จ ร ด ฟ้ า #เจ้าสกาย | แจ้งข่าว + อวดปกค่า (01/08/2020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จ ร ด ฟ้ า #เจ้าสกาย | แจ้งข่าว + อวดปกค่า (01/08/2020)  (อ่าน 69947 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อยู่กันดีๆไม่ได้ใช่มั้ย :fire: :fire: :fire:

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เอาใจช่วยพี่โฬมกับน้องฟ้า ต้องผ่านมันไปได้แน่ๆ สู้ๆ

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 24



เสียงดนตรีคลอประกอบการถ่ายทำฟังดูสนุกสนาน

เสียงหัวเราะของคนในห้องส่งก็เช่นกัน

ทุกคนมีความสุขกับแขกรับเชิญคนใหม่ที่กำลังคลี่ยิ้มพูดเสียงเจือยแจ้วอยู่บนเวที ไอซ์เป็นคนพูดเก่ง ยิ้มเก่ง และมีวีธีการเล่นคำเล่นมุกแบบแพรวพราว เขาแทบจะกดทับให้โฬมตัวหดเหลือไม่ถึงคืบ ชายผู้เคยส่องประกายในตอนต้นรายการ นั่งหนีบขาเรียบร้อย กอบกุมมือตัวเองไว้บนตักและพยายามยิ้มรับทุกครั้งที่กล่องแพนกลับเข้าหาตน

คำถามคุดคุ้ยถึงอดีตมากมายถูกซัดเข้าใส่แขกรับเชิญทั้งสองคนแบบไม่มีให้พัก แต่มีแค่เสียงของคนๆ เดียวตอบกลับอย่างเต็มใจ ผมรู้ว่าโฬมอยากพูดอะไรบ้าง แต่เขาก็ไม่สามารถตะโกนแทรกเข้าไปได้ เพราะนอกจากจะไม่เป็นการไม่สุภาพแล้ว โฬมก็ไม่ได้มีนิสัยโผงผางอะไรแบบนั้น

ถ้าโฬมกล้าพอ ขอแค่เขากล้าพอที่จะแย้งออกไปว่ามันไม่ใช่ เรื่องทุกอย่างคงจบตั้งแต่ครั้งแรกที่โดนโจมตี แต่เพราะผู้ชายคนนี้ไม่กล้าที่จะหักหน้าคนรักเก่าของตัวเองแบบนั้น...

เขาถึงต้องเผชิญหน้ากับปากเหวอีกครั้ง พร้อมกับเท้าของใครหลายคู่ที่เตรียมเตะถีบเขากลับลงไปสู่จุดต่ำสุดของชีวิต

ผมได้แต่กำหมัดและกัดริมฝีปากของตัวเองแน่น นึกอยากพุ่งเข้าไปกระชากคอทั้งพิธีกรทั้งแฟนเก่าของแฟนผมมาเขย่าแรงๆ ว่าเป็นอะไรนักหนา จะจองล้างจองผลาญกันไปทำไม

โฬมไม่เคยให้ข่าวว่าร้ายคนรักเก่าตัวเองเลยสักครั้ง

เขาให้เกียรติทุกคนเสมอ แต่ตอนนี้ไม่มีใครให้เกียรติเขาเลยสักนิด ผมโคตรหงุดหงิด หงุดหงิดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในชีวิต

“ที่คุณไอซ์อัพสเตตัสนี้ หมายความว่ายังไงคะ” ผมนิ่งฟังคำถามที่รีบเข้าประเด็นอย่างเร็วรี่หลังจากถกเรื่องเก่าก่อนมาเนิ่นนาน สงสัยชีวิตรักแบบเกย์ๆ มันจะขายไม่ได้นัก ถึงได้ย้อนกลับมาสนใจประเด็นหลังเตียงหักเสียมากกว่า

ผมหงุดหงิดจริงๆ ครับ ถ้าเผลอประชดประชันอะไรไปก็ขอโทษทุกคนด้วย

แต่จะให้นั่งฟังแบบใจสงบนิ่ง มันก็คงทำไม่ได้!

“อ๋อ ก็ตามข้อความบนนั้นเลยครับ” ไอซ์ยิ้มแล้วชี้ไปที่จอมอนิเตอร์ซึ่งฉายข้อความบนหน้าเฟสบุ๊คของตนเอง ผมอ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้งพลางขมวดคิ้ว



‘หลายเดือนก่อนมาขอคืนดี วันนี้มีข่าวกับคนใหม่

ไม่ยอมรับว่าคบแต่ดูจากดาวอังคารก็รู้ เด็กเลี้ยงแกะ’




“ขอคืนดีนี่คืออะไรครับ คุณโฬมมาขอคืนดีกับคุณไอซ์เหรอครับ”

หลายเดือนก่อนพวกเรายังทำเพลงกันอยู่เลย ผมเลื่อนสายตาไปสำรวจใบหน้าหล่อเหลาที่ซีดเซียวลงในทุกขณะ โฬมมองไปยังพิธีกร คล้ายอยากเป็นฝ่ายตอบคำถาม แต่เขาเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่ไม่กล้ายกมือขอคุณครูไปเข้าห้องน้ำเสียมากกว่า

“ครับ เขามาขอคืนดี”

“ไม่ใช่...”

ขวับ!

ไอซ์ที่ไม่เคยมองหน้าโฬมตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในสตูฯ กลับหันขวับไปมองทันทีทันใด ดวงตาภายใต้เส้นอายไลน์เนอร์คมกริบหรี่มองอดีตคนรักอย่างเชือดเชิญ

“ผมไม่ได้กลับไปขอคืนดีครับ” โฬมก็ยังมั่นคงในคำตอบของตน เขายืดไหล่ตัวเองออก ฉีกยิ้มที่ไม่ถึงดวงตานั้นให้กล้อง ทุกความพยายามทั้งหมดนั้นล้วนอยู่ในสายตาผมแน่นอน และผมสัญญาว่าถ้าเขาผ่านช่วงเวลาเฮงซวยนี้ไปได้ ผมจะให้รางวัลชิ้นใหญ่กับเขาเลย

“คุณโฬมช่วยอธิบายเพิ่มได้ไหมครับ”

“ตอนนั้นผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วครับ”

“ใครคะ เอ๊ะ หรือว่า... สกาย”

โฬมเพียงแค่ยิ้มบางๆ อย่างไม่ยอมรับและปฏิเสธ หัวใจผมค่อยๆ เบาลงทีละนิดเมื่อเห็นว่าสถานการณ์บนเวทีค่อยๆ ถูกดึงกลับมา แขกรับเชิญอีกคนแม้จะยังยิ้มอยู่แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจนัก ไอซ์มองโฬมด้วยหางตาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหันกลับไปฉีกยิ้มให้พิธีกรทั้งสอง

“แล้วแต่วิจารณญาณนะครับ” ไอซ์บอกเสียงใส หลังจากนั้นเจ้าตัวก็กดเสียงตัวเองให้เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน “อย่างไร เขาก็เคยโกหกว่าไม่ได้เป็นเกย์ จะโกหกอีกสักครั้งก็ไม่ได้ยากอะไร”

ผมขมวดคิ้ว เสียงพูดประโยคท้ายฟังไม่ได้ศัพท์นัก แต่คนที่นั่งใกล้ๆ คงได้ยินชัด เพราะพิธีกรทำหน้าเหวอเล็กน้อยเช่นกัน

“เอาล่ะค่ะ ใครพูดความจริงก็อยู่ที่คุณผู้ชมจะตัดสินใจแล้วนะคะ” พิธีกรสาวหันไปยิ้มแฉ่งให้กล้อง เธอมองไปยังกระดานสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ทีมงานเขียนแจ้งว่าอีกห้านาทีหมดเวลาแล้วพยักหน้า “น่าเสียดายที่เวลาของเราใกล้หมดแล้ว”

“น่าเสียดายมากๆ เลยนะครับ ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะถามทั้งคุณไอซ์และคุณโฬมอยู่เลย”

“นั่นสิคะ แต่อย่างไรวันนี้พวกเรารายการทอล์คอะล็อตก็ได้เรื่องราวมากมายมาให้คุณผู้ชมได้คลายความสงสัยเยอะแยะทีเดียว”

“ครับ วันนี้ก็ขอขอบคุณคุณโฬมและคุณไอซ์ที่มาร่วมรายการกันด้วยนะครับ”

“ขอบคุณค่า”

พิธีกรทั้งสองคนพายมือมาที่แขกรับเชิญทั้งสองคนบนเวที เสียงดนตรีปิดรายการดังขึ้นพร้อมกับหน้าม้าในห้องส่งที่พร้อมใจกันปรบมือ ตากล้องเคลื่อนตัวเข้าออกเป็นการเก็บภาพครั้งสุดท้ายของรายการ ก่อนที่เสียงคัตของโปรดิวเซอร์จะดังสนั่นลั่นห้องสตูฯ

การถ่ายทำจบลงทันทีที่สิ้นเสียงนั้น โฬมยกมือไหว้คู่พิธีกรชายหญิง ก่อนที่เขาจะหันไปมองไอซ์แล้วฉีกยิ้มบางๆ ให้แล้วเดินลงมาจากเวที ผมรีบผละตัวเองออกจากมุมห้อง คว้ากระเป๋าบนเก้าอี้ที่เคยนั่งแล้วรีบสาวเท้าเข้าหาคนที่น่าสงสารที่สุดของวัน โฬมดูเหนื่อยราวกับทำงานไม่ยอมนอนสักประมาณหนึ่งอาทิตย์ ใบหน้าอิดโรยกับรอยยิ้มที่ไม่ได้มีประทับบนริมฝีปากอีกแล้ว ทั้งๆ ที่รายการนี้เป็นแค่รายการนั่งคุยกันเฉยๆ แท้ๆ เชียว

ผมสัญญากับตัวเองว่าก่อนที่จะตกลงรับงาน ไม่ว่ากับโฬมหรือตัวผมเอง ผมจะศึกษารายการที่เข้ามาติดต่อเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่รู้ได้เลยว่าเขาจะพาเราไปเจอกับอะไร

เหมือนคราวนี้...

“เป็นยังไงบ้างครับ”

โฬมรับของไปถือพลางส่ายหน้าน้อยๆ “อยากรีบกลับบ้านเร็วๆ จังเลยครับฟ้า”

ผมพยักหน้ารับ เดินเคียงข้างผู้ชายที่ดูแก่ลงไปอีกสิบปีเพื่อกลับออกไปยังลานจอดรถ แต่ระหว่างรอลิฟต์เพื่อลงไปยังชั้นหนึ่งกลับมีคู่กรณีชายในเสื้อเชิ้ตลายสก็อตเดินมายืนอยู่ไม่ไกล

ไอซ์มองมาที่ผมทำให้เราเผลอสบตากันชั่วขณะ ผมกระตุกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างคนมีมารยาท ในขณะที่โฬมเพียงแค่ปล่อยผ่านไปราวกับผู้ชายคนนั้นไม่มีตัวตน

“เป็นแฟนโฬมเหรอ” เขาคนนั้นเป็นคนเริ่มบทสนทนา ดูจากสายตาแล้วน่าจะคุยกับผม ผมเลยขยับตัวนิดหน่อยก่อนตอบกลับไปอย่างง่ายๆ

“ไม่รู้สิครับ”

“หึ ระวังเถอะ คบกันหลบๆ ซ่อนๆ” ไอซ์ทำเสียงขึ้นจมูก ปลายตาไปมองโฬมอย่างโกรธแค้นจนผมนึกสงสัยว่าระหว่างพวกเขาจบกันไม่สวยขนาดไหนเชียว คนๆ หนึ่งถึงได้ตามมาปั่นป่วนชีวิตไม่จบไม่สิ้นสักทีแบบนี้ “นักข่าวจับได้ จะจบไม่สวย”

“ครับ” ผมไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดครับ เลยพยักหน้ารับคำเตือนนั้นไป จากนั้นก็เลื่อนสายตากลับมามองประตูลิฟต์อีกครั้งโดยไม่คิดจะต่อบทสนทนาไม่น่าพูดถึงนั้นต่อ

ไอซ์ฮึดฮัด เหมือนหงุดหงิดที่ทำให้ผมเต้นตามไม่ได้ โฬมหันมามองหน้าผมก่อนคลี่ยิ้มให้กันเบาๆ มือหนาขยับมาบีบไหล่ผมสองทีก่อนเป็นฝ่ายเดินนำเข้าลิฟต์ไป

ขอแค่ห้องสี่เหลี่ยมนี้เคลื่อนไปถึงชั้นล่างสุด ทุกอย่างในวันนี้ก็จะจบลง

ผมพ่นลมหายใจออกมาอยู่หลายครั้งแม้ภายในลิฟต์จะมีใครอีกคนยืนอยู่ด้วย พวกเรามองตัวเลขที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปอย่างใจเย็น.... ใจเย็นเท่าที่จะทำได้นะครับ ต้องใช้ความพยายามมากทีเดียวเพราะผมยังหงุดหงิดไม่หาย

กว่าห้องโดยสารจะเคลื่อนลงมาถึงชั้นหนึ่งผมก็อายุสั้นลงไปอีกหลายปีแล้ว โฬมรีบเดินนำออกไปก่อนทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด ส่วยผมเปรยตามองอีกคนในลิฟต์แล้วคลี่ยิ้มแทนคำลาบางๆ จากนั้นก็วิ่งเหยาะๆ ตามคนขายาวกว่าออกไปยังลานจอดรถทันที

ปัง!

