“ ฉ้านนนนน ขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา ฉันคนบ้านป่าหน้าตาเหมือนโจ.......แว้กกกก!!! “ ผมที่กำลังเดินฮัมเพลงมาอย่างสาบาย
อารมณ์ถึงกับแหกปากลั่นเพราะเกือบจะชนคนที่โผล่พรวดพราดออกมาจากมุมตึก
“ เชี่ยยยยยยย ข้าว แมร่งเกือบชนกรูเลยเห็นป่ะ “ ผมส่ายหน้าเบาๆอย่างอ่อนใจ ยังมีหน้ามาว่ากรูอีก ได้ข่าวว่าเอ็งพรวดพราด
ออกมาเองนะครับ
“ เออครับ กระผมผิดเองแหละครับที่ไม่หลบคุณมรึงที่จู่ๆก็พรวดพราดออกมาจากมุมตึก “ ผมประชดเบาๆก่อนไอ้คนที่พึ่งจะ
พรวดพราดออกมาจะเข้ามากอดคอผมแล้วหัวเราะร่า
“ ฮ่าๆๆๆ ไม่ได้เจอหน้ากันพักเดียว ปากร้ายขึ้นเป็นกองเลยนะมรึง “ มันว่าทำเอาผมสะอึกเบาๆ เออ.....สงสัยกรูจะติดเชื้อถั่วพู
มาว่ะ
“ แล้วมรึงเป็นไงมั่งวะเม่น สภานักเรียนงานยุ่งหรอวะ ไม่ค่อยเห็นหน้าเลย “
“ โหหหหหห มรึงอย่าให้กรูพูดเลยขี้คร้านว่าเล่าแปดวันแล้วยังไม่จบ “ ไอ้เม่นว่าแล้วทำหน้าตาเหนื่อยหน่ายแบบโอเว่อร์จนผม
อดไม่ได้ที่จะผลักหัวมันเบาๆแล้วหัวเราะ ไอ้เม่นเป็นเพื่อนแถวบ้านของผมเองครับ เรียนด้วยกันเล่นด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล มี
พักหลังตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมานี่แหละฮะไม่ค่อยได้คุยได้เล่นกันเท่าไหร่เพราะผมกับมันเรียนคนละห้องกัน แล้วมันก็เป็นสภา
นักเรียนด้วยงานยุ่งไม่ใช่น้อยเลย ระหว่างที่เดินไปผมกับไอ้เม่นก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งไอ้เม่นถามขึ้นมาเบาๆ ด้วยท่าที
เกรงใจ
“ เอ่อข้าว......แล้วที่เขาว่ากันว่ามรึงกับถั่วพูคบกันจริงรึป่าววะ “ ผมเลยยิ้มบางๆแล้วพยักหน้าเบาๆ
“ อืม “ เวลามีใครถามผม ผมก็ตอบไปตามตรงครับไม่มีอะไรต้องปิด ถึงว่าการคบกันของพวกผมผมจะงงๆซักหน่อย แต่พวกผม
ก็คบกันจริงๆ
“ แล้วพวกมรึงไปชอบกันตอนไหนวะ “ ......................................เงียบเลยครับ เจอคำถามนี้เข้าไปผมถึงกับเงียบ
นั่นสิ!!!! พวกผมไปชอบกันตอนไหนวะ ไม่สิ! ถามว่าถั่วพูมันชอบผมตอนไหน ตั้งแต่คบกันมาผมยังไม่เคยได้ยินเลยซักคำว่าพู
มันบอกเลยซักคำว่ามันชอบผม ผมก็ไม่ได้โง่เต่าตุนขนุนหนังจนดูไม่ออกหรอครับว่าพูมันชอบผมมันถึงมาคบกับผม แต่มัน
ชอบผมเพราะอะไรนี่สิ ส่วนความรู้สึกของผมน่ะหรอ.........................
“ เฮ้ย........กรูถามละลาบละล้วงไปหรอวะ โทษทีๆ “ เม่นถามอย่างตกใจน้อยๆก่อนจะรีบก้มหัวเป็นเชิงขอโทษเพราะผมเงียบไป
นาน ผมเลยรีบโบกมือพร้อมกับปฏิเสธ
“ ไม่ๆๆ กรูเหม่อไปหน่อยโทษที “
“ เออๆ งั้น เดี๋ยวกรูกลับเลยละกันนะ ว่าแต่มรึงจะไปไหนอ่ะ ซ้อมหรอ “
“ ป่าวๆ กรูจะไปรับพูน่ะวันนี้ไม่ซ้อม “ ผมว่าแล้วยิ้มบางๆให้ ไอ้เม่นยิ้มกว้างกลับมาก่อนจะวิ่งแล้วโบกมือหยอยๆให้ผมจนหายลับ
เข้ามุมตึกไป ผมเองก็โบกมือให้ไอ้เม่นก่อนจะเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่หน้าห้องไอ้คนสวยมันแล้ว วันนี้มัน
เป็นเวรทำความสะอาดห้องครับ จะว่าไปผมก็ยังไม่เคยเห็นมันจับไม้กวาดเลยนะแอบดูหน่อยดีกว่า ผมเลื่อนประตูหลังออกพอ
ให้ชะโงกหน้าผ่านไปได้แต่เข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งหัวก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงดังล้งเล้งวุ่นวายภายในห้อง
ผมกวาดสายตาไปตามความยาวห้องช้าๆ ก็พบไอ้คนสวยมันยืนหันหน้าเข้าหากระดาน มือขวาถือไม้กวาด มือซ้ายถือไม้ถู เท้า
ซ้ายเขี่ยที่โกยขยะ เท้าขวาขยับถังน้ำ คาดว่าถ้ามันเอาปากคาบผ้าขี้ริ้วได้มันคงเอาคาบไปแล้วละฮะ มันยกมือข้างที่ถือไม่ถูขึ้นมา
ชี้โบ้ชี้เบ้พร้อมกับเสียงบ่นงุ้งงิ้งๆให้เพื่อนที่ยืนหันหลังเขียนกระดานอยู่
“ เฮ้ยโย แกเขียนเลขวันไม่ตรงอ่ะ แกเห็นป่ะมันสูงไป “
“ ตรงไหนวะพู เราดูมันก็ตรงเนี่ย “
“ ไม่ตร๊งงงงง แกดูเลยนะตรงวันที่อ่ะมันตรงใช่ป่ะ พอมองเลยมาตัวเลขมันเอียงขึ้นไป 3 องศาลิปดาเหนืออ่ะแกเห็นป่ะ แล้ว
บรรจงขนาดนั้นจะซ้อมไปแข่งคัดลายมือระดับประเทศหรอครับคุณพี่ รีบๆเขียนแล้วลงมาช่วยกันถูพื้นเลย ” มันบ่นก่อนจะลดมือ
ซ้ายลงมาแล้วถูพื้นต่อ มือขวาก็กวาดอีกฝั่งไปด้วย และแน่นอนฮะว่ามือซ้ายกับมือขวามันไม่สัมพันธ์กัน มือซ้ายถูฝุ่นออก
มือขวาก็กวาดฝุ่นใส่ใหม่ อ่ะจ้ะคุณแฟนวันนี้พื้นมันคงจะสะอาดอ่ะจ้ะ ผมส่ายหัวยิ้มๆกับความเกรียนไม่มีใครเกินของถั่วพู แต่มัน
ทำแบบนั้นได้ไม่นานเพื่อนที่ยืนอยู่ใกล้ๆคงทนเห็นมันเกรียนไม่ไหวเดินมาขอไม้กวาดจากมันไปกวาดเองแล้วให้มันรอถูทีหลัง
ไอ้คนสวยมันก็เลยต้องถอยหลังมานั่งเก้าอี้รอ ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนผู้หญิงคนนึงตะโกนมาจากริมหน้าต่างให้ไอ้คนสวยมันช่วยซัก
