✿ c h a p t e r 5
“เธอจ๋า ~ เค้าหิว”
เสียงอ้อนๆดังขึ้นทันทีเมื่อจาริญก้าวเท้าเข้ามาในห้อง และพอเขาชูมือข้างที่หอบหิ้วถุงขนมจากร้านดังอยู่ อันดาก็ทำตาโตอย่างดีใจ รีบคว้าถุงขนมไปนั่งบนโซฟาทันที
“เราชอบกินชูครีมที่สุด!”
“เพราะรู้ไงถึงซื้อมาให้”
จาริญยิ้มอย่างเอ็นดูคนที่กัดชูครีมลูกโตเข้าไปคำใหญ่ ครีมสีเหลืองนวลเลอะบริเวณมุมปาก อันดากำลังจะแลบลิ้นออกมาเลียแต่ยังช้ากว่านิ้วเล็กของคนข้างๆที่ปาดเช็ดครีมนั้นออกและส่งเข้าปากตนเอง
ทำอะไรชวนสยิวแบบนั้นแล้วยังจะมายิ้มหวานใส่อีก นี่มันยั่วกันชัดๆเลยนะจาริญ“อยากจูบเราก็บอกดีๆสิ”
“ใครจะอยากจูบตัว แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง ไหนดูซิ”
อันดายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ให้คนตัวเล็กกว่าได้แตะจับแก้มและลำคอเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย จาริญขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อพบว่าคนป่วยกลับมาตัวรุมๆอีกแล้ว
“ทำไมตัวอุ่นๆ ไข้กลับป่ะเนี่ยอัน”
“ไม่รู้อ่ะ แต่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวยังไงบอกไม่ถูก” อันดาตอบและยัดชูครีมคำสุดท้ายเข้าปาก คิดว่าอาการป่วยคงจะทุเลาแต่ที่ไหนได้เหมือนจะเป็นไข้ขึ้นมาอีกรอบ ต้องเป็นเพราะตอนที่จาริญไปมหาวิทยาลัยเขาแอบหยิบน้ำอัดลมในตู้เย็นไปดื่มในห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำแน่ๆ
“วันนี้อย่าเพิ่งอาบน้ำละกัน เช็ดตัวเอาดีกว่า”
“จูนเช็ดตัวให้เราหน่อยน๊า”
อันดาป่วยแล้วทำให้รู้สึกเหมือนมีลูกยังไงอย่างนั้น ลูน่าเวลาไม่สบายยังไม่ดื้อ ไม่เอาแต่ใจขนาดนี้เลย แต่ดูเจ้าแมวตัวโตสิ ทั้งอ้อนทั้งดื้อจนเขาคิดหาคำปฏิเสธไม่ทันแล้ว
“เราเคยขัดใจอันด้วยเหรอ”
“ไม่ค่ะ เธอตามใจเค้าทุกอย่างเลย รักจูนที่สุดเลยนะ”
จาริญใจเต้นแรง หน้าร้อนเหมือนจะไหม้อยู่แล้ว แต่ริมฝีปากของอันดาที่แตะลงมาเบาๆบนปากของเขายังทำให้ใจเต้นแรงได้ไม่เท่ากับคำว่ารักที่อีกฝ่ายพูดออกมา
*****
นาฬิกาเรือนสวยที่แขวนอยู่บนผนังบอกเวลาสองทุ่มครึ่ง จาริญอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเช็ดตัวให้คนป่วยที่นอนพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ ร่างบางวางอ่างใสสำหรับใส่น้ำอุ่นลงที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนจะดึงสมาร์ทโฟนออกจากมือของอันดา
“เช็ดตัวก่อน” จาริญบอกพร้อมทั้งขยับเข้ามาใกล้เพื่อถอดเสื้อของคนป่วยออก อันดาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่นานนักเสื้อยืดก็ถูกถอดออกไปอวดผิวกายขาวๆท่อนบน และส่วนล่างที่มีเพียงกางเกงขาสั้นตัวเล็กปกปิดอยู่ กางเกงผ้ายืดสั้นปิดก้นมาหน่อยเดียว แถมยังรัดอีกต่างหาก เลยทำให้เห็นสะโพกสวยได้อย่างชัดเจน
