก็แหงนเงยใบหน้าขึ้น ส่งเสียงคำรามในลำคอย่างถูกใจ
พิพัฒน์หลับตาแน่น หยาดเหงื่อหลั่งรินชโลมกายเพราะการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
เรี่ยวแรงทั้งหมดถูกนำมาใช้กับการร่วมรัก ปรนเปรอให้กันอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย พิพัฒน์ทิ้งกายลงทาบทับอยู่เหนือร่างของบารมี และบารมีก็พลิกกายขึ้นมาอยู่ด้านบนและเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะกระแทกกระทั้นเองบ้าง
ร่างกายเปลือยเปล่าแนบสัมผัสกันไม่เหลือช่องว่าง และพิพัฒน์ก็ปล่อยเสียงครางออกมาทุกคร้งที่บารมีสอดแทรกกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าหา
“อือออ ฮึก อื้อ”
เรียวขาถูกแยกออกจากกันและบารมีก็กดแทรกร่างกายเข้ามาลึกล้ำมากขึ้น เรียวขาขาวถูกยกขึ้นพาดไว้ที่ลาดไหล่แกร่ง บารมีโน้มกายลงกดกระแทกเข้าหาไม่ยั้งและพิพัฒน์ทำได้แค่เพียงรองรับทั้งหมดที่บารมีส่งแรงมาให้ไม่หยุด
ลมหายใจหอบหนักเมื่อใบหน้าคมแนบลงมาและบดคลึงริมฝีปากแนบกับริมฝีปากที่ขบแน่นเข้าหากันของพิพัฒน์ อารมณ์ความรู้สึกเตลิดไปพร้อมกับสัมผัสร้อนแรง
ยิ่งกระแทกร่างกายเข้าไปมากเท่าไหร่ พิพัฒน์ยิ่งร้องครางลั่นมากขึ้นเท่านั้น
ร่างกายสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันลึกล้ำ และบารมียิ่งกดกระแทกร่างกายเข้าไปไม่หยุด ท่อนเอ็นแกร่งแทรกสอดขยับเคลื่อนไหวเข้าออกอยู่ภายในช่องทางที่บีบรัด
เสียงร้องครางเครือ ยิ่งเร่งเร้าให้อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มขึ้น
หยดเหงื่อหลั่งรินลงที่ข้างแก้ม และเมื่อบารมีหยุดการเคลื่อนไหว พิพัฒน์ก็โน้มลำคอของบารมีลงมาหา บดเบียดริมฝีปากเข้าหากัน ดูดกลืนปลายลิ้นร้อนที่ส่งเข้ามาภายในโพรงปากอย่างหิวกระหาย ก่อนจะขยับกายลุกขึ้นอีกครั้ง และเปลี่ยนกลับขึ้นมาคร่อมทับอยู่เหนือร่างของบารมีเพื่อควบคุมทุกจังหวะด้วยตัวเอง
ปลายนิ้วร้อนลากผ่านที่แผ่นอกกว้าง ก่อนจะวางฝ่ามือลงและขยับร่างกายเคลื่อนไหวอยู่บนร่างของบารมีอีกครั้ง
สะโพกมนเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและเร่งเร้าให้อารมณ์ของบารมีใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเต็มที เสียงลมหายใจที่หอบหนักขึ้น ร่างกายกายเบื้องบนที่ขยับเคลื่อนไหว เสียงผิวเนื้อกระทบกันยิ่งเป็นการเร่งเร้ามากขึ้น และเมื่อความต้องการถึงจุดสิ้นสุดพิพัฒน์ก็ขยับสะโพกเคลื่อนไหวรุนแรงเป็นครั้งสุดท้าย จิกปลายเล็บลงบนแผ่นอกกว้างอย่างรุนแรง เมื่อถึงจุดสิ้นสุด
ทุกส่วนของร่างกายเหยียดเกร็ง
หน้าท้องเนียนขาวเกร็งแน่นและร่างกายของพิพัฒน์ก็เกร็งกระตุกเมื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดที่อัดแน่นอยู่ภายในออกมาจนหมด แม้จะถึงจุดหมายแล้ว แต่สะโพกมนยังคงขยับเคลื่อนไหว เพื่อให้ช่องทางด้านหลังบีบรัดดูดกลืนท่อนเอ็นใหญ่เข้าไป
บารมีกระแทกสะโพกขึ้นไปอีกครั้งในจังหวะสุดท้ายและปล่อยให้ร่างกายหลั่งความต้องการออกมาทั้งหมด
ฉีดพ่นของเหลวอุ่นร้อนเข้าไปในช่องทางที่บีบรัดแน่น และพิพัฒน์ก็ถึงกับร้องครางเสียงลั่นเมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่ถาโถมเข้ามาภายในร่างกาย
ฝ่ามือยังคงขยับรูดรั้งร่างกายของตัวเอง
น้ำรักขุ่นขาวหลั่งรินออกมาจากส่วนปลายกระเซ็นกระสายรินรดที่หน้าท้องแกร่ง
ฝ่ามือร้อนลูบไล้ทุกหยาดหยดที่ปลดปล่อยชโลมไปที่แผ่นอกกว้างของบารมีและพิพัฒน์ก็ค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นอย่างช้า ๆ เพื่อกดแทรกร่างกายของตัวเองเข้าไปในโพรงปากของบารมี
กดแทรกแก่นกายของตัวเองเข้าไปในโพรงปากร้อนเพื่อให้อีกฝ่ายจัดการทุกหยาดหยดที่ถูกปลดปล่อยออกมา
พิพัฒน์ขยับกายลงมาทาบทับอยู่บนร่างของบารมีอีกครั้ง แนบริมฝีปากดูดกลืนสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในโพรงปากของบารมี แทรกปลายลิ้นเข้าหาและใช้ลิ้นหยอกเย้าเพื่อให้บารมียินยอมกลืนกินทุกความรู้สึกของพิพัฒน์ลงไปในคอ
น้ำรักที่บารมีหลั่งเอาไว้ในร่างกายของพิพัฒน์ทุกหยาดหยดล้นทะลักออกมาจนไหลเปรอะเปื้อนไปที่ขา และพิพัฒน์ก็นิ่วหน้า เมื่อลองแทรกปลายนิ้วเข้าไป จังหวะที่ถอนปลายนิ้วออกของเหลวข้นหนืดก็ไหลรินตามออกมาด้วย
“ทำไมยังเยอะอยู่ ก็เมื่อเช้าเพิ่งออกไป”
คำถามง่าย ๆ แบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่บารมีจะตอบไม่ได้
“ทีพัฒน์ยังออกมาเยอะเลย ก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง”
บางทีก็คงใช่
บางทีอาจจะใช่ บารมีค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่งและพิพัฒน์ก็ทิ้งกายลงนอนคว่ำหน้าและยกสะโพกขึ้นสูง เพื่อให้บารมีทำบางอย่างให้
ฝ่ามือร้อนค่อย ๆ ขยับแยกสะโพกแน่นเนียนขาวออกจากกัน และสอดปลายนิ้วไปที่ช่องทางด้านหลังที่ยังมีคราบน้ำรักไหลรินออกมา
สอดปลายนิ้วหมุนวนเข้าไปภายใน ก่อนจะงอปลายนิ้วลงและดึงออกเพื่อควานเอาคราบเหนียวหนึบที่ถูกปลดปล่อยเอาไว้ภายในออกมาได้บ้าง
“อือ”
พิพัฒน์ถึงกับนิ่วหน้าและซบใบหน้าลงกับหมอน ยกสะโพกให้แยกออกจากกันมากขึ้น เพื่อให้บารมีช่วยควานทุกหยาดหยดที่อยู่ภายในออกมา
“ไปอาบน้ำ เดี๋ยวช่วยเอาออก จะหมดแล้ว”
บารมีขยับกายลุกขึ้นยืน แต่พิพัฒน์ไม่ยอมลุกขึ้นตามไปด้วย
ดึงแขนบารมีเอาไว้ ผุดลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ และแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีด้วยดวงตาเว้าวอน แต่แฝงความร้อนแรงเอาไว้
“......พี่.......”
น้ำเสียงออดอ้อนแผ่วหวานที่ได้ยิน เป็นใครก็ต้องใจอ่อนและบารมีก็ไม่อาจต้านทานกับสายตาแบบนั้นของพิพัฒน์ได้
บารมีส่งยิ้มบาง ๆ ให้คนที่เข้ามาอ้อน แตะฝ่ามือเบา ๆ ที่เส้นผมนิ่มของคนที่ร้องขอให้บารมีเอาใจ
จุดกึ่งกลางของร่างกายที่ส่วนปลายยังมีคราบน้ำรักข้นหนึบเคลือบชโลมอยู่ถูกรูดรั้งเบา ๆ
และพิพัฒน์ก็แนบริมฝีปากลงที่หน้าท้องแกร่งที่มีขนอ่อนขึ้นรำไร
จูบไล่ลงมาเรื่อยจนถึงท่อนเอ็นใหญ่ที่ยังอ่อนแรง และครอบทับริมฝีปากดูดกลืนเข้าไป
ใช่ฝ่ามือประคองเบา ๆ ที่ถุงเนื้อนุ่มหยุ่นทั้งสองข้าง หยอกเย้าด้วยปลายลิ้น และเงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีอีกครั้ง และบารมีก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา
“ไป พอแล้ว ไปอาบน้ำได้แล้ว นี่แผนเอื่อยเฉื่อยไม่ยอมอาบน้ำใช่มั้ยพัฒน์ มึงนี่นะ”
บารมีถึงกับส่ายหน้าและพิพัฒน์ก็นิ่วหน้าเพราะถูกจับได้
ยอมลุกขึ้นง่าย ๆ และบารมีก็ส่ายหน้ากับการประวิงเวลาของพิพัฒน์
แกล้งตีมือไปที่สะโพกแน่นของคนที่เดินนำไปแรง ๆ หนึ่งครั้งและพิพัฒน์ก็ร้องออกมาเสียงดังลั่น
“โอ้ยย”
ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแต่คนโดนกระทำ ร้องเสียงหลงเกินจริง จนบารมีต้องขยี้ผมของพิพัฒน์แรง ๆ ด้วยความหมั่นไส้
และพิพัฒน์ก็ฉวยจังหวะเผลอ ตีมือไปที่สะโพกของบารมีแรง ๆ เป็นการเอาคืน
“เฮ้ยยย”
ร้องออกมาด้วยเสียงที่ดังกว่า และพิพัฒน์ก็เหลือบสายตามองหน้าบารมีที่แกล้งร้องเสียงดังยิ่งกว่าที่ตัวเองร้อง
“แอ็คติ้งสมจริง”
แกล้งว่า
และบารมีก็เลิกคิ้วขึ้นสูง และพูดจาประชดประชันพิพัฒน์ที่ยังเอาแต่เล่นไม่เลิก
“คนแถวนี้มันจะได้เห็นใจไง”
ใครที่จะไม่เห็นใจบารมีบ้างพิพัฒน์คนหนึ่งที่ไม่ใช่
พิพัฒน์หยุดยืนนิ่งและแหงนเงยใบหน้าขึ้นจ้องมองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบรัดรอบคอและถูจมูกไปที่แผ่นอกกว้างแรง ๆ
“อื้อออออ”
อ้อนให้หลง
อ้อนให้รัก แสดงความรู้สึกให้รู้ว่ากำลังรู้สึกยังไง
“พูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจ”
งั้นเหรอ
บารมีเมินมองหน้าไปทางอื่น แต่พยายามสะกดกลั้นรอยยิ้มเอาไว้สุดความสามารถ
พัฒน์มึงอย่าทำแบบนี้ ขอร้องว่าอย่าทำ
“แล้วไง พูดอีกสิ กำลังซึ้ง”
ไม่แล้วไงหรอก ก็แค่ว่า
“ถ้ารู้ว่าชอบท่าไหน........ยอมให้เธอเอาหมดทุกท่า”
ไอ้พัฒน์.......
บารมีถึงกับหลุดขำ และหันมามองหน้าของพิพัฒน์ตรง ๆ
คนพูดพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ แต่คนฟังอารมณ์ดีจนอยากจะหัวเราะให้เสียงดังลั่นเพราะคำพูดคำจาของคนไม่ช่างพูด แต่ขยันทำให้รู้สึกดีอย่างพิพัฒน์
“ให้มันจริงเหอะ”
จริงสิ ก็ทำอยู่นี่ไง ไม่จริงตรงไหนเหรอ
“ไม่ต้องมาทำดีกับกูกลบเกลื่อนเรื่องอีปาหรอก ไม่หลงเชื่อง่าย ๆ หรอกจะบอกให้”
เรื่องนั้นมันใช่ที่ไหนล่ะ
“ผมไม่สัญญาและไม่สาบานอะไรทั้งนั้นเรื่องปา แต่ผมจะทำให้พี่บัสรู้ ว่าผมจะไม่กลับไปคิดอะไรแบบนั้นกับปาอีกแล้วผมจะพิสูจน์ให้พี่บัสเห็นเอง“
สายตาที่มองมามุ่งมั่น
ดวงตาที่จ้องมองตรงมาไม่มีแววหวั่นไหวเลยสักนิด และบารมีก็ถอนหายใจยาว
แตะฝ่ามือลงที่ไหล่ของพิพัฒน์เบา ๆ และส่งยิ้มบาง ๆ ให้
“พัฒน์..........ชีวิตกูเอาจริง ๆ ก็ไม่มีใครแล้วนะ พ่อก็ไม่มี แม่ก็ไม่อยู่แล้ว เหลือแต่มึงกับอีปา กูไม่อยากให้ครอบครัวพังเพราะเรื่องไม่เข้าท่า....... มึงพอจะนึกวิธีไหนออกบ้างมั้ย วิธีที่ไม่ต้องทำร้ายใคร”
วิธีที่ไม่ต้องทำร้ายใครมันก็มี เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก
พิพัฒน์มองหน้าของบารมีตรง ๆ และแตะฝ่ามือที่ข้างแก้มของบารมีเบา ๆ ลูบไล้เล่นและส่งยิ้มให้
“ทำทุกอย่างให้ชัดเจน พี่กล้าทำมั้ย”
กล้าทำมั้ยงั้นเหรอ
การถามเอาความกล้าจากบารมีไม่ใช่เรื่องที่ควรถาม เพราะไม่ต้องถามบารมีก็พร้อมที่จะกล้าทำให้ทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
“รอคำนี้ของมึงมานานแล้ว กว่าจะยอมจริงจังกับกูนี่ กูเสียน้ำให้มึงไปเยอะเลยนะ”
บารมีส่ายหน้า และพิพัฒน์ก็หัวเราะออกมาเสียงเบา
“กำลังจะเสียอีกรอบแล้วด้วย”
ไม่ต้องให้รอนาน พิพัฒน์ลากฝ่ามือไปที่ท่อนเอ็นที่อ่อนแรงและกอบกุมเอาไว้ทั้งหมด ขยับมือขึ้นลงอีกสองสามครั้งเพื่อหยอกเย้า และบารมีก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะไม่ว่ากี่ครั้งก็ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกของพิพัฒน์ได้
เพียงไม่นานส่วนนั้นก็ค่อยๆ ขยายใหญ่โตขึ้นและแข็งแรงชูชันขึ้นมาอีกครั้งในไม่ช้า
“เออ นั่นมันของของมึงนี่ คิดจะทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว”
แกล้งพูดจาประชดประชันใส่ และพิพัฒน์ก็ยิ้มกว้าง ดึงมือของบารมีให้มาแตะต้องและรูดรั้งที่ส่วนกึ่งกลางของร่างกายตัวเองบ้างและส่วนนั้นก็ตอบรับฝ่ามือของบารมีเป็นอย่างดี
“เสียว”
ก็สมควรอยู่
“เงี่ยนก็บอกว่าเงี่ยน อย่าทำให้ดีใจด้วยการบอกว่าเสียว”
แกล้งพูดและพิพัฒน์ก็พยักหน้ายอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
“ทั้งเงี่ยนทั้งเสียวได้มั้ย”
ได้ครับ
ได้ครับท่าน
ได้หมดนั่นแหละครับคุณพิพัฒน์
บารมีได้แต่ส่ายหน้าและพิพัฒน์ก็อมยิ้มก่อนจะขบริมฝีปากไปที่ปลายคางของบารมีเบา ๆ
“เสียวจริง ๆ นะ.....อือออ....”
แสดงออกให้รู้ว่ารู้สึกยังไง
และบารมีก็เริ่มขยับมือให้เร็วขึ้น เพื่อปลุกปั่นความรู้สึกของพิพัฒน์ให้เพิ่มมากขึ้น
“พูดเองนะ”
พิพัฒน์พยักหน้ารับและหมุนกายหันหลังและใช้ฝ่ามือทาบไปที่ผนังเพื่อเป็นหลักยึด สองขาแยกห่างออกจากกัน เพื่อให้บารมีสามารถแทรกกายเข้าไปที่ช่องทางที่ยังมีคราบขุ่นขาวเปรอะเปื้อนอยู่ได้ โน้มกายลงเพื่อเปิดรับความใหญ่โตที่ถูกปลุกปั่นให้ขยายใหญ่ขึ้นที่กำลังจดจ่อเตรียมจะเข้ามา
บารมีจับส่วนปลายกดชำแรกเข้าไปที่ช่องทางที่เปิดรับ ขยับกายอีกเพียงเล็กน้อยเพื่อแทรกเข้าไปให้ลึกล้ำมากขึ้น
สองมือจับที่สะโพกมนแน่น และเริ่มขยับกายเข้าไปอีกครั้ง ร่างกายถูกดูดกลืนเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนจนหมดและพิพัฒน์ก็ขยับสะโพกตามจังหวะที่ถูกบารมีสอดแทรกเข้ามา
สะโพกแกร่งหมุนวนท่อนเอ็นที่ขยายใหญ่โตภายในช่องทางที่บีบรัด กดแทรกชำแรกเข้าไปลึกล้ำ
ผิวเนื้อที่สะโพกแน่นถูกแยกออกจากกันเพื่อรองรับแรงกระแทกกระทั้น เมื่อบารมีขยับกายก็เกิดเสียงผิวเนื้อกระทบกันดังลั่น
พิพัฒน์ขยับฝ่ามือของตัวเองรุนแรงที่ส่วนของร่างกายที่ชูชันและสั่นไหวไปมา
เสียงร้องครางเครือเพราะความรู้สึกของคนสองคนประสานขึ้นพร้อมกัน
“อือออ อาส์ อึก อ่าส์”
บารมียังกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าไปไม่หยุด
และพิพัฒน์ยังคงปล่อยให้ความรู้สึกของตัวเองไหลเรื่อยไปตามแรงอารมณ์ที่เกิดขึ้น
ในเวลาไม่นานบารมีก็ปลดปล่อยในร่างกายของพิพัฒน์อีกครั้ง และพิพัฒน์ก็รับความรู้สึกของบารมีที่ถูกปลดปล่อยออกมาเอาไว้ทั้งหมด
เพราะคุยกันด้วยคำพูดไม่ค่อยเข้าใจ เลยต้องใช้ร่างกายคุยกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนเพิ่มขึ้น
บารมีและพิพัฒน์ใช้ความพยายามด้วยกันทั้งคู่
เมื่อใช้คำพูดคุยกัน บางครั้งก็ไม่ชัดเจน และเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ จึงต้องใช้ทั้งร่างกายและคำพูดคุยกันให้รู้เรื่อง
“พัฒน์”
“หือ”
“พัฒน์ก็เป็นคนเดียว ที่ทำให้พี่เป็นได้ถึงขนาดนี้เหมือนกัน”
TBC.