ผ้าขี้ริ้วให้ก่อนโยนผ้าขี้ริ้วข้ามฟากมาให้ ว่าก็ว่าเถอะครับห้องนี้มันไม่ได้เช็ดหน้าต่างมากี่ศตวรรษแล้ววะครับ สภาพผ้านี่เหมือน
เอาเพิ่งเอาไปคลุกถนนรุกรังมาอ่ะครับ ถ้าเป็นผมคงแขยงมือไม่น้อยอ่ะครับแต่ถั่วพูมันกลับหยิบผ้าขี้ริ้วขึ้นมาแล้วเอาใส่ลงไป
ในถังน้ำก่อนจะซักอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ มือขาวๆของมันจุ่มลงไปน้ำก่อนจะขยี้ๆ จนน้ำในถังเปลี่ยนเป็นสีดำๆ มันถึงยกผ้าขี้ริ้ว
ขึ้นมาบิดจนหมาดแล้วเดินถือกลับไปให้เพื่อน ผมมองภาพตรงหน้าแล้วก็ยิ้ม ถ้ามองจากมุมของคนภายนอกก็จะมองว่ามัน
เงียบๆ นิ่งๆ ดูหยิ่งๆ เชิดๆ แต่ถ้าได้ลองได้พูดได้คุยได้ทำความรู้จักดูแล้ว มันเป็นคนง่ายๆ ใส่ใจคนรอบข้าง ออกจะคุยเก่งด้วย
ซ้ำถึงแม้บางครั้งมันจะมีมุมที่ดูเข้าถึงได้ยากไปบ้างแต่รวมๆแล้วมันเป็นคนน่ารักสุดๆคนนึงเลยล่ะครับ แล้วที่ไอ้เม่นถามว่าพวกผม
ชอบกันตอนไหน ผมอาจจะตอบไม่ได้แต่ถ้าถามว่าผมชอบมันมั๊ยก็บอกได้เลยครับว่าชอบ ชอบมากด้วย
ผมยืนมองถั่วพูอยู่เงียบๆโดยที่เจ้าตัวไม่รู้จนมีเพื่อนที่กำลังจะเดินเอาขยะออกไปทิ้งข้างนอกทักขึ้นมา ถั่วพูถึงหันมามองผมยิ้ม
บางๆไปให้เจ้าตัวก็ยิ้มโบกไม้โบกมือให้ผมแล้วบอกว่าให้รอแป็บนึง แต่พอเพื่อนๆในห้องมันหันมาเห็นผมก็บอกให้ถั่วพูกลับก่อน
เลย
“ พูไปล้างมือเหอะ เดี๋ยวที่เหลือให้ไอ้ยิวมันทำต่อ “ ท่านพลอยรองหัวหน้าห้องสุดสวยพูดประโยคแรกกับพูก่อนจะหันไปตวาด
แว้ดประโยคหลังใส่อีกคนที่นั่งแกว่งขาอ่านการ์ตูนอยู่
“ อ้าวไหงเป็นกรูละวะครับคุณพลอย กรูก็ทำแล้วนะจะบอก “ ยิวเถียงแล้วทำหน้ายู่
“แค่ให้อาหารปลาไอ้จวย ไม่ต้องมาเถียงเลย พูเอาไม้ถูให้มันถูต่อแล้วไปล้างมือซะไป “ พลอยว่าก่อนจะแย่งไม้ถูไปจากมือ
ถั่วพูแล้วยัดใส่มือยิวแทน
“ เออ งั้นเราไปก่อนนะ “ ไอ้คนสวยมันใช้แขนเกี่ยวกระเป๋าแล้วเดินไปหยิบขวดน้ำหลังห้องไปเทล้างมือที่ริมหน้าต่างอย่าง
ทุลักทุเล
“ อ๊ะ!!........” ถั่วพูมันอุทานออกมาเบาๆก่อนจะหันหน้ามามอง เมื่อผมเดินไปซ้อนหลังมันแล้วแย่งขวดน้ำมาเทให้
“ เอ้า.....ไม่ล้างมือหรอ “ ผมถามยิ้มๆ เห็นหน้ามันแดงไปถึงหู ชีวิตผมช่วงนี้ไม่มีอะไรบันเทิงเท่าการได้แกล้งถั่วพูแล้วล่ะครับ
ฮ่าๆๆๆ
“ หนังหน้าทำด้วยอะไรวะข้าว “ไอ้คนสวยมันบ่นออกมาเบาๆแล้วหันไปล้างมือต่อ
“ คอนกรีตเสริมเหล็กหนาครับถั่วพู ” ผมก้มลงไปกระซิบมันเบาๆ ทำเอามันย่นคอนี้ก่อนจะหันมาแล้วเอามือที่ชุ่มไปด้วยน้ำแปะ
ป้าบลงมาเสื้อนักเรียนผม แมร่ง!! เย็นวาบไปถึงลำไส้ใหญ่เลยครับผม
“ เสื้อสวย “ ถั่วพูมันอาศัยจังหวะที่ผมผวาอยู่กับสัมผัสเย็นๆที่หน้าท้องมุดแขนผมออกไปแล้วเดินไปรอหน้าห้อง ก่อนจะถามผม
ยิ้มๆ
“ เอ้า.....ไม่กลับไง๊ “ โดนครับ เดี๋ยวนี้มีย้อนกลับได้ ผมส่ายหัวยิ้มๆก่อนจะเดินตามถั่วพูออกไป
ผมปั่นจักรยานมาส่งถั่วพูตามปกติครับแต่วันนี้ผมมีสอนการบ้านมันให้ด้วย
“ สวัสดีครับป้าเจี๊ยบ “
“ สวัสดีค่ะคุณข้าว วันนี้มาสอนการบ้านคุณหนูของป้าหรอคะ “
“ อ่า.......ครับ “ ผมยิ้มเขินๆ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ชินกับคำพูดสุภาพๆของป้าเจี๊ยบซะทีครับ เคยบอกให้ป้าเรียกผมว่าข้าวเฉยๆ ป้าแก
ก็บอกว่าแบบนั้นป้าก็ไม่ชินเหมือนกัน ผมเลยต้องเป็นฝ่ายทำใจให้ชินแทน เหอะๆๆ
“ พ่อกับแม่ไม่อยู่หรอครับป้าเจี๊ยบ พูเดินผ่านโรงจอดรถเมื่อกี้เห็นรถไม่อยู่ “ พูที่เดินตามผมเข้ามายกมือไหว้ป้าเจี๊ยบก่อนจะถาม
ขึ้น
“ ค่ะ คุณๆ ท่านไปต่างจังหวัดกันน่ะค่ะ เห็นว่าอีกสามวันจะกลับ คุณท่านไม่ได้บอกคุณหนูไว้หรอคะ “
“ ไม่อ่ะครับ “
“ สงสัยจะงานด่วนมั้งคะคุณหนู “
“ ก็คงอย่างนั้นอ่ะครับ งั้นเดี๋ยวพูพาข้าวขึ้นไปเก็บกระเป๋าก่อนนะครับ “
“ จะทานอะไรมั๊ยคะคุณหนู เดี๋ยวป้าเอาขึ้นไปให้ “
“ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมลงมาหากินกันเอง ขอบคุณครับ “ พูมันว่าก่อนจะยิ้มสดใสแล้วหันมาแตะแขนผมเบาๆเป็นเชิงว่าให้ขึ้นไป
ได้แล้ว ผมยิ้มแล้วก้มหัวให้ป้าเจี๊ยบน้อยๆก่อนจะเดินตามพูขึ้นไป
“ ข้าวเล่นเกมรอเราอยู่บนนี้ก่อนได้มั๊ยอ่ะ “ พูมันพูดขึ้นมาก่อนจะเดินฉับๆไปคว้าเสื้อผ้ามาจากตู้แล้วเตรียมจะดิ่งเข้าห้องน้ำ ผม
เลยรีบคว้าข้อมือเล็กๆมันไว้ตอนที่มันเดินผ่าน
“ แล้วพูจะไปไหนอ่ะ “
“ เราจะไปอาบน้ำให้ไอ้เลอะแป็บนึงเดี๋ยวขึ้นมา “ มันว่าก่อนจะดึงแขนออกเบาๆแล้วเตรียมจะพุ่งเข้าห้องน้ำจนผมต้องรีบคว้าไว้
อีกรอบ
“ เดี๋ยวเราลงไปช่วยอาบด้วย “ มันเลิกคิ้วใส่ผมเลยยิ้มให้ไปทีนึง ถั่วพูมันก้มหน้าหลบสายตาก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วดึงแขน
ออกจากมือผม ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อแอบเห็นว่าเมื่อกี้หูไอ้คนสวยขึ้นสีแดงระเรื่อ รู้สึกดีครับเวลาถั่วพูมันเขินเนี่ยผมโคตรฟิน
เลยขอบอก
หลังจากที่พวกผมเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้วก็ลงมาข้างล่าง จะว่าไปผมก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรหรอกครับแค่ถอดเสื้อนักเรียน
ออกเหลือแต่เสื้อยืดตาห่านสีขาวย้วยๆกับกางเกงนักเรียนแค่นั้นและครับ แต่พอเหลือบไปมองถั่วพูแล้วผมแทบจะฮาเงิบเลยครับ
เพราะไอ้คนสวยมันใส่เสื้อยืดย้วยๆเก่าๆขนเสื้อขึ้นเป็นขยุกๆสีน้ำเงินของกระทิงแดงกับกางเกงบอลสีส้มปะตูดด้วยผ้าสีเขียว
สะท้อนแสง ผมว่าถ้าเพิ่มหมวกให้มันซักใบกับถุงมือซักคู่รองเท้าบูทอีกสองข้างนี่ไปทำสวนต่อได้เลยอ่ะครับ และเหมือนว่ามัน
จะรู้ว่าผมนินทามันทางความคิดมันเลยหันมายักคิ้วใส่ด้วยสีหน้าประมาณว่าผมมีปัญหาอะไรกับแฟชั่นคนสวนของมัน ผมก็เลยได้
แต่ยิ้มให้แล้วส่ายหน้า มันเลยเชิดหน้าใส่ผมเบาๆก่อนจะเดินไปจูงไอ้เลอะออกจากบ้านมา ไอ้เลอะเป็นหมาพันทางฮะ หมา
ไทยผสมอะไรก็ไม่รู้ออกมามีสามสี สีพื้นขาวๆ มีลายสีน้ำตาลดำ ขนปากปุยๆ ขนตัวยาวๆ เตี้ยๆเห็นพูบอกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ตัว
เล็กๆ
“ โอ้โห สภาพเอาเรื่องนะเนี่ย ทำตัวสมชื่อมาก “
“ ใช่มั๊ยล่ะ ถึงได้รีบจะอาบน้ำให้ไง ไม่รู้ไปเล่นซนอะไรมานักหนาเนี่ย “ ปากมันก็บ่นงุ้งงิ้งแต่มือกลับยื่นไปลูบหัวไอ้เลอะอย่าง
อ่อนโยน ผมเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปขยี้หัวถั่วพูอย่างนึกเอ็นดู มันหันมาทำหน้าเหวอนิดๆก่อนจะปัดมือผมออกแล้วยัด
สายจูงไอ้เลอะใส่มือผมแทน
“ ไม่ใช่หมานะเฮ้ย “
“ ก็ใครว่าหมาล่ะ.............แฟน “ ผมพูดออกมาแล้วยิ้มบางๆ เหวอครับไอ้คนสวยมันถึงกับเหวอ ผมเห็นมันอ้าปากพะงาบๆ
เหมือนจะพูดอะไรซักอย่างเลยเดินเข้าไปใกล้ๆยิ้มแล้วก้มลงมามองหน้ามัน ถั่วพูเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมตอบหน้ามันตอนนี้เปลี่ยน
เป็นสีแดงจัดก่อนจะค่อยๆซีด
เออะ.....ซีด
ซีดดดดดดดดดดดดด
แล้วก็ซีดลง
ฟุ้บ!!!
“ เหยดดดดดดด “ ผมอุทานออกมาอย่างตกใจจู่ๆร่างเล็กๆของไอ้คนสวยก็ทรุดวูบไปต่อหน้าต่อตาดีว่าผมคว้าเอวเล็กๆมันไว้ได้
ทันไม่งั้นละหน้างามๆของมันได้ลงไปวัดพื้นแน่ๆ ผมอุ้มร่างเล็กๆขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะเหลียวซ้ายและขวาหาที่พาไอ้คน
สวยไปปฐมพยาบาล จะให้อุ้มขึ้นห้องมีหวังตกบันไดตายห่าทั้งคู่พอดีครับ ตัวมันเล็กครับแต่น้ำหนักนี่เอาเรื่อง ยิ่งยืนคิดนานๆ
แขนผมก็เริ่มออกอาการสั่นเบาๆ จนผมต้องรีบอุ้มถั่วพูไปนอนใต้ต้นไม้แถวๆบ้านไอ้เลอะมัน ผมค่อยๆวางมันลงอย่างเบามือ
ก่อนจะคว้าเอาตุ๊กตาเน่าๆของไอ้เลอะที่อยู่แถวนั้นมารองข้อเท้าถั่วพูให้สูง ผมเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆถั่วพูก่อนจะโบกมือเบาๆ
เพื่อพัดให้คนเป็นลม ผมมองใบหน้าสวยของคนเป็นลมก่อนจะยิ้มขำให้กับความน่ารักของอีกฝ่าย ผมยอมรับโดยดุษฎีเลยครับ
ว่าผมชอบคนนี้มากขึ้นทุกๆวัน แต่ยิ่งชอบผมก็ยิ่งสงสัยและไม่เข้าใจว่าทำไมคนดีๆ น่ารักๆอย่างถั่วพูถึงมาชอบคนอย่างผม
ได้.............................
หลังจากที่ผมปล่อยให้ความคิดทั้งหมดทั้งมวลไหลผ่านไปกับความเงียบถั่วพูก็เริ่มขยับตัวน้อยๆ สีหน้าเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้าง
ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมาช้าๆ
“ เป็นไงมั่ง “ ผมถามด้วยความเป็นห่วงครับแต่ที่ได้รับกลับคืนมาคือฝ่ามือน้อยๆฟาดเพี้ยะเข้าที่ต้นแขนหนึ่งที
“ ขอโทษๆ “ ผมขอโทษก่อนจะหัวเราะเบาๆ ทำเอาไอ้คนสวยมันตวัดสายตามาค้อนขวับแล้วเม้มปากใส่ ทำเอาผมหัวเราะเสียง
ดังกว่าเดิมแล้วดึงไอ้คนสวยมากอดไว้ บางทีมันก็น่ารักเกิ๊นนนนน หัวใจผมมันต้านทานไม่ไหว ฮ่าๆๆๆ
“ เฮ้ย อะไร !“ ถั่วพูร้องออกมาอย่างตกใจมือเล็กๆพยายามดันอกผมไว้แล้วพยายามดันตัวเองออก ผมเลยกระชับอ้อมแขนให้
แน่นขึ้นจนถั่วพูหยุดดิ้น ความเงียบกับสัมผัสที่แนบชิดทำให้ผมรู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นรัวของผมกับพู ผมไม่พูดอะไร
ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปช้าๆ จนหัวใจพวกผมทั้งคู่ค่อยๆช้าลงและเป็นจังหวะเดียวกัน
“ ทำไมพูถึงชอบเราหรอ “ ผมถามออกมาเบาๆและรู้สึกได้ว่าหัวใจของถั่วพูเต้นเร็วขึ้นมา ผมเลยยิ้มแล้วลูบหัวลูบหลังอีกฝ่าย
เบาๆเป็นการปลอบประโลม
“ มีหลายเหตุผลจะตาย ใครก็ชอบข้าว ข้าวไม่รู้เลยรึไง “ ถั่วพูพูดออกมาเบาๆ ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงน้ำหนักร่างกายของคนตรง
หน้าทิ้งลงมาที่ตัวเบาๆ
“ เราอยากฟังเหตุผลของพูอ่ะ “
“ ...............ใจดี “
“ ห๊ะ! “ ผมที่ได้ยินไม่ถนัดถามซ้ำขึ้นมา กำปั้นน้อยๆเลยประทุษร้ายไหล่ผมไปหนึ่งทีก่อนเจ้าของกำปั้นจะยันตัวออกมาสบตาผม
แล้วเริ่มพูด
“ ก็ข้าวน่ะใจดี บางทีข้าวอาจจะไม่รู้ตัวนะแต่ข้าวน่ะมักจะช่วยเหลือแล้วก็เอาใจใส่คนรอบข้างอยู่ตลอดเลย แล้วไหนจะรอยยิ้มนี่
อีก “ พูว่าก่อนจะจิ้มนิ้วเล็กๆลงมาที่ปากของผม
“ ข้าวไม่รู้เลยรึไงว่าแค่รอยยิ้มบางๆกับความใส่ใจในจุดเล็กๆของข้าวทำให้เรา................ชอบข้าวอ่ะ “ หลังจากที่พูพูดจบผม
แทบจะผมบรรยายความรู้สึกไม่ได้เลยว่ามันเป็นยังไง ผมรู้เพียงแต่ว่าอยู่ดีๆความรู้สึกอุ่นวาบก็ค่อยๆแผ่อากจากหัวใจไปทั่ว
ร่างกาย มันรู้สึกหวิวเหมือนตัวจะลอยได้ ภาพที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าก็มีแค่ใบหน้าที่เจือด้วยสีแดงเรื่อๆกับแววตาใสบริสุทธิ์ของ
ถั่วพู ผมจูบลงไปบนหน้าผากมนเบาๆก่อนจะรั้งถั่วพูเข้ามากอดไว้ ก่อนหน้านี้ผมออกจะกังวลกับความรู้สึกของถั่วพูที่มีต่อผม ผม
เลยทำอะไรไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันจะดูชัดเจนแล้วไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกผมหรือความ
รู้สึกของถั่วพู ผมว่ามันถึงเวลาที่ผมควรจะทำอะไรสักอย่างแล้วเหมือนกันล่ะครับ
“ พรุ่งนี้ไปบ้านข้าวนะครับถั่วพู “
________________________________________________________________________________________
นิยายเรื่องนี้ยังไม่เป็นหมันนะคะ
ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ
เพราะฉะนั้น ขอโทษท่านผู้อ่านทุกท่านจริงๆค่ะที่หายหัวไป
ตอนหน้าเป็นพาร์ทของถั่วพูนะคะ
แม่ยกทั้งหลายอย่าลืมเตรียมมาลัยไว้คล้องลูกหนูด้วยนะ ฮ่าๆๆ
หลังจากจบพาร์ทถั่วพูก็มีตอนพิเศษนึงตอนแล้วก็ถึงกาลอวสานเลยทั้งนิยายและอีคนแต่ง กร้ากกกก
สำหรับตอนนี้อ่านไปแล้วอาจจะดูแบบ เฮ้ยแปลกๆว่ะ
เพราะว่าเราพยายามรวบรัดให้จบไวที่สุดค่ะเลยออกมาแปลกๆหน่อย
ก็เค้าไม่อยากให้นิยายเป็นหมันนนนนนนนน
แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ
ส่วนเรื่องการจัดเรียงหน้าขอสารภาพบาปเบาๆค่ะว่าเล่นระบบต่างๆในเล้าไม่ค่อยจะเป็น
แต่ละตอนเลยออกมาไม่เหมือนกัน อ่านยากไปบ้างก็ขอโทษด้วยนะคะ