จาริญหน้าแดงไปหมด พยายามจะไม่มองแล้วแต่สายตาก็เผลอไปเห็นเข้าทุกที ขาขาวๆของอันดา สะโพกตึงภายใต้กางเกงขาสั้น เรื่อยขึ้นมาจนถึงหน้าท้องแบนราบ และสะดือเรียวที่มีจิวสีเงินเจาะไว้
ถึงได้บอกว่าอันดาน่ะฮอตมาก
“มองอะไรคุณ เช็ดตัวสิ” อันดาพูดแหย่คนแก้มแดง จาริญถึงได้เลิกแอบมองอะไรที่ไม่ควรมองและเริ่มลงมือเช็ดตัวเสียที
ผ้าเนื้อนิ่มชุบน้ำอุ่นหมาดๆเช็ดไปตามแขนเรียวอย่างเบามือ จากนั้นเปลี่ยนมาเช็ดที่ลำคอและเนินอก ถึงจะพยายามเช็ดเบาๆแต่สัมผัสระคายจากผ้าก็ยังทิ้งรอยแดงไว้บนผิวขาวจัดเมื่อลากผ่าน จาริญไม่ได้ตั้งใจแต่ทุกครั้งที่เผลอเช็ดผ่านยอดอกมักจะได้ยินอันดาครางเบาๆในลำคอทุกครั้ง
จาริญทำเป็นไม่สนใจหลับหูหลับตาเช็ดลงมาจนถึงหน้าท้องแบนราบ เสียงลมหายใจติดขัดจากคนป่วยทำให้พาลรู้สึกปวดมวนท้องน้อยไปด้วย จาริญมือสั่นตอนที่ลากผ้าเปียกชื้นผ่านแอ่งสะดือของอีกฝ่าย และเขาคงจะทำให้ความอดทนของอันดาสิ้นสุดลงในตอนนั้น
“จูน…”
“อือ”
“ไม่ไหวแล้ว อึดอัด” ไม่พูดเปล่าอันดายังจับมือบางให้สัมผัสกับส่วนที่ดันเนื้อผ้ากางเกงออกมาจนเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน ดวงตาเรียวช้อนขึ้นมองร่างบางอย่างออดอ้อน
“ช่วยเราหน่อย นะคะ…”
จาริญมองใบหน้าสวยที่แสดงถึงความทรมานอย่างเห็นได้ชัด เม้มปากอย่างชั่งใจ แต่พอคิดๆดูแล้วว่าเขาและอันดาไม่ใช่คนอื่น และเรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน สุดท้ายเลยยอมพยักหน้า
“คนดี ใช้ปากให้เรานะ” อันดาลูบผมนุ่มของคนที่ขยับตัวลงไปอยู่ข้างล่าง กางเกงทั้งตัวนอกและตัวในปลิวหายไปจนเปลือยเปล่าทั้งตัว คนสวยถึงกับสูดปากเมื่อกลีบปากนุ่มๆจูบลงที่กลางกายของเขา
จาริญกอบกุมแท่งเนื้อสีชมพูอ่อนด้วยมือก่อนเป็นอันดับแรก รูดรั้งจนเห็นส่วนหัวสีเข้มกว่าโผล่ออกมาก่อนจะก้มลงครอบครองด้วยริมฝีปากจนสุดความยาว ไล้เลียเหมือนกำลังลิ้มรสไอศกรีมแท่งโปรด ดูดย้ำหนักๆบริเวณส่วนหัวที่ไวต่อความรู้สึก
“อ๊ะ…อ๊า…จูน” อันดาสอดมือเข้าขยุ้มเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม แอ่นสะโพกสวนรับจังหวะการใช้ปากของอีกฝ่าย ไม่นานดีภายในท้องก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีคลื่นลูกใหญ่หมุนวน ก่อนที่ของเหลวสีขุ่นจะไหลทะลักเต็มโพรงปากเล็ก
“อ๊า!” ร่างเพรียวบางกระตุกเกร็ง ปลดปล่อยออกมาทุกหยาดหยด ซึ่งจาริญก็ไม่รังเกียจกลืนลงคอไปทั้งหมด บางส่วนไหลย้อยลงมาตามมุมปากเป็นภาพที่น่ามองเหลือเกินเมื่อคนน่ารักเงยหน้าขึ้นมาจากหว่างขาเรียว
