Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!  (อ่าน 390316 ครั้ง)

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 28 Version (Aun) 19 September 12 หน้า 39
«ตอบ #1170 เมื่อ25-09-2012 17:39:35 »

 :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1171 เมื่อ26-09-2012 17:02:24 »

Don’t call Me BaBy!!
เอ่อ สรุปว่าผมเจ็บจังอ่ะครับ ระบมไปหมดแล้ว ก่อนนอนมันทำอีกรอบ ผมร้องไห้เลยมันถึงยอม ไอ้บ้านี่เกินไปแล้วนะ
   “นี่ล่ะ อย่ามาท้าทายกู” ผมผิดว่างั้น นี่มันพูดก่อนนอนครับ ผมงอนมันล่ะไม่ให้มันกอด แต่มันก็ไม่ยอมกอดผมจนได้ รู้สึกมันระบมจริงๆนะ ใครบอกโดนแล้วรู้สึกดี ขอเถียงเลยเถอะ ยิ่งมาโดนของขนาดของไอ้เน่า ฆ่ากูเลยดีกว่า
   “เอ้ย เบบี๋ ตื่นดิ สายแล้วนะ” รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเช้าครับ ไอ้เน่ามันเขย่าผมอยู่ข้างๆ
   “อือ” ผมงัวเงียลุกขึ้น
   “อ้าว แล้วไมเน่าไม่ลุกอ่ะ” อ่านะ พอผมลุกจากเตียงไอ้นี่มันนอนซุกผ้าห่มเฉยเลยครับ
   “ตื่นแล้วไง ไปขี้ก่อนดิไปมึงน่ะ” อ่านะ มันไม่เคยอายเลยครับ ผมสิอาย เออวะ แต่พอเข้าห้องน้ำก็เหมือนตกนรกครับท่าน แสบมากๆ โอ้ยนะ อยากจะแหกปากออกมาดังๆ แต่ก็ได้แต่คราง ยิ่งโดนน้ำเย็นๆคุณเอ๋ย นี่มันนรกชัดๆ
   “เสร็จยัง” มันโผล่หน้าเข้ามาครับ ที่จริงมันเคาะประตูก่อนล่ะ ผมเสร็จนานแล้วยืนแปรงฟันอยู่
   “เหม็นป่ะเนี่ย แหว่ะ แดกไรมาวะมึง” อ่านะ
   “อย่าเพิ่งเข้ามาดิ” “ไม่ได้ ปวดขี้ เอาสเปรย์มาฉีดดิ” อ่านะ ดูเอานะครับ ผมล่ะเบื่อ มันเข้ามาเลยแล้วนั่งชักโครก
   “เบาๆหน่อยดิเน่า น่าเกลียด” คือว่ามันเบ่งแบบว่า เอ่อ นี่ถ้าผมไม่ชินนะคงอ๊วกแตกไปแล้วครับ แล้วทำไมผมถึงชินวะเนี่ย เออนะ ผมทำเป็นไม่สนใจฉีดสเปรย์แล้วรีบแปรงฟัน มันผิวปากอารมณ์ดี แหมนะมันน่าหมั่นไส้นักนะ
   “เป็นไง แสบป่ะเบบี๋” มันถามครับ ถามมาได้
   “แสบดิ คราวหลังไม่ต้องทำนะ” “อ้าว ไหนๆ กูทายาให้ รีบอาบน้ำดิ”
   “ไม่ต้อง ทาเองได้เถอะ รีบมาอาบน้ำได้แล้ว มัวแต่ผิวปากอยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวก็ไปสายพอดี” ผมเดินไปตรงฝักบัวแล้วเปิดน้ำอุ่นรอครับ ไอ้เน่ามันก็แปรงฟัน กว่าจะเสร็จก็เจ็ดโมงกว่าทุกทีสิน่า
   “ทำไมมันหนาวจังวะ ว่าจะไม่ใส่เสื้อไป แม่งกลางวันเสือกร้อน” มันบ่นครับ
   “หน้าหนาวเนาะเดี๋ยว ซ่างว่าแถ่ะ บัดยามมันฮ้อนกะถอดออกติ๊เสื้อน่ะ”
   “บู้ย แม่นอยู่เอื้อย มื้อแลงกินแจ่วฮ้อนบ่ ผมอยากกิน บ่ได้กินโดนแล้ว”
   “สิกินบ่ คุณอุ่นสิกินบ่ค่า” ผมนั่งฟังอยู่ล่ะครับ ผมพยักหน้า
   “เดี๋ยวซั่นเอื้อยสิไปตลาดหาของมาไว้ถ่า คุณพ่อซายมื้อแลงฟ้าวกลับมาเด้อค่า สิเฮ็ดแจ่วฮ้อน” พี่ต้อยหันไปบอกพ่อผมล่ะครับ กำลังเดินลงมาจากบนบ้าน
   “อืมดีๆ งั้นชวนเพื่อนๆมากินด้วยสิลูก จะได้สนุก” อ่านะ
   “เอ๊ะ แต่นี่จะแปดโมงแล้วนะลูก จะทันโรงเรียนเหรอ” อ่า พ่อผมเตือนครับ ผมทำหน้าเหวอๆ
   “ตายล่ะ เร็วดิเน่า” ผมรีบถือกระเป๋าของเราสองคนล่ะครับแล้วลุกจากโต๊ะทันที
   “มื้อแลงพ้อกันเอื้อย ไปล่ะครับพ่อ” ไอ้เน่ามันยกมือไหว้พ่อผมล่ะครับ เออนะ กูลืม
   “ไปนะพ่อ” ผมก็หันมายกมือไหว้ พ่อกับพี่ต้อยล่ะครับ แล้วไปรอมันที่รถ
   “สายจนได้” ผมบ่นครับ
   “เออน่า รีบไปทำไมวะ หน้าหนาวจารย์เขาเข้าใจ” ให้มันจริงเถอะ ไม่อยากวิ่งรอบเสาธงต่อหน้าสาธารณชน
   “อ้าว อุรดิศ หน้าหนาวนี่ไม่อยากตื่นเรอะ” ไหนบอกอาจารย์เขาเข้าใจไง เห็นไหมล่ะ จะหน้าไหนก็มายืนดักหน้าโรงเรียนทุกวันล่ะ ผมยกมือไหว้แกล่ะครับ
   “มันหนาวไปหน่อยครับจารย์” ผมตอบอายๆ ทำไมวันนี้มีแต่ผมกับไอ้เน่าสองคนเองวะเนี่ย นักรียนหลายพัน ไรวะ
   “มึงล่ะบักเดี๋ยว ประจำวันนะมึง โน่น ยาแก้หนาว เพื่อนๆเขาเลิกแถวพอดี หน้าเสาธงโน่น” เฮ้อ ชีวิตของอุรดิศ อายก็อาย แต่ก็นะก้มหน้าก้มตาวิ่งไปล่ะครับ ยาแก้หนาวได้ผลดีจริง เหงื่อแตกเลยเถอะ
   “เมื่อยบ่ออุ่น เป็นตาเซาหนาวเนาะ เฮากะเกือบมาบ่ทันแหม่ะ” จอยมันยืนรออยู่หน้าอาคารล่ะครับ
   “เหนื่อยดิ ร้อนเลยอ่ะ ไปหาน้ำกินก่อนเถอะจอย”
   “เออ เรื่องเพลงน่ะ โตว่าเพลง Adele ดีบ่ Someone like you”
   “เอ่อ ยากไปไหมอ่ะ เราออกเสียงไมได้หรอกจอย”
   “หวืย อีหยัง ฮ้องง่ายกะด้อ ไส ลองฮ้องเบิ่งดู๊” อ่านะ
   “มันร้องยังไงอ่ะ เราเคยฟังเฉยๆ จำได้ไม่หมดหรอกนะ”
   “อ่ะ เฮาเขียนมาให้แล้ว” ดูมันทุ่มเทกว่าผมอีกนะเนี่ย
   “อ่านะ แล้วไปยังไงล่ะเนี่ย” ผมหันไปถามจอย แล้วมันก็ร้องนำให้ผมฟัง
   “เฮ้ย จอยเสียงดีอ่ะ จอยร้องแทนเราเลยละกันนะ อิอิ” “นั่น บ่ได้ดอกอุ่น เสียงดีอีหยัง เฮาลำยังสิเป็นตาฟังกั่วอีก ทุกข์หลายเด้ ทุกบ่มีเสื้อผ้า ฝาเฮือนดีพอได้ลี้อยู่ ล่ะทุกข์หลายเด้ ทุกข์บ่มีเข่าอยู่ท้อง สินอนลี้กะบ่เป็น กรรมและเวร และนอล่ะน่า” เอ่อ ผมอ้าปากค้างครับ ขนลุกซู่ นี่เขาเรียกลำอะไรกันนะ ทำไมมันทำให้ผมขนลุกได้ขนาดนี้ เสียงเอื้อนของจอย ลูกคอที่ผมไม่เคยคิดว่ามันจะร้องได้ขนาดนี้ ผมอ้าปากค้างอยู่นาน
   “เป็นหยังอุ่น ม่วนปานนั้นติ๊” “จอย” ผมครางออกไปครับ ไมได้กระแดะนะ แต่มันอึ้งจริงๆ
   “มันเป็นตาอยากหัวบ่อุ่น เฮ็ดให้เฮาเสียควมมั่นใจเด้นี่”
   “มะไม่จอย มันเพราะมาก มันทำให้เราขนลุกเลยอ่ะ จอยร้องเพราะจริงๆนะ มันแปลกอ่ะ”
   “เขาเอื้อนว่าลำล่องตั้ว แม่เฮาเป็นหมอลำเก่าเด้ล่ะอุ่น เพิ่นสอนให้”
   “อ่า ทำไมไม่บอกอ่ะจอย เราอยากฟังแบบเต็มๆ นะนะ พาเราไปบ้านนะตอนเลิก” ผมจับแขนจอยเขย่าทันทีครับ
   “ว่าแล้ว โอ้ยเนาะ ซางบ่เกิดมาเป็นคนอีสานซะเนาะโตน่ะ แม่นมักหลาย” ผมยิ้มอย่างดีใจครับ
   “มาว่าเรื่องของเฮาดีกั่วอุ่น ตกลงสิเอาเพลงหยัง” วกมาเรื่องนี้อีกแล้ว ผมทำหน้ามุ่ยลงทันที
   “เฮ้อ ไปปรึกษาจารย์พรดีป่าวอ่ะจอย เราคิดไม่ออกจริงๆ” จอยมันก็พยักหน้าครับ พวกเราเลยเดินไปที่ห้องแก พอดีมีห้องอื่นเข้าห้องแกไปก่อนแล้ว ผมเลยยืนลังเลอยู่หน้าห้อง
   “อ้าว ว่าไงอุรดิศ” อาจารย์พรฤดีเห็นเลยร้องทักมาครับ
   “อ้อ เอ่อ คือผมว่าจะมาปรึกษาจารย์เรื่องเพลงอ่ะครับ” ผมยกมือไหว้แกครับ
   “คิดยังไมได้อีกเหรอ เข้ามาก่อนสิอุรดิศ” ผมเลยเดินเข้าไปครับ พอผมเดินเข้าไปเสียงแซวก็ดังแว่วมาล่ะครับ อีพวกแซวนี่ก็แซวดีจังเนอะ อะไรเจาปากมาให้แซวก็ไม่รู้
   “เลือกเพลงอะไรไว้ล่ะ”
   “ยังไม่ได้เลือกเลยครับ ผมว่ามันยาก” “วุ้ย อะไรกันคะอุรดิศ ไม่เกินความสามารถหรอกน่า ร้องเพลง วิทนีย์ไหม One Moment in time หรือจะ Celine ดี เสียงน่าจะพอได้” เอ่อ สะอึกครับ
   “ว้ายจารย์ ไปเลือกให้น้องเขายากแท้ค่า เบิ่งทรงคือสิฮ้องเป็นแต่เพลง แฮปปี้เบิร์ทเดย์ล่ะน้อ หน้าตาน่ะ” เสียงแซวมาจากมุมของห้องครับ ผมไม่กล้าหันไปมอง แต่จอยมันหันไปมอง
   “เอื้อยบ่ถ่าฟังล่ะ จั่งถ่าเบิ่งเอาค่า” จอยมันตอกหน้าไป เสียงโห่ดังขึ้นทันทีครับ
   “นี่พวกเธอ มารยาทน่ะมีไหม หรือพวกเธอจะขึ้นไปร้องแทนน้องเขา ปากดีกันจังนะ เป็นรุ่นพี่ภาษาอะไร ทีครูแจงงานให้มีแต่บอกปัด ไม่ไหวเลย งั้นวิชานี้คะแนนก็เอาไปคนละหน่อยก็แล้วกันนะ” เอ่อ อาจารย์พรแว้ดเสียงขึ้นครับ
   “อ่า จารย์ครับ อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ ผมร้องไม่เป็นจริงๆนั่นล่ะครับ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ยังร้องไม่จบเลย อย่าให้พี่ๆเขาไม่ชอบผมเลยนะครับ” ผมกระซิบบอกอาจารย์พรล่ะครับ แค่นี้คนก็เกลียดกันมากพออยู่แล้วเถอะ
   “เห็นไหม นี่คนเขาโดนโห่โดนล้อ เขายังไม่คิดติดใจ สำนึกไว้ด้วยนะนักเรียน น้องมันร้องไม่เป็นมันยังมีใจมาถาม แล้วไอ้รุ่นพี่ที่ไม่เข้าใจ มันเคยมาถามอะไรครูบ้างไหม เอาล่ะ อุรดิศ เพลงอะไรก็เลือกๆมาเถอะ ครูเชื่อใจเธอ ว่าไงพวกเธอ จะเรียนกันไหมคะ” ผมรีบเดินออกจาห้องทันทีครับ หน้าซีดลงทันที
   “หมู่เอื้อยนกตั้วอุ่น อย่าสิไปสนใจ เพิ่นคือสิซ่าเรื่องโตบ่ดีดอกเฮาว่า ซุมหมาเห่าบ่กัด ซุมนี่ย้านไอ้เดี๋ยวสู่คนล่ะ โตบ่ต้องห่วง” จอยมันปลอบครับ ผมถอนหายใจแล้วเดินขึ้นตึกไป
