1
Boy's love story / Re: ทีเซอร์ - teaser ๓. เก้าฤกษ์ - นับฝัน 24_5_2567
« กระทู้ล่าสุด โดย KADUMPA เมื่อ 24-05-2024 16:55:01 »Teaser เก้าฤกษ์ - นับฝัน
คุณ ๆ เคยเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่า ตัวคุณที่ปกติก็เป็นโนบอดี้แทบจะทุกเวลาอยู่แล้ว เกือบจะไม่มีใครมองเห็นเสียด้วยซ้ำ กลับอยากจะกลายเป็นซัมบอดี้ มีตัวตนในสายตาคนอื่นกับเขาบ้าง แต่ไม่ใช่กับทุกคนนะครับ สำหรับผมนายเก้าฤกษ์แล้วนั้น ผมขอแค่คนคนนี้เพียงแค่คนเดียว คนที่ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นในวันนั้น
“น้องนับฝันนี่เก่งมากเลยนะครับ ที่สามารถพาลูกค้ารายนี้มาให้บริษัทสำเร็จจนได้” เจ้าของชื่อยิ้มเขิน ๆ เมื่อรุ่นพี่พนักงานทีมบริหารเอ่ยชมออกมาอย่างตรง ๆ ส่ายหน้าพลางตอบออกตัวว่า “มันคงเป็นความโชคดีของผมมากกว่าน่ะครับ ไม่ใช่ความเก่งกาจอะไร” แต่พนักงานชายหลายคนในออฟฟิศ ที่พากันมายืนรุมล้อมเจ้าตัว ต่างพากันไม่เห็นด้วยที่นับฝันปฏิเสธ
“น้องนับฝันรู้มั้ยครับว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน เพราะลูกค้ารายใหญ่รายนี้ เข้าถึงยากมาก พวกผู้หญิงแผนกเซลส์ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย ทั้ง ๆ ที่มีแต่พวกสวย ๆ เก่ง ๆ ทั้งนั้น” พี่พนักงานฝ่ายขายยืนยันอีกคน “แต่ผมเชื่อว่า มันเป็นเสน่ห์ในตัวของน้องนับฝันเขามากกว่านะ” เสียงฮือดังขึ้น แสดงความไม่พอใจของพนักงานหนุ่ม ๆ ในออฟฟิศ
“อย่างนี้มันต้องฉลองให้คนเก่งหน่อยแล้ว” เมื่อหัวหน้าทีมฝ่ายผลิต เดินผ่าเข้ามากลางวงสนทนายังไม่พอ ยังใช้แขนโอบเอวโอบไหล่นับฝัน จนหลายคนต้องเดินเข้ามาห้ามปราม “งานนี้ไม่มีพี่ไม่มีน้อง ตำแหน่งใหญ่โตกว่ายังไงก็ไม่มีผลนะ” หลายคนร้องสนับสนุนกับคำพูดนี้ นับฝันเองก็ดึงตัวเองถอยออกมาจากพี่ ๆ พนักงานทั้งหลาย ก่อนจะพูดบอกกับทุกคนว่า อย่ามีเรื่องกันเลย
นี่แหละครับ นับฝัน คนที่ผมฝันถึงมานานหลายเดือนแล้ว คนที่ผมอยากจะให้เขาหันมามองผมบ้างสักครั้ง แต่จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ก็ตัวผมมันทั้งเห่ย ทั้งเชยแบบนี้ เสื้อเชิ้ต ผูกไท แว่นตาเฉิ่ม ๆ ใครที่ไหนกันเขาจะมามอง โดยเฉพาะคนที่ดูจะเพียบพร้อมเก่งไปเสียทุกเรื่องอย่างนับฝัน สำหรับผม ก็ทำได้แค่รู้สึกหึงอยู่ในใจ มองจากที่ไกล ๆ ตรงมุมออฟฟิศแบบนี้เท่านั้นแหละ ยังไงผมก็ไม่กล้าที่จะบอกออกไป ว่าผมตกหลุมรักนับฝันตั้งแต่แรกเห็น
“เริ่มต้นจากอันนี้ก่อนดีกว่า” หัวหน้าทีมผลิตบอกกับทุกคน “เพื่อให้น้องนับฝันรู้สึกประทับใจในตัวผม และทุกคนในแผนกเสียคะแนนในสายตาของน้องเขาด้วย ผม ขอเลี้ยงเครื่องดื่มทุกคนในแผนก จากร้านกาแฟที่เพิ่งมาเปิดใหม่ใต้อาคารของเรา” เสียงโห่ไล่ดังออกมาอย่างพร้อมเพรียง แต่ทุกคนก็มาลงชื่อเขียนออเดอร์ของตัวเองลงกระดาษจด
“เอ้า ไอ้เก้า ยืนเซ่อทำเหม่ออะไรอยู่ตรงมุมห้องนั่นอยู่ได้ แกนั่นแหละ เป็นคนลงไปซื้อให้ที” เสียงบ่นไล่ให้เก้าฤกษ์ที่เป็นเหมือนลูกไล่ให้คนในออฟฟิศอยู่เป็นประจำ ให้มารับคำสั่งได้แล้ว “น้องนับฝันล่ะครับ ชอบดื่มอะไร ยังไม่เห็นน้องนับฝันเขียนลงในออเดอร์” คงเหลือแต่ว่าที่พนักงานดีเด่นอย่างนับฝัน ที่ยังไม่ได้บอกว่าตัวเองต้องการเครื่องดื่มอะไร
“ชาเขียวเย็น” เก้าฤกษ์บอกออกไป โดยที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองนับฝัน “ครับ ชาเขียวเย็น ขอบคุณมากนะครับที่จำได้ว่าผมชอบดื่มอะไร” เก้าฤกษ์ได้ยินนับฝันบอกขอบคุณกับเขา ตอนนี้ชายหนุ่มแทบจะทำตัวไม่ถูก มือที่หยิบเอากระดาษออเดอร์เครื่องดื่มของทุกคน สั่นไปหมด “ไอ้เฉิ่มเอ๊ย” พี่หัวหน้าทีมผลิตทำเสียงเหนื่อยหน่าย แบบไม่ถูกใจเป็นอย่างยิ่ง
“เดี๋ยวนี้มีใครเขาเรียกกันวะว่าชาเขียว มัทฉะลาเต้อะไรก็ว่าไปสิวะ” เก้าฤกษ์รู้ว่านับฝันยังคงมองเขาอยู่ พยักหน้ารับรู้กลับไปให้กับอีกฝ่าย ว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะรีบเดินกึ่งจ้ำอ้าวไปที่ลิฟต์ด้านนอกออฟฟิศ พอประตูลิฟต์เปิดก็รีบเดินเข้าไป พอประตูลิฟต์ปิด เก้าฤกษ์ก็ทั้งยิ้ม ทั้งบิดตัวเขินอยู่คนเดียว นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้ง ที่ได้ใกล้ชิดกับนับฝันแบบนี้ แค่นี้ ถือว่าใกล้ชิดได้มั้ยนะ ใกล้ฤกษ์ถามคำถามนั้นพร้อมกับขำในความคิดของตัวเอง
ตลอดทั้งวัน เก้าฤกษ์ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ใครใช้ให้เขาช่วยทำอะไร ก็ทำให้แบบไม่มีเสียงสองเสียงสามดังขึ้นในหัวแบบเซ็ง ๆ อย่างที่เคยเป็นมาทุกครั้ง ที่รู้ว่าถูกหลอกใช้ให้ทำงานเกินหน้าที่ ก็เพราะวันนี้ ได้ลงไปซื้อของอร่อยให้กับคนที่แอบชอบ ถึงแม้ว่าตลอดบ่ายวันนี้ จะไม่เห็นนับฝันเลยก็ตาม แต่แค่นี้ ความสุขของเขาก็มีแค่นี้
นี่แหละครับ ความสุขของผม ที่ได้ทำอะไรเพื่อคนที่ผมรัก แค่เห็นว่านับฝันมีรอยยิ้ม ผมก็นอนหลับฝันดีแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้มีคำพูดหรือการกระทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ตอบแทนคืนกลับมาก็เถอะ แต่ผมก็ยินดีที่จะทำให้กับนับฝันของผม เสียดายที่เย็น ๆ หลังเลิกงานแล้วแบบนี้ ถ้าได้เป็นคนกดลิฟต์ให้กับนับฝัน ตอนกลับบ้าน วันนี้ก็คงจะเป็นวันที่เพอร์เฟกต์ สมบูรณ์แบบอย่างที่สุด
เก้าฤกษ์เดินเข้ามาในลิฟต์เพื่อจะกดลงไปที่ชั้นล็อบบี้ แต่ลิฟต์ก็ถูกเรียกจากชั้นที่สี่เสียก่อนที่ชายหนุ่มจะกดปุ่มชั้นที่ต้องการ ประตูลิฟต์เปิดออก เมื่อมาถึงที่ชั้นสี่ นับฝันเดินเข้าลิฟต์มา โดยที่เก้าฤกษ์ไม่นึกไม่ฝันมาก่อน ชายหนุ่มยืนตัวแข็งทื่อ ประหม่าไปหมด ทำอะไรไม่ถูก มองเห็นนับฝันเอื้อมมือไปที่แผงลิฟต์ ก็ได้แต่ยืนหน้าแดง เพราะไม่คิดว่าจะได้ยืนใกล้กันถึงขนาดนี้ สองต่อสอง แม้จะในลิฟต์ออฟฟิศก็เถอะ โรแมนติกชะมัดยาด เก้าฤกษ์คิด
“มัทฉะ” เก้าฤกษ์เห็นจากทางหางตาว่า นับฝันหันมาพูดกับเขา “เอ๊ยคือ” นับฝันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนคำ “ชาเขียวเย็นอร่อยมากเลย ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” นับฝันมองเก้าฤกษ์พยักหน้าให้เร็ว ๆ กลั้นยิ้มไว้ในหน้า “แล้วเค้กส้มนั่นด้วย ขอบคุณมากนะครับ” เก้าฤกษ์ลืมตัว หันไปมองนับฝัน ก็ต้องสบตากันเข้าจัง ๆ “ไม่เป็นไรครับ ยินดีครับ” หัวใจที่เต้นแรงแทบจะหลุดออกมาจากอก นี่มันคือฝันไป เก้าฤกษ์ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง
ก็พอดีกับเสียงลิฟต์ดังขึ้น พร้อมกับประตูเปิดออก นับฝันเดินออกจากลิฟต์ไป เก้าฤกษ์ขมวดคิ้ว นึกสงสัยกับชั้นที่ลิฟต์ลงมาจอด ชายหนุ่มกดปุ่มเปิดประตูลิฟต์อีกครั้ง นับฝันยังยืนอยู่ตรงนั้น เก้าฤกษ์มองไปที่เสาต้นที่ใกล้ที่สุด มันบอกว่าเป็นชั้นจอดรถล่างสุดของตึก ที่ไม่ได้เปิดใช้บริการมานานแล้ว เก้าฤกษ์มองไปที่นับฝัน ที่มองตรงมาที่เขาเช่นกัน ก่อนจะมีเสียงของหนัก ๆ หรืออะไรบางอย่างที่ตัวใหญ่ ๆ กระแทกลงบนพื้นจากมุมมืดด้านไกลลานจอดรถนั่น
“กลับขึ้นไปซะ” นับฝันสั่งด้วยเสียงเฉียบขาด ผิดกับน้ำเสียงนุ่มนวลที่เก้าฤกษ์ได้ยินทุกครั้ง “อะไรนะครับ” เก้าฤกษ์ถามออกไปแบบงง ๆ “คุณไม่ควรอยู่ที่นี่” นับฝันพูดเกือบจะเป็นการคำรามออกมาเสียด้วยซ้ำ “แต่ผมว่า ผมมีบางอย่างอยากจะบอกกับคุณนะ นับฝัน” เก้าฤกษ์พยายามจะพูดให้นับฝันฟัง “ไม่ใช่ตอนนี้” นับฝันดันตัวเก้าฤกษ์เข้าไปในลิฟต์ โดยที่ชายหนุ่มรู้สึกว่า ตัวเล็ก ๆ อย่างนับฝัน ทำไมแรงเยอะดีจัง สามารถใช้มือดันอกของเขา เลื่อนปื๊ดจากด้านนอกลิฟต์ให้เข้ามาด้านในได้อย่างง่ายดาย
“อูย นับฝันผลักผมแรงจัง เจ็บนะเนี่ย” ไม่พูดเปล่าเจ้าฤกษ์ทำท่าจะเดินออกจากลิฟต์อีกครั้ง นับฝันเห็นว่าจะไม่ได้การ ก็ผลักอีกฝ่ายอย่างแรงจนตัวของเก้าฤกษ์ ถอยหลังไปกระแทกกับผนังลิฟต์อย่างแรง โดยภาพสุดท้ายที่เก้าฤกษ์เห็นราง ๆ นั้น ก็คือภาพกึ่งหลับกึ่งฝัน เสียงคำรามของอะไรบางอย่างดังลั่นไปหมด เสียงลิฟต์ดังขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป
***************************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย Jay J
I ไม่ O - Billkin
https://www.youtube.com/watch?v=j-5f7AleaJo
ก็มันแอบหลง ตั้งแต่วันนั้น
Yeah, I have a crush on you since forever
ทั้งโลกของฉันกลายเป็นของเธอไป
My whole world that has become yours
ความสุขที่ฉัน ได้เฝ้ามองทุกวัน
My happiness is that I get to see you every day
แม้ระหว่างเรายังไม่เคยได้ทักทาย
Though there’s space that keeps us from chit - chat
ทั้งรู้ความจริงใครใคร มากมายก็แอบชอบเธอ
I know that many guys feeling the same about you
ฉันไม่ใช่คนเดียวที่มีแต่เธอในใจ
I’m not the only one with you on mind
แค่หึงหวงเธอไกลไกล ทำได้แค่ดู
Getting jealous from here, can't do anything near
I ไม่ O นะ you (No no คือไม่ O)
I’m not okay, and no is a no - no
เธอก็คงไม่รู้ (เรื่อง you คือไม่ O)
But you don’t really know, they desire you is a no - no
อยากซ่อนเธอเอาไว้
Want to hide you from everyone
แต่มันต้องทำแบบไหน
What should I be doing?
ตัวฉันเป็นใครจะห้ามความรู้สึกเธอ
Who am I to you to ban your feelings from other guys?
กลัวใครทำเธอหวั่นไหว
Afraid that someone gets you swept off feet
จะจูงมือเธอจากไป
Holding your hand away from me
แค่อยากเก็บเธอเอาไว้ให้มันนานนาน
Just want to keep you right here with me for long
ให้เธอเป็นของฉันคนเดียวได้ไหม
Can you be mine, only for me my dear?
ได้แต่แอบหวง อยู่ในความคิด
Me secretly being possessive, crazy in my mind
ผิดเองที่ฉัน มันยังไม่กล้าพอ
That’s my fault, I don’t have guts to say it
อยากจะส่งเสียงบอกความจริงเสียที
Want to tell you the whole truth
ว่าฉันน่ะ รักเธอมากมายไม่แพ้ใคร
That, yes, I do - love you more than any guy indeed