จาริญขยับขึ้นคร่อมร่างขาวจัด ประกบจูบแลกเปลี่ยนรสชาติหวานปนเฝื่อนให้คนใต้ร่างได้ลิ้มรสด้วย เรียวลิ้นกระหวัดเกี่ยวพันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงแลกน้ำลายดังชัดในโสตประสาท ทั้งขบและดูดริมฝีปากของกันและกันจนบวมเจ่อ
แมวตัวขาวจอมซนดูดเม้มทิ้งร่องรอยสีกุหลาบไว้บนลำคอของอันดา ปลายลิ้นชื้นลากเลียหน้าอกขาว โฉบริมฝีปากดูดกลืนยอดอกสีชมพูเสียงดังจ๊วบสลับกับใช้ฟันครูดเบาๆเพื่อสร้างความเสียวซ่าน
“จูน…อ๊า…เราเสียว” อันดาโอบกอดแผ่นหลังของคนด้านบน แอ่นอกเข้าหาริมฝีปากอิ่มที่ปรนเปรอยอดอกของเขาจนรู้สึกเจ็บตึง จาริญยืดตัวขึ้นเพื่อถอดเสื้อนอนของตนเองออกไป จากนั้นแนบตัวลงกอดผิวกายอุ่นๆของคนป่วยไว้ เนื้อแนบเนื้ออย่างแนบชิดจนแทบไม่มีช่องว่าง
จาริญเริ่มขยับตัวทั้งแบบนั้น ทำให้ยอดอกทั้งสองคู่เสียดสีกันไปมา เม็ดยอดอกเต่งผลิบานเต็มที่เรียกความรู้สึกปวดหนึบให้คั่งค้างบริเวณกลางกาย
อันดาเอื้อมมือมาด้านหลังเพื่อถอดกางเกงนอนและชั้นในของคนบนร่างออก เมื่อเปลือยเปล่ากันทั้งคู่มือเรียวจึงตะปบเข้าที่ก้นกลม กดให้ช่วงล่างแนบชิดกันก่อนจะขยับสะโพก
“อ๊ะ…อื้อ” จาริญครางเมื่ออีกฝ่ายลุกขึ้นนั่งโดยที่ยังประคองเขาไว้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าอันดาเป็นเบาะรองให้เขานั่งทับขาอยู่ ลมหายใจของร่างบางติดขัดเมื่อฝ่ามือเรียวกำแท่งเนื้อขนาดพอเหมาะเข้าด้วยกัน ส่วนปลายแตะโดนกันทำให้น้ำเหนียวข้นไหลเยิ้มเชื่อมกันจนแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร
“อื้อ…เสียวจัง” อันดาเชิดหน้าขึ้นทั้งที่มือยังทำหน้าที่ขยับขึ้นลงอย่างไม่มีบกพร่อง จาริญกอดอีกฝ่ายเอาไว้พร้อมทั้งจูบซับไปทั่วลำคอระหง ส่วนบอกอารมณ์ด้านหน้าพองขยายเต็มมือสวย อันดาชักรูดมันอีกเพียงไม่กี่ครั้งน้ำรักก็พุ่งพรวดออกมาจากส่วนปลายพร้อมๆกัน
ใบหน้าหลังจากเพิ่งเสร็จสมของอันดาสวยเย้ายวนมากเสียจนจาริญไม่อาจละสายตา ร่างบางดันคนป่วยให้นอนลงและขยับขึ้นคร่อมอีกครั้ง กลิ่นฟีโรโมนจากร่างข้างใต้หอมเชิญชวนให้สัมผัสร่างกายสวยงามนั้น จาริญลากริมฝีปากไปทั่วเรือนร่างขาวจัด
หยอกล้อกับจิวสีเงินที่สะดือเรียวสวย ใช้ฟันงับลงไปเบาๆจนอันดาแอ่นตัวขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ซอกขาด้านในที่จาริญจับให้ตั้งชันและทิ้งร่องรอยไว้บริเวณนั้น
“อันดา ตรงนี้แฉะด้วยล่ะ” นิ้วของจาริญคลึงรอบๆช่องทางสีหวาน น้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติหลั่งออกมาจากตรงนั้นจนเปียกแฉะ เพียงแค่แกล้งกดนิ้วลงไปเบาๆโพรงนุ่มหยุ่นก็ขมิบรัดในทันที
