[SET]SEX(Y)Manรักจัดหนัก! อัพบทส่งท้าย (เฮียจ้าว+ไข่ม้วน)YAOI >30/12/60<#23
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [SET]SEX(Y)Manรักจัดหนัก! อัพบทส่งท้าย (เฮียจ้าว+ไข่ม้วน)YAOI >30/12/60<#23  (อ่าน 93418 ครั้ง)

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 42

ไข่ม้วนกับความจริง (1)

 

“ขอโทษนะครับ  แต่คุณช่วย…ปล่อยมือออกจากไอ้ไข่ก่อนได้ไหม”

ไอ้ไม้พายเดินเข้ามายืนประชันหน้ากับเฮียจ้าวตรงๆ  แม้ว่าส่วนสูงจะต่างกันลืบลับแต่ออร่าความเป็นคุณพ่อของเพื่อนผมฉายแววชัดเจนมาก!

มึงต้องเรียกค่าเสียหายเยอะๆนะไอ้คุณพ่อ  ร่างกายกูสึกหรอไปเยอะมากกก

“ฉันไม่ปล่อย”

“แต่คุณต้องปล่อย”

ไอ้คุณพ่อไม่ยอม  เอื้อมมือมาดึงแขนผมและพยายามดึงเข้าหา  แต่ไอ้ดำทั้งกอดทั้งรัดเอาไว้แน่น  ซ้ำยังอาขาเกี่ยวขาผมไว้ด้วยอีก

เอิ่ม…

“ไอ้ไข่  มึงปวดขาใช่ไหม?”

สิ้นคำถามของคนตรงหน้าเท่านั้นแหละ  แรงที่รัดผมอยู่ของคนด้านหลังก็อ่อนลงจนไอ้ไม้พายสามารถดึงผมเข้าไปสู่อ้อมกอดของตัวเอง  มันตวัดวงแขนโอบไหล่ผมไว้

“อย่างแรก  ถ้าคุณคิดจะเป็นแฟนเพื่อนผมจริงๆ  คุณต้องหัดดูแลและสังเกตมันให้มากกว่านี้  การที่คุณซึ่งตัวโตกว่ามันตั้งเยอะมาให้มันเป็นคนปั่นจักรยาฯโดยที่ตัวเองเอาแต่นั่งซ่อนผมบอกเลยว่า…ใช้ไม่ได้”

“ไอ้ไม้พาย  ไม่เอามึง  อีกอย่างกูไม่ได้ปวดอะไรมาก  แค่เมื่อยๆแล้วก็ตะคริวกินนิดหนึ่งเฉยๆ”

“อย่ามาเถียงกู”

กูแค่อธิบายป้ะล่ะ  โอ๊ยยย  ไอ้เหี้ย  โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง!

“ไข่ม้วน  นี่นาย…เจ็บขาเหรอ”

“เฮียอย่าคิดมากเลยฮะ  ผมลูกผู้ชายสามศอกไข่สามวาอยู่แล้ว  ไม่เดี้ยงง่ายๆหรอก”

“นั่นสิๆ  อีกอย่างนะพะพาย  ที่พี่จ้าวไม่ปั่นจักรยานก็เพราะ…”

“หุบปากไอ้ปิง”

คนตัวหันขวับไปจ้องเขม็งใส่ไอ้ปิงที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่างออกมา  คนถูกฆ่าทางสายตาอย่างมันเลยรีบหุบปากอย่างรวดเร็ว

“ผะ…ผมขอเข้าไปดูเล้งดีกว่า  ป่านนี้ส้วมเต็มแล้วมั้ง  แหะๆ”

แล้วก็จรลีเข้าบ้านไปในทันที

“งั้นพวกเราก็เข้าบ้านกันบ้างดีกว่าเนอะ   ไปฮะเฮีย  ไปๆไอ้คุณพ่อ”

“มึงเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป  ขอไปเอายานวดบนรถก่อน  เดี๋ยวกูนวดขาให้”

“อ่า…เออๆ  ขอบใจ”

ไอ้ไม้พายผละตัวจากผมเดินกลับไปที่รถ  เหลือเพียงผมไว้กับร่างสูงตัวดำที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับตั้งแต่รู้ว่าผมปวดขา

คือกูแค่ปวดขาไง  ปวดแบบปวดเมื่อยอ่ะ  ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ใครๆก็เป็นไปได้ไหม? ทำไมจะต้องตึงเครียดซีเรียสอะไรเบอร์นี้กันด้วย!

“เข้าบ้านกันเถอะฮะเฮีย  นะๆๆ”

เข้าไปคล้องขาออดอ้อนมัน  ยิ่งเป็นพวกจิตตกกลัวจะโดนทิ้งได้ง่ายกว่าชาวบ้านอยู่ด้วย  ขืนทำให้รู้สึกเหมือนผมจะถูกแย่งไปขึ้นมาคงได้คิดฟุ้งซ่านอีกแน่

“นายเข้าไปก่อนแล้วกัน  ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระต้องไปทำกับชาวบ้านแถวนี้ก่อน  ไปอยู่กับเพื่อนๆเถอะ”

“เอ๊ะ  แต่ว่า…”

“เอาน่า  ไปเถอะ  เดี๋ยวฉันกลับมา”

มือหนาลูบหัวผมเบาๆพร้อมส่งยิ้มให้  แบบนี้ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปอีก

“ไอ้ไข่  ทำไมยังไม่เข้าไปข้างในอีกวะ  ยืนนานๆเดี๋ยวก็ยิ่งปวดหรอก  ไป…เข้าไปกับกู”

“เดี๋ยวดิวะไอ้ไม้พาย  กูยัง…”

“พาไข่ม้วนเข้าไปเถอะ  เดี๋ยวฉันกลับมา  ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

ประโยคแรกพูดกับไอ้ไม้พาย  ประโยคถัดมาพูดกับผม  และแน่นอนว่าเพื่อนที่แสนดีอย่างมันไม่ลังเลที่จะกอดคอผมแล้วกึ่งลากกึ่งดึงพาเข้าไปในบ้าน

หันกลับไปมองไอ้ดำอีกครั้ง  ร่างสูงยืนโบกมือยิ้มหวานโดยมีจักรยานเศษเหล็กจอดแอ้งแม้งอยู่ข้างๆ

ทันทีที่เข้ามาในบ้านก็เจอคู่ผัวเมียหลามหมอนนอนซบแขนกันหลับปุ๋ยอยู่ใกล้หน้าต่าง  ผมชี้นิ้วไปที่โต๊ะตรงโซนครัวเพื่อให้ไอ้พายเดินไปนั่งตรงนั้น  มันประคองเหมือนผมเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดมาไปนั่งก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นตรงหน้าผม  ชันเข่าขึ้นมาเล็กน้อยแล้วเอาเท้าผมไปวางบนหน้าขามัน

“เจ็บไหม?”

ไอ้พายบีบเข้าที่น่องแล้วเอาแรงกดจนผมทำหน้าเหยเก  เป็นคำตอบแบบไม่ต้องใช้คำพูดเลยว่าปวดหรือเปล่า  กูเกร็งขาปั่นขึ้นเนินและข้ามถนนลูกรังมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่  ถึงบ้านอย่างสวัสดิภาพก็บุญแล้ววว

“ถ้าเจ็บก็บอกนะเว้ย”

“อือๆ”

มันลงมือนวดให้ทันทีหลังจากที่บีบอยู่นาน  ไล่นวดตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาจนถึงหัวเข่า  บีบเคล้นให้ถึงกระดูกจนผมสะดุ้งด้วยความเจ็บ  แต่พอตัวยาซึมเข้าไป  ความร้อนจากตัวยาทำให้ความปวดเมื่อยทุเลาลงไปเยอะโดยเฉพาะตรงข้อพับ  เห็นแบบนี้แล้วคิดถึงมัยเรียนมัธยมแฮะ  ตอนที่ผมข้อเท้าแพลงเพราะโหมซ้อมฟุตบอลมากเกินไป  จำได้ว่าไอ้ไม้พายที่ตอนนั้นกำลังร้องเพลงจีบสาวที่ปิ๊งอยู่บนเวทีใกล้ๆสนามฟุตบอลรีบกระโดดลงเวทีวิ่งมาหาผม  จากนั้นมันก็แบกผมขึ้นหลังพาไปห้องพยาบาลแล้วนวดให้แบบนี้  ไม่นานไอ้เล้งกับไอ้หลามก็วิ่งหน้าตาตื่นตามอีก  แต่ละคนทำอย่างกับผมล้มหัวฟาดพื้นอาการโคม่างั้นแหละ

“จริงสิไอ้คุณพ่อ  วันนั้นยังคุยกันไม่จบเลย  เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า  เสียงมึงในวันนั้นดูไม่ค่อยดีด้วย  กูจำได้ลางๆเหมือนมึงจะพูดอะไรพ่อมดๆนี่แหละ”

“…”

มือที่กำลังนวดขาให้ผมชะงัก  ไอ้พายก้มหน้าค้างอยู่เกือบนาทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มแป้นให้ผม

“ไม่มีอะไรหรอก  พอดีวันนั้นกูหาดีวีดีแฮรี่พ็อตเตอร์ที่สะสมไว้ไม่เจอก็เลยหงุดหงิด  กะจะโทรถามมึงว่าเห็นบ้างไหมเพราะคนที่ไปคอนโดฯกูมากกว่าใครก็คือมึง”

“อ๋อออ  อย่างงี้นี่เอง  เฮ้ย  แล้วทำไมหลังจากนั้นถึงติดต่อมึงไม่ได้วะ  ไอ้หลามกับไอ้หมอนที่บอกจะไปดูมึงให้เองก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย  โผล่มาอีกทีก็พร้อมพวกมึงเนี่ย”

“ไม่มีอะไรนี่  กูทะเลาะกับฟูนิดหน่อยก็เลยย้ายไปอยู่คอนโดฯน่ะ  แล้วตอนนี้ฟูเองก็…”

“ก็…”

“ไปแล้ว”

“ฮะ?”

“เขาทิ้งกูไปแล้วล่ะ  ช่างเหอะมึง   ไม่อยากพูดถึงว่ะ”

ไอ้พายตัดบทแล้วตั้งหน้าตั้งตานวดต่อไป  เป็นอันรู้กันดีในกลุ่มเพื่อนว่าถ้ามันตัดบทอย่างนี้คือห้ามเซ้าซี๊ต่อเด็ดขาด  เพราะจะถูกมันโกรธเอาได้ง่ายๆ  หากมันอยากเล่ามันจะเล่าเอง

“เออ  กูไม่ถามแล้วก็ได้”

“…”

“แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มึงพร้อมจะเล่า  ก็บอกกูนะ”

“…”

“กูรอเสือกอยู่”

“ไอ้ไข่…”

“วะฮะฮ่า!!!  เรื่องของเพื่อนคืองานของกูเว้ยยย”

“หึๆ”

อีกฝ่ายเริ่มยิ้มและหัวเราะออกมา  แม้จะเป็นเพียงเสียงหัวเราะเบาๆ  แต่ในที่สุดมันก็หัวเราะแล้วล่ะนะ  ผมกับไอ้พายจ้องตากันอยู่สักพักก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน

“หลบตาก่อนเลี้ยงข้าว!”

“เป็นเกมไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!”

“ม่ายยู้วววว”

“คุยอะไรกันอยู่  ไอ้ไข่  ไอ้พาย”

ไอ้เล้งที่เดินกลับเข้ามาพร้อมไอ้ปิงเอ่ยถาม  มันเดินเข้ามาลากเก้าอี้ตัวที่ยังเหลือเตรียมจะนั่งแต่กลับถูกผัวตัวเองชิงนั่งตัดหน้าก่อนจะดึงให้ร่างเล็กนั่งบนตักตัวเองอีกที

“โห…พวกมึง  ถ้าจะขนาดนี้มึงเอากันเลยไหม”

“ได้เหรอ?”

“กูประชด!”

ตอบกลับไอ้ปิงที่ตาเป็นประกายด้วยคิดว่าผมจะอนุญาตให้พวกมันฟิชเจอริ่งกันได้จริงๆ

“ฮ้าว…”

หันไปทางไอ้หลามกับไอ้หมอน  จอมขี้เซาหนึ่งเดียวของแก๊งลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจพร้อมอ้าปากกว้างเพื่อหาว  มันนั่งนิ่งเอ๋ออยู่สักพักก็เริ่มขยับตัวหันมองสำรวจไปรอบๆ

“ไอ้ไข่…”

“ไงมึง  ตื่นแล้วเหรอ”

ตึกๆๆๆๆๆๆ

ทันทีที่เห็นผม ไอ้หมอนก็คลานเข่าพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเพื่อกอดเอวผม!

โอ๊ยยย  ไอ้เพื่อนบ้า  มึงลุกขึ้นเดนิมาดีๆไม่เป็นหรือไงฟะ  คลานมาเป็นผีจูออนแบบนี้หูใจกูจะวายตาย!  ยิ่งสภาพสีผิวมึงขาวซีดเหมือนกรดาษอยู่แล้วด้วย

“คิดถึงว่ะ…”

“เออๆ  กูก็คิดถึง”

หมับ…

“ขอแจมด้วย”

สั้นๆง่ายๆได้ใจความ…

ไอ้หลามตามเข้ามากอดเพิ่มอีกคนโดยกอดจากทางด้านหลังไอ้หมอนแล้วเอื้อมมือมาจนโอบตัวผมได้  นี่ตัวกูกับไอ้ขี้เซารวมกันแล้วก็ยังเล็กเกินไปหรือไอ้เหี้ยหลามมันมือยาวเป็นตลับเมตรกันแน่วะ  ตกใจหมด!

“พอๆๆ  หยุดซึ้งกันชั่วคราว  อย่าลืมสิวะว่าที่มานี่มาเพราะอะไร”

ไอ้เล้งขัดขึ้น  พวกมันสองคนเลยยอมปล่อยตัวผมแล้วลงไปนั่งจุ้มปุ้กลงข้างๆไอ้พายแต่โดยดี  เหมือนว่าขาผมจะไม่ค่อยปวดแล้วแฮะ  ยานวดคงออกฤทธิ์แล้วล่ะ

“พวกมึงรู้เรื่องแล้วเหรอ”

“เปล่าอ่ะ  พี่จ้าวโทรมาบอกปิงว่าเกิดปัญหาขึ้นกับมึงอยากให้พวกกูมาช่วยมึงหน่อย  กูเลยโทรบอกไอ้สามคนนี้อีกทีแล้วก็เลยขนโขยงกันมาหามึงวันนี้เลยเนี่ยแหละ”

“เฮียจ้าวเป็นคนตามพวกมึงมาเหรอ?”

“ใช่  พี่จ้าวบอกว่านายดูเครียดมาก  เขากังวลกลัวว่านายจะเครียดมากเกินไปจนไม่สามารถฝึกวาดอนาโตมีได้  ก็เลยบอกให้ฉันช่วยพาทุกคนมาที่นี่”

อย่างนี้นี่เอง  ถึงว่าล่ะ  ผมยังแปลกใจอยู่ว่าเพื่อนๆมาที่นี่กันได้ยังไง  ในเมื่อผมยังไม่ทันได้กริ๊งกร๊างหาใครเลยสักคน

“แล้วตกลงมันเรื่องอะไรกัน  มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”

ไอ้พายเข้าประเด็นทันที

ผมกวักนิ้วเรียกเพื่อนๆเอียงหูเข้ามาใกล้แบบล้อมวงก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกมันฟัง  คราวนี้แหละคุณย่าเจ้าขา…

ถึงตาผมเป็นต่อบ้างล่ะนะ!!!

“ไม่ผิดแน่ๆ  เรื่องลบุงคนขับนั่นมีฝีมือคุณย่าสามขาชัวร์”

“เจ้าขาเฟ้ย”

แก้ชื่อคุณย่าใหม่ให้ไอ้เล้งที่พูดผิดออกมา

“กูเองก็คิดแบบนั้นแหละ  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน  นี่ก็กลับมาตั้งหลักเพื่อหาวิธีต่อไปว่าจะเอายังไงดี  ตอนนี้แม่ง…โดนคุณย่านำไปก้าวหนึ่งแล้วว่ะ”

“เหตุการณ์เกิดขั้นที่ไหนนะ  โรงแรมใช่ไหม?”

“อือ  โรงแรมในตัวเมืองอ่ะ  หรูโคตรๆ”

ผมตอบคำถามของไอ้หมอน

“ถ้างั้นก็ต้องเริ่มสืบจากโรงแรมต่อ”

“ถูกต้อง”

ไอ้พายเสนอความคิดและไอ้หมอนก็ตอบรับข้อเสนอนั้น

“จริงด้วย  โรงแรมคือสถานที่เกิดเหตุที่แท้จริงนี่หว่า  กูลืมไปเลยนะเนี่ย”

“เราต้องหาพยานคนอื่นที่อาจจะเห็นเหตุการณ์ในวันนั้น  เพราถ้าเป็นไปตามที่มึงบอกว่าเฮียจ้าวอะไรของมึงอาจจะโดนวางยา  ก็ต้องมีคนที่สังเกตเห็นผู้ชายตัวเท่ายักษ์ถูกแบกเข้าไปในโรงแรมบ้างแหละ”

ไอ้พายออกความเห็นต่ออีก  ซึ่งได้รับการเห็นด้วยจากทุกคน

“งั้นพรุ่งนี้ไปที่โรงแรมนั่นกันเลย  ต้องหาพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ได้  เช่นพวกพนักงานโรงแรม  พนักงานประจำฟร้อนท์ที่เป็นคนเปิดห้องให้ไรงี้”

“เล้งพูดถูก  พนักงานที่ทำงานในวันนั้นจะต้องมีคนเห็นอะไรบางแน่ๆ”

ไอ้ปิงรีบสำทับความคิดของไอ้เล้งอย่างออกนอกหน้า  ถ้าผมหาพยานคนอื่นเจอเฮียจ้าวก็จะพ้นมลทินเรื่องที่ทำคุณเพลินท้องแล้ว!

รอก่อนนะฮะเฮียจ้าว  ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน…!

…ตลอดไป

“แล้วนี่ตัวปัญหาของเรื่องนี้ทำไมหายจ้อยไปเลยล่ะ  บอกว่าเดี๋ยวกลับมาไม่ใช่หรือไง”

“มึงนี่พูดจาหาเรื่องพี่จ้าวมาตั้งแต่บนรถแล้วนะไอ้พาย เป็นบ้าอะไรวะ”

ไอ้เล้งถามเสียงขุ่น  คนถูกไม่พอใจใส่มุ่ยหน้าก่อนจะชี้มาที่ผม

“ก็ดูดิวะว่ามันทำอะไรกับไอ้ไข่  ตัวไอ้ไข่แม่งแค่เนี้ย  แต่ดันให้ปั่นจักรยานแบกมันที่ตัวอย่างกับยักษ์อ่ะนะ  มึงจะให้กูพอใจได้ไง”

“กูก็เห็นมึงไม่พอใจแฟนเพื่อนทุกคนอ่ะแหละ  ตั้งแต่ปิงละ”

เจอไอ้เล้งสวยมาแบบนี้ไอ้คุณพ่อถึงกับเงียบไปเลย

“คะ…คุณแม่  ใจเย็นก่อนมึง  เดี๋ยวคุณพ่องอนนะ”

“ถ้ามันงอนกูเรื่อนี้กูจะจับถอดกางเกงแล้วใส่ผ้าถุงแม่งเลย”

“น่าๆ  อย่าทะเลาะกันเลย  ไอ้พายก็แค่เป็นห่วงไอ้ไข่เท่านั้น  ใช่ไหม…”

ไอ้หมอนเข้ามาช่วยห้ามทัพ  ตามึงปรือใกล้จะหลับมากเลยเพื่อน  สาบานกับกูทีว่ามึงเพิ่งตื่น!  กูนึกว่าอดนอนมาข้ามศตวรรษ!

“พาย…นายเข้าใจผิดแล้วนะ  ที่พี่จ้าวให้ไข่ม้วนเป็นคนปั่นจักรยานแบบนั้นไม่ใช่เพราะจะเอาเปรียบหรือไม่ดูแลเพื่อนรักของนายหรอก”

ไอ้ปิงที่นั่งเงียบเป็นตัวประกอบในเรื่องอยู่นานพูดขึ้นบ้าง  คำพูดของมันทำให้คนที่เอาแต่ทำหน้าตึงอย่างไอ้พายสนใจขึ้นมาทันที

“แล้วเพราะอะไรครับคุณพี  ผมดูแลเทคแคร์เพื่อนผมอย่างดี  แต่ดูสิ่งที่พี่คุณทำสิ”

เพี๊ยะ!

“ขากูอยู่นี่  ชี้ไข่กูทำไมไอ้เหี้ย!”

ตีมือไอ้พายที่ชี้นิ้วมาผิดจุด

“พูดปากเปล่าคงไม่เห็นภาพ  ฉันพาพวกนายไปดูด้วยตาตัวเองเลยดีกว่า”

“ดูด้วยตา?”

“พี่จ้าวเอาจักรยานไปด้วยใช่ไหม?”

“คิดว่าเอาไปนะ  ตอนก่อนจะเข้ามาในบ้านก็เห็นยืนอยู่ข้างๆจักรยานอ่ะ”

“ถ้างั้นต้องเป็นที่นั่นแน่ๆ”

ไอ้ปิงยกยิ้มมุมปาก  พวกผมห้าคนมองหน้ากัน  ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าหมายถึงเรื่องอะไรกันแน่?

 

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนที่ 42   แล้วจ้า  หลามหมอนก็นอนกอดกัน  ปิงเล้งก็สวีตหวานไม่เกรงใจใคร  ส่วนเฮียจ้าวกับน้องไข่ก็มีคุณพ่อพะพายที่โดนพี่ฟูทิ้งมาคอยแทรกกลางตลอด  แล้วแบบนี้จะมีโมเม้นต์หวานๆร่วมกันบ้างมั้ยน้อ  แต่ที่แน่ๆแก๊งนี้รวมตัวกันเมื่อไหร่ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!  ว่าแต่…ปิงจะพาทุกคนไปดูอะไรกันนะ?

