บทที่ 12
เช้าวันเสาร์ที่มีฝนตกลงมาปรอยๆให้บรรยากาศเย็นจนน่านอนคลุมโปงอยู่บนเตียงทั้งวันเป็นอันต้องยุติลงเมื่อมีคำสั่งประกาศิตจากผู้ที่ได้ชื่อว่าแม่ประกาศลงมาว่าหากลูกทั้งสองยังไม่ตื่นและแต่งตัวลงมาทานอาหารเช้าภายในสามสิบนาที จะทำการตัดบัตรเครดิต ยึดรถ และกักบริเวณหนึ่งอาทิตย์ ทำเอาร่างสูงๆของผู้เป็นน้องอย่างเมืองที่มีภารกิจต้องไปรับตาวที่จะกลับมาจากค่ายตอนเย็นต้องรีบเด้งตัวตื่นลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวและรีบวิ่งไปห้องของผู้เป็นพี่ชายเพราะเชื่อจนสุดใจว่าพี่ชายอย่างภาคจะยังไม่มีทางตื่นแน่นอน คนอย่างภาคถ้าให้ได้นอนจริงๆแล้วก็เหมือนซ้อมตาย ต่อให้มีคำขู่ล้านแปดก็หาได้สนไม่
“ ไอ้ภาคตื่น ” เมืองว่าพร้อมกับกระชากผ้าห่มผืนหนาที่ภาคใช้คลุมตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้าออกจากตัวของภาค
“ อีกห้านาที ” น้ำเสียงงัวเงียว่าขึ้นพร้อมกับพลิกตัวหันหลังให้ผู้เป็นน้องชายที่ยืนอยู่ข้างเตียง
“ ไม่ได้โว้ย ”
“ ขอล่ะสัสเมืองกูพึ่งได้นอนไม่เท่าไหร่เอง กูไม่ไปด้วยได้ไหมวะ มึงไปบอกแม่ว่ากูไข้ขึ้น ใกล้จะช๊อกตายห่าเหวอะไรก็ได้ไป ”
“ มุขนี้มึงใช้มาแปดสิบเก้ารอบละไอ้สัสแม่ไม่เชื่อมึงแล้ว ลุกเร็วๆ ” เมืองว่าพร้อมกับใช้เท้าถีบขาของผู้เป็นพี่ชายเพื่อปลุกอีกแรง
“ ........ ” ไร้เสียงตอบรับจากภาค
“ ถ้ามึงยังไม่ตื่นภายในสองนาทีนี้กูจะไปบอกคุณแม่เรื่องที่มึงไปอ้อนขอเงินคุณย่าอาทิตย์ก่อนไปเปย์สาว ถ้าคุณแม่รู้เรื่องนี้มึงตา..... ”
“ เออๆ โว้ยยย ” ภาคลุกขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมกับขยี้หัวจนผมยุ่งที่เขาจนมุมให้น้องชายอีกครั้ง “ มึงแม่งชอบเอาเรื่องคุณนวลมาต่อรองกับกูตลอดเลย มึงก็รู้ว่ากูอ่อนไหวง่ายไอ้น้องนิสัยไม่ดี ”
“ มึงแม่งก็เป็นพี่นิสัยไม่ดีเหมือนกันแหละ รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้กูต้องไปรับตาวที่กลับจากค่ายยังมาทำตัวแบบนี้อีกถ้าแม่กักบริเวณขึ้นมาจริงๆกูก็อดเจอตาวดิ ” เมืองบ่นบ้าง
“ แล้วนี่แม่ให้เราตื่นเช้าไปทำไรวะวันหยุดแท้ๆ ” ภาคเอ่ยปากถามผู้เป็นน้องชายพร้อมกับถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำไปด้วย
“ ไม่รู้ อยากรู้มึงก็ลงไปถามแม่เอง ” เมืองว่าพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงบนเตียงของผู้เป็นพี่ชาย
“ กูว่าแม่ต้องหลอกเราไปทำอะไรอีกแน่ๆฟันธงเลย ”
***********************************************************
แชะ แชะ แชะ แชะ
