ตอนที่ 1 : เพื่อน “ไม่ชวนกูเลยนะปัณณ์” มือเย็นวางลงบนต้นคอของเขา พายุตามมาที่ห้องของไผ่ เขาไม่รู้ว่าพายุรู้ได้อย่างไร สิ่งที่ทำได้คือไม่แสดงความรู้สึกดีใจออกมา
“ชวนทำห่าอะไรมึงไปกับแฟน” ปัณณ์ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มเพื่อหลบซ่อนสายตา เขาดื่มเข้าไปหลายแก้วจึงกลัวจะควบคุมมันเอาไว้ไม่ได้
“แล้วมึงมาได้ไงวะ” ไผ่เลื่อนแก้วเบียร์ใบใหม่ไปตรงหน้าพายุ ที่เลือกนั่งลงข้างปัณณ์
“กูโทรหามันเอง ไม่รู้นี่หว่าว่ามันไม่มา มึงไม่ได้บอกกู”
“ดีที่ไอ้นนท์โทรหากู ไม่อย่างนั้นกูคงไม่รู้ว่าพวกมึงมารวมหัวกันอยู่ที่นี่”
“กูบอกไอ้ปัณณ์แล้วว่าให้ส่งข้อความไปบอกมึง แต่มันบอกว่าไม่ต้อง มึงอยู่กับเมีย”
“เมียหึงหรือครับ โอ๋ๆ มานี่มา” พายุดึงปัณณ์เข้ามากอด เขาแกล้งจับอีกฝ่ายซุกหน้าเข้ากับซอกคอ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัด ยิ่งเพื่อนไม่ชอบเขายิ่งอยากแกล้ง เวลาปัณณ์โมโหตลกจะตาย
“ปล่อยกู เหม็นน้ำหอมฉิบหาย” ปัณณ์พยายามขืนตัวออก กลิ่นน้ำหอมของเอยลอยเข้าจมูก ถึงบางเบาแต่เขาก็ยังได้กลิ่น
“จริงเหรอ” พายุยอมปล่อยปัณณ์ เขาดึงเสื้อขึ้นดม
“ไผ่กูยืมเสื้อยืดตัวหนึ่งสิ”
“เอาไปทำไรวะ เสื้อมึงก็ดีอยู่”
“ปัณณ์เวียนหัวกลิ่นน้ำหอมหวานๆ เดี๋ยวมันตายก่อน”
“ได้เดี๋ยวกูหยิบให้ แล้วอย่างนี้มึงจะหาเมียได้เหรอวะ ผู้หญิงใส่น้ำหอมทุกคน”
“กูไม่ได้เหม็นทุกกลิ่น” กูเหม็นแค่กลิ่นที่ติดมากับพายุ ประโยคหลังปัณณ์ตอบในใจ เพราะไม่ต้องการได้กลิ่น เขาจึงอ้างกับพายุว่าเวียนหัวทุกครั้ง
“อะ” ไผ่เปิดตู้เสื้อผ้า โยนเสื้อยืดสีขาวไปให้พายุ
“ที่จริงมึงไม่ต้องมาก็ได้ เดี๋ยวพวกกูก็แยกย้ายแล้ว”
“กูมารับเมีย” พายุยักคิ้วให้ไผ่ พูดกึ่งเล่นกึ่งจริง
“ทำอย่างกับเลยเที่ยงคืนแล้วเมียมึงจะกลายเป็นฟักทอง เดี๋ยวไอ้นนท์ก็ไปส่งกลับเอง”
“มึงเปรียบกูเป็นซิลเดอเรลล่าก็ได้ กูยอม แม่งเสือกเปรียบกูเป็นรถม้า” ปัณณ์หันไปบ่นเพื่อน
“ฮ่าๆ กูเห็นซินเดอเรลล่าเป็นผู้หญิง กูเลยไม่กล้าเปรียบเทียบเดี๋ยวมึงเตะเอา เป็นม้าดีกว่าเยอะ การันตีว่าใหญ่ มึงน่าจะดีใจ”
“ไม่ใหญ่ เชื่อกู”
“มึงเคยเห็นของมันเหรอวะพายุ” นนท์ตาลุกวาวด้วยความสนใจ เรื่องนี้ต้องได้คำตอบ
“เคยสิวะ ตอนออกค่ายปีหนึ่งกูอาบน้ำพร้อมปัณณ์ ถ้าตอนนั้นกูเมาอีกนิดปล้ำมันไปแล้ว ผู้ชายอะไรตูดสวยฉิบหาย”
“โอ้ววว”
“พวกมึงไม่มีอะไรจะเห่ากันแล้วใช่ไหม”
“เมียมึงแม่งหยาบคาย” นนท์ส่งค้อนรัวๆ แต่ยอมถอยแต่โดยดี ไอ้ปัณณ์มันคนจริง ขืนเล่นต่อคงได้แดกตีนมันก่อนนอน
“เบียร์จะหมดแล้ว” ปัณณ์รินเบียร์ขวดสุดท้ายลงในแก้ว
“หมดก็พอ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูตื่นไม่ไหว” ไผ่ยื่นแก้วไปให้ปัณณ์รินเบียร์ที่เหลือให้
“อะไรวะ กูยังไม่หายอยากเลย” นนท์บ่นอย่างขัดใจ
“มึงซื้อมาน้อยเองจะบ่นทำไมวะ แทนที่จะหอบมาเยอะๆ”
“กูถึงโทรไปหาไอ้พายุมันไง กูซื้อจากเซเว่นแม่ง จอดรถก็ไกลหมดปัญญาจะแบกเพิ่ม”
“มึงจะรีบแดกรีบตายหรือไงวะ พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็ยังมี” ปัณณ์หันไปให้พรเพื่อน
“เหี้ยปัณณ์ปากมึงนี่ วันไหนมึงไม่ได้ด่าเพื่อนมึงนอนไม่หลับใช่ไหม”
“เปล่า กูนอนไม่หลับถ้าไม่ได้ด่ามึงตัวเดียว”
“ฮ่าๆ กูรอด” ไผ่หัวเราะเยาะเพื่อนรักที่โดนอยู่คนเดียว
“กูลืม มึงอีกตัว”
“เออกูไม่ใช่ผัวมึง มีไอ้พายุคนเดียวที่ทำอะไรก็ไม่ผิด”
“ตกลงมึงจะไม่หยุดเห่ากันเรื่องนี้ พายุมึงก็เหมือนกัน หยุดเรียกกูว่าเมียเสียที คนอื่นเข้าใจผิดหมด”
“ดีแล้วจะได้ไม่มีใครมายุ่งกับมึง” คำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มชินตา ทำให้ปัณณ์เจ็บแปลบในอก พายุพูดแบบไม่คิดอะไรแต่เขาทั้งดีใจทั้งเจ็บปวด
“มึงมาก็ดีพายุ วันนี้กูเหนื่อยๆ แต่สงสารไอ้ปัณณ์ที่ถูกมึงเท เลยชวนมันมาห้อง”
“ที่มึงพล่ามมา คือจะบอกให้พวกกูกลับได้แล้วใช่ไหม ไอ้เลวแดกเบียร์กูหมดปุ๊บไล่กูปั๊บ” นนท์สรรเสริญเพื่อนเมื่อเดาสิ่งที่ไผ่จะพูดออก
“มึงก็ไม่โง่นี่หว่า”
“สัด กูไม่ง้อก็ได้ กลับเว้ยเจ้าของห้องแม่งไล่แล้ว”
“เดี๋ยว! ก่อนกลับมึงเก็บซากก่อนสิวะ”
“เสียใจมึงไล่กูเอง” นนท์ยักคิ้วให้ไผ่ ทำท่าปัดตูดโชว์ ก่อนหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นหลัง “ไอ้ปัณณ์อย่าทำตัวเป็นคนดี ลุกเลยมึง”
“มึงกลับเถอะกูทำเองได้” ไผ่ออกปาก เมื่อเห็นปัณณ์ง่วนอยู่กับการเก็บจานชาม
“กูขี้เกียจโดนมึงด่าลับหลัง” ปัณณ์จัดการโกยเศษอาหารทิ้ง
“ไม่ด่าหรอก กูด่าไอ้นนท์คนเดียว”
“มึงแอบรักกูอยู่ดิ ถึงคิดถึงกูคนเดียว”
“สมองหมาปัญญาควายจริงๆ มึง” ปัณณ์แอบสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดที่ไผ่กับนนท์ตอบโต้กัน
“เป็นอะไร” เสียงทุ้มถามเบาๆ เพราะแบบนี้ปัณณ์ถึงต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา พายุสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาเสมอแม้แค่เล็กน้อย
“ไม่มีอะไร งั้นกูกลับนะมึงจะทำต่อเองใช่ไหม” ปัณณ์หันไปพูดกับไผ่
“เออ ไปเถอะ”
ปัณณ์ลุกขึ้นยืน รู้สึกถึงมือของพายุที่พาดลงมาบนบ่า
“พวกมึงออกไปก่อน กูเยี่ยวแป๊บ” นนท์โบกมือให้ปัณณ์กับพายุ เขาเดินตรงไปยังห้องน้ำ โดยมีเสียงด่าว่าเปลืองไฟเปลืองน้ำของไผ่ดังตามหลังมาติดๆ
“มึงดูไอ้นนท์มันด้วย ถ้ามันเมามากให้มันขึ้นแท็กซี่กลับ” ปัณณ์เห็นท่าเดินเป๋ๆ ของเพื่อนแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้
“มึงไม่ต้องห่วง ไอ้นนท์มันหนังเหนียว แม่งไม่ตายง่ายๆ หรอก”
“เปล่ากูเป็นห่วงคนอื่น” ปัณณ์ตอบหน้าตาย เขาหยิบกระเป๋าเตรียมขึ้นสะพายบ่า แต่ถูกพายุแย่งไปสะพายเสียก่อน
“เจอกันพรุ่งนี้ กูกลับก่อนง่วง” พายุอ้าปากหาว เลยได้รับการโบกมือไล่จากไผ่เป็นการตอบแทน
“เดี๋ยวกูกลับเอง มึงง่วงไม่ใช่เหรอ” ปัณณ์เอ่ยปากเมื่อเดินเข้าไปในลิฟท์ “ไม่ต้องกูไปส่งมึงไหว” คนไปส่งไหวซบหน้าลงกับไหล่ของเพื่อน ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารด
“เนี่ยเหรอไหวของมึง กูกลับเอง เดี๋ยวมึงหลับใน ขับรถชนรถชาวบ้านซวยอีก”
“งั้นมึงไปนอนห้องกู พรุ่งนี้ไปมหา’ลัยพร้อมกัน” ปัณณ์เงียบ เขากำลังตัดสินใจว่าควรไปหรือไม่
“น่าปัณณ์ จะได้ไม่ต้องขับไปขับมา ยังไงพรุ่งนี้กูก็ต้องไปรับมึงอยู่แล้ว” พายุแกล้งปัดจมูกไปมากับแก้มของปัณณ์
“เออก็ได้ มึงแม่งเลวรู้อยู่ว่ากูบ้าจี้ หนวดหัดโกนให้มันเกลี้ยงๆ หน่อย” ปัณณ์ผลักหัวของพายุออก เขาเตี้ยกว่าพายุไม่มาก แม้หุ่นจะไม่ดีเท่าเพื่อนแต่ก็สมส่วนมาตรฐานชายไทย
“วันนี้กูรีบลืมโกน” พายุยกมือขึ้นลูบไรหนวดที่ขึ้นเหนือคาง
“เดี๋ยวกลับถึงห้องแล้วเมียโกนให้หน่อยนะครับ”
ผลั้ว!! พายุถึงกับหัวทิ่มเมื่อเพื่อนรักฟาดเข้าเต็มแรง
“ฮ่าๆ ก็มึงชอบร้อนตัวแบบนี้ไง กูถึงชอบแกล้ง”
“กูไม่ได้ร้อนตัว! กูรำคาญ” ปัณณ์พยายามรักษาสีหน้า เขาจะให้พายุรู้ไม่ได้ว่าเขาร้อนตัวจริง
“เออกูลืม วันหยุดยาวศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้เอยชวนกูไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนเค้ามึงไปด้วยกันสิ”
“ไปทำไมวะ ไปมึงก็ค้างกับเอย เพื่อนเอยกูก็ไม่สนิทสักคน”
“นาราไง เขาอยากให้มึงไปด้วย”
เอยให้มึงมาพูดเหรอ”
“ก็ใช่ แต่กูอยากให้มึงไปอยู่แล้ว ส่วนเรื่องนอนกูรับรองมึงไม่เหงาแน่เชื่อกู”
อืม กูเข้าใจแล้ว”
“ตกลงมึงไป?”
“ไม่”
“อะไรของมึงวะ”
“กูหมายถึงกูเข้าใจแล้ว ว่ามีคนอยากให้กูไปแต่กูไม่ว่าง”
“มึงจะไปไหน ไม่เห็นบอกกู”
“มึงเป็นพ่อกูหรือไงวะ ถึงแล้ว” ปัณณ์ตัดบท เขารีบก้าวเท้ายาวๆ ออกจากลิฟท์ ในใจรู้สึกขุ่นมัว เขาห้ามความรู้สึกไม่ได้
“ปัณณ์มึงจะไปไหนบอกกูด้วยสิวะ เผื่อกูไปด้วย”
“มึงจะไปได้ยังไงมึงมีนัดกับเอย” ปัณณ์หยุดยืนที่ข้างรถ นึกอยากเปลี่ยนใจแยกกลับหอเสียตอนนี้
“ไปได้ เดี๋ยวกูบอกเอยว่าจะไปกับมึง”
“แค่นี้แฟนมึงก็ไม่ชอบขี้หน้ากูแล้ว อย่าทำให้เป็นเรื่องเลย”
“มึงคิดไปเอง กูเห็นเอยก็ปกติดี”
“ช่างเถอะกูขี้เกียจพูด เปิดรถได้แล้วกูเมื่อย” ปัณณ์แน่ใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง แต่เขาไม่โทษเอย เป็นใครก็คงไม่พอใจ ที่เห็นแฟนให้เวลากับเพื่อนมากเกินไป
“ปัณณ์” เสียงเรียกทำให้ปัณณ์หันไปมอง พายุขับรถออกสู่ถนนใหญ่มาได้สักพักหนึ่ง
“อะไร”
“มึงไม่ชอบนาราเหรอ”
“เปล่า แต่กูยังไม่อยากยุ่งกับใครตอนนี้ ขอเรียนให้จบก่อนเถอะว่ะ มึงถอนใจทำไมวะ” ปัณณ์ยังไม่ละสายตาไปจากพายุ จึงเห็นว่าอีกฝ่ายถอนใจออกมาเบาๆ
“กูโล่งใจ บอกแล้วว่ายังไม่อยากเสียมึงให้ใคร”
“ปากมึงเป็นแบบนี้ไง เอยถึงไม่ชอบหน้ากู อย่าพูดเล่นให้มันมากนัก”
“กูไม่ได้พูดเล่นกูพูดจริง กูหวงมึง หวงเพื่อนอย่างมึง” มือใหญ่แตะลงมาบนหัวเขาจับโยกเบาๆ ก่อนปล่อย
“มึงเป็นเพื่อนที่โคตรดี กู ไอ้ไผ่ ไอ้นนท์โชคดีที่มีมึง”
“อืม” แล้วจะให้เขาพูดอะไร ในเมื่อพายุเปรียบตัวเองเหมือนไผ่กับนนท์ มันก็บ่งบอกความรู้สึกของพายุที่มีต่อเขาได้ชัดเจน
“ไปด้วยกันนะ กูไปคนเดียวเซ็งแย่ บอกตรงๆ บางทีกูก็เบื่อเวลาสาวๆ คุยกันว่ะ”
“วกมาเข้าเรื่องนี้ได้ยังไงวะ”
“ก็มึงเป็นเพื่อนที่โคตรรดีของกูไง”
“มึงลองชวนไอ้ไผ่กับไอ้นนท์ดู ถ้าพวกมันไปอย่างน้อยคนหนึ่งกูถึงจะไป”
“รับทราบ มึงนอนก่อนไหมเดี๋ยวถึงแล้วกูปลุก”
“มึงง่วงไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกูนั่งเป็นเพื่อน”
“กูพอไหว แต่หน้ามึงไม่ไหวแล้ว พักเถอะ”
“ถ้ามึงง่วงปลุกกูนะ”
“ได้” ปัณณ์เอนเบาะลงนอน เลือกที่จะหลับตา แสร้งว่าเขาเหนื่อยและง่วงตามที่พายุคาดเดา หน้าของเขาที่พายุเห็นเป็นอย่างไรหรือ เขาเดาว่ามันคงดูเหนื่อยล้าคล้ายคนหมดแรง เพราะตอนนี้หัวใจของเขากำลังรู้สึกอย่างนั้นอยู่จริงๆ
✪✣✤✥✦✧✣✤TBC✥✦✧✣✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin