#Re2love •13
“ผมช่วยครับแม่”
พุฒิเข้าไปรวบถาดเปล่าที่ก่อนหน้านี้ใช้สำหรับรองเป็นถาดใส่บาตร แล้วยื่นมืออีกข้างให้มารดาจับประคองเดิน จริงอยู่ว่าคุณพรรณีเดินได้อย่างคล่องแคล่วไม่เหมือนคนวัยหกสิบกว่า แต่ถึงอย่างนั้นพุฒิก็อดห่วงไม่ได้ กลัวว่าคนมีอายุจะสะดุดโน่นนี่จนเป็นเรื่องใหญ่
“แม่เดินระวังนะครับ”
“จ้ะ”
มารดาสูงวัยยิ้มบางๆ ขณะที่เหลือบตามองบุตรชายที่พักนี้ยิ้มแย้มแจ่มใสราวกับคนมีความรัก ความสดใสที่แสดงออกของลูกนั่นทำให้ผู้สูงวัยอดยิ้มตามไม่ได้ ตั้งแต่ที่ลูกสะใภ้เธอเสียชีวิตกะทันหัน พุฒิต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูกชายที่ยังเยาว์วัยนัก ท่ามกลางการสูญเสียนั่นเธอรู้ดีว่าบุตรชายแบกรับอะไรหลายๆ อย่าง แม้จะยากลำบากขนาดไหนแต่พุฒิก็ดูแลทั้งครอบครัวได้เป็นอย่างดี
มันนานมากแล้วที่ลูกไม่ได้ยิ้มกว้างแบบนี้ วันนี้ได้เห็นกับตาว่าลูกสดใสราวกับมีชีวิตชีวาคนมีอายุก็อดที่จะสุขใจไปด้วยไม่ได้
“พุฒิ”
“ครับแม่”
“ช่วงนี้มีอะไรดีๆ รึเปล่าลูก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเชียว”
“ขนาดนั้นเลยเหรอแม่”
พุฒิทำหน้าเหรอหราลูบหน้าลูบตาตัวเอง ท่าทางแบบนั้นทำให้ผู้สูงวัยหัวเราะน้อยๆ
“แสดงว่ามีเรื่องดีๆ จริงๆ สินะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่”
“โกหกคนแก่มันบาปนะ”
“แม่ก็..”
พุฒิเกาศีรษะแก้เก้อ
“เอาเถอะ ยังไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า” คุณพรรณีขยับรอยยิ้ม “อื้อ แม่ว่าจะถามเพราะเมื่อวานเห็นกายมาแวบๆ น้องเขามา ทำไมไม่ชวนเข้าบ้านล่ะ”
“กายมันมาฝากกุญแจสตูดิโอไอ้มนน่ะครับแม่ มนมันบอกจะเข้ามาเอาตั้งแต่เมื่อวานแต่จนป่านนี้ยังไม่โผล่เลย”
เมื่อวานเขาคุยกับมนชัยเห็นฝ่ายนั้นบอกว่าติดธุระอยู่ต่างจังหวัดเลยต้องแคนเซิลช่างแอร์ที่เข้ามาล้างแอร์ที่สตูฯ
“อ๋อ”
หญิงชรายิ้มมุมปาก ขณะที่พิจารณาท่าทางบุตรชายที่เล่าไป สายตาก็มองเลยไปยังบ้านข้างๆ
“แม่ว่าจะติดสัญญาณกันขโมยนะ”
“ฮะ!”
พุฒิตาโตรีบหันกลับมาทางคุณพรรณี
“แม่ว่าอะไรนะครับ”
“ช่วงนี้รู้สึกว่าโจรจะย่องเข้าบ้านบ่อยๆ แม่เลยอยากติดสัญญาณติดขโมยสักหน่อย”
“แม่!”
พุฒิกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอทันทีตอนที่สบกับแววตาที่มองอะไรทะลุปรุโปร่ง พ่อลูกหนึ่งรู้สึกเหมือนคนมีชนักติดหลัง มารดาเขายิ้มน้อยๆ แต่นัยยะทางคำพูดนั่นบอกว่าการที่เข้าเปิดประตูให้หัวขโมยหนุ่มเข้าบ้านนั่นไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้ว
ชายหนุ่มประคองมารดาให้ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้หวายหน้าบ้าน แล้วทรุดลงคุกเข่ากับพื้น เขาจำได้ดีถึงตอนที่น้องสาวสารภาพว่าคบหากับคนรักชาวต่างชาติ แต่มารดาก็ค้านหัวชนฝาเพราะความต่างทางวัฒนธรรม ใช้เวลานานกว่าคุณพรรณีจะยอมรับลูกเขยชาวต่างชาติ แต่นั่นก็เพราะความดีงามของน้องเขยเขา ที่เสมอต้นเสมอปลายและแสดงออกว่ารักน้องสาวของพุฒิอย่างจริงใจ
“แม่ครับ”
คุณพรรณีเห็นแววตาตื่นตระหนกของบุตรชายแล้วได้แต่ยิ้มแล้วตบหลังมือบุตรชายที่บีบมือเธอเสียแน่น
“แม่รู้เหรอครับ”
“คนแก่ไม่ได้หูตาฝ้าฟางนะลูก”
พุฒิหลุบตามองต่ำก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แต่มือเหี่ยวย่นนั่นก็เอื้อมมาลูบศีรษะเขาเบาๆ
“ผมรังเกียจในสิ่งที่ผมเป็นมั้ย”
คุณพรรณีส่ายหน้ายิ้มๆ เมื่อบุตรชายมาซุกใบหน้าที่ตักราวกับเด็กน้อย
“ฟังแม่นะพุฒิ แม่น่ะจะอยู่กับลูกไปได้นานแค่ไหนกัน แม่แก่แล้วพุฒิ ลูกจะรักใครชอบใครมันก็เป็นสิทธิของลูก แม่เคยอคติตอนพิมพ์แต่งงานกับไบรอัน แม่ไม่อยากกลับรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว แม่เป็นแม่ก็จริง แต่แม่ทำได้แค่ห่วงใยลูกอยู่ห่างๆ เพราะชีวิตเป็นของลูก ลูกจะต้องกำหนดมันเอง เพราะคนที่จะมีชีวิตต่อไปก็คือลูก ขณะที่ชีวิตแม่เดินทางมาไกลแล้ว”
“แม่อย่าพูดแบบนี้”
คุณพรรณีลูบหลังบุตรชายอย่างอ่อนโยน
“พุฒิใช้ชีวิตอย่างที่ลูกต้องการเถอะ ถ้าลูกมีความสุข แม่ก็มีความสุขเหมือนกัน”
“ขอบคุณครับแม่”
“โฬมเป็นคนดี อย่างน้อยแม่ก็เชื่อว่าโฬมจะจับมือพุฒิให้แน่นเพื่อฝ่าฟันกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ลูกต้องเจอ”
พุฒิกอดเอวมารดาแน่น
“จำคำแม่ไว้ ถ้ารักกันแล้วการรู้จักให้อภัยและความเชื่อใจสำคัญมาก และในวันที่คิดว่าความรู้สึกรักมันจืดจาง ให้อยู่ด้วยความเข้าใจและยอมรับในตัวตนของแต่ละฝ่าย”พ่อลูกหนึ่งนิ่งฟังอย่างตั้งใจ
“สายตาคนอื่น ความคิดหรือความรู้สึกคนอื่นที่เข้ามากระทบอาจจะบั่นทอนเราไปบ้าง แต่ให้ชั่งใจฟังอย่างมีสติ เพระความรักเป็นเรื่องของคนสองคน หากมีคนที่สามซึ่งไม่ว่าจะเข้ามาในสถานะใดก็ตามก้าวเข้ามา ถ้าเราจับมือกันไม่แน่นพอ สุดท้ายเราก็ต้องปล่อยมือ”
“...”
“สำหรับพิกเล็ต ค่อยๆ อธิบายให้ลูกเข้าใจ ถึงว่าเจ้าหมูจะยอมรับโฬม แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะทุกความสัมพันธ์มันต้องใช้เวลามันถึงจะมั่นคงและยั้งยืน”
★ ☆★ ☆★ ☆
“เย่ๆๆ”
เจ้าหมูกระโดดร้องเหยงๆ ด้วยความดีใจเมื่อบิดาบอกว่าจะพาไปเที่ยววันนี้ เด็กน้อยจูงมือพี่เลี้ยงให้พาไปแต่งตัวทันที
“เอาคนแก่ไปด้วยจะดีเหรอลูก เดี๋ยวหมดสนุกกันเปล่าๆ”
“ไปเถอะครับแม่ ผมไม่ได้พาแม่ไหนตั้งแต่รถเสียเลย”
“ไปด้วยกันนะครับคุณป้า”
สุดท้ายคุณพรรณีมานั่งอยู่ในฟอร์จูนเนอร์พร้อมออกเดินทาง หญิงชรามองยังคนขับที่ขับรถได้นิ่มนวลจนชวนให้หลับ ใบหน้าคมคายแม้มองจากด้านหลังก็เห็นได้ความตั้งใจ ส่วนคนที่ข้างๆ อย่างพุฒิทำหน้าที่ชวนคุยเป็นเพื่อน ท่าทางทั้งคู่ที่มีต่อทำให้คนวัยเกษียณยิ้มทั้งตา ก่อนจะหันไปสนใจหลายชายตัวน้อยที่ชี้ชวนส้มดูอะไรกันไม่รู้ตามข้างทางที่ผ่านมาอย่างสนุกสนาน
ความสุขมันอยู่ใกล้ตัวเสมอ หากทำใจยอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่
แม้ในคราแรกจะรู้สึกเหมือนมีขุ่นตะกอนตกอยู่ในใจ ตอนที่เริ่มระแคะระคายความสัมพันธ์ของพุฒิกับโฬม แต่ก็นั่นแหละ ชีวิตเป็นของพวกเขา ให้เขาลิขิตกันเอง เธอคงได้แต่ช่วยประคับประคองให้มันยาวนานที่สุดเท่าที่มันจะไปถึงได้
.
.
“แม่อยู่ตรงนี้คนเดียวจะเหงามั้ยฮะ”
พิกเล็ตถามออกมาอย่างไร้เดียงสาตอนที่บิดาพาเจ้าหมูมาไหว้อัฐิของมารดา ดวงตากลมโตจ้องมองภาพใบหน้างดงามของมารดาที่ยิ้มอยู่เบื้องหน้า พุฒิยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะลูบศีรษะเจ้าหมูอย่างอ่อนโยน
“ไม่เหงาหรอกครับ แม่ของหนูอยู่บนสวรรค์คงมีความสุขมากๆ แม่เขาคงเฝ้ามองหนูอยู่บนโน้น”
“แม่จะเห็นหนูจริงเหรอฮะ”
พุฒิยิ้มบางๆ
“เห็นสิลูก ไม่ว่าแม่จะอยู่ที่ใด แม่จะคอยปกป้องและดูแลหนูเสมอ”
“หนูคิดถึงแม่”
พิกเล็ตทำหน้าเศร้า จนพุฒิจุกในอกเพราะดาหวันเสียไปตั้งแต่ลูกยังเล็กมาก เจ้าหมูอ่อนเดียงสาจนแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ แต่พุฒิยังโชคดีที่ลูกเลี้ยงง่ายและไม่เคยทำให้เขาต้องเหนื่อยใจ พิกเล็ตไม่งอแงหาแม่นั่นคงเพราะเขาบอกเสมอว่าที่แม่ไม่ได้อยู่กับเจ้าหมูในตอนนี้ แม่แค่เปลี่ยนสถานที่ในการเฝ้ามองเจ้าหมูเท่านั้นเอง
พุฒิรวบร่างกลมป้อมมากอดไว้แนบอก ขณะที่คิดว่าตัวเองกำลังอ่อนแอกลับมีอ้อมแขนของใครบางคนที่โอบกระชับเขากับพิกเล็ตจากเบื้องหลัง
“เวลาที่อาคิดถึงแม่ อาจะนั่งมองท้องฟ้า ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนได้พูดคุยกับแม่จากที่ไกลๆ ทุกครั้งที่เงยหน้ามองฟ้า อาจะเห็นรอยยิ้มของแม่จากบนนั้น”
โฬมเกลี่ยน้ำตาจากร่องแก้มอวบอูมอย่างแผ่วเบา
“จริงเหรอฮะอาโฬม”
“ครับ”
พิกเล็ตโผเข้าซุกโฬมทันที พุฒิมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกตื้นตัน ยิ่งเห็นในมือชายหนุ่มมีพวงมาลัยพวงหนึ่งมาวางตรงหน้าอัฐิอดีตภรรยาเขาเคียงคู่กับพวงมาลัยของเขากับพิตเล็ต
“คุณดาไม่ต้องห่วงนะครับ”
โฬมพูดกับคนในรูป “สิ่งที่คุณดารักและหวงแหนผมจะทะนุถนอมจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายที่ผมยังมีลมหายใจ”
พุฒิสะอื้นเมื่อได้ฟังจนจบประโยค
โชคดีเหลือเกิน
เขาโชคดีที่มี
‘โฬม’30%
ตอนแรกวันนี้กะจะงดนะคะ แต่เราไม่อยากหายบ่อยๆ ช่วงนี้ธุระที่บ้านค่อนข้างยุ่ง
แต่จะพยายามมาลงให้ได้ทุกอาทิตย์น้า มาน้อยดีว่าไม่มาเนอะ^^
ปล. วันพฤหัสที่ 5 เมษานี้ เรามีแจกลายเซ็นที่งานหนังสือ ราวๆ เที่ยง ที่ห้องLotus Room
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันนั้นเรามีโปสการ์ด #ค่ายสร้างรัก และ #Re2love ไปแจกฟรี นะคะ