บทที่ 50 มาละครับ (เขียนเสร็จทันในสภาพเมายาแก้แพ้อากาศสุดๆ+นอนยาวไป 10 ชั่วโมงกว่า ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วครับ) เมื่อเพื่อนๆ ทั้งสองฝั่ง ร่วมมือให้บิ๊กกับแทนมีโอกาสได้เจอกัน ผลที่ออกมาจะเป็นยังไง จะสำเร็จไหม จะเป็นอย่างไรต่อ
มาชมกันต่อเลยครับ^^
***********
Chapter 50อีกสัปดาห์เดียว จะเปิดเทอมสองแล้ว...ชีวิต ม.ปลาย ถือว่าเดินมาครึ่งทางเรียบร้อยแล้วซินะ ปิดเทอมรอบนี้ มันต่างกับปีที่แล้วจริงๆ ผมไม่รู้สึกตัวเองมีสาระหรือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักนิด จริงๆ ก็มีอย่างเดียวแหละ นั่นคือทุกหัวค่ำ วงกุมารทองผมต้องไปเล่นที่ร้านเฮียจิ๋วนี่แหละ
“ไอ้บิ๊ก ไอ้บิ๊ก มาหาเฮียหน่อย” เฮียจิ๋วเรียกผมขณะที่วงผมเล่นเสร็จแล้ว กำลังเก็บเครื่องดนตรีกันอยู่
“ว่าไงเฮีย” ผมปล่อยให้ที่เหลือเก็บของกันไป เฮียตบไหล่ผม ก่อนจะส่งซองค่าแรงให้
“เล่นดีเหมือนเดิม นี่ค่าแรงวันนี้ เออ มะรืนนี้ว่างเปล่า มีคนเช่าร้านตอนกลางวัน เฮียอยากให้วงแกนี่แหละ มาเล่นให้แขกที่เช่าร้านตอนกลางวันเค้าฟังหน่อย สักสี่ห้าเพลง พอไหวมะ” ผมนึกอยู่สักครู่ คิดว่าน่าจะได้
“น่าจะได้อะเฮีย เดี๋ยวถามเพื่อนๆ ก่อนแล้วกัน คืนนี้จะ LINE ไปบอกนะครับ” ผมไหว้ขอบคุณเฮีย ก่อนจะกลับไปช่วยเพื่อนๆ เก็บของกันต่อ
ทุกครั้งที่เล่นเสร็จ เฮียจิ๋วจะเปิดโต๊ะเลี้ยงอาหารให้หนึ่งชุดใหญ่ๆ พร้อมเบียร์หนึ่งทาวเวอร์ แต่ถ้าตำรวจมาตรวจ หรือจะมีตำรวจลงตรวจ วันนั้นก็อดดื่มกันไป ขืนให้พวกผมดื่ม มีหวังโดนตำรวจเล่นข้อหาขายเหล้าให้เยาวชนจนโดนปิดร้านกันพอดี
“เออ เฮียเค้าอยากจ้างวงเราเล่นตอนกลางวัน มะรืนนี้อะ” ผมพูดขึ้นมากลางวงอาหาร
"ได้เลย เจ้าภาพเค้าอยากได้เพลงแบบไหนละ" ตั้มถามผม แต่อันนี้เฮียไม่ได้บอกผมนี่หว่า
"กูไม่มีปัญหา" โจตอบรับ ส่วนแชมป์พยักหน้าอย่างเดียว เพราะตอนนี้ข้าวเต็มปากอยู่
เมื่อผมกลับถึงบ้าน ผมส่ง LINE ไปบอกเฮียจิ๋วว่าตกลงรับงาน ก่อนจะไปอาบน้ำ แล้วกลับมาทิ้งตัวนอนหมดแรง และสิ่งที่ผมทำเหมือนเดิมก่อนนอนทุกคืนตั้งแต่วันที่ไม่มีคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตแล้ว...
“เราจะมีวันที่ได้กลับไปหาแทนไหม เรา...ไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อไปยังไง ถ้าไม่มีแทน” ผมพูดออกมาคนเดียวท่ามกลางห้องนอนที่มีแค่เสียงเพลงเบาๆ จากเครื่องเสียงที่ผมต่อกับ iPhone ไว้ สิ่งที่ตามมาหลังจากมองสร้อยเส้นนี้นานขึ้น
น้ำตา...ที่ออกมาช้าๆ แต่เจ็บจนอยากฟูมฟายให้เป็นบ้าไปเลย
ผมไม่อยากให้ทุกวัน ทุกคืน เป็นแบบนี้อีกแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงให้แทนกลับมาเป็นหัวใจของผม ผมเคยสัญญาว่าจะไม่ให้แทนเสียใจ ไม่ให้แทนเจอเรื่องแย่ๆ แบบที่แทนเคยเจอมาก่อน แต่ผมทำไม่ได้...ผมโง่ที่ปล่อยให้เรื่องไม่สมควรเกิดทั้งหมดเกิดขึ้นมา การล้างแค้น ที่ผมคิดว่าเมื่อผมทำสำเร็จ ผมจะเดินกลับไปหาแทนเพื่อบอกว่า ผมทำสำเร็จแล้ว แต่พอเอาเข้าจริง ผมกลับไม่กล้าเดินไปหาแทนเพื่อบอกว่า ผมไปทำอะไรมา ผมทำเพื่อแทนนะ
แทนคงไม่ยินดี ถ้าการกลับมาหาผม ต้องทำเรื่องสกปรกแบบนั้นไว้มากมาย แต่ถ้าผมไม่ทำ ผมก็ต้องยอมรับว่าผมเป็นคนทำทั้งหมดนั้น ซึ่งผมไม่ได้ทำเลย....ทำไม...ทุกอย่างต้องโหดร้ายกับผมแบบนี้
กรรมตามสนอง คือแบบนี้ซินะ....
………………..
วิวนอกหน้าต่างห้องนอนที่ห้อง ตึกสูงทั้งหลาย เป็นภาพที่ผมมองเหมือนเป็นเพื่อนสนิทคนนึง ในเวลาที่ผมอยู่คนเดียวเช่นนี้ ผมแอบคิดถึง...บิ๊ก...ในเวลาที่เรามีกันและกัน แต่ทุกครั้งที่ผมคิดถึง ภาพของบิ๊กกับผู้หญิงคนนั้น จะปิดท้ายให้ผมรู้สึกเจ็บเหมือนโดนกรีด แล้วไม่กล้าแตะต้องความคิดส่วนนั้นอีก
อันที่จริง...ระหว่างที่บิ๊กไม่อยู่ มีของจากบิ๊กส่งมาให้ผมตลอด หยอดไว้ในตู้จดหมาย แต่ผมไม่เคยเปิดมันดูสักครั้ง มันเป็น SD Card ที่บิ๊กเขียนว่าเป็นวีดีโอ ทั้งหมดห้าแผ่น แผ่นสุดท้ายส่งมาวันเกิดผม ทั้งหมดถูกวางไว้บนโต๊ะทำงานข้างๆ MacBook ของผม ผมไม่กล้าดู เพราะผม...อยากเข้มแข็งกว่านี้
“ฮัลโหล ไบรท์” ห้าทุ่มกว่าแล้ว โทรมาคงมีอะไรแหละ
“มะรืนนี้ว่างเปล่า เราจะไปเคสละครอะ เลยอยากชวนแทนไปเป็นเพื่อน” ผมฟังแล้วเกือบจะแคะขี้หูซ้ำว่าฟังไม่ผิด
“เล่นบทอะไรอะ ลูกคนใช้เปล่า อิๆ” ผมแซวไบรท์ซะหน่อย เพราะไม่คิดว่าไบรท์จะมีความคิดไปทำอะไรแบบนั้น
“ไม่ใช่ละ บทหนึ่งคู่รักซีรีส์ Y ที่กำลังทำฉายอะ” ผมละหูพึ่ง ไบรท์เอาจิงเหรอ
“จะเป็นพระเอกหรือนายเอกดีละ” ผมหลุดหัวเราะพอนึกตามแล้ว
“ไม่รู้ๆๆ เออ งั้นบ่ายสองเราไปรับแทนที่คอนโดนะ เพราะมันผ่านคอนโดแทนก่อนไปถึงอะ” ผมยิ้มๆ งงๆ ว่าเพื่อนผมอยากเป็นดารากับเค้าตอนไหน
“ว่าแต่แชมป์ไปด้วยปะ” ผมถามถึงหวานใจเพื่อนผมหน่อย
“แน่นอนๆ เออ บ่ายสองนะแทน อย่าลืมนะ เราไปนอนละ” ผมวางสายแล้วรู้สึกอมยิ้ม มันแปลกๆ ถ้าเพื่อนผมอยากไปเล่นละครกับเค้าบ้าง
ผมทิ้งตัวลงนอน แอบขำเรื่องของไบรท์ แต่...เตียงนี้มันกว้างไปที่ผมจะนอนคนเดียวจริงๆ
………………..
เที่ยงตรง ณ ร้านเฮียจิ๋ว ผมเข้ามาเซ็ทเครื่องดนตรี ตามที่รับงานไว้ตอนบ่ายสอง แต่ผมแปลกใจว่า ป่านนี้ทำไมไม่เห็นแขกมางานกันสักคน ถ้างานจะเริ่มเล่นกันตอนบ่ายสอง ป่านนี้ก็น่าจะเห็นบ้างแล้วแหละ
“ตั้ม แน่ใจเปล่าวะว่ามันมีงานจริง ทำไมกูไม่เห็นใครมาเลยวะ” ผมกำลังทานอาหารของร้านที่เตรียมไว้ก่อนขึ้นเล่น หลังจากเซ็ทเครื่องดนตรีกับลำโพงเสร็จแล้ว
“ชัวร์ เค้าอาจมาตอนบ่ายสองกันก็ได้มึง” ตั้มรีบตอบทันที
“เฮียจิ๋วเค้าไม่หลอกเราหรอก เงินมัดจำก็ได้มาแล้ว เครียดไรวะมึง” โจรีบเสริมทันที
“มันอาจเป็นงานไพรเวทก็ได้ คนไม่เยอะมากไรงี้นะเว้ย” แชมป์รีบเสริมต่ออีกที
“พวกมึงสามตัวทำไมแย่งกันตอบจังวะ มีพิรุธไรกับกูปะเนี่ย” ทั้งหมดหันไปมองหน้ากัน ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกัน แล้วรีบทานข้าวต่อ ปล่อยให้ผม งง ต่อไป
“เดี๋ยวกูมานะ” แชมป์รีบลุกออกไปรับโทรศัพท์ในขณะที่ข้าวยังเต็มปากอยู่
ผมว่ามันแปลกๆ ที่จัดงาน แต่ไม่เห็นหน้าแขกสักคนที่จะมาถึงงานก่อนเวลาเลย....ในเวลาเดียวกันนี้ ผมรอไบรท์มารับที่ห้อง ไบรท์มาในชุดสบายๆ เซ็ทผมมาพร้อม ดูแล้วแปลกตา แต่หล่อมากทีเดียว
“สงสัยเราจะได้เพื่อนเป็นดาราก็วันนี้แหละ” ดูไบรท์แต่งตัวมาวันนี้ ไม่เลวเลยทีเดียว
“สมพรปาก ดังแล้วเดี๋ยวเลี้ยงข้าวนะ” ผมหัวเราะที่ไบรท์บอกจะเลี้ยงข้าวนี่แหละ เดี๋ยวจะไถมันทุกมื้อเลย
นั่งรถไฟฟ้าไปอีกไม่กี่ป้าย ก็ถึงร้านที่ไบรท์บอกว่ามาคัดตัว แต่ที่ผมงงคือ ทำไมรอบๆ ร้าน คนเงียบถึงเงียบมาก เหมือนไม่มีคนมาเลย
“แน่ใจเหรอไบรท์ว่าร้านนี้ ทำไมเรารู้สึกมันเงียบๆ จัง” ผมยืนอยู่แถวๆ หน้าร้าน ถ้ามันมีงาน คนควรจะเยอะงี้เปล่านะ
“เราก็ไม่แน่ใจอะ แทนเข้าไปดูหน่อยซิ” ผมเดินเข้าไปเปิดประตูเข้าไปดูในร้าน พอเข้าไปในร้าน ทุกอย่างเงียบสงบ มีแค่แอร์ที่เปิดไว้เท่านั้น
“เราว่าไม่ใช่แล้ว...” ผมไม่เห็นไบรท์แล้ว แถมประตูก็ล็อคแล้วด้วย
“เอ้ย...ไบรท์ เราออกไม่ได้ ประตูล็อคอยู่” ผมหันไปมองรอบร้าน มีแค่โต๊ะ เก้าอี้ ไฟที่เปิดบางดวง แอร์ที่เปิดอยู่ และเวทีที่เครื่องดนตรีเตรียมพร้อมแล้ว ผมโทรหาไบรท์ แต่ไบรท์ก็ตัดสายผมทิ้งไปแล้ว นี่มันเรื่องอะไรนเนี่ย ผมงงไปหมดแล้วนะ
ในเวลาเดียวกันกับที่แทนโดนขังในร้าน...ตั้มกับโจยังไม่ยอมให้ผมขึ้นเวทีซะที ในขณะที่แชมป์หายตัวไปเรียบร้อย ผมรู้สึกได้เลยว่าเพื่อนผมมีพิรุธอย่างน่าสงสัยมาก
“ตกลงมึงไปร่วมมือกับเฮียจิ๋วแกล้งไรกูเปล่าวะ งานห่าไรคนก็ไม่มี นี่จะได้เวลาเล่น ยังไม่ให้กูเล่นอีก พวกมึงอำไรกูเปล่าวะเนี่ย” ตั้มกับโจทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“คือ แขกมีคนเดียววะ เค้าเหมาร้านเลย ละก็ กูคิดเพลงให้เล่นแค่เพลงเดียว จบงาน รับเงิน ไม่ดีเหรอวะ” ตั้มยอมคายสิ่งที่ควรพูดออกมาซะที
“ได้เวลายัง” ผมถามเสียงเข้มๆ ใส่ โจหันไปมองข้างในร้าน และไอ้แชมป์ก็วิ่งกลับมา
“แขกมาแล้ว ได้เวลาแล้วเว้ย” ตั้มกับโจช่วยกันจูงแขนผมคนละข้างเข้าร้าน
“จะให้กูร้องเพลงไร บอกมาด้วย” ให้เล่นเพลงเดียว แต่ไม่บอกว่าเพลงอะไร กูจะร้องได้ไหมละ
“กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมของ Crescendo” ยังกับให้ร้องเพลงง้อแฟน
พอขึ้นเวทีไป ผมต้องอึ้งกับคนที่อยู่ในร้าน ซึ่งกำลังนั่งอยู่แบบงงๆ แล้วผมก็เห็นไบรท์วิ่งมาล็อคตัวเอาไว้
แขกในร้านที่ผมกำลังจะร้องเพลงเดียวที่ตั้มบอกให้ฟังคือ...แทน...
………………..
ผมยืนจับไมค์ด้วยความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ผมเห็นแทนหลบสายตาผม ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะตัวกลางของร้าน ตั้มเดินมากระซิบข้างหูผมว่า
“กูขอโทษที่ไม่บอกมึง แต่พวกกูทุกคนอยากช่วยให้มึงกับแฟนกลับมาคืนดีนะเว้ย ตั้งใจร้องนะเว้ย” ผมไม่ตอบอะไรกับตั้ม เพราะตอนนี้หัวผมโล่งมาก จนกระทั้งคอร์ดกีตาร์เริ่มขึ้น มือจับไมค์ ตามองที่แทน แล้วผมก็ร้องออกมาเอง
“ทำไมสายตาเย็นชา เวลาที่เราเจอกัน ทำไมต้องทำอะไรอย่างนั้น ไม่เข้าใจเธอลืมไปแล้วหรือไงเรื่องราวครั้งนั้น ภาพในวันวาน ที่ดีต่อกัน
หากวันนั้นฉันทำอะไร ที่ไม่ดีที่ผิดไป อยากจะขอให้ลืมมันไป ได้ไหม...กลับมารักกัน
เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมเธอ ยังรอเธอเสมอ ทุกครั้งที่หายใจ ไม่อยากมีชีวิต อ้างว้างอีกต่อไป ก็มันทนไม่ไหวจริงๆ เพราะหัวใจรักแค่เธอ
ในวันที่ไม่มีกัน ในใจของฉันว่างเปล่า ไม่เคยต้องเหงาอะไรแบบนี้ เพิ่งเข้าใจ ถ้าหากฉันย้อนเวลากลับไปวันวาน ฉันจะไม่ยอม ให้เธอจากไป
หากวันนั้นฉันทำอะไร ที่ไม่ดีที่ผิดไป อยากจะขอให้ลืมมันไป ได้ไหม...กลับมารักกัน
เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมเธอ ยังรอเธอเสมอ ทุกครั้งที่หายใจ ไม่อยากมีชีวิต อ้างว้างอีกต่อไป ก็มันทนไม่ไหวจริงๆ เพราะหัวใจรักแค่คนเดียว” ตลอดเพลงที่ผมร้อง แทนค่อยๆ เงยหน้ามามองผม สิ่งที่ผมกลั้นไม่อยู่คือน้ำตา...ผมควบคุมลมหายใจกับน้ำเสียงให้นิ่งที่สุด เพื่อบอกความรู้สึกทั้งหมดออกไป ช่วงโซโลดนตรีของเพลง ผมถอดแว่นเพื่อปาดน้ำตาและปล่อยความรู้สึกในใจผมออกมาเต็มที่ ก่อนจะกลับมาร้องต่อ...
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมเธอ ยังรอเธอเสมอ ทุกครั้งที่หายใจ ไม่อยากมีชีวิต อ้างว้างอีกต่อไป ก็มันทนไม่ไหวจริงๆ เพราะหัวใจรักแค่คนเดียว
ก็มันทนไม่ไหวจริงๆ เพราะหัวใจรักแค่คนเดียว”ผมวางไมค์กลับลงไปที่ขาตั้ง แล้วโดดลงเวที เดินไปปาดน้ำตาไปหาแทนที่นั่งอยู่ ก่อนจะคุกเข่าลงไปตรงหน้าแทน
“เรา...ขอโทษ ทุกอย่างที่เราทำลงไป แทน...เรากลับมาเหมือนเดิมได้ไหม” ผมไม่เงยหน้ามองว่าแทนจะมีสีหน้ายังไงกับสิ่งที่ผมพูด แล้วแทนก็ลุกขึ้นมาประคองผมลุกขึ้นยืน ก่อนจะกอดผมไว้แน่นๆ
“บิ๊ก...เรื่องของเรามันคงไปต่อไม่ได้แล้วแหละ เรากลัว...เราอยากจำสิ่งดีๆ ที่บิ๊กเคยมีให้เราไว้ก็พอ เรื่องไม่ดีที่เหลือ เราให้อภัยหมดแล้ว ขอให้บิ๊กโชคดีนะ เราสัญญาว่าเราจะยิ้มให้ทุกครั้งที่เราเจอกัน” แทนค่อยๆ ถอยออก หลังจากพูดจบแล้ว สำหรับผม มันเหมือนคำตัดสินประหารชีวิต
“ก็ได้...ถ้าแทนต้องการ เราจะไม่มาให้แทนเห็นหน้าอีก...เราจะไปเก็บของที่เหลือในห้องตอนนี้นะ แล้วหลังจากนั้น เราสองคนจะเป็นแค่คนรู้จักกัน เราจะจำเรื่องดีๆ ที่แทนทำให้เราเหมือนกันนะ” ผมกลั้นใจพูดอย่างยอมรับ แทนไม่ตอบอะไร นอกจากถอนหายใจลึกๆ แล้วไม่มองผม
ผมเดินออกไปทางหลังร้าน ในขณะที่เพื่อนผมทั้งหมดวิ่งมาล็อคตัวไว้แบบสุดแรงเกิด ผมไม่ขัดขืนหรือป้องปัดอะไร แต่ผมหยุดนิ่งๆ แล้วปล่อยน้ำตาลูกผู้ชายออกมาอย่างไม่อาย
“กูขอโทษนะเว้ย พวกกูแค่อยากทำให้มึงกับแทนกลับมาคบกัน” ผมพยักหน้าเข้าใจในอ้อมกอดของไอ้ตั้ม
“กูจะไปพูดให้ รอครู่นะ” แชมป์ตบไหล่ผม ก่อนจะวิ่งหายกลับเข้าไป
“กูไปเก็บของก่อนนะ แวะเข้าบ้านแล้วเดี๋ยวกูกลับมาร้านอีกที” ตั้มกับโจสวมกอดผมแน่นๆ
“ลองง้อใหม่ดีกว่าวะ เค้าอาจยังใจแข็ง แต่เดี๋ยวก็โอเคกับมึงเองก็ได้” โจพยายามบอกผมในแง่ดี
“แทนเป็นคนคำไหน คำนั้น กูหมดเวลาแล้ววะ ขอบใจนะพวกมึง ที่อุตสาห์ช่วยกูขนาดนี้” ผมเดินไปหยิบหมวกกันน็อคที่วางไว้โต๊ะกินข้าวนอกร้าน ก่อนจะคร่อมน้องถ่าน แล้วไปคอนโดของแทน
มันคงเป็นกรรมตามสนอง ที่ผมเคยทำร้ายจิตใจใครหลายคนไว้ ตอนนี้มันมาถึงตัวผมเองเรียบร้อยละ
………………..
ผมถอนหายใจโล่ง ที่ผมปฎิเสธบิ๊กออกไป ผมนั่งลงที่เก้าอี้ของร้าน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เหมือนผมกำลังใช้แรงทั้งหมดในการตอบมันออกไป
“แทน...ทำแบบนี้คิดว่าดีแล้วเหรอ” ไบร์ทนั่งข้างๆ ผมก่อนจะเริ่มถาม
“เราเข้าใจในความหวังดีที่ไบรท์และเพื่อนๆ บิ๊ก อยากทำให้เรากับบิ๊กเข้าใจกันนะ ขอบใจจริงๆ” ผมยิ้มให้กับไบรท์ ที่ตอนนี้ดูจะผิดหวังในการตัดสินใจของผมไป
“แทน...แน่ใจแล้วเหรอ” แชมป์เดินมานั่งข้างๆ ผม พร้อมคำถามเดียวกับที่ไบรท์ถามผมเมื่อครู่
“ฟังเรานะแทน...บิ๊กไม่ได้นอนกับผู้หญิงชั่วนั่น บิ๊กโดนยาสลบ แล้วเรื่องที่แทนเห็นกอดกันนั่น ก็มารยาอีนั่นอีกนั่นแหละ รู้ไหมแทน ตอนบิ๊กต้องรับผิดชอบในสิ่งที่แทนบอกให้ไปรับผิดชอบอะ บิ๊กมันทำอะไร” แชมป์เริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงกึ่งตะคอก จนไบรท์ต้องลุกขึ้นไปปรามไว้
“บิ๊กมันล้างแค้นผู้หญิงคนนั้น เอาตัวเข้าแลกเพื่อแฉความจริง เอาผู้ชายอื่นมาเล่นบทชู้ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ไล่ฉีกหน้าไอ้ตั้มแบบไม่เกรงใจความเป็นเพื่อน ถามแทนจริงๆ ทั้งหมดเนี่ย ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเรา บิ๊กจะทำแบบนี้ทำไมอะ หา!!!” แชมป์กำลังพูดกับผมด้วยความโกรธ และผลักอกผมด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าแทนจะไม่ให้อภัยในสิ่งที่บิ๊กทำ เพราะกลัวจะเจ็บ ผิดหวัง เราผิดหวังนะ นายมันเห็นแก่ตัว นายแค่บอกว่าไม่ ก็จบแล้ว แต่บิ๊กละ ทุกอย่างที่พวกเราบีบให้ทำทางอ้อม ทำไมพวกเราไม่ร่วมรับผิดชอบบ้างละ” ผมโดนแชมป์พุ่งมากระชากแล้วเขย่าตัวผม ก่อนที่ไบรท์จะลากแชมป์ออกไปทางหลังร้าน
“แล้วนายจะเสียใจที่ไม่ให้อภัยบิ๊ก จำไว้!!!” เสียงตะโกนไล่หลังของแชมป์ ยังคงดังก้องในหัว และไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนบิ๊กอีกคนก็เดินเข้ามา ผู้ชายหน้าคมไม่แพ้บิ๊ก ตาโต คิ้วหนา ผมรองทรงแบบที่เด็กมัธยมปลายชอบตัดกัน กับรูปร่างที่สันทัดแบบกำลังดี กำลังนั่งข้างๆ ผม
“เราคุยด้วยได้ปะ...” ผมพยักหน้าให้กับเพื่อนบิ๊กที่นั่งข้างๆ ผม
“เราชื่อตั้มนะ เป็นเพื่อนในกลุ่มบิ๊ก” ผมพยักหน้ารับทราบก่อนจะยิ้มให้หนึ่งทีเป็นการผูกมิตรตามมารยาท
“แทนเก่งมากนะ ที่ทำให้เพื่อนเรารักได้ขนาดนั้น...ตั้งแต่เป็นเพื่อนกับมันมา มีผู้หญิงมากมายที่เราเห็นแล้วอิจฉาตลอดว่าบิ๊กไปคว้ามาได้ไง แต่คนที่มันรักและทุ่มเทที่สุด ในสายตาเพื่อนทุกคน ก็คือแทน...” ผมฟังสิ่งที่ตั้มเล่าอยู่โดยไม่ตอบอะไร
“ตั้งแต่เรารู้ความจริงทั้งหมดเรื่องที่เกิดขึ้น เราคิดเสมอว่า เราจะทำยังไงที่ชดเชยสิ่งที่เราทำผิดให้มันได้ เรากับเพื่อนๆ ทั้งหมด ทนดูมันยิ้มตรงหน้า แต่หันหลังแล้วเศร้าเหมือนคนใกล้ตายแบบนี้ไม่ได้อีก แล้วเรื่องเดียวที่มันเศร้าจนไม่เป็นอันทำอะไร ก็คือแทน...” ผมไม่ตอบอะไรเช่นเดิม
“ตลอดเวลาที่มันเลือกแทน มันไม่เคยวอกแวก หรือมองใครดีกว่าแทนสักนิด ไม่ใช่แค่นั้นนะ มันเป็นคนใหม่ทันที มันตั้งใจเรียน อารมณ์เย็นลง และที่สำคัญ มันทำทุกอย่างแบบมีเป้าหมาย และเป้าหมายที่ว่านั่นก็คือ...แทน” ตั้มตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ถ้าแทนยังรักเพื่อนเราบ้าง นิดเดียวก็ยังดี ขอโอกาสให้มันบ้างก็ยังดีนะ” จบประโยคแล้ว ตั้มหันหลังเดินกลับออกไป
ผมนั่งอยู่ตรงที่เดิม นานแค่ไหนไม่รู้ แต่มองไปนอกร้าน ฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว สิ่งที่ผมทำ ผมทำตามเหตุผลที่สมควร...หรือผมควรทำตามความรู้สึกที่ผมมีมากกว่า ถ้าผมทำตามหัวใจผม...มันจะถูกต้องใช่ไหม แต่การทำตามหัวใจผมรอบที่แล้ว ทำให้ผมเจ็บจนต้องหนีมากรุงเทพฯ เลยนะ....ถ้าความรักไม่ต้องการเหตุผลอะไรจริงๆ ผม....
ผมยังรักบิ๊กไหม....ผมจะต้องเสียใจเพราะบิ๊กอีกเปล่า....ผมจะลืมภาพไม่น่าจำพวกนั่นออกไปยังไง ต่อให้รู้ว่าบิ๊กไม่ได้ทำก็ตามที....
ผมตัดสินใจแล้ว...ผมขอทำตามความรู้สึกของหัวใจผม
สองเท้าของผมลุกขึ้นแล้ววิ่งออกทางหลังร้าน ก่อนจะวิ่งชนกับไบรท์ ผมวิ่งไปจนถึงหน้าถนนใหญ่ ก่อนจะเรียก Taxi กลับไปที่คอนโดผม
อย่าพึ่งไปนะบิ๊ก เราจะกลับไปหาแล้ว...
**********
บทที่ 51 ความรักของบิ๊กกับแทนจะกลับมาเริ่มต้นกันอย่างไร แทนจะกลับไปทันไหม การเริ่มต้นครั้งใหม่ของคู่นี้จะเป็นอย่างไรกันต่อ
บทที่ 51 เจอกันวันเสาร์บ่ายๆ
ส่วนบทที่ 52 จะเปิดเทอม 2 ของ ม.5 พร้อมกับเตรียมพบกับ ตาร์ ตัวละครใหม่จากฝั่งแทน ที่จะเป็นคู่แข่งหัวใจกับบิ๊ก และมีส่วนสำคัญกับเนื้อเรื่องตอน ม.6 จนถึงจบเรื่องแล้วครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^