King Class Away: Special 4คาบ 7 ณ ม้านั่งหินข้างตึก 1 ใกล้สนามฟุตบอล
“นั่นไง เอสกำลังนั่งกับน้องคนนั้น” บอมชะโงกโผล่หัวออกมามองจากมุมโรงพละ
“เฮ้ย! บอมอย่าชะโงกไปเยอะ เดี๋ยวไอ้เอสเห็น” ตี้โผล่ออกมาแต่ลูกตา พยายามดึงตัวบอมหลบกลับเข้าหลังกำแพง
“คุยกันด้วยว่ะ” สนชะโงกดูบ้าง สามหนุ่มโผล่หัวเรียงกันตามแนวตั้ง มองไปยังเป้าหมาย
คนตัวสูงหน้าเสีย ตอนแรกเขาคิดว่าสองสหายนักบาสอาจตาฝาด พยายามคิดเข้าข้างตัวเองต่าง ๆ นานาว่าเอสไม่มีทางนั่งคุยกับน้องผู้หญิงตามลำพังอย่างนั้นหรอก ยังไงไอ้น่ารักก็มีใจให้เขาคนเดียว ก็นั่งเรียนข้างกันมาจะครึ่งปีแล้ว ลง IG คู่กันทุกสัปดาห์ เพื่อนในห้องล้อจนเลิกล้อไปแล้ว แถมเอสก็ไม่เคยแสดงออกว่าชอบพอใคร ไอ้น่ารักต้องชอบเขาแน่ ๆ เพียงแต่ไม่กล้าแสดงออก เขาเองก็ไม่กล้าพูดชัด ๆ เลยทำแค่ได้อยู่ใกล้เอสไปเรื่อย ๆ ให้มันคลุมเครืออบอุ่นหัวใจอยู่อย่างนี้ก็พอ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่พอเสียแล้วเพราะภาพตรงหน้าทำให้หัวใจเขาเจ็บจี๊ด...ที่ผ่านมาคือ friend zone ตรูคิดไปเองข้างเดียวเหรอฟระ… เมื่อเขาเห็นกับตาว่าเอสนั่งวาดรูป ส่วนน้องผู้หญิงม.3 ก็นั่งวาดรูปอีกด้านของโต๊ะพลางคุยอะไรกับเอสไปด้วยท่าทางสนิทสนม
“เดี๋ยวกูลองเข้าไปใกล้ ๆ อยากรู้เขาคุยอะไรกัน” สนขยับตัวจะเดินเข้าไปหาเป้าหมาย
“เฮ้ย! อย่า! เดี๋ยวเอสมันรู้ว่าพวกเราแอบดูอยู่” ตี้รีบดึงเสื้อสนไว้
“ถ้างั้นเราย้ายไปโต๊ะอีกตัวที่อยู่ใกล้ ๆ มั้ย? มันมีต้นไม้กั้นอยู่ เอสไม่เห็นพวกเราหรอก” บอมเสนอ
“แต่มีน้องม.ต้นนั่งอยู่หลายคนเลยนะ” มองปราดเดียวเห็นผมสั้นและหน้าอกไม่มีเข็มโรงเรียนก็รู้ว่าม.ต้น อาจเป็นห้องเดียวกับน้องผู้หญิงคนนั้นด้วย
“งั้นกูไปไล่พวกแม่งเอง” สนทำหน้าเหี้ยมเกรียมแต่บอมปรามเพื่อนรักด้วยการเบิ๊ดกระโหลก
“มึงจะบ้าเหรอ เดี๋ยวเอะอะเสียงดัง เป้าหมายก็ไหวตัวกันพอดี มาวางแผนกันสามคนก่อน”
“สน บอม พวกนายกลับไปเรียนช็อปเหล็กเหอะ!” ตี้ตัดบท ถึงหลายหัวจะดีกว่าหัวเดียวก็เถอะ แต่ดูท่าจะไม่มีทางเข้าไปใกล้เอสได้เลย ยิ่งช่วยยิ่งยุ่ง มัวแต่ยุกยิก ๆ กันอยู่มุมตึกแบบนี้ถ้าเอสจับได้ว่าพวกเขากำลังแอบดูอยู่มีหวังโมโหแน่
“ถ้าทำให้น้อง ๆ กลุ่มนั้นลุกไปได้ก็โอเคใช่มั้ยบอม? งั้นเรากับดิมจัดการเอง”
“เยี่ยมเลยพัต ฝากด้วยนะ...ฮ...เฮ้ย! พวกนายมาได้ยังไง?!”
“เรามองเห็นพวกนายจากหน้าต่างห้องคอมที่ชั้น 3 ตึก 5 น่ะ คิดว่ากำลังทำอะไรกันก็เลยเดินมาดู” พัตตอบหน้าตายพร้อมพยักเพยิดกับดิม แล้วสองคนก็เดินเฉียดเข้าไปใกล้กลุ่มน้องม.ต้นที่นั่งรอบโต๊ะม้าหินใกล้ ๆ เอส
“เฮ้ย! นายจับ Abra ไชนี่ได้เหรอ?”
“ใช่ เราจับได้ตะกี้แถวหน้าโรงเรียนน่ะ” พัตตอบเบา ๆ พร้อมยื่นหน้าจอเกม Pokemon Go ให้ดิมดู
“น่าอิจฉาจัง! ตัวนี้หายากมาก แถมเป็นไชนี่อีก”
น้อง ๆ ที่นั่งก็หูผึ่งรีบลุกมาขอดูมือถือพัตทันที “จริงเหรอพี่?”
“จริงสิ ดูเนี่ยครับ รีบไปจับนะเดี๋ยวมันหายไปก่อน” พัตยื่นหน้าจอให้รุ่นน้องดู เท่านั้นแหละกลุ่มเด็กม.ต้นที่นั่งรอบโต๊ะก็รีบลุกวิ่งพรวดไปทั้งกลุ่ม
“นายนี่ฉลาดจริง ๆ สมกับเป็น Elite5” ดิมพูดพลางเข้ายึดโต๊ะได้โดยละม่อมแล้วส่งสัญญาณเรียกเพื่อนทั้งสามให้ย่องตามมานั่งด้วยกัน ตี้พยายามเงี่ยหูฟังแต่ก็กลัวเอสรู้ตัวเลยแกล้งนอนฟุบกับโต๊ะ อีกสี่คนก็หยิบสมุดหนังสือมานั่งอ่านเนียน ๆ ซึ่งก็ไม่รู้จะเนียนได้แค่ไหนเพราะในคาบนี้สองคนต้องไปเรียนช็อปเหล็ก อีกสองคนเพิ่งโดดวิชาโปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานมา
“พี่เอสวาดรูปเก่งจัง ขอหนูดูได้ไหมคะ?”
“อย่าเลย ยังวาดไม่ค่อยสวย”
ตี้ใจชื้นขึ้นมานิด เอาวะ! อย่างน้อยเอสก็ไม่ให้น้องคนนั้นดูสมุดวาดเขียนเหมือนที่ไม่ยอมให้เขาดูเช่นกัน
“ฮื้อออ!” เด็กรุ่นน้องส่งเสียงบ่งบอกว่าโดนขัดใจแต่ก็ยังพยายามชวนคุยไม่เลิก “พี่จะเข้ามหาลัยไหนเหรอคะ?”
“สถาปัตย์มหาลัย XXX น่ะครับ”
ร่างสูงแอบดีใจได้ไม่กี่วินาทีก็หน้าสลดอีกครั้ง เอสเลือกที่มหาลัยชื่อยาวเป็นรถไฟและมีรถไฟแล่นผ่านจริง ๆ ซะด้วย...แต่นั่นไม่ใช่มหาลัยที่เขาเลือกจะสอบเข้า นั่นแปลว่าเวลาของเขากำลังหมดลงทีละช้า ๆ!! ที่สถาบันนั้นไม่มีคณะนิเทศซะด้วยสิ...เดี๋ยวนะ...หรือว่ามีฟระ? ตี้หยิบมือถือขึ้นมาค้นเน็ตทันที มีคณะนิเทศศาสตร์เกษตร คืออะไรเนี่ย? จบไปทำงานอะไรนะ? แต่ตอนนี้สนใจเรื่องไอ้คนข้าง ๆ ที่นั่งอยู่หลังรั้วต้นไม้นี่ก่อนเหอะ
“เย็นนี้พี่เอสเดินไปส่งหนูที่รถโรงเรียนได้ไหมคะ?”
อะไรนะ!!! ตี้สะดุ้งโหยงทำตาโต อีกสี่คนก็หูผึ่งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“คงไม่ได้นะ พี่มีกิจกรรมชมรมห้องสมุดหลังคาบ 8 น่ะครับ”
“นะ ๆๆ เพื่อนหนูชอบแกล้งอ่ะ พี่เดินไปส่งหนูหน่อยนะ”
“ถ้าว่างนะ” เสียงเอสตอบทำทั้งห้าคนรอบโต๊ะได้แต่มองหน้ากันด้วยความอึ้งไม่รู้จะพูดยังไงดี
“ใกล้หมดคาบ 7 แล้วพวกเราไปก่อนนะตี้” สมาชิกคนอื่น ๆ ลุกไปอย่างเงียบ ๆ ไม่ให้เอสรู้ตัว ส่วนตี้เดินเคว้งเสียศูนย์ไปห้องชมรมโสตทัศน์ ตลอดทั้งคาบเขาเรียนไม่รู้เรื่องเลย เขาควรทำยังไงดีฟระ?
เริ่มรักน้ำ-รักปลา-รักต้นไม้-รักโลก-รักการเกษตรตั้งแต่วันนี้เลยดีไหมจะได้สอบเข้าคณะนิเทศเกษตรมหาลัยเดียวกับเอส? แต่ต้นไม้ชนิดเดียวที่เขาเคยปลูกแล้วไม่ตายคือคุณนายตื่นสายนะ ที่เหลือตายเรียบ ไม่แห้งตายก็เฉาตาย ว่าแต่จบไปจะทำอาชีพอะไรเนี่ย? แล้วเขาจะหาเลี้ยงพ่อแม่กับไอ้เอสได้ไหมฟระ? ลำพังการเรียนได้คะแนนดีอย่างเดียวอาจไม่พอที่จะตามไอ้เอสไปได้ มันมีเรื่องทักษะและอะไรอีกมากมาย ไหนจะคณะที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนนี่จะปรึกษาใครได้นะ? แต่ตอนนี้ควรห่วงเรื่องเอสคิดยังไงกับน้องคนนั้นก่อนคิดเรื่องปลูกต้นไม้ไหม?
ตี้นั่งตัดต่อวิดีโอผลงานใหม่ของเขาอย่างมีสติครึ่งไม่มีสติครึ่ง การทำงานในห้องโสตเป็นสิ่งที่เขาทำหลังจบกิจกรรมชมรม ทุกทีเอสก็จะแวะมาหลังจัดหนังสือในห้องสมุดเสร็จเพื่อกลับบ้านพร้อมกัน บางครั้งก็แวะหาอะไรกินก่อนที่ปากซอยโรงเรียน ถ้ายังไม่เย็นมากก็ไปกินแถวห้าง MaxValu ตรงสี่แยกใกล้โรงเรียน
พวกเขาสองคนทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรมาแต่ไหนแต่ไร...แต่ตอนนี้เขาได้แต่นั่งอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าคอยอะไร ป่านนี้เอสคงเดินไปส่งน้องคนนั้นที่รถโรงเรียน แค่คิดใจก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมอย่างนี้
“ยังไม่เสร็จงานอีกเหรอ?” เสียงคุ้นเคยทักเบา ๆ
“เอส!? ทำไมอยู่นี่ล่ะ?” ตี้ทักอย่างงุนงงระคนความดีใจ เขานึกว่าไอ้น่ารักไปกับน้องคนนั้นแล้วเสียอีก
“ถามแปลก ๆ เราก็มาตามปกติน่ะ ตัดต่ออีกนานไหมกว่าจะเสร็จ?”
“ไม่ ๆๆ เดี๋ยวทำวันหลังก็ได้ กลับบ้านกันเถอะ” คนตัวสูงยิ้มดีใจลิงโลดเก็บอารมณ์ไม่อยู่ แต่เอสกลับบอกให้เขาทำงานต่อไป ก่อนนั่งลงที่เก้าอี้หล้งห้องโสตทัศน์ วางเป้บนตัก รูดซิปหยิบสมุดวาดเขียนขึ้นมา
“ไม่รีบน่ะนายทำงานไปเหอะตี้ เราก็อยากฝึกวาดรูปเหมือนกัน”
สองหนุ่มต่างทำงานของตัวเองไปเงียบ ๆ ซึ่งทุกทีก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว แต่วันนี้ตี้รู้สึกอึดอัดเหลือเกินเลยพยายามชวนคุย แต่พยายามระวังไม่พลาดคุยเรื่องน้องคนนั้นให้เอสรู้ว่าเขาแอบฟังหมดแล้ว “เราว่าเราสนใจคณะนิเทศศาสตร์เกษตรนะ”
เอสเงยหน้าขึ้นมา “คณะอะไรนะ?”
“นิเทศศาสตร์เกษตร ประมาณว่าเป็นคณะนิเทศที่สนับสนุนภาคการเกษตรของประเทศน่ะ แต่ก็ไปทำงานสายนิเทศอื่น ๆ ได้ด้วยนะ”
“ฟังดูน่าสนใจนะ มีที่มหาลัยไหนเหรอ?”
“มหาลัย XXX”
“บังเอิญจัง เราก็ว่าจะสอบเข้าคณะสถาปัตย์มหาลัยนี้เหมือนกัน ตี้นายชอบด้านนี้เหรอไม่เคยรู้?”
“ใช่ ๆๆ ไม่เคยบอกใครเลยนะ” เพิ่งรู้จักคณะนี้เมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้วนี่แหละ
“แล้วที่บอกว่าอยากเป็นนักข่าวที่ผดุงความยุติธรรมล่ะ?”
“อ...อันนั้นก็อยากเป็นอยู่ แล้วก็ผดุงการเกษตรด้วย” ไม่รู้จะไหลจะแถไปยังไงแล้ว ไอ้เอสดันจำความฝันที่เขาเคยพูดได้ด้วย ทั้งเขิน ทั้งดีใจ ทั้งตกใจ
“งั้น...เราเล่าเรื่องพิลึกของเราให้นายฟังบ้างดีกว่า” เอสเดินมาข้างหลังตี้ ก่อนที่ร่างสูงจะหันกลับไปดู เอสก็วางแขนทั้งสองบนบ่าเขาจากด้านหลัง “ดูนี่สิ”
เอสยกมือถือของเขาอยู่ตรงหน้าตี้ เป็นคลิปยูทิวป์ชื่อว่า Thunderbirds 1 Launch Sequence เป็นอนิเมชั่นที่ดูเก่าโบราณมากน่าจะยุค 60 ตี้ไม่เข้าใจว่าเอสต้องการให้เขาดูอะไร ผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในคฤหาสน์ จากนั้นเขาก็...ใช้ประตูลับที่ผนังห้องหมุนเข้าไปเป็นฐานทัพลับใต้ดิน เขาเดินเข้าไปในจรวดลำใหญ่ จากนั้นสระว่ายน้ำกลางแจ้งด้านหน้าคฤหาสน์ก็ค่อย ๆ เลื่อนออกกลายเป็นแท่นปล่อยจรวด
“เฮ้ย! เจ๋งสาดดดด นายจะเรียนด้านอนิเมชั่นเหรอ?”
“เปล่า” เอสพูดอยู่ข้างหลังหัวของตี้แต่ตี้ก็ยังไม่เข้าใจ “เราจะเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งด้านการสร้างทางลับ กลไกห้องลับ ฐานทัพใต้ดิน เราชอบอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ละ จนคุยกับนายเราเลยนึกขึ้นได้ว่าเราทำความชอบความฝันให้เป็นอาชีพก็น่าจะได้นี่”
“เฮ้ย! ไอเดียดีมากเลย”
“นึกว่านายจะแซวว่าติงต๊องซะอีก”
“ไม่หรอก เท่ชะมัดเลย” ตี้หันไปคุยกับเอสที่ยืนด้านหลัง ตอนนี้หน้าเขาอยู่ใกล้กันมาก บวกกับการเล่าแลกเปลี่ยนความฝันกันอย่างนี้ยิ่งทำให้หัวใจเขาพองโตราวกับได้ใกล้ชิดกันขึ้นไปอีกขั้น ความสนิทที่มีเฉพาะคนรู้ใจที่ไว้ใจกันเท่านั้น...แต่พอภาพน้องม.ต้นคนนั้นวนกลับเข้ามาในหัวเขาก็วนลูปกลับมาไม่มั่นใจ จิตใจสับสนสั่นไหวปนเปกันไปมาจนทำงานแทบไม่มีสติแล้ว
“เริ่มมืดแล้วกลับบ้านกันเถอะ” ตี้เซฟงานแล้วเริ่มเก็บของ เอสก็เก็บสมุดวาดเขียนเข้าเป้
“แล้วเรื่องการสร้างห้องลับนี่มหาลัยมีสอนไหมนะ?” ตี้ชวนคุยระหว่างเดินออกจากโรงเรียนไปทางปากซอย
“นั่นสิ ห้องลับน่ะก็ไม่ค่อยมีใครเอาผลงานมาเปิดเผยเนอะ จะหาความรู้คงยาก” เอสตอบ “เออ แล้ววิชาถ่ายรูปวันนี้เรียนอะไรเหรอ?”
“เอ่อ...คือ...” ฉิบหายล่ะ! วกมาคุยเรื่องนี้ทำไมฟระก็ตรูไม่ได้เข้าเรียนเพราะมัวแต่แอบฟังนายนั่งคุยกับน้องคนนั้นนี่แหละ ถ้าตอบมั่ว ๆ แล้วพรุ่งนี้เอสไปถามไอ้บอยมีหวังความลับแตกแน่ ๆ “เราหลับน่ะ”
“เฮ้ย! พอเราไม่ได้ไปนั่งเรียนด้วยก็นอนในคาบอีกแล้วนะ พรุ่งนี้ไปตามจดเล็คเชอร์จากไอ้บอยด้วยนะเว้ย” เอสเอ็ดเบา ๆ และหัวเราะตาม ตี้ก็หัวเราะเช่นกันพลางคิดในใจว่ามาเรียนด้วยกันทุกคาบได้ก็ดี เขาอยากให้เพื่อนสนิทคนนี้คอยดูแลอย่างนี้ตลอดเวลา
พอกลับถึงบ้านตี้ก็รีบกินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน อ่านทบทวนเนื้อหาที่เรียนวันนี้แล้วจัดกระเป๋าให้เสร็จก่อนสามทุ่มครึ่งแล้วก็นั่งรอโทรศัพท์
กริ๊ง! ตรงเวลามาก ตี้กดรับทันทีและเสียงปลายสายอีกฝั่งก็พูดประโยคเดิมที่คุ้นเคย
“ทำการบ้านเสร็จยัง?”
“เสร็จแล้ว จะลอกป่ะ?”
“ตลกละ! อย่านอนดึกนะเว้ย!”
“เตรียมตัวนอนแล้วเนี่ย แล้วนายล่ะเอสทำการบ้านเสร็จยัง?”
“เสร็จละ นี่อ่านวิชาของพรุ่งนี้เสร็จแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะ”
เนี่ย ๆๆๆ ตั้งแต่จบเรื่องห้องควีนห้องคิงนั่นเอสก็ยังโทรมาบอกราตรีสวัสดิ์เขาเหมือนเดิมแทบทุกคืน แล้วแบบนี้จะให้เขาไม่คิดได้ไง! เพื่อนที่ไหนเขาจะทำแบบนี้กันฟระ? เอสพูดประโยคนี้ทีไรทำเขาใจเต้นทุกที...โดยเฉพาะคืนนี้ที่ความรู้สึกมากมายประดังประเดเข้ามา เขาไม่อยากให้น้องคนนั้นมาแย่งเอสไป ความรู้สึกมันออกมาเป็นประโยคนี้
“คิดถึงนายว่ะเอส”
อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง ตี้นึกว่าเอสพูดว่า “อะไรนะได้ยินไม่ชัด” เหมือนทุกทีที่มักมีอะไรมาขัดขวางเสมอจนเขาอยากซื้อมือถือใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด แต่เงียบไปแบบนี้คือคนที่ปลายสายได้ยินชัดเจนใช่มั้ยฟระ! ร่างสูงใจเต้นระรัวว่าเอสจะตอบยังไง โอ๊ย! ขอให้ตอบรับทีเถอะ!
“เออ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกันแล้ว”
เอสพูดจบก็วางสายไป ทิ้งตี้นอนคิดมากคนเดียวว่าตกลงเอสเข้าใจว่ายังไงฟระ ทำไมตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบจัง? หรือไม่คิดอะไรเลย? หรือเห็นเราเป็นแค่เพื่อนฟระ? หรือประโยคนั้นมันสื่อความหมายไม่ชัดเจน? หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำจนนอนไม่หลับเลย ตอนช่วงเปิดเทอมแรก ๆ เขาพูดล้อเรียกเอสว่าคุณแฟนได้ขำ ๆ แบบไม่รู้สึกอะไรเลยแท้ ๆ
ตี้ยกมือถือมาเปิดดูข้อความทั้งใน IG, Facebook และ Line ไม่มีใครทักเรื่องงานใด ๆ มาเลย เมื่อช่วงเปิดเทอมใหม่ ๆ ยังได้งานถ่ายแบบรีวิวสินค้าอะไรบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ตอนนี้เงียบกริบ หรือเศรษฐกิจจะไม่ดีฟระ? เขาอยากมีรายได้ให้เอสเห็นว่าเขาเลี้ยงดูไอ้น่ารักได้...แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนิยายแฮะ
ตี้ถอนหายใจพลางโยนมือถือไว้ข้างเตียงแล้วลุกไปแปรงฟันเตรียมตัวเข้านอน แต่เสียงเตือนข้อความไลน์ก็ดังตะดึ๊งขึ้น ตี้หยิบอ่านเผื่อจะเป็นข้อความจากเอส...แต่กลับมาจากเพื่อนสนิทอีกคนคือบอย
บอย: แหม ๆๆ พวกมึงนี่หวานกันจังนะร่างสูงขยี้ตาอ่านอีกที ใครหวาน? ไอ้บอยส่งผิดคนหรือเปล่าเนี่ย?
Ty_Tweetie: อะไรหวาน?
บอย: อ้าว นี่ยังไม่รู้จริง ๆ เหรอ?
Ty_Tweetie: เรื่องอะไร?
บอย: งั้นกูบอกให้ละกัน 18 43 57 16 16
Ty_Tweetie: อะไรวะ? ใบ้หวยเหรอ?
บอย: สม ไม่ตั้งใจเรียนก็งี้แหละอะไรฟระ? ท็อปห้องนะเฟ้ย! ถึงบางวิชาจะไม่ค่อยตั้งใจบ้าง หลับในห้องบ้างก็เถอะ
บอย: อ่ะสงสารคนกำลังมีความรัก กูใบ้ให้หน่อยนึงละกัน 1-118 รีบไปดูละกันเดี๋ยวเค้างอน แล้วไม่ต้องโทรมานะ กูเด็กดีตอนแต่หัวค่ำหลังจากบอยทิ้งปริศนาตัวเลขให้ก็ปิดเครื่องไปเลย ทิ้งให้ตี้ยืนงงคาบแปรงสีฟันค้างไว้แบบนั้น เรื่องอะไรก็ไม่รู้แต่มันต้องเกี่ยวกับไอ้เอสแน่ ๆ เรื่องเดียวที่ไอ้บอยชอบแซวก็คือเรื่องนี้แหละ พอคิดแบบนี้แล้วยิ่งอยากรู้ว้อย! ตี้ลองถอดรหัสแบบต่าง ๆ ทั้งบวกลบคูณหาร การเพิ่มแบบมีเงื่อนไข เซ็ตสมการและวิธีอื่น ๆ อีกล้านแปดแต่ก็ไม่ได้อะไรนอกจากความปวดหัว
ไอ้บอยมึงนอนหัวค่ำแต่ตอนนี้ตรูนอนไม่หลับแล้ว!
รุ่งสางวันอังคารเด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะโหลสะเหลเพราะนอนคิดเรื่องปริศนาที่บอยให้จนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ที่แน่ ๆ เลยเที่ยงคืน เตียงก็ดูดวิญญาณเสียเหลือเกินแต่กระนั้นก็ต้องตื่นให้ได้ไม่งั้นเอสโมโหแน่ ระหว่างขึ้นรถเมล์มาโรงเรียนก็ยังคิดวนเวียนเรื่องนี้ แต่ถึงยังไงก็คิดไม่ออก เห็นทีต้องพึ่งคนอื่นละ ตี้หยิบมือถือโทรไลน์หาคนที่น่าจะช่วยเขาได้ที่สุด สุดยอด Elite5 ของกลุ่ม
“หวัดดีพัต ว่างอยู่ไหม?”
“อืม นี่อยู่บนรถไฟฟ้ากำลังไปโรงเรียน มีอะไรเหรอตี้?”
“ช่วยแก้ปริศนานี้ให้หน่อยสิ 18 43 57 16 16”
“หืม?”
“คำใบ้คือ 1-118 เราคิดไม่ออกเลย มันก็คือติดลบ 117 แล้วยังไงต่อ?”
“คือให้หาเลขลำดับถัดไปเหรอ?”
“เปล่า น่าจะเป็นสถานที่นะ ไอ้บอยเพื่อนเราบอกให้รีบไปดู”
“ให้รีบไปดู แปลว่าต้องเป็นสถานที่ในโรงเรียนล่ะมั้ง พอมีคำใบ้อะไรมากกว่านี้ไหม?”
ตี้แคปหน้าจอไลน์ที่คุยกับไอ้บอยเพื่อนรักตัวแสบเผื่อมีคำใบ้ไหนที่เขาตกหล่นไปแล้วส่งให้พัต
“ไอ้บอยมันพิมพ์มาด้วยว่า สม ไม่ตั้งใจเรียนก็งี้แหละ”
“มีวิชาไหนที่นายไม่ตั้งใจเรียนเหรอ?”
“โห ถามตรงว่ะนายยยยย” ตี้ตอบพลางหัวเราะขำ
“มันคือคำใบ้น่ะอย่าคิดมาก”
“ถ่ายรูป สุขศึกษา เคมี”
“คำใบ้ 1-118 อาจไม่ใช่โจทย์คณิตศาสตร์”
“งั้นคืออะไรเหรอ?
“ของที่มีทั้งหมด 118 ตัว อาจจะเป็นตารางธาตุนะ”
โห! ไอ้บอยมึงเล่นของยากที่แท้ทรู ตรูเคยท่องจำตารางธาตุซะที่ไหนเล่า จำได้แค่ธาตุหลัก ๆ ที่ใช้ในการบ้านเท่านั้นแหละ ถึงเทอมที่แล้วตอนประกวดสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์จะทำแบบจำลองโมเลกุลก็เถอะ ตี้พยายามหยิบตำราวิชาเคมีออกมาจากกระเป๋าอย่างทุลักทุเลบนรถเมล์
“ลำดับที่ 18 คือ Ar ธาตุ Argon”
“ลำดับที่ 43 Tc ธาตุ Technetium”
“ลำดับที่ 57 อยู่ไหนเนี่ย? เอ๊า! ทำไมมันกระโดดข้ามไป 71 เลยล่ะ?”
“ธาตุลำดับที่ 57 อยู่แถวล่างน่ะ ธาตุกลุ่ม Lanthanide มีคุณสมบัติไม่เหมือนธาตุตัวอื่น ๆ ในตารางหลักเลยแยกออกไปอีกแถว” พัตตอบกลับเหมือนรู้ว่าตี้ต้องงงตรงนี้แน่ ๆ
“อ๋อ เจอแล้วลำดับที่ 57 คือ La ธาตุ Lanthanum ส่วนลำดับที่ 16 คือ S ธาตุ Sulfur กำมะถัน” ธาตุที่มักใช้ในโจทย์วิชาเคมีบ่อย ๆ เขาเลยจำชื่อได้...แล้วไงต่อล่ะ? ตี้ลงรถเมล์ที่หน้าโรงเรียนแล้วหยิบปากกาขึ้นมาเขียนใส่สมุด Argon Technetium Lanthanum Sulfur Sulfur ไม่เห็นมีความหมายอะไรเลย? ไม่ได้ใกล้เคียงสถานที่ใด ๆ ในโรงเรียน เหมือนจะเป็นคาถาอัญเชิญเทพมากกว่าเสียด้วยซ้ำ นี่เขามาถูกทางหรือเปล่าหว่า?
เดี๋ยวนะ… Ar Tc La S S
“รู้แล้ว! ขอบใจมากพัต!” ตี้พูดพลางรีบเก็บสมุดปากกาตำราเคมีลงกระเป๋าแล้ววิ่งไปสถานที่ปริศนาที่บอยบอก Ar Tc La S S ถ้าเขียนติดกันแล้วเว้นวรรคใหม่จะกลายเป็น ArT cLaSS ห้องเรียนวิชาศิลปะ! ไอ้นี่แน่ ๆ!
ตี้วิ่งเหยาะ ๆ ตั้งแต่ปากซอยเข้าประตูโรงเรียนมาถึงห้องเรียนวิชาศิลปะที่ว่า เขาย่างเท้าเข้าไปโดยไม่แน่ใจว่าต้องมองหาอะไรกันแน่ ของที่ไอ้บอยบอกให้รีบมาดูก่อนเอสจะงอน ตี้มองไปรอบห้องจนเห็นกระดานติดผลงานนักเรียนที่ฝาห้องด้านหนึ่ง เด็กหนุ่มมอง 3 ภาพบนกระดานนั้น ภาพที่ทำให้เขาลืมความเหนื่อยไปในบัดดล
ภาพตัวเขาเอง กับชื่อผู้วาด
นายเอกยุทธ ชั้นม.4/3...เอสวาดภาพเขา...
*ภาพจาก
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/2e/Simple_Periodic_Table_Chart-en.svg/1200px-Simple_Periodic_Table_Chart-en.svg.png