--- 50%
“มึงอย่าไปบอกใครนะ แต่กูว่าหญิงแม่งแอบชอบผู้ชาย”
“อันนี้กูยังต้องแกล้งตกใจให้ไหม”
“เชี่ยนี่ซีเรียส ไอ้พี่เป้อะไรนั่นแม่งไม่น่าไว้วางใจเลย ชอบใครไม่ชอบทำไมต้องไปชอบไอ้หน้าขี้แมวนั่นวะ”โว้ยยยย คิดแล้วหัวร้อน บุกไปต่อยเลยดีไหมเนี่ย คันไม้คันมือขึ้นมาแล้ว ไว้เข้าห้องปกครองค่อยบอกพ่อว่าซ้อมมวย
“เป้ไหน ไอ้เป้กรรมการนักเรียนอ่ะนะ?” ได้ยินชื่อมันแล้วคันหูเพิ่มขึ้นมาด้วย เดี๋ยวกลับบ้านไปเปิดเพจแอนตี้แฟนพี่เป้วงมายด์แม่งเลยหงุดหงิด
“มึงอย่าพูดชื่อมัน กูฟังแล้วเหม็นขี้”
“น้องหญิงเนี่ยนะจะชอบไอ้เป้ มึงมั่วแล้ว” ผมจ้องหน้าไอ้มงทันทีทันใด อะไรมาทำให้มันมั่นใจว่าผมมั่ววะ
“แล้วมึงคิดว่ากูมั่วได้ไง”
“โอ๊ยพี่ มึงไม่สังเกตจริงๆหรอว่าหญิงมันมีคนที่ชอบมาตั้งนานแล้วที่ไม่ใช่ไอ้เป้ มึงคิดดีๆ” ผมชะงักไปนิดหนึ่ง คิดดีๆงั้นหรอ? หระ... หรือว่า...
“ไอ้โป่งหรอ!!!”
ชะ! ชะ!
ไอ้โป่ง!!
กูว่าแล้วเชียว เล่นบทไจแอ้นท์มาตั้งนานที่แท้แกล้งเพราะแอบชอบน้องกูนี่เอง พล็อตซีรี่ส์เกาหลีเชียวนะมึง แกล้งทุบให้รู้ว่ารักแน่ๆ สงสัยกลับบ้านไปวันนี้ต้องวางมวยกันสักตั้งแล้ว
“กูหล่ะหมดปัญญาจะแหกตามึงแล้ว เอาเป็นว่ามึงไปนั่งคิดดีๆเถอะว่ามึงไม่รู้จริงๆหรือมึงปิดตาตัวเองไว้” ไอ้มงยกมือขึ้นตบบ่าผมป้าปๆแล้วก็สะบัดตูดเดินขึ้นตึกไป ปล่อยให้ผมยืนงงในดงความคิด หญิงชอบใครคนหนึ่งมาสักพักแล้วแต่ผมไม่รู้เนี่ยนะ แม่งโคตรเป็นไปไม่ได้แต่ดันเป็นไปแล้ว
ใช่ มันเป็นไปแล้ว...
ที่ร้อนใจขนาดนี้เป็นเพราะอะไรกันวะ มันน่าหงุดหงิดที่ใจผมอยู่ไม่นิ่งเลย มันทั้งกังวลทั้งน้อยใจทั้งสงสัย คามปั่นป่วนทั้งหมดพาผมมาหยุดอยู่หน้าชมรมถั่วงอกของมัน ชมรมเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ทำไมโรงเรียนถึงอนุญาตให้ตั้งขึ้นมาได้วะเนี่ย
ครืด!
“อ๊ะ...” หญิงสะดุ้งไปนิดหนึ่งที่เปิดประตูออกมาเจอผม หน้าซนๆของมันขึ้นสีแดงเจือเล็กน้อย หญิงเป็นคนผิวขาว เพราะงั้นเวลาที่เหนื่อยตัวจะแดงอย่างเห็นได้ชัด ว่าแต่ไปเหนื่อยอะไรมาวะ ก้มปลูกถั่วงอกหรอ
“ตัดสายกู”
“พี่...”
“หญิงมึงลืมกระเป๋า อ้าว...” หน้าของไอ้เป้โผล่มาด้านหลังพร้อมกับมือของมันที่จับลงบนบ่าหญิง พอมันเห็นว่าผมยืนอยู่ก็กระตุกยิ้มที่เห็นแล้วแม่งควรได้รับรางวัลรอยยิ้มกวนส้นตีนอวอร์ดสุดๆ
“ยิ้มเหี้ยไร เอามือออกจากหญิงเลยมึง”
“จับนิดจับหน่อยเนาะๆ” กวนตีน ผมเดินไปผลักหน้ามันออก หายใจรดหญิงก็สกปรกแล้ว
“อย่าตีกัน”
“นี่ห่วงมันหรอ” ผมจ้องขวับไปที่หญิง
“โว้ยไม่รู้แล้ว ห่วงถั่วงอกก็ได้ ฮึ่ย!!”
อ้าว โดนน้องตีอย่างงงๆ หญิงฟาดมือป้าปเข้าให้กลางอกผมแล้วก็วิ่งดุ๊กๆหนีไป ผมได้แต่ยืนงงไปสามวิแต่ก็ไม่ลืมคว้ากระเป๋าหญิงในมือไอ้ขี้มาถือไว้แล้ววิ่งตามน้องไป ผมได้เปรียบเนื่องจากช่วงขาที่ยาวกว่าบวกกับเป็นนักกีฬาวิ่งแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวหญิงได้อย่างรวดเร็ว
“วิ่งทำไมเนี่ย ดูดิหน้าแดงหมดแล้ว” ผมจับแขนหญิงไว้ให้มันหยุดวิ่ง หญิงเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย ขนาดแค่วิ่งนิดวิ่งหน่อยก็หายใจหอบแล้ว ตอนที่รู้ว่ามันจะลงแข่งบาสผมถึงปวดหัวแทบตาย
“ก็พี่นั่นแหล่ะ”
“กูหรอ? กูทำไม?”
“อยู่ๆก็โผล่มา”
“มึงตัดสายกู”
“แล้วไง!!”
“ถ้ามึงตัดสายกู จำไว้เลยไม่ว่าอยู่ที่ไหนกูก็จะโผล่ไปตีมึงแบบนี้” ผมตีเบาๆลงบนหน้าผากของหญิง มันไม่จำหรอก เดี๋ยวก็ทำอีก ไอ้เด็กดื้อ
“พูดงี้เดี๋ยวหญิงจะไม่รับสายพี่อีกเลย”
“กวนตีนหรอไอ้หมวย” ยังจะมายิ้มตอบอีก เป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ผมดุ มันจะชอบยิ้มน่ารักออกมาจนผมต้องยิ้มตามทำให้ไม่เคยจะโกรธมันได้นานสักที
“วันนี้พี่มาฟังหญิงร้องเพลงป่ะ”
“อื้อ”
“หญิงร้องเพราะป่ะ”
“เฉยๆ”
“ไอ้พี่พี่” เสียงเข้มขมวดคิ้วทำหน้าดุแต่ดูไปดูมาเหมือนแมวขู่มด
“ก็เฉยจริงๆ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟังมึงร้องเพลงสักหน่อย”
“ไม่เหมือนกันป่ะ นี่ร้องบนเวทีเลยนะ”
“บังเอิญบนเวทีมีไอ้หน้าขี้ช้างอยู่ข้างมึงด้วยกูเลยไม่ค่อยได้โฟกัสมึงร้องเท่าไหร่ รำคาญตามากกว่า” เนี่ย พูดแล้วก็คันตีนขึ้นมาอีก วิ่งกลับไปต่อยหน้าสักหมัดก่อนกลับบ้านดีไหมวะ
“สนใจแต่พี่เป้ไม่ได้สนใจหญิงว่างั้น”
“กูจะสนใจมันมากกว่ามึงได้ไง ว่าแต่ไหล่หายเจ็บยัง” ผมจับเบาๆบริเวณไหล่ของหญิงที่เพิ่งถูกกระแทกมาตอนแข่งบาส
“ปวดอยู่หน่อยๆ”
วันนี้มีแต่เรื่องให้หงุดหงิดจริงๆแหล่ะ ไม่ว่าจะเรื่องไอ้เป้และเรื่องที่หญิงโดนกระแทกจนล้มตอนแข่ง วินาทีที่หญิงล้มลงไปกระแทกกับสนามบาสคือวินาทีเดียวกับที่ผมอยากกระชากคอเสื้อเพื่อนร่วมทีมตัวเอง หญิงเป็นคนตัวบางมาตั้งแต่เด็ก พาไปวิ่งหรือพาไปกินแค่ไหนก็ไม่ค่อยอ้วนขึ้น ผมเลยเลิกล้มความคิดที่จะฟิตให้มันแมนไปตั้งแต่ม.ต้นแล้วตัดสินใจที่จะคอยดูแลไม่ให้ใครมาแกล้งมันมากกว่า
...ดูแลมาตั้งนาน จู่ๆมาเจ็บตัวต่อหน้าใครมันจะไปใจเย็นได้วะ
“เดี๋ยวกลับบ้านไปทายาด้วยนะ”
“ครับพ้ม”
เสียงเล็กๆที่ตอบออกจากปากเล็กๆแม่งโคตรน่ารัก ไม่แปลกที่หญิงจะฮอตในหมู่ผู้หญิงแล้วก็ผู้ชาย สำหรับผู้หญิง หญิงคงเป็นผู้ชายที่เหมือนดาราเกาหลีคนหนึ่ง ทั้งผิวขาวทั้งหน้าหวานถึงมันดื้อกับผมแต่มันไม่ค่อยแสดงด้านนี้กับใคร กันนอกมันก็เป็นเด็กผู้ชายธรรมดาที่หน้าหวานคนหนึ่งที่ทำให้สาวกรี๊ดได้ ส่วนในมุมของผู้ชายซึ่งเป็นมุมที่ทำให้ผมเป็นห่วงที่สุด อาจจะเพราะเรามองจากมุมเพศเดียวกัน ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะหวังดีกับมันจริงๆหรือเปล่า แต่แค่คิดภาพว่ามือผู้ชายสักคนมาจับแขนหญิงแรงๆผมก็ยอมไม่ได้แล้ว
“นี่ หญิง”
“หือ?”
“สัญญากับกูมาหน่อย”
“สัญญาอะไรอ่ะ” ผมหยุดเดินพร้อมกับจ้องไหล่เล็กๆที่เดินนำหน้าไปนิดหน่อย ต่อให้มันจะโตขึ้นมากแค่ไหน มันก็ยังเป็นไอ้น้องหญิงใส่เสื้อสีชมพูคนเดิมของผมเสมอ
“มีอะไรต้องบอกกูนะ อย่ามีความลับกับกู”
หญิงชะงักแล้วหันหลังกลับมาจ้องหน้าผม
“สะ สัญญาอะไรอ่ะ ทำไม...”
“อย่าถามเยอะดิ มึงเป็นคุณปัญญาหรอมาถามคำถามกู” หน้าซนของมันขมวดคิ้วแน่น
“จู่ๆพี่มาขอให้สัญญาอะไรแบบนี้วะ”
“สัญญามาก่อนไอ้หมวย”
หญิงจ้องหน้าผมกลับ สีหน้าของหญิงค่อยๆเปลี่ยนจากสีหน้าหงุดหงิดเป็นสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ถูก หญิงก้มหน้ามองพื้นสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มตอบผม
“อือ สัญญา”
“ดีมาก”
“แต่พี่ก็ต้องสัญญากับหญิงนะ”
“สัญญาอะไร”
“อย่าถามเยอะดิ เป็นคุณปัญญาหรอมาถามคำถามหญิง” มีย้อนโว้ย ผมเดินไปขยี้หัวน้อยๆของมัน เด็กบ้าอะไรวะ กวนตีนยังน่ารัก
“ไหนสัญญาอะไรว่ามา”
หญิงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินมาประชิดตัวผม
“สัญญามาก่อนว่าเราจะเป็นพี่น้องกันตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
อาจจะเพราะอาการปวดไหล่ของหญิงมันคงจะเจ็บมาก ยิ้มของหญิงถึงดูเศร้าจนผมต้องรั้งน้องมากอดไว้แน่น
กอดแน่นๆเพื่อปลอบความเจ็บปวดของมัน
กอดแน่นๆเพื่อที่ได้ไม่ต้องเห็นรอยยิ้มเศร้าของมัน
กอดแน่นๆเพื่อที่จะทำให้มันมั่นใจว่าผมจะไม่ไปไหน
พี่น้องกันตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น....
“กูสัญญา”