โฬมกระแทกประตูรถเข้ากับกรอบอย่างแรงจนผมสะดุ้ง เมื่อหันไปมองก็เห็นสีหน้าหล่อเหลานั้นเหยเกไม่สู้ดีนัก ผมเลยรีบปิดประตูฝั่งตัวเองเข้ามาบ้างก่อนเลื่อนมือตัวเองไปวางทับบนมือของผู้ชายข้างๆ

“พี่โฬม...”

“ผมขอโทษ” เขาน่าจะหมายถึงเรื่องที่ปิดประตูรถผมอย่างแรง แต่ไม่เป็นไร ผมไม่ถือเลยสักนิด สภาพจิตใจอีกคนสำคัญกว่ามากๆ

ผมขยับตัวเข้าไปใกล้โฬมมากขึ้น รั้งใบหน้าอีกฝ่ายให้หันมาทางนี้ก่อนประทับริมฝีปากของโฬมด้วยปากตัวเองเบาๆ มีเสียงจุ๊บดังขึ้นเมื่อผมถอนใบหน้าออกมา ผมแนบหน้าผากของตนไปกับหน้าผากของอีกคน คลอเคลียจมูกเบาๆ อย่างต้องการปลอบโยนเอาใจใส่

“เก่งแล้วครับ วันนี้”

“ฟ้าครับ” ผมฉีกยิ้มให้กำลังใจอีกครั้ง “ขอบคุณนะครับ”

“ต้องขอบคุณผมด้วยเหรอ?”

“ถ้าฟ้าไม่มาด้วยวันนี้ ผมคงสู้ไม่ไหวหรอก”

ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนตัดสินใจถามเรื่องที่ตัวเองสงสัยออกไป “ทำไมคุณไอซ์เขาถึงเกลียดโฬมขนาดนั้นกันครับ พอจะบอกผมได้ไหม”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“อ้าว”

“เราคบกันมาสามสี่ปี ผมจริงจัง แต่ไอซ์ไม่ได้จริงจังด้วย เขาเป็นคนบอกเลิกผมเองด้วยซ้ำ” โฬมบอกเสียงอ่อน เขาทิ้งหน้าลงบนบ่าของผม กอดเอวกันไว้เบาๆ ก่อนค่อยๆ สรุปเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังในเวลาสั้นๆ “ไอซ์ติดโพสต์สเตตัสเรียกร้องความสนใจเป็นปกติอยู่แล้วครับ ตอนเราเลิกกันเขาก็ดราม่าเสียจนผมกลายเป็นฝ่ายบอกเลิก”

“...” ผมเงียบฟัง ถือวิสาสะลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ

“เพื่อนของไอซ์หลายคนเกลียดผมไปเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันแต่ตอนนั้นผมถูกด่าอยู่บ่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว” สิ้นประโยคนี้โฬมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า “เขาบอกผมว่าเขาเจอคนที่ดีกว่าและรวยกว่าผมเลยเลิกกันไป จากนั้นพอผมเข้าวงการและเริ่มมีชื่อเสียง ไอซ์ก็กลับมาขอคืนดี”

ผมสูดลมหายใจเข้าปอด งับริมฝีปากล่างตัวเองจนแน่น แต่มือขวาก็ยังไม่เลิกลูบหลังของโฬมเช่นกัน ผู้ชายในอ้อมแขนผมตอนนี้ไม่ได้ดูเศร้าเสียใจกับเรื่องในอดีต แต่เขาดูเหนื่อยเอามากๆ คล้ายเรื่องพวกนี้คอยถ่วงหัวใจของเขาเอาไว้จนหนักอึ้ง ทั้งยังดูดซับพลังงานชีวิตไปจนหมด

โฬมอดทนมานานจนเขาควรเลิกทนได้แล้ว

“ผมปฏิเสธไป ไอซ์น่าจะโกรธเพราะเรื่องนี้”

“แล้วพี่โฬมโกรธที่คุณไอซ์ไหมครับ”

“โกรธสิครับ”

“...”

“บางครั้งก็อยากตะโกนให้โลกรู้เลยด้วยซ้ำว่าผมไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด”

แต่โฬมก็ทำไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น

ผมเข้าใจดี เลยทำได้แค่ตบหัวไหล่กว้างเบาๆ ก่อนจะดันเขากลับไปนั่งที่คาดเข็มขัดให้เรียบร้อย

“มันไม่แย่เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ” ผมบอกอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะบิดกุญแจสตาร์ทรถแล้วขับออกจากลานจอดรถหน้าตึกที่คิดว่าคงไม่มาเหยียบอีกครั้งแน่ๆ นี้ทันที

ช่วงเที่ยงคืนรถบนถนนไม่เยอะนัก แต่ผมเลือกขับด้วยความเร็วต่ำ กดเปิดเพลงเบาๆ ฟังเคล้าบรรยากาศ ปล่อยให้โฬมเหม่อมองแสงไฟตามท้องถนนกับบรรยากาศเงียบสนิทบนท้องถนนสี่เลนนี้อย่างเงียบเชียบ

ไม่รู้เหมือนกันวาฟีดแบ็ครายการนั้นเป็นอย่างไร แต่ใจผมบอกว่ามันคงไม่แย่เท่าไหร่นัก

หวังว่าจะเป็นอย่างที่คิด

คนบางคนล้มครั้งแรกเจ็บหนัก ล้มครั้งที่สองมีภูมิต้านทาน แต่กับคนบางคน ล้มครั้งแรกเจ็บเจียนตาย ล้มครั้งที่สอง อาจไม่มีแรงลุกขึ้นมาอีกแล้ว

ผมไม่รู้ว่าโฬมเข้มแข็งได้แค่ไหน จิตใจคนเรายากที่จะทำความเข้าใจ แต่ถึงเขาจะลุกเองไม่ไหวผมก็จะลากเขาขึ้นมาด้วยสองมือของผมเอง ต่อให้ล้มไปด้วยกันก็คงไม่แย่เท่าไหร่หรอก ใช่ไหมครับ








ผมถอยรถเข้าจอดเรียบกำแพงบ้านของโฬมเพราะวันนี้ตัดสินใจว่าจะค้างที่นี่ ปกติผมไม่ค่อยมาค้างบ้านคนเขาเท่าไหร่นักเพราะมีเจ้าบ้านขนปุยสองตัวที่โฬมไม่ยอมพาไปตัดเล็บเสียที ผมที่กลัวโดนกัดต้องเป็นฝ่ายถอยห่างเองเพราะที่นี่มันถิ่นเจ้าอ้วนทั้งสอง แต่วันนี้คงต้องขอบุกรุกเสียหน่อย เพราะเจ้าของแมวดูไม่น่าปล่อยให้นอนคนเดียวเท่าไหร่

“ถุงเงิน ถุงทอง” โฬมตะโกนเรียกเจ้าอ้วนสองตัวทันทีที่ก้าวเท้าพ้นประตูบ้านเข้ามา ผมรีบเดินเลี่ยงไปยังโซฟาที่ห้องรับแขกทันที ถุงทองชอบกระโจนเข้าใส่ขาผมโดยไม่เก็บเล็บ ข่วนเป็นแผลให้ได้น้ำตาเล็ดไปหลายวันเลยครับ

“กลับมาแล้วครับ คิดถึงกันไหม ฟอด ฟอดด” โฬมดึงแมวทั้งสองตัวเข้ามากอดมาหอมจนได้ยินเสียงแง้วดังมาหลายระลอก สัตว์หน้าขนดิ้นขลุกขลักอยากลงจากแขนแกร่งที่คงจะรัดแน่นเกิน แต่โฬมกลับไปยอมปล่อย ทั้งยังอุ้มเดินมาหาผมเสียอีก “ขอบคุณที่ช่วยดูแลแมวให้ด้วยนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ” ผมบอก ยื่นนิ้วไปแตะๆ หัวทั้งสองอย่างระมัดระวังก่อนขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ ทิ้งโฬมให้เล่นกับแมวไปสักพักก่อน อย่างน้อยสัตว์เลี้ยงก็ช่วยเยียวยาจิตใจเราได้ดีทีเดียว

ผมอาบน้ำขัดขี้ไคลอยู่นาน ก่อนจะเดินออกมาหาชุดนอนของโฬมใส่แก้ขัด ก่อนหยิบก็ตะโกนลงไปขออนุญาตเจ้าของแล้ว ผมเลือกเสื้อยืดผ้าบางกับกางเกงฟุตบอลมาสวมเพื่อความสบาย จากนั้นก็เดินลงไปตามคนที่เล่นกับแมวไม่เลิกให้ไปอาบน้ำ

“พี่โฬม ดึกแล้วนะครับ”

“ครับ ไปอาบน้ำแล้วครับ” เขาบอกก่อนดันตัวอ้วนบนตักสองข้างออกไปที่พื้น โฬมเดินผ่านผมขึ้นไปชั้นบน มีแอบแวะกดจมูกลงบนแก้มผมเบาๆ เป็นค่าผ่านทางเสียด้วย “ฟ้าหอม”

“สบู่พี่นั้นแหละ!”

“เดี๋ยวพี่อาบเสร็จฟ้ามาดมนะ จะได้รู้ว่าหอมเหมือนกันไหม”

“ไปอาบน้ำเถอะครับ” ผมซ่อนแก้มแดงๆ แล้วโบกมือไล่ผู้ชายเจ้าของลักยิ้มสวยๆ ให้เดินไปเสียที โฬมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมทำตามคำสั่ง

ระหว่างที่รอเขาอาบน้ำผมก็ไปเปลี่ยนอาหารเม็ดกับน้ำดื่มในถาดแมวอ้วนทั้งสอง เช็คกระบะทรายแล้วถึงได้ปิดตะแกรงกั้นแมวไว้ในห้องที่แบ่งไว้สำหรับเจ้าบ้านทั้งสองตัว ไฟในชั้นล่างถูกปิดด้วยฝีมือผมเองหลังจากเดินไปหยิบน้ำเย็นๆ กับแก้วสองใบในครัวเรียบร้อย ผมสำรวจกลอนประตูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนห้องเดียวภายในบ้าน

โฬมอาบน้ำเร็วมาก ผมเข้ามาในห้องได้ไม่นานเขาก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาแบบสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย แอร์ในห้องเย็นฉ่ำกว่าตอนแรกที่ผมเปิด ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครเป็นคนลดอุณหภูมิ ผมชินแล้วจึงได้แค่สอดขาตัวเองเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นและปล่อยให้โฬมเป่าผมที่หน้ากระจกไป

หลังจากทำใจอยู่นานที่จะเช็คฟีดแบ็ครายการ ในที่สุดผมก็ทนความอยากรู้ไม่ไหว จึงกดเข้าไลฟ์เฟสบุ๊คของรายการทอล์คอะล็อต เลื่อนดูคอมเมนต์มากมายที่พุ่งไปหลายหมื่น มีไม่น้อยที่แท็กเพื่อนเข้ามาดู แต่ท็อปคอมเมนต์ก็ทำให้ใจที่หวาดหวั่นของผมสงบลงไปเยอะทีเดียว



‘จรรยาบรรณสื่อหายไปไหนหมดคะ เรื่องส่วนตัว โฬมเขาก็บอกไม่สะดวกตอบแล้ว ยังจะเชิญแฟนเก่ามาถามเรื่องนี้อีก’



ยอดกดไลค์และหัวใจสูงถึงสองพันคน ทั้งยังรีพลายอีกไม่น้อยที่เห็นด้วยกับข้อความนี้

รายการถูกโจมตีหนักไม่น้อย แต่เดาว่าที่ทีมงานพอใจคงเพราะเรตติ้งที่พุ่งสูงทีเดียว แถมในโลกอินเตอร์เน็ตคนก็แชร์ไลฟ์นี้ออกไปหลายหมื่นคน รวมถึงในทวิตเตอร์ที่มี #โฬมลภณ ขึ้นติดเทรนด์อันดับหนึ่งเช่นกัน

ผมเลือกอ่านทั้งแฟนคลับ คนภายนอก และแอนตี้แฟน ส่วนมากกระแสตีกลับไปที่รายการว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง ในขณะที่มีคนไม่น้อยเลยโต้เถียงว่าแฟนเก่าของโฬมยินยอมที่จะเปิดเผยเรื่องเอง รายการไม่ถือว่าละเมิด