#เฮียจ้าวคนกินไข่  ติดแฮชแท็กเม้ามอยและพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คกับทวิตเตอร์จ้า

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :hao7: กำลังหัดปั่นจักรยาน

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฝึกปั่นจักรยานใช่ไมมมม

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เฮียปั่นจักรยานไม่เป็นรึป่าว

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สงสารเฮียจ้าวเหมือนกัน :mew2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เฮียแกไปไหนหว่า ท่าทางปิงจะรู้เรื่องเฮียมากเลยนะ  :hao3:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ฝึกปั่นจัก เฮียปั่นไม่เป็น 555555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 43

ไข่ม้วนกับความจริง(2)

 

“นี่ไอ้หมอน  เวลาแบบนี้มึงก็ยังไม่เดินเองอีกเหรอ”

เงยหน้าถามเพื่อนรักที่อยู่บนหลังอัศวินของตัวเองด้วยความสงสัย

เป็นเพื่อนกันมาสองปีแล้ว  ถ้าไม่นับช่วงแรกๆที่เพิ่งทำความรู้จักล่ะก็…ผมเห็นมันเดินเองนับครั้งได้เลย  แบกบ่อยๆแบบนี้เดี๋ยวก็ง่อยแดกกันพอดี

“อย่าเลย  ให้ฉันแบกแบบนี้แหละดีแล้ว”

“ทำไมวะ?”

“มึงไม่เคยเห็นสกิลการเดินเองของมันว่าเลวร้ายแค่ไหน”

ไอ้หลามทำหน้าที่ตอบทุกคำถามแทนไอ้หมอน  คนบนหลังกอดคอมันแน่นขึ้นกว่าเดิม  เกยคางลงบนบ่าแกร่งและ…

…หาว

ถุย!!!  กูนึกว่าจะอ้าปากพูดอะไรมั่ง!

“ว่าแต่ปิงจะเดินไปไหนเหรอครับ  เราเดินไกลออกจากบ้านมาเรื่อยๆแล้วนะ”

ไอ้เล้งที่เดินจับมือกะหนุงกะหนิงนำหน้าทุกคนอยู่กับไอ้ปิงถามขึ้น  พวกผมสี่คนเดินตามหลังรั้งท้ายให้อยู่  น่าแปลกที่วันนี้ไอ้คุณพ่อมันไม่เข้าไปแทรกกลางระหว่างระหว่างไอ้ปิงและคุณแม่เหมือนทุกที  อาจเพราะ…

เป้าหมายแม่งเปลี่ยนมาที่ผมแทนแล้ว

“เอาน่า  ใกล้ถึงแล้วๆ”

มันตอบ  หน้าตาท่าทางดูมีเลศนัยแปลกๆ  ผมเลิกสนใจไอ้คนนำทีมหันไปมองคนข้างๆชั่วคราว  มันเดินกอดคอผมเหมือนอย่างปกติก็จริง  หากแต่แววตาดูเหม่อลอยชอบกล  ไม่เหมือนไอ้พะพายคนเดิม

ต้องมีอะไรแน่ๆ!

“เป็นไรวะ?”

“เป็นเพื่อนมึง  ที่พร้อมจะเป็นมากกว่าเพื่อนตลอดเวลา”

“…”

“…”

“จะอ้วกไหม”

“อือ”

อีกฝ่ายหันหน้าหนีในทันที

ตอนพูดประโยคเมื่อกี้มันทำเป็นยักคิ้วกลบเกลื่อนความผิดปกติของตัวเองพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้ผมจนลมหายใจของเราทั้งคู่ต่างเป่ารดกัน

ถ้ามองในแง่มุมของนิยาย  ฉากนี้มันคงจะโคตรโรแมนติก

แต่เมื่อสามวินาทีผ่านไป…

“แปรงฟันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะไอ้ไข่”

“เมื่อคืน”

“โหย ไอ้เหี้ย!  แสดงว่าแดกหมาเน่ามาสินะมึง  เหม็นฉิบหาย!”

“ฮ่าๆๆๆๆ”

ยืนเท้าสะเอวแอ่นพุงไปข้างหน้าพลางหัวเราะชอบใจที่เป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้อีกตามเคย  แต่ยังไม่ทันได้สะใจไปมากกว่านี้  ไอ้เล้งที่เดินนำหน้าไปรีบถอยหลังกลับมาอุดปากผมแน่น

“ชู่!  หยุดเห่าก่อนไอ้ไข่!”

กูคนนะไม่หมาพุดเดิ้ล!

“ถึงแล้วล่ะทุกคน  ดูโน่นสิ”

ไอ้ปิงยิ้มร่าพลางชี้นิ้วไปยังทุ่งหญ้ากว้างทางขวามือของพวกเรา

พลั่ก!

“อ๊ะ!”

เสียงอะไรบางอย่างกระแทกกันพร้อมกับเสียงร้องของคนดังมาจากในทุ่งหญ้านั่น  พวกเรารีบเข้าไปนั่งยองๆหลบอยู่หลังต้นกล้วยใกล้ๆเพื่อมองดูว่าใครอยู่ในนั้น

“นั่นมัน…เฮียจ้าวนี่”

“ใช่แล้ว  เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆด้วย  พี่จ้าวมาฝึกปั่นจักรยาน”

“ฝึกปั่นจักรยาน!”

เสียงพวกผมประสานกันอย่างลงตัว

“ชู่!  อย่าเสียงดังสิ  เดี๋ยวพี่จ้าวก็รู้กันพอดีว่าฉันพาพวกนายมาที่นี่น่ะ”

ไอ้ปิงเอานิ้วแตะที่ปากตัวเองเป็นการห้ามให้ทุกคนเงียบ  ผมละสายตาจากหันกลับไปสนใจเฮียจ้าวอีกครั้ง

ร่างสูงที่เนื้อตัวมอมแมมเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษดินเศษโคลนของทุ่งหญ้าพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อประคองตัวเองและจักรยานให้สามารถไปข้างหน้าด้วยกันได้  ทว่าเพียงแค่ยกเท้าวางบนที่วางครบทั้งสองข้างและเตรียมปั่น  จักรยานก็เอนไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก  และ…

โครม!!!

“อ๊าก!  เจ็บ!”

ใบหน้าดำประหนึ่งถูกราหูอมของเฮียจ้าวเปลี่ยนเป็นสีเขียวอื๋อ  พวกผมที่แอบดูอยู่ถึงกับยกมือกุมเป้ากันถ้วนหน้าด้วยรู้สึกสยดสยองแทน

ล้มอีท่าไหนฟะนั่น  ขายังคร่อมจักรยานอยู่เลย  ผลสุดท้ายเลยกลายเป็นกระแทกกับแกนกลางของจักรยานเข้าเต็มเป้า…(เป้าน่ะถูกแล้ว  ไม่ใช่เปาแต่อย่างใด…)

พรึ่บ!

นึกว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้แล้วกลับบ้าน  แต่มันไม่ใช่  เฮียจ้าวพยุงจักรยานและตัวเองขึ้นมาใหม่ก่อนจะหัดขี่มันอีกครั้ง…อีกครั้ง…อีกครั้ง…

และอีกครั้ง

ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่ยอมแพ้แม้ว่าตัวเองจะเจ็บตัวมากแค่ไหนก็ตาม  เนื้อตัวเริ่มมีรอยเขียวช้ำขึ้นมาจางๆจากแรงกระแทกหลายรอบติดๆกัน

อะไรกัน…

ทำไมกันล่ะ…

จะฝืนไปเพื่ออะไร?

“พี่จ้าวน่ะปั่นจักรยานไม่เป็น  ไม่สิ  ต้องเรียกว่าส่วนลึกในจิตใจมันยังไม่พร้อมที่จะปั่นต่างหาก  รู้สึกว่าสมัยประถมช่วงที่กำลังหัดปั่นจักรยาน  เหมือนจะเคยพลาดเกือบโดนรถชนแต่ว่ารถหักหลบทัน  พี่จ้าวเลยรอดมาได้เพียงแต่…หมาจรจัดแถวบ้านทีเป็นหมาแม่ลูกอ่อนในตอนนั้นกลับโดนรถคันนั้นทับตายแทน  พี่จ้าวคงรู้สึกผิดมากจากเหตุการณ์นั้นก็เลยไม่คิดจะฝึกปั่นจักรยานอีกเลยทำให้ปั่นไม่เป็นมาจนโต  แต่ว่าพวกมอเตอร์ไซค์หรือว่ารถยนต์ก็ขับได้ตามปกติ  ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

“อาจจะเพราะพี่จ้าวยังจำภาพเหตุการณ์นั้นได้ติดตาก็ได้มั้งครับ  หมาแม่ลูกอ่อนซะด้วย  คงจะรู้สึกผิดเอามากๆ  ยิ่งตอนนั้นเป็นแค่เด็กประถม  ไม่แปลกที่จะฝังใจ”

ไอ้เล้งสันนิษฐานออกมา

อย่างนี้นี่เอง  มิน่าถึงไม่ยอมปั่นจักรยานเลย

“แล้วทำไมเฮียถึงไม่บอกกูล่ะ  มันไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยสักครั้งนะเว้ย”

“เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้แฮะ”

ไอ้ปิงส่ายหัว  เป็นเรื่องที่เกินจะคาดเดาได้เกินไป  ทำไมวะ  ทั้งที่ถ้าบอกเหตุผลมาผมก็พร้อมจะเข้าใจอยู่แล้ว  แต่การที่ไม่ยอมบอกกันแบบนี้มันหมายถึงไม่เชื่อใจผม  กลัวว่าผมจะล้อว่าเป็นพวกป๊อด  ปอดแหกหรือเปล่า?

“ถ้าเรื่องนั้น…กูคิดว่ากูรู้นะ”

ไอ้ไม้พายที่เอาแต่จ้องเฮียจ้าวนิ่งๆมาตลอดพูดขึ้นบ้าง

“รู้อะไรวะ”

“กลัวเสียฟอร์มไง”

“หา?”

“ถ้าเป็นกับคนอื่นคงไม่มีอะไร  อย่างคุณพียังรู้เรื่องที่คุณจ้าวเป็นจักรยานไม่เป็นเลย  แต่ทำไมถึงมีแค่มึงคนเดียวที่ไม่รู้  คำตอบก็มีแค่กลัวเสียฟอร์ม”

“…”

“เสียฟอร์มกับคนอื่นมันไม่น่าอายเท่าเสียฟอร์มกับคนที่ตัวเองรักหรอกนะ  ยิ่งถ้าเป็นแฟนกันก็ยิ่งอยากให้เห็นแต่ด้านดีๆด้านที่เท่ไม่ใช่หรือไง  จะให้ยืดอกบอกอย่างภาคภูมิใจว่าปั่นจักรยานไม่เป็นเพราะเรื่องฝังใจในวัยประถมงี้เหรอ?  มันช่วยให้ดูดีขึ้นตรงไหน”

คำพูดขอไอ้ไม้พายทำให้ผมหวนคิดถึงวันที่เฮียจ้าวทำตัวลับๆล่อๆหลบหลีกผู้คนเพื่อไปหาหมอรักษาอาการนกเขาไม่ขัน  แถมยังให้ผมปิดเป็นความลับเพราอายคนอื่นอีก

กับเรื่องนั้นเขายังกลัวเสียหน้า  นับประสาอะไรกับเรื่องนี้…

จริงด้วยสินะ  แม้ว่าเวลาปกติจะทั้งถ่อยทั้งซกมก  แต่เมื่อต้องอออกไปพบปะผู้คน  มันก็จะเปลี่ยนเป็นคนละเวอร์ชั่นในทันที  แถมยังเปลี่ยนไปในทางที่หล่อขึ้นโคตรๆอีกด้วย

“แปลว่าที่มาแอบฝึกปั่นจักรยานอยู่ตอนนี้ก็เพราะ…เรื่องขาของไอ้ไข่สินะ”

“คิดว่างั้นนะ”

ไอ้พายตอบคำถามไอ้หมอนก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับเฮียจ้าวอีกครั้ง

ถ้าเป็นในหนังคงจะมีดนตรีซึ้งๆให้สมกับความพยายามอันมากล้นของตัวเองเพื่อเรียกน้ำตาคนดู  แต่เมื่อเป็นสถานการณ์จริงและคนตรงหน้าคือไอ้ดำที่เริ่มจะกลายเป็นไอ้เขียวอยู่รอมร่อ  ซ้ำเมื่อตกจักรยานทีหนึ่งก็อ้าปากด่าจักรยานไปล้านแปดคำมันทำให้ความซึ้งหายเข้ากลีบเมฆไปเลย

“กูว่าพวกเรารีบกลับก่อนที่พี่จ้าวจะรู้ตัวว่าถูกแอบดูเหอะ  ท่าทางจะอีกยาวด้วย”

ไอ้เล้งเสนอ  ผมรีบพยักหน้าเห็นด้วยและคิดว่าไม่ควรปรากฏตัวออกไปให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมและเพื่อนๆรู้เรื่องนี้กันแล้วจะดีที่สุด

สาเหตุแรกคือกลัวไอ้ปิงถูกฆาตกรรมตายฐานปากมาก

สาเหตุที่สองที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ…กลัว…

..กลัวมันอาย

 

กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

“ไอ้ไข่!  วันหลังถ้าจะหาผัวมึงหัดดูจีพีเอสบ้านผัวมึงก่อนด้วยนะ  ตูดพวกกูระบมหมดแล้วเนี่ย!”

ไอ้ไม้พายโวยวายมาจากที่นั่งคนขับ

เช้าวันต่อมาพวกเรารีบโดนน้ำคลองอาบน้ำแต่งตัวกันแต่เช้าเพื่อมาโรงแรมอันเป็นสถานที่ค้นหาความจริงอีกแห่ง  โดยอัดกันเป็นปลากระป๋องมาในรถของมันนี่แหละ

ข้างหน้าคือไอ้ปิงกับไอ้เล้งที่ต้องนั่งตักกัน  ส่วนข้างหลังแค่ไอ้หลาม  ไอ้หมอน  กับเฮียจ้าวนั่งสามคนก็เบียดกันจนจะเกยกันอยู่แล้ว  ผมเลยต้องเสียสละนั่งตักเฮียจ้าวแทน  นั่งไปก็เสียวตูดไป  ไอ้ครั้นจะไปนั่งตักไอ้หลามแทนก็เกรงใจไอ้หมอนอีก

เวรกรรมจริงกู!

ไม่สิ  เวรกรรมยังไม่หมดแค่นั้นเมื่อหนทางที่จะเข้าเมืองนั้นเป็นถนนลูกรังเสียส่วนใหญ่  รถไอ้พายเลยเด้งไปเด้งมาจนก้นกบระบมร้าวกันเป็นแถบๆ  ซ้ำไอ้คนนั่งตักผัวอย่างผมกับไอ้เล้งก็ยังประสบกับปัญหาหัวกระแทกเพดานรถอีก  เอาเข้าไปเหอะชีวิตกู…

มีใครให้ความอนาถมากกว่านี้อีกไหม!!!

“ไอ้…ไอ้พาย…”

ไอ้เล้งที่นั่งเงียบแบบไม่มีปากมีเสียงอยู่นานเอ่ยขึ้น  มันยื่นมือไปบีบไหล่คนขับไว้แน่น

“อะไรวะ…”

“จอดรถ”

“ทำไม?”

“กูจะอ้วก!”

เอี๊ยดดดดด!!!

พลั่ก!!!

“โอ๊ยย  ไอ้เหี้ยพายยย!”

หัวกระแทกเบาะรถกันถ้วนหน้า…

“เปิดประตูเลยคุณพีๆ”

เจ้าของรถสั่ง  ไอ้ปิงรีบเปิดประตูรถให้ไอ้เล้งออกไปโก่งคออ้วกที่ริมทางโดยมีมันตามไปลูบหลังให้อย่างเป็นห่วง  ต้องเป็นเพราะรถมันกระเด้งไปกรเด้งมาแน่ๆ  ขนาดคนไม่เคยเมารถมาก่อนอย่างไอ้เล้งถึงได้อ้วกเอาเป็นเอาตายแบบนี้

“ไหน  เอาหัวมาดิ๊  โดนตรงไหน”

ไอ้ไม้พายหันมาถามพร้อมกับเอื้อมมือมาจับที่ลำคอผมแล้วดึงโน้มให้ก้มลงไปหา  ด้วยผมสูงกว่ามันเล็กน้อยเพราะนั่งอยู่บนตักเฮียจ้าวอีกที

“เออว่ะ  แดงนิดๆด้วย  เจ็บไหมอ่ะ”

“นิดหน่อย  ดีนะมีเบาะไอ้เล้งกัน  ไม่งั้นกูคงได้ถลาไปจูบกระจกรถแน่ๆ”

“แฮ่ม  แฮ่ม”

“อะไรติดคอเหรอฮะ”

หันไปถามคนข้างหลังที่กระแอมไอออกมา

เฮียจ้าวตวัดสายตาใส่เมื่อเจอผมถามคำถามกวนตีนแบบนั้นไป  จะว่าไปผมยังไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อคืนใช่ไหม  ความจริงหลังจากพวกผมกลับไปที่บ้านแล้วก็แยกย้ายกันอาบน้ำธุระส่วนตัวก่อนจะมาประชุมกันใหม่อีกครั้ง  เฮียจ้าวที่ตามมาหลังจากนั้นอีกสองชั่วโมงก็กลับมาในสภาพเนื้อตัวมอมแมมฟกช้ำพอสมควร  แถมยังหิ้วล้อของเจ้าเศษเหล็กที่หลุดออกมาจากตัวรถติดมือกลับมาด้วยอีกต่างหาก  แต่เจ้าตัวอ้างว่าถูกหมาวิ่งไล่ก็เลยเป็นแบบนั้น

จ้ะ…

กูเชื่อ…

“ระ…เรียบร้อยแล้ว  ไปต่อได้เลยเว้ย”

“ไหวแน่นะไอ้เล้ง”

ผมถามย้ำเพราะหน้ามันดูซีดๆ  ไอ้เล้งพยักหน้าก่อนจะดันตัวไอ้ปิงให้ขึ้นรถแล้วตามมานั่งตักเหมือนเดิม  ไอ้พายเริ่มออกรถอีกครั้ง  คราวนี้มันพยายามขับช้าๆและค่อยๆให้มากที่สุดเพื่อกันไม่ให้ไอ้เล้งเกิดอาการเมารถจนอ้วกอีก และที่สำคัญ…

เพื่อทะนุถนอมก้นกบของแต่ละคน…

“เฮ้ย! ไอ้พาย!  ควาย! ควาย!  ควายจะข้ามถนน  เบรกเว้ยเบรก!”

เอี๊ยดดดดดดดดดดดด!!!

พลั่ก! พลั่ก!

“อ๊ากก  เจ็บสัส!”

พวกกูจะถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพดีไหมเนี่ย!!!

 

ผางงงงง!!! (เสียงเปิดประตูรถ)

“โอ้กกกกกกกกกกก!”

ทุกคนที่นั่งมาในฐานะผู้โดยสารต่างพากันแยกย้ายไปคนละมุมเพื่ออ้วกเอาสิ่งที่ไหลเวียนอยู่ในท้องมาเนิ่นนานออก  แม้แต่เฮียจ้าวกับไอ้ปิงก็ยังทนไม่ไหว!

หลังจากแยกย้ายกันไปอ้วกจนหนำใจ  ต่างคนต่างเดินกลับมารวมกันที่รถในสภาพอิดโรย  กูล่ะหมั่นไส้ไอ้ไม้พาย  มีมันคนเดียวที่ไม่แสดงอาการอะไรเลย!

“เสร็จแล้วสินะ  ถ้างั้นก็ไป  ได้เวลาค้นหาความจริงกันแล้ว”

“ถ้างั้นมาเว้ย!  รวมพลังกัน”

“หา?”

“เหมือนตอนมัธยมไง  เร็วเข้าๆ  เอาล่ะ!”

“เดี๋ยวๆ ไอ้ไข่…”

“เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่!!!”

ผมทำท่าเขาควายแบบคาราบาวแล้วชูขึ้นฟ้า  มืออีกข้างเท้าสะเอวพร้อมแหงนหน้ามองดวงตะวัน  มันเป็นท่าประจำของพวกผมเมื่อสมัยมัธยม  ที่จะทำเพื่อเป็นการรวมพลังหรือปลุกจิตใจให้ฮึกเหิมอะไรเทือกนั้น…

“คนบ้าหรือเปล่าน่ะ”

“สติไม่ดีเหรอ?”

“อย่าไปมองเลย  เสียลูกตาเปล่าๆ”

“เสียดายหน้าตาเขาเนอะ”

คำนินทาระยะกระซิบข้างรูขุมขนทำให้ผมต้องเลิกทำท่าปลุกใจแล้วหันมองรอบกายชั่วคราว  ทว่าตรงจุดที่ผมยืนกลับเหลือผมแค่คนเดียวแทนที่จะมีพวกเพื่อนๆอยู่ด้วย

ไอ้พวกเวร!  ทิ้งให้กูทำท่านี้คนเดียวได้ไงวะ

“แหะๆ”

หันไปส่งยิ้มแห้งๆให้บรรดาไทยมุงก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามทุกคนไป  ทว่าเมื่อเพ่งมองพวกที่เดินนำหน้าดีๆแล้วผมกลับไม่พบเจ้าตัวต้นเรื่องอย่างเฮียจ้าว

ปะ…ไปไหนวะ?!

หยุดเดินแล้วหันไปรอบๆเพื่อหาไอ้ดำก่อนจะไปเจอมันยังยืนอยู่ตรงมุมที่ไปอ้วกเมื่อกี้  ท่าทางเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์แฮะ

“เฮียจ้าว!”

“!!!”

ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผมตะโกนเรียก  พึมพำอะไรใส่คนปลายสายต่อไม่ถึงสามวิฯก็รีบวางแล้วจ้ำอ้าวเข้ามาหาผม

“ไปได้แล้วฮะ  ทุกคนเข้าไปแล้วนะ”

“อือ  ไปสิ”

มันเดินนำเข้าไปด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปจากตอนก่อนจะมาถึงโรงแรมอย่างสิ้นเชิง!

เมื่อเช้ายังดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเหมือนมีอะไรกังวลในใจตลอดเวลาอยู่เลย  แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้…

คุยกับใครกันนะ?

 

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนที่ 43   แล้วจ้า  ที่แท้เฮียจ้าวก็ปั่นจักรยานไม่เป็นนี่เอง  และที่ไม่บอกน้องไข่ก็เพราะกลัวเสียฟอร์ม  แหงล่ะเนอะ  ใครๆก็อยากดูเท่ดูหล่อต่อหน้าคนรักทั้งนั้นแหละ  ว่าแต่…แค่เริ่มต้นค้นหาความจริงก็วุ่นวายขนาดนี้แล้ว  ซ้ำยังท่าทีแปลกๆของเฮียจ้าวที่น้องไข่กำลังสงสัยอีก  เฮียคุยกับใครกันแน่น้า???

