42
เช้าวันต่อมาสิงห์รู้ว่าน้องไปบ้านเนมไม่ไหวแน่ๆ เลยชวนเด็กๆ มาติวที่บ้านเขาแทนโดยเอาหมูกระทะมาล่อ และแน่นอนเด็กวัยกำลังกินกำลังนอนแบบพวกนั้นมีหรือจะปฏิเสธ เขาเลยบอกให้พวกนั้นมาสายๆ หน่อยเพราะอยากจะให้น้องได้นอนมากขึ้นอีกนิด
ร่างสูงเดินออกมาที่ระเบียงบ้านในมือมีกาแฟรสเข้มติดมือมาด้วย เขากวาดมองไปรอบๆ บรรยากาศยามเช้าที่มีหมอกลงอากาศกำลังเย็นสบายมีน้ำค้างลงหน่อยๆ ด้านหน้ามองเห็นภูเขาอยู่ไกลๆ ถ้ามีน้องมาให้ยืนกอดมองวิวแบบนี้ก็คงจะดีเขาเสียดายนิดๆ เมื่อคืนเขาน่าจะออมแรงไว้หน่อย แต่ไม่รู้ทำไมทำกับน้องที่เราเขายั้งตัวเองไม่อยู่ทุกที ริมฝีปากหนักจรดลงกับถ้วยกาแฟกลิ่นหอมกรุ่น หัวสมองมีแต่เรื่องของน้องเต็มหัวไปหมด เขาครุ่นคิดถึงคำพูดของเนมเมื่อวานแล้วรู้สึกใจมันหวิว ถ้าฟังจากคำบอกเล่าของเนม ทำให้เขาประติประต่อเรื่องต่างได้คร่าวๆ น้องอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนม และถ้าเป็นแบบนั้นจริงสิ่งที่เนมพูดมา น้องจะต้องไป
10.00 น.
เด้กๆ เริ่มทยอยกันมา นะโมที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยรีบออกมาหา พร้อมกับเสียงใสๆ
“ทุกคนนนนนนนนนนน *0*”
“นะโม อย่าวิ่งลงบันไดแบบนั้นสิครับ” สิงห์พูดเสียงดุๆ
“-3- คนหื่นไม่มีสิทธิพูด น้องโกรธ เชอะ!! ” ดวงตากลมหันไปค้อนควักใส่ก่อนจะหันกลับไปหาเพื่อนๆ ของตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส
“อะไรวะนั่น ไอ้เอ๋อพี่สิงห์ทำอะไรมึงอีก”
“พี่จ๋าทำเราเจ็บทั้งคืน”
“ทำ? ทำอะไรเจ็บวะไอ้เอ๋อ?”
“หึหึหึ” สิงห์เดินลงมาแล้วกอดคอร่างเล็กไว้แล้วรั้งให้แนบกับอกของตนเอง
“ไม่ต้องมายุ่งเลย นิสัยไม่ดี -3- “น้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วยู่ปากใส
“อย่าบอกนะว่าที่พามันกลับมานอนเพราะ เรื่องนั้น”
“หึหึ”
“โหยยพี่ ไม่ถนอมมันบ้างวะ ลดๆ บ้างก็ได้” ปิงว่า แต่คนพี่ไม่ได้สำนึกอะไรเขายังคงกอดน้องเอาไว้แล้วส่งยิ้มหวานแบบไม่แคร์สายตาหมันไส้ของบรรดาเด็กๆ ที่มองมาแต่อย่างใด
“= =”
“ว่าแล้วยังทำหน้าระรื่นอีก”
“แล้วไงใครแคร์”
“อิพี่...แคร์หนูบ้างก็ดี เห็นใจคนโสดบ้างค่ะ ไปอิลูกมึงอย่ามายืนให้หมาป่ามันแทะแบบนี้” น้ำเสียงประชดนิดๆ มาพร้อมกับสายตาจิกๆ ของส้มทำเอาสิงห์หัวเราะขำ
“ก็รีบหาซะสิ จะได้ไม่ต้องมาอิจฉาพี่แบบนี้”
“ถ้ามันหาง่ายเหมือนหาซื้อผักชีในตลาดป่านนี้หนูมีไปแล้วพี่”
“บางทีมันอาจจะไม่ใช่ผักชีแต่เป็นขี้ตาก็ได้นะ”
“ขี้ตาไรละพี่?”
“ก็อยู่ใกล้จนมองไม่เห็นไง ^^” สิงห์พูดยิ้มๆ พร้อมกับมองไปที่ยิม ฝั่งนั้นพอได้ยินก็ปั้นหน้านิ่ง ส้มเองก็ทำหน้าไม่เข้าใจ ซีตัสส่ายหัวเบาๆ กับความหัวช้าของเพื่อนสาว
“มันโง่พี่ปล่อยมันไปเหอะ” ซีตัสว่าแล้วก็เดินหนีขึ้นไปบนบ้านโดยที่ไม่ลืมจูงมือปิงขึ้นไปด้วย เนมเดินรั้งท้าย
“เนมเนมๆ” นะโมเรียกคนตัวโตเอาไว้
“ว่า มีไร?”
“วันนี้พาเราไปเที่ยวหน่อยสิ *0*”
“แล้วทำไมต้องกระซิบด้วยวะ”
“น่า เดี๋ยวพี่จ๋าได้ยิน เราจะไปซื้อขนมมาใส่กล่องสมบัติของเรา”
“กล่องไรวะ เออๆ เดี๋ยวค่อยออกไปละกัน” เนมบอก
พอจัดการอะไรเรียบร้อยพวกเขาทั้งหมดก็เข้าสู่หมวดจริงจัง ตั้งใจอ่านหนังสือโดยมีสิงห์คอยอธิบายในส่วนที่พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจ และเก็บรายละเอียดในบางส่วนให้ เพราะอีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะสอบปลายภาคแล้ว พอถึงตอนเที่ยงก็สั่งอาหารตามสั่งมากิน โดยที่เนมอาสาออกเอามาให้ เขาเลยชวนนะโมไปด้วยเพราะสัญญาว่าจะพาไปเซเว่นด้วย สิงห์ไม่ได้ว่าอะไรที่เนมจะเอานะโมไปด้วย นะโมแอบเดินไปหยิบกระเป๋าเงินของตัวเองในห้องแล้วเดินไปหาเนมที่นั่งรออยู่บนน้องกุ๊กไก่ บิ๊กไบค์คันสวย
“น้องกุ๊กไก่ หวัดดีจ้า” มือบางโบกทักทายก่อนจะรับหมวกของเนมมาใส่อย่างรู้หน้าที่
“แวะ 7/11 ก่อนแล้วค่อยไปเอาข้าว”
“อื้อ วันนี้เราจะเติมกล่องสมบัติเราให้เต็ม” นะโมยิ้มกับความคิดของตัวเอง
“กล่องสมบัติอะไรวะ?”
“คึคึ มันเป็นความลับ แต่ถ้าเนมเนมอยากดูเราให้ดูก็ได้นะ” เพื่อนตัวเล็กบอกเสียงใส
“ความลับถ้าบอกคนอื่นมันจะเป็นความลับได้ยังไงละ”
“เอ้าก็ความลับของเราสองคนไง นี่เราอุตส่าห์จะให้ดุกล่องสมบัติเราเลยนะ เนมเนมต้องตื่นเต้นแล้วก็ดีใจสิ”
“เออ แล้วแต่มึงเหอะ เกาะแน่นๆ เดี๋ยวก็หล่นรถ” เนมเอื้อมมือไปจับมือเล็กให้เกาะเอวเขาเอาไว้
“อื้อๆ เนมเนมขี่เร้วๆ ก็ได้นะ เราชอบเอาหน้ารับลม” คนตัวเล็กยิ้มยิงฟันใส่คนที่มองจากกระจกมองข้าง
“เป็นหมาเหรอ?” เนมหยอก
“งะ ถ้าเนมเนมคุยกะเรารู้เรื่องเนมเนมก็เป็นหมานะสิ”
“ (อิเหี้ย) -*- ตอบกวนตีนนะมึง”
ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงเซเว่น นะโมรีบลงไปซื้อขนมที่ตัวเองอยากกินทันที ส่วนเนมก็เดินเลือกของกินเผื่อคนที่บ้านแต่ไม่ได้ซื้อเยอะเพราะตอนเย็นจะต้องออกมาตลาดหาซื้อของทำหมูกระทะกันอีกรอบ เนมเห็นนะโมเลือกขนมใส่ตะกร้าจนล้น แขนเล็กเอียงไปข้างเพราะความหนักของขนม
“เยอะขนาดนั้น?”
“อื้อ นานๆ จะได้เติมมันที เราต้องเอาให้เต็ม”
“มีแต่เยลลี่กับของที่ทำให้ฟันผุ” เนมมองของในตะกร้าแล้วบ่นออกมา เขาเลือกออกสองสามอย่างแล้วหาขนมที่เป็นประโยชน์มากกว่ามาให้ นะโมทำหน้ายู่ เพราะของที่เนมเลือก เขาไม่ชอบเลยสักอย่าง
“กินแต่ของแบบนี้สินะพี่สิงห์ถึงไม่ค่อยพามาซื้อขนม”
“ป่าวสักหน่อย -3- “
“เสร็จแล้วก็ไปจ่ายตังค์ จะได้ไปเอาข้าวเดี๋ยวพวกนั้นมันจะบ่นเอา” เนมสั่งพร้อมกับช่วยนะโมถือตะกร้า
“ทั้งหมด 589 บาทค่ะ” พอได้ยินราคาของก็ตาโตหน่อยๆ ก่อนจะค้อนควักเงินออกมา ในกระเป๋ามีแบ้งค์สีม่วงอยู่หลายแบงก์ นะโมหยิบเงินให้ไปหกร้อยบาท แล้วกัดปากตัวเองเบาๆ
“งือ เนมเนม เงินเราหายไปตั้งสองใบ ทุกทีไม่เห็นมันจะลดเลย” ร่างเล็กรู้สึกเสียดายตังค์ขึ้นมา
“แหม ก็คนจ่ายตังค์มันไม่ใช่มึงไง ผัวมึงจ่าย มึงไม่ได้จ่ายมันจะลดไปไง วู้ว” เนมพูดอย่างหมั่นไส้ เขายีหัวมันเบาๆ ก่อนจะหยิบเอาถุงขนมทั้งหมดไปถือไว้แล้วเดินนำไปที่รถ ห้อยของกับตัวแฮนรถ พอนะโมปีนขึ้นเรียบร้อย เขาก็ใส่หมวกกันน็อกให้ แล้วขี่ไปที่ร้านข้าวกล่องที่สั่งไว้
“มึงถือข้าวนะ”
“อื้อ”
พอได้ทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการ ก็พากันกลับ ขากลับเขาขี่เร็วไม่มากเพราะของที่นะโมถือมันหนักพอสมควร ใช้เวลาไม่เกินสิบห้านาทีพวกเขาก็ขี่รถมาจอดเทียบรั้วบ้าน นะโมลงจากรถไม่ได้เพราะของที่ถืออยู่
“ยิมมมมมมมมมมมมมมยิม มาช่วยเราหน่อยยยย” เสียงหวานเรียกเพื่ออีกคนให้มาช่วย ยิมได้ยินเสียงเรียกก็รีบวิ่งลงมาจากบ้าน
“โห ขนมนี่นะโมจะเอามาถมที่เหรอ” ยิมประชด
“ถมที่ไม่ได้หรอกยิมยิม อันนี้เราเอาไว้กิน ยิมยิมนี่ไม่รู้เรื่องเลย” มันเป็นการโต้ตอบที่ทำให้อีกฝ่ายได้แต่อ้าปากค้าง”
“ถามจริง นี่มึงเอ๋อจริงเอ๋อปลอมวะ นี่กูเหมือนถูกหลอกด่าเลยอะ” ยิมเกาหัวแกร็กๆ อย่างงงๆ ว่าตัวเองกำลังโดนด่าหรือแค่คำพูดธรรมดาๆ ของคนเอ๋อเท่านั้น
“ยิมยิม ติงต๊อง เราจะไม่พูดกับคนติงต๊อง ไป เถอะเนมเนม เราจะเอาขนมไปใส่กล่องสมบัติ” ร่างเล็กจูงมือคนตัวสูงกว่าให้เดินหนียิม
“หึหึ โดนแล้วมึงไอ้ยิม”
พอเดินขึ้นไปบนบ้าน คนตัวเล็กก็คว้าถุงขนมของตัวเองแล้วรีบวิ่งปรู๊ดดเข้าไปยังห้องนอนของตัวเอง แล้วนั่งลงข้างๆ เตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบกล่องสมบัติใต้เตียงออกมา ในนั้นมีของมากมายที่เขาเก็บเอาไว้หนึ่งในนั้นมีจดหมายของหลวงตาที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันอมาอยู่ในนี้ได้ยังไง มือเล็กหยิบมันออกมาแล้ววางไว้บนเตียงเพราะอยากจะเรียงขนมใส่
“เอ๋อ นี่ถุงขนมมึงใช่เปล่า” เนมเดินเอาถุงอีกใบเข้ามาให้
“อ่า อื้อ ของเราๆ”
“แล้วทำอะไร” ร่างสูงของเนมเดินมานั่งบนเตียงแล้วมองเพื่อนตัวเล็กเรียงของลงในกล่อง
“เอาขนมใส่กล่องสมบัติไง นี่เห็นไหม” นะโมโชว์ของสำคัญหลายอย่างให้เนมดู ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ชอบให้ใครมาเห็นกล่องสมบัติ ขนาดสิงห์นะโมยังหวง แต่กับเนมเหมือนมีอะไรบางอย่างที่บอกว่าเนมไว้ใจได้
“นี่แม่เรา” นะโมหยิบรูปของด่างที่ตัวเองวาดเอาไว้จากความทรงจำให้เนมดู
“หมา?”
“นี่พี่เปรี้ยว พี่สาวเรา”
“-*- “
“นี่หลวงตา หลวง..ตา” จู่ๆ เสียงก็สั่นเครือ ดวงตากลมจ้องมองรูปในมือด้วยความคิดถึง
“หลวงตา?”
“หลวงตาทิ้งเราไปอยู่กะแม่ด่างกะพี่เปรี้ยวแล้ว” เนมรับรูปในมือของนะโมขึ้นมาดู คิ้วหนาขมวดลงนิดๆ เพราะรูปในมือมันคุ้นตามาก เหมือนมีอะไรบางอย่าง เนมหยิบโทรศัพตัวเองขึ้นมาแล้วกดถ่ายรูป ภาพนั้นไว้
“หลวงตาชื่ออะไรเหรอไอ้เอ๋อ”
“ชื่อ หลวงตาบัว” นะโมตอบเสียงเบาๆ เหมือนคนหลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์
“....”
“อะ เนมเนม นั่งทับจดหมายเรา”
“อะ เอ่อโทษที” เนมหยิบซองจดหมายส่งคืนให้ ก่อนที่คนตัวเล็กจะเอาจดหมายใส่คืนในกล่อง
“แย่ แย่ แย่แน่ๆ กล่องมันปิดไม่ได้ พี่จ่าต้องเห็นแน่ๆ เลย”
“เขาไม่เห็นหลอก เอาใส่ไว้ใต้เตียงไม่ใช่ไง?”
“...”
“นะโม นะโมครับ อยู่ไหน มากินข้าว” เสียงร้องเรียกทำเอาร่างเล็กสะดุ้งแล้วรีบยัดกล่องสมบัติเข้าไปใต้เตียง
เฮือกกก!!!
“ไปเร็วเนมเนม เดี๋ยวพี่จ๋าดุ”
“ไหนมาครับ” สิงห์ถามเสียงนุ่ม
“อะ เอ่อ ไปเอาของที่ห้องครับ”
“เหรอครับ ไปกินข้าวได้แล้วครับ” สิงห์โอบไหล่น้องไว้แล้วพาเดินไปที่ครัว เขาเหลือบสายตามองไปที่เนมนิดๆ เหมือนกำลังจับผิดอะไรบางอย่าง ระหว่างที่กินมื้อกลางวันสิงห์ต้องออกไปทำธุระข้างนอกเขาเลยฝากน้องไว้กับพวกเพื่อนๆ และอาสาซื้อของทำหมูกระทะมาเลย
“พี่จ๋ารีบกลับมานะ” นะโมเดินไปส่งสิงห์ที่ประตูหน้าบ้าน น้องโอบกอดเขาเอาไว้แล้วแหงนหน้ามอง ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มหวานมาให้อย่างออดอ้อน มือหนาลุบลงบนหัวทุยก่อนจะก้มประทับจูบบนหน้าผากส่งผ่านความรักที่มีไปให้
“ครับ พี่จะรีบกลับนะ” เขาบอกก่อนจะเดินขึ้นรถและขับออกไป พอมมองที่กระจกหลังก็เห็นเด้กแสบโยนดโบกมือให้ เขาอมยิ้มอย่างเป็นสุขกับภาพที่เห็น
หมอเหี้ย (6)
14.25น
[/b]
หล่อสุดแดนสยาม (ไม้)พี่ครับ พี่ เมื่อไหร่จะตี้กันสักทีครับ
ร่างกายน้องต้องการแอลกอฮอล์ลล
Singha
ต้องการแอลกอฮอล์หรืต้องการตีน
เอาให้แน่
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท (คิท)กูด้วยครับ อดอยากปากแห้ง
Singha
ตีน?
คิดจะพักคิดถึงคิดแคท (คิท)ตีน พ่อง!
Panwa (วา)มึงว่างกันแล้วหรอไอ้พวกหมอเหี้ย
กูมีผ่าอีกสองเคส
Singha
มึงก็เหี้ยไม่ต่างจากกูไอ้วา
น้ำชาน้องกาแฟ (ชา)พี่แฟฝากบอกว่า ถ้าพวกมึงเป็นมะเร็งตับ
กูจะฉีดยาให้ตาย จะไม่รักษา
เปลืองงบประมาณชาติ
ไอ้พวกหมอเหี้ย อันหลังกูเติมเอง
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท (คิท)ทำไมพี่แฟไม่อ่อนโยน
@singha (สิงห์) ออกมาอย่ามัวกกแต่เมีย
Singha (สิงห์)
ค้วยยยย
มีไรอี๊ก!!
กูไม่ว่าง!
plus ภูวไนย
@singha ระวังพวกกูจะเตะมึงออกจากกลุ่ม
มีเมียแล้วลืมเพื่อน!!
Singha (สิงห์)
พิมพ์ออกมานี่มึงดูตัวเองยัง
อิสัส
อย่าคิดว่ากูไม่รู้
Panwa (วา)มีไร ไหนเมาส์ซิ
น้ำชาน้องกาแฟ (ชา)มึงรู้อะไรไอ้สิงห์?
กูกำลังใส่ใจมึงอยู่
คิดจะพักคิดถึงคิทแคท.......
Plus ภูวไนยขี้เสือก!!
Singha (สิงห์)
หึหึ
หล่อสุดแดนสยาม (ไม้)เออ เมินแชทกูอีก ไอ้พวกพี่เหี้ย
ตอบกู
ตอบกู
ตอบกู
Singha
รำค้านนน!!
Plus ภูวไนยอยากมานักอออกมาคืนนี้เลยมาเดี๋ยวกุขับรถไปหา
ถ้ากูไปแล้วมึงเบี้ยวนะ
กูจะแช่งให้เมียมึงทิ้ง!
Singha (สิงห์)
เออ จะมาก็มา
มาบ้านกูก็ได้วันนี้ด็กๆ มันจะปาตี้หมูกระทะ
หล่อนสุดแดนสยาม (ไม้)แล้วใครไปมั้ง
ผมละ1
คิดจะพักคิดถึงคิทแคทกูไม่รู้วะ
Plus ภูวไนยคิทมันไปกับกู
คิดจะพักคิดถึงคิดแคทถามกูยังว่ากูว่างรึเปล่า
หล่อสุดแดนสยามตกลงไปหมดนะ
Panwaยกเว้นกูครับ
ร่างกูจะแหลก
พอก่อน
หล่อสุดแดนสยามงั้นหกโมงเจอกันบ้านพี่สิงห์
Singha
หากับแกล้มมากันเองนะเว้ย อย่ามาแย่งน้องแดก
จบแยก
เอาเป็นว่าเขาต้องซื้อของเพิ่ม เพราะไม่รู้ว่าพวกแม่งจะกินกันเยอะขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ พวกมันต้องออกค่าเหล้ากันเอง งานนี้ไม่มีเลี้ยง สิงห์ขับรถเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ของตัวเอง เข้ามาเอาเอกสารบางอย่าง แต่สิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะเห็นตอนเดินเข้ามาในบ้าน เขาเห็นพ่อตัวกำลังปล้ำจูบลูกน้องคนสนิทอยู่ ถ้าเขาไม่กระแอม พ่อคงไม่หยุด กรปากแดงเจ่อหน้าเห่อร้อนด้วยความอับอาย
“พ่อ -*- นั่นไอ้กรลูกน้องผม”
“ยุ่งจริงไอ้ลูกคนนี้ แล้วนี่นึกไงมาหาพ่อที่บ้าน” ถึงจะขัดใจที่โดนสิงห์มาขัดจังหวะ แต่ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ลูกชายมาหา
“ป่าว ไม่ได้มาหาพ่อ ผมมาเอาเอกสารเรื่องงาน”
เหมือนโดนตีแสกหน้า เจ็บแต่ร้องไม่ได้ นาค พยักหน้าพร้อมกับทำหน้าเจื่อนๆ เหมือนลูกไม่รัก เขาหันไปหากรที่แอบยิ้มสะใจอยู่ข้างๆ
เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย คนแก่หันไปทำตาดุใส่ สิงห์ทำหน้าเอือมก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องทำงานของสิงห์ค้นหาเอกสารออกมาหลายชุดแล้วกลับลงมา ก็ไม่เห็นพ่อกับกรแล้ว
“หนีไปพลอดรักกันที่ไหนอีกละ คอยดูนะถ้าทำให้ไอ้กรเสียใจละก็ หึ! ”
ขากลับเขาแวะซูเปอร์ซื้อของทำหมูกระทะกับกับข้าวอีกสองสามอย่างเผื่อหิวกันตอนดึกๆ ได้ของครบก็ขับรถกลับบ้าน มาถึงบ้านก็เรียกให้เด็กๆ ลงมาช่วยขน นะโมลงมาคนแรกตั้งแต่ได้ยินเสียงรถมาจอด พอเห็นของกินเยอะก็ทำตาโต ซีตัสอาสาเอาหมูและของทะเลไปหมัก ส่วนที่เหลือก็ล้างผักแล้วก็เตรียมสถานที่ วันนี้ใช้ลานหน้าบ้านเป็นสถานที่กินหมูกระทะกัน
ห้าโมงกว่าๆ พวกแก้งหมอก็ทยอยกันมาทีละคน หนึ่งในนั้นคือคนที่ทำให้ นะโมร้องเรียกเสียงดัง เพราะครั้งสุดท้ายที่เห็นคือเจ้าตัวโดนไล่กระทืบ
“ลู๊กกกกกพี่!!! ” ตนตัวเล็กวิ่งเข้าไปกอดคนตัวสูงกว่าแน่น น้ำตาคลอหน่วย
“อะไรของมึงไอ้เอ๋อ ร้องเหมือนกูจะตาย”
“ก็ใช่ไง ลูกพี่จะตาย ฮึก โดนตื๊บ ลูกพี่โดนตื๊บ” นะโมเบะเพราะภาพที่ต้าร์เลือดท่วมแล้ววิ่งหนีคู่อริยังฝังอยู่ในหัว
“มึงสิจะโดนตื๊บ ไอ้ห่า ปากไม่เป็นมงคล” ต้าร์พูดไปเสียงสันหลังไป เพราะโดนสายตาดุๆ ของไม้เมืองมองมาพอดี
“ง่า -3- วันนี้จะมานอนกะหนูป่าว”
“เมาก็นอนไม่เมาก็กลับบ้าน” ต้าร์ตอบแบบขอไปที ตอนนี้เขาแทบจะอุ้มไอ้เด็กเอ๋อเข้าเอวอยู่แล้ว เมื่อก่อนไม่เห็นจะติดขนาดนี้ ตอนนรี้เขาแทบจะขยับไปไหนไม่ได้ เลย
“ไอ้เอ๋อ มึงปล่อยกูก่อน” ต้าร์พยายามแกะมือที่จับแขนเขาไว้ออก ต้าร์ปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ
“ไปไหน จะไปไหน -*- “
“กูจะไปฉี่”
“แน่นะ ไม่หนีหนูแน่นนะ”
“ว้อยยยย ไอ้เหี้ยพี่สิงห์มึงมาเอามันไปที กูจะบ้า” ต้าร์ตะโกนขึ้นไปบนบ้านอย่างเหลืออด
“ไอ้เอ๋อ มึงมาช่วยกูจุดเตานี่มา ห่า จะติดอะไรพี่เขาขนาดนั้น” เนมเดินมาดึงนะโมออกจากต้าร์ เพราะเขารู้สึกคันยิบๆ ที่หัวใจ เหมือนจะอิจฉาที่นะโมมันติดต้าร์มากว่าตัวเอง
“อะไรอ่า เนมเนม แค่นี้ก็ทำไม่ได้หรอ” มันทำหน้ายู่นิดๆ ก่อนจะเดินไปจุดเตาถ่าน ที่เนมใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงทำมันติดแต่ก็ไม่ติดนะโมเดินไปทำไม่ถึงหน้านาทีก็ได้เตาถ่านร้อนๆ พร้อมปิ้งย่างแล้ว
“เราเก่งมะ คึคึ”
“เออ มึงเก่ง ห่าแค่นี้ม่ทำอวด”
ระหว่างที่นะโมก้มลงเอาถ่านใส่เตา สายตาของเนมเหลือไปเห็นสร้อยที่อยู่ในเสื้อของนะโม ใจเขากระตุกวูบ แต่เห็นแค่แป๊บเดี๋ยวนะโมก็เงยขึ้น
“เอ๋อ สร้อยที่มึงใส่ กูขอดูได้รึเปล่า”
“สร้อย? อ๋อ สร้อยได้ๆ” นะโมหยิบเอาสร้อยออกมาให้เนมดู
“มะ..ไม่จริง มั้ง” มือเนมสั่นไปหมดตอนเห็นสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอของนะโม เพราะมันเหมือนกับของเขาไม่มีผิด
“อะไรเหรอ เนมเนม”
“มึงถอดมาให้กูหน่อยได้ไหม? นะกูขอดูหน่อย” เนมดูร้อนรน เขามองหน้าคนตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นแรง
“อะ นี่ คืนเราด้วยนะ ของหลวงตาให้เราไว้”
“ดะ ได้ ได้สิ”
พอได้มาเขาก็เอาสร้อยของตัวเองออกมาเทียบมันเหมือนกันราวกับว่าเป็นอันเดียวกัน เนมปลดสลักที่มีแต่คนในตระกูลเท่านั้นที่จะรู้วิธีเปิดมัน เนมปลดสลักออกโดยมีสายตาของคนขี้สงสัยมองอยู่
“*0* มันเปิดได้” พอเห็นว่าสร้อยที่ตัวเองใส่มันเปิดออกได้ร่างเล็กก็ร้องลั่น
“ฮึก..เจอแล้ว.. เจอแล้ว ฮึก”
หมับ!!!
“เอ้า เนมเนม กอดเราทำไมอะ แล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย เนมเนม” ร่างเล็กตกใจกับเพื่อนที่จู่ๆ ก็มากอดตัวเอง แล้วพูอะไรที่ไม่เข้าใจ
“เจออะไร เนมเนม”
“เจอ พี่ไง พี่ชาย พี่ครับ ! ”
“!!!!!!! ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Happy new years 2019 นะคะทุกๆ คน ขอให้นักอ่านทุกคนมีแต่ความสุข คิดสิ่งใดก็ขอให้สมหวัง มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามานะคะ รักทุกคนนะ
ปล. พี่น้องเค้าเจอกันละเน้อออ เจอกันง่ายไปไหมน้อ 555 นิยายไรท์ไม่มีไรซับซ้อนมาก อยากจะเจอก็เจองี้แหละ
คิกค้ากกกกก เนอะ