“ ดีครับ น้องเมืองเอียงหน้าอีกนิดครับ โอเค นั่นแหละครับ ”
แชะ
“ น้องภาคยิ้มหน่อยครับ ดีครับ ”
แชะ
“ โอเค เปลี่ยนเซ็ตครับ ”
สิ้นคำของผู้เป็นตากล้องหลัก สองพี่น้องที่ยืนอยู่หน้ากล้องก็แทบถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งจัด จะอะไรไปได้นอกจากผู้เป็นแม่ของทั้งสองคนที่หลอกล่อให้พวกเขามาถ่ายแบบการกุศลให้กับสมาคมของแม่เขาเอง คั้นจะบอกว่าไม่ไป ไม่ทำ ผู้เป็นแม่ก็ทำหน้าเศร้าเหมือนผิดหวัง น้อยใจ บีบน้ำตาเอาซะพวกเขาไปไม่เป็นและต้องยอมตกลงในที่สุด โดยมีผู้เป็นพ่อโบกมือลา พร้อมกับใบหน้าขำขันมาให้
“ พี่ครับเหลืออีกเยอะไหมครับ ” เมืองเอ่ยถามช่างแต่งหน้าที่กำลังเติมหน้าให้พร้อมกับยกมือถือขึ้นมากดดูเวลา เขาเข้ามาถ่ายแบบที่นี่กับผู้เป็นแม่และพี่ชายตั้งแต่ 10 โมงเช้า จนตอนนี้ 4 โมงเย็นแล้ว ซึ่งเขามีนัดไปรับตาวตอน 6 โมงเย็น เขากลัวตาวจะรอ และแน่นอนว่าเมืองไม่อยากให้ความกลัวที่เขาคิดเป็นจริง
“ เซ็ตสุดท้ายแล้วจ๊ะสุดหล่อ ” พี่ช่างแต่งหน้าที่เป็นสาวสองบอกกับเขา
“ รีบไรขนาดนั้นมึงไปไม่ทัน เขาก็มีหนุ่มหมอเยอะแยะไปส่งหน่า ” ภาคว่าพร้อมกับยกมือขึ้นตบบ่าผู้เป็นน้องปุๆ
“ อะไรกันคะรีบไปรับแฟนเหรอ หูยอย่างงี้พวกพี่ก็อกหักกันสิเนี่ย ” ช่างสาวสองที่แต่งหน้าให้เมืองอยู่เอ่ยแซวขึ้น
“ นั่นสิคะ หน้าดีขนาดนี้ไม่น่ารีบมีเจ้าของเร็วเลย โสดไว้ให้พวกพี่มโนเป็นแฟนไปนานๆหน่อยก็ไม่ได้ ”
“ ถึงผมจะมีเจ้าของแล้ว แต่ไอ้ภาคยังไม่มีนะครับ ”
“ หืมม จริงไหมเนี่ย ”
“ กรี๊ดดด น้องภาคของพี่จีจี้ ”
“ เออคือผมนับถือพระถังซัมจั๋งครับพี่ ” ภาครีบพูดพร้อมกับใช้มือดันอกของช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองนามว่าจีจี้ที่ทำท่าจะพุ่งมากอดเขาเอาไว้
“ คะ? ” จีจี้ทำหน้างง พอๆกับเมืองที่หันมามองหน้าผู้เป็นพี่ชายพร้อมกับคำถามในใจที่ว่า
มึงพูดเหี้ยไรสัสภาค“ เออ คือ...ศีลข้อที่ 13 บอกว่าห้ามใกล้สีกาสวยๆน่ะครับ ” ภาคอธิบายเหตุผลพร้อมกับพรูลมหายใจ
“ ต๊ายยย น้องภาคเนี่ยปากหวานจริงๆเลย ” ว่าพร้อมกับยกมือปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต “ มาค่ะเปลี่ยนชุดกัน ”
“ โอ้ยยยยย พ่อคุณ พ่อทูนหัวของเจ๊หุ่นแซบมาก ” เจ๊จีจี้ว่าหลังจากที่พาสองหนุ่มไปเปลี่ยนชุด ซึ่งเซตสุดท้ายชุดที่สองหนุ่มถ่ายก็คือกางเกงยีนส์แบรนด์ดังที่ส่วมใส่แล้วเผยให้เห็นขอบของยี่ห่อกางเองชั้นในชื่อดัง ส่วนเสื้อทีแรกเจ๊จีจี้จะให้ใส่เสื้อเชิ๊ตปลดกระดุมแต่พอไปเปลี่ยนชุดเจอซิกแพกเข้าไปเลยเปลี่ยนใจให้ไม่ต้องใส่เสื้อซะงั้น
“ เอ่อ หนูลูกคุณแม่ว่าแบบนี้มันโชว์เกินไปไหมคะ น้องภาคกับน้องเมืองยังเรียนอยู่เลย ” คุณแม่ของสองหนุ่มที่ลงทุนตามมาคุมผู้เป็นลูกชายทั้งสองว่าขึ้น
“ หูยย มีลูกชายหุ่นแซ่บๆแบบนี้ต้องอวดเลยค่ะคุณแม่ เชื่อจีจี้นะครับรับลองเลยว่าต้องปัง แล้วเขาก็จะถามหาว่าคุณแม่เป็นใครทำไมเลี้ยงลูกได้ดูดีขนาดนี้ ถ้าลูกยังหล่อขนาดนี้ แปลว่าคุณแม่ต้องสวยมากๆแน่นอน ”
“ หุหุ หนูจีจี้ก็เอาความจริงมาพูดอยู่เรื่อยเลย ”
“ ก็มันจริงนี่คะ ดูสิคะน้องภาคก็ขาวใสหล่อสะอาดอปป้าพิมพ์นิยมของสาวๆสมัยนี้ ส่วนน้องเมืองก็หล่อแทนนิดๆแบดบอยหน่อยๆที่สาวๆเขากรี๊ดกัน นี่ขนาดจี้เห็นจี้ยังจะละลายเลยนะคะ พอนิตยาสารวางแพงคงมีเหมาหมดแผงกันไปข้างแน่ๆเลยค่ะคุณแม่ ”
“ จ๊ะๆ งั้นถ่ายเลยจ๊ะ เอาสวยๆนะ คุณแม่จะขอรูปไปอัดกรอบไว้ที่บ้านด้วย ”
“ แม่มึงนี่อวยง่ายเนอะ ” ภาคกระซิบกับผู้เป็นน้องชายพร้อมกับทำหน้าเอือมระอายกับแม่ของตนเองที่ยิ้มหน้าบานเพราะโดนชม
“ แม่มึงเหมือนกันแหละสัส รีบไปถ่ายได้ละเดี๋ยวกูไปสาย ” เมืองว่า
แชะ
“ น้องภาคเอามือเกี่ยวขอบกางเกงนิดๆครับ ใช่อย่างนั้น น้องเมืองพี่ขอกัดปากล่างแบบยั่วๆนิดๆครับ ” ช่างกล้องสั่ง
“ ยังไงครับพี่ ” เมืองร้องถาม
“ แบบที่เวลาน้องอยากได้ใครสักคนแต่เขาไม่สนใจน้อง น้องเลยต้องทำให้เขาสนใจ เอาง่ายๆก็คือ การอ่อยใครสักคนนั่นแหละครับ คิดว่าเลนส์กล้องเป็นคนที่น้องกำลังอ่อยอยู่ก็ได้ ให้สายตาสื่อความหมายออกมา ”
“ ที่พี่เขาพูดมาอารมณ์เหมือนเวลาที่มึงชอบอ่อยตาวตาวเลยว่ะ ” ภาคกระซิบผู้เป็นน้อง
“ กูไม่เคยเหอะ ”
“ ไม่เคยเชี่ยไร มองเขาแต่ละที สายตามึงนี่สื่อได้คำเดียวคือ กินผมสิตาว กินผม ขย้ำผม ยึ๋ยขนลุก ” ภาคว่าพร้อมกับลูบแขนของตัวเอง
“ สะ... ” ไม่ทันที่เมืองจะได้เอ่ยปากด่าผู้เป็นพี่เสียงของตากล้องก็ดังขึ้น
“ อ่ะโอเค น้องเมืองเข้าใจแล้วนะงั้นพี่ขออารมณ์แบบนั้นเลยนะ ส่วนน้องภาคก็เป็นอารมณ์หยิ่งๆนิ่งๆให้คนรู้สึกว่าอยากได้เพราะผู้ชายคนนี้ยากและท้าทายโอเคนะ ”
“ ครับ ” เมืองและภาคพยักหน้ารับ
แชะ
“ ดีครับ ”
แชะ
“ โอ้ยยยอิจี้น้ำเดินแล้วกูจะหล่อไปไหนลู๊กกกกก ”
แชะ แชะ แชะ แชะ
“ โอเค เสร็จครับ ” ช่างกล้องว่าพร้อมกับปรบมือและก้มหัวขอบคุณคุณแม่ของสองหนุ่ม พร้อมกับบอกเลิกกองให้สองหนุ่มไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับบ้านได้
