ตอนที่4 : อิสรภาพที่ปลายขอบฟ้า
ขบวนรถหรูฝ่าการจราจรที่ติดขัดของช่วงหัวค่ำบริเวณใจกลางเมืองเพื่อนำมาเฟียหนุ่มและผู้ติดตามกลับไปยังเซฟเฮ้าส์ ที่ๆจอมทัพเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด โรลสลอยซ์คันหรูคือรถประจำตำแหน่งของจอมทัพ แน่นอนว่าคนขับจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากวิคเตอร์ ซึ่งรู้ใจเจ้านายตนเองมากที่สุด
มิถุนานั่งนิ่ง ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ จริงๆแล้ว เขาไม่รู้จะกลั่นกรองความรู้สึกในตอนนี้อย่างไรต่างหาก กายขาวนั่งเบียดกับประตูรถฝั่งหนึ่งทั้งๆที่ที่นั่งเหลืออีกเยอะ ส่วนจอมทัพเองก็ไม่ได้พูดอะไร จริงๆแล้วไม่มีใครพูดอะไรต่างหาก รถราคาแพงระยับขนาดนี้แม้แต่เสียงเครื่องยนต์หรือเสียงเครื่องปรับอากาศยังไม่มีเลย ลูกน้องของมาเฟียใจร้ายก็ไม่พูดอะไรสักคำ มิถุนาเดาว่าพวกเขาคงไม่พูดอะไรเกินความจำเป็นอย่างแน่นอน
อึดอัด หวาดกลัว อยากร้องไห้...มิถุนารู้สึกอย่างนั้น ชีวิตต่อจากวินาทีนี้เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้...แค่มิถุนาเหลือบเห็นปืนพกของวิคเตอร์ เท่านั้นเขาก็หวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ จะโดนเป่าหัวตอนไหนก็ไม่รู้ถ้าจอมทัพเกิดไม่พอใจ เขาไม่เข้าใจ มีเรื่องไม่เข้าใจเต็มไปหมด เขาทั้งโกรธ ตื่นตระหนก กลัว และอื่นๆอีกมากมายแต่ที่ร้ายที่สุดคือเขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกเหล่านั้นออกไปได้ ตอนนี้เหมือนน้ำตาตกใน เขานั่งนิ่งเกร็งในรถของจอมทัพ มุ่งหน้าไปที่ไหนก็ไม่รู้
“จะนั่งเบียดประตูจนถลอกเลยหรือไง?”
เสียงทุ้มโหดของมาเฟียใจร้ายทำให้มิถุนาหันขวับ จอมทัพพูดโดยไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด ไม่ทันตั้งตัว แขนเล็กๆก็ถูกกระชากดึงให้ร่างที่เบาหวิวถลาขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง มิถุนาตกใจ ทั้งอาย ทั้งโมโห แก้มขาวขึ้นสี ร่างโปร่งบางทั้งดิ้นทั้งสะบัดเพื่อให้หลุดจากพันธนาการทั้งๆที่รู้ดีว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำได้ถึงขนาดนั้น
จอมทัพล็อคกายบอบบางไว้แน่นแนบอก เกยคางไว้ที่บ่าเล็ก ปลายจมูกแตะเบาๆที่ซอกคอ มิถุนาหน้าแดงก่ำ ไม่ใช่บนรถมีเพียงแค่เขากับจอมทัพ ยังมีเลขาของชายหนุ่มถึงสองคน! มิถุนาอายแสนอาย แม้เจย์และวิคเตอร์จะทำเป็นไม่สนใจ แต่แน่นอนว่าพวกเขารู้และเห็นทุกๆอย่าง
“ปละ...ปล่อย คุณทำบ้าอะไรของคุณ!” เสียงหวานวีนลั่น
“หึ...มากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว อย่าสะดีดสะดิ้งนัก"
“คุณ อุ๊บ!”
มิถุนาดิ้นขลุกขลัก ริมฝีปากถูกบดขยี้ลงมาอย่างไม่ปรานี ฝ่ามือร้อนที่ลูบคลึงบริเวณสะโพกทำให้เขาเสียววูบไปทุกเส้นประสาท จอมทัพส่งลิ้นเข้ามากวาดลิ้มชิมรสหวานหอมของนายแบบคนสวย เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ น่ากลั่นแกล้งอะไรเช่นนี้ ยิ่งมิถุนาร้องไห้ อ้อนวอน เขาก็ยิ่งไม่เห็นใจ ซ้ำยังอยากกระทำแรงๆเรื่อยไป
“อื้อ!” จนกระทั่งละริมฝีปากออกมา มิถุนาหอบฮั่ก หน้าแดงจัด ทั้งอายทั้งหายใจไม่ทัน ริมฝีปากฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำลายจากพิษจูบแสนรุ่มร้อน เขาไม่กล้ามองไปด้านหน้าด้วยซ้ำ
“ดิ้นอีกสิ" จอมทัพว่าเรียบๆ มิถุนารับรู้โดยสัญชาติญาณว่านั่นคือคำขู่
“ปล่อยผม!”
