มาต่ออีกนิดหน่อยด้วยความรำคาญตัวเองว่าเมื่อไหร่จะจบซักทีวะคะ มันค้างอยู่เรื่องเลยอิป้าจุเนี่ย
อดทนอ่านกันหน่อยเน้อสำหรับบางคนที่อ่านแล้วรู้สึกค้างๆคาๆว่าทำไมอิป้ามันทำเยี่ยงนี้
ป้าบ่ได้ตั้งใจนา รำคาญตัวเองเหมือนกัน ทำยืดเป็นละครหลังข่าวเวลาเรตติ้งดีไปได้ (แค่เปรียบนะ ไม่ได้หมายความว่าเรื่องของป้าจุเรตติ้งดี) ใกล้แล้วๆ ใกล้จะจบแล้ว อีกนิ้ดเดียวเอง
สู้ไม่สู้ เหอๆ สู้ต่อปายยย
ป.ล. ตอนแรกกะจะให้ตอนนี้คบทั้งสองพาร์ทก่อนแล้วค่อยมาลงในเล้า แต่เดี๋ยวจะหาว่าป้าจุลำเอียง ไปลงในบล๊อคแต่ไม่มาลงที่นี่ พอวันนี้มีเน็ตเลยรีบมาลงให้ (ปกติอยู่บ้านตัวเองเน็ตลื่นปรื้ดๆ แต่มาอยู่บ้านคุณนายแม่แล้วเน็ตบ่มี 555 วันนี้มีเน็ตฟรีมาให้ลองใช้เลยทดสอบเสียหน่อย แต่มันเต่าจริงๆ)
------------------------------
อยากปักป้ายแขวน ขึ้นแผ่นเท่าฝา ประกาศให้คนรู้ว่าบ้านนี้หนา... มีคนอกหัก
เสียงพี่ก๊อต จักรพรรณ์ครวญเพลงดังมาจากวิทยุทรานซิสเตอร์ของป้าร้านข้าวแกง ฟังแล้วแทงใจเข้าจังๆจนไอ้นิคนี่อยากจะพุ่งหลาวเข้าไปพังวิทยุป้าให้สาแก่ใจ แต่กลัวป้าแกจะเอาทัพพีในมือฟาดหัวเลยทำได้แค่รีบโกยข้าวเข้าปาก จ่ายเงินแล้วลากคอไอ้ตะวันลุกออกจากโต๊ะมาอย่างด่วน
ผมเตร็ดเตร่นั่งอยู่แถวห้องคอมคณะเพราะคาบบ่ายยังต้องเรียนอีกวิชา แถมวันนี้ยังเป็นวันเกิดไอ้นกเอี้ยงน้องรหัสต้องลากสังขารพิการอกหักอกเดาะไปสังสรรค์กับสายรหัสอีก จะชิ่งหนีกลับบ้านไปเลียแผลใจก็ทำไม่ได้
จะว่าไปอกหักมันก็ดีเหมือนกันนะ ปกติผมไม่ค่อยมีอารมณ์สุนทรีมาสนใจอะไรรอบข้างสักเท่าไหร่ แต่พออกหักอกเดาะอย่างนี้แล้ว อะไรๆรอบตัวมันก็อินไปกับผมหมด ฟังเพลงก็โดนใจเหมือนเขาแต่งเขาร้องให้ผมโดยเฉพาะ หรือเห็นลมพัดฝนตก แม้แต่ใบไม้ร่วง ก็ยิ่งเศร้ายิ่งเหงาเหมือนมาช่วยบิ้วอารมณ์ผิดหวังให้มันสุดกู่
จากวันที่ไอ้เชนบอกผมว่าให้เป็นเพื่อนกัน มาถึงตอนนี้ก็เกือบเดือนแล้วครับ ตั้งแต่วันนั้นผมก็พยายามยอมรับความจริงในสถานะที่เปลี่ยนไประหว่างเราสองคน สถานะที่มันออกปากเองว่าให้เป็นเพื่อนกัน แต่เรื่องอะไรครับ เรื่องอะไรที่ผมจะต้องไปเป็นเพื่อนกับมันอีก ในเมื่อเลิกกันไปแล้วมันก็มีแค่คำว่าแฟนเก่าเท่านั้นแหละ จะให้กลับมาเป็นเพื่อนกันน่ะเหรอ ให้ผมไปสู้กับสิงโตยังง่ายกว่าเลย
“ว่าไงครับไม้”
น้องไม้โทรมาหาครับ พอดีวันนี้ผมชวนน้องไปงานเลี้ยงวันเกิดไอ้นกเอี้ยงมันด้วย
“พี่นิคทานข้าวยัง ไม้พักเที่ยงเลยโทรหาเฉยๆ” ทำเสียงใสถามมา
“เพิ่งกินข้าวแกงกับไอ้ตะวันเมื่อกี้นี้เอง ไม้ล่ะ”
“ยังเลยครับแต่กำลังจะไป ว่าแต่เย็นนี้พี่นิคจะไปยังไง ให้ไม้ไปรับมั้ย”
“ดีเหมือนกัน วันนี้พี่ไม่ได้เอามอไซค์มาด้วย ไม้เตรียมเสื้อผ้ามาค้างกับพี่ด้วยก็ได้นะ”
ผมคุยอะไรอีกเล็กน้อยกับอีกฝ่ายแล้วกดวาง พอเงยหน้าขึ้นก็เจอพวกเพื่อนๆชาวคอมครบเซ็ทเลยครับ ไอ้นางงามกินเด็กทำตาเหลือกตาโปนหมดมาดดาวสาขาแทบจะเค้นคอไอ้นิคกันเลยทีเดียว
“ไอ้นิค นี่แกไปร่วมหอลงโลงกับน้องไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไหงมันสลับคู่ผิดตัวกันอย่างนี้ น้องไม้มันชอบเชนแล้วพยายามแย่งเชนไม่ใช่รึไงวะ”
ถ้าพ่นไฟได้ ไอ้ปิ่นมันคงพ่นใส่หน้าผมไปแล้วครับ
“โรง ไอ้ปิ่น ร.เรือ กรุณาออกอักขระให้ชัดเจน” ไอ้เจี๊ยบขำเพื่อน
“ที่พวกแกไม่คืนดีกันสักทีเพราะมีใหม่กันแล้วใช่มั้ย โธ่เอ้ย”
ไอ้ปิ่นยังบ้าต่อเนื่อง มันพอจะรู้เรื่องที่ไอ้เชนควงน้ำหวาน แล้วตอนนี้มันก็กำลังเข้าใจว่าผมคั่วน้องไม้อยู่
“ไม่รู้ดิ อยู่กับใครแล้วสบายใจกุก็อยุ่กับคนนั้นแหละ”
แกล้งไอ้ปิ่นสนุกดีครับ ถึงในใจๆจะเศร้าเรื่องไอ้เชนกับน้ำหวานมากแค่ไหน แต่คนอย่างไอ้นิคไม่มีทางเสียเหลี่ยมให้คนอื่นเห็นว่าอ่อนแอเด็ดขาด
“ไม่รักเชนแล้วเหรอ” ไอ้ปิ่นถามคำถามจี้ใจอีกแล้ว มรึงจะอะไรนักหนากะกุว้า
“ให้มันจบๆไปเถอะว่ะ”
ตัดบทแล้วแหวกวงล้อมไอ้พวกเพื่อนๆลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะหนีเข้าห้องเรียนแต่ไอ้ตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นไอ้คนที่เป็นท๊อปปิคเดินอยู่กับน้ำหวาน อะไรนักหนาวะ ควงกันออกดนอกหน้าอย่างนี้ประกาศแต่งงานกันไปเลยดีมั้ย โมโหอีกแล้วครับ ไอ้นิคทั้งโมโหทั้งเจ็บใจต้องรีบเดินหนีก่อนอาการจะกำเริบ
“ไอ้นี่ กุเรียกจนคอจะแตกยังไม่ได้ยินอีก”
เสียงอย่างกับฟ้าผ่ามาพร้อมฝ่ามือไร้เงาตบป๊าบเข้ากลางกระหม่อมจนคอแทบหัก กิริยามารยาทแบบผู้ดีมีสกุลอย่างนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่เจ๋ง หัวหน้าตระกูลสายรหัสไอ้นิคยังไงล่ะครับ
“ไอ้กวางไอ้เอล่ะ” พี่รหัสปีสี่ปีสามของผมยังไม่มาพี่เจ๋งเลยถามหา
“เดี๋ยวมาพี่”
ผมตอบแล้วก็หันไปหาน้องไม้ที่กลับมานั่งข้างๆพร้อมวัตถุดิบสำหรับลงหม้อ วันนี้พวกผมนัดกันมาเลี้ยงวันเกิดให้ไอ้นกเอี้ยงที่ร้านหมูจุ่มครับ ก็แต่ละคนนี่กินกันอย่างกับยัดลงกระเพาะจะให้พาไปเลี้ยงหรูมีหวังคงหมดตัวกันทั้งสายรหัส ปรึกษากับพี่กวางแล้วเลยพากันมากินหมู่จุ่มบุฟเฟ่ต์ที่ราคาโอเคและมีของกินให้เลือกเยอะแยะไม่ใช่แค่หมูจุ่มเหมือนชื่อร้าน
“ใส่โหระพาเยอะๆเลยไม้”
“ไม้ไม่ชอบเท่าไหร่ พี่นิคกินเองนะ” ถามผมแล้วก็หยิบผักใส่
“ได้ไงวะ กินเข้าไปเลย ประโยชน์ทั้งนั้น”
วิญญาณพี่ใหญ่เข้าสิงครับ ไอ้นิคบังคับให้พวกแฝดกินผักบ่อยๆตอนอยู่ด้วยกัน เลยติดนิสัยพอมาเจอไอ้น้องไม้เลยลืมตัวบังคับมันไป
“ก้อมันไม่อร่อยอ่ะ”
ไม้ทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมตักเข้าปากจนผมอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้ชาววิดวะคอมทยอยกันเข้ามาแล้วครับ แทบจะยกกันมาทั้งสาขาเพราะไอ้นกเอี้ยงมันคนกว้างขวาง ไปเจ๋อกับชาวบ้านจนเขารู้จักมันไปทั่ว พี่กวางพาแฟนหนุ่มวิดวะเคมีมาด้วย ส่วนพี่เอที่ยังโสดก็มากับพวกพี่ปีสาม พี่ต้าขาไพ่เพื่อนพี่เจ๋งเดินเอะอะเข้ามากับโอริโอ้แล้วก็ไอ้ตะวัน รวมญาติจริงๆวันนี้
“พี่นิค ไม้ไม่กินก้านนะ”
น้องไม้ตักก้านผักกาดขาวออกจากถ้วยคืนมาให้ผมที่เป็นคนตักให้มัน
“อะไรก็ไม่กินอย่างนี้เมื่อไหร่จะโตวะ” ไอ้นิคไม่ยอม จัดการตักยัดปากมันเลยครับ
“เอ้า อ้าปาก กินให้หมด ไม่ต้องมาทำหน้าหงิก”
“เรื่องมากนักก็ช่างมันสิวะ จะไปสนใจทำไม”
เอาแล้วครับ เสียงพี่เจ๋งทำตัวเจ๋งอีกแล้ว ไม่รู้เป็นอะไร ตั้งแต่น้องไม้มารับผมที่คณะเมื่อตอนเย็น แล้วผมแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน พี่เจ๋งก็ดูท่าจะเขม่นไม้สุดๆ เอะอะก็พูดจาขัดคอหรือยั่วโมโห จนบางครั้งน้องไม้ก็โต้ไปแบบเจ็บๆคันๆ ไอ้นิคเลยต้องพยายามปรามน้องเพราะยังไงพี่เจ๋งก็อายุมากกว่าไม้ตั้งเยอะ เป็นรุ่นพี่ของผมตั้งสามปี
“พี่นิคจะทานอะไรอีกมั้ย เดี๋ยวไม้ไปตักมาให้”
แอบโล่งอกครับ ดีที่ไม้ยังจำคำกำชับของผมได้ พยายามไม่เถียงพี่เจ๋งแต่หันมาคุยกับผมแทน แต่พี่เจ๋งก็ยังไม่เลิกกวนโมโหเด็ก
“น้องกุมันมีมือมีตรีน มันตักเองได้”
“เอี้ยเจ๋ง มรึงจะไปแหย่เด็กมันทำไมวะ นี่น้องสะใภ้มรึงนะว้อย พูดดีๆหน่อย ไอ้นิคมันคนกลาง เดี๋ยวมันจะลำบากใจ นั่นก็พี่ นี่ก็เมีย กร๊ากๆๆ”
ป๊าดดดดดดดด พี่ต้าครับ รู้ว่าแค้นที่เสียไพ่ตอนงานเปิดบ้านแต่พี่ไม่เห็นต้องเล่นมุกนี้เลย ไอ้นิคหัวเราะจนปวดท้องกับประโยคเตือนใจของพี่ต้า ก่อนที่พี่แกจะโดนพี่เจ๋งเล่นงานคืน ด้วยการเทกระเทียมแบบพูนช้อนลงในถ้วยแล้วผสมน้ำซุป บังคับจับกรอกปากพี่ต้าให้น้องๆนั่งฮากับภาพกีฬามันๆของรุ่นพี่
ไอ้นิคก็มัวแต่หัวเราะพี่รหัสเลยไม่ทันเห็นว่าใครเดินถือกล่องของขวัญเข้ามาพร้อมกับพวกบอยแบนด์ครบเซ็ท กระทั่งเด็กข้างๆสะกิดให้ผมหันไปดูนั่นแหละ
แมร่งเอ้ย ใครชวนมาวะ หันไปมองหน้าทุกคนที่นั่งอยู่ก็เจอไอ้น้องนกเอี้ยงที่ออกอาการมีพิรุธหลบตาวูบทำเป็นเฉไฉไม่รู้เรื่องหันไปรับกล่องของขวัญจากน้ำหวาน อยากเอาหม้อหมูจุ่มทุ่มหัวไอ้น้องรหัสตัวดีจริงๆ เจ้ากี้เจ้าการเรื่องชาวบ้านนะแก
“อ้าวไอ้เชน พาสาวน่ารักที่ไหนมาด้วยวะ” พี่เจ๋งทัก แหม ทำระริกระรี้หน้าหม้อเลยนะพี่กุ
“หรือว่าแฟน โถ่เอ้ย กุนึกว่ามรึงกิ๊กกะไอ้นิคอย่างที่ไอ้เอี้ยงมันบอกซะอีก 555”
ปากพี่เจ๋งนี่น่าจะหาอะไรมายัดไว้จริงๆ
“อ้าวๆไอ้เจ๋ง มรึงพูดงี้สร้างความร้าวฉานนี่หว่า” ใช่เลยพี่ต้า พี่พูดถูกเลยคราวนี้
“น้องสะใภ้มรึงนั่งหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน พูดออกมาได้ เดี๋ยวมันก็กลับไปทะเลาะกันที่บ้านหรอก”
อ้าว เพิ่งชมไปแหมบๆ พี่ต้าหัวเราะเอิ้กๆชี้ไปที่น้องไม้ที่นั่งทำหน้าไม่ถูกอยู่ข้างๆผม
ก่อนหน้านี้เรื่องที่ผมกับไอ้เชนเป็นแฟนกัน ในคณะก็รู้กันไม่กี่คนหรอกครับ แม้แต่พี่รหัสผมก็ยังไม่รู้เลย ถึงไอ้นกเอี้ยงมันจะไปป่าวประกาศสาธยายแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครเชื่อมันเป็นจริงเป็นจังเพราะรู้ๆกันว่าไอ้นี่มันติ๊งต๊อง แล้วเวลาอยู่ที่คณะ พวกผมก็อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ไม่ค่อยอยู่กันสองต่อสอง และถึงจะไปกลับด้วยกันทุกวันแต่ก็ไม่มีใครสงสัยหรือคิดอะไรเพราะบ้านเราอยู่ติดกัน
คำพูดของพี่เจ๋งกับพี่ต้าจึงเหมือนกับการหยอกเล่นมากกว่าจะคิดเป็นจริงเป็นจังอะไร
“พี่เจ๋ง กินนี่มั้ย อ่ะ ผมตักให้ กินเยอะๆปากจะได้ไม่ต้องว่างพูดมาก”
น้องไม้เห็นผมเงียบๆไป เลยโมโหพี่เจ๋ง ตักอะไรได้ก็ตักใส่จนแทบจะล้นถ้วยพี่เจ๋งแถมยังมีประโยคเด็ดพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคนอีกต่างหาก
“มรึงว่าอะไรนะ” พี่เจ๋งนี่แทบจะหักตะเกียบให้แหลกคามือ สงสัยจะจินตนาการว่าเป็นคอน้องไม้
“เปล๊า แค่บอกว่ากินเยอะๆ จะได้แข็งแรง” แยกเขี้ยวใส่พี่เจ๋งอีก
ไม่รู้ทำไมฮึ่มฮั่มใส่กันได้ตลอด แต่เปรียบแล้วก็เหมือนมวยคนละรุ่น กระดูกคนละเบอร์ ผมกระตุกชายเสื้อน้อง เตือนไม่ให้มันปีนเกลียวไปมากกว่านี้ เพราะถ้าพี่เจ๋งเอาเรื่องขึ้นมาจริงๆ ไม้มันจะซวยเอา
“ไอ้นิค ใจลอยอะไรของมรึงวะ เร็วๆใกล้เวลาแล้ว”
พี่กวางสะกิดบอกให้ผมเดินแผนที่วางกันไว้สำหรับจะเซอร์ไพรส์ไอ้นกเอี้ยงซึ่งก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่พวกผมพี่รหัสไปบังคับข่มขู่ให้ไอ้น้องเทมเดือนสถาปัตย์ฯ ปีหนึ่งถือเค้กเข้ามาให้เจ้าของงานเป่าเทียนวันเกิดก็แค่นั้นเอง ไอ้น้องเทมนี่มันขวัญใจไอ้เอี้ยงเลยครับ เวลาเจอกันทีไรน้องรหัสผมนี่มือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก ความถึกบึกบึนในตัวนี่ระเหยไปหมด เอาแต่บิดซ้ายบิดขวาเขินอายไอ้น้องเทมทุกครั้ง
“ไปห้องน้ำนะ”
ไอ้นิคส่ายหน้าบอกไม่ต้องกับน้องไม้เมื่อมันทำท่าจะตามมาด้วย ผมเดินเข้าห้องน้ำไปก็จริงแต่แอบเดินลัดเลาะหลบออกมาจากหลังร้านไปที่ลานจอดรถ โทรเรียกไอ้น้องเทมแล้วยืนรออยู่ตรงนั้น
“พี่นิค หวัดดีครับ”
ไม่นานไอ้น้องเทมก็ขับรถเข้ามาแต่มันจอดในลานจอดรถไม่ได้เพราะวันนี้รถเต็มเลยต้องขับไปจอดข้างถนน ท่าทางคงรีบสุดชีวิตเพราะมันเป็นน้องโรงเรียนพี่กวาง และไม่รู้ว่าพี่รหัสปีสี่ของผมไปข่มขู่มันด้วยวิธีไหนถึงรีบมาแบบลืมตายอย่างนี้
“เค้กอยู่ในรถพี่กวาง”
ผมพยักหน้าแล้วเดินไปเปิดรถพี่กวางส่งกล่องเค้กให้อีกฝ่ายถือไว้แล้วปักเทียนสีส้มแท่งยาวแบบที่ใช้ไหว้พระไหว้เจ้าที่ลงไป นึกแล้วก็ขำ กลัวว่าไอ้นกเอี้ยงมันจะหัวใจวายที่เห็นหนุ่มในฝันถือเค้กมาเซอร์ไพรส์ให้ แถมยังเจอเทียนไหว้พระอีก
ความจริงงานวันนี้คงจะสนุกกว่านี้อีกเยอะ ถ้าไอ้เจ้าของงานมันไม่อุตริอยากให้พี่รหัสคืนดีกับแฟนแล้วเชิญพวกบอยแบนด์มาด้วย ไอ้เอี้ยงมันคงผิดแผนและผิดหวังไม่น้อยที่เห็นแฟนเก่าผมควงสาวน่ารักมาด้วยอย่างนี้ หึหึ นั่นสินะ ตอนนี้ผมก็เป็นแค่แฟนเก่าที่ไอ้เชนมันไม่สนใจแล้วล่ะ เมื่อกี้มันก็ยังไม่คิดจะทักผมสักนิด
“พี่นิค พี่ครับ พี่ เป็นอะไรรึเปล่า เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวทำหน้าเศร้า”
จะถามว่ากุเป็นบ้ารึเปล่าก็พูดมาเลยไอ้เทม
“โทษทีพอดีกำลังคิดอะไรเพลินๆว่ะ ว่าแต่มรึงเถอะ บอกให้แต่งหล่อมาหน่อย แล้วนี่อะไร”
“โห พี่ ผมรีบแทบตาย นี่เสร็จงานก็รีบบึ่งมาจากคณะเลยนะเนี่ย” ไอ้น้องเทมโอดครวญ
“เอาเถอะๆ ถึงไม่แต่งหล่อแต่หน้าหล่อก็กินขาดละ กุให้อภัย 555 นึกหน้าไอ้เอี้ยงเวลาเห็นหน้า มรึงแล้วขำว่ะ ตามแผนนะ”
ผมไล่ให้ไอ้น้องเทมไปซ่อนตัวแถวๆหลังเวทีรอให้นักร้อง ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้ไอ้นกเอี้ยงแล้วไอ้น้องเทมขวัญใจมันถึงจะเดินถือเค้กออกมา แจ่มจริง แผนนี้
“อ้าวนิค มาทำอะไรตรงนี้ จะกลับแล้วเหมือนกันเหรอ”
น้ำหวานส่งเสียงหวานๆทักผมเมื่อเห็นว่าไอ้คนที่ยืนหน้าเด๋ออยู่ข้างรถพี่กวางเป็นใคร
“อ๋อ เปล่าหรอก ผมมาเอาของให้พี่กวางน่ะ”
ผมยิ้มๆตอบไป พยายามไม่มองหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆน้ำหวาน ตอนนี้นอกจากโกรธ น้อยใจ เสียใจ ผมยังเพิ่มคำว่าแค้นใจลงในพจนานุกรมความรักระหว่างแฟนเก่าที่ชื่อไอ้เชนไว้ด้วย ก็มันไม่สนใจผมสักนิด เงียบยังไงก็เงียบอย่างนั้น
“พอดีหวานต้องกลับแล้ว ไปก่อนนะคะ ไว้เจอกัน”
“ครับ ไว้เจอกัน”
ผมยิ้มบางๆให้หญิงสาว ก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆเมื่อเห็นว่าไอ้บูมเดินตามออกมาสมทบแล้วเป็นฝ่ายเปิดประตูรถของไอ้เชนฝั่งคนขับขึ้นนั่งเป็นสารถี ส่วนน้ำหวานก็เปิดตามขึ้นไปนั่งคู่กัน
“เฮ้ย กุไปส่งน้ำหวานก่อนนะเดี๋ยวมา”
ไอ้บูมมันบอกผมก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไป ทิ้งให้ผมยืนนิ่งใบ้แดกอยู่กับไอ้โย่งแฟนเก่า ด้วยความงงๆ ว่าทำไมไอ้เชนไม่ไปส่งแฟนเอง แต่กลับให้เพื่อนไปส่งซะงั้น ยืนนิ่งได้ไม่นานสมองก็สั่งว่าให้รีบกลับไปที่โต๊ะเพราะเดี๋ยวจะถึงเวลาเซอร์ไพรส์ไอ้นกเอี้ยงแล้ว ที่สำคัญ ผมไม่อยากอยู่ตามลำพังกับไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าซึ่งผมยังตัดใจจากมันไม่ขาด
“ตกลงจะเลือกใครระหว่างไม้กับไอ้เด็กเมื่อกี้ล่ะ”
น้ำเสียงติดแววไม่พอใจถามขึ้นทำให้ผมชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับมามอง พอได้ยินมันพูดอย่างนี้แล้วไอ้นิคก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาเลยครับ มรึงมาพูดแบบนี้ทำไม มาถามเหมือนตอกย้ำว่าเป็นกุเองที่ผิด เป็นกุเองที่ทำร้ายจิตใจมรึง และก็เป็นกุที่ทำให้มรึงต้องบอกเลิกด้วยเหตุผลว่า เหนื่อยแล้ว
“ยังไม่แน่ใจ” ไอ้โย่งมันทำขมวดคิ้วตาขวางกับคำตอบประชดของผมขึ้นมาทันที
“โลเลอย่างนี้ระวังจะหลุดมือหมดล่ะ”
ว่าแล้วก็ยิ้มเหมือนเยาะแล้วหันหลังจะเดินออกไป แต่ไอ้นิคนี่โทสะพุ่งสูงแล้วครับตอนนี้ ไม่สนแล้วว่าจะถึงเวลาเซอร์ไพรซ์ไอ้นกเอี้ยงหรือว่าอะไร แมร่งเอ้ย มรึงมาพูดแดกดันกุอย่างนี้ทำไมวะ ทั้งที่ตัวมันเองเป็นคนตัดขาดกับผม ทั้งที่มันทำเหมือนไม่มีผมในสายตา แต่พอเห็นผมมากับไม้ เห็นผมอยู่กับไอ้น้องเทม มันก็มาต่อว่าอย่างกับว่ากำลังหึงยังไงอย่างงั้น ตกลงมรึงจะเอาไงแน่วะ
ผมโมโหเดินตามพร้อมกับคว้าไหล่ให้ไอ้โย่งมันหันมา ก่อนไอ้นิคจะคว้าเนคไทชุดนักศึกษาของไอ้เชนแล้วดึงเข้ามาใกล้สุดแรง
“อย่าพูดเหมือนว่ากำลังหึงกุหน่อยเลยน่า”
ใบหน้าของเราสองคนห่างกันแค่ปลายจมูก รับรู้ได้ถึงลมหายใจของแต่ละฝ่าย ผมกระซิบเบาๆกับริมฝีปากของคนตรงหน้า ก่อนจะประกบจูบไอ้เชนแบบไม่ให้มันได้ทันตั้งตัว
ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงทำอย่างนี้ ผมโกรธมากจนอยากจะชกหน้าหล่อๆของมันให้เสียโฉมพอๆกับความรู้สึกอยากจูบมันให้สมกับความคิดถึง และผมก็เลือกที่จะทำอย่างหลัง
อาการจูบตอบและอ้อมแขนอุ่นๆที่รวบตัวผมเข้าไปกอดเหมือนจะบอกว่ายังรักกันอยู่ของอีกฝ่าย ทำให้ความรู้สึกหนึ่งชัดเจนขึ้นในใจ มันคือความรู้สึกแน่ใจว่ายังไงๆ ผมก็จะไม่ยอมปล่อยมือจากความรักครั้งนี้ไปง่ายๆแน่
---------------------
ทั้งๆที่ตอนที่แล้วก็บอกจะจบแต่ก็ยังไม่จบเสียที ขอโทษที่ผิดสัญญาค่ะ แต่ตอนหน้ารับรองว่าจบจริงๆ สาบานให้ไม่สวยเลยเอ้า
ทู บี คอน ตี้ นิว อีกรอบ แหะๆ