ด้านแฟนคลับ หลายๆ คนยังซัพพอร์ตและเข้าใจโฬมเสมอ ทุกคนรับได้ว่าเขาเป็นเกย์ รวมถึง #โฬมฟ้า ก็ไหลเร็วจนขึ้นอันดับที่สามของเทรนด์ในประเทศไทยเช่นกัน ผมยิ้มบ้างขมวดคิ้วบ้างตอนนอนอ่านข้อความมากมายในมือถือ ใจชื้นขึ้นมาไม่น้อยเพราะดูเหมือนว่าโฬมคงไม่กลับไปโดนแบนจากวงการเหมือนเดิมหรอก

โลกเราเวลาเปลี่ยน คนในสังคมก็เปิดกว้างกับเพศทางเลือกขึ้นเหมือนกัน

ผมคลี่ยิ้ม ชี้ชวนให้โฬมมาดูคอมเมนต์ให้กำลังใจของแฟนคลับกับคนภายนอกที่มองเข้ามา กระแสด้านบวกเยอะแยะ แต่ที่แย่คือมีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยไปโจมตีไอซ์ในโซเชียลมีเดียทุกทาง นี่ต่างหากที่น่ากังวล เพราะคนจะรักจะชอบศิลปินนั้น แฟนคลับก็มีส่วนเหมือนกัน

ได้แต่หวังว่าเรื่องจะไม่ลามปามไปกันใหญ่

“ฟ้าดูกังวลยิ่งกว่าผมอีกนะ” โฬมเอ่ยเสียงเย้าขณะสอดตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน วางมือบนเอวผมเบาๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามองจอโทรศัพท์ด้วย

“กังวลสิครับ” ผมยอมรับ “ไม่อยากให้เจอเรื่องไม่ดีแล้ว”

“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ”

“แต่ผมเป็นห่วงนี่น่า” ผมละสายตาจากจอโทรศัพท์แล้วหันไปมองคนข้างๆ “เป็นห่วงได้ไหมครับ”

“ได้สิครับ” โฬมตอบ กดจูบลงมาบนปากผมเบาๆ

“กระแสไม่ตีมาที่ฝั่งเรานะครับ”

“ดีจัง”

ใช่ และเรื่องดีๆ มักอยู่ได้ไม่นาน

เพราะมือเจ้ากรรมของผมดันเลื่อนไปเจอโพสต์หนึ่งในทวิตเตอร์ ดิสเพลย์ไม่ได้ตั้งรูปอะไรไว้ ดูเหมือนเพิ่งสมัครเข้ามาใหม่ แต่จำนวนรีทวิตที่มีเพียงสี่อันของเขาเฉียดหมื่นเลยทีเดียว

ผมหุบรอยยิ้มของตัวเองลง ในขณะที่โฬมเงียบไปแล้ว


‘พวกชอบโชว์’


ทวิตแรกพิมพ์ไว้อย่างนี้ ก่อนจะแนบคลิปผู้ชายสองคนบนเตียงนอนยับย่นที่เห็นท่าทางไม่ค่อยชัดนัก ภาพบิดเอียงจนน่าปวดหัวและมีบางอย่างปิดตัวกล้องไปครึ่งเฟรม เสมือนว่าเป็นการตั้งกล้องแบบแอบถ่าย แต่แม้ภาพไม่ชัดนัก ทว่าก็รู้ได้ทันทีว่าคนสองคนนั้นที่เปล่าเปลือยกำลังทำอะไรอยู่บนเตียง

ทวิตอันที่สอง เป็นรูปแคปแชทในไลน์อยู่สามภาพ เนื้อหาใจความคือการรั้งคนรักที่น่าจะตัดสัมพันธ์กันไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามเพียรส่งข้อความขอพูดคุย ขอคืนดีไม่หยุดหย่อน โดยที่เจ้าของแชทไม่ได้ตอบโต้อะไรไปเลยสักคำ

อันที่สาม คือการเล่าเรื่องระหว่างคบกันของโฬมและไอซ์ ว่าไอซ์ถูกนอกกายนอกใจสารพัด พอทนไม่ไหวจะขอเลิกก็ไม่ยอม โกหกหลอกลวงปลิ้นปล้อนมากมายหลายเรื่องที่ไม่รู้ว่าใส่สิตีไข่ไปมากแค่ไหน

และอันสุดท้าย... คือการจับผิดข่าวของผมกับโฬมและฉากจูบในเอ็มวี ว่าไม่ได้เป็นแค่การถ่ายทำเอ็มวีแบบที่ทางค่ายออกมาประกาศ รวมถึงย้ำอีกครั้งด้วยว่า ผู้ชายที่ชื่อโฬมลภณ เป็นเด็กเลี้ยงแกะที่ไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด

ผมเม้มปากแน่น กดผิดโทรศัพท์และโยนทิ้งออกไปห่างตัวทันที

“โฬมครับ”

“ฟ้า”

“...”

“อย่าเพิ่งพูดอะไรนะครับ” โฬมบอกผมเบาๆ ก่อนจะคว้าทั้งตัวผมเข้าไปกอด เขาซุกหน้าบนอกผม นอนนิ่งๆ อยู่แบบนั้นโดยไม่กล่าวว่าอะไรอีก ในขณะที่ผมทำได้แค่ลูบศีรษะของเขาเบาๆ รัดร่างผู้ชายที่ดูเปราะบางเหลือเกินนั้นไว้ในอ้อมกอด

และปล่อยให้รอยเปียกชื้นบนหน้าอกผ่านไปราวกับไม่เคยมี...




_______
Talk: สวัสดีค่า มาแล้วๆๆๆๆ หายไปนาน เอื้อ
จริงๆ จะอัพตอนวันสิ้นปีค่ะ แต่ลองอัพเรื่อง #เขื่อนคนสวย ไปเมื่อวันที่ 30
ปรากฎว่าไม่มีคนอ่านแล้ว คนอ่านน่าจะไปเที่ยว กลับบ้านกัน เลยมาอัพหลังปีใหม่แล้วกันค่ะ
ฮืออออ กลัวไม่มีคนอ่าน ใจแป้วววว


ไอซ์เป็นมนุษย์แฟนเก่าที่เพื่อนเราเคยเจอค่ะ ลอกนิสัยมาเลย แต่อาจจะอัพเลเวลขึ้นมาหน่อย
ส่วนพี่โฬมก็เหมือนเพื่อนเราตอนนั้นที่ไม่อยากหักหน้าแฟน ยังไงก็คนเคยๆ รักกัน ตอนเลิกกันใหม่ๆ ก็ยังรักอยู่

อะไรไม่ดีติชมได้นะคะ รักทุกคน จุ้บบ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :m15:โอ๊ยยย....หนักหน่วงมากกกก...  :m15: ทำไมรายการนี้ทำตัวแย่มากกกกกค่ะ ...... ยังไงขอให้ดราม่าผ่านไปเร็วๆนะค่ะ  :hao5: อยากให้ทั้งคู่ happy กันซะที่ ....ขอให้ ไอซ์ได้รับผลกรรม  :m16:  :m16:  :m16:

 btw: Happy new year kaa  :mc4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ไม่จบไม่สิ้น เฮ้อ
เปลี่ยนผิดให้เป็นถูกซะงั้น กรรมจริงๆด้เจอคนแบบนี้

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
บางทีคนแบบไอซ์ ถ้าเรายิ่งเงียบจะยิ่งได้ใจนะคะ ต้องร้ายใส่หักหน้าซักทีถึงจะเลิกตอแย คนบางคนก็ไม่ควรได้รับโอกาส ไม่ควรมีที่ยืนหรือมีทางลงไว้ให้ค่ะ ต้องต้อนจนหลังชนฝาหรือจนตรอกเท่านั้น

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
พี่โฬม ร้องให้พอค่ะ เสร็จแล้วลุกขึ้นมาไฟท์กะนางค่ะ

สุภาพบุรุษใช้กะคนประเภทนี้ไม่ได้ เอาให้หมดอนาคตไปเลยค่าาา

อินมากอ่ะ เกลียดมากนิสัยแบบแฟนเก่าพี่เค้าเนี่ย

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 แต่งให้โฬมเจอเรื่องร้ายแต่ไม่ลุกขึ้นสู้เลยมันเป็นอะไรที่ไม่โอเคสำหรับเราเลยค่ะ บอกว่าฟีลกู้ดแต่นี่ดึงหน่วงดึงดราม่ามาหลายตอนแล้วเมื่อไหร่โฬมถึงจะสู้อ่ะคะ ปกป้องตัวเองบ้างก็ได้ไม่ใช่ต้องเป็นคนดี แล้วเป็นไงอ่ะคะ ไม่อยากพูดไม่อยากร้ายสุดท้ายก็กลายเป็นตัวเองที่แย่แถมทำให้คนที่รักตัวเองแย่ไปด้วย เข้มแข็งได้แล้วสู้เพื่อตัวเองมั่ง จะเงียบให้ตัวเองแย่ไปเพื่ออะไรอ่ะ เป็นคนดีกับคนแบบนี้แล้วได้อะไร รักสกายจริงเหรอทำไมไม่เข้มแข็งอ่ะแล้ววันข้างหน้าจะดูแลน้องได้ไง แต่งมาให้ไอซ์ร้ายขนาดนี้แล้วก็ขอให้ตอนสุดท้ายเรืองร้ายไปเกิดกับไอซ์บ้างนะคะ คงไม่แค่ขอโทษให้อภัยจบกันไป

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
:m15:โอ๊ยยย....หนักหน่วงมากกกก...  :m15: ทำไมรายการนี้ทำตัวแย่มากกกกกค่ะ ...... ยังไงขอให้ดราม่าผ่านไปเร็วๆนะค่ะ  :hao5: อยากให้ทั้งคู่ happy กันซะที่ ....ขอให้ ไอซ์ได้รับผลกรรม  :m16:  :m16:  :m16:

 btw: Happy new year kaa  :mc4:
จะผ่านไปแล้วค่าาา พายุพัดมาไม่นานเลย  :mew1:



:L2: :pig4:

ไม่จบไม่สิ้น เฮ้อ
เปลี่ยนผิดให้เป็นถูกซะงั้น กรรมจริงๆด้เจอคนแบบนี้
เป็นคนที่มีในสังคมจริงๆ เลยค่ะ ฮื้อออ
อีกนิดก็จะจบแล้วค่า ฮึบๆ



บางทีคนแบบไอซ์ ถ้าเรายิ่งเงียบจะยิ่งได้ใจนะคะ ต้องร้ายใส่หักหน้าซักทีถึงจะเลิกตอแย คนบางคนก็ไม่ควรได้รับโอกาส ไม่ควรมีที่ยืนหรือมีทางลงไว้ให้ค่ะ ต้องต้อนจนหลังชนฝาหรือจนตรอกเท่านั้น
ใช่แล้วค่า พี่โฬมเรียนรู้จากครั้งที่แล้วแล้วว่าการเงียบไม่ใช่เรื่องดี
มาลุ้นด้วยกันค่าว่านังไอซ์จะเป็นยังไงต่อไปปป  :katai2-1: :katai2-1:



พี่โฬม ร้องให้พอค่ะ เสร็จแล้วลุกขึ้นมาไฟท์กะนางค่ะ

สุภาพบุรุษใช้กะคนประเภทนี้ไม่ได้ เอาให้หมดอนาคตไปเลยค่าาา

อินมากอ่ะ เกลียดมากนิสัยแบบแฟนเก่าพี่เค้าเนี่ย
:ling3: :ling3: ไฟท์เลยค่ะ พี่โฬมจะไฟท์แล้วววว



แต่งให้โฬมเจอเรื่องร้ายแต่ไม่ลุกขึ้นสู้เลยมันเป็นอะไรที่ไม่โอเคสำหรับเราเลยค่ะ บอกว่าฟีลกู้ดแต่นี่ดึงหน่วงดึงดราม่ามาหลายตอนแล้วเมื่อไหร่โฬมถึงจะสู้อ่ะคะ ปกป้องตัวเองบ้างก็ได้ไม่ใช่ต้องเป็นคนดี แล้วเป็นไงอ่ะคะ ไม่อยากพูดไม่อยากร้ายสุดท้ายก็กลายเป็นตัวเองที่แย่แถมทำให้คนที่รักตัวเองแย่ไปด้วย เข้มแข็งได้แล้วสู้เพื่อตัวเองมั่ง จะเงียบให้ตัวเองแย่ไปเพื่ออะไรอ่ะ เป็นคนดีกับคนแบบนี้แล้วได้อะไร รักสกายจริงเหรอทำไมไม่เข้มแข็งอ่ะแล้ววันข้างหน้าจะดูแลน้องได้ไง แต่งมาให้ไอซ์ร้ายขนาดนี้แล้วก็ขอให้ตอนสุดท้ายเรืองร้ายไปเกิดกับไอซ์บ้างนะคะ คงไม่แค่ขอโทษให้อภัยจบกันไป
ขอบคุณสำหรบคำติชมนะคะ  :กอด1: :กอด1:
พี่โฬมจะได้เรียนรู้แล้วค่ะว่าการเงียบมันไม่ได้ดีเสมอไป และเขาจะลุกขึ้นสู้เองในจุดๆ หนึ่งค่า
และหน่วงอีกไม่นานเลยค่า พี่โฬมลุกขึ้นสู้แน่นอนค่ะ!!!!!! ฮึ้บ  :katai4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 :katai1: :katai1: :katai1:
แกต้องโดนกระแสตีกลับยิ่งกว่าที่ทำกับโฬม จัมมมมมมมมมมม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: จ ร ด ฟ้ า #เจ้าสกาย | บทที่ 24 [2-Jan-19] P.7
« ตอบ #189 เมื่อ: 03-01-2019 14:29:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 25




[เป็นยังไงบ้างวะ] น้ำเสียงของคนปลายสายทั้งเป็นห่วงทั้งกังวล เก่งกาจต่อสายหาผมในเวลากลางดึกที่ข่าวบ้าๆ บอๆ กำลังเป็นกระแส ผมปล่อยให้โฬมใช้เวลากับความคิดของตัวเองอยู่ในห้อง ส่วนตัวเองเดินออกมานั่งคุยกับเพื่อนที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง

“ไม่ค่อยดี”

[พี่เขา... จะเอายังไงกับเรื่องนี้]

“กูก็ไม่รู้ พี่โฬมไม่พูดอะไรเลย” ผมบอกขณะสั่นขาตัวเองไปด้วยเพราะความวิตก นึกห่วงไปถึงคนด้านบนที่เงียบไม่พูดไม่จามาสักพักแล้ว

โลกอินเตอร์เน็ตทุกอย่างส่งถึงกันอย่างรวดเร็ว แม้ตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่สำนักงานข่าวก็ยังทำงานกันให้ยุ่ง โทรศัพท์ของโฬมดังตั้งแต่ทวิตเตอร์นั้นถูกพบจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่หยุดสั่น ผมเป็นคนเดินไปเปิดโหมดเครื่องบินให้ก่อนเดินออกมาจากห้อง ไฟข่าวรุนแรงแบบนี้ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรทำยังไงดี

[เรื่องนี้มันไม่ได้ซวยแค่เขานะเว้ยสกาย มึงก็โดนไปด้วย]

“กูรู้”

[ถ้าเขาจะเงียบเหมือนเดิม คราวนี้คงยากจะกลับมาในวงการอีกแล้วว่ะ]

ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

เรื่องบางเรื่อง การเงียบก็เป็นการดี

แต่เรื่องบางเรื่อง ความเงียบก็จะทำร้ายเราเช่นกัน

“เก่ง...”

[ว่า?]

“กูเปิดตัวเรื่องคบกับโฬมเลยดีไหม” ผมถามอย่างไม่มั่นใจนัก ณ จุดๆ นี้ ตัวผมเองก็ยืนอยู่กลางพายุลูกใหญ่ แรงลมพัดพาให้วิสัยทัศน์มัวหมอง ผมไม่สามารถมองจากภายนอกได้ว่าพายุจะม้วนตัวไปยังทิศไหน และตัวผมเองควรตัดสินใจไปทางไหนถึงจะปลอดภัย

โลกอินเตอร์เน็ตหลายๆ อย่างมันเริ่มไกลเกินกว่าเหตุ ผมเลิกอ่านมันไปแล้ว แต่ชาวเน็ตก็ยังวิเคราะห์นั่นนี่ไปเรื่อยไม่หยุด ราวกับว่าหากชีวิตใครสักคนไม่พังลง พวกเขาจะไม่อาจนอนหลับได้ในคืนนี้

[สกาย เปิดตัวตอนนี้เนี่ยนะ]

“ยิ่งเลี่ยงก็ยิ่งกลายเป็นโกหกอีกไหมอ่ะ” ผมไม่อยากให้ข่าวโจมตีเข้ามาทีเดียวหลายๆ เรื่อง มันออกจะรุนแรงไปหน่อยถ้าเกิดมีหลายๆ ประเด็นพร้อมกัน

[กูว่ามึงเงียบไปก่อน ค่อยๆ วางแผนดีกว่าว่ะ น้ำเชี่ยวเอาเรือไปขวาง เรือได้พังพอดี]

“การเงียบมันจะดีจริงๆ เหรอวะ”

[อย่างน้อยมึงก็จะมีสติกว่าตอนนี้ว่ะ]

คำแนะนำของคนที่ยืนอยู่นอกพายุ

ผมเลือกเก็บคำพูดของเก่งกาจมาคิด เอ่ยขอบคุณเพื่อนไปสองคำก่อนวางสายไปเพราะดึกมากแล้วและเก่งกาจต้องทำงานพรุ่งนี้ แม้ว่ามันจะพยายามถามว่าให้ไปอยู่เป็นเพื่อนไหมอยู่ตลอดก็ตาม

ผมไม่เป็นไรหรอก แม้จะสับสนทำอะไรไม่ถูกไปบ้าง

แต่ผมเชื่อว่าสุดท้ายมันจะผ่านไปได้ด้วยดี

“เมี้ยววว” เจ้าแมวสองตัวเดินมายืนอยู่ชิดประตูกรงสีขาวนวล พวกมันใช้แววตาสีเหลืองอำพันจ้องมาทางผม ก่อนร้องเมี้ยวออกมาเบาๆ อยู่หลายครั้ง

“ว่าไง” ปกติผมไม่ค่อยเล่นกับถุงเงินถุงทองเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้ผมกลับลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปนั่งยองๆ ที่หน้าประตูกรง เล่นจ้องตากับเจ้าพวกนั้นอยู่พักนึง

“เมี้ยวว”

“ห่วงกันรึไง”

“แง้ว” ถุงเงินตะกุยประตูกรงทันทีที่ผมพูดแบบนั้น ผมหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดกับแมวต่อเป็นตุเป็นตะ “รู้แล้วว่าห่วงโฬมน่ะ”

“เมี้ยว เมี้ยววว”

ผมจ้องดวงตากลมโตที่ม่านตาดำขยายกว้างในความมืด เสียงร้องม้าวๆ ชวนให้ผ่อนคลายขึ้นมาถึงสิบส่วน ผมยื่นมือไปลูบศีรษะทุยๆ ของเจ้าพวกนั้นเล่น บ่นพึมพำไปหลายประโยคว่าจะทำยังไงดี ก่อนขอกำลังใจจากเจ้าบ้านทั้งสองแล้วเดินจากมา

“เมี้ยว!”

“รู้แล้วน่า” ผมตอบกลับเสียงที่ร้องตามมาด้านหลัง เดาเอาเองว่าเจ้าพวกนั้นคงฝากฝังให้ดูแลโฬมให้ แม้ความจริงมันอาจโวยวายเพราะหิวมื้อดึกก็ตามที

ผมพาตัวเองเดินกลับขึ้นมายังชั้นสอง โฬมยังคงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนตอนก่อนที่ผมจะลงไปคุยโทรศัพท์ เขาหันมาทางผมเมื่อได้ยินเสียงประตูปิด จากนั้นริมฝีปากก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นบางๆ

“ฟ้าครับ”

“ครับ” ผมตอบรับเสียงเรียก เดินไปทิ้งตัวนั่งข้างๆ บนขอบเตียง “คิดอะไรอยู่ครับ”

“คิดว่าผมไม่ดีเลยที่พาฟ้ามาโดนอะไรแบบนี้ด้วย”

“ไม่ดีจริงๆ นั่นแหละครับ”

“...”

“ไม่ยิ้มให้ผมแบบนี้ไม่ดีเลย” ผมว่าพลางยื่นนิ้วไปรั้งมุมปากของโฬมให้ยกสูงขึ้น เขาจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าประหลาดแบบนั้น ก่อนค่อยๆ ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“อย่าแกล้งกันแบบนี้สิครับ”

“ไม่อยากให้เครียด”

“ห้ามได้ที่ไหนกัน” โฬมบ่นพึมพำแล้วคว้ามือผมที่ยังบิดแก้มของเขาอยู่ออกมากุม ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องตรงมา บรรยากาศจริงจังตลบอบอวลไปทั่ว ผมกลืนน้ำลายหนืดเหนียวลงคอ จ้องกลับไปอย่างลุ้นระทึกว่าโฬมจะพูดอะไรออกมา “ผมจะแถลงข่าวครับ”

“ครับ?”

“รอบที่แล้วผมเงียบ เพราะคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด” นิ้วสากจากการเล่นดนตรีเกลี่ยใต้ตาผมเบาๆ เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนค่อยๆ พูดประโยคต่อมา “มีหลายครั้งที่การเงียบเป็นผลดี แต่มันก็ไม่เสมอไป ผมเพิ่งเข้าใจก็วันนี้เอง”

“ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะครับ”

“เพราะว่าถ้าครั้งนี้ผมยังไม่ทำอะไรเลย ผมก็จะปกป้องฟ้าไว้ไม่ได้”

“...”

“ผมรักฟ้านะครับ” เขาบอกผมด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังมากนัก สื่อสารออกมาผ่านดวงตาที่ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ไม่มีรอยยิ้มหวานๆ ส่งให้กันประกอบถ้อยคำว่ารัก ไม่มีการสัมผัสที่มากกว่าปลายนิ้วมือบนผิวแก้ม โฬมเว้นระยะห่างไว้เท่าเดิม ปล่อยให้ถ้อยคำทำงานของมันไปอย่างช้าๆ

“ผมก็รักพี่โฬม”

มันไม่ใช่ถ้อยคำให้กำลังใจเลยด้วยซ้ำ ทว่ากลับสามารถจุดความมั่นใจในดวงตาของเขาขึ้นมาได้ ผมฉีกยิ้มจนตาหยี ดีใจที่ผู้ชายตรงหน้าเป็นอย่างที่เก่งกาจเคยพูดเอาไว้

เขาเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดจริงๆ







อาทิตย์กว่าๆ แล้วที่ผมกับโฬมหลีกเลี่ยงทุกการอธิบายทุกอย่าง ไม่รับให้สัมภาษณ์ใดๆ และทำงานของตนเองไปอย่างตั้งใจ โฬมไม่เล่นโซเชียลใดๆ ด้วยซ้ำแม้กระทั่งอินสตราแกรม ทว่าเขาก็ยังถ่ายรูปต่างๆ เก็บไว้เต็มไปหมด โดยเฉพาะรูปทีเผลอของผม

“เอาเก็บไว้ดูทีหลัง” เมื่อถามก็ได้คำตอบมาแบบนี้ ผมจึงเลิกเอ่ยห้ามไม่ให้เขาถ่ายรูปอีก

ผมกับโฬมไม่ติดตามกระแสอีกเพราะอ่านไปก็ยังทำอะไรไม่ได้ ประธานค่ายผมไม่ว่าอะไรนัก มีบ่นและตักเตือนเล็กน้อย เพราะอย่างไรแฟนคลับของผมก็ตามงานเพลงมากกว่าตัวตน แถมข่าวพวกนี้ยังเรียกให้ยอดวิวเพลงผมในยูทูปพุ่งขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ผมจึงสามารถออกมาแถลงข่าวได้โดยผ่านการเข้าไปคุยกับประธานและเลขาฯ แค่สองรอบ

รอบแรกคือบอกว่าจะแถลงข่าว รอบสองคือเข้าไปอธิบายว่าจะพูดเรื่องอะไรบ้างและขอคำปรึกษา

โฬมบอกว่าเขาจะไลฟ์สดผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง เขาตระเตรียมสคริปต์ทั้งหมดด้วยตัวเอง วางแผนทุกอย่างเพื่อให้สามารถทำทุกอย่างให้กระจ่างได้ภายในเวลาสั้นๆ

การพูดเยิ่นเย้อจะเหมือนการแก้ตัว โฬมบอกผมแบบนั้น

จนกระทั่งวันเวลาหมุนวนมาถึงกำหนดการแถลงข่าว ผมได้บอกกับสื่อต่างๆ ไปแล้วว่าจะให้ออกมาอธิบายเรื่องราวทั้งหมดในวันนี้ตอนเวลาหนึ่งทุ่มตรง เพราะเป็นวันว่างตรงกันของพวกเราพอดี

พวกเราที่ไม่ได้มีแค่ผมกับโฬมแค่สองคน

ผมมาหาโฬมที่บ้านของเขาในตอนสี่โมงเย็น พอเข้ามาด้านในก็พบกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งนั่งอยู่ในบ้าน เขาตัวสูงพอกันกับแฟนของผม แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีเทาคอวีกับกางเกงยีนส์ขาดเข่ารัดรูป ใบหน้ามีหนวดสั้นๆ อย่างดาราฝรั่ง ทั้งโครงหน้าของเขาก็คมเข้มจึงดูเข้ากันได้ดี

“หวัดดี พี่ชื่อเฟรม” คนๆ นั้นยื่นมือขวาออกมาด้านหน้าอย่างทักทาย

“สวัสดีครับ” ผมยิ้มรับพร้อมจับมือเชคแฮนด์กับพี่เฟรมตามมารยาท “ชื่อสกายครับ”

“เพิ่งได้เห็นตัวจริง สุดยอดมากเลย”

สุดยอดนี่คืออะไรกัน?

ผมขมวดคิ้วสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป

“ไอ้โฬมมันนั่งทำใจอยู่ข้างบนแหน่ะ” พี่เฟรมชี้นิ้วโป้งขึ้นไปด้านบนประกอบคำพูด ก่อนชักชวนให้ผมขึ้นไปหาเพื่อนของเขา
ใช่แล้วครับ พี่เฟรมเป็นเพื่อนสนิทของโฬม

ผมได้รู้จักตอนที่โฬมติดต่อไปขอความช่วยเหลือบางอย่าง และเพื่อนของเขาก็ลงทุนบินกลับไทยมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทั้งยังโทรมาบ่นเพื่อนตัวเองอยู่บ่อยๆ หลังจากรู้เรื่องทั้งหมดว่าปล่อยให้แฟนเก่าทำชีวิตตัวเองพังขนาดนี้ได้ยังไง

พี่เฟรมบ่นใหญ่เลยเพราะเขาทำงานอยู่ต่างประเทศ ไม่ค่อยได้ตามข่าวคราวของเพื่อน ทั้งในโซเชียลของโฬมก็ไม่เคยบ่นเคยบอกอะไรใคร พอได้มารู้ว่าเพื่อนตัวเองโดนอะไรไปมั้งถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ผมได้ยินเสียงโวยวายดังลอดมาจากโทรศัพท์ของโฬมอยู่บ่อยๆ

“ไอ้โฬมโว้ย เมียมา”

“ฟ้า!”

กระดากชะมัด คำพูดของพี่เฟรมเนี่ย ให้ตายเถอะ

ผมเกาศีรษะและยิ้มแหยๆ ให้คนทั้งสอง เราทั้งสองเดินเข้าไปหาเจ้าของบ้านในห้องซ้อมดนตรีที่ถูกจัดเป็นที่ถ่ายทอดสดเรียบร้อย

ตรงกลางห้องเป็นโน้ตบุ๊คพร้อมกล้องตั้งเอาไว้ ห่างออกมาอีกหน่อยเป็นโซหาที่ยกมาจากห้องนอนของโฬม เขาเคลียร์ของรกๆ ออกจนกลายเป็นพื้นที่ว่าง และตอนนี้เจ้าของบ้านก็ยังนั่งอ่านนั่งแก้กระดาษเอสี่บนมือตัวเองไปมาราวกับไม่พอใจกับสคริปต์ที่ตัวเองเขียนเสียที

ผมขยับตัวไปนั่งข้างๆ คนรักบนโซฟา มีพี่เฟรมนั่งลงขนาบอีกข้าง กลายเป็นว่าโฬมนั่งกลางโดยมีพวกผมสองคนเข้าไปเบียด โชคดีที่โซฟาตัวใหญ่พอจึงยังพอนั่งได้สบาย

“ทำอะไรครับ?” ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูกระดาษในมือของโฬม อะไรยึกยือโยงกันไปมั่วซั่วจนน่าสับสน อ่านแล้วไม่เข้าใจเลยสักนิด

“ไทม์มิ่งครับ ผมเรียงลำดับเรื่องที่จะพูดอยู่”

“อ๋อ”

“จริงจังชิบหาย” พี่เฟรมเอ่ยแซวเบาๆ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น ยกขาขึ้นไขว่ห้างสบายใจเฉิบ “ปล่อยมันทำไปเหอะสกาย มาเล่นเกมกับพี่ดีกว่า”

“เกมอะไรครับ”

“โดดร่ม เล่นเป็นป่ะ”

“เล่นเป็นครับ” ผมบอกพลางควักโทรศัพท์ขึ้นมา

“เอาชื่อมา เดี๋ยวพี่แอดไป” ว่าแล้วพวกผมก็คุยกันห้ามหัวโฬมที่ยังขีดๆ เขียนๆ ไม่เลิก จากนั้นผมก็เล่นเกมกับพี่เฟรมเพื่อฆ่าเวลาจนเกือบๆ หนึ่งทุ่มนู้นแหละถึงได้วางโทรศัพท์ลง

โฬมที่เอนตัวพิงพนักและพักสายตากระเด้งตัวขึ้นมาตอนนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ อีกห้านาทีจะหนึ่งทุ่มตรงทำให้พวกเราต้องเตรียมตัวเพื่อถ่ายทอดสอดแล้ว ผมช่วยด้วยการเข้าไปเซ็ตกล้องและเปิดเข้าหน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจของโฬมให้ ส่วนพี่เฟรมหยิบเอากระดาษสคริปต์ของโฬมไปอ่านด้วยความสนใจ

“มึงว่ามันจะช่วยได้แค่ไหน” คนไว้หนวดชูกระดาษในมือขึ้นถามเพื่อน โฬมหวีผมไปพลางหันมาตอบไปพลางว่า

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่กูลงหมดหน้าตักที่กูมีแล้ว”

“แต่กูยังไม่หมดว่ะ” มุมปากของคนพูดหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น เขาใช้กระดาษในมือต่างพัดก่อนผิวปากหวิวออกมาอย่างอารมณ์ดี “ถ้าบอกกูตั้งแต่แรกเรื่องก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก ไอ้ควายโฬม”

พี่เฟรมฟาดผัวะลงกลางหลังเพื่อนก่อนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสะใจ

ผมเพิ่งเคยเห็นโฬมอีกมุมหนึ่ง มุมที่เขาอยู่กับเพื่อนและไม่ได้มีแต่รอยยิ้มและความสุภาพที่ต้องแสดงออกมา มันน่าสนใจจนผมเอาแต่มองไม่เลิก พี่เฟรมรู้แล้วหันมายักคิ้วให้สองที ก่อนยกจอโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์เวลาว่าหนึ่งทุ่มแล้ว

“เดี๋ยวผมเปิดกล้องให้” ผมอาสาขยับตัวไปกดปุ่มไลฟ์ที่หน้าจอ เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จก็วิ่งกลับมานั่งที่เดิมบนโซฟา บนหน้าจอฉายตัวเลขของผู้เข้าชมที่จากเลขหลักเดียวค่อยๆ มาขึ้น จนกลายเป็นร้อยเป็นพันในเวลาแค่นาทีเดียว

“สวัสดีครับ” โฬมสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนเอ่ยประโยคทักทายง่ายๆ ออกมา “วันนี้ผมได้ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ในการตอบคำถามและอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้ทุกคนฟังครับ”

ผมเปิดโทรศัพท์ตัวเองเพื่อดูคอมเมนต์ที่ใต้คลิป มันไหลเร็วมากจนอ่านไม่ค่อยทัน มันทั้งให้กำลังใจและด่าทอเต็มไปหมด รวมถึงคำถามมากมายที่สาดเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็น โฬมไม่ได้สนใจเพราะเขาเอาแต่มองกล้องและพูดต่อไปเรื่อยๆ โดยมีพี่เฟรมค่อยนั่งยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ เป็นตัวประกอบ

“ก่อนอื่นผมต้องบอกกับทุกคนอีกครั้งว่าผมเป็นเกย์และเคยมีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆ” เขาเว้นจังหวะในการหายใจก่อนพูดต่อ “อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าผมเคยคบกับไอซ์ เราคบกันมาเป็นปีแล้วครับ และเลิกกันก่อนที่จะมีข่าว โดยที่ไอซ์เป็นคนบอกเลิกผมเอง และพวกเราไม่ได้บาดหมางกันอย่างที่ทุกคนเข้าใจ”

ผมฟังทุกคำพูดของโฬมอย่างตั้งใจ ทั้งยังอดลุ้นไปด้วยไม่ได้

การต้องมานั่งเล่าเรื่องตัวเองให้คนทั้งประเทศฟัง ไม่ต่างอะไรจากการค่อยๆ เปลื้องผ้าออกให้คนอื่นดูเลย มันเป็นความยากลำบากใจที่บุคคลสาธารณะต้องอดทนต่อมัน

น่าเศร้านะครับ คนเราทุกคนต่างก็มีเรื่องที่ไม่อยากพูดออกไปทั้งนั้น...

“พวกเราจบกันเพราะไปกันไม่ได้และไอซ์เจอคนใหม่ที่ดีกว่าผมครับ ซึ่งผมมีหลักฐานยืนยันในเรื่องนี้” โฬมว่าก่อนคว้าเอาไอแพดข้างตัวขึ้นมา เปิดหลักฐานที่เขาเตรียมไว้โชว์เข้าที่กล้อง

“พวกเราเลิกกันวันที่ 9 กันยายน บนหน้าเฟสบุ๊คของไอซ์ยังโพสต์สเตตัสตัดพ้อและเอาสถานะคบกันของพวกเราลงในวันนั้น” โฬมเลื่อนหน้าโปรไฟล์ของไอซ์จนถึงสเตตัสที่อีกฝ่ายโพสต์เศร้าๆ อย่างคนถูกทิ้ง มีทั้งการแชร์เพลงเศร้าที่ฮิตกันตอนนั้น และการเปลี่ยนสถานภาพเป็นโสดของอีกฝ่าย

“หลังจากนั้นสี่วัน ไอซ์โพสต์รูปนี้พร้อมแคปชั่นนี้ครับ”

รูปที่โฬมโชว์คือภาพมือต่างขนาดที่กอบกุมกันอยู่ในรถยนต์ซูเปอร์คาร์ราคาแพง ซึ่งไม่มีทางเป็นรถของโฬมแน่นอนเพราะเขาไม่ได้รวยขนาดนั้น ทั้งสีผิวและเส้นขนของคนในรูปก็ไม่ใช่โฬมเลยสักนิด แถมแคปชั่นประกอบภาพยังขึ้นว่า ‘ขอบคุณคนเก่าที่ทิ้งไปให้ผมได้มาเจอคุณ’

“ผมขอยืนยันว่าระหว่างที่คบกันผมจริงใจและซื่อสัตย์เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้คนรัก และไม่เคยมีเรื่องโกหกใดๆ ทั้งสิ้น และจากสเตตัสนี้ที่ทำให้เป็นข่าว” โฬมเลื่อนเฟสบุ๊คของไอซ์จนไปถึงสเตตัสยืดยาวที่เอาแต่บอกว่าเขาเป็นคนโกหก และพูดกำกวมพยายามให้คนอ่านคิดว่าระหว่างที่คบกันโฬมเคยทำผิดหลอกลวงเอาไว้ “ผมยอมรับในความผิดที่โกหกว่าตนเองเป็นชายแท้ และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจว่าเรื่องการเป็นเกย์ไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะออกมาประกาศได้ง่ายๆ”

ผมอ่านคอมเมนต์ใต้คลิป และพบว่ามีหลายคนเข้าไปส่องเฟสบุ๊คของไอซ์ซึ่งเปิดทุกอย่างเป็นสาธารณะ มีคนคล้อยตามกับคำอธิบายของโฬมเยอะมากจนใจผมเริ่มชื้นขึ้นมา

“และเรื่องที่ไอซ์ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการว่ามาขอคืนดี รวมถึงทวิตเตอร์ที่ปล่อยแชทของผมกับไอซ์ออกมา” โฬมเปิดภาพหน้าจอแชทที่เป็นประเด็นอยู่ในทวิตเตอร์ขึ้นมาโชว์ “แชทนี้เป็นแชทจริงครับ แต่เป็นเรื่องนานแล้วตั้งแต่เราเพิ่งเลิกกัน ผมพยายามยื้อและขอให้เขากลับมาคบกัน แต่ไอซ์ได้ปฏิเสธและตัดขาดการติดต่อกับผมในตอนนั้น”

พี่เฟรมยื่นโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาให้ เป็นหน้าจอแชทเดียวกับในทวิตเตอร์ ทว่ามีบอกวันเวลาที่คุยกันอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่ช่วงปัจจุบัน ทั้งยังมีแชทของเพื่อนๆ ที่ตอนนั้นต่างพยายามห้ามไม่ให้โฬมไปขอคืนดีกับไอซ์อีกด้วย โฬมค่อยๆ เลื่อนแชทเหล่านั้นให้กล้องดูช้าๆ เพื่อให้คนดูได้อ่านทันและครบถ้วน

“ผมยืนยันอีกครั้งว่าหลังจากตอนนั้นผมไม่ได้ติดต่อไอซ์ไปเพื่อขอคืนดีอีก เพราะผมมีคนที่ชอบแล้ว และผมคงไม่กลับไปคบกับคนที่ทำให้ชีวิตผมพังหรอกครับ”

โอ เอ็ม จี!

ผมแอบเห็นพี่เฟรมชูนิ้วโป้งพลางปรบมือแปะๆ ให้กับประโยคนั้นของโฬม ส่วนผมช็อคอ้าปากค้างไปแล้วครับ

“ครับ ต่อไปเรื่องคลิป ผมขอไม่พูดถึงครับ การแอบถ่ายและนำออกมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับคำยินยอม ผมขอปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินตามกฎหมาย” โฬมพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำทีเดียว “และเรื่องสุดท้ายที่ผมจะพูดถึง คือสกาย”

“...” ผมเงยหน้ามองคนข้างตัวอย่างตกใจ

ผม?

ผมทำไมครับ!

“ผมมีเรื่องจะประกาศครับ ตอนนี้ผมกับสกายตกลงคบกันแล้ว” โฬมบอกเต็มเสียงแล้วหันมามองหน้าผมแวบหนึ่ง ก่อนหันกลับไปยิ้มใส่กล้องอีกครั้ง “โปรดสนับสนุนความรักของพวกเราด้วยนะครับ”

ให้ตายไปเลย!!!

ผมต้องทำตัวยังไง ผมต้องพูดอะไร หรือผมไม่ต้องพูดอะไร

ตอนนี้ผมเอ๋อไปแล้วครับ เอ๋อจนพี่เฟรมหันมาหัวเราะใส่อย่างหนักก่อนถูกโฬมส่งเสียงชู่วใส่เพราะเขายังพูดธุระตัวเองไม่จบ

“และผมขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่เชื่อมั่นและให้กำลังใจเสมอมานะครับ” โฬมยกมือไหว้ แตะปลายนิ้วจรดหน้าผากอย่างสวยงาม ในขณะที่ผมยังอ้าปากค้างอยู่เหมือนเดิม สมองชัตดาวน์ไปแล้วในจังหวะนี้

เมื่อกี้โฬมบอกไปแล้วว่าเราคบกัน...

เขาบอกไปแล้ว!!

“ขอบคุณครับ”

ผมไม่มีสติจะฟังโฬมพูดต่อจนจบ ไม่รู้ว่าคนตัวสูงลุกขึ้นไปปิดไลฟ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่เฟรมแอบถ่ายรูปผมไปกี่รูป และโฬมโยกหัวผมเล่นไปกี่ที ผมได้แต่ช้อนตามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ

“พี่โฬม...”

“ครับ?”

“ทำไม”

“ตกใจเหรอครับ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อน” ฝ่ามือหน้าเกลี่ยไรผมของผมเบาๆ “แต่ผมอยากประกาศมาตั้งนานแล้วว่าฟ้าเป็นของผม แค่ยังไม่กล้าพอ”

“แล้ว...”

“แล้วตอนนี้ก็กล้าพอแล้วล่ะครับ”

ให้ตายๆๆๆๆๆ ผมเนี่ยจะตาย!

โฬมยิ้มโชว์ฟันเขี้ยวและรอยบุ๋มข้างแก้มให้ผมอีกแล้ว คราวนี้ตาเขาหยีลงจนเป็นสระอิ ก่อนหัวเราะในลำคอเบาๆ เสียด้วย

“แมลงเข้าปากหมดแล้วครับฟ้า”

ใจผมก็จะหยุดเต้นแล้วเหมือนกันครับพี่โฬม...








หลังจากการถ่ายทอดสดผ่านไป ทุกคนก็เริ่มเข้าใจเรื่องราวของโฬมมากขึ้น และมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยหันไปขุดหาความจริงเรื่องสมัยที่โฬมกับไอซ์ยังคบกัน แม้หลังจากวันแถลงข่าวของโฬมผ่านไปแล้วไอซ์จะตามลบสเตตัสและรูปในอดีตของตัวเองจนหมด แต่ก็มีมือดีแคปเก็บมาวิพากย์ต่อในอินเตอร์เน็ต

ความคิดเห็นในเน็ตมีอย่างหลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทั้งสนับสนุนและต่อต้าน แต่อย่างไรภาพรวมก็ไม่ได้เป็นไปในเชิงลบอีกแล้ว ผมดีใจมากๆ ที่ #โฬมฟ้า ต่างก็มีแต่คำยินดีและเสียงกรีดร้องกับเรือที่วิ่งเข้าถึงฝั่ง

ทางฝั่งไอซ์ก็มีความเคลื่อนไหว แต่พี่เฟรมก็ตอบกลับอย่างที่พี่เขาตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ก่อนบินกลับมาที่ไทย

ตอนแรกโฬมแค่ทักไปขอแชทเก่าๆ จากเพื่อนสนิท เพราะพี่เฟรมเป็นคนชอบแบ็คอัพข้อมูลในโทรศัพท์เก็บไว้ รูปตั้งแต่สมัยมัธยมยังมีเป็นพันๆ เลย (พี่เฟรมเอามาให้ผมดูเอง เห็นโฬมตอนเด็กๆ ด้วยครับ) แต่พี่เฟรมกลับบอกว่าจะเอามาให้เองที่ไทย และหลังจากนั้นไม่นานเจ้าตัวก็บินลัดฟ้ามาที่กรุงเทพฯ จริงๆ

กลับมาที่เรื่องของไอซ์ ผมแม้จะทำเหมือนไม่สนใจแต่แอบติดตามข่าวอย่างคนอยากเสือกและแอบหมั่นไส้เงียบๆ ไอซ์ยังคงโพสต์สเตตัสเรียกร้องความสนใจอยู่เหมือนเดิม หมายจะโต้กลับเอาคะแนนเสียงตัวเองคืนมา แต่พี่เฟรมก็เอาคืนด้วยการลากอดีตเพื่อนสนิทของไอซ์มาเกือบจะทุกคน จับมานั่งสุมหัวกันที่โรงแรมของตัวเองแล้วเม้าส์หมอยวีรกรรมของผู้ชายที่ชื่อไอซ์ที่หนักหน่วงจนเพื่อนๆ เททิ้งไม่มีใครคบ

แต่พี่เฟรมก็ยังไม่เลวทรามขนาดเอาทุกเรื่องของไอซ์มานินทา เขาโฟกัสที่ตอนโฬมกับไอซ์ยังคบกัน และวีรกรรมหลังเลิกกันเท่านั้น โดยทีเพื่อนคนอื่นคอยเสริมว่าอีกฝ่ายมักเรียกร้องความสนใจอย่างไร และเป็นคนที่ชอบให้คนอื่นสนใจจนกดหัวเพื่อนๆ ลง สุดท้ายเมื่อความจริงทุกอย่างเปิดเผยเพื่อนๆ จึงไม่มีใครทนอยู่ด้วยได้

ทุกอย่างกลายเป็นข่าวครึกโครม ไอซ์อาจเป็นคนแรกที่ไม่ใช่คนในวงการแต่มีสำนักงานข่าวออกข่าวเรื่องนี้จนเต็มโซเชียลและหน้านิตยสารซุบซิบไปหมดก็ได้ ผมคาดเดาเอาเองนะ และหลังจากนั้นไม่นานเฟสบุ๊คเจ้าปัญหาของเจ้าตัวก็ถูกปิดไป
แต่โฬมก็ยังคงเอาเรื่องที่ทวิตเตอร์ลึกลับซึ่งเดากันได้ง่ายๆ ว่าใครเป็นเจ้าของนั้นอย่างหนัก เขายื่นฟ้องศาล จ้างทนายและดำเนินคดีโดยแจ้งความเรื่องความผิดทางพรบฯ คอมพิวเตอร์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพื่อการแจกจ่ายทำให้แพร่หลายซึ่งภาพอันลามกนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเข้าถึงได้

และใช่ครับ

ไอซ์ถูกจำคุก 9 เดือนและศาลให้ชำระเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงินสองแสนบาท

การมีข่าวนี้ทำให้โฬมได้รับความเห็นอกเห็นใจในฐานะเหยื่อผู้ถูกกระทำมากยิ่งขึ้น และข่าวของไอซ์ยังคงถูกพูดถึงกันเป็นวางกว้าง แม้เรื่องราวจะผ่านมาเป็นเดือนๆ แล้วก็ตาม...

ผมดีใจนะ ที่ท้องฟ้าหลังพายุเข้า มักจะมีสายรุ้งโผล่ขึ้นมาเสมอ



_______________________________
Talk : มาแล้วค่า บทสรุปนังไอซ์มาแล้วววว
เราอ้างอิงข่าวเรื่องพรบ.คอมฯ จากเว็บนี้ https://hilight.kapook.com/view/32264
และหวังว่าทุกคนจะพอใจบทสุปของนังไอซ์นะคะ  :hao5: :hao5:


ฮรุก ตอนที่แล้วทุกคนรุมด่าพี่โฬมกันหมดเลย ใจเรากลัวมากที่จะลงตอนต่อไป 555
เราตามดราม่าดารามาเยอะค่ะก่อนเขียนเรื่องนี้
ส่วนมากทางออกที่ดีที่สุดคือการเงียบจริงๆ แต่มันก็ใช้ไม่ได้สำหรับทุกอย่าง
ซึ่งพี่โฬมได้เรียนรู้แล้วว่า "การที่เขาต้องการจะปกป้องใครสักคน เขาต้องสู้ ไม่ใช่เอาแต่เงียบ"
เหมือนกับเนื้อเพลงเพลงหนึ่งที่กล่าวว่า
'They say before you start a war.
You better know what you're fighting for'



เราอยากให้พี่โฬมค่อยๆ พัฒนาความเข้มแข็งเนอะ จะให้โดนข่าวแล้วกล้าสวนใส่เลยก็ไม่ใช่เนอะ
ส่วนพี่เฟรม.. โผล่มาให้ทุกคนได้รู้จักค่ะ เป็นแค่ตัวประกอบเฉยๆ 555555555  :hao7: :hao7:

เอนจอยรีดดิ้งกันนะคะทุกคน รักเสมอเลย
จะจบแล้วว ศึกใหญ่พี่โฬมผ่านไปแล้ว ฮือ ขอโทษที่พาดราม่าค่ะ  :ling3:

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยินดีด้วยนะพี่โฬมที่เข้มแข็งขึ้นเอาชีวิตดีๆของตัวเองกลับมาได้

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ปัญหาผ่านไป​ ดีใจกับพี่โฬมน้องฟ้าด้วยจ้า

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เก่งมากๆเลยน้า TT
ดีใจที่ไม่เลือกจะเงียบหายไปเหมือนตอนนั้น

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ดีใจกับพี่โฬมและน้องด้วย หมดปัญหาเรื่องนังไอซ์ไปแล้วก็ขอให้มีแต่ความสุขนะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เยี่ยมมมมม นางต้องโดนแบบนี้

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :pig4:

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0
 o13 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: จ ร ด ฟ้ า #เจ้าสกาย | บทที่ 25 [8-Jan-19] P.7
« ตอบ #199 เมื่อ: 13-01-2019 09:08:37 »





ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ในที่สุดพี่โฬมก็กล้าสักที นึกว่าคราวนี้จะเงียบอีก ^^

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
อาจจะมาช้านิดหน่อยนะคะ นิยายเรื่อง #เขื่อนคนสวย เดดไลน์จ่อก้นเข้ามาแล้วเลยต้องขอปั่นเรื่องนั้นก่อน
รอกันอีกนิดนะคะ ฮึบบบ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ขอบคุณมากที่มาส่งข่าว
พี่เขื่อนก็สู้ๆ
รอฟ้าาาาาา ด้วย
รักษาสุขภาพ :L2:

ออฟไลน์ FanclubPong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
การเงียบทุกครั้งก็ไม่ใช่ผลดีเสมอไป

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 26 (1)




ในวันหนึ่งที่ท้องฟ้าขมุกขมัวเพราะฝนทำท่าจะตก ผมนั่งอยู่ในห้องซ้อมดนตรีในบ้านของโฬม ฟังคนรักดีดกีตาร์ร้องเพลงที่ตนเองเพิ่งแต่งเสร็จให้ฟังอย่างใจเย็น ชายผู้เคยมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเครียด ตอนนี้เขาฉีกยิ้มออกได้เต็มปาก รอยบุ๋มที่ข้างแก้มกับฟันเขี้ยวเล็กๆ โผล่มาให้ผมได้เห็นชัดขึ้น ชวนให้คนมองฉีกยิ้มตามออกมาอย่างโง่งม

“เพลงรักเหรอครับ?” ผมที่โยกตัวตามจังหวะดนตรีสบายๆ ร้องถามเมื่อท่อนฮุคแรกของเพลงจบลง โฬมพยักหน้าให้พลางดีดกีตาร์ฮัมเพลงต่ออย่างตั้งใจ น้ำเสียงของเขายังนุ่มน่าฟังแม้ไม่ได้ใช้เทคนิคการร้องอะไรมาก ดนตรีเบาๆ คลอเคล้าไปกับเสียงฝนที่เริ่มตกหนักด้านนอก ผมเอนหลังพิงพนักโซฟาพลางหลับตาลง ค่อยๆ ซึมซับท่วงทำนองที่อุ่นไปถึงหัวใจ

อากาศภายในห้องเริ่มเย็นขึ้นกว่าเก่าหลังจากฝนห่าใหญ่โถมตัวลงมา กีตาร์โปร่งเบาเสียงลงแล้ว พร้อมกับชายผู้เป็นเจ้าของบ้านยกมันกลับไปวางยังที่ตั้งข้างกำแพง โฬมเดินกลับมานั่งข้างไ ผมพร้อมหมอนผ้าห่มในมือ เขาคลี่มันออกแล้วตวัดคลุมลงบนลำตัวของผมที่นั่งกอดเข่าขดตัวเป็นก้อน

“เพลงเป็นยังไงบ้างครับ” เจ้าของรอยยิ้มใจดีถามออกมาอย่างคาดหวังในคำตอบ

“ผมให้คะแนนเต็มเลย” ผมยกยอทั้งคำพูดทั้งการกระทำ ชูนิ้วโป้งออกไปข้างหน้าทั้งสองมือ พร้อมทั้งฉีกยิ้มเต็มแก้มเพื่อเอาใจ “เพราะมากๆ เลย”

“อวยขนาดนี้ได้ยังไงครับฟ้า หืม” โฬมยื่นมือมาขยี้หัวผมอยางหมั่นเขี้ยว ทั้งยังลากร่างของผมไปกอดไปฟัดจนช้ำทั้งเนื้อตัวทั้งเสื้อผ้าที่อุตส่าห์รีดมาจนเนียนกริบ

“แฮ่ก พอแล้วพี่โฬม! พอแล้ววว” ผมยกมือยอมแพ้ ไม่ดิ้นรนหรือผลักใสริมฝีปากที่พยายามกดลงมาบนแก้มอีก หมดแรงจะต่อต้านแล้วครับ และทันทีที่ผมบอกไปอย่างนั้นโฬมก็หัวเราะอย่างชอบใจก่อนกดจมูกลงมาบนแก้มแล้วสูดเสียงดังฟอดไปอีกสองที

“ฮ้า... ชื่นใจ”

“แก้มช้ำหมดแล้วพี่” ผมเบ้ปาก ขยับตัวหนีออกมาเมื่อโฬมยอมคลายอ้อมกอดที่รัดแน่นไม่ต่างจากงูเลยทีเดียว ผมใช้มือขวาถูไถรอยน้ำลายที่เปรอะเต็มหน้าออกแล้วเดินหนีเขาออกมาจากห้องดนตรี

“ไปไหนครับฟ้า”

“หนีพี่โฬมไงครับ อุตส่าห์เซ็ตผมมาตั้งนาน” ผมชี้ไปที่หัวยุ่งๆ ของตัวเองอย่างไม่พอใจ ซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้วว่าผมไม่ได้โกรธจริงจัง ริมฝีปากสีอ่อนนั่นถึงยังฉีกยิ้มแฉ่งจนถึงตาได้แบบนี้

“ไม่แกล้งแล้วครับ” คนพูดกวักมือเรียก “มานั่งนี่เถอะนะ ผมยังมีเพลงอยากให้ฟ้าฟังอีกเยอะเลย”

แล้วสุดท้ายผมก็ใจอ่อนยอมเดินกลับไปนั่งบนโซฟาข้างๆ โฬมเหมือนเดิม

หลังจากผ่านมรสุมชีวิตแล้ว โฬมก็กลับมาดังเหมือนเก่า เผลอๆ อาจจะดังกว่าเดิมเยอะเลยครับ ตอนนี้เขาเลยตั้งใจจะออกอัลบั้มใหม่ด้วยทุนของตัวเอง มันไม่ยากนักสำหรับผู้ชายที่โปรดิวซ์เพลงเองมาตลอด แต่สิ่งที่ติดๆ ขัดๆ คงจะเป็นรายจ่ายยิบย่อยที่ไม่มีทางค่ายลงทุนให้อีกแล้ว ตลอดการทำงานโฬมต้องควักเนื้อตัวเองออกเพราะเขาเป็นศิลปินอิสระ

แต่ถามว่าคุ้มไหม ผมว่าคุ้มมาก

โฬมอยากจะแต่งเพลงแนวไหนก็ได้ตามที่เขาชอบ อยากทำอัลบั้มหรือเอ็มวีออกมาแบบไหนก็ได้โดยไม่ต้องผ่านการประชุมกับค่ายเพลง มันเป็นความอิสระที่จะผลักดันให้ความสามารถของเขาเปล่งประกาย และผมพร้อมสนับสนุนทุกงานที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของโฬมแน่นอน

“ผมว่าจะเอาเพลงนี้เป็นเพลงโปรโมท” โฬมเลื่อนไอแพดเพื่อเปิดเดโม่เพลงของเขาให้ผมฟัง มันเป็นเพลงที่ทำนองไม่ได้แปลกใหม่อะไรนัก แต่เนื้อเพลงของเขาดีมากเลยทีเดียว มันเป็นเพลงรักที่เปรียบเปรยว่าตัวเขาเป็นนกที่หลงรักท้องฟ้ากว้างใหญ่ เจ้านกพยายามบินขึ้นไปให้สูงที่สุดเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้สิ่งที่มันรัก แม้ว่ามันจะดูเป็นไปได้ยากก็ตาม

ดูเผินๆ เหมือนเป็นเพลงรักเอาไว้ใช้จีบสาว แต่จริงๆ โฬมเล่าให้ฟังว่าความหมายแฝงของมันคือการสื่อถึงตัวเขาเอง ซึ่งพยายามที่จะไล่ตามความฝันมาตลอด แม้มันจะยากลำบากและดูเป็นไปไม่ได้ เขาก็ยังกางปีนบินต่อไปจนกว่าร่างกายจะหมดแรงและไปต่อไม่ไหว

ฟังดูแล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ดีจริงๆ นะครับเนี่ย

“ก็ดีนะครับ ผมชอบ” ผมเสนอความคิดเห็นอย่างจริงจัง “ทำนองเพลงก็ติดหูดีด้วย”

“แล้วฟ้าคิดว่าทำเอ็มวีแบบไหนดี”

“อืม...” ผมนิ่งคิดสักพัก “ทำเป็นแนวความรักน่าจะดีกว่านะครับ คนฟังน่าจะอินง่ายกว่า”

“ความรักเหรอครับ...?”

“ครับ”

“ความรักนี่หน้าตาเหมือนฟ้ารึเปล่า”

“...”

อ่า...

ผม...ต้องตอบเขาว่าอะไร

“โห หน้าแดงแจ๋แล้วนะครับ”

เขาไม่ควรแซวเรื่องที่ผมเขิน ถ้าเขาจงใจทำให้ผมเขินเอง!

ผมก้มหน้าซุกกองผ้าห่มบนตักไม่ยอมให้โฬมเห็นหน้าแดงเถือกอีก คบกันก็สักพักแล้วไม่รู้ทำไมเขายังขยันทำให้ผมเขินอยู่บ่อยๆ และผมก็รับมือไม่เคยได้เลยสักครั้ง

“ฟ้า เงยหน้ามาคุยกันก่อนเร๊ว”

“พี่โฬมเลิกแกล้งเถอะครับ” ผมงอแง “ไม่งั้นผมจะฟ้องยาย”

“ไม่ได้นะครับ” พี่โฬมสะดุ้งโหยงนั่งหลังตรงทันที “เดี๋ยวคุณยายไม่ต้อนรับผมจะทำยังไง”

“พี่ก็ไม่ต้องไป...”

“ต้องไปสิครับ” คนอายุมากกว่าเถียงคอเป็นเอ็น เขารวบแก้มผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วบังคับให้หันมามองหน้ากัน “ผมต้องไปฝากตัวเป็นหลานชายอีกคนนะ”

“ผมเป็นหลานคนเดียวพอแล้ว”

“งั้นให้ผมเป็นคนรักของหลานยายก็ได้ครับ”

“...”

ไม่คุยด้วยแล้วครับ

ผมโยนหมอนผ้าห่มในมือใส่ตักโฬมแล้วเดินหนีออกมาทันที พยายามไม่สนใจเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขที่แว่วตามหลังมา








อย่างที่ผมเคยบอกไปว่ายายเคยโทรมาบอกว่าอยากเจอแฟนหลานหลังจากเห็นข่าวมากมายบนทีวี ผมได้เอาไปเล่าให้โฬมฟังแล้วเขาตกลงเคลียร์งานเพื่อขับรถไปยังต่างจังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณห้าชั่วโมง ผมไม่เคยเห็นโฬมตื่นเต้นกับอะไรขนาดนี้มาก่อน แม้แต่ตอนที่เขาขึ้นเวทีคอนเสิร์ตอย่างงานดนตรีใหญ่ๆ ที่มีช่วงปลายปี เขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรขนาดนี้

ตอนนี้โฬมอยู่ไม่ค่อยสุขแล้วครับ ทั้งๆ ที่เรื่องที่จะกลับไปหายายพวกผมคุยกันไว้ตั้งหลายเดือน เพราะต้องรอให้คิวงานโฬมที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดลงตัว และอัลบั้มของเขาที่กำลังทำอยู่ก็ต้องเสร็จมากกว่าครึ่งเพื่อที่จะได้กลับไปอยู่บ้านนอกสบายๆ สักอาทิตย์

และแม้ว่าจะเตรียมตัวกันมาเกือบๆ ครึ่งปี สุดท้ายพอถึงวันเดินทางจริงคนที่อายุมากกว่าผมกลับไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ในคืนก่อนวันเดินทาง เขามานอนที่คอนโดผมเพราะเราจะออกเดินทางกันในตอนเช้า แต่โฬมก็อยู่ไม่นิ่งขยับพลิกไปมาจนผมต้องขอร้องให้เขาออกไปนอนลืมตาตรงห้องนั่งเล่น และเดี๋ยวผมจะเป็นคนขับรถให้เอง

“ได้นอนไหมครับเนี่ย” ในตอนเช้าตรู่ประมาณหกโมงกว่า ผมที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้วเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นเพื่อปลุกใครอีกคนไปอาบน้ำบ้าง แต่กลับพบว่าผู้ชายตัวสูงกำลังนั่งดูทีวีด้วยสีหน้าอิดโรยราวกับคนไม่มีแรง โฬมหันหน้าซีดเซียวมาทางผมแล้วส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่หลับเลยครับ”

“งั้นเดี๋ยวพี่โฬมไปนอนบนรถก็ได้นะครับ” ผมบอกอย่างเป็นห่วง เขาดูเหมือนพร้อมจะน็อคไปในทุกวินาทีเลยทีเดียว

“แต่มันไกลนะ ฟ้าขับคนเดียวไหวเหรอ”

“ผมขับดีกว่าให้คนไม่ได้นอนขับนะ” ผมว่าอย่างนั้นแล้วดึงแขนให้เขาลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ จากนั้นตัวเองก็เดินมุดตู้เย็นเพื่อหยิบเอาถุงกับข้าวที่ซื้อทิ้งไว้เมื่อตอนเย็นออกมาอุ่น มีข้าวสวยถุงละห้าบาทสองถุงที่คาดว่าน่าจะพอยาไส้ผู้ชายกินจุทั้งสองคนได้
ผมเททุกอย่างลงใส่จานแล้วทยอยเอาเข้าไมโครเวฟทีละอัน จากนั้นก็ยกมาวางบนโต๊ะเพื่อรอคนไม่ได้นอนออกมาทานข้าว สักพักเดียวโฬมก็เดินแขนห้อยออกมาในชุดไปรเวทเรียบร้อย กางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนขึ้นไปถึงข้อศอก

“ที่ห้องมีกาแฟไหมครับ” โฬมชะเง้อขอมองบนตู้เย็นที่ผมมักจะเก็บพวกผงเครื่องดื่มสำหรับชงกินเองในห้อง ทว่าผมกลับส่ายหน้าอย่างห้ามปราม

“ไปนอนในรถเถอะครับ ดื่มกาแฟตอนนี้เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ”

“ผมง่วงมากเลย” น้ำเสียงเขาติดจะงอแงนิดหน่อย ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะโถมเข้ามากอดแล้ววางคางบนไหล่ของผมอย่างหมดสภาพ “ฟ้าครับ ขอโทษนะครับ”

“ขอโทษทำไม...”

“ผมเป็นห่วงที่จะให้ฟ้าขับรถคนเดียว”

“...ผมก็ห่วงพี่เหมือนกัน” เมื่อผมพูดประโยคนี้ โฬมก็เลิกดื้อดึงจะดื่มกาแฟอีก เขายอมนั่งลงบนเก้าอี้แล้วตักข้าวเข้าปากจนหมด จากนั้นผมก็ยกจานชามทั้งหมดไปล้าง ปล่อยให้หน้าที่ขนกระเป๋าไปเก็บไว้ที่รถเป็นของใครอีกคนแทน

โฬมยกสัมภาระทั้งหมดลงไปก่อนพร้อมทั้งจะรออยู่ในรถ ส่วนผมหลังจากจัดการธุระและเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องเรียบร้อยก็ลงกลอนประตูและตามออกไปที่ลานจอดรถ แม้จะยังเช้าอยู่แต่คนก็ยังเดินกันให้วุ่น เนื่องจากมันเป็นวันธรรมดาและเจ็ดโมงแบบนี้ก็นับว่าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนแล้ว

ผมทิ้งตัวลงในตำแหน่งคนขับ บังคับให้คนข้างๆ ปรับเบาะเอนนอนแล้วหลับตาไปเสีย และก่อนจะเคลื่อนรถออกจากที่จอดผมก็กดเปิดเพลงสากลเบาๆ สร้างบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายเพื่อช่วยให้คนที่ตื่นเต้นจนเกินพอดีหลับลงได้ง่ายขึ้น

ช่วงระหว่างทางในกรุงเทพฯ รถจะติดนิดหน่อยในบางช่วง แต่พอเลยออกมายังเขตปริมณฑลผมก็เริ่มทำความเร็วได้ตามต้องการ ตลอดการเดินทางผมกับโฬมไม่ได้คุยกันเลยเพราะทันทีที่รถเคลื่อนตัวได้พักหนึ่งเสียงกรนเบาๆ ก็ดังลอดออกมาจากตุ๊กตาหน้ารถ ผมจึงปล่อยให้เขาพักผ่อนไป ในขณะที่ตัวเองมองทางสลับกับมองแมพในโทรศัพท์ที่มีจุดหมายปลายทางเป็นบ้านเกิดของผมในจังหวัดชัยภูมิ

ระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงที่นู่นอยู่ราวๆ สองร้อยเจ็ดสิบกิโลเมตร นับว่าไกลพอสมควรทำให้พอผ่านไปได้ครึ่งทาง ผมก็แวะจอดที่ปั้มน้ำมันเพื่อแวะเข้าห้องน้ำและซื้ออาหารมาตุนไว้บนรถ

โฬมตื่นขึ้นมาในช่วงนั้นแปบนึง และพอผมเริ่มออกเดินทางต่อเขาก็หลับเป็นตายเหมือนเดิม

กว่าพวกเราจะมาถึงบ้านผมที่ต่างจังหวัดก็ใกล้ๆ บ่ายโมงแล้ว ผมขับรถเข้าไปจอดที่ลานว่างหน้าบ้าน เอื้อมมือไปปลุกพี่โฬมแล้วปล่อยให้เขาทำใจประมาณสิบนาที

“คุณยายของฟ้าใจดีไหมครับ”

“ดุเอาเรื่องเลยครับ”

“...” โฬมมองหน้าผมนิ่งๆ เขาถูกมือเปียกชื้นของตัวเองกับขากางเกงไปมา “จะโดนบังคับให้เลิกคบกันไหม คุณยายน่าจะรับไม่ได้เรื่องคบเพศเดียวกัน”

“ทำไมพี่โฬมคิดแบบนั้น”

“ผู้ใหญ่ส่วนมากไม่ค่อยเปิดรับนี่ครับ”

ผมฉีกยิ้มให้กับหัวคิ้วที่ขมวดยุ่งเป็นปมหนา

“ก็ไม่ค่อยเปิดรับจริงๆ นั่นแหละครับ”

คราวนี้หน้าหล่อๆ ของโฬมยับย่นจนดูไม่ได้เลยล่ะ

ผมอมยิ้มแล้วลงจากรถ พวกกระเป๋าเสื้อผ้าทิ้งเอาไว้ในนี้ก่อน ค่อยออกมาเอาตอนค่ำๆ ดังนั้นผมเลยหยิบเฉพาะของฝากกับพวกสิ่งจำเป็นที่เอาทิ้งไว้ในรถไม่ได้ออกมา

“มาเถอะครับ” ผมที่หยิบของทุกอย่างออกมาหมดแล้วหันไปตะโกนเรียนสติคนที่ยังนั่งซึมกะทื่ออยู่บนที่นั่งข้างคนขับ และพอเขารู้สึกตัวก็รีบจรลีมาช่วยผมยกของทันที

ผมเดินนำแขกแปลกหน้าผ่านสวนดอกไม้ที่ยายปลูกเพื่อเข้าไปยังตัวบ้าน พอลองหมุนลูกบิดก็พบว่าประตูไม่ได้ล็อค คาดว่ายายน่าจะปลดกลอนเอาไว้เพราะรู้ว่าผมจะมาวันนี้

“ยาย!” ผมตะโกนเสียงดังลั่นบ้านทันทีที่ตัวเองก้าวเท้าเข้ามาด้านในครบทั้งสองขา “สกายมาแล้วครับ”

“มาถึงแล้วเหรอ” เสียงแหบแห้งของคนสูงวัยดังมาจากในครัว ผมหันไปหาโฬมแล้วส่งสายตาชวนให้เขาเดินตามมา
พวกเราเดินหอบหิ้วของฝากเข้าไปในครัว หญิงชรากับผมสีดอกเล้ากำลังยืนอยู่หน้ากระทะ ผัดอาหารเสียงดังโช้งเช้งทั้งยังส่งกลิ่นหอมฟรุ้งไปทั่วบ้าน

“ทำอะไรอยู่ครับ”

“พะแนงหมูไง เห็นมีคนอยากกิน”

ผมหัวเราะ วางของทั้งหมดลงบนโต๊ะทานข้าวที่มีของกองเต็มไปหมดจนน่าจะเรียกว่าโต๊ะวางของเสียมากกว่า จากนั้นผมก็เดินเข้าไปกอดเอวหญิงสูงวัยที่สูงเพียงแค่อกของผมและตัวเล็กนิดเดียว

“อย่าเพิ่งมากวน” คุณยายผมขึ้นเสียงใส่ก่อนจะโบกมือไล่ให้ไปรอไกลๆ และในจังหวัดที่เจ้าของบ้านหันไปเห็นโฬม คนตัวสูงก็ยกมือไหว้และโค้งตัวลงอย่างสวยงาม

“สวัสดีครับ”

“นี่ใคร” ยายหันมาถามผมแล้วเอาตะหลิวชี้ไปทางคนแปลกหน้า

“พี่โฬมไง ที่ยายอยากเจอ”

“อ๋อ คนนั้นเอง” ยายผมพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจแล้วหันกลับไปผัดพะแนงหมูต่อ

“ผมไปรอที่ห้องนั่งเล่นนะครับ”

“เออๆ ฉันทำความสะอาดห้องให้แล้ว พาเพื่อนขึ้นไปเก็บของซะสิ”

“ไม่เห็นต้องทำเลย เดี๋ยวผมทำเองก็ได้” ผมแย้ง ยายผมอายุเยอะแล้วครับ แต่ยังแข็งแรงดีอยู่เพราะหมั่นเดินออกกำลังกาย แต่จริงๆ แล้วโรคภัยก็รุมเร้าอยู่เหมือนกัน ทั้งปวดขาและไม่สบายอยู่บ่อยๆ โชคดีที่บ้านรอบข้างเป็นเครือญาติที่คอยดูแลเอาใจใส่ผมเลยไม่ได้ห่วงกังวลนัก

“อย่าร่ำไร”

ผมได้แต่รับคำเพราะเถียงอะไรไม่ได้ จากนั้นก็พาโฬมขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อสำรวจห้องนอนที่ต้องพักอยู่ทั้งอาทิตย์ ห้องส่วนตัวของผมไม่ได้ใหญ่นักแต่มีเตียงขนาดควีนไซส์ที่แม้จะเก่าแต่ก็ยังสภาพดี ของภายในห้องจะมีก็แต่การ์ตูนกับหนังสือเรียนสมัยเด็กที่ยายไม่ได้รื้อเอาไปขายที่ไหน

“นี่ห้องผมครับ” ผมเชิญชวนให้โฬมเข้ามาสำรวจ ร่างสูงเดินไปมาอยู่รอบหนึ่งก่อนจะหยุดลงที่กรอบรูปสมัยผมเด็กๆ “อันนั้นตอนเป็นดุริยางค์ของโรงเรียน”

ผมชี้นิ้วไปมาอธิบายรูปถ่ายสมัยเด็กที่ตอนนั้นทำกิจกรรมมากมายจนเกียรติบัตรเต็มบ้าน โฬมดูจะชอบเอามากๆ เพราะผมแอบเห็นว่าเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้

หลังจากพวกเราสำรวจห้องได้สักพักก็มานั่งตากพัดลมบนเตียงคนละฝั่ง ผมเอนตัวนอนแผ่หราพลางหยิบเอาตุ๊กตาหมาเน่าๆ ที่ยายยังเก็บไว้มากอดแน่น

“ฟ้าครับ”

“ครับ”

“คุณยาย... ไม่รู้เหรอครับ เรื่องระหว่างเรา”

ผมเลิกคิ้วใส่โฬม “รู้สิครับ”

“แต่ท่านเรียกผมว่าเพื่อน”

อ๋อ...

ผมหัวเราะ นึกขันคนที่ดูกังวัลไปหมดทุกอย่างจนไม่เหลือมาดโฬม ลภณ นักร้องหนุ่มทรงเสน่ห์ที่คอยวางตัวเป็นผู้นำเพื่อจะดูแลผมอยู่ตลอดเวลา

“จะให้เรียกแฟนใครๆ เขาก็ไม่ถนัดทั้งนั้นแหละครับ”

“...เหรอครับ”

“พี่โฬมกังวลเหรอครับ”

เขาพยักหน้า ผมเลยอ้าแขนออกเพื่อให้ผู้ชายตรงหน้าขยับตัวล้มลงมานอนในอ้อมแขนของผม โฬมทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งยังกอดตอบผมแน่นไม่แพ้กัน เจ้าหมาเน่าที่อยู่ตรงกลางระหว่างพวกเราแบนแต๊ดแต๋จนน่าสงสาร

“ไม่ต้องกังวลหรอกครับ”

“...”

“ยายจะรักทุกอย่างที่ผมรัก” ผมบอกเขาอย่างมั่นใจ ส่งสายตาสื่อความหมายเพื่อเพิ่มพลังให้กับคนที่กอดกับผมกลมดิ๊ก
“ทำไมฟ้าถึงมั่นใจจัง ฟ้าเคยคุยเรื่องนี้กับคุณยายเหรอ”

คราวนี้ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ สีหน้าโฬมแย่ลงไปสิบส่วนเลยทีเดียว ผมเลยฉีกยิ้มตาหยีให้เขาแล้วพูดออกไปว่า

“เพราะยายรักผมไงครับ”

และนั่นเป็นคำพูดง่ายๆ ที่เรียกรอยยิ้มขึ้นมาประดับบนใบหน้าของคนฟัง


_____________________
Talk: มาแล้วค่าาาาทุกคนนน ฮือออออ
ขออภัยที่หายไปนาน ไปปั่นต้นฉบับ #เขื่อนคนสวย อยู่ค่ะ ส่งต้นฉบับไปแล้วว

ส่วนเจ้าสกาย ขอแบ่งตอนนี้ออกเป็น 2 พาร์ทค่ะ ไม่อยากแยกตอนเพราะจริงๆ กะจะให้ตอนนี้เป็นตอนจบ
แต่เราเขียนแล้วลบมาหลายรอบมากเลยค่ะ จบไม่ลง ฮือออ  :hao5: :hao5:

ตอนแรกว่าจะจบแบบที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน แต่ไปๆ มาๆ เราอยากเขียนถึงคุณยายน้องสกายค่ะ
อยากให้รู้ว่าทำไมน้องสกายถึงโตมาเป็นคนที่มีพลังบวกเต็มไปหมดแบบนี้
สถาบันครอบครัวเป็นสถาบันแรกที่หล่อหลอมนิสัยใจคอของเราเนอะ

เลยคิดว่า จบแบบพาพี่โฬมไปแนะนำตัวกับคุณยายดีกว่าค่ะ
ดังนั้น ตอนหน้าจะจบแล้วนะคะทุกคลลลลลลลลลลลล  :katai5: :katai5: :katai5:
ตอนหน้าจะรีบมาต่อค่า ไม่หายไปนานแล้ว รักนะค้า

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ฮือ แอบใจหาย จะจบแล้ว

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะจยแล้วหรอคะ ยังไม่อยากให้จบเลย :hao5:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
มาพบญาติผู้ใหญ่ของฟ้า​
คุณยายคงใจดีกับพี่โฬม

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ติดตามมานาน ถ้าจบคงคิดถึงพี่โฬมน้องฟ้าแย่เลย อิอิ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รอดูตอนคุยกับคุณยาย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด