[END]แรกพบสบรัก-สบตา ครั้งพิเศษ: คืนสู่วงการ[10-05-60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]แรกพบสบรัก-สบตา ครั้งพิเศษ: คืนสู่วงการ[10-05-60]  (อ่าน 81177 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 18: กลับมาเถิดวันวาน...วันวานยังหวานอยู่

กี่วันแล้วนะที่ผมออกจากห้องนั้นมา
สอง...หรือสาม...

แต่จะกี่วันมันก็ไม่สำคัญหรอก สำคัญแค่ว่าผมย้ายออกมาจากหอนั้นแล้ว แอบไปทยอยขนของออกตอนที่คชาไม่อยู่ห้องด้วย ขนข้าวของกลับมาไว้ที่บ้าน เป็นที่ตกอกตกใจของแม่กับพี่สาวของผมเป็นอย่างมาก แถมตั้งแต่ย้ายออกมาก็ยังไม่เสนอหน้าไปเรียนอีกต่างหาก แน่นอนว่าผมถูกแม่กับพี่สวดภาณยักษ์ขมูขีใส่ไม่ยั้ง แต่ดีที่พี่สาวซึ่งอายุห่างจากผมเกือบสิบปีเข้าใจว่าผมมีปัญหา ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำแบบนี้จึงได้อธิบายให้แม่เข้าใจ แล้วปล่อยให้ผมสบายใจก่อน ค่อยกลับไปเรียน ไม่อย่างนั้นผมคงโดนเทศน์ข้ามวันข้ามคืนอย่างแน่นอน

ความจริงแล้วบ้านผมกับมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้อยู่ไกลกันสักเท่าไหร่ นั่งรถไฟฟ้า ต่อรถเมล์ เกือบสองชั่วโมงก็ถึงที่หมายแล้ว
บ้านผมอยู่ไกล...ใช่ แต่ถ้าตื่นเช้ากว่าเดิมอีกสักหน่อยเพื่อนั่งรถไปเรียนก็ยังดีกว่าต้องไปเผชิญหน้ากับคนที่ทำร้ายหัวใจผมอย่างนั้น

พูดมาได้หน้าตาเฉยว่าไม่ได้คิดอะไรกับผมทั้งที่เพิ่งจะมีอะไรกันไปหมาดๆ...

ผมเคืองเรื่องนี้ที่สุดเลย ต่อให้ไม่ได้ชอบก็ต้องมีความรู้สึกดีๆ ให้กันบ้างล่ะ ไม่ใช่พูดจาตัดเยื่อใยกันอย่างนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่ความผิดผมเลยสักนิด เป็นความผิดของพี่ชิณณ์ ถ้าเขาไม่เข้ามากอดผมจนคชามาเห็นอย่างนั้นล่ะก็ ผมกับคชาคงไม่ต้องแตกหักกัน

เอาจริงๆ ผมไม่อยากจะโทษเขานักหรอก เพราะคชาเองก็ผิดที่ไม่ยอมฟังอะไรผมเลย แต่เพื่อความชัดเจนและผมไม่ต้องการให้เรื่องทุกอย่างมันคาราคาซัง หลังจากที่ผมยอมเข้าไปหลบในที่ร่มกับเขา ผมก็บอกเขาอย่างชัดเจนว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ต่อให้เขายอมเป็นตัวเลือกของผม ผมก็มั่นใจว่าไม่ว่ายังไงผมก็คงไม่ชอบเขา ไม่ได้คิดอะไรนอกจากการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องจึงบอกปัดไป ครั้งนี้พี่ชิณณ์ยอมรับฟังแต่โดยดี เขาคงเห็นแล้วล่ะว่าการที่เขาตื๊อไม่หยุดมันส่งผลกระทบแย่ๆ กับผมแค่ไหน และเพราะเขาชอบผม เขาเลยไม่ต้องการให้ผมลำบากใจ สถานะของเราทั้งคู่ในตอนนี้จึงเป็นแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้องอย่างที่ผมบอกไปตั้งแต่แรกเท่านั้น

จะว่าสงสารเขา ผมก็สงสารนะ ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่ผิดหวังดี แต่ถ้าทุกอย่างยังคงยืดเยื้อ คนที่จะเจ็บมากกว่าเดิมคือพี่ชิณณ์ ไม่ใช่ผม ดังนั้นวิธีนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา และเขาก็ดีมากเลยนะ ถึงผมจะแสดงจุดยืนของตัวเองชัดเจน เขาก็ไม่รังเกียจรังงอนผมสักนิด อาสาจะมาส่งผมที่บ้านในคืนนั้นด้วยเพราะเขาชวนผมไปค้างที่ห้องแล้วแต่ผมไม่ไป ไอ้ขอไปส่งบ้านนั่นผมก็ปฏิเสธเหมือนกัน ถ้าหากเขาไป เขาก็ต้องกลับดึกหรือไม่ก็ต้องนอนค้างที่บ้านผม ไม่ต้องให้ไปเลยจะดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ามีความหวังเอา สุดท้ายเขาก็เลยให้ผมยืมเงินเพื่อกลับบ้านแทนเพราะผมไม่ได้หยิบอะไรออกมาจากห้องเลยแม้แต่กุญแจห้อง ตอนเข้าไปขนของก็ต้องขอกุญแจจากเจ้าหน้าที่หอพักเอา

ย้ายออก... อืม ไม่อยากจะพูดอย่างนั้น ไม่อยากจะย้ายออกด้วย แต่คงอยู่กับคชาต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ เข้าหน้ากันไม่ติดน่ะ
แต่พอย้ายออกมาแล้ว การต้องนอนคนเดียวบนเตียงเดิมที่ใช้สมัยมัธยมปลาย ไม่ได้เจอหน้าคชา มันทำให้ผมคิดถึงมันเหมือนกันนะ

คิดถึงจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว...

ไม่รู้จะคิดถึงทำไมในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คิดถึงผมเลย ผมพยายามที่จะสลัดความรู้สึกนั้นออกจากหัว แต่ก็ทำไม่ได้จึงตั้งใจว่าจะหลับ อย่างน้อยลืมหน้าหล่อๆ ของมันไปได้ชั่วขณะนึง แม่กับพี่ก็ไม่อยู่บ้านด้วย คงไม่มีใครมารบกวน

ผมปิดเปลือกตาลง ตั้งใจว่าจะหลับยาวจนกว่าแม่กับพี่สาวจะกลับมาจากชอปปิงที่ห้างใกล้ๆ บ้าน ทว่าในจังหวะที่กำลังเคลิ้ม หูก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้าน

ใครน่ะ...

ขี้เกียจออกไปเปิดประตูเพราะยังไงก็คงจะเป็นคนรู้จักของแม่กับพี่ งั้นแกล้งทำเป็นไม่อยู่ก็แล้วกัน

ทำเป็นเฉย ปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง เท่านั้นเสียงกดกริ่งรัวก็ดังมาให้ได้ยิน ทำเอาผมต้องลืมตาตื่น ขมวดคิ้วย่นทันควัน
อะไรของมันวะ!

ไม่อยากจะลุกขึ้นไปเปิดแต่คงจะเป็นเรื่องสำคัญล่ะมั้งถึงได้กดกริ่งรัวขนาดนี้ ผมเลยต้องลุกขึ้นจากเตียง โผล่หน้าไปมองนอกหน้าต่าง หน้าต่างห้องผมติดกับทางด้านหน้าของบ้านซึ่งเป็นทาวนเฮ้าส์พอดีเลยพอจะมองไปยังหน้าบ้านได้

พอชะโงกหน้าไปมอง ผมก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน

คุ้นตา... คุ้นมาก...

ไม่คุ้นได้ยังไงล่ะ ก็นั่นมันรถของไอ้คชาน่ะ!

สายตาปราดมองไปยังผู้ชายที่ใส่ชุดนักศึกษาอย่างรวดเร็วทันที

คะ...คชาจริงๆ ด้วย

มันมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย!

เดาเอาว่ามันคงจะไปขอที่อยู่จากคณะผมอย่างแน่นอน แต่จะอะไรก็ช่าง ผมอยากรู้แค่อย่างเดียวว่ามันจะมาที่นี่ทำไมต่างหาก
ผมรีบหลบหลังม่าน แอบมองมันเงียบๆ ในขณะที่คชาเริ่มออกอาการหัวเสียหลังจากที่รัวกดกริ่งแล้วไม่มีใครมาเปิด มันเหลือบมองประตูรั้ว เห็นว่าล็อกจากทางด้านใน มันก็ตะโกน

“มีใครอยู่บ้างไหมครับ ผมเป็นเพื่อนมาวิน มาหามาวินครับ!”
ไม่มีเสียงตอบรับอีกเช่นเคย มันตะโกนประโยคเดิมขึ้นมาอีก พอไม่มีใครตอบรับก็โทรเข้าหาผม

เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงดังทันควัน ผมเดินไปหยิบมาดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของคชาที่โทรเข้ามา พอไม่รับ มันก็ส่งข้อความมาแทน

‘มึงมาเปิดประตูบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ กูรู้ว่ามึงอยู่บนบ้าน’

ผมก็กะว่าจะไม่ตอบหรอก แต่พอคชาส่งข้อความมาอีกพร้อมกับแสดงท่าทางกระสับกระส่ายให้ผมได้เห็น ผมที่เดินกลับมาแอบมองมันที่หน้าต่างก็อดไม่ได้ที่จะตอบกลับไป

‘มีธุระอะไรกับเรา กุญแจห้อง เราก็เอาคืนไปแล้วนี่’

คชาฮึดฮัดขึ้นมาทันทีก่อนจะรีบพิมพ์ข้อความกลับมา
‘ใครใช้ให้มึงย้ายออกไปโดยไม่บอกกูวะ’

แล้วใครใช้ให้มึงทำร้ายจิตใจกูกันล่ะไอ้บ้านี่!

‘ไม่ต้องมาสนใจเราหรอก เราย้ายออกมาแล้ว ขอบใจมากที่อุตส่าห์ให้อยู่ด้วยถึงจะชั่วคราวก็เถอะ’

ผมตัดบทด้วยการพิมพ์ประโยคนั้น ดูเหมือนว่ามันจะทำให้คชาหัวเสียมากเลยทีเดียว เพราะมันไม่ส่งข้อความมาหาผมแล้ว แต่ตะโกนเสียงดังแทน

“ถ้ากูไม่สน กูไม่ถ่อมาง้อมึงถึงบ้านหรอกไอ้เอ๋อ ทำไมมึงไม่เข้าใจอะไรเลยวะ!”
ผมถึงกับชะงัก

ง้อเหรอ...

ง้อทำไม ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนหรือรูมเมทแล้วด้วยตอนนี้น่ะ

พอผมไม่ตอบอะไรกลับไป คชาที่ยืนเกาะรั้วอยู่ก็พ่นหายใจยาว ก่อนจะพูดเสียงดังออกมาอีก
“มาวินครับ เปิดประตูให้หน่อยเถอะครับ คชาขอโทษ คชาผิดไปแล้ว เปิดประตูมาคุยกันหน่อยนะ”

ถึงจะไม่ได้ตะโกนแต่ผมก็ได้ยินชัดเจนดี และการที่จู่ๆ มันก็พูดเพราะ แทนตัวเองด้วยชื่ออย่างนั้น ทำให้ผมที่คิดว่าจะใจแข็งก็ใจอ่อนยวบ

นะ...น่ารักจังวะ

ถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ยิ้ม กลั้นยิ้มสุดพลังเลยล่ะ ยิ่งได้ยินเสียงกระเง้ากระงอดของมันดังตามมาเรื่อยๆ ผมก็ใจเต้นแรงขึ้นทุกขณะ

“มาวินครับ ขอโทษนะ มาคุยกันเถอะ...”
“มาวิน... คชาจะขาดใจตายอยู่แล้ว...”
“เอ๋อของผม ยกโทษให้นะ ต่อไปนี้จะไม่พูดอย่างนั้นอีกแล้ว...”

ไม่รู้ว่ามันพูดจาแบบนี้ทำไมในเมื่อมันบอกเองว่าไม่ได้ชอบผม แต่การที่มันใช้ถ้อยคำพวกนี้ มันทำให้ผมอดคิดไม่ด้เลยว่ามันน่าจะมีใจให้ผมอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงไม่มาง้อเหมือนง้อแฟนหรอก

ยิ่งได้ยิน ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็ยิ่งเต้นเร็วรัว ผมมองคชาแล้วก็กลั้นยิ้มไม่ไหวอีกต่อไป ถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อคชาเริ่มแสดงท่าทางเหมือนหมาที่ไปเล่นเถลไถลไกลแล้วมาขอเจ้าของกลับเข้าบ้าน

“มาวิน...เปิดประตู”
เกาะรั้วแล้วทำท่าจะไหลไปกับพื้นแล้วล่ะ

ผมกะจะเล่นตัวอีกสักหน่อยแล้วค่อยลงไปเปิดเพื่อไม่ให้มันได้ใจจนเกินไป ทว่าเหมือนความอดทนของคชาจะสิ้นสุดลงเมื่อมันเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมยืนมองอยู่ที่หน้าต่างห้องนอนเข้าอย่างจัง เท่านั้นมันก็ชี้นิ้วขึ้นมา ก่อนจะตะโกน

“ยืนมองอยู่นานแล้วสินะไอ้เอ๋อ!”
เออสิ

ผมรีบหุบยิ้ม ทำหน้านิ่งๆ มองมันที่จ้องมายังผมอย่างขัดใจ

คชาฮึดฮัดขึ้นมาอีกระลอกคล้ายกับว่าหงุดหงิดที่ต้องอ้อนวอนผมอย่างนั้นอยู่ตั้งหลายรอบในขณะที่ผมไม่สะทกสะท้านใดๆ จนสุดท้ายมันก็ตะโกนตามมาอีก

“มึงจะลงหรือไม่ลง!”

ผมมองเฉยๆ แสร้งทำเป็นหูทวนลม ดูซิว่ามันจะทำอะไรได้ถ้าผมไม่ลงไปเปิด

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอาคืนหน่อยก็แล้วกัน

พอผมไม่หือไม่อือ คชาก็ออกเริ่มหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ถูกขัดใจ ก่อนจะโวยวายขู่
“ถ้ามึงไม่ลงมา กูจะฉี่รดหน้าบ้านมึงจริงๆ นะ!”

ผมถึงกับเบิกตาโพลงที่ได้ยินมันพูดอย่างนั้น

เป็นโรคจิตหรือไง มึงจะมาทำอะไรอย่างนี้หน้าบ้านคนอื่นเขาไม่ได้โว้ย!

ไม่ได้พูดเปล่าด้วย ทำจริงด้วย ผมไม่ตอบรับ มันก็ถลาเข้ามาที่ประตูรั้วบ้านผมพร้อมกับทำท่าปลดซิปกางเกงแล้ว ทำเอาผมรีบโผล่หัวออกจากหน้าต่างมาห้ามมันอย่างรวดเร็ว

“อย่ามาทำทุเรศๆ หน้าบ้านเราสิวะ!”

คชาชะงัก แหงนหน้ามองผมแล้วส่งเสียงขุ่น
“มึงก็ลงมาเปิดประตูเร็วๆ เลย กูเรียกตั้งนานแล้วเนี่ย ไม่งั้นกูจะไม่แค่ฉี่อย่างเดียว จะวางระเบิดด้วย!”

วางระเบิดคืออึ เออรู้ แต่มึงจะบ้าสุดโต่งอย่างนี้ไม่ได้ ความหล่อของมึงไม่ได้สัมพันธ์กับความบ้าเลยสินะ!

“ลงแล้วๆ ใส่กางเกงดีๆ!”
ผมรีบร้องบอกด้วยกลัวว่ามันจะทำจริงๆ คชาเลยหยุดทำอย่างนั้นไปได้ พอลงมาถึงหน้าบ้าน เปิดประตูรั้วให้มันเข้ามา มันก็บ่นพึมพำใส่
“กว่าจะลงมาได้ ลีลานักนะมึงน่ะ”

ยังจะมาพูดดีอีก คนที่มาขู่จะฉี่จะอึหน้าบ้านคนอื่นไม่มีสิทธิ์มาพูดอะไรแบบนี้หรอกเว้ย!

ถึงจะหยุดทำแต่ซิปกางเกงก็ยังไม่ได้รูดขึ้น ทำเอาผมต้องบอกมันเสียงเบา
“รูดซิปกางเกงขึ้นด้วย จะโชว์อีกนานไหม”
“ไม่รูด เผื่อคุยไม่รู้เรื่อง กูจะได้ฉี่ใส่มึง”

มึงมันบ้าไอ้คชา! แบบนี้เรียกว่ามาง้อเหรอวะ!

ผมล่ะอยากจะคว้าสายยางมาฉีดน้ำไล่มันนัก แต่ก็ทำได้แค่พยักเพยิดปลายคางไปทางประตูเข้าบ้านเท่านั้น
“เข้าไปในบ้านก่อน มีอะไรไปคุยกันข้างใน”

คชาเดินเข้ามา ผมปิดประตูรั้วได้ก็พามันขึ้นไปที่ห้องนอน เผื่อว่าแม่กับพี่กลับมาพอดีจะได้ไม่ต้องมาได้ยินบทสนทนาแปลกๆ อะไรอย่างนั้น ที่สำคัญ จะได้ไม่ต้องมาเจอคนแปลกๆ อย่างคชาโดยไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจด้วย

พอเข้ามาในห้องผมได้แล้ว ผมก็เปิดประเด็นทันที
“มีอะไรเหรอถึงมาหาเราถึงบ้าน”

คชาย่นคิ้ว ชักสีหน้าใส่อย่างรวดเร็ว
“ยังมีหน้ามาถาม มึงย้ายออกมาโดยไม่บอกกล่าวกูก่อนอย่างนี้มันหมายความว่าไง”
“ก็ให้หมายความว่าไงล่ะ เราก็ไม่อยู่กับนายแล้วไง”

ผมพยายามพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบที่สุดทั้งที่ในใจรู้สึกดีไม่น้อยทีเดียวที่คชามาง้อ
“แล้วกูอนุญาตแล้วเหรอ”
“เราจำเป็นต้องขออนุญาตนายเหรอ”
“เออสิ”
“เป็นอะไรกันล่ะถึงต้องขออนุญาต” ผมย้อนถาม

คชาเม้มริมฝีปากแน่นทันที

เพิ่งสำนึกได้ตอนนี้ล่ะสินะว่าไม่ได้เป็นอะไรกันกับผม ตอนนี้เพื่อนก็ไม่ได้เป็น รูมเมทก็ไม่ได้เป็น แล้วจะให้ผมกลับไปในฐานะอะไร

หากแต่คชาไม่ยอมตอบคำถามข้อนั้น พูดเอาแต่ใจออกมา
“ไม่รู้ล่ะ มึงต้องกลับมาอยู่กับกู กูไม่ได้อนุญาตให้มึงย้ายออก”
“กลับไปในฐานะอะไรล่ะ นายเองก็ไม่ได้อยากให้เราไปอยู่ด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ ที่ให้เราไปอยู่ด้วยเป็นเพราะจะให้เราช่วยจีบพี่ชิณณ์ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้พี่ชิณณ์ชอบเรา นายอกหักแล้ว เราไม่จำเป็นต้องช่วยนายจีบแล้วล่ะมั้ง”

กะว่าจะพูดดีๆ ด้วยสักหน่อยก็ดันเผลอประชดประชันออกไปจนได้

สีหน้าของคชาดูหงุดหงิดขึ้นมาทันควัน “กูไม่ได้จะให้มึงช่วยจีบพี่ชิณณ์”
“แล้วจะให้เรากลับไปทำไม”
“ก็มึงเป็นของกูแล้ว”
“ไม่คิดเหรอว่าเราอาจจะอยากมีอะไรกับนายเพราะคิดว่าอยากเป็นแค่เซ็กส์เฟรนด์”

ถูกผมย้อนไปอย่างนี้ คชาก็ไม่ใช่แค่ดูหงุดหงิดละ ดูอึดอัดและอึกอักด้วยเช่นกัน ก่อนที่มันจะสวนกลับมา
“ทำไมต้องพูดจาร้ายกาจอย่างนี้ด้วยวะ”
“ทีตอนนั้นนายยังพูดจาร้ายกาจกับเราเลย”

ถูกผมย้อนกลับทุกดอก คชาก็จ๋อยสนิท ไม่เถียงกลับออกมาสักคำ ผมเห็นแล้วก็รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ถือไพ่เหนือกว่า ยิ่งคชาเอ่ยประโยคถัดไปออกมา
“กู...ชอบมึงว่ะมาวิน”

แล้วก็ลูบต้นคอตัวเองไปมา ดูเขินอายสุดฤทธิ์

ส่วนผมคงไม่ต้องบอก หน้าร้อนฉ่าไปไหนต่อไหนแล้ว หัวใจก็เต้นแรงเพราะเลือดสูบฉีด

คชาชอบผม...

ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

ไม่ได้ฝันไปอย่างแน่นอนเมื่อหูได้ยินเสียงคชาพูดประโยคต่อไปออกมา

“ตอนนี้มันไม่ใช่แค่ชอบด้วย กูว่ากูน่าจะรักมึงไปแล้ว ไม่รู้ว่าคิดกับมึงเกินเลยไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ขาดมึงไม่ได้ มึงอย่าพูดว่าที่ยอมมีอะไรกับกูอย่างนั้นเป็นเพราะอยากมีเซ็กส์เฟรนด์สิวะ ฟังแล้วใจไม่ดีเลย”

ผมเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง

ถ้ามันชอบผมจริงๆ อย่างที่ปากว่า มันก็คงจะรู้สึกอย่างเดียวกับที่ผมรู้สึกตอนที่มันพูดประโยคนั้นนั่นแหละ

“มันก็เหมือนกับตอนที่นายบอกว่าไม่ได้ชอบเราน่ะ เจ็บนิดๆ”
ผมแสร้งว่า จริงๆ ไม่ได้เจ็บนิดๆ เลย ถ้ามันนิดเดียว ผมคงไม่ย้ายข้าวย้ายของออกมาอย่างนั้น

“ขอโทษ...”
คชาช้อนตามองผม เอ่ยปาก ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้
“ขอโทษนะมึง ให้อภัยกูนะ”

เห็นแววตาออดอ้อนคู่นั้นแล้ว ผมก็อยากจะให้อภัยอยู่หรอก ถึงจะคิดว่าจะตัดใจแล้วแต่ผมก็อดใจอ่อนไม่ได้อยู่ดีเมื่อได้ยินคำพูดที่อยากได้ยินมากที่สุด

แต่มันจะไปเชื่อได้สนิทใจยังไงล่ะว่าคชามันชอบผมจริงๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมามันเคยแสดงออกชัดเจนเสียที่ไหน ปากเอาแต่บอกว่าชอบพี่ชิณณ์ แล้วก็จีบพี่ชิณณ์อย่างออกหน้าออกตาด้วย แต่ก็ไม่พ้นมาทำให้ผมหวั่นไหวด้วยการกระทำที่ไม่ชัดเจน

แล้วแบบนี้ผมจะเชื่อมันได้ยังไง…

บอกตรงๆ ว่าผมไม่อยากถูกทำร้ายอีกแล้ว ผมเลยกะว่าจะปฏิเสธ ถึงจะดีใจที่ได้ยินมันสารภาพความในใจออกมา แต่ผมคิดว่าผมควรหยุดก่อนดีกว่า ถ้าเกิดมันเป็นการกลั่นแกล้ง ผมจะได้ไม่ต้องเจ็บอีก แค่ได้ยินมันบอกว่าไม่ได้ชอบผม ผมก็แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว

หากแต่พอจะเอ่ยปากพูดออกไป คชาก็ตรงเข้ามาคว้ามือทั้งสองข้างของผมไปจับ จับอย่างเดียวไม่พอ ดึงไปอังแก้มทั้งสองข้างของมันด้วย

“เราขอโทษนะมาวิน ยกโทษให้เรานะ”
ผมชอบที่คชาพูดกับผมด้วยสรรพนามอย่างนี้มากที่สุด แต่ไม่ชอบให้พูดในเวลานี้เพราะมันทำให้ผมไขว้เขว

ผมพยายามสะกดกลั้นไม่ให้พยักหน้ารับหรือพูดใดๆ ออกไปเป็นการตกลง หากแต่ก็ปฏิเสธไม่ออกเช่นกัน เลยทำให้คชาปล่อยมือจากผม รวบเอวผมเข้าไปกอดแทน ใบหน้าของพวกเราใกล้กันมากทีเดียว ยิ่งผมเห็นคชาใกล้ๆ แบบนี้ ความเข้มแข็งในตัวผมก็ยิ่งลดน้อยลงไป จนได้ยินเสียงคชากระซิบบอก

“เรารักนายนะมาวิน เราขาดนายไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมาเราขอโทษ”
เท่านั้นทุกความโกรธเคืองก็มลายหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

ผมรักคชา...

ใช่แล้ว ผมรักเขา ถ้าไม่รักคงจะไม่ยอมให้เขาทำแบบนี้ อย่าว่าแต่ทำแบบนี้เลย แม้แต่ประตูบ้านก็จะไม่ไปเปิดให้

ทว่าผมก็ไม่ได้ตอบรับอะไร สบตาของคชาอยู่อย่างนั้นจนคชาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ประทับจูบลงบนเรียวปากผม สอดปลายลิ้นดุนดันเข้ามาตักตวงความหวานในโพรงปากอย่างโหยหา ผมเองก็จูบตอบมันเหมือนกัน

โหยหามันหมายความว่าคิดถึง...

ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ผมคิดถึงไอ้ผีบ้าคนนี้เหลือเกิน...

สองแขนตวัดโอบกอดแผ่นหลังกว้างอย่างลืมตัว คชาได้ทีก็ดันผมมาจนติดขอบเตียง จากนั้นก็ดันให้ล้มตัวลงนอน
ริมฝีปากของเราทั้งสองคนยังคงแนบชิดกันอยู่อย่างนั้น เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่มีทีท่าว่าจะผละออกจากกันเลยสักนิด
ความรู้สึกของคชาคงจะเป็นของจริง...

ผมก็ยังไม่แน่ใจนักหรอก บอกตามตรง ผมก็ยังกลัวอยู่ว่าถ้าเกิดเผลอตัวเผลอใจให้คชาไปมากกว่านี้ ผมจะต้องเจ็บปวดเพราะคำพูดพวกนั้นอีก แต่ว่า...กลับหยุดการกระทำที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

เมื่อเป็นที่พอใจ คชาถึงละริมฝีปากออกมา พรมจูบไปทั่วใบหน้าของผมก่อนที่จะประทับริมฝีปากเบาๆ ที่ไฝใต้ตาขวา
“ไฝใต้ตานี่ ไว้ผมยาวปิดเลยนะ ไม่อยากให้ใครเห็น หวง”

ผมใจเต้นระรัว กระนั้นก็ยังเก็บอาการถามออกไปเสียงเรียบ
“เป็นอะไรกันล่ะถึงมาหวงน่ะ”

คชาเผยอยิ้มเล็กน้อย
“ถ้าบอกว่าเป็นผัวมึง มึงจะยอมรับไหมล่ะ”

ใครมันจะไปยอมวะ...

แต่มันก็เป็นเรื่องจริง ผมเลยไม่ได้ปฏิเสธอะไรออกไป คชาจึงจูบผมอีกครั้งและค่อยๆ พรมจูบต่ำไปยังลำคอและช่วงไหปลาร้า
ผมเกือบจะเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นอยู่แล้วถ้าหูไม่ได้ยินเสียงแม่ที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านเรียกเสียก่อน เท่านั้นผมก็ผลักคชาออกโดยเร็ว

“แม่มึงเหรอ”
ผมพยักหน้า คชาบ่นอุบอิบ
“อะไรวะ งั้นไว้มึงย้ายกลับไปที่หอก่อนค่อยทำก็แล้วกัน”

ได้ยินอย่างนั้น ความตั้งใจที่ว่าจะยังไม่ยกโทษให้คชาง่ายๆ ก็หวนกลับมาทันใด

ทำกูเจ็บปวดเจียนตายขนาดนั้น คิดเหรอว่ากูจะกลับไปง่ายๆ

แน่นอนว่าผมไม่กลับไปง่ายๆ อยู่แล้ว ถึงตอนนี้จะตัดใจไม่ได้และอยากจะกลับไปอยู่กับมันมากแค่ไหน ผมก็ต้องเล่นตัวหน่อย ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรืออะไร แค่ไม่อยากให้คชาได้ใจว่าผมแคร์มัน ถ้ามันคิดอย่างนั้นกับผมจริงๆ ก็ถึงเวลาที่มันต้องแคร์ความรู้สึกผมให้มากกว่าเดิมแล้ว

คิดอย่างนั้นผมก็เลยพูดไป
“เราไม่กลับไปหรอกนะ”

สีหน้าเริงรื่นของคชาเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันควัน
“หมายความว่า...”
“เราพอแล้วไง”
“อะไรคือพอแล้ว”
“เราไม่เอาแล้ว จะเลิกชอบนายแล้ว บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

คชาทำหน้าเจ็บปวดร้าวราน ยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้ายพลางว่า
“เอื้อ... มึงอย่าพูดอย่างนี้”

มึงไม่ต้องทำมาเป็นตลกเลย มันกลบเกลื่อนความตั้งใจของกูไม่ได้หรอกเว้ย

“เราบอกกับพี่ชิณณ์แล้วว่าให้เขาพอ เราเองก็จะพอกับนายเหมือนกัน เลิกสนใจเราเถอะ”
ผมกัดฟันพูดออกไปทั้งที่ใจไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว คชาคงจะสัมผัสได้เลยรีบคว้ามือผมไปจับ

“มาวิน...มึงวางถุงกาวลงก่อน”

อันนี้มึงควรบอกตัวเองมากกว่าเว้ย ทำตัวเมากาวตลอดเวลาขนาดนี้น่ะ!

ผมแสร้งนิ่ง คชาเลยง้อออกมาทันใด
“เอ๋อของคชา กลับมาเถอะนะ กลับมาเถอะวันวาน...วันวานยังหวานอยู่ หื่อฮื้อ...”

ร้องเพลงออกมาเสียอย่างนั้น ผมก็เกือบจะหัวเราะออกมาอยู่แล้ว ดีที่ควบคุมอารมณ์ได้ ประกอบกับได้ยินเสียงแม่เรียกซ้ำมาอีกครั้ง ผมเลยดึงมือออกจากการเกาะกุมของมัน ดันตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

“พอเถอะ แล้วลงไปข้างล่างได้แล้ว นายจะได้ทำความรู้จักแม่กับพี่เราแล้วจะได้กลับ กลับเย็นเดี๋ยวรถติด” ไล่อ้อมๆ ด้วย
คชาทำท่าขัดใจแต่ก็ลุกขึ้นมาโดยดี เดินมาหยุดตรงหน้าผมพร้อมกับพูดทิ้งท้ายเอาไว้

“กูจะเอามึงกลับไปอยู่ด้วยให้ได้เลยไอ้เอ๋อ จะง้อจนถึงที่สุด กูจะทำให้มึงตกหลุมรักจนโงหัวไม่ขึ้น คอยดูเถอะ”
พร้อมกับจูบที่หน้าผากผมแรงๆ ทีหนึ่ง

ผมใจเต้นขึ้นมาอีกแล้ว แต่ก็แสร้งกลบเกลื่อนด้วยการพูดเร็วๆ
“สะ...ใส่กางเกงดีๆ ด้วย รูดซิปขึ้น แล้วก็ลงไปได้แล้ว อย่ามัวลีลา”

คชาดึงซิปกางเกงขึ้นด้วยท่าทางฮึดฮัด ชี้หน้าผมเล็กน้อย ขยับปากส่งเสียงพอให้จับใจความได้ว่า ‘ระวังตัวไว้ เดี๋ยวมึงต้องตกหลุมรักคนหล่อๆ อย่างกู’ จากนั้นถึงเดินนำออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมถอนหายใจตามหลังมัน ก่อนที่จะหลุดยิ้มออกมาจนหุบไม่ลง

ไอ้บ้าเอ๊ย รู้ตัวไหมว่าผมตกหลุมรักมันจนโงหัวไม่ขึ้นไปตั้งแต่เห็นมันมายืนอยู่หน้าบ้านแล้ว

คชา... แล้วมาง้อเราอีกนะ เราจะรอ
---------------------------------
มาเต็มตอนแล้วค่ะ แหมมม มาง้อเขาถึงบ้าน นุ้งวินเกือบใจอ่อนละ แต่ขอเล่นตัวก่อน 555
ฝากกำลังใจไว้ให้ด้วย ช่วงนี้อาจจะมาช้านิดนึงนะคะเพราะงานท่วมมาก นอนไม่ค่อยพอด้วย ;w; แต่เดี๋ยวมาต่อให้ค่ะ
ป.ล.เรื่องหน้าที่จะอัปคือโชซอนซ่อนรัก เป็นแนวชาย-หญิง ส่วนแนววายเป็นเรื่อง สะบายดีจอมดื้อ ค่ะ เปิดโหวตไว้ว่าระหว่างเจ้าจอมแก่นกับเรื่องนี้อยากให้เรื่องไหนออกก่อน ดูแววแล้วเรื่องพี่ดื้อชนะขนาดลอย รออ่านกันนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
มันง้อได้ผีบ้ามาก


วินมีสติดีนะ พิจารณาสถานการณ์และควบคุมได้

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao5: :hao5: :hao5:  อะฮื่อออดีมากมาวินของป้า เลอค่าไว้ลูกอย่าให้อะไรมันง่ายเหมือนที่ผ่านมา  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ bowtotay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ๊ยยยย.     อิคชา อิผีบ้า เป็นพระเอกที่เป็นผีบ้าที่สุด
หมดสกุลรุนชาติพระเอกมาก 55555

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :laugh: ตามคชามาเมามะระแถวนี้บ้างไรบ้าง  :m20:
สลดได้ถึงนาทีนึงป่าวละพ่อคู๊ณณ ใจแข็งไว้ๆ น้องวินนี่
เด๊ะรอดูเจอหน้าแม่กะพี่เมีย จะมาแบบไหน จิตนาการไม่ออกจริงๆ
เพราะคชาคือคนเหนือโลก ทำได้ทุกอย่างที่คนธรรมดาเขาไม่ทำกัน  :ruready

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
  ถุงกาวไม่ได้อยู่ในมือมาวินสักหน่อย อีผีบ้านี่ว้อแบบคนดีๆเค้าไม่เป็นจริงๆด้วยสินะ

เอาท่านฮิคารุไปทิ้งเลยค่ะถ้าจะเอาเมียเข้าห้อง 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น้องเอ๋อของเราน่าร๊ากกกกก ใจแข็งให้สุดๆเลยนะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
“มาวิน...มึงวางถุงกาวลงก่อน”

ฮ่าๆๆๆ เราชอบประโยคเน้....

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 19: ผีบ้ากับน้องเอ๋อ

หลังจากวันที่คชาให้คำมั่นว่าจะง้อผมจนใจอ่อน มันก็ส่งข้อความมาหาผมทุกวัน บางวันก็โทรมา ส่วนใหญ่จะเป็นการอ้อนวอนขอให้ผมกลับไปอยู่กับมัน พอผมไม่เล่นด้วย หลังๆ มันก็เริ่มขู่ ขู่ไม่ได้ผลก็มีมุกเสี่ยวมาเรื่อยๆ และทุกครั้งผมก็มักจะหัวเราะไปกับมุกผีบ้าผีบอของมัน พอไปที่มหาวิทยาลัย มันก็จะมาดักรอที่หน้าคณะทั้งเช้าและเย็นเพื่อตามง้อ และทุกครั้งมักจะตบท้ายด้วยประโยคที่ว่า...

‘รักนะครับเอ๋อ’

ผมก็ใจอ่อนยวบ แอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ลับหลังมันทุกที แต่ผมก็แสร้งทำเป็นยังโกรธมันไปงั้นแหละ ความจริงแล้วผมให้อภัยมันตั้งแต่วันที่มันมาง้อวันนั้นแล้วล่ะ

ก็ให้ทำไงได้ ผมก็รักมันเหมือนกันนี่นา ต่อให้มันเคยพูดจาทำร้ายจิตใจผมมา ผมก็อดไม่ได้ที่จะให้ใจมันไปเหมือนเดิม เพียงแต่ครั้งนี้หวังว่ามันจะไม่ทำอย่างเดิมอีก

ทว่าพอการง้อผ่านไปได้อาทิตย์นึง จู่ๆ คชาก็หายไป ไม่มีสายเรียกเข้า ไม่มีข้อความ ไม่มีการมายืนดักรออย่างเช่นทุกวัน แค่วันเดียวก็ทำให้ผมจะเป็นจะตายแล้ว นี่หายไปตั้งสามวัน ทำเอาผมอดคิดไม่ได้เลยว่ามันกำลังวางแผนอะไรไว้อยู่

กะว่าจะให้ชีวิตผมมีมัน แล้วพอจู่ๆ หายไป ผมก็จะลงแดงอะไรประมาณนั้นล่ะสินะ
แต่ไม่หรอก คชาคงไม่ทำอย่างนั้น สมองบ้องตื้นอย่างมันคิดอะไรซับซ้อนได้เสียทีไหน

ถ้าเป็นอย่างนั้นหรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น?

คิดอย่างนี้แล้วผมก็อยู่ไม่สุขมากกว่าเดิมอีก พอวันใหม่มาถึง เลิกเรียนเสร็จ ผมก็ตรงดิ่งไปที่หอมันทันที แวะไปขอกุญแจห้องจากส่วนกลางก่อนด้วย ดีที่เจ้าหน้าที่ส่วนกลางเข้าใจว่าผมยังอยู่ห้องเดียวกับคชาจึงยอมให้กุญแจสำรองมาแต่โดยดี

พอขึ้นไปถึงหน้าห้อง ผมก็เสียบกุญแจเข้าไปหมายจะเปิด ทว่าก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าประตูห้องไม่ได้ล็อก น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือสภาพในห้องมืดๆ นั่นเละเทะไม่มีชิ้นดี ข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นทำให้ผมอดกังวลไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

กังวลหนักมากขึ้นไปอีกเมื่อเหลือบไปเห็นร่างใหญ่ของคชานอนแผ่หลาอยู่บนเตียงในสภาพคว่ำหน้า
“คชา!”

ผมร้องเสียงหลง รีบถลาเข้าไปหามันทันที ไม่รู้ทำไมจิตใต้สำนึกถึงได้บอกว่าท่าทางนั้นไม่ใช่ท่าทางนอนหลับ ซึ่งก็จริงเสียด้วยเมื่อผมไปจับมันพลิกตัวนอนหงาย คชาก็ปรือดวงตาขึ้นมามอง

“ไอ้เอ๋อ... มึงมารับกูแล้วเหรอ”
แล้วก็ยกมือขึ้นสูงคล้ายจะคว้าอะไรบางอย่าง ก่อนจะเปรยออกมาอีก
“เหมือนเห็นอากงที่ตายไปแล้วมายืนกวักมือเรียกที่แม่น้ำฝั่งตรงข้าม”

มึงนึกว่าตัวเองอยู่ที่ยมโลกหรือไง ยังไม่ตายโว้ย แต่มึงเป็นอะไรก็ไม่รู้!

ผมย่นคิ้วทันที จับคชานอนหงายดีๆ พลางว่า
“อากงบ้าอะไร นอนดีๆ เลย เป็นอะไรเนี่ย ทำไมสภาพเน่าแบบนี้”

เน่าจริงๆ เน่าแบบหมดรูป หนวดเคราขึ้นหรอมแหรมเต็มหน้าไปหมด

คชาไม่ตอบ เอาแต่มองผมที่ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงแล้วยิ้ม แต่ดูอาการไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ผมเลยยกมือขึ้นไปอังหน้าผากด้วยเอะใจ ก่อนจะต้องอุทานออกมาเมื่อสัมผัสได้ว่าร่างกายของคนตรงหน้าร้อนอย่างกับไฟ

“โห ตัวร้อนจี๋เลยเนี่ย”
คชายิ้มเผล่ คว้ามือผมที่วางอยู่บนหน้าผากมันมาอังข้างแก้มแล้วพูดงึมงำออกมา
“ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ จับไข่”

พูดบ้าอะไรของมัน

ไม่พูดอย่างเดียวด้วยนะ มืออีกข้างเอื้อมมาจับเป้ากางเกงผมหน้าตาเฉย
“จับไข่จริงๆ ด้วย”

มึงก็ยังจะมาเล่นอยู่ได้ เป็นตลกคาเฟ่หรือไง!

แทบจะเอาหมอนมากดหน้ามันให้ขาดอากาศหายใจ ไม่สบายก็ยังจะมาเล่นอยู่ได้
“อย่าทะลึ่งว่ะ ใจดีด้วยหน่อยแล้วได้ใจหรือไง” ผมแหวเข้าให้

คชาย่นปากยู่ที่ผมส่งเสียงดุ พอผมปัดมือของมันออกพร้อมกับดึงมือที่มันจับอยู่คืนมา มันก็ถือโอกาสรวบเอวผมเข้าไปกอดแน่น เอาหน้าซุกมาที่หน้าท้องผมเสียอย่างนั้น

“ช่วยไม่ได้นี่ ก็มึงอยากเป็นคนน่าลูบไข่เองนี่หว่า”

ยัง...มึงยังไม่หยุดอีก

ผมเหลือบมองมันอย่างระอา กะว่าจะทำใจปล่อยมันเพี้ยนไป ทว่าก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาเต็มแรงเมื่อมันเริ่มจะอยู่ไม่สุข แกะกระดุมกางเกงยีนผมเป็นพัลวัน

“ส่วนตอนนี้อยากเอาไข่ลูบหน้า”

มึงพอได้แล้วไหมไอ้คชา จะทะลึ่งบ้องไปถึงไหน เดี๋ยวก็ถูกอย่างอื่นลูบหน้าแทนหรอก!

“เลิกเล่นได้แล้ว ไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรือไง” ผมดุไปอีก ตบท้ายทอยมันไปด้วยขณะที่มันพยายามจะเอาหน้าซุกลงมาที่เป้ากางเกงผม

พอมันไม่ยอมเอาหน้าออก ผมเลยต้องดันหัวมันขึ้นมา เห็นผมทำหน้าดุใส่ มันก็ยิ้มเผล่
“เอ๋อน้อยห้อมหอม”

มึงนี่มัน...

หน้าผมร้อนผ่าวแข่งกับไอร้อนจากตัวมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะ
คนบ้าอะไร จะตายอยู่แล้วแท้ๆ ยังจะเล่นไม่เลิก

แต่ถึงยังไงตอนนี้ผมก็รู้แล้วล่ะว่าที่มันไม่มาตามง้อผมอย่างเคยเป็นเพราะอะไร ตัวร้อนขนาดนี้คงจะเป็นไข้หนักอย่างแน่นอน
“แล้วนี่ไปหาหมอมาหรือยัง”
คชาพยักหน้า ชี้นิ้วไปทางถุงพลาสติกที่หล่นอยู่บนพื้น
“หามาแล้ว ยาอยู่ตรงนั้น”

ผมคว้าถุงยาขึ้นมาดู เห็นบิลใบเสร็จก็เลยรู้ว่ามันเพิ่งไปหามาวันนี้ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนอกจากจะดูว่ายาที่หมอให้มา มันต้องกินตอนไหนบ้าง จากนั้นก็ลุกไปคว้าผ้าเช็ดตัวไปชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ดตัวให้คชา พอเดินกลับมานั่งที่เดิมก็ออกปากสั่ง
“อะ ถอดเสื้อ”

คชาเลิกคิ้วสูง ยกสองมือไขว้ที่หน้าอกตัวเอง
“จะทำมิดีมิร้ายเค้าเหรอ”

ผมหมั่นไส้ก็เลยสะบัดผ้าขนหนูฟาดหน้าไปที
“อย่ามัวแต่แรด รีบๆ ถอดเสื้อเร็วเข้า”
คชาทำหน้าตาแบบตกอกตกใจทันควัน “โอ้โห ปากคอเราะร้าย”

ก็มึงแรดจริงๆ จะทำตัวสะดีดสะดิ้งไปทำไม รีบๆ ถอดเสื้อเร็วเข้า กูจะได้เช็ดตัวให้!

“อย่ามัวเล่นได้ไหม ถอดเร็ว อย่าให้ต้องลงมือเองนะ”
พอผมขู่ไปอย่างนี้ คชาก็ยิ้มออกมา
“ฮั่นแน่ จะทำอะไรกู ฉีกทึ้งอย่างโหดร้ายทารุณปะ ถ้าแบบนั้นล่ะก็...อะ ยอม เอาเลยจ้ะ”

มึงมันกวน....!

ด่ามันไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ผมเลยถอนหายใจออกมา จับมันถอดเสื้อด้วยตัวเองแทน ถอดแค่เสื้อไม่พอ ต้องถอดกางเกงด้วยเพราะต้องเช็ดทั้งตัว สภาพของคชาในตอนนี้เลยเหลือแค่บ็อกเซอร์บางๆ ตัวเดียว ผมไม่อายกับการเห็นสภาพมันอย่างนี้หรอก เห็นมาหลายครั้งแล้ว เพียงแต่เห็นบ่อยๆ มันก็ระคายสายตา แต่เพราะคชาเป็นคนที่ผมรัก ผมเลยแสร้งทำเป็นเฉย หยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดไปตามผิวของมันอย่างเบามือ

คชามองผมที่ทำอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มออกมา ผมมาเขินอายเอาก็ตอนนี้นี่แหละจนต้องถามเสียงขุ่น
“อะไร”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแล้วยิ้มทำไม”
“ไหนบอกว่าจะไม่กลับมาไง ไม่ได้ขอเลยนะเนี่ย มาเองเฉย” คชาพูดออกมาพลางทำหน้าทะเล้น

ตอนนี้นี่เองที่ผมรู้ตัวว่าทำพลาดเลยทำเป็นนิ่งให้คชาได้เอ่ยออกมาอีก
“พอกูหายไป มึงก็เลยเป็นห่วงใช่ไหมล่ะ แหม ช่วยไม่ได้นะ ผัวมึงล้อหล่อ จะเป็นห่วงและหึงหวงก็ไม่แปลก”
จบท้ายด้วยการหลงตัวเองอีกครั้ง ผมเลยแล้งหยิกหัวนมมันไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้

คชาร้องโอดโอยจังหวะเดียวกับที่ผมว่าเสียงเขียวพอดี
“หุบปากแล้วนอนเฉยๆ ไปเลย”
คชายกมือลูบหัวนมตัวเองที่แดงเรื่อขึ้นมาจากการถูกหยิกป้อยๆ ทว่าใบหน้ากลับเปื้อนยิ้ม แต่มันก็ยอมนอนนิ่งๆ ให้ผมเช็ดตัวแต่โดยดี หากแต่ก็ทำได้ไม่นานหรอกเพราะจู่ๆ มันก็เรียกผมออกมาอีก

“ไอ้เอ๋อ”
“อะไร” กะว่าถ้ามันพูดอะไรไม่เข้าหูอีก จะไม่หยิกแค่หัวนมละ

ทว่าผมหันไปมองหน้ามันก็ต้องหน้าร้อนวาบเมื่อได้ยินมันเอ่ยออกมา
“ขอบคุณที่กลับมานะ”
“อะ...” ผมทำหน้าไม่ถูกทันควัน ได้แต่ครางในลำคอ “อืม”

ก้มหน้างุดโดยอัตโนมัติด้วย ไม่รู้ทำไม แต่ผมกลัวว่าหน้าผมในตอนนี้จะแสดงอาการเขินอายหรือแดงเรื่อให้มันรู้ว่าผมรู้สึกยังไงจึงได้ก้มลงไปอย่างนั้น แต่ก็แอบเหลือบเห็นว่าคชายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก ก่อนที่มันจะดันตัวขึ้นมานั่ง เอื้อมมือมาช้อนปลายคางผมให้เชิดขึ้น

ผมสบตามันขณะที่คชาขยับเข้ามาใกล้ ทำท่าคล้ายจะจูบ มันก็จูบจริงๆ นั่นแหละ แต่ไม่ได้จูบที่ริมฝีปาก เป็นจูบที่หน้าผากแทน พอมันละริมฝีปากออกมา ผมก็มองมันอย่างสงสัยว่าทำไมมันถึงเลือกจูบตรงนี้ ก่อนจะได้คำตอบโดยไม่ต้องเอ่ยปากถาม
“จูบปากเดี๋ยวติดไข้นะ”

อ๋อ... ผมพยักหน้า กัดริมฝีปากนิดๆ ยอมรับว่าเสียดายที่ไม่ได้ถูกจูบที่นั่น

คชาเห็นท่าทางของผมแล้วก็หัวเราะ จากนั้นก็หอมแก้มเข้ามาฟอดใหญ่
“ไว้อาการดีขึ้นกว่านี้แล้วจะจูบให้ทั่วทั้งตัวมึงเลย”

“นายมันโคตรหื่นเลยว่ะ”

ผมทำเป็นพูดไปงั้นแหละ ในใจเผลอคิดทะลึ่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คชาเองก็คงรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่เลยทำหน้าทะเล้นใส่

“อย่ามาทำเป็นพูดดีเลย ตัวเองก็อยากให้เค้าจูบทั่วทั้งตัวเหมือนกันใช่ไหมล่ะ คราวนี้จะครางอะไรดีล่ะ รหัสนักศึกษาเบื่อแล้ว ครางเลขทะเบียนรถดีไหม หรือเบอร์โทรศัพท์”

มึงมันก็ยังบ้าเหมือนเดิมไอ้คชา อาการป่วยไม่ได้ทำให้มึงหายบ้าน้อยลงเลยล่ะสินะ!

อยากจะด่ามันเหมือนกัน แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเสียก่อนเมื่อคชามันกลั้วหัวเราะแล้วจ้องหน้าผมนิ่ง

“คชาดีใจที่เอ๋อกลับมานะครับ ยกโทษให้คชาแล้วเนอะ”

เป็นครั้งแรกที่มันพูดจาเป็นผู้เป็นคนตั้งแต่เจอหน้ากันเมื่อกี้นี้ ใจผมเต้นระรัวเร็วเลยล่ะ ยิ่งเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความดีใจของคชามองมา ผมก็รู้ได้ว่าคชามันรอให้ผมกลับมาอยู่ข้างมันมากแค่ไหนจึงเผลอตอบไปอย่างลืมตัว

“อืม”

ยิ่งลืมตัวมากขึ้นกว่าเดิมอีกว่ากะจะแกล้งโกรธให้มันตามง้อนานๆ เมื่อคชาดึงผมเข้าไปกอดแน่น พลางกระซิบเสียงเบา

“คชาคิดถึงเอ๋อนะครับ”

ตะ...ตกหลุมรักคนบ้ารอบที่เท่าไหร่ก็ไปรู้ไปอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อย ปากเผยอพูดออกไปโดยไม่ไตร่ตรองใดๆ

“เอ๋อก็คิดถึงผีบ้าเหมือนกัน...”

"ผีบ้า?" สรรพนามนั้นทำให้คชานิ่วหน้า

ผมไม่บอกมันหรอกว่าผมหมายถึงมันนั่นแหละ แต่แวบเดียวคชาก็รู้ ก่อนที่มันจะแกล้งกอดผมแน่นกว่าเดิม

"กล้าว่าผัวบังเกิดเกล้าเหรอฮะไอ้เอ๋อ แบบนี้ต้องโดนฟัด"

ผมหัวเราะร่วนเพราะไม่ได้ถูกมันกอดอย่างเดียว แต่ถูกมันเอาหน้าซุกไซ้หอมแก้มหลายครั้งติดๆ กันด้วย เพียงครู่เดียวการถูกแกล้งนั้นเป็นอันต้องหยุดเพราะคชาไอโขลกออกมาระลอกใหญ่ พร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือดลงกว่าเดิม

“เป็นไงล่ะ เล่นไม่ดูสังขาร” ผมค่อนแคะทันที

คชาที่ไอจนหน้าดำหน้าแดงมองผมพลางทำแก้มป่องๆ

“ไม่เห็นใจไม่ว่า ยังมาตอกย้ำอีก ใจร้ายว่ะ”

“ก็มันน่าไหมล่ะ เล่นไม่เข้าเรื่อง” ผมว่าออกไปอีก

คชาทำแก้มป่องมากกว่าเดิม ยู่ปากแล้วพึมพำว่าผม

“ใจร้าย”

“นอนพักผ่อนได้แล้ว”

“เอ๋อใจร้าย”

ยังจะปรามาสผมอีก ทำเอาผมต้องขู่

“จะนอนเองดีๆ หรือจะต้องให้ทุบจนสลบ”

มันเลยทิ้งตัวลงนอนแต่โดยดี ปากยังคงพูดคำเดิมไม่หยุด

“ผัวนะเนี่ย ใจร้ายฉิบ”

ผมไม่ชอบเลยเวลามันเรียกแทนตัวเองว่าผัวเนี่ย แต่ก็เอาเถอะ ทำเป็นหูทวนลมไป ตอนนี้ไม่ชอบตรงที่มันหาว่าผมใจร้ายมากกว่า

“ใจร้ายแล้วไม่รักหรือไง” ผมว่าขณะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้

คชายิ้มกว้างแล้วก็ดึงผมเข้าไปกอดจนผมล้มลงนอนข้างๆ มันไปด้วยอีกคนเสียอย่างนั้น

“ร้ายก็รักนะ”

จากนั้นก็จูบไปทั่วหน้าผม ประโยคต่อไปที่หลุดออกจากปากมันทำเอาผมยิ้มออกมาด้วยเก็บไว้ไม่อยู่ด้วย

“จะยอมเป็นผีบ้าเพื่อรักน้องเอ๋อตลอดไปเลย”

ผมพยักหน้ารับ ตวัดแขนโอบกอดร่างใหญ่บ้าง

มีความสุขมาก...

อยากให้ช่วงเวลานี้อยู่กับเราสองคนไปนานๆ

รักเรานานๆ นะผีบ้าคชา...

 

หลังจากที่ผมกลับมาหาคชาในวันนั้น ข้าวของที่ขนกลับบ้านไปครั้งก่อนก็ถูกทยอยขนกลับมาอีกครั้ง ผมถูกแม่กับพี่สวดชุดใหญ่เลยทีเดียวที่ทำอะไรไม่คิด การทะเลาะกันของผมกับคชานั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นการทะเลาะกันของเด็กด้วย แต่สำหรับผมมันไม่เด็กเลยนะ ถูกพูดทำร้ายจิตใจขนาดนั้น ใครมันจะไปอยู่ด้วยลงล่ะ

แต่ก็เอาเถอะ ยังไงผมก็กลับมาอยู่กับคชาเหมือนเดิมเป็นที่เรียบร้อย ความสัมพันธ์ของเราสองคนในตอนนี้นอกจากเป็นรูมเมทแล้ว ยังเป็นแฟนอีกด้วย

ใช่...แฟน

คชาป่าวประกาศกับกลุ่มเพื่อนมันไปทั่วแล้วว่าคบกับผม ผมเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ด้วยว่าพวกเพื่อนกลุ่มทูตกิจกรรมของมันรู้กันอยู่แล้วว่าคชาเป็นเกย์เลยไม่ได้แปลกใจอะไรเท่าไหร่ เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันบ้าสะสมหนังโป๊เกย์ของฮิคารุซามะอะไรนั่น และที่มันบอกกับผมบ่อยๆ ว่ามันไม่ได้เป็นเกย์เพราะว่ามันกลัวว่าผมที่เป็นฝ่ายขอมันมาอยู่ด้วยในตอนแรกจะปลุกปล้ำคนหล่อๆ อย่างมัน

น่าปล้ำตายล่ะ บ้าๆ บอๆ ขนาดนี้...

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมจะคิดอย่างนี้ก็ไม่แปลก ซึ่งไม่ใช่ตอนนี้...ตอนที่ผมกับมันเป็นแฟนกันแล้ว

พอคชาหายไข้ มันก็จัดหนักจัดเต็มเช้าสายบ่ายเย็นไม่เว้นว่าง จนผมนี่แหละที่จะป่วยแทนมัน พอถูกปราม มันก็พอจะเบาลงได้ แต่กลับมาสร้างความเหนื่อยใจให้ผมแทนเหนื่อยกายด้วยมันคิดว่าการที่ผมมาขออยู่กับมันด้วยอ้างเหตุผลว่าสบตามันแล้วไม่เห็นกระเปี๊ยวอะไรนั่นเป็นวิธีการอ่อยของผม

อ่อยบ้าบอคอแตกอะไร กูเห็นจริงๆ เว้ย!

อธิบายให้มันฟังรอบที่ล้านแปดแล้ว แต่มันก็ยังไม่เชื่อ ไม่ใช่ว่ามันไม่พยายามเชื่อนะ มันพยายามแล้ว แต่มันเชื่อไม่ลง ซึ่งผมก็เข้าใจเลยไม่ได้ว่าอะไร และพอคชาขอลองพิสูจน์ ผมก็ไม่ขัด อยากพิสูจน์ก็พิสูจน์ไปเลยเพราะยังไงผมก็บริสุทธิ์ใจ

ดังนั้นคชาจึงไปเตรียมพร้อมกับพวกกลุ่มเพื่อนมันก่อนที่เราจะนัดกันไปกินข้าวเย็นแถมมหาวิทยาลัย การเตรียมพร้อมของคชาก็ไม่มีอะไรมาก แค่ถามพวกเพื่อนๆ มันว่าเอียงข้างไหน ลักษณะยังไง มีจุดเด่นอะไรบ้าง

ถูกต้อง...มันหมายถึงงวง

พอถึงเวลานัดหมาย คชาก็เริ่มต้นพิสูจน์ทันทีด้วยการให้ผมสบตากับเพื่อนมันทุกคนที่นั่งรายล้อมอยู่รอบโต๊ะ พอผมพยักหน้าบอกมันว่าเห็นร่างเปลือยของทุกคนแล้ว มันก็ออกปากถาม

"ของไอ้โบทเอียงซ้ายหรือเอียงขวา"

คนชื่อโบทยืนขึ้นเพื่อให้ผมมองหว่างขาของตัวเองพลางหัวเราะเขินๆ ผมเหลือบมองที่ระหว่างขาของคนที่ชื่อโบทแล้วก็รีบเบนสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็วขณะที่ปากเอ่ยออกมาด้วย

"ขวา"

“เฮ้ย ถูก” โบทร้องลั่น ก่อนจะพาเพื่อนคนอื่นๆ หัวเราะกันร่วน

ส่วนคชาทำหน้าอึ้งงัน ก่อนที่สีหน้านั้นจะเลือนหายไปและมีคำถามใหม่ดังออกมาจากปาก

"แล้วของไอ้กันล่ะ"

ชี้ไปที่เพื่อนอีกคน เจ้าตัวลุกขึ้นยืนให้ผมมองเช่นกัน ผมเหลือบมามองเป้าของผู้ชายที่ชื่อกันเล็กน้อยก่อนตอบ

"ซ้าย"

“ถูกว่ะ” กันร้องบอก

คชาทำหน้าอึ้งงันและมากขึ้นไปอีกเมื่อผมเสริมต่อท้าย

"มีไฝตรงปลายด้วย"

คำตอบถูกต้องตรงเผงเพราะเห็นเต็มๆ ตาเลย

เสียงโห่ฮาดังตามมา หลายคนบอกว่าผมมีตาทิพย์ แต่ผมรู้ว่าจริงๆ แล้วพวกมันคิดว่าผมคงจะฟลุกเดาถูก และผมก็ไม่อยากจะเสียเวลาอธิบายอะไรให้ฟังด้วย เพราะในตอนนี้ คนที่ผมสนใจมีแต่คชาที่นั่งอ้าปากหวอ พอผมถามออกมา...

"อยากให้เราดูของใครอีกไหม"

คชาก็หายอึ้งงันอย่างรวดเร็วพร้อมตะเบ็งเสียงสั่งดังลั่น

"อะ...ไอ้เอ๋อ มึงหลับตาเดี๋ยวนี้เลย! หลับตา!"

"ทำไมล่ะ"

"ยังจะมีหน้ามาถามว่าทำไมอีก มึงจะดูของผู้ชายคนอื่นไปถึงไหน! ไอ้กัน มึงนั่งลงด้วย จะโชว์อะไรนักหนา โรคจิตเหรอมึงอะ!"

เออ อันนี้เข้าใจละว่ามันคงจะหึงที่ผมเห็นอะไรอย่างนั้น ซ้ำยังพานไปโวยวายใส่เพื่อนที่ยังยืนอยู่ด้วย มันถูกเพื่อนบ่นกระปอดกระแปดเล็กน้อย ส่วนผมก็เกือบจะยิ้มออกมาเพราะมีความสุขที่ถูกมันหึงหวงแล้วแม้ว่ามันจะพูดเสียงดังชวนให้คนอื่นในร้านเข้าใจผิดก็ตาม และผมคงจะกลายเป็นคนที่มีความสุขมากๆ ถ้าจู่ๆ มันไม่ลุกขึ้นยืน หันเป้ามาทางผมแล้วทำท่าจะถอดกางเกง

"ถ้ามึงอยากดูนักก็ดูหออำลำเท่าแขนของผัวที่รักของมึงนี่!"

ผมเบิกตาโพลงทันตะวัน

จะบ้าเหรอไอ้คชา มึงจะมาโชว์ในร้านข้าวไม่ได้นะเว้ย!

หอ-อำ คือ หรรม บอกไว้ก่อนเผื่อไม่รู้ แต่ไอ้ลำเท่าแขนเนี่ยไม่เห็นจะจริงเลย!

ปลดเข็มขัด แกะกระดุมกางเกงเป็นที่เรียบร้อย ผมตะครุบไว้แทบไม่ทัน ก่อนจะรีบดึงมันให้นั่งลง

“ทำบ้าอะไร”

“โชว์หออำให้มึงดู”

มึงนี่ก็ยังหออำไม่เลิกอีก!

“ไว้ไปดูที่หอ” ผมดุเสียงเบา

คชาชะงักได้ ยิ้มเผล่ “เออเนอะ หออำต้องเอาไว้ไปดูที่หอ”

“คชา”

“จากนั้นก็ผันสระกัน หอ-อำ...อา อ่า อ้า อ้า อ๊า อือ อิคึ”

“คชา!”

ผมหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันทีเมื่อถูกมันหยอกต่อหน้าเพื่อน คชาหัวเราะกับท่าทางของผมก่อนจะตวัดแขนมาโอบไหล่ผมไว้

“แหมๆ เขินเหรอจ๊ะ”

เออสิวะ! มึงกล้ามาพูดเรื่องอย่างนี้ต่อหน้าเพื่อนมึงได้ไง!

ผมไม่ได้บอกกันมันหรอก แต่ถลึงตาใส่ เท่านั้นคชาก็พูดออกมา

“เป็นคนชอบแสดงออก มีเมียแล้วอยากบอก ไม่อยากเก็บไว้ มึงควรภูมิใจนะที่มีผัวหล่อๆ อย่างกู สาวๆ แถวนี้อกหักเพราะมึงได้กูไปครอบครอง”

ลงท้ายด้วยการหลงตัวเองอีกครั้ง คราวนี้เพื่อนมันได้ยินเต็มสองหูเลยออกปากแซวโห่ฮาว่ามันขี้อวดเป็นการใหญ่ ผมก็เขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แทบจะเอาหน้าซุกจานข้าวอยู่แล้ว ก่อนจะตัดสินใจลุกพรวดทันที ทำเอาคชาร้องถามอย่างรวดเร็ว

“จะไปไหนน่ะ”

“ปะ...ไปซื้อชานมไข่มุก” ผมชี้นิ้วไปยังร้านขายชานมไข่มุกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน

ความจริงไม่ได้อยากจะกินหรอก แค่จะหนีไปตั้งหลักสักแป๊บ อยู่ตรงนี้นานๆ แล้วผมเขินจนตัวแทบจะระเบิด

แต่คชาก็ไม่ยอมให้ผมไปแบบง่ายๆ ควักเงินออกมาสี่สิบบาทแล้วยื่นให้ผมพร้อมกับพูดว่า

“ผัวเปย์ให้ แล้วรีบๆ กลับมานะจ๊ะเมียรัก เดี๋ยวคิดถึง”

โดนเพื่อนมันร้องแซวอีกรอบจนได้ ผมเลยรีบคว้าเอาเงินจากมือมันแล้วเดินออกจากร้านข้าวอย่างรวดเร็ว พอพ้นร้านข้าวมาได้ก็หลุดยิ้มกว้างออกมาเหมือนคนบ้าขณะที่ใจยังคงเต้นระส่ำไม่หยุด

ถึงจะถูกล้อถูกแซว แต่ผมก็มีความสุขมากเลย แต่ต้องเก็บอาการหน่อย เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าเป็นบ้าตามคชาเอา

เก็บอาการได้ก็ก้าวขาข้ามถนน คิดในใจว่าจะสั่งอะไรดี ก่อนที่จู่ๆ หูจะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์วิ่งมาด้วยความไว พอหันไปมอง ผมก็ถูกแรงมหาศาลพุ่งมาปะทะเข้าร่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะกระเด็นไปในอากาศและกระแทกลงบนพื้นถนนเต็มแรง

ร่างกายปวดร้าวไปหมด ที่ปวดสุดน่าจะเป็นที่ศีรษะ ฉับพลันสายตาก็พร่ามัวทันที แต่ก็รับรู้ได้ว่าแรงปะทะที่เข้ามากระแทกผมเมื่อครู่นั้นเกิดจากอะไร

ผมถูกรถมอเตอร์ไซค์ชน...

เสียงเอะอะมะเทิ่งของคนบริเวณนั้นดังลอยตามมา แต่เสียงที่ผมได้ยินชัดที่สุดเป็นเสียงของคชาที่ร้องอย่างตกใจ

“มาวิน!”

และเสียงนั้นก็เป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่สติสัมปชัญญะทั้งหมดที่ผมมีจะดับไป

--------------------------------------

เต็มตอนแล้วค่ะ ลงท้ายเหมือนจะมีดราม่าระลอกที่สองนะ แต่ไม่ต้องห่วง ไม่มีม่าอะไรแล้วค่ะ ตอนหน้าก็สุดท้าย แล้วก็บทส่งท้ายกับ Extra นิดหน่อยก็จบแล้ว เดี๋ยวจะทยอยลงให้นะ

ส่วนตอนพิเศษ ไปตามเอาในแบบรูปเล่มเนอะ ตอนพิเศษถึงจะเขียนฉากเลิฟซีนจัดเต็ม ในเนื้อเรื่องหลักนี่ไม่รู้เลยว่าจะเอาไปแทรกตรงไหนได้ ยกยอดไปที่นั่นแล้วกัน 555

ส่วนเรื่องหน้าแนววายที่หนูแดงจะอัปคือ #สะบายดีจอมดื้อ ไปเกาะจอรอกันไว้ก่อน เดี๋ยวหนูแดงมาอัปให้อาทิตย์หน้าเน้อ

ฝากฟีดแบ็กไว้เป็นกำลังใจกันด้วยนะคะ XD

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :laugh: คชาก็ยังคงเป็นคชาคือเก่า มีความอวดเมียเพิ่มเติม น้องเอ๋อก็เขินวนไปสิจ๊ะ  :m20:
 และคาดว่าอุบัติเหตุรอบนี้ทำให้น้องวินนี่ของเราเลิกเห็นหออำ(ยืมลูกเพ่เขามาใช้หน่อย)ชายอื่นตลอดใชาป่ะคะ  :katai3:

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :ruready  :ling1: น้องวินนนนน ม่ายยยยยอย่าเป็นรายปายยย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ใจอยากให้มาวินฟื้นขึ้นมาแบบกลับเป็นปกติทุกอย่าง
ถ้างั้นสาเหตุเดียวที่ผีบ้าคชาเป๋นคนเดียวที่ไม่เห็นมะเขือนั้นก้อเพราะเป็นคู่กันสินะ
เอาใจช่วยให้รักกันแบบคนทั่วๆไปบ้าง อย่าเอ๋อจริงๆนะจ๊ะน้องวิน
ว่าแต่พี่ชิณณ์แกหมดบทแล้วเหรอ สงสารแกนะ

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
นี่เอ๋อต้องหายจสกอาการเห็นกระปู๋แน่ เอีะหรือแอดวานซ์กว่านั้น55555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
หัวกระแทกอีกที เลยไม่เห็นสินะ หรือจะแอดวานซ์กว่า คือ กลายเป็นเห็นตับไตไส้พุงแทน หมอเรย์เข้าอี๊กกก~~~ :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะได้เมียเป็นคนปกติแล้วละนะคชา

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
คชาก็ยังผีบ้าเหมือนเดิม :hao7:

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 20: ของใคร...ใครก็รัก ของใคร...ใครก็หวงก็ห่วง

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับผมในวันนั้นเหมือนจะรุนแรงเพราะหัวของผมกระแทกพื้นค่อนข้างแรง แต่ไม่...ไม่เลยสักนิด หัวผมไม่ได้รับการกระทบกระเทือนที่รุนแรงใดๆ เลยแม้แต่น้อย เลือดไม่คั่ง ไม่มีอาการบุบสลายใดๆ นอกจากท้ายทอยแตกและต้องเย็บนิดหน่อยก็เท่านั้น แม้แต่หมอยังแทบไม่เชื่อเลยว่าผมจะไม่ได้รับอันตรายในส่วนนี้เพราะคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่ากระแทกค่อนข้างแรง

คงจะแรงจริงอย่างที่บอกกันนั่นแหละเพราะเล่นเอาผมสลบไปเลย รู้สึกตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนเนื้อตัวก็ไม่มีอะไรสูญสลาย ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คู่กรณีเองก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเหมือนกัน จะมีก็แต่มอเตอร์ไซค์เท่านั้นที่พังยับเยินด้วยไถลไปบนถนนจนกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้าในบริเวณนั้น ผมมารู้เอาภายหลังว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ชนผมเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบท์

มิน่าล่ะมันถึงได้ชนแรงจนกระเด็นไปคนละทิศละทางขนาดนั้น

ความจริงผมรู้สึกตัวตั้งแต่วันแรกที่ถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลแล้ว แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้ผมอ่อนเพลีย ผมเลยเอาแต่นอนหลับจนไม่ได้คุยกับใคร เรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่กับพี่และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะกว่าผมจะเริ่มมีสติกลับมาเต็มร้อยก็อีกวันหนึ่ง ดันมารู้สึกตัวตอนที่คชาติดเรียน ไม่ได้มาเยี่ยมผมเหมือนคนอื่นๆ ด้วย ตอนนี้ในห้องมีแค่พี่ชิณณ์กับเพื่อนของคชาบางคนเท่านั้น

พี่ชิณณ์มาเยี่ยมยังพอเข้าใจได้ว่าเขาสนิทกับผมในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่เพื่อนทูตกิจกรรมของคชาเนี่ยมาทำไม ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายสักหน่อย

มารู้อีกทีว่ามาทำไมก็ตอนคนที่ชื่อโบทกับกันซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่มาเอ่ยขึ้น
“ไอ้คชามันสั่งให้มาเป็นไม้กันหมาน่ะ”

ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่ากันใคร

กันพี่ชิณณ์นี่ไง จะใครล่ะ แหมไอ้นี่ ตัวมาไม่ได้เลยต้องส่งตัวแทนมาล่ะสินะ

ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ออกจะรู้สึกดีด้วยซ้ำที่คชาทำอย่างนั้น พี่ชิณณ์เองก็ไม่ได้ว่าอะไร เหมือนเขาจะเข้าใจและพอทำใจได้แล้วเรื่องที่ผมไปต่อกับเขาไม่ได้นอกจากการเป็นพี่เป็นน้อง ดูเขาผิดหวังหน่อยๆ เหมือนกันตอนที่รู้ว่าผมกับคชาคบหาเป็นแฟนกัน ส่วนแม่กับพี่ผมก็ออกจะช็อกหน่อยๆ ที่ผมดันมีแฟนเป็นผู้ชายเพราะคราวก่อนที่คชาไปหาที่บ้าน ผมแนะนำคชาว่าเป็นเพื่อนก็เท่านั้น ทีนี้แม่กับพี่เลยรู้กันหมดเลยว่าที่ผมขนข้าวขนของย้ายออกมาจากหอเป็นเพราะผมทะเลาะกับแฟน

อยากจะเถียงเหมือนกันว่าตอนนั้นยังไม่ใช่แฟน แต่เอาเถอะ อธิบายไปก็เท่านั้น ปล่อยให้เข้าใจกันแบบนี้ไปก็แล้วกัน
และจริงๆ แล้วอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับผลพวงของการที่ผมโดนรถมอเตอร์ไซค์ชนจนกระเด็นหัวกระแทกพื้นแม้แต่น้อย เพราะในตอนนี้น่ะ...

ผมสบตาผู้ชายคนไหนก็ไม่เห็นกระเปี๊ยวแล้ว!

ไม่เห็นจริงๆ ตอนแรกผมก็นึกว่าตัวเองฝันเลยจ้องหน้าพี่ชิณณ์กับเพื่อนๆ ของคชานิ่งจนทุกคนคิดว่าสมองผมได้รับการกระทบกระเทือน แต่จริงๆ แล้วผมแค่ต้องการจะพิสูจน์ต่างหากว่าสิ่งที่ผมกำลังประสบพบเจออยู่นั้นคือเรื่องจริง

จ้องนิ่งๆ จ้องจนแทบจะทะลุก็ไม่เห็น มีแต่ร่างกายที่สวมใส่เสื้อผ้า เท่านั้นความดีใจก็พร่างพรายไปทั่วร่างจนผมต้องร้องไห้ออกมา

ในที่สุด...ความทรมานตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็สิ้นสุดลงสักทีนะไอ้มาวิน!

มองหมอที่เข้ามาดูอาการตามเวลาด้วยว่าไม่เห็นจริงหรือเปล่า พอมั่นใจแล้วว่าเพราะร้องไห้อย่างนั้น พี่ชิณณ์กับพวกเพื่อนๆ ของคชาเลยถามด้วยความเป็นห่วง ทว่าผมไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว ได้แต่บอกพวกนั้นเร็วๆ ว่าดีใจที่รอดชีวิตมาได้ก็เท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่เลย ก่อนที่จะขอโทรหาคชาเพราะอยากคุยกับมันเป็นคนแรก พูดง่ายๆ ก็คืออยากบอกเรื่องนี้ให้มันรู้น่ะ

พี่ชิณณ์กับเพื่อนๆ ของคชาเลยไม่อยู่รบกวนผม ขอตัวกลับไปกันก่อน ส่วนแม่กับพี่ก็ออกไปหามื้อเย็นกิน ปล่อยให้ผมได้โทรหาคชาตามลำพัง

กดเบอร์โทรออก รอไม่นานนัก คชาก็รับสาย เท่านั้นผมก็รีบกรอกเสียงลงไปทันที
“คชา”

[อาการดีขึ้นแล้วเหรอเอ๋อถึงลุกมาเล่นโทรศัพท์เนี่ย]
ทำเป็นดุผมไปงั้นแหละแต่น้ำเสียงมันนี่ฟังดูก็รู้ว่าโคตรดีใจเลยที่ผมโทรมา ผมเองก็ดีใจเหมือนกันเลยรีบพูดเอาใจมันอย่างรวดเร็ว

“ดีขึ้นแล้ว ตื่นขึ้นมาแล้วก็อยากคุยกับนายเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม”

คชานิ่งไปครู่ก่อนจะส่งเสียงล้อเลียนออกมา
[หูย อ้อนว่ะ เดี๋ยวนี้รู้จักอ้อนผัวเหรอ]

เนี่ย กูจะไม่อยากเอาใจมึงก็เพราะมึงชอบเรียกแทนตัวเองว่าผัวอย่างนั้นผัวอย่างนี้เนี่ย

ทว่าผมก็ไม่ได้ใส่ใจนักเพราะสิ่งที่ผมอยากให้มันรู้คือเรื่องพลังวิเศษของผมที่หายไปต่างหาก
“ที่จริงแล้วที่เราโทรมาเพราะมีเรื่องสำคัญจะบอกต่างหาก”

ผมเปิดประเด็นทันที คชาสวนคืน
[เรื่องอะไรวะ สำคัญมากเหรอ ไว้รอบอกกูตอนเจอหน้าได้ไหม อยากคุยกับมึงต่อหน้ามากกว่า]

“ก็อยากจะบอกต่อหน้าเหมือนกันแต่รอนายขับรถมาหาเราไม่ไหวแล้ว อยากบอกเลย”

พอได้ยินผมว่าอย่างนี้ คชาก็คงจะรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหนจึงตอบรับกลับมา
[โอเคๆ มีอะไรก็ว่ามา]ฃ“เราสบตาผู้ชายก็มองไม่เห็นกระเปี๊ยวแล้ว”

ผมว่าด้วยน้ำเสียงสดใส คชานิ่งเงียบไปชั่ววินาทีหนึ่งก่อนจะถามซ้ำราวกับว่าได้ยินผิดไป
[มึงว่าอะไรนะ]

“เราบอกว่าเราสบตากับใคร เราก็มองไม่เห็นจู๋แล้วน่ะ น่าจะเป็นเพราะหัวเรากระแทกอีกครั้ง มันเลยกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม”
ไม่รู้ว่าคชาจะเชื่อหรือเปล่า แต่ผมก็บอกไปตามตรง ฉับพลันก็ได้ยินเสียงละล่ำละลักถามของคชาดังตามมา
[มะ...มึงแน่ใจนะว่าไม่เห็นหออำแล้ว]

ผมพยักหน้าเร็วๆ ทั้งที่รู้ว่ายังไงคชาก็มองไม่เห็นก่อนกรอกเสียงลงไป
“อื้อ ไม่เห็นแล้ว”

เสียงดีใจลิงโลดของคชาดังให้ได้ยินแทบจะในทันใดที่ผมมองไม่เห็นของใครต่อใครให้มันต้องหึงอย่างวันนั้นอีก พลันเงียบไปในชั่วเสี้ยววินาทีเมื่อคชามันนึกอะไรขึ้นมาได้

[ไม่ใช่ว่าไม่เห็นหออำ แล้วมึงดันไปเห็นหออีแทนนะ]

หออำน่ะเข้าใจความหมายแล้วว่าคืออะไร แต่หออี...

พอเข้าใจความหมายแล้วหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมา

จะหออำหรือหออี กูก็ไม่เห็นทั้งนั้นแหละโว้ย!

เพื่อความชัวร์ ผมเลยหันไปสบตาพยาบาลที่เดินเข้ามาเปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้เมื่อกี้นี้ ก่อนจะรีบหลบสายตาอย่างรวดเร็วเมื่อพยาบาลคนนั้นมองผมราวกับอยากจะถามว่าผมมองเธอทำไม

ไม่เห็นแฮะ

ยิ้มออกมามาเลย รีบตอบกลับคชาไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่เห็นทั้งสองหอ”
[นอโอมโนมก็ไม่เห็นนะ]

มันยังไม่มั่นใจ ถามผมกลับมาอีก

ผมฟังแล้วก็อยากจะไล่มันไปเรียนสะกดคำใหม่เลย

นอโอมโนมบ้านมึงสิ นอ-โอะ-มอ-นม เว้ย!

“ไม่มี ไม่เห็น” ผมตอบกลับเสียงเบา

คชาพ่นลมหายใจยาวออกมา
[ค่อยยังชั่ว นึกว่ากูจะต้องตามหึงมึงเพราะมึงเห็นนู่นนี่ของชาวบ้านไปทั่วต่อซะแล้ว ทีนี้มึงก็เห็นแต่ของผออัวอย่างเดียวล่ะเนอะ]

ผอ-ผัว เท่ากับผัว

ผมอยากจะด่า แต่หัวเราะออกมาเสียอย่างนั้น ก่อนจะพึมพำ

“ไอ้บ้า”

พลิกตัวเอาหน้าซุกหมอนด้วย

เห็นแต่ของมึงเหรอ กล้าพูดออกมาได้ยังไงไอ้บ้าคชา

ไอ้บ้าๆๆ!

คชาหัวเราะให้กับคำด่าของผมเมื่อกี้นี้เล็กน้อย ก่อนจะตัดบท
[วางสายไปเลยไอ้เอ๋อ เดี๋ยวกูไปหาที่โรงพยาบาล รอกูก่อนนะ จะรีบไป]

ผมได้แต่เออออและบอกให้มันขับรถดีๆ พลันตั้งหน้าตั้งตาเฝ้ารอการมาถึงของคชาอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนหน้าที่มันจะมา พยาบาลเข้ามาเสิร์ฟอาหารมื้อเย็นพอดี มื้อเย็นวันนี้เป็นข้าวต้มเครื่อง ผมซึ่งเพิ่งจะได้รับอนุญาตให้ทานอาหารได้จึงไม่รอช้าที่จะตักอาหารเข้าปากแม้ว่ารสชาติอาหารของโรงพยาบาลมันจะเหมือนน้ำล้างมือมากแค่ไหนก็ตาม

หากแต่ตักข้ามต้มเข้าปากด้วยความหิวได้ไม่กี่คำ หูก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง พอเหลือบมองไป เสียงของคชาก็ดังมาก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่ผมจะเห็นตัวมันเสียอีก

“เอ๋อคร้าบ คชามาหาแล้ว ซื้อขนมมาฝากด้วย”
ขนมอะไรก็ไม่รู้ ผมไม่สนใจหรอก ได้แต่มองไปยังร่างใหญ่ที่เดินอาดๆ เข้ามา พอผมเห็นหน้ามัน ผมก็ต้องเบิกตาค้างเมื่อวินาทีที่ผมสบตากับคชา เสื้อผ้ามันก็หายวับไป

พรู่ด!

ถึงกับสำลักข้าวต้ม พ่นกระจายออกมาเต็มโต๊ะไปหมดเมื่อจู่ๆ สบตาของคชาแล้วเสื้อผ้ามันหายไป

ยะ...อย่าบอกนะว่าผมสบตาผู้ชายคนอื่นแล้วไม่เห็นกระเปี๊ยว แต่มาเห็นของมันแทนน่ะ!?

ใช่อย่างแน่นอน มองยังไง นั่นก็แมมมอธของคชาชัดๆ!

“จะกินขนมเลยไหม เดี๋ยวจะเอาใส่จานให้”
มันถามผมแต่ผมไม่ตอบ เอาแต่มองตามคชาในร่างเปล่าเปลือยอย่างไม่เชื่อสายตา

ลองหลับตาลงครู่หนึ่ง ลืมตาขึ้นมาแล้วก็ยังเห็น

ขยี้ตาไปอีกที ลืมตาขึ้นมา... โอ๊ย! ก็ยังเห็นอ้ะ

อะไรวะเนี่ย!

ผมคงจะจ้องมันนานไป คชาเลยรู้สึกตัวจึงชะงักมือที่กำลังจะเอาขนมอะไรสักอย่างใส่จานหันมามองผม
“เป็นอะไรของมึงวะ จ้องกูไม่วางตาเลย กูหล่อมากหรือคิดถึงกูมากหืม?”

ยังไม่วายจะล้อเล่น แต่ผมไม่ได้อยากจะเล่นกับมันเลย เผยอริมฝีปากขึ้น เปล่งเสียงแห้งผากออกมา
“คะ...คชา คือว่าเรา...”
“เราอะไร เรารักคชามากที่สุดในโลกไรงี้ปะ” ขยับเข้ามาใกล้ผม ยื่นหน้ามากระซิบส่งเสียงทะเล้น

ผมส่ายหน้าพรืดทันควัน
“หรือว่าจะบอกว่าเราตกหลุมรักนายอีกแล้วว่ะคชา คชาหล่อม้ากมาก”

มึงนี่ก็เล่นจังเนอะ หุบปากแล้วฟังกูหน่อย!

“เราเห็นจู๋นายอะ”
เห็นมันเล่นไม่เลิกก็เลยพูดออกไปทันที คชายิ้มค้างไปครู่ ก่อนส่งเสียง
“ฮะ?”
“เราบอกว่าเราสบตานายแล้วเห็นจู๋อะ”

คชายิ้มค้างไปอีก ดูเหมือนจะอึ้งๆ กับสิ่งที่ได้ยินเหมือนกัน ก่อนจะผละจากเตียงไปโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้ผมมองตามก็เห็นว่ามันเดินไปล็อกประตูห้องไม่ให้ใครเข้า จากนั้นก็ตรงไปควานหาอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเอกสารการเรียน แล้วก็หันหลังให้ผม ทำอะไรยุกยิกสักอย่าง

ผมมองแผ่นหลังและแผ่นตูดของมันอย่างสงสัย ก่อนที่คชาจะหันกลับมาทั้งตัว
“ให้ทายว่ากูเขียนว่าอะไร”

ตอนนี้แหละผมถึงได้รู้ว่ามันทำอะไรยุกยิกเมื่อครู่นี้

นี่มึงลงทุนถึงขนาดเอาปากกาเมจิกเขียนแมมมอธเลยเหรอ!

ทำอย่างนั้นแน่นอน ปากกาซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญยังคามืออยู่เลย ผมมองแล้วก็ต้องตบหน้าผากตัวเองอย่างระอาจนคชาถามผมขึ้นอีกครั้ง

“เอ้า ถ้ามึงเห็นจริงก็บอกดิว่ากูเขียนไว้ว่าอะไร”
ไม่อยากจะมองเลย แต่ก็จำต้องมองเมื่อคชาเดินเข้ามาหาอีกครั้ง พอหลุบสายตาลงต่ำก็เห็นปากกาเมจิกสีแดงหัวเล็กๆ เขียนรูปหัวใจไว้อยู่

รูปหัวใจอย่างเดียวยังไม่พอ ตามมาด้วยชื่อผมอีก

มึงจะบอกรักกูด้วยการจารึกอักขระลงบนกระปู๋มึงไม่ได้นะไอ้คชา!

ไม่รู้ว่าควรจะดีใจไหมที่มันทำแบบนี้ แต่บอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่น้อย ตอบคำถามก็ตอบแบบเนิบๆ เพราะระอากับความบ้าๆ บอๆ ของมันด้วย

“มีรูปหัวใจแล้วก็ชื่อเราอะ”

คชาเบิกตาโต ทำหน้าตกใจ
“รักมาวิน! ถูกเผงเลย โอ้โห พลังจิตสัมผัสกระเจี๊ยว!”

จิตสัมผัสอะไร มันไม่ใช่เรื่องน่าดีใจเลยนะเว้ย!

จากนั้นมันก็ถลาแรดๆ เข้ามากอดผม
“ทีนี้มึงก็เห็นแค่ของกูคนเดียวแล้วสินะ”

จะมีก็แต่มันนี่แหละที่ดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง ผมที่ถูกมันกอดแน่นไม่ได้ดีใจเลย ถึงจะสบตามันแล้วไม่เห็น แต่มันก็แก้ผ้าให้ผมเห็นอยู่ดี มาเห็นตลอดเวลาอย่างนี้มันน่าดีใจตรงไหน

“ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย”
“ยินดีดิ ก็มึงเป็นของกู ไม่อยากให้มึงไปเห็นของใคร”
จากนั้นมันก็ผละอ้อมกอดมาหอมแก้มผมแรงๆ ข้างหนึ่ง ปากก็พูดอีก
“ของใคร...ใครก็รัก”
ผละไปหอมแก้มอีกข้างฟอดใหญ่ พูดออกมาอีก
“ของใคร...ใครก็ห่วงก็หวง”
แล้วก็ตามด้วยจูบที่ริมฝีปากของผมเบาๆ ทีหนึ่ง
“ยิ่งเป็นไอ้เอ๋อของกู ยิ่งห่วงยิ่งหวงเข้าไปใหญ่เลย”

จากตอนแรกที่ผมว่ามันเป็นเรื่องไม่สมควรจะดีใจ ตอนนี้กลายเป็นว่ายิ้มไม่หุบเลย ตวัดแขนโอบกอดคชาตอบกลับอีกต่างหาก
“งั้นต่อจากนี้จะเห็นแค่ของนายคนเดียวนะ”

คชาพยักหน้ารับเร็วๆ ซุกใบหน้าลงบนไหล่ผม กว่าผมจะรู้ตัวว่ามันไม่ใช่การกอดธรรมดาก็ถูกคชาดันลงไปนอนบนเตียงเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นมันก็ขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้ ความจริงคือมันยังใส่เสื้อผ้าอยู่ แต่ที่ผมเห็นมันก็คือร่างกายเปล่าเปลือยเท่านั้น
“พูดจาน่ารักอย่างนี้ต้องจัดสักทีแล้ว”

มึงจะจัดที่ไหนก็ได้ แต่จะจัดในโรงพยาบาลไม่ได้!

“ดะ...เดี๋ยว ไว้ออกจากโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ผมรีบร้องบอกเสียงหลง คชาไม่สนใจ ซุกไซ้ใบหน้าลงบนซอกคอผมเป็นการใหญ่ ตอนนี้เองถึงได้รู้ว่าพลาดมากที่กอดมันไปเมื่อครู่นี้
“คะ...คชา หยุดก่อน”
พยายามจะร้องบอกมันอีก แต่ไม่น่าจะทันแล้ว คชาผละออกจากผม เหยียดตัวตรงแล้วถอดเสื้อ

เออ ผมเห็นแค่มันทำท่าถอดเสื้อน่ะ แต่ไม่เห็นเสื้อมันหรอก

พอมันถอดเสื้อออกจากตัว ผมถึงเห็นในตอนนั้น ก่อนที่มันจะขว้างไปข้างเตียง
“หยุดไม่ได้แล้ว เอ๋อของคชาอยากน่ารักขนาดนี้ทำไม”
ว่าจบก็ประทับจูบลงบนหน้าผากผม ผละริมฝีปากออกมาก็ประทับจูบลงบนริมฝีปาก จากนั้นก็ขยับขึ้นมาจูบที่ไฝใต้ตาอีกครั้ง
ผมอยากจะออกปากห้ามมันชะมัด แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมันยิ้มให้พร้อมกับกระซิบเสียงพร่า

“คชารักเอ๋อนะครับ จากนี้ไปดูแค่จู๋ของคชานะ”

มันไม่ได้เป็นคำพูดที่ชวนโรแมนติกเลยสักนิด!

แต่ผมก็ดันยิ้มออกมาแล้วพยักหน้ารับมันไปเสียอย่างนั้น
“อื้อ ต่อจากนี้จะดูแค่ของนายคนเดียว”

หาความโรแมนติกไม่เจอจริงๆ ด้วย แต่ช่างมันเถอะ ผมคงไม่หวังอะไรจากผีบ้าอย่างคชาแล้ว ผมเองก็ดูท่าทางจะติดเชื้อมาจากมันแล้วด้วยล่ะ

คชากัดริมฝีปาก ดูท่าทางจะมันเขี้ยวผมไม่น้อยก่อนจะกอดผมแน่นๆ อีกครั้ง
“ทำไมมันน่ารักอย่างนี้ว้า”
แล้วก็ฟัดไปฟัดมาเหมือนฟัดหมาที่บ้านไม่มีผิด

ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันนอกจากหัวเราะกับการกระทำของมันก็เท่านั้น ยิ้มมากขึ้นไปอีกเมื่อมันบอกว่า...
“แต่ทำที่เตียงคงไม่โอเคใช่ไหมล่ะ เดี๋ยสายน้ำเกลือหลุดเนอะ”
“ก็เออน่ะสิ ถึงได้บอกให้ไปทำตอนที่หอตอนออกจากโรงพยาบาลไง พูดไม่รู้เรื่องนะนายน่ะ”

ได้ทีก็ว่ามันไปอีกครั้ง คชาทำปากยื่น
“ก็เอ๋อของคชาน่ารักขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว”
“อดใจไม่ไหวก็ต้องอดทน แล้วก็ลุกไปสักที เดี๋ยวแม่กับพี่เรามาก็เห็นหรอก”
คชายอมถอยออกไปยืนแต่โดยดี ทว่าก็ไม่วายฝากจูบแรงๆ ไว้ที่ริมฝีปากผมอีกครั้ง
“กลับไปเมื่อไหร่จะจัดหนักจัดเต็ม”

พูดจบก็ก้มลงไปคว้าเสื้อนักศึกษาที่ถอดโยนทิ้งบนพื้นขึ้นมาถือ หันมาบอกกับผมยิ้มๆ
“แต่ตอนนี้ต้องไปล้างก่อน ปากกาเมจิกด้วย สบู่ฟอกก็คงไม่ออกแล้วมั้ง”

ก็แหงอยู่แล้วล่ะ ใครใช้ให้เอาไปเขียนบนไอ้นั่นกันล่ะ!

ผมมองตามหลังคชาที่เดินบ่นกระปอดกระแปดเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างขบขัน

คชา...ไอ้บ้า ไม่รู้ว่าจะเป็นผีบ้า บ๊องๆ บวมๆ อย่างนี้ไปอีกถึงเมื่อไหร่

แต่ถึงมันจะเป็นยังไง... ผมก็รักมันอยู่ดี

ต่อจากนี้คงจะมีแค่คชาเท่านั้นแล้วล่ะที่ผมสบตาเพื่อใช้พลังวิเศษด้วยความยินดี

ถึงจะต้องเห็นมันเปลือย...

ถึงจะต้องเห็นอะไรระคายลูกตา...

แต่เพราะเป็นคชา... ผมจะไม่ยอมละสายตาจากมันแม้แต่วินาทีเดียว

รักนะครับ ผีบ้าคชาของเอ๋อ...
 ------------------------------------------
จบแล้วววว เหลือบทส่งท้ายกับบทพิเศษนิดหน่อยก็จบจริงๆ แล้วค่ะ จะทยอยมาอัปให้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้ นิยายเรื่องนี้จะตีพิมพ์และจัดจำหน่ายโดย สนพ.พบรัก นะคะ เสิร์ชจากเฟซบุ๊กหรือกูเกิ้ลดูได้เลย คาดว่าน่าจะออกช่วงเลยกลางปีไปแล้ว รอ สนพ.แจ้งอีกทีนะ

ส่วนเรื่องหน้าที่หนูแดงจะอัปคือ #สะบายดีจอมดื้อ ย้ำกันหลายรอบมาก จะได้ไม่ลืม 555

ฝากกำลังใจไว้ให้กันด้วย เดี๋ยวมาต่อให้จ้า

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
งื้ออออ เลิกหึงแล้ว จับกดวนไป. เห็นแมมอธกวัดแกว่งก็เขินสิเอ๋อ 5555555
 :katai2-1:   ชอบมากค่ะขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao7: :hao7: สนุกค่ะเรื่องไม่ยืดเยื้อน่ารำคาญ ตลกมากเห็นของคชาคนเดียว +1ให้เลยทุกตอน ขอบคุณไรกับนิยายล้ำๆดีๆค่ะ  :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
คช๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!~~~ ฉันล่ะเหนื่อยใจกับความติ๊งต๊องกับแกตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ :ruready

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
คชา บักผีบ้านี่  :laugh: :laugh:
ขอโทษนะที่ด่านายบ่อย ฮ่าๆ
ดีใจกับมาวินจริงๆ  :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด