ตอนที่ 4 ผู้ปกครองคนใหม่
วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษ เพราะวันนี้เป็นวันประชุมผู้ปกครองและรับผลสอบปลายภาคเทอมสุดท้ายของมัธยมหก ถือว่าผมเรียนจบแล้ว พี่ภาสัญญาว่าถ้าผมสอบได้เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไปจะพาผมไปซื้อกระเป๋าเป้ยี่ห้อที่ผมอยากได้มานานแล้ว ผมจึงดีใจเป็นพิเศษตั้งใจว่าจะลงมาทำข้าวต้มกุ้งให้พี่ภารับประทานตอนเช้าเป็นการตอบแทนหรือเรียกว่าประจบพี่สาวนั่นเอง
“แหม ข้าวต้มหอมฉุยเชียว น่าทานจัง วันนี้น้องพี่เป็นไรรึเปล่าน้า ใจดีจัง” พี่ภาที่เดินลงมาจากชั้นสองถึงโต๊ะอาหารพร้อมกับเขาเอ่ยทักขึ้นก่อน
“ก็วันนี้ผมจะโชคดีได้กระเป๋าใหม่ไงครับ” ผมตอบยิ้มแย้ม
“ใช่ ด้วย ตายจริงพี่ลืมสนิทเลยว่าต้องไปประชุมผู้ปกครองวันนี้แล้วก็รับผลสอบ” พี่ภาทำท่าตกใจ แต่ผมว่ามันดูไม่เนียนเลย
“พี่ภาอ่ะ อะไรกันล่ะครับเมื่อวานยังคุยเรื่องนี้กันอยู่เลย” ผมแย้ง
“พี่ต้องขอโทษจริงๆ นะภัท พี่ลืมไปว่าวันนี้งานมียุ่งมาก ต้องรับลูกค้าฝรั่งด้วย”
“แล้วจะทำไงล่ะครับ ไม่งั้นผมไม่จบด้วยนะ”
“เอางี้แล้วกันนะ เสือคะวันนี้เสือไปไหนรึเปล่าคะ” พี่ภาหันไปคุยกับเขาที่นั่งลงแล้ว กำลังจะตักข้าวต้มกุ้งที่ผมทำเขาปาก
“เปล่า ไม่มีธุระอะไร” เขาเอ่ยเสียงเรียบๆ
“ถ้างั้น ภารบกวนเสือช่วยไปประชุมผู้ปกครองแทนภาทีได้ไหมคะ วันนี้ภาไม่วางจริงๆ”
“ไม่นะครับ” ผมรีบแย้งทันที หันหน้าไปมองเขา เขาก็ทำหน้านิ่งๆ เหมือนจะอึ้งอยู่เหมือนกัน
“นะคะ เสือ ไปแทนภาหน่อยนะคะ แล้วก็ช่วยพาภัทไปซื้อกระเป๋าด้วยนะคะ ภาสัญญากับน้องไว้” พี่ภาสั่งยาวเหยียด ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่ภาลืมจริงๆ
“ก็ได้ ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว” เขาเอ่ยตอบเสียงเรียบๆ ใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงความรู้สึก
“ไม่ได้นะครับ อาจารย์ไม่เชื่อหรอกครับ” ผมเถียงไปข้างๆ คูๆ
“งั้นพี่โทรไปบอกอาจารย์ก่อนแล้วกัน อาจารย์คงไม่ว่าอะไรหรอก” พี่ภาตอบยิ้มๆ
“แต่ว่า...” ผมจะเถียงแต่เถียงไม่ออก
“ไม่ต้องแต่เลยนะภัท เอาตามที่พี่ว่าแหละ เช้านี้ก็ไปกับพี่เสือเลยนะ” พี่ภาสรุปแล้วก็เริ่มตักข้าวต้มกุ้งกิน ส่วนผมต้องนั่งลงอย่างจำใจ หันไปมองหน้าเขา เขาก็ทำเป็นเฉยๆ เหมือนไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งสิ้น บ้าชะมัด ทำไมรู้สึกเหมือนพี่ภากำลังจะแกล้งผมยังไงยังงั้นเลย
////////////////////////////////////
ผมนั่งเงียบมาตลอดทางระหว่างที่อยู่บนรถของเขา ผมรู้สึกเหมือนว่าเขาขับช้าเหลือเกิน คงเป็นเพราะผมทำตัวไม่ถูกมากกว่า เพราะไม่เคยอยู่กับเขาตามลำพังมาก่อน เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไร ผมแอบมองเขาเป็นระยะๆ แต่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจหรือหันมามองผม เขาขับรถไปเรื่อยๆ จนรถเลี้ยวเข้าไปในโรงเรียน ทั้งคนและรถเยอะมากกว่าจะหาที่จอดรถได้ต้องวนอยู่หน้าตึกเรียนอยู่นาน
“อ้าวถึงแล้ว ลงไปซิ หรือจะต้องให้เดินลงไปเปิดประตูให้ด้วย แต่คงไม่น่าจะต้องหรอกมั้ง” เขาเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากจอดรถเรียบร้อย บ้าชะมัด! พูดดีๆ ก็ไม่ได้ ผมได้แต่นิ่งไม่อยากตอบโต้อะไรเขาให้อารมณ์เสียแต่เช้า ผมเปิดประตูรถแล้วก็เดินนำเขาเข้าตึกเรียนไปก่อน โดยไม่หันหลังมามองด้วยซ้ำ เขาก็เดินตามมาเรื่อยๆ จนถึงห้องเรียน ผมเห็นพลชาติกับพ่อและสุทัตกับแม่นั่งอยู่ด้านหลังห้องจึงเดินเข้าไปทักและสวัสดีพ่อแม่ของทั้งสองคนก่อน ท่านทั้งสองยิ้มให้ผม ครอบครัวเราทั้งสามคนรู้จักกันมานานแล้ว ส่วนเขาก็ยกมือไหว้ทั้งสองคนด้วย
“เฮ้ย ภัทแกมากับพี่หน้าดุนั่นได้ไงอ่ะ” ไอ้สุทัตสะกิดแขนผมและกระซิบถามเบาๆ ที่ข้างหู
“เรื่องมันยาวน่ะ” ผมบอกปัดไม่อยากจะคุยอะไรตอนนี้เพราะรู้ว่าเขากำลังมองคอยจับผิดผมอยู่ ผมจึงรีบเดินนำเขาไปนั่งตรงที่ว่างข้างประตูห้อง
“มานั่งซิ จะยืนกระซิบค้ำหัวผู้ใหญ่กันอีกนานไหม” เขาเอ่ยเสียงเบาแต่จงใจให้ผมได้ยินคนเดียว
ผมต้องรีบนั่งลงข้างๆ เขา ต่างคนต่างมองไปยังหน้าห้อง หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็เขามากล่าวทักทายผู้ปกครองพร้อมกับกล่าวแสดงความยินดีกับนักเรียนที่จะจบมอหกทุกคน แล้วอาจารย์ก็แจกแบบสอบถามให้ผู้ปกครองตอบแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการประชุมวันนี้
ผมเหลือบไปมองกระดาษพบโต๊ะเขา เห็นเขากรอกชื่อ นามสกุล และอายุ
อายุ...........อายุ เขากรอกว่าอายุ ‘30’ ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาอายุ 30 แล้ว พี่ภาอายุห่างจากผม 5 ปี ถึงแม้พี่ภาจะไม่ได้เรียกเขาว่าพี่ แต่ผมก็รู้ว่าเขาอายุมากกว่าพี่ภา แต่เมื่อคาดคะเนจากหน้าตาเขาก็ไม่คิดว่าจะเขาจะแก่ว่าพี่ภาหลายปีอยู่ มิน่า! ชอบบ่นชอบว่าผมเป็นตาแก่เลย ผมแอบเบ้ปากและนึกขำในใจ
“ยิ้มอะไร” เขาหันมาถามหน้าบึ้งเชียว
“เปล่าครับ”
“ก็เห็นว่ายิ้มอยู่”
ผมแกล้งเหลือบตาไปมองที่กระดาษ จงใจจ้องให้เห็นว่าผมมองที่ตัวเลขตรงอายุของเขา
“กำลังจะหาว่าชั้นแก่ล่ะซิ” เขาเดาไม่ผิด เรื่องอย่างนี้เก่งชะมัด!
“เปล่าครับ”
“แต่รู้ก็ดีแล้ว ทีหลังจะได้ไม่ทำตัวก้าวร้าวกับผู้ใหญ่อีก”
“ผมไม่ได้ก้าวร้าว”
“ก็ที่ทำอยู่นี่ไง”
“ผมเปล่า” ก่อนที่จะโต้เถียงกันให้นานไปกว่านี้ เสียงอาจารย์ก็ดังขึ้นชี้แจงข้อความในแบบสอบถามแจกผลการเรียนในเทอมสุดท้ายพร้อมใบประกาศนียบัตร ผมมองดูเกรดแล้วก็ดีใจมาก ผมได้มากกว่าที่ตกลงกับพี่ภาไว้ เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมผมกับเขาก็เดินมาที่ลานจอดรถ
“คุณกลับไปก่อนแล้วกันครับ เดี๋ยวผมกลับเอง” ผมเอ่ยขึ้นก่อน
“จะไปไหน”
“ผมจะไปคุยกับเพื่อนเดี๋ยว”
“ไม่ได้ พี่ภาสั่งให้ชั้นพาเธอไปซื้อของอีก จำไม่ได้รึไง” เขาพูดเสียงดุๆ
“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมไปกับพี่ภาวันหลังก็ได้”
“บอกว่าไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่องรึไง ขึ้นรถ อย่าเรื่องมาก รีบไปจะได้รีบกลับ” แล้วเขาก็เปิดประตูรถ แล้วก็ดันตัวผมให้เข้าไปในรถทันที แล้วเขาก็เดินอ้อมไปที่นั่งคนขับและรีบขับรถออกไปโดยเร็ว!
(เดี๋ยวมีต่อด้านล่างนะคะ)