   “ต๊าย ไม่มาซะตอนจบคาบเลยล่ะคะนักเรียน” พอเราเข้าห้องไปอาจารย์กรรณิการ์ก็แว้ดเสียงมา
   “โทษค่ะจารย์ พวกหนูไปหาจารย์พรมาค่ะ” จอยมันตอบครับ
   “ไปหาทำไมคะ นี่มันเวลาเรียนนะ ไม่ไปตอนไม่มีเรียนล่ะ”
   “ไปปรึกษาเพิ่นเรื่องเพลง สิฮ้องวันคริสต์มาสค่า”
   “เธอร้องเหรอ” อาจารย์ดูสนใจขึ้นมาทันทีครับ
   “อุ่นค่า หนูไปเป็นหมู่” “ว้าย อีญ่า เคยฟังไหมแก เพลงคริสต์มาส เวอร์ชั่นเด็กกรุงน่ะ ท่าทางจะน่าฟังเนอะ” สาวเพ็ญครับ หายไปจากวงโคจรนานมาก กลับมาทีก็นะ
   “เอาล่ะๆ ไปนั่งไป เพื่อนเขาไปไกลแล้ว” อาจารย์ปรายตามามองผมหน่อยเดียวครับ แล้วเปลี่ยนน้ำเสียง เฮ้อ ผมไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไม คนหลายๆคนถึงไม่ค่อยชอบหน้าผมนัก จะว่าเพราะไอ้เน่ามันก็ไม่ทั้งหมด ในเมื่อคนเหล่านี้เคยชอบไอ้เน่า พอผมกับมันคบกันก็ไม่ชอบผมน่ะเหรอ อืมนะ
   “อย่าสิไปสนใจอุ่น” จอยมันหันมากระซิบบอกผมล่ะครับ ผมก็นะ พยายามไม่คิดนะ แต่ความมั่นใจจากที่มันไม่มีมันก็ยิ่งลดน้อยถอยลงไปเถอะ
   “เราจะร้องเพลงยากๆ เราไม่อยากให้ใครมาดูถูกเรา” ผมบอกจอยตอนพักเที่ยงครับ
   “แม่นแล้ว โอ้ย แนวนี้แน่แหม่ะ ว่าแต่สิฮ้องเพลงหยังล่ะ” ผมส่ายหน้าครับ จอยมันทำหน้าเหวอๆไป ผมเลยหัวเราะ แหะๆ ก็แหมนะ มันคึกนี่หว่าแต่ไม่รู้เลยว่าจะร้องเพลงอะไรที่มันยาก เพราะเท่าที่อาจารย์บอกมาก็ยากเกินไปแล้วเถอะ คงไม่พ้นเพลงวันเกิดอย่างที่เขาล้อกันแน่เลย
   “มายืนทำไรวะเบบี๋ ไม่แดกข้าวไง ไหนของกูสั่งไว้ยัง” สามีมา เอ้ย ไอ้เน่ามาแล้วครับ
   “คุยกันเรื่องเพลงนั่นล่ะเดี๋ยว ไปพ้อจารย์พรมา คนเขาหยันคือหยังนี่ตั้ว ว่าสิฮ้องบ่ได้”
   “ไผ” ไอ้เน่ามันทำเสียงแข็งขึ้นมาทันทีครับ
   “จอย ไม่มีไรหรอกเน่า ไปกินข้าวเถอะ ก็เราร้องไม่เป็นจริงๆนี่” ผมตัดปัญหาครับ ไอ้นี่รู้เรื่องคงจะไม่น้อยอยู่ มันจิ๊ปากไปตามประสามันล่ะครับ ผมเลยลากแขนมันมาที่ร้านน้ามัน กินแต่ก๋วยเตี๋ยวนี่ล่ะ อิอิ
   “มึงก็ซ้อมเยอะๆดิวะ อย่าให้คนมาดูถูก ยากอะไรวะกะอีแค่ร้องเพลง”
   “ซ้อมไรอ่ะ มีเวลาอีกไม่กี่วันเองนะเน่า เนี่ย ศุกร์นี้แล้วนะ” ผมทำหน้าเซ็งครับ
   “เออเน่า เห็นจอยบอกแม่จอยเป็นหมอลำเก่าอ่ะ เราว่าเลิกเรียนจะไปขอให้แม่ลำให้ฟังเผื่อได้ประโยชน์ไรบ้าง” ผมบอกมันล่ะครับ จุดประสงค์ก็รู้ๆกันอยู่ ผมติดใจกับลำที่จอยร้องเมื่อตอนเช้า
   “แม่ไอ้เล็กก็หมอลำเก่านะ ไปดิเดี๋ยวกูไปส่ง อย่าลืมนะเว้ย เย็นนี้กินแจ่วฮ้อนนะมึง” ผมยิ้มครับ ดีใจรอเลย แล้วตอนเรียนคาบบ่ายก็ใจจดใจจ่ออยากให้เลิกเรียนไวไว คาบภาษาอังกฤษที่ต่อกับคาบแนะแนวอาจารย์พรฤดีก็เกณฑ์เพื่อนๆมาทำเวทีช่วยล่ะครับ ตอนนี้ในห้องประชุมเหมือนจะพร้อมแล้วสำหรับวันงาน เอ่อนะ ตื่นเต้นเถอะ
   “อุรดิศ ไหนมาซ้อมร้องเพลงซิ เพื่อนๆห้องเรานี่ล่ะจะช่วยดู” หือ อะไรนะครับจารย์ ผมยืนเอ๋ออยู่ครับ
   “อุ่นๆ จารย์เพิ่นเอิ้นไปเทิงเวที” หัวหน้าห้องครับ
   “หา ไรอ่ะ ไปทำไม” “ฮ่าๆ ไปซ้อมฮ้องเพลงให้พวกเฮาเบิ่งเด้ โซคดีคั่กเด้นี่ ได้เบิ่งก่อนหมู่เขา” หัวหน้าห้องก็นะ หล่ออยู่แล้วยิ้มอีก ผมเลยเดินเอ๋อๆขึ้นไปครับ เดินขึ้นไปโดยที่ยังไม่ค่อยรู้เลยว่าอาจารย์เขาเรียกไปทำอะไร ได้ยินไม่ถนัด อาจารย์น่าจะให้ไปดูบล็อกกิ้งล่ะผมว่านะ
   “อ่ะ ไม่ต้องใช้ไมค์หรอก ร้องสดๆนี่ล่ะ” หือ ผมหันขวับตาโตทันทีครับ
   “ร้อง? ร้องไรครับจารย์” ผมทำหน้าเหวอเต็มที่
   “อะไรกันอุรดิศ โอ้ยตาย ขึ้นมานี่แบบมั่นใจมาก ไม่รู้เหรอว่าครูให้เธอขึ้นมาทำอะไร” เอ่อ อาจารย์อ่ะ หัวเราะเพื่อ
   “ให้ผมยืนบล็อกกิ้งเหรอครับ” “ว้าย โอ้ย ไม่ค่ะไม่ ร้องเพลงให้ครูฟังเลย”
   “อ่า จารย์อ่ะ ผมยังไม่พร้อมเลย” ผมอิดออดครับ
   “ฮ้องโลดๆๆๆๆ “ เสียงเพื่อนๆก็เชียร์กูจังนะ ผมอายมากครับ แต่ก็นะไม่ร้องคงไม่จบ ผมเลยสูดลมหายใจเข้าปอด
   “Someone was told me you have to choose what you win or lose, you can’t have everything” “โห่ๆๆๆ เสียงสูงไปไหนค้า ว้ายปีนมะพร้าวหรือไงยะเธอ” เสียงสาวเพ็ญกับอีสาติครับ มันโห่ผม เพื่อนๆก็หัวเราะ ผมเม้มปากแน่น
   “วันหลังดีกว่าจารย์ ผมขอไปซ้อมมาก่อน”
   “ไหนลองท่อนฮู้กให้ครูฟังสักหน่อยสิ นี่พวกเธอน่ะ จะโห่ทำไมคะ เพื่อนเขาเสียกำลังใจ ไม่ฟังก็ออกไปโน่นไป” อาจารย์พรฤดีแกก็ให้กำลังใจผมล่ะครับ ผมเลยสูดลมหายใจเข้าปอดใหม่
   “”So What if hurt me? So what if I break down? So what if this world just throws me off the edge my feet run out the ground. I gotta find my place I wanna hear my sound.” ผมหยุดทันทีเพราะเพื่อนหัวเราะกันเสียงดัง นี่กูร้องขี้เหร่ขนาดนี้เลยเหรอ ผมเม้มปากแน่น สูญเสียความมั่นใจมากๆครับ
   “ผมทำไม่ได้หรอกครับจารย์” ผมครางออกไป เสียงจอยกับเล็กตะโกนด่าเพื่อนโหวกเหวกอยู่ข้างล่างครับ แต่ผมเหมือนไม่ได้ยินอะไรแล้ว เคยไหมล่ะ คนโห่หรือหัวเราะเราน่ะ หน้าชั้นเรียนยังพอทน นี่มันบนเวทีนะ ผมเม้มปากอีกทีครับ เอาให้มันสาแก่ใจ เออ กูร้องเพลงไม่เพราะ
   “อุรดิศ เนื้อเสียงเธอดีนะ เพียงแต่เธอออกเสียงสูงไปเท่านั้น ไปลองฝึกเพลงที่เข้ากับเสียงเธอดูนะ หรือเลือกเพลงที่มันเสียงสูงๆไปเลย ครูเชื่อมั่นในตัวเธออุรดิศ เพราะครูว่าครูเห็นอะไรบางอย่างในตัวเธอ สิ่งนั้นที่เพื่อนๆข้างล่างนั่นไม่มี” ไม่ได้ยินดีหรือดีใจหรอกครับ ผมเศร้าเกินไป ผมก้มหน้า พยักหน้ารับคำ แล้วรีบลงมาจากเวที เดินออกจากหอประชุมทันที
   “หวืย ซาดเป็นตาซังเนาะสู สิเฮ็ดหยังกะบ่ย้านหมู่อายเนาะ พวกบ่มีหัวใจ ให้สูลองไปเฮ็ดคือเพิ่นเบ่งแน่ กูสิหัวขวนจนฮากออกเบิ่ง พวกสันดานเสีย” เสียจอยมันก่นด่าเพื่อนๆครับ แล้วก็วิ่งตามผมมา
   “อย่าสิไปสนใจเด้ออุ่น ซ้อมหลายๆ เห็นบ่จารย์พรเพิ่นยังบอกเลยว่าเนื้อเสียงโตดี”
   “เราทำไม่ได้หรอกจอย” “อุ่น” ผมเม้มปากแน่นครับ เหมือนจะร้องไห้ออกมา มันน้อยใจ มันเสียความมั่นใจ มันอาย โอ้ย อะไรไม่รู้ล่ะแต่มันทำให้ผมก้มหน้าอยู่แบบนี้ จอยมันจับแขนผมไว้ข้าง เล็กก็ข้าง
   “จิ๊ ซุมห่านี่ เดี๋ยวกูสิไปเตะปากมัน” “อย่าเลยเล็ก เราอยากไปหาแม่เล็กอ่ะ เน่าบอกแม่เล็กก็เป็นหมอลำเก่า” ผมบอกเล็กไปครับ เล็กมันมองหน้าจอย
   “ซั่นป่ะ เฮาสิไปบอกแม่เฮาให้มาเฮือนโตนำเล็ก ห่าเพิ่นมีหยังบอก” พวกเราตกลงกันล่ะครับ ผมเลยกดโทรศัพท์ไปบอกไอ้เน่าก่อน เพราะท่าทางมันยังคงเรียนอยู่แน่ๆ แต่เอ๊ะ ถ้ามันเรียนมันก็ไม่รับอยู่ดีล่ะ ผมเลยส่งข้อความไปบอกมัน แล้วให้เล็กบอกด้วยเพราะยังไงเสียเล็กก็ต้องไปเตะตระกร้ออยู่ดี
   “พวกโตออกไปถ่าอยู่หลังโรงเรียนเด้อ เดี๋ยวเฮาสิไปเอารถก่อน” เล็กมันบอกล่ะครับ ผมกับจอยก็เหมือนเดิม อิอิ ลอดรั้วโรงเรียนตามประสาอ่ะนะ
   “มึงจะไปไหน” เอ่อ ไอ้เน่ามันโทรมาครับ ผมกำลังลอดรั้วอยู่เชียว
   “ไปบ้านเล็กอ่ะเน่า ไปให้แม่เล็กสอนร้องเพลง” ผมบอกมันไปครับ เสียงแอบสั่นนิดหน่อย
   “ไม่รอกูวะ” “ก็เหลือตั้งสองคาบอ่ะ หลบไปเถอะ อิอิ” “นิสัยๆ เออๆ งั้นเดี๋ยวกูไปรับ มึงโทรมาละกันนะ” รู้สึกดีนะ อิอิ เขินจัง น้ำเสียงมันปกติ ดุๆห้วนๆ แต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นใจยังไงไม่รู้ พวกเราออกมาจากโรงเรียนแล้วครับ ตรงดิ่งไปยังบ้านของเล็ก แม่ของเล็กกำลังฝานอะไรสักอย่างอยู่ที่แคร่ลานบ้าน
   “แม่หวัดดีครับ แม่ทำอะไรครับ” ผมเดินปรี่เข้าไปหาทันทีครับ
   “ฮ่วย พากันหนีเฮียนมาเด้นี่ ไปจั่งได๋มาจั่งได๋ล่ะลูก แม่ฝานกลอยตั้วลูก ฮู้จักบ่ กลอย” แม่ขยุ้มกลอยขึ้นมาให้ผมดูครับ แผ่นบางๆสีขาวๆที่อยู่ในถาด
   “เคยได้ยินครับ กินได้ใช่ไหมครับแม่” ผมสนใจทันทีครับ ลืมไปเลยว่ามาทำอะไร
   “กินได้ตั้วอุ่น เพิ่นสิเอาแซ่น้ำไว้ก่อน แล้วบัดยามกินเอามาหนึ่ง ขูดบักพร้าวใส่ โฮยน้ำตาล ซี๊ด แซ่บ” จอยมันเดินมาสมทบครับ ผมทำตาวาว
   “ของแม่ยังกินบ่ทันได้ดอกลูก ไว้แม่แซ่พอแล้วแม่สิหนึ่งสูกินเนาะ เฮือนลูกแซ่ไว้โดนยังคั่นน่ะจอย คันพอกินเอามาให้แม่หนึ่งสู่กินกะได้” จอยมันพยักหน้าครับแล้วขับรถกลับบ้านไปทันที
   “แช่จั่กมื้อครับแม่” ผมสนใจมากครับ หยิบหัวกลอยที่ยังไม่ฝานขึ้นมาดู คือหัวมันเหมือนกับหัวมันนะครับ กลมบ้างรีบ้าง แต่มีขนเถอะ
   “สองสามมื้อพู้นล่ะลูก ให้มันคายแนวคันมันออก อย่าสิไปจับเด้ อันปอกเปลือกแล้วน่ะ มันคันเด้ลูก” แม่ปรามไว้ครับผมเลยวางลง ตั้งใจดูแม่ฝานกลอยอยู่
   “อุ่นๆ ลืมติ๊ เฮามาหยังนี่” เล็กมันสะกิดครับ ผมเลยทำตาโต เออว่ะ ลืมไปเลย กลอยนี่ก็น่าสนใจนะ
   “อีแม่ เพิ่นมาให้เจ้า ลำล่องให้ฟังเด้นี่ เพิ่นสิขึ้นประกวดฮ้องเพลง แต่ฮ้องบ่เก่ง เลยมาให้เจ้าแนะนำเพิ่นแน่” เล็กมันบอกให้ล่ะครับ ผมเลยยิ้มแหยๆ
   “ฮ่วย ฮ้องเพลงสู่มื้อนี้มันสิคือกันติ๊”
   “เพิ่นมักคั่กแหม่ะ สาวจอยลองลำให้ฟังมื้อเซ้าล่ะติดใจ” ผมพยักหน้าเสริมครับ ทำตาวิ้งๆขอร้องแม่อยู่ ส่วนเล็กมันไปเล่นตระกร้อแล้วครับ
   “โอ๊ย โอ๊ย ละหนอ ละว่าดวงเอ๋ย ดวงวิญญาณ ลอยล่อง สังขารลัยลาโลก โชคบ่มีผีนั่งไห้ อาศัยลูกผู้อยู่บ้านบ่ทานให้ แม่นสมบุญเด้น้อ โอ้ย หนอ ละมาบัดนี้ กล่าวถึงวิญญาณเจ้ามาคอยเอาเข่าห่อ รอหาลูกและเต้าสินำเข่ามาส่งบุญ เหลียวหาลูกพี้พู้นทั่วเถิงทั้งอาราม ถามหมู่มานำกันว่าบ่เห็นลูกหลานเจ้า หรือว่าลูกเฮามัวเล่น” เอ่อ สะอึกครับ ของจริงนี่แบบว่า ขนลุกวาบๆไปถึงสันหลัง ผมเม้มปากแน่นหัวใจกระตุก นี่แม่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยนะ เปล่งเสียงออกมา บาดไปถึงใจ
   “ออกวัดมาแม่กะได้แต่จอบส่องเหลียวหา ฟายน้ำตาเหลียวมอง เสียใจเด้คราวนี้ แม่มาดายสิเมือเป่าล่ะน้อ โอ้ย หมากพลูยาห่อเข่าเพียงปั้นบ่ได้กินลูกเอ๋ย หมู่เพิ่นได้ลาบซิ้นกองจ่านผ่าน แม่นี่หนาซาวห่อตองมาเลียพอประทังฮองท้อง”
   “ฮึกๆ ฮือๆ” เอ่อ ผมฟังรู้เรื่องนะ ผมฟังรู้เรื่อง มันเสียดไปถึงหัวใจ ผมซุกหน้าลงกับตักแม่ทันที ร้องไห้ออกมา
   “ฮ่วย แม่นเป็นหยังน้อลูก” “ฮือๆ แม่ มันเศร้าจังเลย มันเศร้าจังเลย ทำไมลูกเขาไม่มาทำบุญให้แม่เขาล่ะครับ “ ผมเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา ไม่ได้ดัดจริตนะ มันรู้สึกเศร้ามากจริงๆ
   “โอ้ยหนอ เป็นคนเมืองจั่งได๋ซ่างมาฮ้องไห้นำลำล่อง เป็นตาดีใจหลายแท้” แม่เองก็ลูบหัวผมอยู่ครับ
   “ประเพณีอีสานตั้วลูก บุญเข่าประดับดิน คนโบราณเพิ่นว่า ผีพ่อแม่ ตายายเพิ่นสิมาเอาเข่านำลูกนำหลานไปยายให้ แต่ในกลอนลำ ยายเพิ่นไปถ่าลูกอยู่เหมิดมื้อเหมิดคืน ย้อนว่าตอนเป็นคนบ่เคยเฮ็ดควมดี กลอนลำมันกะสอนให้คนเฮาเฮ็ดแต่ควมดีนั่นล่ะลูก บัดยามตายไป เถิงลูกหลานบ่มายายเข่าให้ กะสิได้กินได้อยู่ย้อนว่าตอนเป็นคนอยู่เคยแจกเคยทาน” ผมพยักหน้าแล้วปาดน้ำตาออกครับ
   “แม่เอื้อนยังไงครับ ทำไมเสียงถึงได้เหมือนจะหายแต่ไม่หาย”  ผมนั่งหันหน้าเข้าหาแม่จะถามล่ะครับ
   “พู้นๆ นางเอกเก่ามาแล้ว แม่รับบทเป็นแต่บทแม่นางเอกดอกหล่า ถามเพิ่นนั่น บทโศกนี่คนฮ้องไห่เหมิดบ้านเด้นั่น” อ่า จอยมาแล้วครับมากับแม่ ผมรีบลุกไปรับ ยกยกมือไหว้แม่จอยที่คุ้นเคยกันดี จอยเอาถุงใส่กลอยแช่มาด้วย
   “บู้ย ลูกปลัดจั่งได๋จั่งอยากมาฟังลำล่อง บ่เคยพ้อ เด็กน้อยสู่มื้อนี่มันสิฮู้จักบ่ ยาย”
   “กะจั่งว่าฮั่นล่ะ หว่างฮั่นลำกลอน วิญญาณแม่ให้ฟัง น้ำตาพังย้วยๆออกแหม่ะ เอาจักบาดกะน่ะเจ้าน่ะ” จอยเดินไปตักน้ำมาให้แม่ครับ ผมก็นั่งอยู่ข้างๆ แม่จอยลำเรื่อง ลีลาวดี ฉากที่ตัดขาดกับพระเรวัตระ เอ่อ โอ้ยนะ ผมร้องไห้เลยครับ จอยเองก็ร้องไห้ ผมเลยปล่อยเลยไม่มีกั๊ก จับมือกับจอยร้องไห้อยู่
   “ต้องมีค่าคายให้แม่เด้นี่” แม่พูดแล้วก็หัวเราะครับ
   “วันหลังนะครับแม่ ว่าแต่คายนี่อะไรครับ” ผมเหมือนจะเข้าใจครับ พอแม่ได้ยินก็หัวเราะ
   “โอ้ย บ่เป็นหยังดอกหล่า ไปๆ ไปดังไฟ แม่สิหนึ่งกลอยสู่กิน จอยไปเบิ่งบักพร้าวมาดู้ หน่วยได๋เป็นตาใซ้แน่” พวกเราก็ช่วยกันล่ะครับ จอยมันไปปอกมะพร้าวส่วนผมก่อไฟ ทีให้จอยปอกนั้นเพราะผมทำไม่เป็นเถอะ กลัวมีดจะกินมือเอาไม่ได้กินแรงเพื่อนนะ พอเย็นบนเตาก็มีหวดนึ่งกลอยอยู่ครับ ส่งกลิ่นหอมออกมาไกลเชียว
   “หอมจัง” ผมทำท่าล่ะครับ
   “สมัยแต่ก่อนมันอึดมันอยาก เพิ่นกะพากินกลอยกินมันนี่ล่ะลูกแทนเข่า สมัยสู่มื้อนี้บ่ค่อยมีแล้ว” แม่บรรยายครับ ผมก็พยักหน้า รู้สึกรักที่นี่หมดใจจริงๆ มันไม่ใช่แค่ภาคอีสานแห้งแล้งๆ แต่ผมว่าคนที่นี่ วัฒนธรรมที่นี่ที่สั่งสมเป็นปึกแผ่นจนเรียก อีสาน ผมว่ามันมีอะไรมากกว่าที่เราเข้าใจ ไม่รู้สิ คุณว่ามีที่ไหนบ้างที่คุณจะหลับตาลงแล้วรู้สึกอบอุ่นใจได้บ้าง ผมว่าผมรู้สึกว่าที่นี่ครับ ไม่ได้เวอร์นะ ผมชอบคนเก่าๆอย่างแม่จอยกับแม่เล็ก ในแววตานั้นมองผมเหมือนผมเป็นลูกคนหนึ่ง ในสัมผัสนั้นผมซาบซึ้งไปถึงใจ คนไม่มีแม่ก็อย่างนี้อ่ะนะ
   “หนึ่งหยังน้อแม่” ค่ำพอสมควรครับ ไอ้เน่ามันก็ขับรถมาพร้อมน้องโจ้ หิ้วหม้ออะไรมาด้วยไม่รู้
   “หนึ่งกลอยลูก” “บู้ย เป็นตาแซ่บเนาะ หวืยอ้ายอุ่น กินหลายแท้” อ่านะ ไอ้น้องโจ้มันมาจกในถ้วยของผมครับ
   “อ่า ล้างมือยังอ่ะโจ้” ผมทำหน้าเหวอๆ
   “บ่ จกหำมาหว่างฮั่น” “แหวะ ไอ้บ้า” ผมรีบวางถ้วยทันทีครับ
   “เป็นตาซังหลายบักโจ้ อย่าสิซวดลวดหลาย” จอยมันด่าน้องทันทีครับ ผมก็หัวเราะไม่ว่าอะไรมันหรอก เพราะกินเยอะแล้วจริงๆ
   “แม่นเอาหยังมานำล่ะนั่นน่ะเดี๋ยว” จอยมันถามครับ
   “ซิ้นหมัก เอามาให้อีแม่ปิ้งกิน บักเล็กมันสิกินแจ่วฮ้อนอยู่เฮือนพู้นเด้ ให้เอาไว้ใสเกาะอีแม่” ไอ้เน่ามันเดินไปหาชามมาใส่ล่ะครับ
   “โอ้ย ซาดเนาะ บ่ต้องเอามาดอกลูกมันสิบ่พอกันกิน” แม่ปรามไว้ครับ
   “พอๆแม่ จอยมาแบ่งเอาไปให้อีพ่อกับอีแม่อยู่เฮือนแน่นี่ หรือสิให้บักโจ้เอาเมือไว้เบาะ” ไอ้เน่ามันจัดแจงอยู่สักพักล่ะครับ ก็ได้เนื้อหมักสองถ้วย โหยนี่แสดงว่าพี่ต้อยซื้อเนื้อเยอะนะเนี่ย เพราะแบ่งมาสองบ้านนี่ก็คนละเกือบถ้วย เออเนอะ ลืมไปว่าบ้านผมก็แบบนี้ล่ะ พ่อผมคงเพิ่มเงินให้แน่ๆ
   “ไงมึง ทำไมตาบวมๆ” อ่านะยังมามองเห็นอีกไอ้นี่
   “บ่บวมสิจั่งได๋ ฮ้องไห้ตั้วหว่างฮั่น เพิ่นอินลำล่อง” อ่านะ ผมหันไปทำหน้าหงิกใส่จอยครับ จอยก็หัวเราะไม่สนใจ
   “ฮ่าๆ มึงฟังออกเหรอวะ” “ออกดิ เศร้าจะตาย” “เออ มึงเก่งๆ ป่ะรีบกลับไปช่วยเพื่อนๆทำ เดี๋ยวไม่ได้แดกกันพอดี” สรุปพวกเราก็ย้ายที่ไปบ้านผมล่ะครับ ผมลาแม่ทั้งสองแล้วก็นั่งซ้อนท้ายไอ้เน่ากลับ ส่วนจอยรอให้โจ้ไปส่งแม่กลับบ้านก่อนแล้วค่อยมารับจอยไปที่บ้านผม พอไปถึงเพื่อนก็กำลังตั้งวงเชียว พ่อผมนั่งเป็นประธานอยู่
   “พี่ต้อยๆ อุ่นจะเตรียมคายไปให้แม่เล็ก กับแม่จอยด้วยอ่ะ แม่ลำให้ฟัง” ผมเดินไปหาพี่ต้อยก่อนใครเลยครับ
   “บู้ย คือได้ฟังลำ เอื้อยคือบ่ได้ฟัง เฮือนเพิ่นอยู่หว่างได๋เกาะค่าคุณอุ่น บู้ยเนาะ” อ่านะ คอเดียวกันอีก
   “วันหลังเดี๋ยวอุ่นพาไป แต่คายอ่ะ ต้องเตรียมไปด้วยนะ”
   “หวืยสิยากหยัง คายกะมีขันธ์ห้า ดอกไม้ธูปเทียนท่อนตั้ว”
   “เอาผ้าซิ่นไม่ได้เหรอ อุ่นเห็นในตลาดสวยๆเยอะเลย”
   “ลงทุนปานนั้นติ๊ เป็นตาลำม่วนเนาะ อยากฟังแล้วเด้” ผมตกลงกับพี่ต้อยอยู่นานครับ ผมจึงเดินมาหาเพื่อนๆ
   “แล้วฮ้องเพลงไปฮอดไสล่ะอุ่น” นายไม้ถามขึ้นครับ
   “ถึงไหนล่ะ จิ๊ เซ็งอยู่เนี่ย เพื่อนๆโห่เอาดิ ถึงวันได้ขายหน้าเขาแน่ๆ”
   “ไหนลองร้องให้พ่อฟังหน่อยซิลูก ไปร้องท่าไหนเพื่อนๆถึงได้โห่เอา” อ่านะ
   “ไม่เอาอ่ะพ่อ อุ่นยังไม่ได้เลือกเพลงเลย อีกสามวัน เหอๆ” ผมทำหน้าเซ็งๆ
   “เอาเพลงมารายบ่อุ่น สิได้ลบคำสบประมาทคน” จอยมันเสริมครับ
   “บ้าเหรอ เสียงสูงขนาดนั้นไม่ตกม้าตายเหรอจอย”
   “สูง มึงก็ปรับให้เข้ากับเสียงมึงดิ ไปร้องเลียนแบบนักร้องก็ตายทุกคนล่ะวะ” อ่า ไอ้เน่าครับ ผมมองหน้ามันแล้วหันไปมองหน้าจอยทันที
   “จอยๆ ป่ะไปช่วยเราเลือกเพลงก่อน” อิอิ เห่อครับ เพิ่งจะคิดได้ ผมลุกทันที จอยมันทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ต้องลุก ผมขึ้นไปบนห้องแล้วเปิดยูทูปเลือกเพลงเลย
   “เพลงนี้เป็นจั่งได๋” “อ่า ยากไปเถอะ เสียงสูงเรื่อยๆ ไม่ไหวม้างจอย” “ฮ่วย บ่ลองสิฮู้บ่ ให้เฮาเป็นคอรัสให้กะได้ เดี๋ยวไปบอกไอ้ไม้นำ มันฮ้องเพลงเก่งเด้นั่นฮู้บ่” อ่านะ ตกลงเลยก็ได้ครับ เอาใจช่วยผมด้วยนะ อิอิ

Written by eiky


ปล. ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากนะครับ ไปกินนึ่งกลอยกันเร้วว อิอิ หอมๆน้า

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1172 เมื่อ26-09-2012 17:41:26 »

นึกว่าน้องอุ่นจะร้องหมอลำ แต่คงไม่ไหว ยากเกิน
เนื้อความของกลอนลำช่างกินหัวใจ มิน่าน้องอุ่นถึงร้องไห้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2012 09:19:30 โดย malula »

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1173 เมื่อ26-09-2012 18:14:42 »

อุ่นสู้ๆ เน้อ

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1174 เมื่อ26-09-2012 18:18:23 »

ใกล้จะได้ฟังอุ่นร้องเพลงแล้ว เซอร์ไพรส์

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1175 เมื่อ26-09-2012 18:29:43 »

มั่นใจไว้น้องอุ่น วันร้องจริงเอาใอ้พวกสบประมาท หน้าหงายไปเล้ย สู้ๆๆๆๆ นะ

 เน่าอย่าจัดหนักนักสิ สงสารเบบี๋

ขอบคุณมากค่ะ  :L1: :pig4: :L1:


ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1176 เมื่อ26-09-2012 18:49:43 »

อุ่นสู้ๆ

obab

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1177 เมื่อ26-09-2012 19:52:29 »

รออุ่นขึ้นโชว์
เน่าน่าตีนักชอบทำอุ่นเจ็บ :P

pahpai

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1178 เมื่อ26-09-2012 20:11:11 »

รอตอนหน้า น้องอุ่นโชว์ให้พวกที่โห่หน้าหงายไปเลยนะ

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1179 เมื่อ26-09-2012 21:09:51 »

ตื่นเต้นไปกับน้องอุ่นซะแล้ว  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
« ตอบ #1179 เมื่อ: 26-09-2012 21:09:51 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1180 เมื่อ27-09-2012 10:04:47 »

เอาใจช่วยอุ่น  นะ   แต่อย่าให้รอนานนะคับ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1181 เมื่อ27-09-2012 10:41:13 »

รอน้องอุ่นขึ้นโชว์

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1182 เมื่อ27-09-2012 19:13:40 »

ม่วนๆๆคัก มาต่ออีกเด้อน้องหล่า

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1183 เมื่อ27-09-2012 19:32:03 »

นู๋อุ่นอ่วมตามคาด...ชิ..หมั่นไส้เจ้าเดี๋ยวหลาย...
เด็กน้อยฮึดสู้คำสบประมาท...เดอะสตาร์ชิดซ้าย...AFชิดขวา..
อุรดิศ กำลังแรงงง... :laugh:

 :L1: น้องอิ๊ก   :กอด1:

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1184 เมื่อ27-09-2012 21:30:11 »

สู้ๆเอาให้ นางเพ็ญ อิชาติ และคนอื่นๆ อึ้งตายไปเลย

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1185 เมื่อ27-09-2012 23:09:14 »

อุ่นจะเลือกเพลงอะไรน๊าาา :L2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1186 เมื่อ27-09-2012 23:14:32 »

โคตรกดดันอ่ะ  :o211:

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1187 เมื่อ28-09-2012 01:11:33 »

+1 น้องอุ่น สู้ ๆ น่า ๆ แต่น้ำลายหก ตอนึ่งกลอย อิอิ อยากกินไป หาไหนอ่ะ :z2:

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1188 เมื่อ28-09-2012 09:11:08 »

มารอฟังน้องอุ่นร้องเพลง 

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1189 เมื่อ28-09-2012 10:20:04 »

อุ่นสู้สู้ :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
« ตอบ #1189 เมื่อ: 28-09-2012 10:20:04 »





ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1190 เมื่อ28-09-2012 14:01:07 »

เตรียมยางวงไว้ดีดปากคนโห่ น้องอุ่น

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1191 เมื่อ28-09-2012 14:30:46 »

อุ่นจัดเต็มหนู โชว์ให้อึ้งทั้งห้องประชุมเลย วิชาอื่นเราแย่ แต่เราท๊อปภาษาอังกฤษนะ สู้ๆลูก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1192 เมื่อ28-09-2012 16:13:21 »

รอจ้า

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1193 เมื่อ30-09-2012 09:51:58 »

น้องอุ่นสู้ๆๆ

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 29 Version (Aun) 26 September 12 หน้า 40
«ตอบ #1194 เมื่อ03-10-2012 23:18:22 »

อุ่นสู้ๆ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
«ตอบ #1195 เมื่อ04-10-2012 08:38:13 »

You’re My BaBy!!

   “ตกลงมึงเลือกเพลงไรวะ” พอจะนอนผมก็ถามมันล่ะครับ เห็นเรียกสัดไม้เข้าไปคุยด้วย เห็นสัดไม้มันบอกว่าจะให้มันเป็นคอรัสให้ด้วย มันเองก็ไม่ได้ว่าอะไรครับเพราะมันร้องเพลงเก่งอยู่แล้ว
   “เพลงนี้อ่ะ” มันเปิดให้ผมฟังครับ
   “โห เสียงสูงจะตายห่า มึงจะร้องได้เหรอวะ” พอได้ยินก็ตกใจครับ แม่งเล่นเพลงยากโครตๆ
   “ต้องซ้อมอ่ะ ยากมากแต่จอยบอกว่าเอาเพลงนี้ล่ะ ให้พวกนั้นหงายหลัง”
   “มึงไม่เผื่อไว้อีกเพลงล่ะ เผื่อล่ม” ผมแนะนำมันล่ะครับ
   “เหรอ งั้นเน่าว่าเอาเพลงไหนดีอ่ะ”
   “เอาเพลงร้องง่ายๆแต่ก็ไม่ง่ายจนเกินไปดิ จะได้กันเหนียว” ผมก็เดินมาเลือกเพลงให้มันล่ะครับ
   “เอาแนวแร็พๆหน่อยดิ” “บ้าเหรอ ใครจะไปแร็พทัน แค่นี้ก็จะแย่แล้วอ่ะ”
   “ไหนลองร้องให้กูฟังหน่อยดิ๊ จะได้วิจารณ์” ผมปีนขึ้นมาบนเตียงล่ะครับ นอนเอามือรองคออยู่
   “งั้นเน่าวิจารณ์ให้หน่อยนะ” มันก็ลุกขึ้นยืนข้างๆเตียงครับ มันค่อยๆเปล่งเสียงออกมา อืม เสียงมันก็ไมได้แย่นะ ออกจะใสๆเสียด้วยซ้ำ
   “เฮ้ยๆ ทำไมบีบเสียงแบบนั้นวะ มึงอย่าไปเลียนแบบเขาดิ มึงเลือกเพลงผู้หญิงมันร้องยากอยู่แล้ว ยิ่งไปกระแดะบีบเสียงตามเขาอีก ตายดิวะ” ผมลุกขึ้นนั่งครับ มันทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ยอมร้องใหม่ มันฝึกกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ จนมันเหนื่อยล่ะครับ แล้วมันก็ขึ้นมาบนเตียง
   “เรากลัวเราทำไม่ได้อ่ะเน่า” มันระบายความในใจออกมาล่ะครับ สีหน้าแววตาของมันดูกังวลอยู่มากล่ะ ผมเข้าใจนะเพราะเวลาแค่ไม่กี่วันใครก็คงฝึกไม่ทันล่ะ อีกอย่างตั้งแต่รู้จักมันมาผมไม่เคยได้ยินมันร้องเพลงเลยเถอะ ส่วนมากมีแต่ผมที่แหกปากร้องตอนอาบน้ำ
   “เออน่า กูเชื่อมึง แล้วลองซ้อมเข้ากันกับพวกนั้นยังอ่ะ”
   “พรุ่งนี้อ่ะ นัดกันที่บ้านจอย” “ทำไมต้องไปบ้านจอยด้วยวะ ไม่มาบ้านเรา”
   “ก็จะให้แม่จอยช่วยติวให้ไง” “อ้อ เออๆ นอนๆ ง่วงแล้ว จะสี่ทุ่มอยู่แล้วนะเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปไม่ทันอีกหรอกมึง” ผมกอดมันล่ะครับ มันเองก็นอนเอาหน้าซุกเข้าหาผม คืนนี้ปล่อยมันไปสักวันเถอะ เห็นสภาพแล้วสงสารยังไงไม่รู้
   “ตั้งใจนะลูก” พ่อตาผมก็อวยพรให้มันตอนเราออกมาจากบ้านล่ะครับ อากาศตอนปลายปีนี่มันหนาวเย็นเหลือเกินนะ แม้จะใส่เสื้อกันหนาวมาตัวใหญ่แต่ก็ยังหนาวอยู่ แต่ผมดีหน่อยที่เล่นกีฬาเลยไม่หนาวมาก แต่ไอ้เบบี๋มันหนาวจนปากสั่น ตอนไปโรงเรียนมันก็กอดเอวผมอยู่ ทุกวันนี้มันไม่ค่อยอายแล้วครับ ไม่ต้องให้บอกพอขึ้นรถปุ๊บกอดปั๊บ บอกแล้วกูน่ะมันอร่อย ฮ่าๆ
   “เป็นจั่งได๋วะ บักไม้ เป็นตาคือบ่” พอจะขึ้นเรียนผมก็ถามสัดไม้ล่ะครับ เพราะตอนเลิกแถวมันไปหาภรรยาผมก่อน
   “คือตั้ว เสียงเพิ่นดีกะด้อ ปรับหน่อยเดียวกะได้แล้ว”
   “มึงกะเบิ่งๆให้กูแน่ล่ะ อย่าสิให้เขาโห่เด้อมึง”
   “ฮ่วย ไผสิมาโห่เดี่ยวนิ เพิ่นเลือกเพลงยากนำล่ะกูว่า สาวจอยเลือกให้ เสียงสูงกูว่าแม่นปีนต้นบักพร้าวเอาโลด”
   “มื้อแลงซั่นงดเตะตระกร้อเนาะ เดี๋ยวกูสิซวนบักโจ้ไปแทงปลาไหลถ่า พวกสูฮ้องเพลงแล้วๆสิได้ผัดกินแซ่บๆ”
   “แม่นๆ เออ ไผเป็นวงดนตรี แม่นซุมบักแบงค์บ่บักไม้” สัดเคนมันถามขึ้นครับ ผมจึ๊กขึ้นในใจทันที ตั้งแต่มีเรื่องกันเจอหน้าผมมันจะหลบตลอด แต่ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมันมากนัก
   “กูย้านอยู่ พวกนี้มันคุมวงดนตรีมาแต่ได๋ เดี๋ยวพักเที่ยงกูไปถามจารย์พรให้” เราสามคนมีสีหน้าแปลกไปทันทีครับ ไม่ใช่แค่ผมหรอกนะ
   “แม่นๆ เฮ้ย ซุมนั้นอีหลี” สัดไม้มันวิ่งมาเข้ากลุ่มตอนพักเที่ยงครับ ผมหน้าเสียไปทันที
   “บ่มีหยังดอกน่า งานโรงเรียนใหย่ปานนี้ พวกมันบ่กล้าเฮ็ดหยังดอก” สัดเคนมันตบบ่าผมล่ะครับ
   “มีไรเหรอเน่า” ไอ้เบบี๋มันนั่งอยู่ข้างๆผมครับ
   “วงดนตรีเด้อุ่น พวกบักแบงค์” สัดเคนมันชิงตอบครับ ไอ้เบบี๋ทำหน้างงๆ
   “แล้วไงอ่ะ” “ป้าด กะคนเคยมีเรื่องกันแหม่ะ บ่ย้านมันเฮ็ดทั่วทีปบ่”
   “บักห่านี่ เซาๆ แดกไปเข่าน่ะ” ผมตัดบทครับ ไอ้เบบี๋มันยังทำหน้างงๆอยู่
   “เขาจะแกล้งเราเหรอเน่า” นั่นไงครับ พอกินข้าวเสร็จมันถามทันที
   “ไม่หรอกน่า มันไม่กล้าหรอก ถ้ามันทำ จารย์พรล่ะจะเล่นมัน” มันพยักหน้าครับ
   “ได้เยอะแล้วน้าเน่า คาบสังคมจารย์ไม่เข้า เรากับจอยเลยไปซ้อมที่ห้องศิลป์ จอยเสียงดีมากๆ”
   “หวืย บ่แม่นดอก เจ้าของนั่นล่ะเสียงดี ถ่าแต่ไอ้ไม้นั่นล่ะ มื้อแลงคือสิคืบหน้ากั่วนี้อยู่ดอกเฮาว่า” สาวจอยเสริมครับ แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไป ผมไม่ค่อยห่วงว่าใครจะมาแกล้งมันหรอกครับ อ้าว ก็ไม่เคยเห็นไงมันจัดอีสุชาติซะเกือบตาย แต่ถ้าเรื่องคนมาจิกกัดมันผมก็ไม่ค่อยห่วงเหมือนกัน เพราะสาวจอยกับไอ้เล็กมันก็คอยเป็นโล่ห์อยู่ จะว่าไป กูดีใจนะเนี่ยที่มีเพื่อนดีๆ แม้ตัวจะห่างมันแต่อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่ามันจะไม่เป็นอะไร
   “เจ็บคออ่ะเน่า ร้องเพลงจนเจ็บคอเลยอ่ะ” พอเลิกเรียนผมก็ไปรับมันหน้าโรงเรียนล่ะครับ มันหนาหน้าเศร้าๆ
   “อ้าว งั้นแวะเซเว่นก่อนยินยาอม” ผมบอกมัน
   “เฮากะเจ็บ พากันฮ้องลวดมื้อเอาโลด” ผมพยักหน้าครับ แล้วนำไปก่อน ไอ้โจ้มันตามออกมา เพื่อนๆก็ตามาด้วย เพราะไม่เตะตระกร้อกันก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เลยเฮโลตามกันไปเป็นพรวน
   “กินน้ำอุ่นนะ” ผมบอกมันตอนที่ไปถึงบ้านจอยแล้วครับ
   “อืม เน่าจะไปแทงปลาไหลเหรอ” “เออดิ นั่นๆ อย่าๆ อย่ามาทำตาแบบนี้ มึงฝึกร้องเพลงไปนั่นล่ะ เดี๋ยวกูมา” ผมบอกมันครับ ว่าไปมันนี่โครตน่ารักเลยนะ ทำตาอ้อนๆ พอเพื่อนๆครบ พวกเราก็เตรียมอุปกรณ์เดินลงทุ่งไปเลยครับ มีผม ไอ้โจ้ ไอ้เล็ก สัดเคน ไอ้เต้ ส่วนที่เหลือก็ซ้อมร้องเพลงอยู่
   “ผมได้ยินอ้ายอุ่นเพิ่นฮ้องเพลงหว่างฮั่น บู้ย เสียงดีคั่กเด้ออ้ายเดี๋ยว” ไอ้เต้มันบอกล่ะครับ
   “แม่นๆ เป็นตาฟังเนาะ ปีกลายสาวฟ้าเพิ่นฮ้องเพลง ยังบ่ม่วนซ่ำนี้เลย” สัดเคนเสริมครับ รู้สึกเป็นปลื้มขึ้นมาหน่อย แต่ก็นั่นล่ะครับ จะเหลิงไม่ได้หรอก เพราะมันมีอะไรให้ต้องปรับปรุงอยู่ล่ะ พวกเราก็ไปแทงปลาไหลกัน ได้มาไม่เยอะเท่าไหร่ครับ เพราะหน้าหนาว ไม่ใช่อะไรหรอก หนาวนี่หว่าใครจะไทนแช่น้ำไหววะ พอขึ้นมาก็ปากสั่นกันทุกคนเลยครับ
   “บักนาวเหมิดเป็นกะต่าแล้วเด้เนี่ย เจ็บคอแฮง” พอไปถึงก็เห็นสามคนนั่งหมดอาลัยอยู่บนแคร่ล่ะครับ มีแม่สาวจอยคอยเทรนให้อยู่
   “ป่ะอ้ายไปครัวปลาไหล บักเต้มึงไปเก็บผักมาแน่ะ” ไอ้โจ้ครับมันร้องสั่งไอ้เต้ พวกผมก็เลยเดินผ่านเข้าไปในครัว
   “เป็นไงวะ” ผมผิงไฟอยู่จนกางเกงมันหมาดล่ะครับ เลยออกมาถาม เห็นมันหน้าแดงๆ
   “ก็โอเคอ่ะเน่า แต่ยากมาก แม่ให้ฝึกเอื้อนด้วย” มันหันมาบอก หายใจทางปากครับ
   “เออน่า ฝึกไปเยอะๆ เดี๋ยวก็ได้เองล่ะ” ผมยักคิ้วให้มันแล้วกลับเข้าไปทำปลาไหลกับเพื่อนๆต่อครับ พวกเราก็กินข้าวกันที่บ้านสาวจอย มีพ่อแม่สาวจอยแล้วก็พวกเรา พอเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
   “เป็นไงบ้างลูก” พ่อตาครับ นั่งจิบชาอยู่ใต้ถุนบ้าน คงรอพวกเราล่ะครับ
   “เจ็บคออ่ะพ่อ ฝึกหนักเลยอ่ะ” มันเข้าไปนั่งข้างๆพ่อตาล่ะครับ
   “กินยาด้วยนะลูก เดี๋ยววันจริงเจ็บคอมาแย่เลยนะ”
   “มันเหมือนคอแห้งๆอ่ะ ใช้เสียงเยอะไปหน่อย แต่จอยเอามะนาวกับเกลือมาให้กินตลอดเลยนะพ่อ ท้องจะเสียไหมเนี่ย” มันโม้ให้พ่อตาฟังครับ ส่วนผมก็นั่งฟังอยู่
   “แล้วลูกเดี๋ยวไม่ได้เล่นอะไรกับเขารึ” พ่อตาหันมาถามผมครับ
   “ไม่ครับ ปีที่แล้วผมเล่นดนตรี แต่ปีนี้ไม่เล่น เดี๋ยวผมจะอัดวีดีโอไงครับ” ผมบอกครับ
   “เออๆ ดีๆ พ่อก็อยากดู ทำไมทางโรงเรียนเขาไม่เชิญนะ”
   “แหมพ่อ อายนะ งานมันไม่ใหญ่มั้ง พ่ออย่าไปดีกว่า รอดูวีดีโอ อิอิ” มันหัวเราะครับ คุยกันอยู่สักพักพวกเราก็ไปอาบน้ำ หนาวเถอะ พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นห้องเลย
   “คุณอุ่นๆ เอื้อยเอาบักนาวฝานกับน้ำเผิ้งมาให้ค่า สิได้เซาเจ็บคอ ยานำ” พี่ต้อยแกมาเคาะประตูล่ะครับ
   “อยากให้ฮอดไวไวเนาะ เอื้อยล่ะอยากเบิ่ง”
   “ถึงไวก็ฝึกไม่เยอะดิพี่ต้อย กลัวคนจะโห่อยู่เนี่ย ขอบคุณนะครับพี่ต้อย” ไอ้เบบี๋มันออกไปรับเอาน้ำอุ่นกับยา รวมถึงน้ำผึ้งกับมะนาวล่ะครับ มันก็ทำตามอย่างว่าง่ายแล้วก็มานอน มันไม่ฝึกแล้วคงจะเพลีย ไม่นานมันก็หลับไป
   “I would never be too faraway” หือ ใครมาครางกลางดึกวะ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาครับ ตอนแรกคิดว่ามันคึกตื่นขึ้นมาฝึกตอนดึกๆดื่นๆ ผมลืมตาขึ้นมอง มันก็ยังคงหลับตาอยู่นะ
   “ละเมอเหรอวะ” ผมเอามือลูบหน้ามันเบาๆ ปากมันขยับไปมา ตายห่า เห็นแล้วสงสารจังครับ มันคงฝึกแบบเอาเป็นเอาตายเลยนะเนี่ย ขนาดนอนยังเก็บเอามาฝันจนละเมอ ผมเลยจูบที่หน้าผากมันเบาๆครับ มันเลยนิ่งไป
   “เมื่อคืนมึงฝันเหรอ” พอเช้าผมเลยถามมัน
   “หือ เราน่ะเหรอ ไม่รู้ดิ จำไมได้” “เมื่อคืนมึงละเมอนะ” ผมบอกมันครับ
   “อ่า ละเมอว่าไรอ่ะ” มันนั่งซ้อนท้ายอยู่ล่ะครับ
   “อยากโดนๆๆ ผัวจ๋า เอาแรงๆ” “บ้าเหรอ ไอ้นี่” มันทุบหลังผมทันทีครับ
   “อ้าว จริงนะเว้ย กูจะหลอกมึงทำไมเนี่ย กูตื่นมาเจอพอดี ตอนแรกว่าจะเอาซะแล้ว”
   “อ่า จริงดิ เราละเมออย่างงั้นจริงเหรอ” “เออ แวะหาที่เอาก่อนป่ะล่ะ ฝันมึงจะได้เป็นจริง”
   “บ้า พูดไรไม่รู้” มันอายครับ ทุบหลังผมใหญ่ ผมหัวเราะชอบใจ ให้ตายเถอะแกล้งมันนี่ไม่มีเบื่อจริงๆเลย
   “เฮ้ยๆ ทำไมหน้าแดงวะ แหม อยากก็เล่นตัวนะมึง” พอถึงโรงเรียนมันลงรถมาผมก็แซวต่อครับ
   “อ่า ไอ้บ้า ไม่คุยด้วยแล้ว” มันวิ่งไปเลยครับ ผมก็ยืนหัวเราะอยู่โรงรถ
   “ซาดอารมณ์ดีเนาะ บักห่ามึง เมื่อคืนจัดไปจักดอกล่ะ” สัดเคนครับ
   “ฮ่วย บ่หลายดอก สองดอก” “ป้าด กูว่าอยู้ เป็นหยังเพิ่นนั่นจั่งย่างแปลกๆ ขาถ่างๆ”
   “ป้าบ” “ฮ่วย เตะกูเฮ็ดหยัง บักอันนี่” “จอบเบิ่งเมียกูบ่บักห่านี่ อยากตายติ๊” ผมเตะมันครับ ไอ้เคนหัวเราะแหะๆ พอเพื่อนๆครบก็เดินไปที่โรงอาหารครับ
   “I can’t live, I can’t live here without you no no I can’t live” พอเข้าไปในโรงอาหาร เสียงคนหอนก็ดังขึ้นล่ะครับ กลุ่มพวกสาวเพ็ญกับอีสุชาติ ไม่ได้มองมาทางนี้นะ แต่มันนั่งถัดไปหน่อย แต่แหกปากนี่แบบว่าวอนส้นตีนมากๆ
   “ว้าย เพ็ญ ร้องเพราะมากเลยอ่ะ”
   “เนอะ จารย์พรน่ะเลือกใครก็ไม่รู้ เสียงดีๆสวยๆไม่เลือก ไปเลือกพวกกะโหลกกะลา” กูทุบโต๊ะทันทีครับ สัดไม้มันจ้องผมแบบว่า หยุด ผมเลยทำได้แค่นั้น แต่เสียงนั้นเงียบไปทันที
   “ปากหมาเนาะ หวืย อย่าเด็ดขาดเด้อสู สิงามปานได๋ คันไปมีหยังนำคนแนวนี้ คือสิเกาะคือปลิงเนาะ บ่เลิกบ่แล้วจั่กเทื่อ” สัดเคนมันเปรยๆขึ้นล่ะครับ ผมยิ่งเลือดขึ้นหน้า พอสักพักไอ้เบบี๋กับสาวจอยก็เดินกลับมาจากเข้าห้องน้ำ หน้าตามันเหวอๆ ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
   “เดี๋ยวเรารีบไปซ้อมก่อนนะ ไม้ คาบแรกไม้เรียนไรอ่ะ” มันหันไปถามสัดไม้ครับ
   “คณิต” “อ้อ เหรอ งั้นเรากับจอยไปซ้อมล่วงหน้านะ” มันทำเสียงแปลกๆครับ ผมมองอยู่ล่ะ
   “บ่เฮียนติ๊โตน่ะ” สัดไม้ถามกลับ
   “เราว่าจะโดด” “แม่น ซาดเป็นตาซังเนาะคนน่ะ หว่างฮั่นกะมีคนมาเว้าใส่แหม่ะ” สาวจอยโพล่งออกมาครับ ผมตาลุกโพลงทันที
   “ไผ” ผมตวาดออกไป
   “ช่างมันเถอะเน่า ตอนนี้เราต้องฝึกให้เยอะๆ จะได้ลบคำสบประมาทของใครๆได้” ไอ้เบบี๋มันจับแขนผมไว้ล่ะครับ
   “ฮ่วย ไผเดี๋ยวนิคือมาปากบ่ดีแท้ แม่นเห็นพวกโตฮ้องแล้วติ๊ จั่งมาเว้าใส่” สัดเคนครับ ท่าทางขึ้นเหมือนกัน
   “แม่นๆอ้าย ห้องผมน่ะ เขาอยากเบิ่งอ้ายอุ่นฮ้องเพลงสู่คน อย่าสิไปสนใจเด้ออ้าย” ไอ้โจ้มันให้กำลังใจครับ ก็ผมกับไอ้เบบี๋มีแฟนคลับอยู่นี่หว่า ห้องไอ้โจ้นี่ล่ะ ฮ่าๆ
   “ซุมหมู่เอื้อยนกนั่นล่ะ ดีแต่หน้างาม ปากคือหมานี่” สาวจอยบอกออกมาจนได้ครับ ผมตาขวางแล้ว
   “ไม่เป็นไรหรอก เน่า เราจะโดดเรียนนะ ไปรับด้วยที่บ้านจอย” มันกระซิบบอกผมครับ
   “บักไม้ มึงกะโดดติ๊ มื้อนี้จารย์เพิ่นบ่สอนดอก สิเฮ็ดเวที” ผมหันไปบอกสัดไม้ล่ะครับ
   “เออๆ แต่เฮาเอารถไปบ่ได้เด้อ จอดในโรงรถแล้ว”
   “สิไปสามล้อลุงนั่นล่ะ โตกะสิหลบคือกันบ่ไม้ ซั่นพ้อกันเนาะ” สาวจอยนัดแนะครับ สีหน้าของไอ้เบบี๋ตอนนี้มันมุ่งมั่นครับ จากที่ซีดๆอยู่ แววตามันฉายพลังอะไรบางอย่างออกมา ผมได้แต่มอง วันนี้กูก็คงไม่เรียนหรอก จะไปสิงอยู่ห้องพ่อกูดีกว่า พอเข้าแถวเสร็จกูก็ชวนสัดเคนไปนอนห้องพ่อกูเลยครับ ตอนแรกก็ด่าล่ะตามเรื่องของแก แต่ไม่สนซะอย่าง นอนจนเที่ยงก็ลุกไปกินข้าว แล้วก็มานอนต่อ ตื่นประมาณบ่ายสอง ก็ไปเล่นบาสฯกับเพื่อนๆในห้อง
   “บักเดี๋ยวๆ ไปเบิ่งเวทีป่ะ” สัดเคนมันชวนครับ เออดีเหมือนกันวะ เริ่มเหนื่อยแล้วเถอะ
   “ซุมได๋จัดวะ” “แม่นเพิ่นให้ ม.๖ บ้อเฮ็ด” ผมเลยเดินตามสัดเคนไปล่ะครับ แต่ก็นะ ผมจะคอยหลอกอาจารย์ว่าผมจะไปช่วยเขาทำเวที อันนั้นอันนี้นี่ ฮ่าๆ ไม่ได้กินแรงกูหรอกเว้ยจะบอก พอเดินเข้าไปในหอประชุม ก็มีรุ่นพี่กำลังทำเวทีอยู่ครับ ผมเลยเดินเลียบๆไปข้างๆยืนมองอยู่กับสัดเคน
   “อ้าว บักเดี๋ยว มาเลยๆ มาช่วยครูหน่อย” เวรล่ะ จารย์พรอยู่ด้วยพอดี
   “ผมมาเบิ่งซื่อๆจารย์ สิไปแล้ว”
   “นั่น ทุกทีเลยนะยะ มานี่เลย อย่าเรื่องมาก มาช่วยพี่เขายกแสตนด์หน่อย”
   “บ่ไหวดอกจารย์” ผมบอกครับแล้วเดินลิ่วหนีทันที เสียงอาจารย์พรก่นด่าไล่หลังมา ไม่สนหรอกเว้ย ใครจะไปยกวะหนักจะตายห่า
   “กูว่าไปเฮือนสาวจอยดีกั่วว่ะ อยู่นี่กะบ่มีแนวเฮ็ด” ผมชวนสัดเคนล่ะครับ แน่นอนเพื่อนผมนี่ มันต้องมีอะไรเหมือนผมล่ะ มันไม่ตอบครับแต่เราสองคนเดินขึ้นไปเอากระเป๋านักเรียนแล้วก็ไปโรงรถขับรถออกไปเลย ไม่สนใจใครทั้งนั้น ฮ่าๆ ไปถึงก็เห็นกำลังซ้อมกันอย่างหนักแน่นครับ ผมยืนฟังมันร้องเพลงอยู่สักพักก็เลยไปนอนรอบนแคร่ มันเริ่มเข้าท่าแล้วล่ะ ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว เสียงที่ปรับเข้ากับคีย์ของมัน และยังปรับให้กับลูกคู่ทั้งสอง เริ่มเข้ากันได้ดีแล้ว สัดไม้นี่เสียงหล่อมากๆครับ ส่วนไอ้เบบี๋ของผมมันเสียงใสๆแต่หนักแน่น ส่วนสาวจอยนี่ไม่ต้องห่วงเสียงเพราะมาก เสียงดีกว่าไอ้เบบี๋อีกนะ เอื้อนหรือลากเสียงได้ยาวเพราะทีเดียวล่ะ
   “ตื่นเต้นจังอ่ะเน่า” เอาล่ะ ไม่เล่าเยิ้นเย้ออะไรนานแล้ว ถึงวันงานซึ่งมันเป็นวันศุกร์ล่ะครับ คาบเช้าก็เรียนกันตามปกติ เว้นแต่พวกที่มีการแสดงหรือคุมเวที ก็ต่างแยกย้ายกันไปทำ ไอ้เบบี๋มันตื่นเช้ามาหน้าตาตื่นประหม่าอยู่มาก
   “หายใจลึกๆดิ จะได้ดีขึ้น” ผมบอกมันล่ะครับ มันก็ทำตาม
   “แล้วนี่มึงจะเข้าโรงเรียนไหม” ผมถามมันตอนขับรถออกจากบ้านครับ
   “ไปบ้านจอย ต้องไปเอาชุดด้วยอ่ะ” “ไรวะ ร้องเพลงแค่นี้ต้องมีชงมีชุดด้วยเหรอ” เออว่ะ กูไม่ยักรู้
   “มีดิ จอยบอกว่า จะทำทั้งทีเอาให้คนพูดไม่ออกเลยดีกว่า” ผมหัวเราะครับ อ่านะ สาวจอยนี่ได้ใจจริงๆ
   “อืมๆ ให้กูอยู่ด้วยป่ะ” “แล้วเน่าไม่เรียนเหรอ” มันถามกลับครับ
   “พูดยังกะกูเคยเรียนงั้นล่ะ” ผมบอกความจริง มันก็ยิ้มๆ ตกลงเราก็ไปขลุกอยู่บ้านสาวจอยล่ะครับ สัดไม้มันลงทุนนะเว้ยเฮ้ยขอบอก มันยืมรถพ่อมันมา ไปเอาชุดมารอไว้แล้ว แต่มันยังไม่ให้ดูครับ ส่วนเพื่อนๆผมมีสัดเคนกับไอ้เล็กเท่านั้นที่มา ไอ้เต้กับไอ้โจ้มันคงเรียน
   “ไปหาบักหุ่งมาตำกินป่ะบักเดี๋ยว” สัดเคนชวนครับ ผมก็เห็นด้วย เพราะไม่มีอะไรทำก็เริ่มเบื่อครับ ก็ตำส้มตำกินกัน ย่างปลาในไหโดยพ่อสาวจอยเป็นคนย่างให้ จนเที่ยงก็เลยให้พวกนั้นไปแต่งตัว
   “ป้าด คือเท่แท้ว่ะ” สัดเคนร้องขึ้นล่ะครับ สัดไม้มันเสร็จก่อนเพื่อน มันใส่ทักซิโด้สีดำ กางเกงดำ เสื้อเชิ้ตข้างในก็ดำ ใส่เจลผมตั้งมาเชียว
   “เป็นจั่งได๋ๆ” มันหัวเราะครับ ทีนี้ไอ้เบบี๋มันก็เสร็จ แต่มันใส่สีขาวหมดตัวครับ แม้แต่รองเท้า เออนะร้านเช่าชุดนี่ก็นะ ช่างจัดสรรให้ดีจริงๆ
   “หล่อแท้อุ่น บู้ย คนอีหยังวะ อยู่ซื่อๆก็เป็นตาฮักแล้ว แห่งมาแต่งโตแบบนี้แห่งเป็นตาเบิ่งหลาย” สัดเคนมันชมครับ ไอ้เบบี๋มันก็ยิ้มๆหน้าแดงขึ้นทันที
   “เออวะ ใครหามาวะเนี่ย” ผมเดินเข้าไปแตะบ่ามันล่ะครับ
   “จอยอ่ะ” “ป้าด รสนิยมสูงเด้นี่” สัดเคนสวนขึ้น
   “แม่นค่า” เสียงสาวจอยดังตอบมา พวกเราเลยหันไปมอง ว้าว สาวจอยเองอยู่ในเดรสสีดำทั้งตัวเหมือนสัดไม้ครับ ผมบ๊อบของเธอทาเจลแข็งแล้วหวีไปด้านหลังเหมือนกับเพื่อนๆ ทาตาสีดำด้วยนะเว้ย สวยเฉี่ยวจนจำเกือบไม่ได้ทีเดียวล่ะ
   “ป้าด คืองามแท้ผู้สาว” สัดเคนครับ พวกเราก็หัวเราะ
   “หวืย อยู่นำกันมาตั้งโดน คองตาฮู้ติ๊ว่าเฮาผู้งาม” อ่านะ สาวจอยก็ไม่น้อยครับ
   “งามปานนี้ จีบเอาซะบ่น้อ” “บ่ค่า จีบบ่ได้ดอก คุณซ้าไปแล้วเด้อ อ้ายเคน” พวกเราหัวเราะกันอย่างสนุกสนานครับ
   “มาๆลูก แม่สิอวยพรให้” แม่จอยเรียกทั้งสามคนเข้าไปล่ะครับ ไอ้เบบี๋มันก็นั่งติดแม่จอย แล้วแม่ก็อวยพรให้ประสบผลสำเร็จ ทั้งสามคนก็ก้มลงกราบแม่ พอพร้อมแล้วพวกเก็ออกเดินทางครับ เพราะอาจารย์พรโทรมาจิกแล้ว ผมเป็นคนขับรถเองเพราะสัดไม้มันกลัวชุดมันยับ เอากับมันครับ พอถึงโรงเรียน บรรยากาศตอนเช้าซึ่งปกติอยู่ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เสียงเพลงเอย ธงสีต่างๆเหมือนงานวัดก็ปลิวไสวอยู่ทั่วบริเวณครับ ตอนนี้รู้สึกทุกคนจะรวมตัวกันอยู่ในหอประชุมแล้วครับ เสียงอึกทึกครึกโครมดังมาแล้ว ผมเลยจอดรถตรงหลังหอประชุม
   “เบบี๋ เต็มที่นะ เดี๋ยวกูอัดวีดีโอไว้” ผมบีบบ่ามันเบาๆล่ะครับ มันก็หันมายิ้ม
   “ขอกอดหน่อยดิ” อ่านะ ผมยิ้มแล้วยักคิ้วให้มันครับ
   “ไร ต้องการกำลังใจเหรอ” ผมล้อมัน มันก็ไม่พูดอะไรครับ กอดผมเลยต่อหน้าเพื่อนๆนั่นล่ะ เพื่อนๆผมก็แซวขึ้นตามปกติ มันอายนะแต่มันก็ทำ
   “จอย โตบ่ต้องการกำลังใจบ่” สัดเคนครับ
   “หวืย บ่ดอกค่า อย่าเด้อเคนเฮาบอกสาวฝ้ายเด้อ” สาวจอยตอกคืนสัดเคนอ้าปากค้างเลยครับ ฮ่าๆ
   “ไปบักเคน ไปถ่าเบิ่งอยู่ในหอประซุม สิบ่มีบ่อนนั่ง” ผมชวนมันล่ะครับ ในมือก็มีกล้องวีดีโอของพ่อตา พร้อมแล้วครับท่าน คนเยอะจริงๆครับ เด็กทั้งโรงเรียนอ่ะนะ รอบนอกก็ยังเข้ามาไม่หมดนะ แต่ข้างในนี่แน่นไปหมด โดยเฉพาะเด็ก ม.ต้น จองที่ด้านหน้าเกือบหมด ส่วนด้านหลังก็มี ม.ปลายออกันอยู่ ผมเดินไปด้านหน้าเลยดิครับ ไม่สนใจใครเว้ย
   “ว้าย อ้ายเดี๋ยวมาๆ” เสียงๆน้องๆห้องไอ้โจ้ซึ่งจองที่หน้าเวทีร้องดังขึ้นครับ ผมเลยแทรกตัวไปตรงนั้นล่ะ
   “พวกหนูมาให้กำลังใจอ้ายอุ่นเด้นี่ อยากฟังเพิ่นฮ้องเพลงหลาย” เด็กๆมารุมผมครับ
   “อ่ะอ้ายเดี๋ยวๆ ดอกกุหลาบ” ไอ้โจ้ครับ ผมมองดูก็เห็นน้องๆมีดอกกุหลาบกันคนละหลายดอก
   “เอาไว้ให้อ้ายอุ่นตอนฮ้องจบเด้” มันบอกครับ ผมเลยพยักหน้าแต่เอามาแค่ดอกเดียวพอ ไม่ถึงนาทีมั้งครับ เสียงดนตรีก็ดังขึ้น เสียงกรี๊ดก็กระหึ่ม กูล่ะรำคาญไอ้ตรงเสียงกรี๊ดนี่ล่ะ
   “ Merry Christmas everyone, good evening, do you make a wsih for today?” ไอ้ขอมครับ ประธานนักเรียน กับสาวนาง ม.๖ นั่นล่ะครับ มันเป็นพิธีกร เสียงประกาศดังขึ้น ทุกคนก็กรี๊ด สำเนียงนี่แบบว่าละม้ายฝรั่งเลยล่ะ แล้วมันสองคนก็พูดอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมดครับ ขี้เกียจฟัง เปิดงานด้วยการเล่นเกมครับ ให้น้องๆอาสาขึ้นไปเล่นเกมภาษาอังกฤษสั่วๆ แล้วก็แจกขนม พอเล่นเกมเสร็จ
   “alright, it’s time everyone. Let’s opening our Chirstmas party and please hit your hands to welcome Nong Aun Auradith and friends, they will sing for us” ผมลุกขึ้นยืนทันทีครับ เสียงกรี๊ดของน้องๆรอบๆผมดังสนั่น
   “โห่ๆๆ” ผมหันหลังกลับไปมอง ก็กลุ่มเพื่อนพี่นกนั่นล่ะครับ กวนตีนะมึง ผมพยายามไม่สนใจครับ เปิดกล้องบันทึกรอเลย ไฟบนเวทีดับพรึ่บลงครับ แต่ก็พอมองเห็นะล่ะ ผมเห็นมันเดินขึ้นมาพร้อมๆกับสาวจอยและสัดไม้ เห็นกอดกันอยู่ข้างๆเวที เสียงกรี๊ดนี่ไม่ลดลงเลยนะ น้องๆข้างๆผมเรียกชื่อมันดังก้องไปหมด มันเดินมาหน้าเวทีครับ ไฟก็สว่างขึ้น มีไมโครโฟนในมือมัน แต่ไอ้เบบี๋มันก้มหน้าลงหน่อยๆ คงทำสมาธิอยู่ เสียงกรี๊ด ดังขึ้นเป็นเท่าตัว
   “พี่อุ่นๆ กรี๊ดดด” “โห่ๆๆ” แต่เหมือนเสียงกรี๊ดจะดังกว่าครับ เพราะมันดูดีมากจริงๆ ไฟบนเวทีทำให้มันซึ่งน่ารักอยู่แล้ว อยู่ในชุดที่ไม่เคยเห็นมันใส่ ทักซิโด้สีขาวไปทั้งตัว ทรงผมที่ใส่เจวตั้งขึ้น ใบหน้ามันที่มองยังไงก็น่ารักอ่ะนะ เสียงกรี๊ดก็ดังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจนเสียงโห่หายไปเลยครับ
   “HI, er , good evening, I er me and my friends wish you all have a happy Chirstmas” ต้นประโยคมันเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรครับ เสียงโห่ดังขึ้นทันที มันหน้าแดงจัด ผมเอาหน้าออกจากหน้าจอกล้องวีดีโอแล้วมองไปหามัน แต่มันก็ไม่ได้มองมาที่ผม เพราะมันมองไปข้างหน้า สายตามันหวั่นๆยังไงไม่รู้ แต่สำเนียงนี่ขอบอก ไอ้สองตัวเมื่อครู่ตายห่าไปเลยเถอะ กูนึกว่ามีเมียเป็นฝรั่งอังกฤษซะอีก ฮ่าๆ
   “We are here today to sing a song for you guys and we wish this song will delight you all” มันเหมือนพยายามพูดครับ แต่เสียงโห่นี่ดังมากจากด้านหลัง มันเม้มปาก ผมอยากขึ้นไปร้องตะโกนใส่ไมจัง โห่หาพ่อมึงเหรอ แม่งคนมันรวบรวมสมาธิอยู่นะเว้ย สันดานเสียว่ะ แต่ก็นั่นล่ะครับ น้องๆด้านหน้ากรี๊ดปรบมือกันเกรียวกราว สัดเคนก็เป่าปากชอบใจ ผมขอบใจมันที่มันพยายามช่วยกลบเสียงโห่ แต่ในเมื่อมีคนรัก ย่อมมีคนเกลียด เป็นเรื่องปกติใช่ไหม เออ กูจพยายามทำใจให้มันเชื่อแบบนั้น

To Be Continued

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
«ตอบ #1196 เมื่อ04-10-2012 08:46:23 »

รอจ้า

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
«ตอบ #1197 เมื่อ04-10-2012 08:51:25 »

   “Whenever you call” มันบอกออกมาครับ แล้วหันหน้ากลับไปหาเพื่อนๆทั้งสอง แล้วพยักหน้าให้กัน สาวจอยก็ส่งสัญญาณให้พวกไอ้เชี่ยแบงค์
   “โห่ๆๆ วู้ เล่นของยากเลยนะจ๊ะ ระวังตกม้าตายน้า” เสียงเล็ดลอดมาจากด้านหลังครับ ผมหันกลับไปมองแต่ก็ต้องรีบหันกลับมาเพราะคนมันเยอะจัด ไม่รู้หรอกว่าใคร เดี๋ยวค่อยสืบ เสียงหัวเราะกับเสียงโห่ดังขึ้นด้านหลัง ทีนี้น้องๆด้านหน้าก็โห่กลับครับ โดยหันหน้าไปทางด้านหลัง เสียงโห่ดังอยู่นาน จนการแสดงไม่เริ่มเสียที อาจารย์พรจึงเอาไม้เคาะแสตนด์ เสียงดนตรีจึงเริ่มขึ้น
   .”Love, wandered inside, stronger than you” เอ่อ เสียงมันดีนะครับ แต่ทำไมเสียงดนตรีมันตีมั่วแบบนั้นวะ
   “เฮ้ย” ผมตะโกนขึ้น เพราะไอ้เบบี๋มันหันหลังกลับ แม่งจงใจแกล้งนี่หว่า มันหน้าเสียแล้วครับ เพราะพวกเล่นดนตรีตีมั่วไม่เข้ากันแล้วก็หยุดเล่นเลย เสียงโห่กับเสียงหัวเราะดังขึ้นทันที ไอ้เบบี๋มันเหมือนอายมาก มันยืนนิ่งอยู่บนเวทีไม่ถึงห้านาทีก็เลยวิ่งลงจากเวที ผมเลยวิ่งไปหามันครับ ผมเอาดอกไม้ยื่นให้น้องที่นั่งข้างๆผม
   “สันดานหมา มันแกล้งพวกเฮาเดี๋ยว มันแกล้ง” สาวจอยครางเหมือนจะร้องไห้ครับ หน้าตาของทั้งสามคนเหมือนเห็นผี เสียงหัวเราะกับเสียงโห่ยังดังกึกก้องอยู่ ผมเสียวแปลบที่หัวใจ เพราะคนที่ผมรักที่สุดมันน้ำตาคลอแล้ว
   “มันไม่สนุกนะคะนักเรียน ทำไมเล่นแบบนั้น นายแบงค์” เสียงอาจารย์พรดังก้องขึ้นครับ เสียงพวกที่โห่ก็เงียบกริบลง เหมือนผมได้ยินเสียงแก้ตัวของพวกนั้นล่ะครับ
   “โน้ตมันยากเด้จารย์ เล่นบ่เป็นดอกเพลงหยังบู้” ผมเลือดขึ้นหน้าจัดครับ ผละออกจากไอ้เบบี๋ แต่มันดึงตัวไว้
   “ไม่เอาเน่า ไม่เอา” มันครางไว้ ให้ตายเถอะ พอได้ยินเสียงมันผมกอดมันเลยครับ
   “เล่นไม่เป็นก็ลงไปค่ะ พวกเธอรู้ไว้นะว่านี่มันไม่สนุก ถ้าเล่นไม่เป็นตั้งแต่แรกครูจะให้คนอื่นที่เขาเล่นเป็นมาเล่น ไม่ใช่มาทำให้เพื่อนๆเขาเสียกำลังใจแบบนี้ ใช้ไม่ได้ รอแป๊บนะคะนักเรียน” อาจารย์พรเงียบเสียงไปแล้วแกก็มาโผล่ที่หลังเวที
   “เป็นไงบ้างอุรดิศ ร้องสดๆได้ไหม ครูขอโทษด้วยนะ” สีหน้าอาจารย์เองก็ไม่ดีครับ
   “เอ่อ” “บักเดี๋ยว เล่นอีเล็กโทนได้ใช่ไหม อุรดิศ แค่อีเล็กโทนพอไหม”
   “พอค่ะจารย์ เป็นหยังคือเฮ็ดแนวนี้ ให้ฮ้องเพลงนี่กะอายสิตายแล้ว มาแกล้งกันแนวนี้เฮ็ดหยัง” สาวจอยโพล่งออกมาครับ น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ สัดไม้ก็กำมืออยู่ หน้าตามันเอาเรื่องไม่น้อย คงไม่ต่างจากผมหรอกครับ
   “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวครูจัดการให้ ทำแบบนี้ก็เหมือนกับไม่ไว้หน้าครูเหมือนกัน เอาล่ะ ครูขอนะอุรดิศ ทำให้ครูสักครั้ง ออกไปทำให้พวกนั้นเขาเสียใจที่โห่หรือหัวเราะเรา ครูเชื่อมั่นในเธอนะ ไปบักเดี๋ยว” อาจารย์พรบอกล่ะครับ แกเดินกลับไปด้านหน้า ผมเองก็ต้องรีบวิ่งเอากล้องมาให้ไอ้โจ้มันถ่ายให้ เรื่องดนตรีผมเป็นนะเว้ย ก็มีแคน กีตาร์ อีเล็กโทนนี่ล่ะ บอกแล้วผมมีพรสวรรค์ อัจฉริยะครับแต่ก็ไม่ได้เพราะอะไรมากมายพอเล่นได้ล่ะ
   “ป่ะอุ่น ซ่างแม่มันเถาะ ฟ้าวเฮ็ดฟ้าวแล้ว มื้อแลงสิไปเตะปากคน” สัดไม้ครับ มันเดินขึ้นไปคนแรก
   “จารย์ๆ หนูเปล่าฟลุทให้บ่ค่า” ทุกคนหันไปครับ เด็กม.ต้นที่กำลังจะเตรียมการแสดงชุดต่อไปล่ะ น้องวิ่งมาดักหน้าอาจารย์พร ท่าทางตื่นๆอยู่ ผมเองก็หันไปมอง
   “นภัสสร ขอบใจมาก ไปเลยลูก หนูเป่าได้นะ”
   “ได้ค่ะ หนูอยากเป่าให้อ้ายอุ่น” เอ่อนะ น้องมันมองไปทางไอ้เบบี๋ล่ะครับ ไอ้เบบี๋ก็ยิ้มให้ทั้งๆที่น้ำตาคลออยู่ มันดูสั่นๆเลยล่ะครับ คงจะตกใจ ตอนนี้ผมอยากเข้าไปกอดมันมากๆ แต่สถานการณ์มันเร็วมากครับ
   “ขอบใจมากนะครับน้อง” มันเดินมาจับมือของน้องคนนี้ครับ แล้วสัดไม้ก็นำขึ้นเวทีไปคนแรก เสียงโห่ดังอื้ออึงมาไม่ขาดระยะ ผมเดินตามมันไปแล้วไปยืนตรงอีเล็กโทนประจำที่ เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นทันที เพราะผมอยู่ในชุดนักเรียนครับ น้องคนนั้นก็อยู่ในชุดเหมือนนางฟ้า คงเล่นอะไรกันเกี่ยวกับอะไรประมาณนี้ล่ะ
   “You may step over a fallen tree, don’t step a fallen man” เอ่อ อาจารย์พรครับ แกเดินไปตรงไอ้ขอมแย่งไมโครโฟนมาพูดเองเลย สายตาแกเอาเรื่องมากครับ ผมเห็นแล้วยังเสียวสันหลังวาบๆเลยนะ ทุกเสียงเงียบลงแล้วครับ ตอนนี้ทุกคนประจำที่ เว้นแต่ไอ้เบบี๋ที่มันเดินกลับมาดึงตัวน้องคนนั้นให้ไปยืนข้างๆมัน คงแก้เขินล่ะมั้งนะกูว่า
“Love wandered inside, Stronger than you,. พอได้สัญญาณจากสาวจอย ไอ้เบบี๋มันก็พยักหน้าให้น้องมัน คือน้องยืนมีโน๊ตเพลงอยู่ด้วยล่ะนะครับ มันก็คงไมได้เก่งกาจมาจากไหนหรอก พอน้องมันเริ่มเป่า เสียง อื้อฮื้อ อ้าฮ้าก็ดังขึ้น ผมจึงไล่นิ้วตามโน๊ตเพลงเหมือนกัน ไอ้เบบี๋มันเริ่มประโยคทันทีครับ หลังจากยืนสูดลมหายใจเข้าปอดอยู่นาน มันเหมือนกำลังทำสมาธิ เพลงนี้ผมว่ายากนะ ยิ่งมีท่อนเสียงสูงเหมือนไต่บันได
“Stronger than I And now that it has begun. We cannot turn back. We can only turn into one” เสียงมันใสมากครับ มากๆเลยล่ะ ยิ่งเสียงฟลุทของน้องมันใสอยู่แล้ว ยิ่งเข้ากันได้ดี ผมพยายามเบานิ้วลงเพราะอยากให้มันขับเสียงออกมาให้มากที่สุด
“I won’t ever be too faraway to feel you” ท่อนนี้เสียงคอรัสดังขึ้นคลอครับ เสียงของจอยกับเสียงของสัดไม้มันเข้ากันได้ดีเหลือเกินครับ จนกูขนลุกเถอะ แม่งไปแอบซ้อมกันตอนไหนวะเนี่ย เสียงสัดไม้มันหล่อเด่นออกมาคนละแนวกับไอ้เบบี๋ แต่มันไม่ขัดกันเลยกับเสียงสาวจอย ที่ใสกังวาน เพราะว่ะ
“And I won’t hesitate at all whenever you call and I always remember the part of you so tender. I’ll be the one to catch your fall, whenever you call” ส่วนท่อนนี้เสียงของคอรัสเบาลงมาก แต่จะไม่เชิงร้องออกมาแต่เหมือนกับคราง สาวจอยก็อย่างที่บอก ลูกสาวนางเอกหมอลำเก่า ลูกคอไม่ต้องห่วง พอจบท่อน เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มขึ้น แต่เฉพาะด้านหน้านะ ก็ห้องไอ้โจ้นั่นล่ะครับ แต่กรี๊ดแป๊บเดียวนะก็เงียบ
“And I will pray for you each day, comfort you through all the pain, gently kiss your fears away. You can turn for me and cry, always understand that I give you all I have inside” แม่กู ท่อนนี้เองที่ไอ้เบบี๋ มันเริ่มไม่ไหว ที่บอกไม่ไหวคือมันออกท่าทางครับ เหมือนมันหลุด จากที่ยืนร้องปกติมือหนึ่งแตะบ่าน้องเอาไว้ แต่ท่อนนี้เหมือนมันต้องใช้พลังเสียงเพิ่มขึ้น มันเลยหันหน้ากลับไป มันเอามือซ้ายมันมาแตะตรงหน้าอกมัน ยืดคอขึ้น มันเพิ่มเสียงสูงได้น่าฟังดีนะผมว่า ไมได้ลากยาวเหมือนนักร้อง แต่มันก็ไม่น่าเกลียด เสียงมันคนละแนวกับต้นฉบับเขาอยู่แล้ว และท่อนนี้เองที่สาวจอยกับสัดไม้เปล่งเสียงออกมาเต็มๆ ผมเองก็ได้ทีเพิ่มน้ำหนักนิ้วกดคีย์บอร์ด เหมือนจะเร่งให้นักร้องเขาเพิ่มพลังเสียงล่ะครับ
“I won’t ever be too far away to feel you and I won’t hesitate at all, whenever you call” ท่อนเด็ดครับ กูนี่ขนลุกขนชัน เมียกูมันเอาไม่อยู่แล้ว มันก้มเหมือนจะนั่งบ้างแต่ก็ไม่นั่ง ดีดตัวขึ้นบ้าง คอมันขึ้นเส้นเอ็นเลยนะครับ ส่วนคอรัส เหมือนฝึกมาเพื่อรับส่งกันโดยเฉพาะ เพราะไอ้เบบี๋มันขึ้นเสียงตรงคำต้องลากเสียง แล้วสาวจอยก็ต่อให้เพราะสาวจอยเสียงยาวกว่า ไอ้เบบี๋มันเลยมีเวลาได้หายใจ สัดไม้ก็คอยครางฮัมไม่ให้มันมีช่องว่าง เออว่ะ แม่งเข้าใจทำ ดังนั้น เพลงมันจึงออกมาเหมือนว่าเสียงไอ้เบบี๋มันร้องได้เก่งมากๆ และเสียงดีมากๆ ทั้งที่มันมีคอรัสดี พวกที่ดูอยู่ด้านล่างคงดูไม่ออก แต่กูอยู่หลังพวกมัน นับถือว่ะ มันเก่งๆ
“ฮ่า” พอเพลงจบ ไม่มีเสียงใดๆเลยครับ เงียบกริบ กูก็อึ้งอยู่เถอะ เพลินดีว่ะเลยไม่ทันได้ทำอะไร ไอ้เบบี๋มันหน้าเหวอไปครับ ผมมองไปที่หน้ามันเหมือนมันกำลังเม้มปากแน่น
“กรี๊ดดด อ้ายอุ่นๆ กรี๊ดด” เสียงน้องแตงดังขึ้นก่อนใคร หลังจากนั้นก็เสียงอะไรต่อมิเสียงอะไรดังจนกูฟังไม่รู้เรื่อง เอาละน่า ยังไงมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีล่ะวะ

Written by eiky


ปล. อิอิ มาแว้ววๆ คือว่าตอนนี้ผมกำลังจะรวมเล่มนี้นะครับ จะทำออกมาพร้อมๆกับน้องญี่ปุ่น
ถ้าใครสนใจก็จองไว้ได้เลย เรื่องราคา คิดว่าจะทำให้มันไม่แพงมาก มีของแถมให้ด้วย อิอิ
ที่อยากทำรวมเล่ม เพราะคิดว่าอยากให้มันเป็นหนังสือเพื่อที่จะได้เก็บเป็นความทรงจำ เพราะปกติผมเองเขียนเรื่องแนวนี้ไม่ค่อยถนัดนัก แต่ก็ฝืนเขียนออกมาจนได้ ฮ่าๆๆ

ใครสนใจก็ลงชื่อไว้น้า ตอนนี้กำลังเร่งตอนพิเศษเจ๋งๆอยู่คร้าบ รับรองว่าจับใจ แหะๆ เพราะใครมีน้องภูมิอยู่ในมือ คงจะนึกภาพตอนพิเศษออก

ขอบคุณคร้าบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2012 08:19:52 โดย eiky »

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
«ตอบ #1198 เมื่อ04-10-2012 09:39:13 »

เย้ เย้ สนใจค่า มาลงชื่อจอง

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: You're My BaBy!! ตอน 29 Version (Dio) 4 October 12 หน้า 41
«ตอบ #1199 เมื่อ04-10-2012 10:19:17 »

น้องอุ่น o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด