มาต่อตอนใหม่แบบ เพิ่งปั่นเสร็จเลย ร้อนฉ่า.......
หายหัวไปนานหน่อยนะครับ ช่วงนี้
งานเยอะอ่ะ
******************************************************************
ตอนที่ 12คืนนั้นก็ตามที่กะเอาไว้ เหมียวโทรมาว่าผมซะใหญ่โต หาว่าผมไม่ร่วมมือทำตามแผน (ซึ่งก็จริง) มั่งล่ะ ไม่รักมันมั่งล่ะ โอ้ย สารพัดจะพูด ผมเลยเริ่มจะรำคาญเลยตัดบทไปบอกให้ไปคุยกับพรุ่งนี้ที่โรงเรียน เพราะตอนนี้ง่วงแล้ว อยากนอน แล้วก็วางสายไปเลยพร้อมกับทำใจรับอารมณ์คุณเธอในวันพรุ่งนี้
ผมกำลังจะนอนอยู่แล้วก็ต้องตื่นเพราะดันมีโทรศัพท์มา ตอนแรกก็กะจะไม่รับแล้ว กลัวจะเป็นคุณเหมียวโทรมาวีนอีกรอบ แต่ก็เอาเหอะ ยังไงก็ต้องโดนอยู่แล้ว รับๆไปเหอะ
“ค๊าบบ ต๋องคับ “
“เฮ้ย พูดเพราะๆแบบนี้ก็เป็นด้วยแฮะ” เสียงจากอีกปลายสายพูดมา
“อารายไอ้บาส มีอะไรรึเปล่า โทรมาหากูเนี่ย” ผมเริ่มหงุดหงิดที่มันกวน teen
“อะไรวะ พอรู้ว่าเป็นกูพูดไม่เพราะเลยนะ น้อยใจว่ะ”
“เรื่องของเมิงดิ” มันเป็นอะไรของมันวะเนี่ย มาน้อยใจอะไรกูอีกล่ะ
“โหย เมิงอ่ะ” ไอ้บาสทำเสียงฟุตฟิต
“น่ารักตายเลยอ่ะ เมิง ทำเสียงแบบนี้เนี่ย แล้วว่าไง โทรมาหากู มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่มีอ่ะ แค่อยากฟังเสียงเฉยๆ”
“หูยยยย พูดซะกูขนลุกเลยนะ เมิงอารมณ์ไหนของเมิงเนี่ย”
“ก็อารมณ์คิดถึงไง ต๋องอ่ะ ขนลุกเลยหรอ ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ลุกซะล่ะ”
“ขนเว้ย ขน ไอ้นี่นิ”
คืนนั้นผมคุยกับไอ้บาสซะนานเกือบ 3 ชั่วโมง ก็คุยกันไปเรื่อยๆอ่ะครับ ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกสนิทใจเวลาคุยกับมันมากกว่าที่ผมคุยกับเหมียวซะอีก ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองซักเท่าไหร่ บางทีเวลาคุยกับแฟน (หมายถึงเหมียวนะ) เราจะทะเลาะกันเกือบจะทุกครั้ง อาจจะเป็นเพราะเราเริ่มคาดหวังในตัวเค้าแล้ว เราเลยเริ่มผิดหวังเวลาที่เค้าไม่ได้ทำอย่างที่เราคิดมั๊งครับ
“หลับฝันดีครับ ”
“เออ เมิงก็เหมือนกัน ไอ้บาส พรุ่งนี้เจอกัน”
เช้าวันต่อมา ไอ้บาสก็เข้ามาปลุกผมเหมือนทุกๆวัน เพียงแต่ว่าวันนี้มันมาแปลกอ่ะครับ แทนที่มันจะเขย่าตัวผมเหมือนทุกวัน มันกลับก้มตัวลงมาที่หู แล้วก็เป่าลมเบาๆ ให้ผมจักจี๋ อ่ะครับ อารมณ์มันจะประมาณรำคาญมากๆอ่ะครับ ผมเลยหันไปดูว่าใครมาทำอะไรเนี่ย ปรากฏว่าหน้าของผมเกือบจะชนมันอยู่แล้ว โอ๊ย!!!! หัวใจจะวาย นี่มันเกือบหอมแก้มกูอยู่แล้ว
.“H อะไรของเมิงเนี่ย ปลูกแบบแปลกๆแต่เช้าเลยนะ” ผมโวยวายพร้อมๆกับที่ลุกขึ้นนั่ง
“สยิวดีม่ะ” ไอ้บาสพูดพร้อมกับยักคิ้วใส่แบบกวน teen เป็นที่สุด
“หยิวบ้านเตี่ยเมิงอ่ะดิ เกือบโดนแก้มกูอยู่แล้วนะ แสรดดดดด”
“แล้วเมิงรู้ได้ไงว่าไม่โดน กูแอบหอมแก้มเมิงไปหลายรอบ ตั้งแต่กูเข้ามาแล้ว”
“กวนแต่เช้าเลย กูไปอาบน้ำดีกว่า” ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้มันเห็นว่าหน้าผมคงเริ่มแดงแล้วล่ะ ก็มันเขินนี่หว่า จู่ๆตื่นมามีผู้ชายหน้าตาดีมายื่นหน้าอยู่ใกล้ๆ เมาขี้ตาขนาดไหนก็ต้องตื่นครับ
“บาส เมิงไปรอกูข้างล่างเลยนะ ฝากบอกแม่ด้วยว่าวันนี้กูไม่กินข้าวอ่ะ ไม่ค่อยหิว” ผมตะโกนบอกมันจากในห้องน้ำ
“เออ เมื่อคืนคุยกับกูก่อนนอนจนอิ่มไปเลยอ่ะดิ”
แสรดดดดดดดดดดดดด ไอ้บาสบ้า ไอ้เพื่อนเลว เมิงยังมีหน้ามาพูดงี้อีก เด๋วกูคิดมากนะ ยิ่งสับสนอยู่ กูแค่ไม่อยากกินไป มองหน้าเมิงไปก็แค่นั้นเอง มันเขิลลลลล
เช้าวันนั้นผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เดินไปเรียนกับมัน นั่งเรียนกับมัน พูดคุยเล่นกับมัน ทั้งๆที่ใจมันรู้สึกกับมันแบบแปลกๆ ไม่เหมือนเดิมอย่างตอนแรกๆที่รู้จักกัน
เรื่องมันดันมาเกิดตอนพักกลางวันน่ะสิ เพราะเหมียวมันดันเอา “ปู” มากินข้าวกลางวันด้วยนะสิ พวกไอ้แวน ไอ้เอก็เลยดี๊ด้ากันใหญ่ ผิดกับผมที่หงุดหงิดนิดหน่อย เพราะเหมียวมันให้ปูไปนั่งข้างไอ้บาสน่ะสิ ปกติจะเป็นผมนั่งข้างไอ้บาสแล้วปูนั่งฝั่งตรงข้าม แต่วันนี้ฝั่งตรงข้ามผมดันเป็นปู ที่นั่งด้านข้างผมเป็นเหมียว ผมเลยออกอาการเซ็งจัด จนเพื่อนๆหลายคนสังเกตุได้
“ไอ้ต๋อง เป็นอะไรของเมิงวะ หน้างอโคด อารมณ์ไม่ดีหรอไง” ไอ้โบ๊ตถามหลังจากที่เรานั่งลงกินข้าวกันที่โต๊ะประจำ
“ทะเลาะกับไอ้เหมียวมาอ่ะดิ จะอะไรอีกล่ะ อย่างไอ้ต๋องอ่ะ มีไม่กี่เรื่องหรอก” ไอ้แวนเฉลย
ผมใจหายวาบเลย
เพราะไม่อยากให้ทั้งไอ้บาสรู้ว่า ผมเตี๊ยมกับเหมียวไว้ที่ชวนมันไปดูหนังเมื่อวาน แล้วก็ไม่อยากให้เหมียวมันรู้ด้วยว่า เมื่อวานผมโกหก แล้วหนีไปดูหนังกับบาส
“ไม่มีอะไรหรอ กูง่วงแค่นั้นเอง” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
“เมื่อคืนต๋องก็นอนเร็วนิ คุยกับเหมียวแป๊ปเดียวเอง หรือว่าแอบไปคุยกับใครที่ไหนต่อ” เหมียวพูดพลางมองหน้าผมเหมือนจะจับผิด
“บ้าดิ เหมียว จะระแวงทำไมเนี่ย หน้าอย่างเราใครที่ไหนเค้าจะมาเอา” ผมคงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ ถ้าไม่บังเอิญเงยหน้าไปเห็น ไอ้คนที่ผมคุยด้วยเมื่อคืนยักคิ้วแบบ โคดจะกวน มาทางผม พร้อมๆกับแสยะยิ้มให้แบบแปลกๆ