“อ๊ะ…จูน ไม่…อย่าเลีย…อ๊า!” มือเรียวของอันดาจิกทึ้งผ้าปูที่นอนเมื่อสะโพกอิ่มถูกรั้งขึ้นสูงก่อนที่ลิ้นนุ่มๆจะแตะลงที่รอยจีบ ความอุ่นชื้นเลียรอบๆช่องทางสีพีชก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปข้างใน แยงลิ้นเข้าออกจนโพรงแคบหลั่งน้ำลื่นๆออกมาเยอะกว่าเดิม แรงบีบรัดที่ปลายลิ้นทำให้จาริญครางเบาๆอย่างพอใจ
ใบหน้าหวานผละออกมาพลางเลียริมฝีปากตนเอง มองคนใต้ร่างเห็นว่าอันดามีน้ำตาคลอ ทั้งน่าสงสารและน่ารังแกในคราวเดียว จาริญจุมพิตอย่างอ่อนโยนที่หน้าผากของอีกฝ่าย
“อยากให้ทำต่อไหมคะ” จาริญแกล้งถาม ไล้ปลายนิ้วบนแก้มขาวที่แดงจัด อันดาไม่ตอบคำถามแต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการแทนคำตอบได้ดีอยู่แล้ว
จาริญมอบจูบให้คนหน้าสวยอีกครั้ง ขนอ่อนลุกชันไปทั่วทั้งร่างเมื่อแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอและลูบเบาๆไปตามลาดไหล่ คลอเคลียริมฝีปากกับปากบางที่บวมช้ำพลางเลื่อนมือลงบีบสะโพกของอันดา ช่องทางอุ่นด้านล่างยังคงชุ่มฉ่ำ ทำให้จาริญสามารถสอดนิ้วแรกเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
“จูน…อื้อ”
“แน่นจังเลย”
นิ้วของจาริญสอดเข้าไปจนสุดข้อและเริ่มขยับช้าๆ เมื่อเพิ่มนิ้วที่สองเข้าไปช่องทางอุ่นยิ่งตอดรัดตุบๆ เคยทำแบบนี้ให้อันดาตั้งหลายครั้งแล้วก็ยังรัดแน่นทุกครั้ง เสียงเฉอะแฉะกระตุ้นให้จาริญกระแทกนิ้วเร็วขึ้น สะโพกของอีกฝ่ายขยับสวนตามจังหวะการขยับนิ้ว
เพราะอันดาขยับสวนขึ้นมาเลยทำให้ส่วนหน้าเสียดสีกัน จาริญหลุดเสียงครางออกมาพร้อมทั้งขยับเอวไปพร้อมๆกัน
“เสียว…อ๊ะ…อันดา”
“จูน…อ๊า…แรงอีก”
เสียงหวานๆร้องขอ แถมดวงตาเรียวยังมองอย่างอ้อนวอน จาริญยอมตามใจคนสวย ดึงนิ้วออกมาเล็กน้อยและกระแทกเข้าไปใหม่ทั้งที่ยังไม่หยุดขยับสะโพกให้ทั้งหน้าขาและแท่งเนื้อสัมผัสกัน รู้สึกดีมากจนท้องน้อยบิดเกร็งไปหมด
อันดากอดคนด้านบนไว้แน่น ขยับร่างกายบดเบียดเข้าหากันจนแนบชิด เสียวซ่านทั้งส่วนอ่อนไหวด้านหน้าและช่องทางข้างล่างที่โดนปรนเปรอด้วยนิ้ว เสียงครางแหบพร่าของจาริญทำให้รู้ว่าแมวน้อยของเขากำลังจะเสร็จในไม่ช้า อันดาประคองก้นกลมไว้เพื่อให้ทุกส่วนแนบชิดกันมากขึ้น
ริมฝีปากบางแนบจูบลงบนลำคอขาว และยิ่งเขาแกล้งใช้ฟันงับจนเป็นรอยเขี้ยว จาริญยิ่งกระแทกนิ้วเร็วและแรงขึ้นจนตัวสั่นคลอนไปด้วยกันทั้งคู่
“ใกล้แล้ว…อ๊า…ใกล้แล้วจูน”
“อัน…อ๊ะ…อ๊า…อันจ๋า”
ร่างสวยเย้ายวนกอดก่ายขยับโยกเข้าใส่กันอย่างเร่าร้อน เสียงหวานครางประสานกัน ก่อนที่หน้าท้องขาวเนียนจะเปรอะเปื้อนด้วยกันทั้งคู่เพราะน้ำรักที่แตกพรูออกมาอย่างมากมาย ทั้งคนป่วยและพยาบาลจำเป็นตัวเบาหวิวเพราะความอึดอัดถูกปลดปล่อย
อันดาทิ้งตัวลงนอนแผ่อย่างหมดแรง มือสวยลูบหลังคนที่ยังนอนทับอยู่บนร่าง เสียงบ่นงุ้งงิ้งว่าเหนื่อยของจาริญทำให้ต้องจูบปลอบเบาๆที่ขมับชื้นเหงื่อ
“ต้องอาบน้ำอีกรอบแล้วมั้ง เลอะหมดเลย”
จาริญเงยหน้าขึ้นมองคนพูดและค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น คราบเหนียวเหนอะเปื้อนบริเวณหน้าท้องลงไปจนถึงต้นขา ร่างบางเอี้ยวหยิบทิชชู่ในกล่องข้างหัวเตียงมาเช็ดทำความสะอาดให้ทั้งตนเองและคนป่วย ตัวของอันดาเย็นลงแล้วและยังมีเหงื่อซึมตามใบหน้าอีกด้วย
วิธีการรักษาตามแบบฉบับของจาริญดูเหมือนจะได้ผลกว่าทานยาเสียอีก
“อาบไม่ได้ เดี๋ยวไข้จะกลับ แล้วยังครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่ไหม”
“ไม่แล้ว สงสัยได้ยาดี”
คนสวยยิ้มร่า จาริญยีเส้นผมสีดำจนยุ่งเหยิงอย่างหมั่นไส้ เลยโดนอันดาพลิกตัวขึ้นมาใช้มือจี้เอวจนดิ้นพล่านเพราะจั๊กจี้ เสียงหัวเราะดังไปทั่วห้องกว้างอยู่พักใหญ่ พอเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ก็นอนกอดกันกลมใต้ผ้าห่ม ผลัดกันจุ๊บหน้าผากคนละที
“อันดารักจูนนะ”
จาริญไม่รู้หรอกว่าคำว่ารักของอันดาหมายความว่ายังไงหรือว่าเป็นความรักแบบไหน แต่เขาก็ตอบอีกฝ่ายกลับไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“จูนก็รักอันดาเหมือนกันนะ”
*****
วันนี้เป็นวันเสาร์และอันดาหายป่วยแล้ว ช่วงบ่ายเลยพากันมาเดินซื้อของที่ห้างสรรพาสินค้า ตกลงกันว่าจะทานข้าว จากนั้นก็ไปดูหนังสักเรื่องและค่อยซื้อของเป็นอย่างสุดท้าย และเป็นนิสัยของอันดาที่ชอบโอบเอวคนข้างกายเป็นเรื่องปกติเหมือนอย่างทุกครั้งที่ออกมาข้างนอกด้วยกัน
แต่สำหรับจาริญแล้วยังมีความเขินอยู่เล็กน้อย พยายามจะเบี่ยงตัวหนีอยู่เรื่อย
“อัน ~ ไม่ต้องโอบเราก็ได้”
“ไม่เอา เดี๋ยวจูนหาย” อันดาส่ายหน้า แขนเรียวยิ่งโอบเอวบางเข้าหาตัวมากขึ้น จาริญมองเขาและยู่ปากใส่ คนสวยหัวเราะพลางดึงฮู้ดขึ้นมาสวมให้คนตัวเล็กกว่าอย่างแกล้งๆ วันนี้แมวน้อยใส่ฮู้ดตัวใหญ่สีเทาและกางเกงขาห้าส่วนสีเบจ จาริญแต่งตัวเหมือนเด็กน้อยตามสไตล์ของเจ้าตัว อย่างกับเด็กมอปลายมากกว่าคนที่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
ทุกๆอย่างที่เป็นจูนน่ารักมากๆเลย
“อันดาทำไมดื้อจัง” มือบางบิดแก้มคนเอาแต่ใจ อันดาแกล้งร้องโอดโอยทั้งที่ไม่ได้เจ็บอะไรเลยสักนิด ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในที่สาธารณะเขาจะเอาคืนด้วยการฟัดแก้มกลมๆนั่นเสียเลย
