[5]
“ขับรถยนต์เป็นหรือเปล่า”
พี่เคตื่นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพราะพี่แกบอกว่ามีเรียนตอน 8 โมงครึ่ง เลยต้องรีบตื่น แต่ว่านะ....ทำไมต้องปลุกผมด้วยหละเนี่ย ผมมีเรียน 10 โมงกว่า แล้วทำไมต้องมาตื่นเช้าตามพี่เคด้วย
“ขับเป็นครับ” ผมยังไม่เข้าใจว่าจะถามทำไม แต่ก็ต้องตอบตามความจริงไป
“ดี...งั้นเอากุญแจรถนายมา” พี่เคบอก พร้อมกับที่โยนกุญแจรถยนต์มาให้ผม
ทำไมต้องใช้รถผมด้วย ทั้งที่ตัวเองก็มีรถยนต์ใช้ จะมาขี่รถตากแดดทำไมก็ไม่รู้ หรือว่าพี่เคจะสำนึกผิดที่ทำกับผมไว้เยอะ เลยคิดจะไถ่โทษ....แบบนี้ก็พอจะเป็นคนดีเหมือนกันนะนี่ คิดแบบนั้นมันก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้
“จะหยิบมาได้หรือยัง” เสียงดุๆ ทำให้ผมต้องตื่นมาสู่โลกความจริง
“ครับๆได้แล้วครับ” ผมรีบเดินไปหยิบมาให้ รอยยิ้มของผมยังมีให้เห็นอยู่เช่นเดิม
“ยิ้มทำไมวะ” พี่เคทำหน้าหงุดหงิดถามผม
“แหมๆๆๆ ไม่ต้องเขินหรอก” ผมกระเซ้าไอ้พี่เค การจะทำความดีนี่ไม่ต้องเก๊กขนาดนั้นก็ได้พี่เคก็
“ประสาท....” พี่เคพูด ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“เอ้ยพี่...แล้วรถพี่คันไหนหละ” ผมยังไม่หายสงสัย เพราะผมไม่เคยเห็นรถไอ้พี่เคมาก่อนเลยนี่นา
“ดูที่กุญแจสิ ว่ายี่ห้ออะไร” ผมก้มมองกุญแจพี่เคในมือผม มีอักษรภาษาอังกฤษ H ในกรอบสี่เหลี่ยม.....รู้ยี่ห้อรถ แล้วยังไงต่อหละ
“สีดำ” พี่เคอธิบายเพิ่ม เมื่อเห็นผมยังคงทำหน้าสงสัยต่อ ก่อนจะหันหลังกลับไป
“แล้วถ้ามีรถสีดำหลายคัน ผมจะรู้ได้ไงว่าคันไหน” ผมยังคงสงสัยไม่เลิก ก็จริงไหมหละครับ พี่ไม่ได้มีเงินซื้อรถได้คนเดียวนะครับพี่เค
“รีโมทมีไว้ทำไม” พี่เคเดินกลับมา ก่อนจะตบหัวผมเบาๆด้วยความเอ็นดูในความคิดพี่แก (แต่จริงๆแล้วมันสุดแสนจะเจ็บ...สำหรับผม)
“กดแล้วคันไหนใช่มันก็เปิดเองหละ เรียนวิทย์จริงไหมเนี่ย แค่นี้ไม่มีกึ๋นเลย” โหๆๆ ว่าซะเสื่อมเสียไปถึงคณะ ไอ้พี่เคนี่มันวอนซะแล้ว
“พี่เค!!” ผมตะโกนเสียงดังเรียกไอ้พี่เคให้หันกลับมาเคลียร์กันให้รู้เรื่อง
“มีไร...เข้าใจไหมว่ากูรีบ” หันมาทำหน้าดุ และน้ำเสียงเหมือนจะฆ่าคนแบบนั้น คิดว่าจะกลัวหรือไง
“เอาร่มไหมครับ แดดมันร้อน” ผมทำหน้าเจื่อนถามพี่เคกลับไป
“กูเป็นผู้ชาย” อีกละ คำตอบแมวๆแบบนี้มันตอบได้ทุกคำถามเลยหรือไงวะ พี่เคตอบเสร็จก็หันหลังกลับเดินลงบันไดไป พร้อมกับทำท่ายักไหล่จนน่าหมั่นไส้
“ไอ้ตะเกียบ บอกเบอร์มาดิ” ก่อนที่หัวพี่เคจะหายไปกับบันได พี่เคก็หันมาถามเบอร์ผมก่อน
“089-xxxx-xxx” ผมบอกเบอร์อย่างว่าง่าย โดยไม่ทันคิดว่าพี่เคจะเอาไปทำไม
“เจอกันตอนเย็น รอกูกินข้าวด้วย” พี่เคหันหลังกลับ
ว่าไงนะ....เจอกันตอนเย็น นี่ผมยังไม่หมดเวรกรรมอีกหรือเนี่ย จะตามมาทำไม ผมไปฆ่าเห็บหมัดบนตัวพี่ หรือผมไปฆ่าแมวพี่หรือไง ตามติดกันขนาดนั้น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ไอ้จา....ผลการทดลองอยู่ไหนวะ”
ผมเดินมาถึงห้องทดลองไอ้เพื่อนที่ทำแลปคู่กับผมก็ทวงผลการทดลองเลยทันที เพราะต้องเขียนสรุปส่งอาจารย์ ผมจะเปิดกระเป๋าเพื่อหาของก็พบว่า.......ลืมกระเป๋าไว้บนรถพี่เค 555 ก็คนมันเคยแต่สะพายข้างขี่มอไซด์ พอมีรถยนต์ก็เลยไม่ดูอะไรทั้งนั้นเดินตัวปลิวมาเลย ดีที่หยิบกุญแจมาด้วยนะ ไม่งั้นไอ้พี่เคได้ฆ่าผมตายคา civic พี่แกแน่
“กูลืมกระเป๋าวะ แฮ่ๆๆ” ผมยิ้มแหยๆให้เพื่อน ก่อนจะเจอสายตาดุดันของมันกลับมา
“เดี๋ยวกูไปหยิบมาให้ รอสักครู่นะครับ” ผมรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะโดนไอ้โมมันเอามีดมาเสียบ แต่ระหว่างที่ผมวิ่งออกมานั้นก็เกือบจะชนเข้ากับแจน
“เอ้ย...โทษทีแจน ไม่ทันดู” ผมรีบกล่าวขอโทษแจน เพราะผมเกือบจะทำให้แจนล้ม
“ไม่เป็นไร....นี่จารีบไปไหนหรอ” แจนถามผมด้วยรอยยิ้ม
“จะไปหยิบกระเป๋านะ ลืมไว้ที่รถ” ผมก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน....หลายคนอาจจะคิดว่าแจนเป็นสาวสวยน่ารัก....ต้องบอกว่าคุณคิดผิด เพราะแจนของพวกเราเนี่ย เป็นผู้ชายครับ..... พอดีเกิดเดือนมกราคม ที่บ้านเลยตั้งชื่อว่าแจน และมันก็เหมาะกับแจน เพราะแจนเป็นผู้ชายที่หน้าหวานจนเพื่อนผู้ชายทุกคนไม่กล้าทำอะไรเสื่อมๆเถื่อนๆต่อหน้าแจน เหมือนมีเพื่อนผู้หญิงอีกคนนั่นหละครับ
“ให้เราไปเป็นเพื่อนไหม เรามีเรื่องจะคุยกับจาพอดี”
“แต่มันไกลนะสิ เอางี้แล้วกัน เดี๋ยวเรากลับมาแล้วเราไปหาแจนเองนะ”
ผมบอกแจนเพราะกลัวแจนจะลำบาก และผมพอจะเข้าใจไอ้พี่เคแล้ว ที่พี่เคเอารถผมไปใช้ ไม่ใช่ว่าจะให้ผมสบายหรืออยากไถ่โทษอะไรหรอกครับ แต่มันเพราะหาที่จอดรถยากนี่เอง พี่ท่านถึงเอารถมอไซดืผมไปขี่อยากสบาย ส่วนผมก็ต้องวนหายที่จอดอยู่นานกว่าจะได้ที่จอดที่ใกล้ที่สุด ก็เลยคณะผมไปมากอยู่ เฮ้อ...หลงคิดว่าพี่เคจะใจดีเสียอีก
“ไม่เป็นไรหรอกจา เดินไปเป็นเพื่อนกัน”
และนั่นก็เป็นอันจบลงด้วยที่แจนเดินไปกับผมเพื่อไปที่รถของไอ้พี่เค
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ระหว่างทางที่เดินมาแจนก็ชวนผมคุยไปเรื่อย ทำให้ผมไม่เข้าใจเหมือนกันที่บอกว่ามีเรื่องอะไรจะคุย ไม่เห็นว่ามันจะสำคัญอะไรมากเลย แต่ก็ดีสำหรับผม เพราะมีเพื่อนเดินมาที่รถ อิอิ
“รถพี่เคนี่!” แจนถามแบบแปลกใจที่ผมเดินมาเปิดประตูรถพี่เค
“อ๋อ...ใช่ พอดีพี่เคเปลี่ยนรถกับเราใช้นะ” ผมตอบแบบไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่มันก็น่าสงสัยนะ แจนรู้ได้ยังไงว่านี่เป็นรถพี่เค
“แล้วแจนรู้ได้ไงว่าเป็นรถพี่เค” ผมถามแบบสงสัย เพราะรถแบบนี้ในมหาวิทยาลัยมีตั้งหลายคัน
“เราจำทะเบียนรถได้” แจนตอบแบบอายๆ
“อ๋อ....” ผมเออออตามคำตอบของแจน ก็รู้เพราะจำทะเบียนรถได้ยังไงหละ ไม่น่าโง่เลยไอ้จา
“เฮ้ย...แล้วแจนไปรู้อะไรทะเบียนรถพี่เคเนี่ย” ผมเพิ่งจะนึกได้ว่ามันแปลกๆนะแบบนี้
“ก็เราแอบมองอยู่บ่อยๆนี่นา” แจนเขินกว่าเดิมอีกครับตอนนี้ หน้าแดงจนถึงหู นี่อย่าบอกว่าแจนชอบไอ้พี่เคนะนี่
“ชอบพี่เคหรอ” ผมถามเพื่อให้คลายสงสัย
“บ้า...” บ้า..เออไอ้จามันบ้า ไม่น่าถามเลยกู โดนว่าบ้าแล้วยังโดนทุบแขนอีก
“เย็นนี้กินข้าวด้วยกันไหม” ผมนี่ฉลาดใช้ได้นะนี่ ไม่ต้องอยู่กับไอ้พี่เคสองคนอีกแล้ว เอาแจนมาเป็นกำบัง แค่นี้ก้ได้สองต่อ....แจนได้กินข้าวกับพี่เค ส่วนผมก็ไม่ต้องอยู่กับพี่เคลำพัง ความคิดเยี่ยม
“พี่เคก็ไปนะ” ผมเริ่มรุกแผนการของผมต่อ พอแจนได้ยินว่าพี่เคไปด้วยก็พยักหน้ารับทันที ใครจะเก่งเกินไอ้นินจาไม่มีซะหละ 55555
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ใครให้มึงพาคนอื่นมา” พอไอ้พี่เคมันเดินเข้ามาในร้าน มันก็โวยวายผมทันทีที่พาแจนมาด้วย
“เป็นไรหละพี่เค เพื่อนผมมันไม่มีคนกินข้าวด้วย” ผมต้องหาเหตุผลมาอธิบาย ก่อนที่จะเสียแผน
“กูไม่ชอบคนเยอะๆ โดยเฉพาะกับคนที่กูไม่รู้จัก” พี่เคมองจ้องแจนแบบไม่พอใจ ซึ่งตอนนี้แจนได้แต่ก้มหน้า เพราะคงกลัวพี่เคเป็นแน่
“คิดมากน่าพี่ คนเยอะๆสนุกดีออก” ชักแม่น้ำทั้งห้าจะช่วยอะไรได้ไหมเนี่ย
“กู – ไม่ – ชอบ” แค่พี่เคทำเสียงดุ พูดใส่หน้าแจน แค่นี้เจ้าตัวก็แทบจะร้องไห้แล้ว
“เอากุญแจห้องมา” พี่เคยังจ้องที่แจนเหมือนเดิม แต่แบบมือมาทางผมเพื่อขอกุญแจห้อง
“พี่เคจะเอาไปทำไมครับ”
“มึงกินข้าวกับเพื่อนมึงเสร็จแล้ว ค่อยไปกินกับกูต่อ เดี๋ยวกูไปรอที่ห้องมึง” เฮ้อ...ดูท่าแล้วมันคงจะยื้อต่อไปไม่รอดแน่ ผมก็เลยต้องส่งกุญแจให้พี่เค เพราะตอนนี้ผมสงสารแจนมากกว่า
“คราวหลังอย่าพาตัวน่ารำคาญมาเจอกูอีก...เข้าใจไหม” พี่เคขู่ผมก่อนจะหันหลังให้พวกผม
ตัวรำคาญงั้นหรอ........ตอนนี้แจนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ และนั่นก็ทำให้สติผมขาดไปชั่วขณะ
“โอ๊ยยยยยย” เสียงไอ้พี่เคร้องครับ ทำให้คนทั้งร้านหันมามองกันเป็นตาเดียว 55555 สะใจจริงๆ
พอผมได้ยินพี่เคว่าแจนแล้ว ผมก็ลุกขึ้นเดินตามหลังไอ้พี่เคไปทันที ก่อนจะทำการ......ฝังเขี้ยวลงบนบ่าของไอ้พี่เค จริงๆอยากจะกัดหูให้ขาด แต่มันสูงไม่ถึง เลยเอาแค่บ่าก็พอ
พี่เคตีกลับมาที่หัวผมให้ปล่อย แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อย แถมยังสบัดอีกต่างหาก พอสมใจแล้วผมถึงปล่อย
“ไอ้เด็กบ้า...เป็นหมาหรือไง” พี่เคตะโกนใส่หน้าผม
“พี่เค...พี่นี่มันปากเสียสุดๆ เห็นไหมทำคนเสียใจขนาดไหน รู้ไหม เพื่อนทั้งคณะต่างประคบประหงมแจนขนาดไหน แล้วนี่พี่เป็นใครมาทำแจนของพวกเราร้องไห้” ผมก็สวนกลับทันทีเหมือนกัน ก็พวกผมดูแลแจนอย่างกับผู้หญิง แล้วพี่เคมันเป็นใครมาทำให้ร้องไห้แบบนี้ นี่ถ้าเพื่อนๆในคณะรู้ว่าผมพาแจนมาแล้วทำให้แจนร้องไห้ ผมคงโดนคนอื่นเล่นงานเละแน่ๆ
“ไม่รู้เว้ย ก็กูไม่ชอบ” พี่เคขมวดคิ้วตอบกลับผมมา
“จะเอาอีกสักทีไหม” ผมทำท่าจะกระโจนเข้าใส่ไอ้พี่เค ทำให้พี่เคผงะเล็กน้อย
แต่ก่อนที่ผมจะรู้ตัว พี่เคก้พุ่งเข้าใส่ตัวผมเสียก่อน เสร็จแล้วก็อุ้มผมพาดบ่าจนตัวลอย
“เฮ้ยปล่อยนะพี่เค” ผมโวยวายอย่างตกใจ คราวนี้คนทั้งร้านที่เคยมองพี่เค ก็หันมาขำกับท่าทางของผม
“ถ้าไม่หยุดจะโยนลงพื้นเดี๋ยวนี้หละ” จึก.....โยนลงไปสูงขนาดนี้ก็เจ็บนะสิวะ
“น้องชื่อแจนใช่ไหม....โทษทีแล้วกันนะ” พี่เคหันไปถามแจน ก่อนจะบอกขอโทษด้วยน้ำเสียงดุดัน นี่พี่รู้สึกอยากขอโทษจริงๆใช่ไหมเนี่ย
และแล้วผมก็ถูกพี่เคแบกออกมาจากร้าน.....ไอ้นินจา มึงวอนหาเรื่องใส่ตัวจริงๆเลย..........