#เฮียจ้าวคนกินไข่  ติดแฮชแท็กเม้ามอยและพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คกับทวิตเตอร์จ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ที่แท้เฮียจ้าว ขี่จักรยานไม่เป็นนี่เอง  ถถถถถถถ นึกไม่ถึงเลย  :z3:
หลงว่าเฮียจ้าวซ้า..........  :mew2:

อืมมม............น่าสงสัย เอียจ้าวคุยกับใครนะ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เฮีย ถ้าขี่สองล้อไม่ได้ ก็ขี่สามล้อซิ  :hao3:

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เฮียน่ารักนะเนี่ย

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
แอบคุยกับชู้รึ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ไยชีวิตเฮียจ้าวถึงได้มีปมอะไรต่อมิอะไร หลายสิ่งอย่างจังเลยนิ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


 

ตอนที่ 44

ไข่ม้วนกับความจริง (3)

 

“ไม่มีใครเห็น!!!”

ประสานเสียงกันดังลั่นโรงแรมไปหมดเมื่อทำการเรียกพนักงานที่ทำงานในวันนั้นมาสอบถาม  หากแต่นักงานที่ประจำเคาน์เตอร์ในวันนั้นกลับบอกว่าไม่เห็นเฮียจ้าวหรือใครที่มีลักษณะคล้ายถูกวางยาถูกพามาเลยแม้แต่คนเดียว

“จะเป็นไปได้ยังไง  ลองนึกดูดีๆได้ไหมครับ  หน้าอย่างเงี้ย  ตัวดำๆอย่างงี้ด้วย  ไม่สิ  ก็คนนี้นี่แหละ  ไม่มีจริงๆเหรอครับ!”

“เอ…?”

พนักงานชายและหญิงทั้งสองคนต่างขมวดคิ้วจ้องหน้าเฮียจ้าวพลางมองหน้ากันเองสลับกันไปมา  ผมที่กอดคอโน้มเฮียจ้าวลงมาก็หันไปมองหน้าเพื่อนๆเหมือนกัน

“แน่ใจนะครบว่าพวกคุณไม่รู้ไม่เห็นอะไรจริงๆ”

ไอ้ไม้พายถามย้ำพลางมองหน้าคนทั้งคู่อย่างจับผิด  แม้จะมีเหงื่อเม็ดเป้งไหลลงมาตามใบหน้า  แต่พวกเขายังพนักหน้าหงึกๆเพื่อยืนยันในสิ่งที่บอกไปครั้งแรก

“แล้วคนอื่นล่ะ  มีพนักงานคนอื่นที่ทำงานในวันนั้นเหมือนพวกคุณไหม  เช่นพวกแม่บ้าน  เด็กยกกระเป๋า  หรือคนที่พาพวกเขาไปเปิดห้อง?”

“เรื่องนั้นพวกเราจำไม่ได้หรอกค่ะ  อีกอย่าง…พวกเราบอกแล้วยังไงล่ะค่ะว่าไม่เห็นคุณคนนี้ในวันนั้นเลย  พวกเราไม่ทราบหรอกค่ะว่ามีการเปิดห้องหรือไม่”

“พวกผมมีงานต้องทำต่อ  ยังไงต้องขอตัวก่อนนะครับ”

ทั้งสองตอบคำถามไอ้ปิงก่อนที่พนักงานชายจะดึงพนักงานหญิงให้เดินออกไปพร้อมกัน  ไอ้เล้งตั้งท่าจะตามต่อแค่ไอ้ปิงรั้งเอาไว้พร้อมส่ายหน้า

“ไม่มีประโยชน์  ท่าทางแบบนั้นโดนปิดปากมาดีแน่ๆ”

“หมายความว่าพวกมึงคิดว่าสองคนนั้น…”

“อือ  พวกเราก้าวช้ากว่าคุณย่าของคุณจ้าวไปก้าวหนึ่ง”

ไอ้ไม้พายตอบปิดท้าย  นี่ตกลงว่ากูกำลังงัดข้อกับคุณย่าหรือว่าโคนันกันแน่  จะฉลาดและรู้ทันทุกแผนการเกินไปแล้วนะ!

กูจะไปหาลุงเสริม  ก็ดักทางด้วยการให้ลุงเสริมลาออก

พอกูจะมาหาพนักงานที่โรงแรม ก ดักทางด้วยการปิดปากพนักงานอีก!

ทำไมถึงได้รู้หมดเลยวะว่ากูคิดจะทำอะไร!

“เอาน่า  ในเมื่อสืบไปก็ไม่ได้อะไร  วันนี้พวกเรากลับกันก่อนเถอะ  ขอบใจพวกนายทุกคนมากนะ”

เฮียจ้าวเอ่ยขึ้น  มึงก็อีกคน!  เรื่องของตัวเองแท้ๆเสือกไม่มีทีท่าเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย  ขณะที่ทุกคนยิงคำถามใส่พนักงานสองคนนั้นเป็นชุด  ตัวมันกลับทำเพียงแค่ยืนนิ่งไม่มีปากมีเสียงอะไร

“เอ่อ…มีอะไรติดหน้าฉันหรือเปล่า  เหมือนนายจะจ้องหน้าฉันมาสักพักแล้วนะ”

“เปล่าครับ  หนวดเคราพี่เก๋ดีก็เลยเผลอจ้องนานไปหน่อย  ฮ้าว…ง่วงจัง”

ไอ้หมอนตอบคำถามเฮียจ้าวก่อนปิดปากหาวหวอดๆจนน้ำตาเล็ด  คนถูกมองยืนจ้องคนมองที่ตอนนี้หลับปุ๋ยไปบนหลังไอ้หลามเรียบร้อยแล้วต่ออีกสักพักก็ละสายตาไป

ท่าทาองของไอ้หมอนแปลกไปจริงๆด้วย  เมื่อกี้นี้ถ้าผมไม่ได้ตาดฝาดไป…

ผมเห็นไอ้เจ้าชายขี้เซาของผมคนนี้มันยกยิ้มมุมปากขึ้นมาหน่อยหนึ่งด้วย

“เอางี้ดีกว่า  ลองแยกกันไปถามพนักงานหรือแขกคนอื่นๆในนี้ดู  เผื่อวันนั้นจะมีใครเห็นอะไรบ้าง”

“จริงด้วย  ฉลาดเหมือนกันนี่หว่าไอ้ปิง!”

“ปิงของกูเก่งอยู่แล้ว”

“ถุย!  จะอ้วก”

ทำท่าถุยน้ำลายใส่หน้าเพื่อนรักที่โน้มตัวลงไปกอดแขนอิงแอบแนบชิดกับไอ้ปิงอย่างออกนอกหน้า  มึงจะมาหวานแซงหน้าคู่กูแบบนี้ไม่ได้

เรื่องนี้มันของกูเว้ย กูต้องเด่นสุด  อย่ามาแย่งซีน  เดี๋ยวพ่อดีดกระเด็น!

“ฉันว่าพอ…”

“ถ้างั้นแยกย้ายกัน  ไอ้ไม้พาย  มึงไปทางนู้น  ไอ้ปิงไอ้เล้ง พวกมึงไปตรงสระว่ายน้ำ  ไอ้หลามไอ้หมอน  พวกมึงไปด้านหลัง  เดี๋ยวตรงฟร้อนกับห้องโถงกูกับเฮียจ้าวจัดการเอง”

“ได้!”

พวกเพื่อนๆรับคำก่อนจะกระจัดกระจายแยกกันไปคนละทางตามที่ผมบอก  ยังไงวันนี้ก็ต้องได้ความคืบหน้าอะไรมาบ้างแหละวะ!

“เฮียถามคนแถวนี้นะ เดี๋ยวผมไปถามตรงนู้น”

“อ่า…อือ”

แล้วก็วิ่งแยกกับไอ้ดำออกมาทันที

ผมเข้าไปหาแม่บ้านที่กำลังถูพื้นอยู่เป็นอันดับแรก  ดีที่ยังมีแขกไม่มากนักก็เลยไม่น่าจะเป็นการรบกวนแขกคนอื่นสักเท่าไหร่

“ขอโทษนะครับ  ผมขอถามอะไรหน่อย”

เล่ารายละเอียดเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง  ยืนรออย่างใจจดใจจ่อว่าคุณป้าจะทราบอะไรบ้าง  ทว่าเธอกลับสายหัวออกมาก่อนจะเดินไปถูพื้นต่อโดยไม่สนใจผมเลย

บ้าเอ๊ย!!!

มันจะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์เลยจริงๆเหรอวะ

“ขอโทษนะครับ…”

ตรงเข้าไปหาพนักงานยกกระเป๋าอีกคนแล้วเอ่ยถามคำถามเดิมอีกครั้ง  แน่นอนว่าคำตอบที่ผมได้รับยังคงเหมือนเดิมด้วย

ไม่มีใครพบเห็นเหตุการณ์เลยสักคนเดียว

ไม่มีใครจำเฮียจ้าวได้  ไม่มีอะไรทั้งนั้น…

นี่มัน…หมายความว่ายังไงกันแน่  คุณย่าเจ้าขาจะดักทางผมได้ทันท่วงทีในเวลาอันสั้นแบบนี้ได้ยังไง  ที่สำคัญ…ทำไมถึงได้รู้ไปหมดว่าผมคิดจะทำอะไรต่อไปและจะตามสืบที่ไหนต่อ

ถ้าเป็นในหนังผมคงอดคิดไม่ได้ว่ามีสปายแฝงตัวอยู่ในกลุ่มพวกเรา  แต่พอดูจำนวนสมาชิกที่มีในตอนนี้แล้วไม่มีใครเข้าข่ายที่จะเป็นสปายที่ว่าเลยสักคน  เพราะงั้นตัดออกไปได้เลย

ถ้าอย่างนั้นเพราะอะไรกันล่ะ…

คุณย่าจับทางความเคลื่อนไหวของผมได้ยังไง!!!

 

ตุ้บ!

“เหนื่อยโว้ยยยยย”

ผมตะโกนลั่นทันทีที่กลับมาถึงบ้านสวน  ล้มตัวลงนอนหงายหมดสภาพรวมกับเพื่อนๆที่เรี่ยวแรงติดลบไม่ต่างกัน

ไอ้เล้งนอนเกยอยู่บนพุงไอ้ปิงที่นอนหงายอีกที

ไอ้หมอนนอนอยู่บนแขนไอ้ข้าวหลามที่นอนกางแขนออกเพื่อทำหน้าที่เป็นหมอนให้

ไอ้พายนอนทับขาผมขณะที่ไอ้เฮียนอนทับช่วงตัว…

เอิ่ม…กูหนักเถอะไอ้สัส!

