ตอนที่ 5
หลังจากที่มิวส์ได้รับอนุญาติจากเจ้าของห้องสุดโหดให้เหาะเหินเดินอากาศได้ตามสะดวกสบายภายในห้องพัก เขาก็เอาแต่นั่งอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ แล้วจ้องมองเจ้านายสุดโหดว่าวัน ๆ หนึ่งจะทำอะไรบ้าง
แล้วช่วงเวลาที่มิวส์รอคอยก็มาถึง เมื่อเจ้านายสุดโหดของเขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวทำท่าจะเข้าไปในห้องน้ำ
“เจ้านาย... จะทำอะไร" มิวส์เอ่ยขัดขึ้นก่อนที่ไม้จะเดินเข้าห้องน้ำ รู้ทั้งรู้ว่าเจ้านายจะอาบน้ำแต่ก็ขอถามเพื่อความแน่ใจหน่อยละกัน
“อาบน้ำ" ไม้ตอบออกไป "ทำไม... จะมาดูกูอาบน้ำเหรอ"
ได้ยินคำเอ่ยชวนจากน้ำเสียงที่ยั่วยวนของเจ้าชายสุดหล่อ เลือดกำเดาของวิญญาณติดที่อย่างมิวส์ก็แทบพุ่ง หากแต่ว่ามันไม่มีออกมาให้พุ่งน่ะสิ
มิวส์แสยะยิ้มออกมา แต่ทว่าก่อนที่จะได้ตอบอะไรออกไป ไม้ก็ดันเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
“ตอบช้าจริง กูไม่รอละ" พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเสียงที่ตะโกนจากภายในห้องน้ำอีกครั้งทำให้มิวส์ต้องรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาฉับพลัน "มึงอย่าเข้ามาในหองน้ำนะ ถ้าเข้ามา กูเอามึงตายรอบสองนี้"
“คร้าบ...” มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย พอสายตามองไปเห็นช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านบนของผนังห้องน้ำ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมาทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรอย่างที่คิด น้ำเสียงของเจ้านายสุดโหดก็ทำให้เขาต้องจ๋อยไปอีกรอบ
“แล้วก็อย่าริอาจลอยมาส่องดูกูที่รูระบายอากาศล่ะ แต่ถ้าอยากตายมึงก็มา"
“โด่... ดุชะมัด" มิวส์เอ่ยเบา ๆ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมา แล้ววิญญาณหน่อมแน้มก็ตัดสินใจไปนั่งกอดเฝ้ารอเจ้านายที่หน้าห้องน้ำ... ไม่รู้ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่จะนั่งรออยู่บนเตียงก็ได้ แต่ทว่ากับเจ้านายคนนี้เหมือนมีพลังพิเศษอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาอยากประจบประแจงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
มิวส์นั่งรออยู่หน้าประตูห้องน้ำไม่นานมากนัก เสียงลูกบิดก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคนที่กำลังอาบน้ำเพิ่งเสร็จกำลังจะเดินออกมา และในจังหวะนั่นเอง ไม้ที่ไม่ได้สังเกตว่าไอ้ผีหน่อมแน้มมันนั่งอยู่หน้าประตู ก็ได้เดินฝ่าทะลุออกไปทันที
ใบหน้าของมิวส์จมวับไปกับง่ามขาอันแข็งแกร่งของเจ้านายสุดหล่อในบันดล และดูเหมือนว่าไม้จะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเหมือนมีลมปะทะที่บริเวณง่ามขา พอหันหลังกลับไปดูก็พบกับร่างของวิญญาณหน่อมแน้มที่กำลังนั่งตัวแข็งอยู่ในหน้าห้องน้ำ
“อ้าวเฮ้ย!!! มึงมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" ไม้พูดด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง
หลังจากที่สติกลับคืนมา วิญญาณติดที่อย่างมิวส์ก็รู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า นี่ถ้าสามารถเปลี่ยนผิวจากซีดเผือดเป็นผิวปกติของมนุษย์ได้ล่ะก็ ป่านนี้แก้มของเขาคงแดงเปล่งปลั่งเป็นมะเขือเทศไปแล้ว
“กลิ่นเมื่อกี้นี้มันอะไร หอมชะมัด" มิวส์เอ่ยขึ้น ...เขาหมายถึงกลิ่นตอนที่ไม้เดินฝ่าร่างเขาออกไปพอดีน่ะนะ
“กลิ่น?” ได้ยินดังนั้นไม้ก็ทวนคำด้วยความฉงน "กลิ่นเชี่ยไรวะ"
“อ่อ... เปล่า เปล่าครับเจ้านาย" มิวส์เอ่ยขึ้น "เจ้านายรีบแต่งตัวดีกว่า ผมอยากไปเที่ยวข้างนอกแล้ว... น๊า นะนะนะ"
“เออ ๆ" ไม้ตอบรับ พอเห็นสีหน้าที่ออดอ้อน ดวงตาที่กลมโตลุกวาวราวกับเด็กอนุบาลที่กำลังจะได้ของเล่นชิ้นถูกใจ ไม้ก็ต้องหลุดขำออกมา ...จะว่าไป เขาชักรู้สึกว่าไอ้ผีหน่อมแน้มตนนี้มันน่ารักน่าเอ็นดูเสียแล้วสิ ถึงจะติ๊งต๊องและปอดแหกไปหน่อยก็เถอะ แต่ทำตัวน่ารัก ๆ อยู่ในโอวาทแบบนี้ก็ไม่รู้ทำไม เขาชักถูกใจอยากได้หมอนี่มาดูแลแล้วสิ
“มึงหยิบจับสิ่งของได้หรือเปล่าวะ" ไม้เอ่ยถาม เพราะชักนึกอะไรสนุก ๆ ออก
“ถ้าไม่หนักมากก็ได้ครับ" มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
“งั้น... ไปหยิบเสื้อกับกางเกงที่อยากให้กูใส่พามึงไปเที่ยวมาให้ชุดหนึ่งดิ"
สิ้นเสียงคำสั่ง มิวส์ก็ปฏิบัติตามทันที ถ้าเป็นหมอนี่ต่อให้สั่งอะไรมาเขาก็ยินดีทำทุกอย่างนั่นแหละ ดีกว่าต้องไปโดนพลังเตะหรือเจออะไรแผลง ๆ ที่หมอนี่จะสรรหาวิธีมากลั่นแกล้ง
หลังจากที่เลือกชุดอยู่สักพัก มิวส์ก็ต้องชะงักไปชั่วครู่ เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายสุดโหดคนนี้จะไปไหนบ้าง จึงไม่รู้จะเลือกชุดประมาณไหนดี
“ว่าแต่เจ้านายจะออกไปที่ไหนบ้างครับ" มิวส์เอ่ยถาม
“เอ้า! มึงอยากไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ กูก็จะพามึงไปเที่ยวไง" ไม้ตอบกลับด้วยความฉับไว
“เที่ยว? ที่ไหนบ้างครับ"
“ก็พาไปเที่ยวห้าง พาไปดูหนัง พอเย็นก็ไปเดินกินบรรยากาศที่สวนสาธารณะกันดีไหม"
“ดีครับ ดี ๆ" มิวส์ตอบกลับ พอรู้ว่าจะได้ไปเดินเที่ยวสวนสาธารณะด้วย ใส่เสื้อยืด กางเกงสามส่วนธรรมดา ๆ ก็ได้มั้ง
พอเจอชุดที่ถูกใจ มิวส์ก็หยิบมันไปให้กับเจ้านายสุดโหดของเขาทันที
ไม้เหลือบมองดูเสื้อยีดส์สีขาว มีลายอาร์ต ๆ สีดำตรงกลางเสื้อ กับกางเกงผ้ายีนส์สามส่อนที่หยิบมา แล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่ใบหน้า เขาไม่ลังเลยสักนิดที่จะรีบหยิบมันมาสวมใส่
“ทำไมถึงเลือกชุดนี้" ไม้เอ่ยถาม เพราะการที่มิวส์เลือกชุดนี้ มันทำให้ไม้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามเดือนก่อน... วันนั้นไม้ให้แม็กกี้เลือกชุดที่จะใส่ไปเดินเที่ยวสวนสาธารณะด้วยกันให้ ซึ่งแม็กกี้ก็หยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสวามส่วนตัวนี้มาเหมือนกัน
“ก็... มันเหมาะที่จะใส่ไปเดินสวนสาธารณะ ผมชอบให้เจ้านายใส่เสื้อสีขาวอ่ะ ใส่แล้วดูเท่ดี" เพราะสายตาผมจะได้แทะโลมเจ้านายด้วย ก็เสื้อสีนี้มันมองเห็นเนื้อแน่น ๆ ของเจ้านายง่ายดี...
“อืม...” ไม้ตอบรับ หลังจากที่เขาแต่งตัวเสร็จ เขาก็อธิบายเรื่องราวคล้าย ๆ กันที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อนให้มิวส์ฟัง "ตอนนั้น... แม็กกี้ก็เลือกชุดนี้ให้กู ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม พอเห็นมึงเลือก กูก็เลยอยากรู้เนี่ยแหละ"
เหมือนว่าเรื่องที่ไม้เล่าจะซึ้ง แต่ทว่ามันไม่ได้ทำให้วิญญาณอย่างมิวส์รู้สึกซึ้งไปด้วยเลยสักนิด 'กะจะแทะโลมเจ้านายเหมือนกันล่ะสิ'
มิวส์ทำได้แค่คิด ก่อนที่จะตอบด้วยเหตุผลที่น่าฟัง "ก็มันใส่สบาย ๆ อ่ะ เจ้านายใส่เสื้อตัวไหนก็เท่อยู่แล้วล่ะ"
“มึงนี่ก็ปากหวานดีเนอะ" คนที่ได้ชื่อว่าเป็น 'เจ้านาย' เอ่ยชมก่อนที่ประโยคถัดไปจะทำให้ลูกน้องซึ่งเป็นวิญญาณผีหน่อมแน้มถึงกับร้อนวูบวาบที่ใบหน้า "กูชักจะชอบมึงแล้วสิ"
ทำไมนะ... มิวส์เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหมอนี่มีดีอะไร นอกจากใช้กำลังข่มขู่และชอบทำตัววางก้าม ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีพอที่จะทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวเลย หากเขายังเป็นมนุษย์ นิสัยโผงผางแบบนี้คงไม่ได้แอ้มเขาหรอก ...หรืออาจเป็นเพราะว่าการที่ไม้เป็นคนรุนแรงแต่ตรงไปตรงมาแบบนี้ มันทำให้เขาคิดว่านี่แหละคือความจริงใจ ไม่ใช่การเสแสร้ง...
ใช่... พอเอ่ยถึงคำว่า 'เสแสร้ง' ภาพของชายหนุ่มผิวขาว ตาตี่ ส่วนสูงพอ ๆ กันก็ลอยเข้ามาในหัวของมิวส์ทันที ก้องเป็นคนที่มีบุคลิกลักษณะนิสัยภาพนอกดูดีทุกประการ อีกทั้งนิสัยที่ให้เกียรติมิวส์เสมอทำให้ไม่แปลกเลยที่มิวส์จะตกหลุมรักเขาเอาง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้น เขาเองก็มีผู้ชายที่หน้าตาดีกว่ามาจีบตั้งเยอะแยะ แต่เขาก็ดันไปเลือกไอ้ตี๋นั่น เพียงเพราะนิสัยใจคอภายนอกที่เห็น จนท้ายที่สุด 'ก้อง' ก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องสิ้นลมหายใจ
“เป็นอะไร" เสียงที่ดังขึ้นทำให้สติของมิวส์กลับคืนมา ไม้เห็นว่าจู่ ๆ ไอ้วิญญาณหน่อมแน้มนั่นก็นิ่งเงียบไปก็รู้สึกใจไม่ดี
“เปล่าครับ" มิวส์ปฏิเสธออกไป พอคิดถึงเรื่องก้องทีไรเขาก็ต้องอยู่อย่างไม่สงบใจทุกครั้ง
“เปล่าก็ดี ไปข้างนอกกันเถอะ กูหิวข้าวแล้ว"
กว่าที่จะออกจากหอพักได้ พิธีการที่วุ่นวายสำหรับการเชิญชวนให้วิญญาณติดที่อย่างมิวส์ได้ออกไปเที่ยวเตร่ข้างนอกก็เล่นเอาเสียเวลาไปหลายนาทีเหมือนกัน เพราะไหนจะต้องเตรียมธูปเทียนและดอกไม้ให้ครบตามที่ท่านเจ้าที่สั่ง ยังต้องเสียเวลาไปซื้อหมูหันมาถวายท่านเจ้าที่อีก
“ท่านเจ้าที่... ถ้าผมจะพาไอ้มิวส์ต้องออกไปข้างนอกเนี่ยผมต้องไปซื้อหมูหันมาถวายทุกครั้งเลยป่ะ" หลังจากที่ของทุกอย่างครบ มิวส์ก็เอ่ยปากถามกับชายชราชุดขาวที่ยืนอยู่บริเวณหน้าศาลพระภูมิ
“ก็เออสิวะ... จริง ๆ ไม่ต้องเป็นหมูหันก็ได้ ของกินอร่อย ๆ อะไรก็เอามาเถอะ เพียงแต่ครั้งแรกมันต้องถวายหนัก ๆ เท่านั้น" ท่านเจ้าที่ตอบออกมาโดยที่พยายามเก็บอาการขำไว้ในใจสุดฤทธิ์ ...ไอ้หนุ่มนี่ก็ซื่อเหมือนกันแฮะ หลอกง่ายดี
ความจริงแล้วการที่จะขอให้พาวิญญาณออกนอกสถานที่ที่เจ้าที่ดูแลนั้น เพียงแค่จุดธูปไหว้แล้วเอ่ยปากเชิญชวนก็ได้แล้ว แต่ที่ท่านเจ้าที่ต้องสั่งให้ไปซื้อหมูหันมาถวายก็เพราะว่า ความละโมภโลภมากบวกกับความตะกละของตัวเองก็เท่านั้นแหละ
“งั้นผมไปก่อนล่ะนะ" หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายไม้ก็เอ่ยลาทันที "ป่ะ ไอ้มิวส์ไปกันได้แล้ว"
ในขณะที่ไม้เดินออกจากเขตรั้วหอพักด้วยความสบายใจ มิวส์ที่นึกถึงความเจ็บปวดทรมานในวันที่เขาเคยคิดจะออกจากที่นี่แล้วมีพลังบางอย่างมาทำให้ร่างกายปวดแสบปวดร้อนหลังจากที่ก้าวขาออกไป ก็เลยทำให้เขากล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะออก จะก้าวขาออกไปก็กลัวจะเกิดอาการแบบครั้งนั้น
การกระทำของมิวส์ทำให้ท่านเจ้าที่หัวเราะชอบใจอยู่เบื้องหลัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหน้าหล่อเดินไปไกลแล้ว ท่านเจ้าที่จึงช่วยสงเคราะห์ให้ไอ้วิญญาณหน่อมแน้มกล้าที่จะออกจากหอพักด้วยการถีบก้นแรง ๆ หนึ่งที
"โอ๊ยยย...." ร่างของมิวส์กลิ้งหลุน ๆ ไปตามแรงถีบ ปากก็โห่ร้องราวกับกำลังปวดแสบปวดร้อนไปทั่วร่างกาย แต่ทว่าพอตั้งสติได้ มิวส์ก็ต้องฉีกยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ "ไม่เจ็บนี่หว่า... ขอบคุณนะท่านลุง"
พูดจบก็รีบวิ่งตามไปยังร่างของเจ้านายสุดโหดทันที
รถประจำทางที่กำลังวิ่งบนท้องถนนที่เงียบสงบ บัดนี้ไม่มีใครรู้เลยว่านอกจากพวกเขาแล้วยังมีวิญญาณอีกหนึ่งตนกำลังนั่งโดยสารไปด้วย เว้นก็แต่ไม้เท่านั้น
มิวส์ทอดสายตามองสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงชันแล้วความรู้สึกสดชื่นที่เขาไม่เคยสัมผัสมากว่า 10 ปีก็ทำให้ใบหน้าของเขาในยามนี้อยู่ในอารมณ์ที่เคลิบเคลิ้มที่สุด... ผิดกับไม้ที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาไม่เข้าใจว่าไอ้วิญญาณหน่อมแน้มนี่จะมานั่งตักเขาทำไม แม้ที่นั่งจะเต็มพอดีก็เถอะ แต่มันก็ยืนได้นี่นา
“มานั่งตักกูทำไม" ไม้ทำปากขมุบขมิบ พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุด เพราะไม่อยากให้คนที่โดยสารบนรถจับพิรุทธิ์และสงสัยว่าเขากำลังคุยกับใคร
“ก็ที่นั่งมันเต็มนี่ครับ" มิวส์ตอบออกมา ...อีกอย่างตักเจ้านายก็อุ่นจะตายไป
ได้ยินคำตอบของวิญญาณหน่อมแน้ม ไม้ก็ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาเท่านั้น แล้วทนให้มันนั่งตักไปจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง
ไม้เดินเข้าไปในห้างและสถานที่แรกที่เขาตัดสินใจไปก็คือโรงหนัง
“เรื่องนี้นะคะ" พนักงานขายบัตรถามย้ำเมื่อเห็นว่าไม้เลือกเรื่องที่จะดูได้แล้ว... ไม้พยักหน้าเป็นคำตอบ จากนั้นพนักงานก็ถามต่อ "กี่ที่ดีคะ"
“สองที่ครับ ตรงนี้ครับ" พูดจบก็จิ้มที่หน้าจอที่เป็นสัญลักษณ์ที่นั่ง ซึ่งเขาเลือกที่นั่งประจำเวลาที่มาดูหนังกับแม็กกี้
ใช่! แต่นี่เขาไม่ได้มาดูหนังกับแม็กกี้นี่นา แล้วเขาซื้อตั๋วมาสองใบทำไม กว่าจะรู้ตัว ก็ต้องเสียตังค์ฟรี ๆ ให้กับค่าตั๋วหนังตั้งใบหนึ่ง
พอถึงเวลาหนังฉาย ไม้กับมิวส์ก็ตรงเข้าไปยังโรงหนังทันที ซึ่งหนังที่เขาเลือกดูมันเป็นหนังผีด้วยล่ะ
ไม้กับมิวส์นั่งเก้าอี้ติดกัน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงบ่าย คนจึงยังไม่เยอะมากนัก และที่นั่งข้าง ๆ คนพวกเขาก็ว่างเสียด้วย
ทั้งสองนั่งดูหนังไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหนังเกือบจบ เสียงสะอื้นที่ดังอยู่ข้าง ๆ เลยทำให้ไม้ต้องหันไปเอ่ยถาม
“เป็นไรวะ"
“หนังมันซึ้งครับ" มิวส์ตอบกลับ แม้วิญญาณจะไม่มีหยาดน้ำตา แต่ถ้ารู้สึกซึ้งเมื่อไหร่ก็สามารถส่งเสียงสะอื้นได้ไม่ต่างจากมนุษย์ "เจ้านายดูสิครับ น่าสงสารผีในเรื่อง ที่เธอไม่ไปไหนก็เพราะยังมีห่วง... และรอการกลับมาของใครบางคน แต่ทว่าท้ายที่สุดการรอคอยของเธอก็ว่างเปล่า และจบลงโดยที่เธอต้องอยู่โดดเดี่ยวในปรโลกต่อไป มันคล้าย ๆ กับผมเลย...”
ดวงตาที่กลมโตและบวมเป่งในยามนี้ช่างดูน่าเอ็นดูเหลือเกิน... เกิดมาเขาก็เพิ่งเคยเห็นวิญญาณสะอื้นไห้ คิดแล้วก็อดขำไม่ได้ ท้ายที่สุดไม้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นโรงหนัง ทั้ง ๆ ที่ฉากในหนังกำลังเป็นฉากซึ้ง
แม้จะไม่มีเสียงตำหนิหลุดออกมา แต่ทว่าเสียงพ่นลมหายใจและรังสีอำมหิตที่สัมผัสได้ก็ทำให้ไม้รู้ว่าเสียงหัวเราะของเขาเมื่อครู่ ได้ทำให้คนที่มาชมหนังในรอบนี้กำลังอาฆาตเขา และทันทีที่หนังจบ ชายหนุ่มผู้หัวเราะขำขันกับฉากหนังที่กำลังเศร้าก็รีบวิ่งออกจากโรงเป็นคนแรกทันทีก่อนที่จะโดนรุมประชาทัณฑ์
จบตอน
ปล. ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก 'ตัวตายตัวแทน' เป็น 'วิญญาณป่วนกวนรัก' นะครับคิดว่าน่าจะเข้ากับบทเนื้อเรื่องที่เป็นแนวฮา ๆ มากกว่า
-----------------------
คุยกับคนอ่านที่น่ารัก
คุณ
naruxiah :: ^^ ขอบคุณคร้าบ อัพแล้วนะครับอยากรู้ว่าเป็นไงต่อติดตามได้เลยครับ
คุณ
Fujoshi :: ชอบคุณคร้าบ ^^ ดีใจจังตอนแต่งกังวลมากๆว่ามันจะออกมาฮาไหม อ่านแล้วยิ้มหรือเปล่า อ่านเม้นท์นี้นี่ยิ้มแก้มปริแล้วครับ อิอิ
คุณ
puppyluv :: ขอบคุณคร้าบ ^^ พอดียังเป็นสมาชิกใหม่ของบอร์ดนี้บวกเป็ดคืออะไร งง ๆ ตอนนี้เข้าใจแล้ว ต้องบวกเป็นให้คนเม้ท์ทุกคนเลยดีกว่า >.< จากใจ
คุณ
sang som :: ใครคู่ใครต้องติดตามกันต่อไปครับ ^^
คุณ
nunnan :: อ๊ะ... วิญญาณหื่นมาแล้วนะครับ
คุณ
iamnan :: ฮ่าๆๆ บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรร้ายแรงอย่างที่คิดก็ได้คร้าบ เอิ้กๆ มิวส์อาจจะชอบ *0*