“ดื้อแล้วรักไหมคะ”
“หิวแล้ว กินอาหารญี่ปุ่นกัน”
จาริญทำเป็นไม่ได้ยินแต่แก้มแดงเป็นมะเขือเทศแล้ว เปลี่ยนเรื่องด้วยการเดินลิ่วไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง อันดายิ้มและรีบก้าวตามไปติดๆ
“อยากกินซาชิมิ” หลังจากเลือกเมนูอาหารอยู่นาน อันดาลงความเห็นกับตนเองว่าอยากจะทานปลาดิบแต่ความอยากของเขากลับได้รับการปฏิเสธจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เพิ่งหายป่วยอย่าเพิ่งกินของดิบ เลือกใหม่”
“เป็นเมียเหรอมาสั่งอ่ะ”
“ไม่ใช่มั้ง”
อันดายิ้มล้อคนที่กระแทกปิดเมนูอาหารแก้เขิน ยอมตามใจคนน่ารักด้วยการเลือกอาหารอย่างอื่นแทน ก่อนจะส่งเมนูคืนให้พนักงานที่ยืนรออยู่
“เราชอบเวลาที่ได้ออกไปไหนมาไหนกับจูนสองคนแบบนี้จัง” อันดากุมมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะพลางลูบนิ้วของอีกฝ่ายเล่นเบาๆ จาริญเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ทำไม ?”
“เหมือนเราเป็นแฟนกันเลย”
เป็นอีกครั้งที่อันดาพูดอะไรทำนองนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย จาริญเดาไม่ออกเลยว่าคนพูดรู้สึกยังไงตอนที่พูดมันออกมา แต่สำหรับเขาคำพูดเหล่านั้นช่างมีอิทธิพลและทำให้ใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ยิน
*****
“ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอน้องจูนด้วย มาดูหนังเหรอครับ ?”
“ครับ มากับเพื่อนน่ะ”
อันดากำลังเซ็งอย่างถึงขีดสุด ร่างเพรียวบางยืนกอดอกอยู่ข้างหลังจาริญ แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด ไม่ชอบใจผู้ชายตัวสูงที่เดินเข้ามาทักตอนที่เขาและจาริญกำลังจะซื้อตั๋วหนัง คนน่ารักบอกว่าเป็นรุ่นพี่ร่วมคณะ แต่จากสายตาที่อีกฝ่ายใช้มองจูนแถมยังชวนคุยไม่หยุดอย่างไม่มีความเกรงใจทำให้อันดารู้ทันทีว่ารุ่นพี่คนนี้คิดยังไงกับแมวน้อยของเขา
จาริญเองก็เหมือนกัน ไม่รู้หรือยังไงว่ากำลังโดนคุกคาม ไม่คุยเปล่าแต่หมอนั่นยังพยายามแตะแขนบ้างจับไหล่บ้างตั้งหลายครั้ง
ตอนนี้อันดาไม่มีอารมณ์อยากจะดูหนังแล้ว เขาอยากจะกระชากจูนออกมาให้ห่างๆจากมันและพากลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย
"จองตั๋วหนังหรือยังครับ ถ้ายัง…”
“เธอ เค้าปวดหัวค่ะ” อันดาเดินเข้ามาจับมือคนตัวเล็กบอกด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ไม่สนใจว่ารุ่นพี่ตัวสูงจะคุยอะไรกับจาริญอยู่
“อันปวดหัวเหรอ ปวดมากไหม” จาริญหันมาให้ความสนใจกับคนสวยที่เอนศีรษะซบไหล่ทำหน้าซึมๆอยู่ สงสัยจะเดินเยอะไปอันดาถึงได้ปวดหัวขึ้นมา
