2
#ชินเจมส์ #คู่นี้เรียลมากกก #ncไหมถ้าไม่ไม่อ่าน
"คนน้องไปหาคนพี่ถึงคอนโดค่าา อิดอกหลบไปกูจะพายเรือออ ✈️"
"อะไรคือความร่างสูงร่างบาง ใจบางมากกก ❤️"
"ของานคู่ ของานคู่ ของานคู่"
[/i]
"พี่ชินพี่เจมส์~~ หันมาทางนี้หน่อยค่าาา"
ผมหันไปตามเสียง เป็นเวลาเดียวกับที่คนข้างๆหันด้านตรงข้าม..
"อร๊ายยยส์ จุ๊บกันด้วยย"
..หอมจังวะ.. ผมกดจมูกลงไปที่เเก้มนิ่มๆ ก่อนจะโดนผลักออกอย่างรวดเร็วจากคนตรงหน้า
"มึงตั้งใจใช่ไหม..ไอ้สัส"
เสียงของดารารุ่นพี่พูดเบาๆอย่างโกรธๆ ก่อนจะมองหน้าผมอย่างหาเรื่อง..
ผมทำหน้าไม่รู้หนาวรู้ร้อน..
จริงๆผมไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ..แต่ผมแค่หันตามแฟนคลับเรียก..
ในขณะที่เจ้าดาราตกอับนี่หันไปคนละทางเท่านั้นเอง..
พูดถึงดาราหนุ่มรุ่นพี่ตกอับคนนี้แล้ว..เขาเป็นคนที่แปลกมาก
ผมโตมาในแวดวงไฮโซและดารา..คุณแม่ของผมเป็นดารา..คุณพ่อเป็นนักธุรกิจตระกูลมีชื่อ..
ช่วงเวลาทำงานตรงนี้ของผมเป็นแค่ช่วงเวลาคลายเครียด 'เล่นๆ' ก่อนที่ผมจะไปช่วยงานธุรกิจครอบครัวจริงๆ
ตอนที่ผมได้ร่วมงานซีรี่ย์ร่วมกันกับเขาครั้งเเรกนั้น..เขาดูไม่เหมือนคนที่เป็นดาราเลย..
ในขณะที่ดาราคนอื่นรู้ว่าผมเป็นใคร..พยายามสร้างConnection กับผม..
แต่ดารารุ่นพี่คนนี้กลับไม่อินังขังขอบ..เขาทำตัวเหมือนลุงแก่ๆพนักงานบริษัท..
แบบ..มาทำงานแล้วกลับบ้าน..อย่างงี้
เขาไม่สุงสิง ไม่สนิทชิดเชื้อกับใครเป็นพิเศษ..
แต่กลับทำหน้าที่ตัวเองได้ดีเหลือเชื่อ..
ทั้งรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย.. ตรงต่อเวลา..
นอกจากนี้พรสวรรค์ด้านการแสดงของเขาทำให้ผมถึงกับละสายตาจากเขาไม่ได้..
ละสายตาไม่ได้เลย...
และตั้งแต่นั้นมา..โดยไม่รู้ตัว..
เวลาว่างๆหรือเผลอ..ผมก็มักจะมองไปที่เขาอยู่เสมอ..
จนกระทั่งผลงานการแสดงออกมานั่นแหละ..
ดูเหมือนว่าแม้จะเป็นตอนถ่ายละคร..แววตาของผมยังมองไปที่เขาบ่อยๆ..
สำหรับเส้นทางสายอาชีพตอนนี้ของผม การกระทำแบบนี้ถือว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาเสียเลย..
แต่โชคดีที่มันกลายเป็นกระเเส..มีแฟนคลับกลุ่มหนึ่งสังเกตเห็นและจับให้เราเป็น'คู่จิ้น'กัน..
ผมว่ามันก็น่าสนใจดี..ผมจะได้รู้จักกับเขามากขึ้น..
แต่ดูเหมือนว่า..
เขาจะไม่อยากรู้จักกับผมเลยนี่สิ..
"มึงไปกินข้าวเที่ยงที่อื่นได้ไหม"
ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้ามองมาทางผมก่อนจะขมวดคิ้ว..
"มึงไม่ต้องสร้างกระเเสตลอดเวลาก็ได้..นี่ตอนกินข้าวนะเว้ย"
เวลาผมอยากจะรู้จักเขา..เป็นอันต้องถูกตีความว่าสร้างกระเเสเรื่อยไป..
ในหัวหมอนี่คิดอะไรอยู่บ้างนะ..
"ผมเปล่า..แค่ขอนั่งด้วย"
ผมพูดก่อนจะมองเขาด้วยสายตาปกติ..
"แม่ง..ทำตาเย่อหยิ่งใส่กูเหรอ เดี๋ยวปั๊ด!"
ผมกระพริบตาปริบๆ ไม่รู้จะเถียงอะไร..ผมทำอะไรก็ผิดไปหมดแหละสำหรับเขาคนนี้..
ซื่อตรง อ่อนต่อโลก..น่าแกล้งชะมัด..
"คุณต่อยมาผมจูบนะ"
ผมพูดเล่นๆเลียนแบบพระเอกในหนังที่ชอบใช้กำลังกับนางเอก..
"สัส อย่ามาติดตลก"
"คุณไม่มีอารมณ์ขัน"
"ไม่ใช่ไก่!"
ผมอึ้ง ..มุกนี้มันได้ว่ะ!..
"ขอทีเถอะ.."
"อะไร?"
"อย่าเล่นอีกนะมุกแบบนี้..บ่งบอกสติปัญญามากๆ..ผมเห็นแล้วเศร้าเเทนเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ.."
ผมพูดแซวเขา ก่อนจะโดนสายตาจิกกัดกลับมา
"อ๊ะ..แล้วนี่มึงไม่แสดงละครแล้วเหรอ ตอนนี้อ่ะ"
ดารารุ่นพี่ถามผม เขาหรี่ตามองก่อนจะอมยิ้ม..
ไม่รู้ตัวหรือไงว่าไอ้ท่าทางอย่างนั้นน่ะ..มันน่ารัก..เอ๊ย..น่าแกล้งขนาดไหนผมมองเขากลับด้วยสายตาเจ้าเล่ห์..
"แล้วคิดว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ"
ผมเหลือบสายตาไปทางพี่ๆในกองถ่าย มีบางคนยกโทรศัพท์มาแอบถ่ายพวกเราเอาไว้...
"หน็อย..ร้ายนักนะมึง"
คนตรงหน้าบ่นเบาๆก่อนจะไม่สนใจใยดีผมอีกต่อไป
ผมกินข้าวไปก็มองหน้าเขาอย่างพินิจพิจารณา..
เราต่างกันมากจริงๆ..
ในขณะที่ผม ซึ่งเกิดและโตในวงการมายา..
ผมรู้ว่าต้องทำตัวเช่นไร..วางตัวเช่นไร..
ภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่คนจดจำเรา
เเละมันสำคัญเสมอ..
ในขณะที่คนตรงหน้า..อยากจะทำอะไรก็ทำ..
นั่นทำให้เขามีข่าวลือเสียๆหายๆอยู่ตลอด
และมันยังทำให้เขาดูเป็นตัวของตัวเองอย่างเหลือเชื่อ
น่าแปลก..แต่ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน..
..................................
หลังจากทำงานเสร็จผมก็กลับมาคอนโด..
ผมไม่ค่อยอยากกลับบ้าน..
ที่บ้านไม่มีอะไรน่าสนใจนัก..
คุณแม่ของผมแต่งงานกับคุณพ่อทั้งๆที่รักกันเเค่ฉาบฉวย..
แต่เพราะเเม่เป็นภรรยาคนเเรก..และ'สมัยนั้น' ซูเปอร์สตาร์มีเทรนด์ที่ต้องแต่งงานกับไฮโซเท่านั้น..
พวกเขาจึงไม่เคยเลิกกัน..
จริงๆผมก็ไม่เคยเห็นพวกเขาทะเลาะกันหรอก..
เพราะพวกเขาไม่ค่อยได้คุยกันเลยต่างหาก..
โชคดีที่เป็นลูกคนเดียว
ครอบครัวทำให้ผมมีทุกอย่างที่ต้องการ
ได้รับการศึกษาดีๆ..ได้เรียนบริหารธุรกิจจากต่างประเทศ..
ตอนที่มีผู้จัดละครติดต่อมาครั้งแรกนั้น
เป็นช่วงที่ผมกำลังเบื่อๆพอดี..จึงตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย
ผมมองดูข่าวเกี่ยวกับ 'เจมส์' ดารารุ่นพี่ที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดัง..
ทำไมเขาถึงตกอับได้นะ..นอกจากพฤติกรรมที่พูดตรงๆของเขา...มีอะไรเลวร้ายกว่านั้นอย่างนั้นหรือ..ผมไล่อ่านข่าวเก่าๆเกี่ยวกับเขาด้วยความสนใจ..
"เจมส์! ดาราวัยเด็กหน้าใหม่ อัจฉริยะในวงการเเสดง!!.."
"..หลุด!! คลิป! ใครคือมือที่สามของปอยฝน!!"
"พระเอกหนุ่มยืนยัน มีปัญหากับผู้กำกับจริง!!.."
"..เอาอีกแล้ว..หนุ่ม จ. เลือดร้อน! ทะเลาะกับคนทั้งกอง..!!"
"ผกก.ดังแบน! พระเอกหนุ่มอัจฉริยะเเต่นิสัยเเย่!! อย่าหวังจะได้เกิด.."
และอื่นๆอีกมากมาย...
เอ้อ..ดูเหมือนจะมีอะไรเลวร้ายเยอะกว่าที่คิดเเฮะ..
ผมอ่านข่าวไปเเต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่ออะไรมาก
อย่างที่บอก ผมเกิดและเติบโตมาในวงการนี้..
ผมรู้ดีว่า 'สื่อ' นั้นเป็นได้ทุกอย่างที่อยากเป็น..
กำหนดทิศทางสังคม..เป็นได้ทั้งปลายดาบเเละโล่
เป็นได้ทั้งจริงเเละลวง..
ผมรู้ดีว่าเราไม่สามารถตัดสินมนุษย์คนหนึ่งอย่างฉาบฉวย เพียงเพราะได้อ่าน'ข่าว' เกี่ยวกับตัวเขาได้..
มนุษย์จริงๆซับซ้อนกว่านั้น.. ไม่มีใครดีหรือเลวไปทุกด้าน.. บางครั้งสิ่งที่เราเห็นกลับไม่ใช่มุมมองทั้งหมดที่มันเป็น
เราได้เห็นเพียงด้านที่ถูกเสนอออกมาเท่านั้น..
น่าแปลกที่ข้อเท็จจริงง่ายๆเช่นนี้ คนในสังคมส่วนใหญ่กลับมองไม่เห็นมัน..
ไหลไป โถมทับ ตามกระเเสที่มีคนกำหนดไว้.. ตัดสินคนที่ไม่เคยเห็นเเม้เเต่ตัวจริงได้อย่างง่ายดาย..
น่าขำ..แต่ก็เพราะเหตุนี้ วงการถึงยังอยู่ได้ กระเเสเป็นเหมือนสายลม
บางครั้งพยุงปีกให้เราลอยขึ้น..บางครากดทับเหมือนเเรงกดอากาศ..
..................................
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก.."
ผมเคาะประตูสีขาวตรงหน้า..สักพักใบหน้าหล่อเหลาก็โผล่ออกมาพร้อมขมวดคิ้ว
"มึงมาทำไมเนี่ย..วันนี้วันอาทิตย์"
"ผมไลน์มาก่อนแล้ว คุณไม่ตอบ"
"โอ๊ย กูไม่ได้เปิดอ่าน วันอาทิตย์กูหยุดงาน.."
ร่างตรงหน้าพูดอย่างใจร้าย..แต่ถึงกระนั้นก็ยอมเปิดประตูให้ผมเข้าห้องแต่โดยดี
"มึงมาถ่ายรูปกูลงไอจีอีกเหรอ"
คนตรงหน้าหันมาถามก่อนจะทำหน้างงๆ
ผมคิดว่ามันน่ารักดีเลยกดถ่ายรูปไปภาพนึง
เขาส่ายหัว
"ไม่อยากจะเชื่อว่ากูถึงจุดที่ต้องมาแสดงละครในชีวิตจริงด้วย"
ผมกดถ่ายวิดิโอสั้นๆก่อนจะพูดว่า..
"วันนี้มาอยู่กับพี่เจมส์นะครับ..พี่เจมส์คิดถึงน้องชินไหม.."
คนตรงหน้าหันมา ขมวดคิ้วมองผมอย่างไม่เข้าใจ ..ผมพยักหน้าบอกให้เขาพูดมันออกมา
"ควาย เล่นเหี้ยไรวะ"
ผมกลอกตา..กดจบวิดิโอแต่เพียงเท่านั้น..
"เออชิน ถ้ามึงเรียกกูดีๆ แบบน่ารักๆ พี่เจมส์คะ..อะไรแบบนี้ กูอาจเล่นด้วยนะ.."
ร่างตรงหน้าพูดก่อนจะนอนกระดิกเท้าบนโซฟา มือก็กดรีโมทไปช่องการ์ตูน..
"พี่สิต้องเรียกผมว่า น้องชินคะ.."
ผมพูดก่อนจะตระหนักได้ว่าตัวเองเผลอเรียกเขาว่า 'พี่' เป็นครั้งเเรก..
"ฮั่นแน่~~ มึงเริ่มเรียกกูว่าพี่แล้ว ไอ้เด็กขี้เก๊ก"
ผมส่ายหัว
"คุณทำตัวไม่สมกับเป็นพี่ นอกจากหน้าที่แก่กว่า"
"พูดมากสัส อย่าบังทีวี ไปทำไรก็ไป"
คนที่นอนขี้เกียจบนโซฟาใช้นิ้วเท้ายันตูดผมให้หลีกทางจากทีวี ก่อนจะกดเพิ่มเสียง..
"โตเป็นควายแล้วยังดูการ์ตูน..นี่เรื่องอะไร..Prince of tennis?.."
ผมพูดก่อนจะนั่งลงตรงพื้น..
"มึงพูดผิดนะไอ้น้อง ..โตเป็นคนหล่อแล้วยังดูการ์ตูนต่างหาก..ดูสิ..กีฬาเทนนิส นี่มันมิตรภาพลูกผู้ชายชัดๆ..เห้อ เท่ชิบหาย..มึงดูแบ็คแฮนด์ระดับเทพ.."
ผมมองจอทีวีตรงหน้า..
"สรุปมันเป็นการ์ตูนเทนนิสหรือการ์ตูนปล่อยพลัง..ตีอีกนิดลูกจะออกไปอวกาศได้อยู่แล้ว"
"เดี๋ยวเหอะมึง..ตั้งใจดูไป..เท็ตสึกะกู เทพสัส"
ผมมองคนตรงหน้าที่นอนย้วยอยู่บนโซฟา..
"คุณอยากไปตีเทนนิสจริงๆไหม..บ้านผมมีคอร์ดเทนนิสนะ.."
ทำไมอยู่ๆ..เราต้องเสนออะไรแบบนี้ให้ไอ้คนเพี้ยนนี้ด้วยวะ.."หือ ไม่อาวอ่ะ ..โอตาคุก็อยู่ส่วนโอตาคุไป ให้นักกีฬาเขาเล่นเหอะ"
น่าน..!! ขี้เกียจตัวเป็นขน..
ผมมองคนข้างๆที่นอนตาวาวอยู่บนโซฟา
ท่าทีสบายๆ ไม่มีการระวังตัวเลยเเม้เเต่น้อย..
ทำไมอยู่ใกล้ๆแล้วมันสบายใจได้ขนาดนี้วะ...หลังจากนั้นผมก็ฟังเขาพล่ามเรื่องพระเอกในการ์ตูน..เท็ตสึกะอะไรนั่น..
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่นเทนนิส..ตำแหน่ง..คำคมประจำตัว..รองเท้าที่เขาใส่!!(คือ..ผมต้องมารู้อะไรแบบนี้ไหม..?)
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมฟังเพลินเลยทีเดียว..
หลังจากการ์ตูนจบลง
เขาก็ชวนผมกินข้าวเย็นด้วยกัน..
"เราจะไปกินที่ไหน"
"ไอ้ชิน..มึงก็เห็นสภาพกูนะ น้ำยังไม่ได้อาบตั้งเเต่เช้า กูต้องทำกินเองอยู่แล้ว!!"
"ซกมกว่ะ"
"อ้าว ไอ้นี่ มึงเสือกมาเองนี่หว่า วันอาทิตย์มันวันหยุดกู.. ไม่อยากกินก็กลับไปกินบ้านมึงสิ"
"กิน"
ผมพูด ก่อนที่คนตรงหน้าจะทำตาโตแล้วยิ้มหวาน
"อิอิ ติดใจฝีมือใช่ป่าวไอ้บ่าว"
ผมยักไหล่ ก่อนจะโดนตบหลังป๊าบเข้าให้...
ไอ้นี่..เห็นตัวเล็กๆทำไมมือหนักนักวะ..
"มึงมาช่วยกูทำ"
หลังจากพูดอย่างนั้นเจมส์ก็จัดเเจงทุกอย่าง..เนื่องจากผมทำอะไรไม่ค่อยถนัดนัก
"มึงหยุดเลย..หั่นแครอทใครเค้าจับอย่างนั้น! มึงจะหั่นมือตัวเองหรือไง!"
"โอ๊ยย มึงจะกลัวน้ำมันกระเด็นใส่ทำไม! ตัวก็ตั้งโต สัส นี้กระทะโคเรียนลิงสามหมื่น ทอดยังไงก็ไม่กระเด็น!"
"พี่โกหก"
ผมพูด
"เออ! ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า!"
ร่างบางตรงหน้าพูดก่อนจะไล่ให้ผมไปหยิบเครื่องปรุงในตู้เย็น
"ซอสหอยนางรมมม ไม่ใช่ซีอิ๊วขาวว โอ๊ยยย กูจะบ้าตาย"
ผมกระพริบตาปริบๆ..โอเค..ผมไม่..
"..มึงนี่ฉลาดทุกอย่างนะไอ้ชิน ..แต่ใช้ชีวิตเองจะรอดไหมเนี่ย กูปวดหัวชิบหาย ไป ไปหยิบของให้กูหน่อย"
"เอาอะไรพี่"
"ยาพารา!!"
ผมเดินดุ่มๆไปหากล่องยา ก่อนจะไล่อ่านชื่อยาอย่างถี่ถ้วน
"พารานะมึง! ไม่เอาไทลินอล500 แม่งแรงไป พาราปกติ300มก. ไทลินอลเพิ่มอีกสองร้อยกูปวดหัว.."
ผมฟังเสียงบ่นกระปอดกระแปดออกมาจากหลังครัวของดารารุ่นพี่แล้วเกือบหลุดขำกับการเจ้ากี้เจ้าการในเรื่องเล็กๆน้อยๆของเขา
...................................
"อ้าว กิน!"
ผมมองคะน้าน้ำมันหอยกับต้มจืดหมูสับตรงหน้าด้วยความภูมิใจเล็กๆ..
ถ้าไม่ได้ผมที่เดินไปหยิบยาพาราให้เขา..อาหารคงไม่ออกมาเสร็จสมบูรณ์น่าทานขนาดนี้..
เมื่อกินเข้าไปก็รู้สึกตื้นตันด้วยความอร่อยทันที..
"อร่อยใช่ปะ"
"ก็ใช้ได้"
ผมพูดอย่างวางท่า และคนตรงหน้าส่ายหัว
"อย่าติดใจจนต้องมากินบ่อยๆละกัน"
เขาพูดก่อนจะทำปากจู๋ใส่ผม...โอ้ย..น่ารัก..
"ทำท่าอะไรของคุณเนี่ย ปัญญาอ่อน"
"เมื่อกี้ตอนน้ำมันกระเด็นใครวะเรียกกู พี่เจมส์ครับบ พี่เจมส์ครับบ ช่วยด้วยย อยู่เลยย"
คนตรงหน้าพูดก่อนจะยิ้มแล้วกลอกตามองบน...โอ๊ยยย ..ทำไมต้องทำท่าน่ารักด้วยวะ..
"ไหนเรียก พี่เจมส์ครับ ดิ้"
คนตรงหน้าทำสีหน้ากระดี๊กระด๊าจนน่าถีบ
"ไอ้เจมส์"
ผมเรียก และเขาขำเสียยกใหญ่
"เอาเถอะ..ว่าเเต่..มึงไม่ถ่ายอาหารลงไอจีเเล้วเหรอ.."
คนตรงหน้าถามก่อนจะยิ้มให้ผม..
อา..ผมลืมการสร้างกระเเสไปสนิท.."พี่เอามือมาวางข้างๆ เออ ไม่ต้องเอาหน้าเข้า ..เอาเเต่มือๆ เอาด้านใส่นาฬิกาดิ แฟนคลับจะได้จำได้..
ไม่เอาชูสองนิ้วดิ..มันดูตั้งใจไป.."
ผมบอกท่าทางให้เขาก่อนที่คนตรงหน้าจะทำตามอย่างเหนื่อยอ่อน..
"ยากชิบหาย..เอาโทรศัพท์มึงมาดิ้"
"พี่จะทำไร"
"เออ เอามา"
ผมมองคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยไว้ใจนัก ..แต่ก็ส่งโทรศัพท์ให้เขา..
ร่างบางรับไปก่อนจะกดถ่ายวิดิโอ..เขาถ่ายหน้าผม แพลนกล้องไปที่อาหาร ก่อนจะหันกลับมาถ่ายตัวเอง
"เออ กูเอง"
จบคลิป
"พี่ห่วยแตก"
ผมพูด
"มึงเรื่องมาก"
เขาพูด
"พี่เคยดูแฮชแท็กบ้างไหมเนี่ย แฟนคลับส่วนใหญ่บอกว่าพี่เป็นคนน่ารัก น่าเอ็นดู ส่วนผมก็เงียบๆ เคร่งขรึม มันเลยเข้ากันได้.."
"กูไม่ได้น่ารักน่าเอ็นดู ส่วนมึงก็แค่ไอ้เด็กมีปัญหาตัวโตแต่เพี้ยน ข้อเท็จจริงมันเป็นงี้ ให้กูทำไง"
"แถมพี่ยังต้องเรียกผมว่า 'น้องเจมส์คะ' ด้วย"
"คะ..คะน้าหมูกรอบอะสิ.."
ผมนิ่ง...มุกนี้มันได้ว่ะ..!!
"ผมขอนะพี่.."
"เออกูรู้แล้ว..มึงสงสารเพื่อนมนุษย์!"
คนตรงข้ามส่ายหัว ผมทานอาหารไปมองคนตรงหน้าไป..
ประหลาดใจที่ตนเองชอบความรู้สึกแปลกๆตอนทานอาหารเเบบนี้..
บรรยากาศมันสบาย วางใจได้.. เหมือนผมได้อยู่ในที่ที่เป็นตัวเองได้ในที่สุด
ทั้งๆที่ที่เเห่งนี้เป็นเเค่คอนโดเล็กๆ ..โต๊ะอาหารเล็กๆ.. อาหารธรรมดาๆ..
แถมคนตรงหน้าก็ไม่ได้อาบน้ำตั้งเเต่เช้า..
..ทำไมถึงได้รู้สึกดีแบบนี้นะ..