คนโปรด 13.2
"เซน"สมิธเอ่ยเรียกคนข้างตัวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆหลังจากที่ฝังศพแคทเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"ครับ?"
"คุณเปิดประตูห้องทิ้งไว้หรอ"
"เอ๊ะ เปล่านะครับ ผมปิดประตูสนิทดีทุกครั้ง ก่อนเข้าลิฟท์ผมก็มองเช็คอีกรอบก็เห็นยังปิดอยู่" เซนอุทานก่อนจะรีบอธิบายด้วยความแปลกใจ
"แล้วประตูมันจะเปิดเองได้ยังไง"
"?"เซนมองหน้าสมิธอย่างมีคำถาม แม้จะตงิดใจกับการตายของแคทแต่เขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูดขึ้นมา
"หมาผมจะกระโดดบันไดเป็นสิบขั้นลงไปตายเองได้ยังไง"
"ผมว่า..."
"มันนั่นแหละทำ"สมิธพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ดวงตาที่เศร้าสร้อยจากการสูญเสียแปรเปลี่ยนเป็นเพลิงโทสะอย่างที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็นมาก่อน
"เรื่องนี้คงต้องแจ้งให้นายทราบ"เซนเข้าใจว่าคนที่สมิธพูดถึงคือใคร พวกเขาอยู่ในเหตุการณ์สามคน เขาไม่ได้ทำ สมิธไม่มีทางทำ...ก็เหลือแค่ไนซ์ ที่มาปุ๊บก็เกิดเรื่องเลย จะให้คิดเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง
"แล้วยังไง?คิดว่าเขาจะช่วยผมเหรอ หึ!"
"ผมว่ายังไงนายก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้แก่คุณสมิธแน่นอน"เซนเอ่ยอย่างมั่นใจ เพราะเชื่อว่าอย่างไรลูคัสก็เลือกสมิธแน่ๆ...ทุ่มเทให้ซะขนาดนี้
Rrr Rrr Rrr
ยังไม่นที่สมิธจะตอบกลับอะไรไปเสียงโทรศัพท์มือถือของเซนก็ดังขึ้นซะก่อน บอดี้การ์ดหนุ่มรีบกดรับเพราะเห็นว่าเป็นเบอร์คนสนิทของเจ้านายและเป็นเจ้านายของเขาอีกทอดด้วย
"ครับโย...ฝังแล้วครับ...ครับ...จะรีบกลับครับ" เซนกดวางสายโทรศัพท์ก่อนจะหันไปพูดกับสมิธที่ยืนเหม่อมองหลุมศพของแคทอยู่
"เรากลับกันเถอะครับสมิธ นายถึงห้องแล้ว...และไนซ์ก็อยู่ด้วย" ดวงตาสมิธแข็งกร้าวขึ้นเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากเซน
"ไปสิ ผมก็อยากจะเคลียร์อะไรๆเหมือนกัน"สมิธก้าวนำเซนไปขึ้นรถก่อน มือบางกำหมัดแน่นอย่างข่มใจ
+++++++++++
เซนพาสมิธกลับถึงห้องในระยะเวลาไม่เกินสิบนาที เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่นด้วยช่วงขาที่มั่นคง ทันทีที่ดวงตาสีมหาสมุทรคู่สวยเหลือบเห็นใบหน้าของไนซ์นั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่รู้สึกรู้สา
มวลความโกรธในอกสมิธเดือดปุดๆเหมือนลาวาก่อนจะระเบิดออกมาทันทีที่เห็นอีกฝ่ายหันมาแสยะยิ้มเยาะเย้ยให้
ร่างบางของสมิธพุ่งเข้าหาไนซ์อย่างเร็วโดยที่ใครก็ไม่ทันได้ตั้งตัว มือบางขยุ้มเข้าไปที่ผมสีอ่อนของไนซ์เต็มกำมือ ก่อนจะกระชากผมอีกฝ่ายอย่างแรงจนไนซ์ตกจากโซฟา
"โอ๊ย!!!"ไนซ์โอครวญด้วยความเจ็บพยายามจะแกะมือสมิธออกจากผมของตนเอง แต่นอกจากสมิธจะไม่ปล่อยแล้ว เขายังตามไปนั่งทับบนร่างไนซ์ปล่อยมืออีกอีกข้างแล้วกระหน่ำหมัดใส่หน้าและตัวอีกฝ่ายอย่างไม่ยั้งแรง
"โอ๊ยย!ช่วยด้วย!!คุณลูคัสช่วยผมด้วย!"ไนซ์ตะโกนขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะแรงของเด็กที่กำลังเลือดขึ้นหน้าได้
ลูคัสที่เพิ่งได้สติช้าไปสักเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วเข้มอย่างไม่ชอบใจก่อนจะตรงเข้าไปหาทั้งคู่ มือแกร่งจับแขนเรียวของสมิธไว้แน่นเพื่อให้ร่างบางหยุดประทุษร้ายคนที่ล้มอยู่ ส่วนมืออีกข้างก็คว้าเอวบางไว้หมายจะอุ้มร่างเล็กที่คร่อมร่างไนซ์อยู่ออก แต่ชายหนุ่มคงลืมว่ามืออีกข้างของสมิธกำอะไรไว้อยู่ เมื่อจังหวะที่เขายกสมิธขึ้น ไนซ์ก็แหกปากร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด
"โอ๊ย!!!"
"มิทตี้ปล่อยมือ"ลูคัสปรามสมิธเสียงเข้ม
"ไม่!!!มันฆ่าหมากู!"เด็กหนุ่มตะคอกสวนคนตัวโตกว่าอย่างไม่ยอม
"ผมเปล่าทำนะครับ...โอ๊ย"ทันทีที่ไนซ์เอ่ยปฏิเสธมือเล็กๆที่ขยุ้มผมเขาอยู่ก็กระชากอย่างแรงจนหนังศีรษะเขาชาไปหมด
"ตอแหล!!มึงไม่ทำแล้วใครจะทำไอ้ชาติชั่ว!"สมิธสบถด่าคำหยาบอย่างอดไม่อยู่
"มิทตี้ปล่อยก่อน"ลูคัสพูดเสียงอ่อนลง พยักหน้าให้โยฮันเนสมาช่วยแกะมือเด็กน้อยออกจากผมของไนซ์
"มันฆ่าหมากู...มันฆ่าแคทลุค"ดวงตากลมโตแดงก่ำอย่างพยายามกลั้นน้ำตาเหลือบสบตาคมสีเขียวเข้มของลูคัส
ชายหนุ่มยกมือลูบผมนิ่มเบาๆแล้วกดจูบลงที่ข้างขมับเล็ก
"พี่รู้แล้ว ไม่ร้องนะเด็กดี...เดี๋ยวพี่จัดการเอง" สมิธยอมปล่อยมือออกจากผมของไนซ์เอง ซึ่งมีผมของไนซ์ติดมือมาอีกกระจุกไม่น้อยเลย
ไนซ์ลุกขึ้นจากการถูกช่วยพยุงจากโยฮันเนสด้วยท่าทางเซเล็กๆอย่างอ่อนแรง ดวงตาสีอ่อนคู่สวยเหลือบมองลูคัสที่อุ้มสมิธเข้าไปอีกห้องด้วยความริษยา
"นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ"โยฮันเนสพยุงไนซ์ไปนั่งบนโซฟาตัวเดิมที่เขาเพิ่งนั่งไปก่อนหน้านี้
ไม่นานลูคัสก็เดินออกจากห้องสมิธมาหาไนซ์ด้วยสีหน้าเย็นชาดุดันอย่างที่ไนซ์ไม่เคยเห็นมาก่อน
"เอาล่ะ จะแก้ตัวอะไรก็รีบพูดมา ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พูดอีก"ลูคัสกอดอกทรุดนั่งลงโซฟาตรงข้ามไนซ์พร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเย็น
ไนซ์ตัวสั่นนิดๆกับท่าทางและบรรยากาศกดดันจากลูคัส แต่ชายหนุ่มหน้าสวยกลับยกยิ้มและเงยหน้าสบสายตาคมดุของลูคัสมองร่างสูงอย่างเหนือกว่า
"ผมไม่ได้ทำและคุณต้องเชื่อผม"
"..."
++++++++++++++
หลังจากเหตุการณ์ที่สมิธอาระวาดใส่ไนซ์ เวลาก็ล่วงเลยมานับสัปดาห์ โดยที่ไม่มีใครพูดถึงไนซ์อีก และสมิธก็ไม่อยากถามถึง เพราะลูคัสบอกเขาแล้วว่าจะลงโทษไนซ์อย่างสาสม สมิธก็จะลองเชื่อลูคัสดูอีกสักครั้ง
แต่อย่าให้เขาเจอมันอีก...ถ้าเจอมันต้องเจ็บตัวกันไปข้าง
และเมื่อวันก่อนหลังจากที่ลูคัสเข้ามานอนกับสมิธตามปกติ เด็กหนุ่มก็ยังไม่หลับในทันที เขาเอ่ยถามเรื่องไปโรงเรียนกับลูคัสเพราะถึงช่วงเวลาเปิดเรียนของเด็กที่นี่แล้ว แต่คำตอบที่ได้จากลูคัสก็ทำเอาร่างเล็กน้ำตาคลอ โกรธแบบไม่ยอมคุยกับลูคัสจนถึงวันนี้
'พี่จะให้มิทตี้เรียนแบบโฮมสคูล...จะจ้างครูที่เก่งๆมาสอนไม่ต้องกลัวว่าจะด้อยกว่าคนอื่น'
'ใจคอมึงจะขังกูไว้ไม่ให้กูออกไปเจอใครเลยหรือไง'
ลูคัสไม่ปฏิเสธเพราะเขาต้องการให้ทุกอย่างเป็นอย่างที่สมิธว่า
'กูเป็นคนนะลุค ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง'
'พี่ไม่เคยมองมิทตี้เป็นสัตว์เลี้ยง มิทตี้เป็นคนโปรดของพี่ พี่จึงถนอมนายไว้ไม่ให้ใครก็เท่านั้น'
'มึงมันชั่ว!'
สิ้นคำด่าสมิธก็ถูกอีกคนลงโทษจมเตียง ร่างเล็กได้แต่กัดปากแน่นบังคับเสียงร้อง เมื่ออีกคนห่มเหงร่างกายเล็กจนพอใจก็ผละออกจากห้องไปด้วยความหงุดหงิดที่เห็นน้ำตาหยดซึมออกมาแต่มือบางก็รีบปาดทิ้งออกไปอย่างรวดเร็ว
จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้วที่สมิธมึนตึงใส่ลูคัสไม่ยอมพูดคุยด้วยแม้ชายหนุ่มจะพยายามไถ่โทษอย่างไรก็ตาม ที่สมิธต้องการคืออิสระภาพ สิ่งของอย่างอื่นที่ลูคัสหามาประเคนให้เขาไม่ได้แยแส
ตั้งแต่แคทตาย สมิธก็ทานอาหารได้น้อยลง บางวันเขาทานแค่บิสกิตเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งลูคัสก็รู้แต่บังคับสมิธไม่ค่อยได้เท่าไหร่
"คุณสมิธไม่สบายหรือเปล่าครับ?หน้าซีดๆ"จิมมี่เอ่ยทักขึ้นเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของสมิธไร้สีเลือดตั้งแต่เมื่อวาน
"เปล่า"สมิธส่ายหน้าแล้วดูทีวีต่อ แต่ก็ต้องนิ่วหน้าจนผิดรูป มือบางกุมท้องตัวเองไว้แน่น
"สมิธเป็นอะไรครับ?"จิมมี่ถลันตัวเข้ามาดูอาการสมิธใกล้ๆ เด็กหนุ่มกัดปากแน่น เหงื่อชื้นไหลหยดลงมาตามข้างขมับ
"ปวดท้องนิดหน่อย"
"ให้หมอมาตรวจดูดีไหมครับ?"จิมมี่พูดด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ต้อง สงสัยจะเป็นกระเพาะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กินข้าว ไปเอายามาให้ผมที"จิมมี่แม้จะเห็นด้วยกับคำพูดของสมิธแต่ก็อดจะกังวลไม่ได้ เซนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมาเห็นสีหน้าของเพื่อนและอาการของสมิธก็รีบเดินเข้ามาดูอีกคน
"เป็นอะไรกัน?"เซนเอ่ยถามเพื่อนบอดี้การ์ดด้วยกัน
"สมิธปวดท้อง"จิมมี่เป็นคนเอ่ยบอก
"เรียกหมอไหมครับ"เซนเอ่ยถามคำถามเดียวกับจิมมี่ สมิธที่ปวดท้องอยู่ก็ชักสีหน้าหงุดหงิดใส่สองหนุ่มด้วยความรำคาญช่างเซ้าซี้
"ไม่ต้อง!ผมบอกให้ไปเอายามาไงล่ะจิม"ได้ยินเสียงตะคอกจากเจ้านายตัวเล็กจิมมี่จึงรีบไปหยิบยาแก้โรคกระเพาะอาหารมาให้สมิธ เด็กหนุ่มรับยามาใส่ปากแล้วดื่มน้ำตามทันที
"ผมจะเข้าไปนอนพักแล้ว ไม่ต้องปลุกนะ"สมิธเอ่ยบอกบอดี้การ์ดทั้งสองคนแล้วลุกขึ้นจากโซฟา
"แล้วอาหารเย็นล่ะครับ?"
"ไม่กิน ถ้าหิวจะออกมากินเอง"
"แต่..."
ปัง!สมิธไม่อยู่รอฟังอีกสองคนเซ้าซี้ เขาล้มตัวลงนอนบนเตียงแต่ก็ปวดหน่วงที่ท้องขึ้นมาอีกระลอก เด็กหนึ่งสูดหายใจเข้าออกลึกพยายามระงับอาการทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น สมิธข่มตาตัวเองให้หลับจากหลายๆความรู้สึกในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้จนผล็อยหลับไปในที่สุด
+++++++++++
เช้าวันต่อมา
สมิธตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดที่หน้าท้องอีกครั้ง ร่างบางคลื่นไส้อย่างหนัก จึงวิ่งไปอาเจียนที่ห้องน้ำหลายรอบ มือบางเผลอกดไปที่ท้องด้านขวา มันปวดมากชนิดที่แทบทรุดไปกับพื้น
สมิธไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร รู้สึกวิงเวียนไปอีก ตัวก็รุมๆเหมือนจะมีไข้ยังไงก็ไม่รู้
ร่างบางตัดสินใจฝืนสังขารออกไปจากห้องนอนของตัวเอง ทรมานจนเหงื่อหยดเป็นเม็ดๆ ริมฝีปากสีซีดที่เคยแดงระเรื่อเอ่ยเรียกจิมมี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาหลายครั้งกว่าบอดี้การ์ดหนุ่มจะได้ยิน
"...จิม"จิมมี่และเซนหันไปมองตามต้นเสียง เห็นท่าทางซวนเซจะล้มของสมิธ ทำให้ทั้งคู่ก็รีบพุ่งไปประคองร่างสมิธราวกับของล้ำค่ำทันที
"สมิธไหวไหมครับ"เซนเอ่ยถาม ส่วนจิมช้อนขาสมิธอุ้มขึ้น พาร่างบางวางลงที่โซฟาตัวยาว ส่วนเซนรีบต่อสายตรงถึงโยฮันเนสคนสนิทของเจ้านายทันที
"โย คุณสมิธไม่สบายครับ...ครับ...โอเคครับ"
"เดี๋ยวโยจะเรียกคุณหมอมาดูอาการคุณสมิธ อดทนรอหน่อยนะครับ"เซนเอ่ยให้กำลังใจเด็กหนุ่มที่นอนหน้าซีดอยู่ สมิธพยักหน้ารับคำและกัดฟันแน่นรอคอยหมอมาอย่างอดทน
เกือบหนึ่งชั่วโมง ที่เกรย์ แอนเดอร์สัน จะถึงเพ้นท์เฮ้าส์ที่สมิธพักอยู่ ชายหนุ่มเดินเข้าไปดูอาการของเด็กน้อยหลังจากจิมมี่ลงไปรับด้านล่าง เขาทรุดลงนั่งข้างๆร่างเล็กที่นอนซมอยู่บนเตียง สมิธยังมีสติดีอยู่แต่ก็ดูทรมานมากอย่างเห็นได้ชัด
"สวัสดี ผมเกรย์ แอนเดอร์สัน เป็นหมอนะ อาการคุณตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง"เกรย์เอ่ยแนะนำตัวเพื่อสร้างความรู้จักกับร่างเล็กพร้อมเอ่ยซักถามอาการโดยไม่อ้อมค้อม
"ผมปวดท้อง" เกรย์ขมวดคิ้วเหลือบมองหน้าซีดหนักของอีกฝ่าย
"ขออนุญาตนะ"ชายหนุ่มเลิกชายเสื้อขึ้นพร้อมกดน้ำหนักมือลงไปที่ท้องน้อยของสมิธแล้วเอ่ยถาม
"เจ็บไหม?"
"เจ็บ" สมิธตอบเพราะรู้สึกเจ็บไปทั่วท้อง เกรย์เลื่อนมือไปกดที่ท้องด้านขวาของสมิธและกำลังจะเอ่ยถาม แต่เด็กหนุ่มดันร้องเสียงหลงขึ้นมาก่อน
"โอ้ยยย เจ็บบบ"สมิธเจ็บมากจนน้ำตาซึมที่หางตา เกรย์รีบปล่อยมือออกจากหน้าท้องขาวแล้วหันไปบอกบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งคู่ทันที
"เตรียมรถออก สมิธน่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบต้องไปโรงพยาบาลด่วน"
เกรย์รีบช้อนร่างบางขึ้นอุ้มอย่างระมัดระวัง ส่วนจิมมี่เดินนำไปคอยเปิดประตูให้ก่อน และเซนยกมือถือขึ้นโทรรายงานเจ้านาย
"ผมจะตายไหมทำไมมันถึงได้ทรมานขนาดนี้"สมิธเอ่ยถามเกรย์อย่างอ่อนแรงขณะที่นั่งอยู่บนรถกำลังจะไปโรงพยาบาล
"ไม่ตายหรอก ผ่าเอาออกเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว"เกรย์เอ่ยปลอบใจเมียเพื่อนอยู่ห่างๆ เหลือบมองร่างบางที่เขาเจอทีไรไม่เคยอยู่ในสภาพที่น่าดูเลยสักครั้ง
ไอ้เพื่อนเหี้ยก็เสือกหายหัว...เมียเจ็บขนาดนี้ เกรย์ด่าลูคัสในใจแม้ว่าเซนจะบอกเขาว่าเดี๋ยวลูคัสจะตามไปที่โรงพยาบาลก็ตาม
"เหรอ..."ในจังหวะที่รถติดไฟแดงอยู่ สมิธเหลือบสายตาออกไปนอกกระจกรถอย่างเคยชิน เสี้ยววินาทีที่หางตาเหลือบไปเห็นบางสิ่ง ลมหายใจเขาสะดุดจนแทบลืมหายใจ
สมิธจ้องอยู่นานมากในความรู้สึกจนแน่ใจว่าที่เห็นไม่ได้ตาฝาด
คนที่เขามองอยู่เบนสายตาหันมาสบตากัน ดวงตาสีเขียวมองอย่างตกตะลึงคาดไม่ถึง แต่ดวงตาสีมหาสมุทรกลับเลื่อนไปมองที่แขนแกร่งที่มีมือของคนที่เขาคิดว่าถูกลงโทษคล้องอยู่
สมิธหันไปสบตาลูคัสนิ่งๆอีกครั้งพร้อมๆกับรถที่ขับเคลื่อนออกไป
สมิธหลับตาลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาหยดใหญ่ เขาเลื่อนมือที่กุมท้องมาขยุ้มหัวใจตัวเองที่มันทรมานหนักกว่า
กูเคยสำคัญกับมึงบ้างไหม
หัวใจมึงเคยมีกูบ้างหรือเปล่า
"ถ้าผมไม่ตื่นขึ้นมาอีกก็คงดี"เกรย์มองสมิธอย่างไม่เข้าใจแต่ก็คิดว่าเด็กหนุ่มคงปวดไส้ติ่ง
ในขณะที่สมิธนั้นชาไปทั้งร่าง เจ็บสุดคือที่หัวใจ
เหมือนจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
++++++++++++++
ช้าอีกแล้ว งื้อๆ อีกตอนจะชดเชยให้วันอาทิตย์ตอนดึกๆแต่อาจจะไม่ยาวมากนะ(ต้องอ่านหนังสือสอบ) ตอนแรกกะให้ตอนหน้าเป็นตอนจบภาค แต่คงต้องยืดไปอีกตอนมั้ง อย่าเพิ่งเบื่อน้าาาา❤
สงสารมิทตี้สุด เกลียดอีไนซ์ชิบเป๋ง แกต้องตายยยย ส่วนเฮีย...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
*edit คำผิด