“ปวดมากเลย เอาไว้ค่อยมาดูหนังกันวันอื่นได้ไหม เค้าจะตายแล้ว” มือเรียวกุมศีรษะตนเองร้องโอดโอยเพิ่มความสมจริง จาริญพยักหน้าก่อนจะบอกกับรุ่นพี่
“จูนขอตัวก่อนนะครับพี่มาร์ค พอดีว่าเพื่อนไม่สบาย”
“ครับผม แต่งานเลี้ยงสายรหัสอาทิตย์หน้า น้องจูนอย่าลืมนะ” มาคินยิ้มให้รุ่นน้องตัวเล็ก สายตามองเลยไปยังร่างเพรียวบางหน้าสวยข้างกายของจาริญ
“หายไวๆนะครับน้องคนสวย”
อันดาไม่ตอบอะไรนอกจากดึงแขนจาริญให้ออกมาจากตรงนั้น เดินลิ่วมาที่รถอย่างรวดเร็ว จาริญทำหน้างงเมื่อคนที่บอกว่าปวดหัวอยู่หยกๆตอนนี้กลับมีท่าทางเป็นปกติ และยังปิดประตูรถเสียงดังจนเขาที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับสะดุ้ง
“เป็นอะไรเนี่ยอันดา”
“จูนกับมันเป็นอะไรกัน”
“มันไหน ?” จาริญขมวดคิ้วอย่างฉงน เพราะอีกฝ่ายยิงคำถามใส่ดื้อๆโดยไม่มีเกริ่นนำ เขาก็งงน่ะสิว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่
“ไอ้หมอนั่นที่จูนยืนคุยกับมันเมื่อกี้”
“เรียกพี่มาร์คดีๆนะอัน เค้าเป็นรุ่นพี่ของเรา”
อันดาทำเสียงเหอะในลำคอ ข้างขมับเต้นตุบด้วยความโกรธหรือหงุดหงิดหรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกอารมณ์ว่ากำลังไม่พอใจ ยิ่งจาริญพูดเหมือนปกป้องมันแตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เขาก็ยิ่งโมโห
“เป็นรุ่นพี่หรือเป็นอะไรกันแน่ ยืนคุยกันท่าทางมีความสุขมากขนาดนั้น ถ้าเราไม่บอกว่าปวดหัวจูนก็คงจะยังคุยกับมันไม่เลิก”
“พูดไม่รู้เรื่องแล้วนะอันดา หงุดหงิดอะไรก็อย่ามาลงที่เราได้ป่ะ”
พอจาริญพูดเตือนสติมาแบบนั้นอันดาถึงได้รู้ตัวว่าเผลอทำตัวไม่น่ารักใส่อีกฝ่ายไป แต่เขาหงุดหงิดมากจริงๆที่เห็นจูนใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่น
“ขอโทษ” น้ำเสียงของอันดาอ่อนลงจากเมื่อครู่ จาริญไม่ได้โกรธ ร่างบางเลยพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร
“เราไม่ได้ตั้งใจหงุดหงิดใส่จูนนะ”
“รู้แล้ว ช่างมันเถอะ”
จาริญบอกปัดเพราะไม่ได้โกรธจริงๆ แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆอีกฝ่ายถึงได้อารมณ์เสียขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่อันดายังคงมองหน้าเขาและพูดต่อ เหตุผลที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากบางสวยทำให้จาริญต้องก้มหน้าเพื่อซ่อนรอยยิ้มกับตนเอง
“เราแค่หวงจูน หวงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”
ขยันทำให้คนอื่นใจเต้นแรงจริงๆเลยนะอันดา นับวันภูมิต้านทานของจาริญที่มีต่อคนสวยตรงหน้ายิ่งลดน้อยลงทุกทีแล้ว
tbc.
จูนรังแกคนป่วยไม่ดีนะลูก ;_;
#กุหลาบแดงกับแมวขาว