*******************************************************************
“ น้องเมืองขับรถดีๆนะลูกอย่ารีบเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ” ผู้เป็นแม่บอกกับลูกชายหลังจากที่เปลี่ยนชุดและออกมาจากสตูดิโอที่ใช้ถ่ายแบบแล้ว
“ ครับแม่ ” เมืองพยักหน้ารับคำผู้เป็นแม่ “ ภาคก็อย่าขับเร็วนะดูแลแม่ด้วยไปละ ” ว่าพร้อมกับกดปลายจมูกโด่งลงที่แก้มนวลของผู้เป็นแม่อย่างเติมพลังให้ชื่นใจ
“ เออ รีบๆไป แล้วพากลับมาบ้านด้วยนะ ไม่เจอเป็นอาทิตย์อยากกอดตาวตาวของพี่ภาคใจจะขาดแล้ว ” ภาคว่ายั่วอารมณ์หึงหวงของผู้เป็นน้อง
“ ภาค! ” เมืองกัดฟันเรียกชื่อพี่ชาย ถ้าไม่ว่าแม่ยืนอยู่ด้วยเมืองคงได้ด่าคำหยาบใส่ผู้เป็นพี่ไปแล้ว
“ เอ๊ะพี่ภาคนี่ชอบแกล้งน้องอยู่เรื่อยเลย ” ว่าพร้อมกับยกมือตีแขนของลูกชายคนโต “ น้องเมืองรีบไปได้แล้วค่ะอย่าไปสนใจพี่ภาคเลย เดี๋ยวน้องจะรอนะ ” คนเป็นแม่ว่าพร้อมกับดันหลังลูกชายให้ขึ้นรถไป
*********************************************************
“ คุณเมืองทางนี้ครับ ” ตาวร้องเรียกผู้ชายร่างสูงที่วันนี้ดูท่าจะหล่อเป็นพิเศษเพราะไปถ่ายแบบมา เมื่อตอนกลางวันก็ยังโทรมาบ่นกับตาวอยู่เลยว่าโดนแม่หลอกไปถ่ายแบบแล้วดูสิพอมารับตาวคงจะรีบมากผมก็ยังเซ็ตเป็นทรงสวย หน้าก็ยังแต่งอยู่เลย
“ ทำไมยืนอยู่คนเดียว ” เมืองถามขึ้นทันที ที่เดินมาถึงตรงที่คนตัวเล็กยืนอยู่
“ พอดีรถมาถึงมอก่อนเวลาน่ะครับ เพื่อนๆคนอื่นก็เลยกลับกันหมดแล้ว ผมบอกเพื่อนว่าคุณเมืองจะมารับก็เลยบอกให้เพื่อนกลับก่อน ” ตาวอธิบาย
“ เหนื่อยไหม ” เมืองถามคนตัวเล็กพร้อมกับยีผมนุ่มอย่างเอ็นดู ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของตาวมาถือไว้ซะเอง
“ ไม่ครับ สนุกดีผมชอบ ” ตาวว่าพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
เมืองจ้องมองใบหน้าเล็กๆเนียนสะอาดพร้อมกับรอยยิ้มกว้างและแววตาที่สุกใสบ่งบอกว่าคนตัวเล็กของเขามีความสุขแบบที่พูดจริงๆ มันทำให้เมืองพูดไม่ออก
รอยยิ้มพร้อมกับแววตาที่มีความสุขของตาวมันทำให้เมืองใจเต้นรัว
คิดถึงจัง เขาคิดถึงตาว คิดถึงรอยยิ้มและดวงตาที่เป็นประกายคู่นี้
“ คุณเมืองเป็นอะ.... อื้อ ” เมืองทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าของตาวลงข้างตัวก่อนจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาจูบ ริมฝีปากแสนเอาแต่ใจประกบแนบชิดริมฝีปากบางอย่างโหยหา ลำแขนแกร่งข้างหนึ่งยกขึ้นโอบกอดเอวเล็กเอาไว้ส่วนอีกข้างยกขึ้นประคองท้ายทอยเล็กให้รับองศาการจูบได้ถนัด เรียวลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในริมฝีปากของตาวช่วงชิงดูดลิ้มลองความหวานที่โหยหาอย่างเอาแต่ใจ ตาวเข้าใจความรู้สึกนั้นและอยากทำตามทางที่หัวใจของตาวเองก็เรียกร้องเหมือนกัน
ในช่วงขณะที่เมืองจะระริมฝีปากออกจากริมฝีปากของตาว ปลายเท้าเล็กๆเขย่งขึ้นจนสุดตัว พร้อมกับยกมือเล็กกดศีรษะของคนตัวสูงเอาไว้ไม่ให้ผละออกพร้อมกับเป็นคนประกบจูบอีกครั้งซะเอง จูบของความคิดถึง โหยหา และทำตามใจที่ตนเองต้องการเป็นครั้งแรก
“ ตาว ” เมืองเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างตกตะลึงหลังจากที่ตาวผละริมฝีปากออก
“ ครับ? ” ตาวช้อนตามองคนที่สูงกว่า
“ คะ คือกู เอ่อ ”
“ ….. ”
“ แดกบ้าน แล้วกลับข้าวไหม เอ้ย ”
“ …… ”
“ ไม่ใช่ คือกู....คือกู ”
“ คุณเมืองเขินเหรอครับ ” ตาวยิ้มขำที่เห็นคนตรงหน้ารนรานทำตัวไม่ถูก ทั้งๆที่ความจริงมันควรจะเป็นเขาเองไม่ใช่เหรอที่ควรจะเขินแต่พอมาเห็นแบบนี้แล้วจากที่เขาจะเขินกลับเป็นขำเพราะความเอ็นดูคนตรงหน้าซะงั้น
“ กูไม่ได้เขิน ” เมืองปฏิเสธ
“ จริงเหรอครับ ”
“ เออดิ เรื่องแบบนี้กูเจอมาเยอะ มะ มันทำไรกูไม่ได้หรอกเว้ย ” เมืองเถียงเสียงตะกุกตะกัก
“ โอเคไม่เขิน ป่ะงั้นเรากลับบ้านกัน ” ตาวว่าพร้อมกับหันหลังเดินนำหน้าเมืองไปก่อนจะหยุดเดินและหันมามองเมืองอีกครั้ง “ อ๋อ คุณเมือง ”
“ อะไร ” เมืองเงยหน้าขึ้นมองคนที่หยุดเดินแล้วหันมามองตน
“ หูแดงมากเลยนะครับรู้ตัวไหม ” ตาวชี้ที่หูของเมืองพร้อมกับยิ้มขำก่อนจะหันหลังกลับเดินไปรอที่รถ ส่วนคนตัวสูงก็ยิ่งหูเห่อแดงขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อโดนจับได้
ตาวยืนกอดยกมองคนตัวสูงที่ทำอะไรเปิ่นๆแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างขำปนเอ็นดูในท่าทาง ต่อให้เมืองจะดูเป็นเสือร้าย หรือดูร้ายกาจในสายตาใคร แต่สำหรับตาวแล้วเมืองก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ดูท่าทางจะตกหลุมรักตาวขั้นหนักชนิดที่ว่าถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะมั้ง
*******************************************
มาแล้ววววววววว ใครบอกผู้ชายตัวโตเขินไม่เป็น
นี่ไงดูไว้
เขาแค่ไม่เขินพร่ำเพื่อ เขาเขินแค่กับคนที่ทำให้เขาใจสั่นเท่านั้นแหละ หุยยยยยยย
สำหรับวันนี้ฝันดีจร้า
แล้วก็เจ้าหมูป่าทั้ง 13 ขอให้รอดปลอดภัย เป็นเด็กดีของประเทศชาติต่อไปในอนาคตน๊าาาาา
รักนะคะคนอ่าน ^_^