(สามจุดสาม)------เรื่องแบบนี้ต้องทำด้วยตัวเอง
“เดย์........นั่นเดย์ใช่มั้ย”
เสียงเรียกซึ่งฟังดูคุ้นหูทำเอาร่างสูงชะรูดหยุดชะงักฝีเท้าเอาไว้ ก่อนจะหันกลับไปมองอย่างช้า ๆ.....
ใบหน้าของผู้เรียกนั้นดูเจื่อน ๆ แต่กระนั้นก็ยังดูน่ารักน่าใคร่....คล้ายกับเด็กน้อยบ้องแบ๊ว ทำท่าทางเก้ ๆ กังๆ อย่างน่าเอ็นดู....
คนน่ารัก.....ต่อให้ทำหน้าแบบไหน....อารมณ์ไหน มันก็ยังดูแล้วสบายตา....มากกว่าคนอัปลักษณ์ ที่แม้แต่แค่ทำหน้าเฉย ๆ ก็แทบจะถูกคนทั้งโลกรุมประนามหยามเหยียด.....
“เดย์......จำเราได้รึเปล่า”
“ได้สิ.....ทำไมเราถึงจะจำนายไม่ได้ล่ะ”
ใบหน้าไร้เดียงสานั้นส่งยิ้มกว้างอย่างดีใจ พร้อมกับกระโดดโลดเต้นเป็นเด็ก ๆ.....
แม้จะไม่น่ารักเหมือนคน ๆ นั้น.....แต่ก็น่ารักพอที่จะเข้าร่วมแก๊งค์นางฟ้าอสรพิษได้อย่างกลมกลืน
“ทำจมูกมาใหม่เหรอ” เดย์เอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย.....และน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ดูออกเหรอ.....แต่เราก็ชอบมันมากเลยนะ.....นี่เป็นเพราะเดย์เลยนะนี่ ที่ทำให้เราได้จมูกใหม่ เรื่องที่เดย์เอาหัวโขกเราอ่ะ....เรายกโทษให้เดย์แล้วนะ เราสองคนต่างก็ทำร้ายกัน....เราว่ามันก็แฟร์อ่ะ เพราะงั้นเราไปหาอะไรกินกันมั้ย....ไปมั้ย.....เรื่องที่ผ่านมาน่ะ....หายกันนะเดย์นะ”
มือเล็ก ๆ ฉวยคว้าข้อมือของเดย์ ก่อนจะออกแรงลากจูง.....เดย์สะบัดมือออกจนอีกฝ่ายนั้นตกใจ แต่ก็ยังคงยิ้มเยื้อนให้อย่างเป็นมิตร...
“.......ยังไม่หายหรอกนะนาย.....ถ้าจะให้หายกัน หลังจากเราอัดนายจนน่วมแล้ว....เราต้องลากร่างกายสะบักสะบอมของนายไปประจานให้คนเห็นทั้งมหาลัย จับนายแก้ผ้าแล้วก็จัดท่าให้สวย ๆ แบบนั้นสิ มันถึงจะหายกัน....ถึงนายจะไม่ได้เป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น แต่มันก็ดูน่าเวทนาดี....ว่ามั้ย”
“เดย์.....ทำไมเดย์ถึงได้พูดจาใจร้ายแบบนั้น เราอุตส่าห์มาง้อเดย์นะ....เรายอมรับว่าเราผิด แต่เดย์ก็ต้องเข้าใจสิ....ก็ตอนนั้นเราต้องทำทุกอย่างที่พวกนั้นสั่ง ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ได้เข้าแก๊งค์....การมีเพื่อนน่ะมันสำคัญกับเรามากนะเดย์....แล้วตอนนี้เราก็ถูกพวกนั้นเฉดหัวออกมาจากกลุ่ม เราเองก็เจอเรื่องแย่ ๆ มาไม่น้อยไปกว่าเดย์หรอกนะ....เดย์น่าจะเป็นคนที่เข้าใจเรามากที่สุดสิ”
เดย์ยิ้มกลับ.....หลังจากที่ยืนฟังอีกฝ่ายพูดเสียยาวเหยียดจนกระทั่งจบประโยค
“ทำเครียดไปได้น่า......เราก็แค่หยอกนายเล่น....คนอย่างเราน่ะจะมีปัญญาไปทำอะไรใครได้ล่ะ....จริงมั้ย”
“โธ่....เดย์อ่ะ....ทำเราเครียดเลยนะนี่....งั้นไปหาขนมกินกัน....ป่ะ ๆ ๆ ๆ ๆ”
น่ารัก.....แต่ก็แค่รูปโฉมภายนอก....จิตใจสกปรกต่ำช้ายิ่งกว่าปิศาจซาตาน
เดย์กำลังครุ่นคิดขณะเดินตามหลังอีกฝ่าย
ถ้าชั้นทำแบบที่พวกแกทำกับชั้น....ชั้นจะต่างจากพวกแกตรงไหนงั้นเหรอ
ไม่แน่นะ.....
คนที่เลวที่สุดอาจจะเป็นชั้นคนนี้ก็ได้....ใครจะรู้
.
...
.........
.........................
“ว่าแต่นายชื่ออะไรน่ะ....จำได้แต่หน้า....ลืมชื่อไปแล้ว” น้ำเสียงเรียบ ๆ ที่เอ่ยถามนั้น แทบจะทำให้ผู้ฟังเกือบพ่นโกโก้ร้อนราคาไฮโซออกมาทางรูจมูก
“เดย์.....อันนี้ก็หยอกเล่นใช่มั้ย”
“......”
พอเห็นสีหน้ามึนตึงของอีกฝ่าย....หนุ่มร่างเล็กก็รู้สึกหงุดหงิดเล็ก ๆ......ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่เป็นคนที่โดดเด่น มีแต่คนรู้จักกลับต้องมาถูกกะเทยกะโหลกกะลาที่ยังสวยไม่เสร็จฉีกหน้า......
แต่อีกส่วนหนึ่งนั้น....อาจเป็นเพราะรอยยิ้มเยาะที่ซุกซ่อนอยู่บนใบหน้าเย็นชานั้นก็เป็นได้....
“เราชื่อแยมไง....”
“อ่อ....แยม.....แก๊งค์นายมีใครบ้างนะ.....แยม.....โอโจ้....เฟย์เฟ่....แล้วก็.............พีท ถูกมั้ย.....ไม่ใช่ว่านายไม่เด่นหรอกนะ แต่คงเป็นเพราะ.....นายเป็นคนที่นิสัยดีที่สุดล่ะมั้ง”
“บ้า...เราก็ไม่ได้ดีอะไรหรอก....อื้มเดย์....เดย์ก็สวยขึ้นนะ”
“เหรอ......สวยขึ้นกว่าตอนที่พวกนายแต่งตัวให้อีกเหรอ”
ประโยคนั้นแทบจะทำให้พ่อหนุ่มน้อยสำลักอีกครั้ง.....ทำไมกันนะ แต่ละประโยคของไอ้หมอนี่มันช่าง....
แถมหน้าตาตายด้านที่แฝงความเย้ยหยันเอาไว้นั้นก็น่าหงุดหงิดเป็นบ้า....
“สรุปเดย์ยังโกรธเราอยู่จริง ๆ ด้วย”
“ก็ไม่ได้บอกว่าจะยกโทษให้นี่”
“ใจร้าย”
“พูดธุระของนายมาเถอะ.....พูดกันตรง ๆ ดีกว่าว่าต้องการอะไร นายคงไม่ได้มีเวลาว่างถึงขนาดลดตัวลงมานั่งกินขนมกับคนที่ทำร้ายจมูกปลอมอันเก่าของนายหรอกใช่มั้ย?....boy....หืมมมมม”
อีนี่ไม่ธรรมดา.....กูว่าแล้วมันมันต้องไม่ง่ายแต่ก็เอาเถอะ
หนุ่มน้อยแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างคนที่กำลังหวั่นวิตก....ก่อนจะล้วงเอาบางสิ่งออกมาจากในกระเป๋าทรงผู้หญิงที่บรรดาเก้งกวางนิยมนำมาสะพายให้ดูโก้เก๋
“นี่ไง.....ต้นเหตุที่ทำให้เราต้องระเห็จออกมา”
ภาพดังกล่าวคือภาพของชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่งเดินคู่มากับหนุ่มน้อยน่ารัก ท่าทางสนิทสนม....ทั้งจูงมือ...หยอกล้อ เอานิ้วจิ้มแก้ม.....
“แล้วไง......เราต้องสนมั้ย” มือเรียวของร่างสูงโปร่งปัดภาพพวกนั้นกลับไป แต่ก็ถูกอีกฝ่ายนั้นส่งรูปอื่น ๆ เข้ามาให้ดูอีก....
“ลืมไปแล้วเหรออีเดย์.....ว่าอีพีทมันร้ายกับแกแค่ไหน แล้วตอนนี้มันก็ทำแบบนั้นกับชั้นน่ะฮึ.....แกไม่อยากแก้แค้นมันเหรอยะ รูปพวกนี้น่ะชั้นเอาไปติดตามบอร์ดของมหาลัยก็แล้ว......ส่งให้กับมือของไอ้ฟายเจก็แล้ว แต่ก็นะ คนอย่างอีพีทมันแถเก่งอยู่แล้ว.....ต่อหน้าคนอื่นน่ะมันไม่ร่านหรอก ลองอยู่กันสองต่อสองสิ....ลีลายิ่งกว่ากระหรี่”
“แล้วเธอจะมาสาธยายความร่านของเพื่อนเธอให้ชั้นฟังทำไม....ในเมื่อตอนนี้ชั้นก็ไม่ได้อะไรกับผู้ชายคนนั้นแล้ว”
“ก็อีพีทมันฉกผู้ชายของชั้นไปน่ะสิอีเดย์บ้า”
หนุ่มน้อยน่ารักคนเมื่อครู่กลายร่างเป็นนางมารได้อย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อ ทุกถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากสีชมพูระเรื่อนั้น ฟังดูสกปรก ต่ำช้าและน่ารังเกียจ....
“มันระวังตัวจะตายห่า....ต่อหน้าคนอื่นมันก็ทำเป็นหยอกล้อกันแบบพี่น้อง เพราะงี้ไงชั้นถึงไม่สามารถหาหลักฐานที่เป็นภาพวีดีโอได้.....”
“เหรอ....เธอก็ปีนเข้าไปถ่ายทางระเบียงห้องนอนสิ....ชั้นกลับล่ะนะ เสียเวลาจริง ๆ ให้ตาย อ่ะนี่ค่ากาแฟของชั้น ลาก่อนนะ....”
สุดท้ายเมื่อไม่สามารถโน้มน้าวอีกฝ่ายได้ หนุ่มน้อยก็เริ่มเบะปากแล้วฟุ่บหน้าลงกับโต๊ะ ปล่อยโฮจนคนทั้งร้านหันมามอง
“เดย์.....เดย์ต้องช่วยเรานะ...ฮึก....ฮึก....เพราะงี้ไงเราถึงมาหาเดย์ เพราะว่าเดย์กับเรา...ฮึก......มีชะตากรรมไม่ต่างกัน.....เรา....ฮึก.....เราสองคนมาร่วมมือกันเปิดโปงคนชั่วอย่างอีพีทเถอะนะ....นะเดย์นะ...ฮือออออ”
ลาเต้อีกครึ่งแก้วบัดนี้ถูกสาดใส่คนที่กำลังร้องไห้
“อร๊ายยยยยยยยยยยยยย”
“หึ......ทำไมชั้นต้องเสียเวลาทำเรื่องแบบนั้นด้วย ในเมื่อชีวิตของชั้นมีอีกตั้งหลายเรื่องที่สำคัญกว่าให้ต้องทำ....เชิญหล่อนบ้าไปคนเดียวเถอะ....”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อีเดยยยยยย์...............อีกะเทยอัปปรีย์.....อีดอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“นี่......ฟังนะจ๊ะ....ฟังให้ดี คนอย่างชั้นน่ะ....ถ้าคิดจะแก้แค้นล่ะก็.....ชั้นคงไม่ลดตัวลงไปร่วมมือกับคนตื้น ๆ อย่างเธอหรอกนะ....”
“อี.....”
“จุ๊ ๆ ๆ ๆ......ทำกิริยาให้มันงามเหมือนหน้าตาหน่อยสิเธอ....หึหึ......จะบอกให้นะ....กับคนที่มีปัญญาคิดได้แค่นี้น่ะ ชาตินี้ทั้งชาติเธอก็ทำได้แค่วิ่งตามคนอย่างพีทเท่านั้นแหละ.....แล้วนี่น่ะเหรอ ผลตอบแทนของการไปเป็นที่รองมือรองเท้าให้เค้าน่ะ.....ชั้นจะพูดปิดท้ายด้วยสามพยางค์นี้นะ....เอ้า ตั้งใจฟังล่ะ”
“สม.............น้ำ......................หน้า”
.
.
.
.
.
เดย์ไม่ยิ้ม....ไม่แม้แต่อมยิ้ม
หลังจากเดินหนีอีกฝ่ายที่กรีดร้องเร่า ๆ....ออกมาจากร้านคอฟฟี่ช๊อฟแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสะใจ.....ไม่ได้รู้สึกดีใจที่ผลกรรมกำลังตามสนองคนพวกนั้น
ความรู้สึกนึกคิดในหัวนั้นมีแต่ความว่างเปล่า.....ว่างเปล่าอย่างไม่น่าเชื่อ
“อ๊ะ”
เดินไม่ระวังก็เลยกระแทกเข้ากับแผ่นอกกว้างของคนที่เดินสวนมาจนล้มลงไปกองกับพื้นฟุตบาท....
“ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลยนะอีตุ๊ดดดดดดดด”
เสียงแบบนี้.....ไม่ใช่แค่คุ้นหู แต่เป็นเสียงที่ฟังอยู่ในหัวของเดย์มาตลอดไม่เคยหายไปไหน
มันไม่เคยหายไป....ไม่เคยถูกดีลีทของจากเซลล์สมองอันซับซ้อน มันเพียงแค่ถูกซ่อนเอาไว้เท่านั้น
“.............”
“เอ้าลุกสิมึง จะนั่งอยู่แบบนั้นรึไงอิตุ๊ดเอ๊ยยยยย”
คนที่เคยรัก.....คนที่เคยยกย่องบูชา........
บัดนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้า
แต่น่าแปลกที่นายเจในวันนั้นช่างดูตัวใหญ่เหลือเกิน.....ผิดกับวันนี้....ที่ดูเหมือนตัวเล็ก.....เล็กจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า.....เรือนลางเหมือนหมอกควันมาบดบัง
เดย์กำลังถามตัวเองอีกครั้ง....ว่าอยากแก้แค้นคนพวกนี้จริง ๆ น่ะหรือ
To be con
....................................................................................
ขอบอกว่าใกล้ปิดฉากแล้วสำหรับเรื่องของเดย์กับเจจี้.....ก็จะดำเนินมาถึงตอนจบของฉบับเรื่องสั้นพอดี....แต่หลังจากนี้นายเจจะเข้ามามีบทบาทมั้ย อ่า.......ก็ไม่แน่นะ.....ไม่แน่ว่าเจอาจจะเป็นพระเอกในตอนจบก็ได้....ถ้าลองมองดี ๆ แล้วบุคลิกแบบหล่อเลวตบจูบแบบนี้.....มันก็เอื้อแก่การเป็นพระเอกในนาทีสุดท้ายก็ได้นะคะ
แต่เรารู้น่า ว่าคนอ่านอยากอ่านของพี่ต้นมากกว่า.......ใช่มั้ยล่ะ.....งั้นเดี๋ยวช่วงหลัง ๆ จะแต่งต้น-เดย์กันให้หวานเลี่ยนกันไปข้างเลยเอ้า...สัญญา
จุ๊บ ๆ