“เอางั้นหรือ" มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้ม ค่อยๆไล้มือไปตามขาเรียวใต้สกินนี่เนื้อบางสีดำ ก่อนเลื่อนกอบกุมส่วนสำคัญช้าๆ แล้วคลึงมันเบาๆ มิถุนาตกใจแทบสิ้นสติ เขาไม่คิดว่าจอมทัพจะกล้าทำเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่น แต่มิถุนาก็ไม่สามารถสะกดกั้นความรู้สึกไว้ได้ เขาเม้มปากแน่น พยายามกลั้นเสียงครางอันเกิดจากความรู้สึกหวามไหว จอมทัพดูถูกเขาด้วยการกระทำหยาบช้า แต่เขากลับรู้สึกสุขสมไปกับมันอย่างห้ามตนเองไม่ได้
“อ๊ะ...คุณ อย่า...อ้ะ"
"ชอบใช่ไหมล่ะ หึ...ครางออกมาสิ ฉันอยากฟัง" นิ้วยาวเลื่อนขยี้ตรงปลายเบาๆ มิถุนาแทบทนไม่ไหว ร่างบางสั่นเทิ้มอย่างน่ากลัว เขาไม่สามารถปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้ เขาไม่หน้าด้านพอที่จะสำเร็จความใคร่ต่อหน้าคนอื่น แต่ก็รู้ดีว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะแย่ มิถุนาเรียนรู้อย่างหนึ่ง นั่นคือการแลกเปลี่ยน จอมทัพแค่อยากบีบบังคับให้เขาขอร้องและยื่นข้อแลกเปลี่ยน มิถุนาน้ำตาคลอเบ้า ค่อยๆเอื้อมมือแตะมือจอมทัพเบาๆ ก่อนยืดตัวขึ้นจุมพิตมาเฟียหนุ่ม
“ฮึก...ผมขอร้อง อย่าทำแบบนี้กับผม" เสียงหวานอ้อนวอนอย่างสั่นเครือ แต่จอมทัพมองว่ามันช่างน่ารักเหลือเกินจนอดใจไม่ไหว ต้องดูดปากอีกฝ่ายแรงๆ
“แล้วฉันจะได้อะไร"
มิถุนาเม้มปากแน่น “เมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงเซฟเฮ้าส์คุณ...”
“อ่าฮะ"
“ผมยอมทุกอย่าง ได้โปรด...” แพขนตาชุ่มน้ำตา จอมทัพกดยิ้มมุมปาก เขารู้สึกพอใจที่มิถุนาผู้แสนเย่อหยิ่งเปิดปากอ้อนวอนเขา
มิถุนาถูกรั้งขึ้นจูบอย่างดูดดื่ม ขาเรียวตวัดคร่อมตักอีกฝ่ายตามแต่จะถูกจัดท่า กลีบปากบนและล่างถูกสลับกันดูดดึง จอมทัพลูบไล้สะโพกแน่นอย่างมันมือ อะไรบางอย่างตื่นตัวอยู่ใต้กางเกงแสล็กและทิ่มต้นขามิถุนา มิถุนาพยายามกลั้นน้ำตา ทั้งๆที่ในใจร้องไห้แทบเป็นสายเลือด
“อา...ฉันอยากกินนายตอนนี้ชะมัด มิถุนา"
เหตุผลเดียวของการชิงตัวมิถุนามา คือมาเฟียหนุ่มแค่ถูกใจเท่านั้นเอง
เซฟเฮ้าส์ของจอมทัพ เศรษฐโชติ คือสิบชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานตระกูลหวังที่สูงระฟ้า มีลิฟท์ขึ้นไปโดยตรง พรั่งพร้อมไปด้วยฟิตเนส โรงหนัง ห้องซ้อมยิงปืน ส่วนพักผ่อน สระว่ายน้ำ ห้องสมุด ครัวใหญ่ยักษ์ ที่ซุกหัวนอนของลูกน้องระดับล่างไปจนถึงระดับสูงนับร้อย สองชั้นบนสุดคือส่วนที่พักของจอมทัพ เปิดปิดด้วยระบบแสกนรูม่านตา มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ยุ่มย่ามเข้าไปในที่ๆเป็นส่วนตัวที่สุดสำหรับมาเฟียหนุ่ม นั่นคือเลขาทั้งสอง พ่อบ้านเจียง และพ่อของเขา
จอมทัพไม่เคยพาใครมาที่นี่ แน่นอนว่าเขาหวงความเป็นส่วนตัวที่สุด คู่ควงทุกคนไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาในอาณาเขตของเขา น้อยคนนักที่จะได้เหยียบย่างเข้าไป แต่วันนี้มิถุนาคือคนที่ถูกเลือก มิถุนาไม่รู้จริงๆว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี แน่นอนเขาไม่ดีใจหรอก เพราะมิถุนาไม่ใช่คู่ควง มิถุนาคือกระต่ายของจอมทัพ
เซฟเฮ้าส์ของจอมทัพตกแต่งอย่างหรูหราเทียบได้กับโรงแรมห้าดาว ห้องนอนของมาเฟียหนุ่มกรุด้วยกระจกรอบด้านมองเห็นกรุงเทพฯยามค่ำคืนและแสงสีเกือบทั้งหมด แต่มิถุนาไม่มีโอกาสได้สังเกตมันสักนิด ทันทีที่ประตูเหล็กบานหนาเปิดออก มิถุนาย่างก้าวเข้าสู่อาณาจักรของจอมทัพ มาเฟียหนุ่มปล้ำจูบกระต่ายน้อยของเขาตั้งแต่หน้าประตูห้อง ไม่มีใครตามเข้ามา พวกเขารู้ดีว่านายท่านต้องการเวลาส่วนตัว
มิถุนาถูกโยนลงบนเตียงกว้าง ไม่มีการเล้าโลมใดๆ เขาถูกจับนอนคว่ำ สั่งให้อ้าขา น่าอายนักแต่ก็ต้องทำ เพราะถ้าไม่ยอมทำ จอมทัพจะเป็นคนทำเองแล้วเขาคงเจ็บหนัก มิถุนายอมให้อีกคนเคลื่อนไหวอยู่บนตัวเขา กระแทกกระทั้นเขามา มือเล็กๆทั้งสองจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น มิถุนากัดผ้าปูที่นอนระงับเสียง เขาไม่อยากให้จอมทัพได้ยินเสียงอันแสนสุขสมของเขา น้ำตาเขาไหลริน มันไม่ได้เจ็บมากมายนัก แต่มันรู้สึกดีจนมิถุนาไม่สามารถโกหกตัวเองได้ ทุกครั้งที่จอมทัพเคลื่อนกายกระแทกจุดกระสันต์ มิถุนาแทบกรีดร้องลั่นและรัดของของมาเฟียหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊ะ...อ๊าาา"
“อาส์...นายรัดของฉันแน่นขนาดนี้เลยเหรอ เดี๋ยวมันก็ขาดหรอก อ้าขากว้างๆ ผ่อนแรงหน่อย" มิถุนาสมเพชตัวเองเหลือเกิน คำพูดต่ำๆนั่นทำให้เขาอับอายยิ่งนัก แต่ช่องทางคับแคบที่รัดจอมทัพไว้แน่นนั้นสวนกับความคิดอย่างสิ้นเชิง มิถุนาเกลือกใบหน้าไปมา เอื้อมมือสัมผัสบั้นท้ายกลมกลึงของตนเองเบาๆและแหวกออกให้ช่องทางค่อยๆคลาย
“ดี...ชอบล่ะสิ เวลาที่ฉันกระแทกนายตรงนี้น่ะ" สะโพกหนาถอนกายออก ย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนส่งแรงกระแทกเข้าไปจนมิถุนาหวีดลั่น
"อ๊ะ อ๊ะ...อ๊าาา อย่า...มะ...ไม่...อ๊ะ”
"หึหึ" มาเฟียหนุ่มส่งด้ามรักเข้าเสียดสีอีกครั้ง รุนแรง เร่าร้อน จนมิถุนาแทบขาดอากาศหายใจตายเสียตรงนั้น แรงกระแทกนั้นแสนหนักหน่วง สะโพกหนาทั้งควง บดขยี้วนในตัวช่องทางคับแคบจนมิถุนาร้อนรุ่มเป็นไฟ ความรู้สึกดีไต่ขึ้นเรื่อยๆจนแทบหลอมละลาย เขาผวาทุกครั้งที่จอมทัพถอนกายออก และสุขสมทุกครั้งที่อีกฝ่ายกระแทกกายเขา จอมทัพคงมองว่าเขาร่านน่าดูที่เป็นได้ถึงขนาดนี้...
อีกครั้ง...และอีกครั้ง...
ไม่เคยพอ ไม่เคยเต็มอิ่ม เหมือนฟองน้ำที่ไม่เคยซับน้ำได้เต็ม จอมทัพทั้งกอด จูบ กระแทกกระทั้นเข้าไป ไม่ปรานีปราศรัย เขาหลั่งในเพราะรู้ดีว่ามิถุนาไม่มีวันท้อง น้ำรักไหลออกมาตามเรียวขาขาว มิถุนาแทบขาดอากาศหายใจอยู่ตรงนั้น แต่จอมทัพไม่เคยปล่อยให้เขาหยุด ไม่เคยเลยสักวินาที
มิถุนาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเสียงประตูห้องนอนเปิดออก ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆเมื่อไฟในห้องถูกเปิด เขากวาดตาไปรอบๆ ห้องนอนใหญ่ไม่คุ้นตา อาการเมื่อยล้าปรากฏอยู่แทบทุกสัดส่วน กายขาวดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเมื่อเห็นใครอีกคนเดินเข้ามาใกล้ มิถุนาคลับคล้ายคลับคลาว่านั่นคือเลขาของจอมทัพที่ชื่อว่าเจย์ เขาถดกายหนีไปจนสุดหัวเตียงทั้งๆที่รู้ว่ามันคงช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ในถิ่นของมาเฟีย เขาต้องตื่นตัวและกลัวไว้ก่อน มิถุนาเรียนรู้อีกอย่างคือหากดิ้นรนขัดขืนไม่ได้ ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากรู้สึกกลัวให้มากที่สุดเท่านั้น เพื่อให้ความรู้สึกยืนยันว่าตัวเองยังคงมีชีวิต
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมมาพาคุณไปทานอาหารเย็น" เจย์ว่าด้วยเสียงคล้ายจะใจดี แต่มิถุนาไม่คิดแบบนั้นเท่าไหร่นัก เขาไม่ไว้ใจใครเลยสักนิด
“ผม...ผมไม่หิว"
“นายท่านสั่ง คุณต้องไปครับ"
“ผมไม่ไป"
“คุณมิถุนา...” เจย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "กรุณาไปเถอะครับ มันจะเป็นการดีต่อตัวคุณเอง นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว" เจย์ว่า เดินไปเปิดประตูวอล์คอินโคลเซ็ตออก แล้วดึงชุดคลุมอาบน้ำออกมาจากราว
เจย์ค่อยๆประคองมิถุนาให้ลุกขึ้นยืน นายแบบหนุ่มรู้สึกขาแข้งสั่น แต่เขาก็ฝืนลุกยืนจนได้ เจย์ช่วยเขาสวมเสื้อคลุมราวกับเขาเป็นตุ๊กตา แต่มิถุนาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะปฏิเสธ เขายอมให้เลขาหนุ่มทำอะไรกับร่างกายเขาตามใจชอบ มิถุนาไม่รู้ว่าตนเองปลงแล้วหรือยัง แต่...เขายอมแล้ว เขายอมตั้งแต่จอมทัพหิ้วเขากลับมาที่นี่แล้ว จะทำอะไรก็ทำ...มิถุนาไม่มีสิทธิ์ ไม่มีปาก ไม่มีเสียงอยู่แล้ว
เจย์เดินนำเขาออกไปจากห้องนอน ตอนที่เขาโดนลากเข้ามา เขาไม่ได้มองสำรวจอะไรเลย แต่ตอนนี้มิถุนาได้เห็นที่อยู่ของจอมทัพอย่างเต็มตา ที่อยู่ของมาเฟียหนุ่มตกแต่งอย่างร่วมสมัยด้วยโทนสีดำ ปูพรมสีมารูนตลอดแนวทางเดิน มีรูปวาดแนวโมเดิร์นอาร์ตแขวนประดับตามฝาหนัง ไฟสีเหลืองนวลจากแชนเดอร์เลียรูปแบบทันสมัย การตกแต่งไม่ได้หรูหรามากหากแต่สวยงามและลงตัว สมกับคำว่าบ้านอย่างแท้จริง มิถุนาอดคิดไม่ได้ว่าสถานที่ส่วนตัวของมาเฟียจะเป็นแบบนี้ เขานึกว่าจะมีปืนประดับตามฝาหนัง กำแพงเจือกลิ่นคาวเลือดเสียอีก
เลขาร่างโปร่งเดินนำเขาลงไปตามบันไดวน มิถุนาก้าวตามลงไปอย่างระมัดระวัง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของคนหลายชีวิตรวมถึงชายกระโปรงของเมดสาวที่สะบัดพริ้วไหวไปมา กลิ่นอาหารทำเอาน้ำลายสอ มิถุนาเม้มปากแน่น เมื่อปลายเท้าแตะลงบนพื้นแกรนิตโต้สีดำสนิท
“มาได้แล้วเหรอ?” น้ำเสียงยียวนกวนประสาททำให้มิถุนานึกฉุนกึก เพราะใครกันที่ทำให้เขาเป็นอย่างนั้น
“ถ้าคุณไม่อยากร่วมโต๊ะกับผม ก็ปล่อยผมกลับ" มิถุนาเอ่ยเสียงกระด้าง
“หึ...” จอมทัพนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เขาประสานมือไว้บนตัก นั่งไขว่ห้างสบายๆในชุดลำลอง เสื้อคาร์ดิแกนแบบสวมและกางเกงยีนส์ขายาวสบายๆ มิถุนาแทบไม่เชื่อสายตาแต่ก็ไม่ได้แสดงความเห็นอะไรออกไป จอมทัพแสยะยิ้ม "ใจร้อนจริงนะ เพิ่งจะมาไม่ถึงวัน คิดจะกลับเสียแล้ว"
“ผมไม่ได้อยากมาที่นี่!"
เสียงหวานที่ตวาดแหวทำเอาทั้งห้องอาหารเงียบสนิท ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีใครกล้าขึ้นเสียงกับนายท่าน พ่อบ้านเจียงยืนนิ่งไม่กล้าขยับ เช่นเดียวกับเจย์และวิคเตอร์ มิถุนาชะงักอยู่ข้างเก้าอี้ที่วิคเตอร์เป็นคนเลื่อนให้ เขาไม่ยอมนั่งลงไป...
จอมทัพเหลือบตามองคนถือดีตรงหน้านิ่งๆ เขาแค่อยากรู้ว่ามิถุนาจะดื้อดึงไปได้อีกสักกี่น้ำ มาเฟียหนุ่มนึกสนุก ไม่เคยมีใครขัดใจเขามาก่อน ยิ่งกับคนที่โดนเขาปล้ำมาแล้วหลายครั้งเช่นนี้ยิ่งไม่ควรใหญ่ แต่ใจทรนงของนายแบบหนุ่มนั้นช่างน่านับถือเสียจริง ทั้งๆที่เป็นของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มิถุนาก็ไม่เคยยอมลงให้เขาสักครั้ง
“ตกลงจะกินไม่กิน"
“ผมจะกลับ"
“พ่อบ้านเจียง เสิร์ฟอาหารได้เลย" จอมทัพไม่สนใจ เขาไม่ชายตามองมิถุนาที่ยืนจ้องเขม็งด้วยซ้ำ มาเฟียหนุ่มเลือกที่จะเรียกพ่อบ้านให้ทำตามหน้าที่ต่อ โดยละเลยใครบางคนที่ยืนไม่พอใจเอาไว้
“คุณจะขังผมไว้ถึงเมื่อไหร่ คุณไม่มีวันกักตัวผมได้ตลอดไปหรอกนะ!” มิถุนากระแทกเสียง ดวงตากลมโตจ้องใบหน้าคมคร้ามที่ลงมือทานอาหารอย่างไม่ยอมแพ้
“เดี๋ยวนายจะได้รู้ว่าฉันทำได้หรือไม่ได้" จอมทัพเหยียดปากอย่างไม่ใส่ใจ เขาคีบซูชิพอดีคำเข้าปาก
“คุณมันโรคจิต!”
“วันไหนที่มีงานนายออกไปทำได้ วิคเตอร์จะเป็นคนไปส่งนาย" จอมทัพเหลือบตามอง "แต่นายต้องกลับมาที่นี่"
มิถุนารู้สึกโกรธจนจี๊ดสมอง "ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วย! คุณมีสิทธิ์อะไร"
“หึ...จนถึงขนาดนี้นายยังถามหาสิทธิ์ของฉันในตัวนายอีกหรือไง?” จอมทัพเหลือบตามองอย่างถือไพ่เหนือกว่า มิถุนาเม้มปากแน่น นั่นคือเรื่องจริง เขาทำอะไรไม่ได้เลย
“ผมต้องอยู่ที่นี่ไปจนถึงเมื่อไหร่?”
“จนกว่าฉันจะเบื่อ"
“คุณจะบ้าเหรอ?”
ตึง!
มิถุนาตบโต๊ะลั่นจนทั้งห้องเงียบอีกครั้ง เพียงแต่จอมทัพไม่สะทกสะท้านใดๆ เขาแสยะยิ้มบางๆ
“จะบ้าแค่ไหนก็เอาเถอะ นายรู้ไว้ซะว่านายไม่มีวันหนีฉันได้"
“ผมรู้...ผมรู้ว่าผมหนีคุณไปไม่ได้วันนี้ แต่สักวันผมจะหนีคุณไปให้ได้ ต่อให้คุณตามหา ร้องขอแค่ไหนผมก็ไม่มีวันกลับมาเจอหน้าคุณอีกเป็นอันขาด"
มิถุนาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างท้าทาย เขาหมุนตัวกลับออกไปทางเดิมอย่างทรนง มิวายที่เจย์จะรีบเดินตามไป
“เจย์ ไม่ต้อง ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน”
มิถุนาเหลือบมองหน้ามาเฟียหนุ่มอย่างกินเลือดกินเนื้อ เขาก้าวกลับขึ้นไปยังชั้นบน หัวตาร้อนผ่าว มิถุนาไม่อยากอ่อนแอตรงนี้ ไม่อยากร้องไห้ที่นี่ ไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครบางคนได้เห็น เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วที่จะกลั้นน้ำตา แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ มิถุนาได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าจะมีครั้งสุดท้ายหรือไม่ ไม่รู้จะต้องร้องไห้ไปอีกสักแค่ไหน
มิถุนาไม่รู้จะหนีไปตรงไหน ประตูเหล็กบานใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าออกส่วนที่พักของจอมทัพล็อคแน่นสนิท ต่อให้ใช้แรงจนหมดก็คงไม่สามารถเปิดออกไปได้ ที่เดียวที่มิถุนารู้จักคือห้องนอนของมาเฟียหนุ่ม เขาไม่อยากอยู่ที่นั่นแต่ก็จำต้องยอมฝืนใจ มิถุนาไม่มีที่ไปแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าไปอยู่ในที่ๆเกะกะลูกตาใครเข้า จะโดนยิงทิ้งไหม ทางเลือกที่เคยมีมากมายกลับกลายเป็นไม่มีเลย มิถุนาไม่ต้องเลือก เขาก็ไม่มีที่ไหนให้หนีไปได้อีกแล้ว
กายขาวซุกนิ่งอยู่บนเตียงกว้าง ผ้าห่มผืนหนาไม่ทำให้รู้สึกอุ่นเลยสักนิด มิถุนานอนไม่หลับทั้งๆที่พยายามจะข่มตามากเท่าไหร่ก็ตามที...เขาหิว จริงๆเขาหิวมาก หลายวันมานี้แทบไม่ได้กินอะไรเป็นมื้อเลย แต่ท่าทางดูถูกของจอมทัพทำให้เขาแขยงที่จะร่วมโต๊ะด้วย มันเลวร้ายเกินกว่าจะรับไหว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นภายในห้อง มิถุนาสะดุ้ง คราแรกนึกว่าเป็นของมาเฟียหนุ่ม แต่เสียงกลับดังมาจากกระเป๋าสะพายของมิถุนา กายขาวลุกจากเตียงกว้าง ก้าวไปยังกระเป๋าของตนเองที่วางอยู่บนโซฟาเล็กๆปลายเตียง มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่รู้จะอธิบายกับใครยังไงดี แน่นอน...คนที่ไม่อยากคุยมากที่สุดในตอนนี้คือเฌอปราง แต่ก็เป็นเฌอปรางที่โทรมา...ที่คอยห่วงเขาเสมอ
มิถุนาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ พยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ เฌอปรางจะต้องไม่เป็นห่วงเขา...แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว
“ฮะ...ฮัลโหล"
เสียงปลายสายขาดตอนไปเพียงสองสามวิ เสียงแหลมๆของเฌอปรางก็ดังมา พร้อมกับเสียงดังๆของตะวันที่พยายามแทรกอยู่ตลอดเวลาจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง
(มิ! นี่อยู่ไหนเนี่ย ฉันรู้เรื่องหมดแล้วนะ พี่นัชชาบอกหมดแล้ว ทำไม...ทำไมมิไม่บอกฉันล่ะ เราหาทางแก้กันได้นะ ฮึก...) เฌอปรางร้องไห้ เพื่อนสาวผู้เข้มแข็งของเขาต้องเสียน้ำตาให้เขา...มิถุนาแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็เกิดขึ้นไปแล้ว
“ปราง...”
(ได้ยินฉันไหมมิ โถ่...ทำไมกัน ทำไมต้องเป็นนายด้วย)
“ปราง...ปรางใจเย็นๆนะ ฉันสบายดี" มิถุนาพยายามทำน้ำเสียงร่าเริงให้มากที่สุด เขาสูดลมหายใจเบาๆ "ฉันอยู่เซฟเฮ้าส์คุณจอมทัพ สบายดี เขาไม่ได้ทำอะไรฉัน"
(ฮะ อะไรนะ! เซฟเฮ้าส์!) เฌอปรางตะโกนลั่น (ตรงไหน...บอกมา เดี๋ยวฉันจะรีบไปรับ)
มิถุนายิ้มออกมาบางๆทั้งๆที่หัวใจแทบสลาย เฌอปรางพูดราวกับเป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนเล่นซ่อนแอบงั้นแหละ "ปราง...ฟังนะ เรื่องนี้เธอช่วยฉันไม่ได้หรอก แต่ไม่ต้องห่วง จริงๆนะ" มิถุนาฉีกยิ้มอย่างขื่นขม "ฉันสบายดี ฉันเอาตัวรอดได้ เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรฉัน ฉันต้องอยู่ที่นี่สักพัก แต่ฉันจะได้เจอเธอเวลาออกไปทำงานนะปราง"
(มิ...ทำไม...ทำไมต้องทำอย่างนี้...) น้ำเสียงตัดพ้อดังขึ้นจากปลายสาย (หนีเถอะมิ...มากับฉัน ฉันจะพาเธอไปที่ไหนสักที่ คุณท็อป...คุณท็อปไง คุณท็อปจะต้องช่วยได้แน่ๆ) มิถุนาได้ยินเสียงตะวันตะโกนว่าใช่ดังมาตามสาย พร้อมกับกดดันให้แทนไททำอะไรสักอย่าง
“ฉันรู้...คุณท็อปคงจะทำอะไรได้สักอย่าง แต่ฉันไม่อยากให้ทำ...ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อน ฉันเดือดร้อนคนเดียวก็พอแล้วนะปราง...”
(มิ ไม่เอาแบบนี้นะ จะบ้าหรือไง เราเป็นเพื่อนกันนะ!)
มิถุนาร้องไห้เงียบๆ เขาไม่ต้องการทำให้ใครเดือดร้อนเพราะเขาจริงๆ แม้อยากจะหนีเท่าไหร่ แต่มันไม่มีวันเป็นไปได้ ของเล่นอย่างเขา รอแค่วันที่เจ้าของเพื่อ รอวันที่มันพัง...แล้วเขาจะเป็นอิสระ “อืม...ขอบใจนะ คะ...แค่นี้ก่อนนะปราง ไว้จะติดต่อไป"
มิถุนารีบกดตัดสาย เขาทนคุยไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เขามันอ่อนแอ ไม่สมควรที่จะได้รับความเห็นใจใดๆทั้งนั้น
มิถุนากดปิดเครื่อง เขาเม้มปากแน่น ไม่รู้จะทำอะไรดี เขาไม่ง่วง นอนไม่หลับเลยสักนิด มันน่าอึดอัดเพราะเขาไม่รู้จะทำตัวเช่นไร เขาจะโดนฆ่าตอนไหน จะโดนกระทำย่ำยียังไง เขาไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้เลยสักนิด ชีวิตที่เหลืออยู่ทำได้แค่เพียงรองรับอารมณ์ของมาเฟียหนุ่มเท่านั้น
ตากลมกวาดตามองไปรอบๆห้องกว้างอย่างท้อแท้ ผนังกรุกระจกยังสะท้อนกรุงเทพมหานครทั้งเมืองเข้าสู่นัยน์ตา ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือห้องของมาเฟียหนุ่ม มิถุนาคงรู้สึกชอบมากกว่านี้...ห้องของจอมทัพกว้างมาก แต่แทบไม่มีอะไรเลย ทั้งห้องถูกจัดเก็บอย่างเรียบร้อย ยกเว้นสิ่งเดียวที่สะดุดสายตามิถุนา นั่นคือกรอบรูปเล็กๆบนหัวเตียง
กายขาวทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียง มือเล็กๆเอื้อมหยิบกรอบรูปเก่าๆนั้นมาไว้ในมือ ภาพถ่ายสีจางของผู้หญิงหน้าตาสะสวยและเด็กน้อยในอ้อมกอดที่ยิ้มแย้มให้กล้อง จอมทัพงั้นหรือ? ยิ้มแบบนี้ก็เป็นด้วยหรือไง...มิถุนาอดค่อนขอดในใจไม่ได้
“ซนจริงนะ...”
ไม่ทันได้รู้ตัวว่าประตูเปิดออกเมื่อไหร่ แต่รู้ตัวอีกที เสียงทุ้มเข้มก็ดังขึ้นที่ปลายเตียงเสียแล้ว มิถุนารีบวางกรอบรูปลงที่เดิมแล้วถดกายหนีไปจนเกือบสุดเตียง จอมทัพยืนอยู่ตรงหน้า ทั้งๆที่คิดว่าชิน ทั้งๆที่คิดว่าควรเลิกกลัวได้แล้ว แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มิถุนาก็ยังกลัวมาเฟียหนุ่มจับใจ ครั้งนี้ก็เช่นกัน...
“คะ...คุณ เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่" เสียงหวานถามสั่นพร่า
“ฉันจำเป็นต้องตอบด้วยหรือไง? ก็ในเมื่อห้องนี้มันเป็นห้องของฉัน"
“ผมจะไปนอนที่อื่น" มิถุนารีบถดกายจะหนีลงจากเตียง แต่ไม่ทันการ...เมื่อจอมทัพเอื้อมมือดึงข้อเท้าเขาเอาไว้แล้วกระชากทีเดียว จนมิถุนาถลาเข้าสู่อ้อมกอดกว้างอีกครั้ง
“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ที่นอนของนายคือที่นี่ ข้างๆฉัน" จอมทัพเอ่ยเสียงดุดัน
“ปล่อย!!! ผมเจ็บ" มิถุนาดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดกว้าง เขาพยายามผลักอีกฝ่ายออกไป กลัว...มีแต่ความกลัวเกิดขึ้นภายในจิตใจ เขากลัวจอมทัพจะทำแบบเดิมกับเขา
“เลิกดิ้นได้แล้ว! อยากเจ็บตัวหรือไง!” มาเฟียหนุ่มพลิกตัวทีเดียว นายแบบคนสวยก็หล่นลงไปกองใต้ร่างแทบจะทันที มิถุนาหลับตาแน่น กลัวเหลือเกิน มิถุนาเรียนรู้แล้วที่จะยอม แต่ไม่ใช่ยอมแพ้ บางครั้งเขาก็อดไม่ได้ที่จะพยศ แต่ศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่นั้นแทบไร้ค่าเมื่อถูกทำลายลงบนเตียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่อยากเจ็บตัว ก็แค่ยอม...มิถุนารู้แค่นี้...แย่เหลือเกิน แย่จนอยากจะร้องไห้
“ผม...ฮึก...ผมขอร้อง ผมยังเจ็บอยู่เลย อ๊ะ...” สัมผัสเบาๆที่แหวกสาบเสื้อคลุมเข้ามาทำเอามิถุนาสะดุ้งวาบ ใบหน้าจอมทัพอยู่ห่างแค่คืบเดียว
“ยกสะโพกขึ้น"
“ผม...อ๊า...” มิถุนาร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายรั้งท่อนขาเขาขึ้นตั้งฉาก
“จะให้ฉันทำหรือทำเอง เร็ว!”
มิถุนาตัวสั่นราวกับลูกนก เขาค่อยๆอ้าขาออกและยกสะโพกขึ้นอย่างที่อีกฝ่ายสั่ง ไม่เข้าใจไปเสียทุกครั้งว่าทำไมต้องทำ...ทำไปทำไมกัน...กลิ่นกายของจอมทัพ ลมหายใจของจอมทัพ ทุกสิ่งทุกอย่างของคนๆนี้ทำให้หัวใจดวงเล็กๆทั้งเจ็บปวดทั้งหวามไหวไปในเวลาเดียวกัน
จอมทัพกดปลายนิ้วเข้าที่ช่องทางคับแคบเบาๆก่อนแทรกเข้าไปช้าๆ เขาขยับนิ้วไปมาเบาๆในช่องทางสีสวย ก่อนดึงออกมาอย่างเชื่องช้าไม่แพ้ตอนที่แทรกเข้าไป คราบน้ำรักมากมายไหลย้อนออกมาตามนิ้วยาว มิถุนาบิดตัวไปมาอย่างอับอาย ก่อนที่จอมทัพจะละออกไป
“นายนี่นะ ทั้งพยศทั้งกวนประสาท ถ้าไม่สวยถูกใจฉัน ฉันคงไม่ใส่ใจขนาดนี้หรอก" คำพูดดูเหมือนจะดูดี แต่มันเต็มไปด้วยความเยาะหยัน มิถุนาเม้มปากแน่น ช่องทางด้านหลังว่างโล่งเมื่ออะไรต่อมิอะไรถูกเอาออกมา
“ปล่อยผมไปสักที"
“หึ...”
จอมทัพไม่พูดอะไร เขาเดินตรงไปที่โทรศัพท์ภายในห้อง ก่อนกดต่อสายไปยังพ่อบ้านเจียง
“ฮัลโหล...พ่อบ้านเจียง ซุปหูฉลามที่สั่งเมื่อกี้เสร็จหรือยัง ดี...ยกเข้ามาเลย ก่อนที่คนแถวนี้จะเป็นลมตายไปเสียก่อน"
มิถุนามองอีกคนที่วางโทรศัพท์ลงแล้วถอดเสื้อออกอย่างไม่เข้าใจ เขาเบือนหน้าหนีทันทีที่กล้ามเนื้อแน่นๆปะทะสายตา จอมทัพกดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจที่เห็นปรางแก้มแดงนั่นเรื่อสี
“ฉันจะอาบน้ำ นายก็จัดการกินอะไรให้มันเรียบร้อยซะ อย่าดื้อให้มันมาก ถ้าคืนนี้อยากจะนอนดีๆ"
มิถุนาเม้มปากแน่น คำก็ขู่ สองคำก็ขู่ เขาไม่เคยเข้าใจอะไรเลยทั้งนั้น กรงขังสีทองกับอิสรภาพที่มองไม่เห็น เด็กของจอมทัพงั้นหรือ? หน้าที่เหล่านั้นก็ไม่เคยต่างจากของเล่น ในชีวิต...มิถุนาไม่เคยต้องการอะไรไปมากกว่าความสะดวกสบายของครอบครัวของเขาเท่านั้น แต่ไม่มีใครเคยล่วงรู้หรอกว่าสิ่งที่ต้องแลกมานั้นมีทั้งน้ำตา ความเจ็บปวด และศักดิ์ศรี
รอวันที่จอมทัพเบื่อ...อิสระของมิถุนาอยู่ที่ปลายเส้นขอบฟ้า
เขามองเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...แต่ไม่เคยเอื้อมมือแตะมันได้สักครั้ง...
tbc.
ป๋าจอมทัพของเราใจดีขึ้นไหมฮร้าาาา (คนอ่านบอกไม่555)
ตอนนี้มาเร็วแต่ก็สั้นเนาะ แต่เพราะว่าพล็อตมันบังคับแค่นี้ก็เลยแต่งเท่านี้ มากไปเดี๋ยวมันจะไม่พอดีนะคะ
ก็...ก่อนอื่นเลย เราคิดว่า เราจะสามารถลงได้อาทิตย์ละมากที่สุดสองตอน คือ ระหว่างวันศุกร์ถึงวันจันทร์
นอกนั้นแทบไม่เห็นความหวังเลย ดังนั้นตอนต่อไปก็คิดว่า อาจจะได้เจออีกทีศุกร์ ไม่ก็เสาร์นะคะ
แต่ถ้ามาไม่ได้ ก็ขอโทษไว้ก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวจะมาแจ้งเนาะ ถ้างานยุ่งมากๆ เราก็อาจจะต้องพักการลงนิยายไว้หน่อยนะคะ
ขอบคุณการบวก เป็ด คอมเม้นท์ กำลังใจ มากๆนะคะ
พรุ่งนี้ทำงานกันแล้ว ตื่นแต่เช้า มีพลัง และเต็มที่กับมันนะคะ
อีกห้าวันก็จะได้พักแล้วววว เย้ๆๆๆๆๆ (บอกตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเสาร์-อาทิตย์หน้าจะได้พักไหม555)