“หิวจัง…”

“นั่นดิ  กูก็หิว”

ไอ้เล้งสำทับคำพูดของไอ้หมอนที่บอกว่าหิว  จะว่าไปหลังจากกินมื้อเช้าจนตอนนี้ก็สี่โมงเย็นแล้วยังไม่มีใครได้กินอะไรเลยนี่หว่า

โครก  โครก

“อื้อหือ  ไอ้ปิง  ไอ้หลาม  ท้องร้องดังขนาดนี้คงไม่แดกพวกกูแทนข้าวหรอกนะ”

ผมมองหน้าเจ้าของเสียงท้องร้องทั้งสองคนที่กำลังลูบท้องตัวเองป้อยๆ

“เดี๋ยวฉันทำอะไรให้กินเอง  พวกนายไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า  วันนี้ต้องเหนื่อยเพราะเรื่องของฉันมาทั้งวัน”

“เอางั้นเหรอฮะ  แล้วเฮียไม่เหนียวตัวเหรอ”

“เอาน่า  เดี๋ยซฉันไปอาบทีหลัง  กินอะไรง่ายๆอย่างพวกมาม่าได้ไหม  มีหมูกับผักอยู่  เดี๋ยวใส่เครื่องให้ครบเลย”

“โอเคคร้าบบ”

ทุกคนรับคำอย่างเริงร่าเมื่อจะได้มีของตกถึงท้องกันสักที  เฮียจ้าวลุกออกไปจากตัวผมตรงเข้าไปในครัวเพื่อหยิบเอามาม่าที่ซื้อไว้เป็นลังๆออกมา

“ไปเว้ย  ไปโดดน้ำคลองกันดีกว่า”

เอ่ยปากช่วยเพื่อนฝูง

“จัดไป!!!”

 

ตู้มมมมมม!!!

“ยะฮู้ววว!”

ไม่ได้สนุกอย่างนี้กับเพื่อนๆมานานแล้วสิ

ผมพุ่งหลาวม้วนตัวยี่สิบตลบ (เชื่อเหรอออ) ก่อนจะเอาหัวโหม่งน้ำไปอย่างสวยงาม  โชคดีที่ยังไม่เย็นมากก็เลยพอลงแช่น้ำคลองกันได้โดยไม่แข็งตายไปเสียก่อน

“นี่ไอ้หมอน  ในน้ำมึงก็ยังจะขี่หลังมันเหรอวะ”

“ก็กูชอบนี่หว่า”

ไอ้หมอนตอบคำถามไอ้ไม้พายพร้อมกับกอดคอไอ้หลามแน่นขึ้น  แถมยังเพิ่มสกิลถูไถหน้ากับแผ่นหลังของมันอีก

ถุยยย!  หมอนหรือแมวกันแน่ฟะ

“ปิงครับ  รบกวนดูต้นทางทีนะ”

“ได้จ้า”

ไอ้ปิงรับคำไอ้เล้งก่อนจะเดินย้อนกลับไปทางตัวบ้านเพราเหลือมันคนเดียวที่ยังไม่ได้กระโดดน้ำ  ผมมองเพื่อนๆที่ขยับเข้ามาใกล้จนล้อมกันเป็นวงกลมอย่างสงสัย

พวกมันมองหน้าผมด้วยสายตาจริงจังมากมาย

อะ…อะไรอีกเหรออออ

“ไอ้ไข่  กูถามอะไรหน่อยสิ”

ไอ้ไม้พายเป็นคนเปิดประเด็นเป็นคนแรก  ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่  รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล  สีหน้าของเพื่อนรักทั้งสี่ในตอนนี้ไม่มีวี่แววล้อเล่นเหมือนทุกทีเลย

พวกมึงกำลังทำกูกลัวนะเว้ย!

“อะไรวะ  ทำไมพวกมึงต้องซีเรียสกันด้วย  อย่าทำให้กูกลัวดิ”

“มึงไม่สงสัยบ้างเหรอ  ว่าทำไมวันนี้พวกเราถึงไม่ได้อะไรกลับมาเลย  มันเป็นไปได้จริงๆหรือไงที่พนักงานในวันนั้นจะไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น”

“เรื่องนั้น…”

สงสัยสิวะ  สงสัยจนปวดกบาลไปหมดแล้วเนี่ย!

“ที่สำคัญเลย  ทุกคนดูไม่เหมือนคนไม่เห็นอะไร  แต่เหมือนคนมีอะไรปิดบังไว้มากกว่า”

ไอ้เล้งเสริมต่อเข้ามาอีก  ผมไม่เข้าใจ  พวกมันอยากจะพูดอะไรกันแน่

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็แสดงว่าคุณย่าคงมาสั่งปิดปากไว้น่ะสิ  กูก็คิดเรื่องนี้อยู่  เพียงแต่มันจับมือใครดมไม่ได้  เค้นเอความจริงก็ไม่ได้เลยทำได้แค่สงสัยไง”

“คุณย่ามีพลังจิตเหรอ?”

“หา?”

เงยหน้ามองไอ้เสาไฟฟ้าแบกหมอนข้างตัวที่เอ่ยคำถามออกมาเสียงเรียบ  ทุกวันนี้ผมยังหมั่นไส้ในความสูงของมันไม่หาย

สูงขนาดนี้กูขอให้แม่งเดินชนประตูบ้านทุกวัน!

“จะไปมีได้ไงวะ  คนปกติทั่วไปนี่แหละ”

“นั่นสิ  ไม่มีพลังจิต  แล้วทำไมถึงรู้ความเคลื่อนไหวของมึงทุกย่างก้าวเลยล่ะ”

“มึงจะพูดอะไรกันแน่ไอ้หมอน…”

“อย่างกับว่า…มีคนคอยรายงานงั้นแหละ”

มันจ้องหน้าผมนิ่ง…

พอหันไปทางไอ้พะพาย  มันเองก็จ้องหน้าผมนิ่ง…

ไอ้เล้งก็ด้วย…

ไอ้หลามก็เหมือนกัน…

“นี่พวกมึงกำลังคิดว่า…”

“พรุ่งนี้พวกเราจะกลับไปที่โรงแรมนั้นอีกครั้งเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด  แต่ว่า…แค่พวกเราห้าคนเท่านั้นนะ”

ไอ้ไม้พายชูนิ้วขึ้นมาห้านิ้ว  หัวใจผมเต้นตึกตักด้วยมั่นใจล้านเปอร์เซ็นแล้วว่าพวกเพื่อนๆของผมกำลังคิดอะไรอยู่

ไม่…

ไม่มีทาง

เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!!

“ปิงจะคอยอยู่ที่นี่กับพี่จ้าวและรายงานให้กูรู้ตลอดเวลาเอง  ระหว่างนั้นพวกเราจะค้นหาความจริงจากวงจรปิดของโรงแรม”

ไอ้เล้งอธิบายต่อ  ผมยกมือขึ้นห้ามให้มันหยุดพูดก่อนเพราะมีเรื่องจะถาม

“เดี๋ยวนะเว้ย  กล้องวงจรปิดนะไม่ใช่กล้องถ่ายรูปทั่วไป  จะขอดูง่ายๆได้ไง  ไม่มีทางหรอกเว้ย  ถ้าจะดูจริงๆแม่งก็ต้องแจ้งความเพื่อขอให้ตำรวจมาช่วยเปิดกล้องไม่ใช่เหรอวะ”

“หึๆ”

เสียงหัวเราะในลำคอจากพวกมันเหมือนคำประกาศก้องว่า ‘ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้’

“อย่าบอกนะว่า…”

หมับ!!!

“มึงลืมไปแล้วเหรอว่า…”

ไอ้เล้งกอดคอผมพร้อมกับพูดค้างไว้

“อย่าดูถูกอำนาจของบ้านไอ้หมอน!”

ไอ้เล้งและไอ้ไม้พายพูดขึ้นพร้อมกัน   ผมยืนตัวแข็งทื่อก่อนจะค่อยๆเงยแค่ช่วงคอขึ้นไปมองไอ้หมอนที่กำลังปิดปากหาวหวอดๆตาใกล้จะปิดเต็มที

นั่นสิ…

ผมลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง

 

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนที่ 44   แล้วหายไปสามวันเพราะมีเรื่องต้องจัดการสองวัน  ส่วนเมื่อคืนนั้นไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยหลังจากทราบข่าวจงฮยอน(Shinee)  ได้แต่ร้องไห้ร่วมชั่วโมงกับการสูญเสียครั้งนี้  วันนี้ทอล์กคงไม่มีอะไรมากนะคะ  ยังทำใจไม่ได้เลย T__T  แต่เงื่อนงำทั้งหมดใกล้จะคลี่คลายแล้วล่ะค่ะ

#เฮียจ้าวคนกินไข่  ติดแฮชแท็กเม้ามอยและพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คกับทวิตเตอร์จ้า

 

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอติดตามความเคลื่อนไหว  :o10:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เพื่อนไข่เรนเจอร์ ฉลาดล้ำจริงๆ 

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เฮียจ้าวเป็นหนอนบ่อนไส้??

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อำนาจดำมืดของบ้านหมอน

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 45

การจัดฉาก

 

“ต้องขอโทษจริงๆนะเฮียที่วันนี้ไม่ได้ออกไปสืบ  พอดีไอ้พวกบ้านี่มันอยากชมเมืองมากๆ  ยังไงขออู้หนึ่งวันนะฮะ!”

ยกมือไหว้ไอ้ดำที่กำลังลงมือทำมื้อเช้าให้พวกเราทุกคนกิน  ร่างสูงในชุดหนีน้ำทับด้วยผ้ากันเปื้อนลายฟรุ้งฟริ้งของไอ้เล้งที่พกติดตัวมาด้วยช่างขัดสายตากูดีแท้

นับวันๆมึงจะสวยขึ้นๆนะไอ้ดำ!

“อ่า…งั้นเหรอ  ไม่เป็นไรๆ  นายพาเพื่อนๆไปเที่ยวตามสบายเลย  ฉันว่าจะเคลียร์งานที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้อยู่พอดี”

“เอ้อ  แต่ว่าฉันขอตัวนะ  วันนี้รู้สึกเปื่อยๆ  ไม่สบายยังไงไม่รู้  แค่กๆๆ”

ไอ้ปิงแกล้งไอและทำหน้าตาเหมือนคนใกล้จะตายให้ดูสมจริง  เป็นแผนการที่พวกเพื่อนๆผมวางขึ้นเพื่อให้ไอ้ปิงมันคอยอยู่ดูต้นทางที่นี่นั่นเอง

“ว้า  แบบนี้ก็แย่เลยเนอะทุกคน  งั้นผมคงต้องขอฝากปิงด้วยนะครับพี่จ้าว  แล้วพวกเราจะรีบกลับ”

ไอ้เล้งรีบแสดงละครต่อเพื่อไม่ทันให้เฮียจ้าวได้ฉุกคิดว่าคู่ผัวเมียที่ตัวติดกันเป็นตังเมอย่างพวกมันจะยอมแยกจากกันได้ยังไง

“อื้มๆ  เดี๋ยวพี่ดูแลเอง  พวกนายเที่ยวให้สนุกเถอะ”

“ขอบคุณมากครับพี่”

เมื่อฝากผีฝากไข้กนเสร็จสรรพ  ไอ้ไม้พายกับไอ้เล้งก็พยายามจะฉุดผมออกไปจากบ้าน  ถึงจะรู้ความคิดของพวกเพื่อนๆดีอยู่แล้ว  แต่ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี

จะให้เชื่อได้ยังไงว่าเฮียจ้าวน่ะ…

ว่าเฮียจ้าวจะ…

…หักหลังผม

“ปล่อยกูก่อน”

สะบัดแขนออกมาแล้ววิ่งกลับเข้าไปหาเฮียจ้าวอีกครั้ง  ร่างสูงมองผมอย่างแปลกใจที่จู่ๆก็พุ่งพรวดเข้าหาเกาะแขนมันเอาไว้

“มีอะไร?”

“เฮียฮะ”

“หืม?”

“รักผมไหม”

“เฮ้ยยยย!!!”

เสียงตกใจของพวกเพื่อนๆดังลั่นไปทั่วทั้งบ้าน  กูขอโทษ  คำถามของกูมันคงตรงเกินไปสินะ

“อือ  รัก”

“เฮ้ยยยยย!!!”

พวกมันตกใจกันอีกระลอก

ระดับความไม่แคร์สื่อของกูกับไอ้ดำค่อนข้างจะสูสีกัน  พวกมึงควรทำใจนะ…

“เฮียพูดแล้วนะฮะว่ารัก  เพราะงั้น…คนรักกันจะต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจถูกไหม”

“…”

“เฮียจะไม่ทำให้ผมเสียใจ…ใช่หรือเปล่าฮะ”

“…”

“…”

“อือ”

“ดีใจจัง”

ผมฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบหมดปาก  ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้วล่ะ  ในเมื่อเฮียจ้าวยืนยันแล้วว่ารักผมและจะไม่ทำให้ผมเสียใจ

เขาจะต้องไม่ทำ…

ไม่มีวันทำ

“ผมไปก่อนนะฮะ  แล้วจะเที่ยวเผื่อเฮียนะ  มึงด้วยไอ้ปิง”

“ฝากดูแลเมียน้อยกลอยใจของฉันด้วยนะ”

เมียน้อยกลอยใจ?

ถ้าจะติดหนึบกันขนาดนี้มึงไม่กลืนมันลงท้องไปเลยล่ะ

 

“กูขอพูดอีกครั้งนะ  คนที่เหลือในกลุ่มถ้าจะแฟนล่ะก็ช่วยดูจีพีเอสบ้านแฟนพวกมึงด้วย  แบบของไอ้ไข่เนี่ยกูไม่เอาแล้ว!  รถจะเดี้ยงไม่พอพาไส้ในกูเดี้ยงตามอีก”

เพื่อนสุดรวยบ่นยาวมาเป็นชุดหลังจากวันนี้ก็พาพวกเรากลับมายังโรงแรมเดิมด้วยรถคันเดิมและเส้นทางเดิมอีกครั้ง (มีอยู่ทางเดียว) มันเดินกุมก้นลงมาจากรถหลังจากปล่อยให้พวกผมลงมารอหน้าโรงแรมก่อน  ส่วนมันก็ขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ

“อย่าบ่นมากนักเลยไอ้พาย  บ่นเป็นผู้หญิงเชียวมึง”

“คร้าบๆคุณแม่”

ผมยืนหรี่ตามองไอ้คุณพ่อและไอ้คุณแม่ที่สวีตหวานกันไม่แคร์ลูกๆอย่างพวกผมเลย  ไอ้ปิงเผลอแล้วเต๊าะเชียวนะมึงไอ้พาย!

“แล้วยังไงต่อวะไอ้หมอน”

เงยหน้าขึ้นมองไอ้หมอนที่ไม่ทำอะไรจริงๆนอกจากนอน  มึงจะนอนมากเกินไปแล้วนะเฟ้ยย  กลางคืนทำห่าอะไรไม่ยอมนอนฟะ!

หรือว่า…!

พวกมึงจะเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะแปะกันทั้งคืน! โอ้โนววววว 

รีเพลย์ให้กูได้ติดกล้องก่อนดิ  อย่าดูเหมือนกันนะ!

“ก็…เข้าไปข้างในเลยยย”

“เข้าไปแล้วไงต่อวะ”

“เดี๋ยวก็รู้”

มันเอื้อมมือมาจับหัวผมให้หันมองเข้าไปในโรงแรมแทนการมองหน้ามัน  เห็นท่าทางบื้อๆเพราะความขี้เซาแท้ๆ  แต่มือมันใหญ่และหนาจนจับหัวผมได้หมดขนาดนี้เลยเรอะ

“สวัสดีครับ  คุณจิรทีปต์ใช่ไหมครับ”

ผู้ชายวัยกลางคนในชุดสูทดูดีที่ผมเห็นเขายืนชะเง้อชะแง้อยู่หน้าทางเข้าโรงแรมตั้งแต่แรกแล้วปรี่เข้ามาหาไอ้หมอนท่าทางนอบน้อม  สองมือประสานกุมเป้าเอาไว้  ฉีกยิ้มจนตาหยีจนแทบจะก้มหัวถึงพื้นอยู่แล้ว

“ใช่ครับ  ผมเอง”

มันโบกมือไปมาเพื่อทักทายเขา

เอิ่ม…สาบานว่านี่คือทายาทของทูสตาร์!

“ท่านประธานโทรบอกทุกอย่างกับผมแล้วครับ  และขอให้ผมมาดูแลอำนวยความสะดวกให้คุณจิรทีปต์กับเพื่อนๆ  ผมเป็นผู้จัดการของโรงแรมนี้ชื่ออำนวย  วันนี้พวกคุณต้องการตรวจสอบอะไรบ้าง  บอกผมมาได้เลยครับ”

“ขอบคุณนะครับ  ถ้างั้นอย่างแรกผมขอดูกล้องวงจรปิดหน่อยได้ไหมครับ”

ไอ้หมอนเริ่มอธิบายถึงสิ่งที่ต้องการในวันนี้  และสิ่งแรกที่ต้องทำคือการค้นกล้องวงจรปิดทุกตัวของโรงแรมเพื่อดูว่าในวันนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง!!!

ผู้จัดการเดินนำพวกเราเข้าไปภายในออฟฟิศสำหรับพนักงานเท่านั้นที่จะเข้าออกได้  พอได้รับการเปิดทางที่ยิ่งใหญ่อลังการดาวล้านดวงแบบนี้แล้วมันทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่าอำนาจของบ้านไอ้หมอนมีมากมายแค่ไหน?  มากกว่าความรวยของไอ้ไม้พายอีกงั้นเหรอ?

“นี่ครับห้องควบคุม  กล้องวงจรปิดทุกตัวในโรงแรมจะถูกส่งภาพมาที่นี่หมดเลยครับ”

“ขอพวกผมตรวจสอบกันตามลำพังได้ไหม”

“เอ๊ะ?”

“ไม่ได้เหรอครับ?”

ไอ้หมอนถามซ้ำอีก  ทั้งที่น้ำเสียงของมันฟังดูเหมือนประโยคขอร้อง  แต่สายตาของไอ้หมอนที่จ้องมองไปยังผู้จัดการซึ่งยืนลังเลอยู่นั้นดูมีพลังอำนาจจนผมเองยังแอบเกร็งไปแวบหนึ่ง

รังสีความเป็นผู้มี ‘อำนาจ’ แผ่กระจายออกมาจากตัวไอ้หมอนอย่างชัดเจน

นะ…นี่สินะความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเพื่อนผมคนนี้!  สมแล้วที่เป็นทายาททูสตาร์  ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

“ดะ…ได้ครับ  ถ้าอย่างนั้นพวกผมจะออกไปรอข้างนอก  มีอะไรให้รับใช้ก็เรียกได้เลยนะครับ”

“คงไม่มีแล้วล่ะครับ  พวกคุณแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองเถอะ  อย่าให้ใครมาอยู่ใกล้รัศมีของห้องนี้ในระยะสิบเมตรก็แล้วกัน”

“คะ…ครับคุณจิรทีปต์”

ผู้จัดการคำนับรับคำแล้วรีบดึงพนักงานที่คอยดูแลกล้องวงจรปิดในห้องนี้ออกไปจนหมด  ภายในห้องเลยเหลือแค่พวกผมเท่านั้น

“ทำไมต้องไล่พวกเขาออกไปด้วยวะ”

ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามที่ไอ้เล้งถามออกมา  ไอ้หมอนค่อยๆไต่ลงจากหลังของไอ้หลามไปนั่งประจำที่แทนที่พนักงานเพื่อกดจึกๆอะไรบนคีย์บอร์ด

“พี่จ้าวของไอ้ไข่เป็นบุตรชายของคนมีชื่อเสียงไม่น้อยไม่ใช่เหรอ  ถ้าคนพวกนั้นรู้ว่าพวกเรามาเปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังเพื่อตามสืบอะไรก็อาจจะเกิดข่าวลือน่ารำคาญตามมาก็ได้  เรื่องนี้ควรสืบกันลับๆที่รู้แค่พวกเราก็พอ”

“ที่ไอ้หมอนพูดมาก็ถูกนะ  เสือกยังไงก็ได้ให้เงียบที่สุด”

“สืบเหอะไอ้คุณพ่อ!”

“มึงอ่ะสืบ  แต่พวกกูอ่ะเสือก  ถ้าไม่ติดว่าอยากรู้ว่าผู้ชายที่มึงยอมอ้าขาให้เป็นคนแบบไหน  ให้ตายพวกกูก็ไม่ถ่อกันมาถึงนี่หรอกเว้ย”

“แร๊วงส์!!!”

ยกมือขึ้นทาบอกกับความคมของปากเพื่อนซี๊  เตรียมจะหันหน้าไปร้องไห้ฟ้องให้คุณแม่ข่วนหน้ามันทว่า…

เพี๊ยะ!

“เลิกเล่นแล้วดูนู่นก่อนเว้ย  ไอ้หมอนมันเอาคลิปวงจรปิดในวันนั้นขึ้นมาหมดแล้ว”

ไอ้เล้งตบหัวผมหนึ่งทีเน้นๆก่อนจะดันให้หันไปสนใจไอ้หมอน  นอกจากที่บ้านจะมีอำนาจล้นฟ้าแล้วมึงยังมีความสามารถเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วยเหรอ

ไอ้…ไอ้…

ไอ้เพอร์เฟกต์!

“พวกมึง   ดูนั่น”

เสียงของไอ้ข้าวหลามพร้อมกับนิ้วมือเรียวชี้ให้พวกผมสามคนมองไปที่จอมอนิเตอร์ซึ่งไอ้หมอนทำการเปิดขึ้นมา  วันที่และเวลาตรงกับวันที่เฮียจ้าวออกไปทุกอย่าง  และ…

“คุณย่าเจ้าขา!”

หญิงชราที่เดินถือไม้เท้าเข้าประตูโรงแรมมาเป็นคุณย่าเจ้าขาของไอ้ดำไม่ผิดแน่!  ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ประคองคุณย่าเข้ามาก็ยังเป็น…

“ผู้หญิงคนนั้นเหรอวะ?”

ไอ้ไม้พายที่ยืนดูข้างๆเอ่ยถาม  ผมพยักหน้าเป็นคำตอบ  ไม่อยากละสายตาไปจากมอนิเตอร์ตอนนี้เพราะต้องการรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

พวกเราทั้งห้าคนต่างนิ่งและเงียบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจและเสียงเกาตูดของผม  คุณย่ากับคุณเพลินที่เดินเข้าประตูโรงแรมมาสักพักแล้วหยุดเดิน  หันกลับไปมองตรงทางเข้าอีกครั้งราวกับกำลังรออะไรสักอย่าง  เงาตะคุ่มที่เห็นเป็นเพียงเงาดำวูบไหวไปมากำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ตึกๆ!  ตึกๆ!  ตึกๆ!

“มีคนมาแล้ว”

ไอ้หมอนร้องบอก  คนที่เดินตามเข้ามาหลังจากที่คุณย่ายืนรออยู่นานคือลุงเสริมคนขับรถกับพนักงานผู้ชายเมื่อวานนี้  แต่ที่น่าตกใจคือทั้งสองกำลังแบกเฮียจ้าวที่หมดสติเข้ามา!!!

“ไอ้ไข่  นั่นมัน…”

“เออ  เฮียจ้าวจริงๆ   แปลว่าเฮียถูกวางยาตั้งแต่ในรถเพื่อพามาที่โรงแรมนี่โดยมีคุณย่าเป็นคนบงการ  แถมพนักงานผู้ชายคนเมื่อวานก็ยังโกหกพวกเราอีกด้วย”

“โดนปิดปากสินะ”

ไอ้เล้งสันนิษฐานขึ้น

“เดี๋ยวก่อน  ดูนั่น”

ไอ้หมอนร้องเรียกขึ้นอีก  มันชี้ไปที่จอมอนิเตอร์อีกตัวซึ่งเป็นกล้องจับภาพบริเวณหน้าห้องพัก  ภาพตัดมาตอนที่เฮียจ้าวถูกพาขึ้นมาถึงห้องพักแล้วและกำลังจะเข้าห้อง  แต่ที่สะดุดใจคือพนักงานหญิงที่กำลังทำการเปิดห้องให้ต่างหาก  คนเดียวกับเมื่อวานเหมือนกัน!!!

“โกหกทั้งคู่เลยนี่”

ไอ้หลามพูดเสียงเข้ม  จ้องภาพในจอไม่วางตา

“เรียกว่าโดนปิดปากมาอย่างดีเลยมากกว่า  ปัญหาคือทำไมคุณย่าคนนั้นถึงได้มาปิดปากสองคนนี้ได้ทัน  แถมยังรู้หมดว่ามึงคิดจะทำอะไรต่อไป”

ไอ้ไม้พายจับประเด็นเจ้าปัญหาขึ้นมาถกกันอีกรอบ   ไอ้หมอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนเก้าอี้กลับเข้ามาล้อมวงเพื่อคุยกับพวกเรา  สถานการณ์เริ่มตึงเครียดของจริงซะแล้ว

“ที่แน่ที่สดตอนนี้คือพี่จ้าวของมึงพ้นผิดอย่างแน่นอน  แค่ก๊อบคลิปจากวงจรปิดพวกนี้ไปเปิดให้ดูเป็นหลบักฐานก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าวันนั้นพี่จ้าวถูกวางยาและทั้งหมดเป็นเพียงการจัดฉากเพื่อส่งรูปพวกนั้นมาทำให้มึงกับพี่จ้าวระหองระแหงและเข้าใจผิดกัน  แต่จะเพราเหตุผลอะไรคงต้องไปถามเจ้าตัวเอาเอง”

“ไอ้หมอนพูดถูก  ยังไงตอนนี้คุณจ้าวก็ไม่ได้เป็นพ่อคนแน่ๆแล้ว  ที่เหลือก็แค่พิสูจน์สิ่งที่พวกเราสงสัย”

“มึงจะทำอะไรไอ้พาย”

ผมถามเพื่อนน้ำเสียงตกใจ  เหมือนลึกๆแล้วในใจผมกำลังกลัวความจริงที่เป็นความจริงยิ่งกว่าซึ่งแอบซ่อนอยู่ในนั้น

เป็นความจริงที่ผมพยายามหลีกหนีและไม่อยากรับรู้

หมับ!

“ไอ้ไข่  มึงเชื่อใจพวกกูไหม”

ร่างสูงกว่าแค่สามเซ็นฯจับหมับเข้าที่บ่าแล้วดึงให้หันไปประชันหน้ากัน  ผมเงยหน้าเล็กน้อยขึ้นมองไอ้ไม้พายที่จ้องมาด้วยแววตาจริงจัง

“ปะ…ปล่อยไปไม่ได้เหรอวะ  ให้มันไม่ชัดเจนแบบนี้ต่อไปไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้!”

“ใจเย็นไอ้พาย”

ไอ้เล้งรีบปราม

ผมหลบตาบรรดาเพื่อนรักทั้งหลาย  รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนคนโง่มากแค่ไหน  ยิ่งผมหนีความจริงมากเท่าไหร่  ความจริงที่ผมพยายามหนีมันกลับยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น

ก๊อกก๊อกก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขัดขึ้น  ผมรีบมองหน้าเพื่อนๆอย่างตกใจว่ามีใครมาตอนนี้  แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามไอ้หมอนก็กระโดดลงจากเก้าอี้ตรงไปที่ประตู

“กูเป็นคนเรียกมาเอง”

“มึงเรียกใครมา”

ผมรีบถาม  ไอ้ขี้เซาไม่ตอบแต่เปิดประตูให้ผู้มาเยือนคนนั้นได้เข้ามาข้างใน  พนักงานชายหญิงสองคนเมื่อวานคือคนที่ถูกเรียกมา!  ทั้งสองคนแสดสีหน้าตกใจออกมาอย่างชัดเจนเมื่อเห็นพวกผม

“ทำไมพวกคุณ…”

“ผมจะขอถามพวกคุณเป็นครั้งสุดท้าย  และขอให้พวกคุณตอบตามความจริง  ไม่อย่างนั้นผมขอสาบานในนามของผู้บริหารทูสตาร์ว่าพวกคุณโดนไล่ออกแน่ๆ  และจะไม่มีที่ไหนกล้ารับพวกคุณเข้าทำงานไม่ว่าจะบริษัทเล็กหรือใหญ่ก็ตาม”

มาอีกแล้ว…

มหาอำนาจจากตัวของไอ้หมอนที่พอสัมผัสแล้วต้องสะพรึง!

“คะ…ครับ”

“คะ…ค่ะ…”

ทั้งสองรับคำตัวสั่น  ไอ้หมอนเดินกลับมาเปิดคลิปในกล้องวงจรปิดทั้งหมดให้คนทั้งคู่ดูอีกครั้ง  แน่นอนว่าพวกเขาหน้าซีดเผือด

“พวกคุณจะอธิบายเรื่องนี้ว่ายังไงครับ”

“ขะ…ขอโทษจริงๆครับ!  วันนั้นพวกเราได้รับเงินค่าจ้างจากคุณหญิงเจ้าขาให้ช่วยแบกคุณจ้าวไปที่ห้องเท่านั้นเอง  พวกเราไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องอื่นๆเลยนะครับ”

“ใช่ค่ะ  คุณหญิงแค่ให้พวกเราทำไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น  อีกอย่างคุณหญิงสนิทกับท่านประธานคนก่อนมาก  พวกเราไม่กล้าขัดคำสั่งจริงๆค่ะ  ได้โปรดอย่าไล่พวกเราออกเลยนะคะ”

ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพลางยกมือไหว้ไอ้หมอนท่วมหัว  ผมกลืนน้ำลายลงคอมองมาดใหม่ของมันด้วยความผวา  นัยน์ตาที่ดูนิ่งและเยือกเย็นเหมือนทุกคนอยู่ต่ำสุดแบบนั้นมัน…

ราวกับไม่ใช่ไอ้หมอนจอมขี้เซาเลย

“ต่อไปเป็นคำถามสุดท้าย  ทำไมเมื่อวานถึงต้องโกหก…ล่ะครับ?”

ถ้าเสียงมึงจะนิ่งและแข็งเป็นตอไม้ฟาดหน้าขนาดนั้นมึงไม่ต้องลงท้ายคำว่าครับให้ขนตูดพวกกูลุกเล่นๆหรอกไอ้หมอน!

“เมื่อวานนี้เป็นเพราะ…พวกเราได้รับคำสั่งให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียวหากมีใครมาสอบถามถึงเรื่องนั้นค่ะ”

“ใครเป็นคนออกคำสั่งกับพวกคุณ  คุณย่าเจ้าขาเหรอ?”

ไอ้ไม้พายเอ่ยถามบ้าง  พนักงานทั้งสองมองหน้ากันอย่างชั่งใจก่อนจะพยักหน้าหงึกๆพร้อมกัน

“คุณหญิงบอกว่าจะสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆมอบให้หากพวกเราร่วมมือครับ”

“สินน้ำใจ?  คุณหญิงย่าเจ้าขาเอามาให้พวกคุณเองเลยเหรอ”

หันขวับไปมองไอ้เล้งที่เรียกชื่อคุณย่าออกมาซะเต็มยศ

“เปล่าหรอกค่ะ  ท่านโทรมาสั่งงานพวกเราในตอนเช้าโดยการโทรเข้าโรงแรมเพราะไม่มีเบอร์ส่วนตัวของพวกเราค่ะ”

“อ้าว  ถ้างั้นใครเอาเงินมาให้พวกคุณล่ะครับ  หรือว่าใช้วิธีการโอน  หรือไปรับเอาวันหลัง?”

ผมเอ่ยถามบ้าง  นานๆทีให้กูมีบทบ้างเหอะ   ตอนนี้ไอ้หมอนแย่งซีนไปเต็มๆ!

“ไม่ครับ  พวกผมได้เงินมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

“ใครเอาเงินให้พวกคุณ?”

พวกผมห้าคนเอ่ยถามพร้อมกันในคำถามเดียวกัน  ทั้งคู่มองหน้ากันอีกครั้งก่อนจะเงยหน้ามองพวกผม  สีหน้าดูเหมือนคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก…

“คนที่เอาเงินมาให้พวกเราก็คือ…!”

 

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพตอนที่ 45   ตอนนี้สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นแล้วหลังจากช็อกจนไม่เป็นอันทำอะไรกับข่าวของจงฮยอนที่ตอนนี้ไปเป็นดวงดาวส่องแสงสว่างสดใสบนท้องฟ้าแล้ว  มีข่าวดีจะมาบอกอีกหนึ่งเรื่องนั่นคือทางสนพ.,เปลี่ยนใจจะเปิดพรีฯเรื่องนี้เป็นระยะเวลาสั้นๆก่อนลงในงานหนังสือด้วยค่า  รอจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลยน้า  มาร่วมลุ้นกันเถอะว่าความจริงทั้งหมดคืออะไรกันแน่!

#เฮียจ้าวคนกินไข่  ติดแฮชแท็กเม้ามอยและพูดคุยกันได้ในเฟซบุ๊คกับทวิตเตอร์จ้า


ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ต้องไม่ใช่เฮียจ้าวใช่มั้ย
ถ้าใช่ ทำเพื่ออะไร
แต่คุณย่าร้ายจริงๆ
 :angry2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 o8 มาวิเคราะห์กัน เต็งหนึ่ง เฮียจ้าว (คิดเหตุผลไม่ออก อาจจะคุณย่าฝากมาให้ก็เป็นได้)
เต็งสอง พี่หมอ (อันนี้ก็หาเหตุผลไม่ออกอีกเหมือนกัน)
เต็งสาม คุณพ่อเฮียจ้าว ประมาณอยากให้ไข่ม้วนแยกกับเฮียจ้าว
สุดท้าย ชะนีน้อย (อนาคต) หลานสะใภ้คุณย่า เดินเรื่องแทนแก
ตกลงได้แต่ชื่อที่คาดว่าจะทำ แต่หาเหตุผลไม่เจอสักกะคน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
กลุ่มนี้น่ากลัวจริงๆ ขอบอก แต่ว่าคนที่เอาเงินมาให้ คงไม่ใช่เฮียจ้าวนะ ม่ายยยย คุณย่าแผนล้ำลึก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด