พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่เสือกับแฮมสเตอร์ของเขา : ตอนที่ 17 เสือจนตรอก [23/2/19]  (อ่าน 14137 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่เสือจะแวะซื้อยานอนหลับใช่มั้ยคะ คิดบวกค่ะยังไม่ได้คิดในทางเสื่อมเสีย

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
พี่เสือจะซื้อยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ให้น้องชิมิ ชิมิ
แบบว่า น้องแฮมกินเนื้อไง ท้องอืดดดดดด เนอะ ๆ
เนอะพี่เสือเนอะ   :mew3:

ออฟไลน์ Polkaneko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
ตอนที่ 5 แมวไม่อยู่เสือ(?)ร่าเริง



ตอนนี้เสือกำลังนั่งพิงหัวเตียงที่ปูด้วยผ้าปูสีน้ำเงินเข้มลายดวงดาวและท้องฟ้า เขาสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ดูรูปสาว ๆ ในไอจีไปเรื่อยเปื่อยระหว่างที่รอเจ้าหนูแฮมเข้าไปอาบน้ำก่อนที่จะไปนอนค้างที่บ้านของเขา รอจนเกือบจะหลับน้องแฮมก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนตัวเก่ง เสื้อยืดคอย้วย ๆ กับกางเกงขาสั้น แถมหัวเปียกซกจนน้ำหยดติ๋ง ๆ

“น้องแฮมทำไมไม่เช็ดผมละครับ”

“เนี่ยเหรอ”

แทนที่จะเอาผ้าเช็ดผมน้องกลับสะบัดหัวตัวเองไปมาจนน้ำกระเด็นไปทั่ว เสือทนไม่ไหวเลยลุกไปแย่งผ้าขนหนูมาคลุมหัวน้องแล้วพาไปนั่งบนเตียง

“เช็ดให้มันดี ๆ สิ”

เสือขยี้ผ้าขนหนูลงบนผมเปียก น้องแฮมเงยขึ้นมองพี่ชายก่อนจะส่งยิ้มตาหยี

“พี่เสือใจดี”

พอเห็นแก้มใส ๆ ปากชมพู ๆ ของคนตรงหน้าเสือก็อดใจไม่ได้ ก้มลงไปจุ๊บเหม่งทีหนึ่งด้วยความหมั่นเขี้ยว เขาเช็ดจนผมน้องพอหมาดก็ลุกเอาผ้าขนหนูไปพาดตรงราวตากผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินมาจับมือน้อง

“ไปนอนบ้านพี่เสือกันนะ”

แฮมพยักหน้ารับ

“อือ เอาพะโล้ไปด้วยนะ”

ว่าแล้วจะหันไปคว้าตุ๊กตาปลาวาฬสีน้ำเงินตัวโปรดติดมือมาด้วย เสือมองดูตุ๊กตาตัวนั้นด้วยความรู้สึกคุ้นตา

“นี่น้องแฮมยังเก็บพะโล้ไว้อีกเหรอ”

เสือยื่นมือไปขอตุ๊กตามาดู ตุ๊กตาปลาวาฬตัวเก่าตัวนี้พ่อของเขาซึ่งเป็นวิศวกรปิโตรเคมีทำงานกลางทะเลซื้อมาฝากพวกเขาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม ของเขาเองก็มีตัวหนึ่งแต่เป็นสีเทา

“ต้องเก็บไว้สิ ถ้าไม่มีพะโล้ น้องแฮมนอนไม่หลับอ่ะ”

ก็คงเหมือนพวกติดหมอนเน่าสินะ

“ว่าแต่พี่เสือเอาจับฉ่ายไปไว้ที่ไหนเหรอ น้องแฮมไปห้องพี่เสือ ไม่เคยเห็นจับฉ่ายเลย”

หากพะโล้คือชื่อตุ๊กตาปลาวาฬของน้องแฮม จับฉ่ายก็คือตุ๊กตาของเขานั่นเอง ตอนที่ได้รับตุ๊กตาสองตัวนี้มา น้องแฮมชอบกินพะโล้มาก ก็เลยตั้งชื่อให้ว่าพะโล้ แล้วลามมาถึงตัวของเขาด้วย ที่มีชื่อเป็นกับข้าวที่ขึ้นโต๊ะวันเดียวกัน

“สงสัยจะอยู่ในกล่องมั้ง แม่น่าจะเก็บไว้”

พอขึ้นชั้นมัธยม ก็มีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าตุ๊กตาพวกนี้เยอะแยะ เขาก็เลยไม่ได้ใส่ใจมันอีก

“เหรอ” น้องแฮมเม้มปากหน้าเศร้า “แบบนี้จับฉ่ายก็คงเหงาแย่”

“ไม่เหงาหรอก จับฉ่ายมีเพื่อนตั้งเยอะ อุลตร้าแมนกับแบทแมนก็อยู่ด้วย”

เสือคิดว่าแม่คงเก็บพวกของเล่นสมัยเด็กของเขาไว้อยู่

“งั้นเราไปหาจับฉ่ายกันไหมพี่เสือ”

“ห๊ะ ไปหาทำไมละน้องแฮม”

“ก็น้องแฮมไม่อยากให้จับฉ่ายอยู่ตัวเดียวนี่ น้องแฮมจะพาจับฉ่ายมาอยู่กับพะโล้”

น้องทำตาละห้อย เขาสงสารจับฉ่ายที่ต้องไปอยู่ในห้องเก็บของมืด ๆ

“พี่ไม่แน่ใจนะว่าจับฉ่ายยังอยู่หรือเปล่า”

ไม่ใช่ว่าแม่ของเขาเก็บไปบริจาคหมดแล้วเหรอ

“ลองหาดู ๆ นะ ๆ พี่เสือ”

น้องแฮมช้อนตามองพี่ชายด้วยตาใส ๆ มือข้างที่ว่างกระตุกชายเสื้อพี่ชาย แบบนี้มีเหรอที่พี่เสือจะทานทนไหว

“ลองไปหาดูก็ได้”

“เย้ ๆ ป่ะ ไปหาจับฉ่ายกัน”

น้องน้อยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ยื่นมือให้พี่ชายข้างบ้านจับจูงลงมาชั้นล่าง เสือจัดการเช็คประตูหน้าต่างว่าปิดเรียบร้อยแล้วหรือเปล่า ก่อนจะจัดการล๊อกบ้านของแฮมให้เรียบร้อย ส่วนเจ้าของบ้านกลับหอบขนมของกินและตุ๊กตาเต็มอ้อมแขน พอพี่หันมามองเจ้าตัวก็ยกให้ดู

“เสบียงไงพี่เสือ เดี๋ยวน้องแฮมแบ่งให้พี่เสือนะ”

นี่เจ้าตัวเล็กคิดว่าการไปค้างบ้านเขาคือการไปเข้าค่ายหรือไงถึงต้องเตรียมของกินไปเยอะขนาดนี้

เสือคว้าถุงเสบียงมาถือเอาแทนแล้วจูงมือน้องแฮมพาเข้าบ้าน เขาวางของไว้ที่โซฟาก่อนจะพาไปยังห้องเก็บของที่อยู่ติดกับห้องครัว จัดการไขประตูเข้าไปคลำหาสวิตซ์อยู่สักพัก หลอดไฟให้ห้องก็สว่างขึ้น ข้าวของต่างถูกวางไว้บนชั้นอยู่เป็นระเบียบ เสือมองไปรอบคิดว่ากล่องกระดาษที่อยู่บนชั้นนี่สักกล่องคงเป็นกล่องที่เก็บของเล่นของเขา จึงเดินเข้าไปยกลงมาจากชั้น ฝุ่นที่เกาะอยู่บนกล่องกระดาษที่ไม่มีใครแตะต้องมานานกระจายฝุ่นจนเขาต้องเบือนหน้าหนี หันไปเห็นเจ้าหนูแฮมกำลังเดินเข้ามาก็รีบร้องห้าม

“น้องแฮมไม่ต้องเข้ามา ในนี้มีแต่ฝุ่น รอพี่เสืออยู่ข้างนอกนะ”

“แต่ว่าน้องแฮมอยากช่วยหาจับฉ่ายนี่”

น้องแฮมยืนทำตาปริบ ๆ แต่คราวนี้พี่เสือไม่ยอมหรอก

“รออยู่ข้างนอกนั่นแหละ อาบน้ำมาแล้วเดี๋ยวจะเปื้อนฝุ่นเปล่า ๆ โดนฝุ่นมาก ๆ ภูมิแพ้กำเริบขึ้นมา น้าขวัญจะดุเอานะ”

เมื่อจำนนด้วยเหตุผลของพี่ชาย แฮมก็เลยได้แต่ยืนกอดตุ๊กตาพะโล้ชะเง้ออยู่ที่หน้าประตู มองเสือหยิบของในกล่องออกมา

เสือรื้อดูของข้างในกล่องออกมา กล่องนี้มีแต่พวกเครื่องครัวที่ไม่ค่อยได้ใช้ เขาจึงยกขึ้นเก็บแล้วยกอีกกล่องลงมา ก็ยังเป็นกล่องเก็บพวกของใช้กระจุกกระจิกที่ไม่รู้แม่จะเก็บไว้ทำไม เสือยกกล่องกระดาษลงมาอีก 2-3 กล่อง

“พี่เสือเจอจับฉ่ายหรือยัง”

“ยัง”

เขาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก ใช้มือจับเสื้อกระพือคลายร้อน ตอนนี้เขารู้สึกเหนอะหนะไปหมด อยากจะเลิกหาตุ๊กตาปลาวาฬสีเทานั้นแล้วขึ้นไปอาบน้ำ ติดตรงน้องแฮมยังยืนมองเขาด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความคาดหวัง เสือก็เลยต้องเปิดกล่องกระดาษพวกนี้เพื่อหาจับฉ่ายต่อไป

เมื่อกล่องกระดาษถูกยกลงมาจนเกือบจะหมดชั้น ในที่สุดเสือก็เจอเจ้าปลาวาฬตัวสีเทานอนเอ้งแม้งอยู่ในกล่องร่วมกับอุลตร้าแมนและแบทแมนพร้อมกับของเล่นสมัยเด็กของเขา 

“เจอแล้ว”

เสือหยิบขึ้นมาด้วยความดีใจ เขาชูให้น้องแฮมดูก่อนจะยื่นให้น้อง แฮมยิ้มกว้างแล้วรับจับฉ่ายไปกอดร่วมกับพะโล้ ส่งเสียงงุ้งงิ้งคุยกับตุ๊กตาในอ้อมแขน

“จับฉ่ายมาอยู่ด้วยกันกับพะโล้นะ”

ส่วนเจ้าของบ้านก็ต้องจัดการยกกล่องทั้งหมดกลับขึ้นชั้นเหมือนเดิม ทำให้เสื้อเชิ้ตของเสือชุ่มไปด้วยเหงื่อแถมยังเต็มไปด้วยฝุ่นจนเขารู้สึกคันคะเยอไปทั้งตัว

“เอาละ พี่เสือขอไปอาบน้ำก่อนนะ”

เสือในสภาพเหงื่อซกเดินนำน้องแฮมที่หอบหิ้วตุ๊กตาตามขึ้นมาด้วย พอเข้าห้องเขาก็จัดการเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำ หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ส่วนแฮมก็ปีนขึ้นเตียงพร้อมกับพะโล้และจับฉ่าย

เสือตั้งใจอาบน้ำเป็นพิเศษเพื่อจะได้ตัวหอม ๆ เวลากอดน้องแฮม กว่าจะอาบเสร็จก็ปาไปครึ่งชั่วโมง แต่พอออกจากห้องน้ำ เขาก็ยังเห็นน้องแฮมยังงุ้งงิ้งกับ 2 ปลาวาฬไม่เลิก เสือเห็นแบบนั้นก็รีบเป่าผมให้แห้งจะได้ขึ้นเตียงไปกอดน้องแฮมเร็ว ๆ

“น้องแฮมครับ”

เสือเข้าไปสวมกอดน้องแฮมที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เขาสูดกลิ่นหอมจากผมของน้อง แขนก็โอบกอดกระชับมากขึ้น แต่คนในอ้อมกอดของเขากลับสนใจแต่ตุ๊กตาในมือ เขาจึงจับร่างเล็กให้พลิกตัวขึ้นมา

“พี่เสืออยากเล่นกับจับฉ่ายเหรอ”

น้องถามเขาตาแป๋วพร้อมกับยื่นตุ๊กตาปลาวาฬในมือให้

เสือจับตุ๊กตาจากมือน้องไปวางไว้ข้างหมอน มองคนที่นอนดูด้วยสายตาเป็นประกายแวววับ

“พี่เสืออยากเล่นกับน้องแฮมมากกว่า”

น้องแฮมกระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสงสัย

“จะเล่นอะไรเหรอ”

“เล่นแบบผู้ใหญ่ น้องแฮมสนใจไหม”

เจ้าหนูแฮมตาเป็นประกายด้วยความสนใจ พยักหน้าตกลง

“เล่น ๆ น้องแฮมอยากเป็นผู้ใหญ่”

พอได้รับคำอนุญาต พี่เสือก็ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนปากเล็ก ๆ นั่นทันที เขาขบเม้มริมฝีปากล่างของคนตัวเล็ก ดูดดึงเบาให้เจ้าตัวเผยอปาก ก่อนจะละเลียดชิมความหวานภายใน ก่อนจะผละออก เขามองน้องแฮมที่นอนมองตาเยิ้มอยู่

“เป็นผู้ใหญ่ต้องเล่นกัดปากกันด้วยเหรอพี่เสือ”

น้องถามเสือเสียงสั่นพร่า แลบลิ้นเล็ก ๆ ออกมาเลียริมฝีปากที่โดนกัดเมื่อครู่ เสือเห็นภาพนั้นก็อดใจไม่ไหวก้มลงจูบอีกครั้งจนน้องต้องประท้วงด้วยการเอาตุ๊กตาปลาวาฬตีที่หลัง เขาจึงยอมปล่อย แย่งตุ๊กตาโยนไปข้างหลัง ก่อนจะก้มลงซุกซอกคอขาวสูดกลิ่นหอมนมเนยประจำตัวของเจ้าหนูแฮม

น้องแฮมสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บจิ๊ดตรงแถวไหปลาร้า เขาพยายามจะเขยิบตัวหนี พี่เสือเล่นอะไรก็ไม่รู้เอาแต่กัดน้องแฮมอยู่นั่นแหละ มือจะยุกยิกเข้าไปในเสื้อน้องแฮมทำไมก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้น้องแฮมรู้สึกเย็นพุงไปหมด เพราะพี่เสือเล่นถลกเสื้อขึ้นมาจนเกือบถึงหน้าอก

“อือ พี่เสือ น้องแฮมไม่เล่นแล้ว”

ไม่เห็นสนุกเลย แถมยังรู้สึกวูบวาบในท้องแบบแปลกด้วย น้องแฮมไม่เอาแล้ว

น้องแฮมพยายามประท้วง อยากจะเลิกเล่นเกมผู้ใหญ่นี้แล้ว

“พี่เสือ ๆ”

น้องแฮมส่งเสียงเรียกพี่ชาย ตอนนี้พี่เสือหยุดกัดเขาแล้ว ตอนนี้เขาโดนทับจนหายใจจะไม่ออกแล้ว พี่เสือตัวใหญ่จะแย่ มานอนทับน้องแฮมได้ไง

เมื่อเห็นพี่เสือไม่หือไม่อือ เขาก็ค่อย ๆ ดันตัวพี่ชายตัวโตให้ออกจากตัว ก่อนจะชันตัวขึ้นมองพี่เสือที่นอนหลับตาพริ้ม ลมหายใจเข้าออกที่เสมอสม่ำบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวหลับสนิทไปแล้ว

“อ้าว พี่เสือหลับแล้วเหรอ”

น้องแฮมลุกขึ้นไปหยิบจับฉ่ายมาวางข้างพี่ชาย เผื่อว่าพี่เสือจะได้เอาไว้กอด เขาจัดการดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวพี่เสือก่อนจะลุกขึ้นไปปิดไฟ แล้วมุดผ้าห่มเข้ามานอนกอดพะโล้จนหลับไปบ้าง

 

แสงแดดที่ส่องแยงตาทำให้เสือต้องรู้สึกตัวตื่น เขาขยี้ตาด้วยความงัวเงียก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ

ตุ๊บ

ตุ๊กตาปลาวาฬชื่อจับฉ่ายกลิ้งอยู่บนที่นอน เสือหยิบขึ้นมาดูแล้วก็นึกขึ้นได้เมื่อคืนเจ้าหนูแฮมข้างบ้านมานอนค้างที่บ้านเขา แล้วเขาก็กะว่าจะจัดการกับเจ้าหนูน่ากินตัวนี้ให้สมใจอยาก แต่เขาดันเหนื่อยจนเผลอหลับไปได้เสียนี่

เสือทึ้งหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด นาน ๆ ถึงจะมีโอกาสงาม ๆ แบบนี้สักที แล้วนี่เมื่อไหร่จะได้กินเจ้าหนูแฮมสักที

ว่าแต่น้องแฮมหายไปไหน...

เสือกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง เปิดผ้าห่มดูก็ไม่เห็นร่างเล็กของเจ้าหนู

“น้องแฮม อยู่ในห้องน้ำเหรอ”

เขาลองตะโกนเรียกดูแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา เสือเลยลองลุกไปดูที่ห้องน้ำก็เจอแต่ความว่างเปล่า

“ไปไหนของเขาวะ”

เสือเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ได้ยินเสียงทีวีเปิดก็รู้ว่าคนที่เขาตามหาอยู่ลงมาดูทีวีอยู่นี่เอง เมื่อเสือเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นน้องแฮมกำลังกอดพะโล้เอาไว้ อีกมือก็กำลังหยิบเอาเอแคลร์เข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ

“พี่เสือตื่นแล้วเหรอ”

น้องแฮมได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันมายิ้มแฉ่งให้พี่ชายที่เดินทำหน้ายุ่งมาหา

“กินขนมไหม น้องแฮมเอามาเยอะเลย”

แฮมยื่นถุงขนมที่หิ้วมาด้วยเมื่อคืนให้เสือที่ตอนนี้ลงมานั่งเบียดด้วยกันบนโซฟา ก่อนจะหันกลับไปสนใจสารคดีเพนกวินกำลังวางไข่ในทีวีต่อ

เสือวางถุงขนมลงบนโต๊ะ หันไปมองคนข้างตัวที่ตอนนี้สนใจแต่ไข่เพนกวิน ไม่ได้สนใจเขาที่มานั่งด้วยเลย เสือเลยขยับเข้าไปใกล้อีกนิด กระแซะเข้าไปอีกหน่อย มือโอบเอวน้องไว้ ก่อนจะกระซิบข้างหู

“น้องแฮมครับ เรามาต่อเมื่อกี้กันนะครับ”

“พี่เสืออยากเล่นอีกเหรอ” น้องหันมามองเขาตาใสก่อนจะย่นคิ้วไม่ชอบใจ “แต่น้องแฮมไม่ชอบอ่ะ เล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่หนุกเลย เจ็บด้วย”

เนี่ย เมื่อเช้าน้องแฮมส่องกระจกดูที่คอมีรอยกัดเป็นจ้ำ ๆ ตั้ง 2-3 รอย

“น้องแฮมต้องเล่นต่อ เดี๋ยวน้องแฮมก็จะสนุกกับมัน เชื่อพี่เสือสิ”

เสือพยายามตะล่อมน้องเผื่อจะมีหวัง มือของเขาลูบขาขาวที่โผล่ออกมาจากกางเกงขาสั้น จมูกโด่งพยายามจะซุกไซ้บริเวณไหล่ลาด แต่กลับโดนเจ้าหนูแฮมเบี่ยงตัวหนีแถมไม่พอยังเอาตุ๊กตาพะโล้มาดันหน้าเขาเอาไว้อีก ได้แต่กลิ่นตุ ๆ ของเจ้าตุ๊กตาตัวเก่า

“ไม่เอาอ่ะ ตอนนี้น้องแฮมไม่อยากเล่นแล้ว น้องแฮมกลับไปอาบน้ำที่บ้านดีกว่า”

ว่าแล้วเจ้าตัวเล็กก็ลุกพรวดพร้อมกับหิ้วพะโล้กลับไปด้วย พี่เสือได้แต่ร้องเรียก จะคว้าตัวไว้ก็ไม่ทัน

“เดี๋ยวก่อนสิ น้องแฮมกลับมาก่อน”

“ไว้วันหลังค่อยเล่นกันนะพี่เสือ”

สุดท้ายพี่เสือก็ได้แต่ทำตาปริบ ๆ มองน้องแฮมเดินออกจากบ้านไป

 

TBC...



โถ สงสารพี่เสือเค้านะคะ 555

 

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คิดจะเต๊าะเด็กใจต้องนิ่งนะพี่เสือ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องแฮมเคยฝันเปียกไหมลูก ผ่านเสือสิงห์กระทิงแรดช่วงมอปลายมาได้ไง

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
น้องแฮม...เข้าเรียนมหาลัยแล้ว ... เนี่ยนะ?

ไม่เคยดูละคร ไม่เคยอ่านการ์ตูน
ไม่เคยเห็น "การกัดปาก" มาก่อนเลยเหรอ? :hao3:

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Polkaneko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
ตอนที่ 6  เสือหวงก้าง




                “ไง ไอ้เสือ เสาร์อาทิตย์หายหัวไปเลยนะมึง กูชวนไปมากินเหล้าก็ไม่ยอมออกมา”

                เอ้เอ่ยทักเสือทันทีเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาภายในห้องเรียน เขาเพิ่งแวะไปส่งน้องแฮมที่คณะมา เจ้าหนูตัวจิ๋วนั่นพอเห็นเพื่อน ๆ ก็ยิ้มกว้างแล้วรีบกระโดดลงรถไปทันทีโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองพี่เสือคนนี้เลย

                เดี๋ยวนี้มีเพื่อนใหม่เยอะแยะก็ไม่สนใจพี่เสือแล้วสินะ คิดแล้วมันน่าน้อยใจจริง ๆ

                สีหน้าที่แสดงออกตอนที่เสือไปนั่งข้างนะก็เลยดูเนือย ๆ สักหน่อย

                “มัวแต่ไปกกอยู่กับใครที่ไหนเปล่าวะ”

                เอ้หันมาถามบ้าง เขาหรี่ตามองมาที่เสืออย่างจับผิด

                “เอ่อ นั่นสิ น้องน้ำแข็งใสอะไรนั่นเป็นไงบ้างวะ”

                พอได้ยินชื่อนี้เขายิ่งรู้สึกเซ็งกว่าเดิมอีก เกือบโดนน้ำแข็งฟาดหัวแตกแล้วละสิไม่ว่า

                “ก็ไม่เป็นไง”

                “ดูท่าทางแปลก ๆ นะมึงน่ะ”

                นะที่นั่งเงียบมานานเอ่ยทักบ้าง เมื่อเห็นว่าเพื่อนทำหน้าเบื่อโลกเสียเต็มทน

                “กูแค่เบื่อ ๆ”

                “อะไรวะ เดี๋ยวนี้พี่เสือกลายเป็นคนขี้เบื่อไปแล้วเหรอ”

                “อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเป็นผีบ้านผีเรือนเลยนะมึง”

                เอ้แกล้งแซวโดยมีนิวเป็นลูกคู่แกล้งแหย่ด้วย

                “ผีบ้านมึงสิไอ้นิว”

                ไอ้สองคนนั่นกลับหัวเราะขำที่เห็นเสือด่ากลับแบบนี้

                “แล้วนี่น้องข้างบ้านมึงเป็นไงบ้างวะ”

                เอ้ถามต่อ เขาจำได้ว่าครั้งก่อนตอนไปเที่ยวด้วยกัน นิวพูดถึงเด็กข้างบ้านที่เสือมันเฝ้าเทียวรับเที่ยวส่งอยู่ สงสัยว่าคนนี้จะตัวจริงของเพื่อนเขาเสียละมั้ง

                “ใกล้จะได้แดกหรือยังวะ”

                เสือหันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะหายใจเฮือกใหญ่ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด ถ้าวันนั้นเขาไม่เผลอหลับไปก่อน ป่านนี้เขาก็คงได้ลิ้มรสหอมหวานของเจ้าหนูตัวนุ่มนิ่มของเขาไปแล้ว

                “อะไรวะ ถามแค่นี้ต้องทำหน้าซังกะตายด้วย”

                “ก็ยังแดกแห้วอยู่เหมือนเดิมน่ะสิไอ้เอ้ พี่เสือคาสโนว่า ฟันสาว ๆ มานับไม่ถ้วน แต่กลับมาเสียฟอร์มเพราะน้องเขาคนเดียว”

                นิวหัวเราะชอบใจ ไม่รู้ทำไมเพื่อนของเขาถึงแพ้ทางน้องมันทุกที

                “นี่พวกมึงพูดถึงใครวะ”

                นะถามขึ้นด้วยความสงสัยว่าเพื่อน ๆ กำลังพูดถึงใครกัน

                “ก็เด็กไอ้เสือมันไง เรียนปี 1 มหาลัยเรานี่แหละ เห็นไอ้นิวบอกน่ารักมาก ไอ้เสือแม่งโคตรหวง”

                “เหรอวะ ขนาดไอ้เสือหวงแสดงว่าแม่งต้องเด็ดจริง กูชักอยากจะเห็นหน้า”

                “ไอ้นะ มึงหยุดเลย ไม่ต้องมายุ่งกับน้องกูเลย”

                เสือรีบเบรกเพื่อนทันที ยิ่งไอ้นะยิ่งไม่น่าไว้ใจ ไอ้นี่มันร้ายนัก เรียกว่าผีย่อมเห็นผีด้วยกันก็ว่าได้

                “พูดแบบนี้กูยิ่งอยากเห็น”

                นะยิ้มที่มุมปากด้วยความสนใจ เห็นท่าทางเสือแล้วดูน่าสนุกดี

                “กูด้วย ๆ งั้นตอนเย็นพวกเราตามไอ้เสือไปรับน้องเขาดีกว่า”

                เอ้สนับสนุนเต็มที่ เขาก็อยากเห็นเด็กของไอ้เสือเหมือนกัน ยิ่งเห็นมันหวงขนาดนี้ยิ่งอยากเห็นหน้า

                “พวกมึงหยุดความคิดไปเลย อย่าไปยุ่งกับน้องกูนะโว้ย”

                เสือแยกเขี้ยวใส่เพื่อนด้วยความหวงสุดชีวิต อย่าหวังว่าใครจะยุ่งกับน้องแฮมของเขาได้

                “เรื่องของมึงสิ”

                เอ้แลบลิ้นปลิ้นตาใส่เพื่อน นิวได้แต่โคลงหัวยิ้มขำ ส่วนนะนั่งยิ้มกริ่ม ก่อนที่เสือจะโวยวายมากไปกว่านี้ อาจารย์ก็เข้ามาในห้องพอดี เขาจึงต้องสงบปากสงบคำ ได้แต่ส่งสายตาอาฆาตไปให้บรรดาเพื่อนตัวแสบ

 

                แต่แล้วทุกคนก็ไม่ต้องรอถึงตอนเย็น เพราะพอหมดเวลาคาบแรก โทรศัพท์มือถือของเสือก็สั่นราวกับตั้งเวลาไว้ เสือขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ

                “ว่าไงครับน้องแฮม”

                เสือรีบกดรับสายทันที พลางสงสัยว่าทำไมเจ้าตัวเล็กถึงโทรมาเวลานี้

                ‘พี่เสือ แย่แล้ว ๆ ทำอย่างไงดี ฮือ น้องแฮมต้องโดนทำโทษแน่ ๆ เลย’

                เสียงในสายฟังดูร้อนรนจนเสือต้องปลอบให้น้องพูดช้าลง

                “เดี๋ยวก่อนน้องแฮม ใจเย็น ๆ ก่อน มีเรื่องอะไรค่อย ๆ บอกพี่เสือมานะครับ”

                ‘คือป้ายชื่ออ่ะ ป้ายชื่อของน้องแฮมที่รุ่นพี่บอกว่าต้องห้อยมาทุกวัน’

                “แล้วอย่างไงครับ”

                ตอนที่เขาอยู่ปีหนึ่งก็โดนสั่งให้ห้อยป้ายแบบนี้เหมือนกัน โคตรจะหน้าอายเลย ดีนะที่เขาหล่อและดูดี มันก็เลยดูไม่ค่อยแย่เท่าไหร่

                ‘มันหายไปน่ะพี่เสือ หายไปไหนก็ไม่รู้ เมื่อเช้าน้องแฮมก็หยิบออกมาจากบ้านแล้วนะ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว ทำไงดีละพี่เสือ’

                นั่นน่ะสิ เมื่อเช้าเขาก็ยังเห็นน้องแฮมหยิบออกมาดูตอนที่นั่งรถมาด้วยกันอยู่เลย

                “เมื่อเช้าพี่เห็นน้องแฮมหยิบออกมาตอนอยู่บนรถ น้องแฮมทำตกไว้ในรถหรือเปล่า”

                ‘บนรถพี่เสือเหรอ ต้องใช่แน่ ๆ เลย งั้นน้องแฮมไปหาพี่เสือที่คณะ เดี๋ยวเจอกันนะครับ’

                “เดี๋ยวก่อนน้องแฮม เดี๋ยว...อย่าเพิ่งมา...”

                ยังไม่ทันที่เสือจะได้พูดจบประโยค น้องแฮมก็วางสายไปแล้ว แถมโทรกลับไปก็ไม่ยอมรับอีก แล้วนี่จะมาคณะนี้อย่างไงกัน

                “มีไรวะเสือ”

                นิวเดินมาเอาแขนพาดบ่าเพื่อน เขาเห็นมันเดินหลบออกมาคุยโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อกี้ละ

                “ก็น้องแฮมอ่ะดิ จะมาหาที่คณะตอนนี้” เสือหันไปบอกเพื่อน

                “ห๊ะ น้องอ่ะนะ มาทำไมวะ”

                “บอกว่าทำป้ายชื่อหาย สงสัยจะหล่นอยู่ในรถว่ะ เดี๋ยวกูลงไปเปิดรถให้น้องก่อน ฝากพวกมึงเช็คชื่อให้ด้วย”

                เอ้ที่เดินตามหลังมาได้ยินว่าน้องแฮมเด็กไอ้เสือจะมาที่คณะก็หูผึ่งทันที

                “เด็กมึงจะมาเหรอวะ ดีเลย ขอกูตามไปด้วยดิ”

                “เฮ้ย ไม่ได้ กูไม่ให้มึงตามไป” เสือร้องห้ามเสียงหลง

                “อะไรวะ แค่ไปดูเองเปล่าวะ ทำเป็นหมาหวงก้างไปได้”

                “จะก้างหรือกระดูก กูก็ไม่ให้มึงไปยุ่งวุ่นวายกับน้องกู”

เอ้จิ๊ปากด้วยความไม่พอใจ ทำปากขมุบขมิบด่าเพื่อน

                “กูไปละ เดี๋ยวมา”

                เสือรีบเดินไปรอน้องที่หน้าคณะวิศวะ เอ้มองตามหลังเพื่อนที่เดินห่างไปไกลแล้ว ก่อนจะหันมาชวนพวกที่เหลือ

                “ป่ะ มึงไปกัน” ว่าแล้วก็เดินไปทางเดียวกับเสือ จนนิวต้องร้องทัก

                “เฮ้ย ห้องเรียนไปทางโน้นนะไอ้เอ้”

                “เอ่อ กูรู้ แต่กูอยากเห็นเด็กไอ้เสือมากกว่า มึงก็อยากเห็นใช่ไหมไอ้นะ” เอ้หันมาหาเสียงสนับสนุน

                “กูอย่างไงก็ได้ว่ะ”

                “งั้นมึงก็มากับกู ไปแอบดูเด็กไอ้เสือกัน”

                “ไอ้เอ้มึงนี่มันขี้เสือกจริง ๆ”

                “มึงเคยเห็นน้องมันแล้ว มึงไม่ต้องมาก็ได้ ไปเช็คชื่อให้พวกกูด้วย”

                “เอ่อ ๆ เดี๋ยวกูเช็คชื่อให้”

                “ป่ะไอ้นะ เดี๋ยวไม่ทันเห็นหน้าน้องมัน”

                นิวได้แต่ส่ายหัวระอากับความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนตัวเอง ก่อนจะเดินกลับไปเข้าชั้นเรียน

 

                เสือยืนชะเง้ออยู่หน้าตึกคณะสักพักก็เห็นคนตัวเล็กคุ้นตาวิ่งตุบ ๆ นำเพื่อนมาทางที่เขายืนอยู่พร้อมกับส่งเสียงก่อนที่ตัวจะมาถึง

                “พี่เสือ ๆ”

                “น้องแฮม พี่เสือบอกไม่ให้วิ่งไงครับ”

                น้องแฮมวิ่งมาหยุดตรงหน้าเสือ พลางหอบแฮ่ก เสือมองเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาที่แก้มแดงระเรื่อนั้น

                “ดูสิ เหงื่อท่วมเลย”

                คนตัวเล็กยิ้มแหะ ๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเช็ดเหงื่อ พอดีกับที่โอ๊ตเดินตามมาสมทบ

                “รถอยู่ไหนละพี่เสือ เร็วเข้า ๆ ไปหาป้ายชื่อกัน”

                เขาเข้าไปเขย่าแขนพี่เสือ นี่น้องแฮมรีบมาสุด ๆ เลยนะ

                “ใจเย็นก่อนไหมแฮม เพิ่งเดินมาถึงก็จะไปอีกแล้วเหรอ เราเหนื่อยนะ”

โอ๊ตที่สภาพเหงื่อท่วมไม่ต่างกันเพราะเดินฝ่าแดดมาบ่นกระปอดกระแปด

                “โอ๊ตเดินมาช้าแล้วยังบ่นอีก ก็ตัวเองมีป้ายชื่อแล้วนี่” แฮมเบ้ปากใส่เพื่อนสนิทก่อนจะหันมากระตุกแขนพี่ชาย

                “ป่ะ รถจอดอยู่ทางโน้น”

                เสือเดินนำน้อง ๆ ไปยังลานจอดรถ จัดการเปิดรถให้เจ้าตัวเล็กมุดเข้าไปหาป้ายชื่อที่คาดว่าหล่นตอนที่เจ้าตัวหยิบออกมาดูเมื่อเช้า และก็จริงตามคาดป้ายชื่อตกอยู่ใต้เบาะที่นั่งข้างคนขับ คงร่วงตอนที่เจ้าตัวลงจากรถนั่นแหละ

                “เจอแล้ว ๆ”

                น้องแฮมโบกป้ายชื่อในมือที่เขียนว่า ‘แฮม’ ด้วยรอยยิ้มร่าเริงให้กับพี่ชายและเพื่อนดู

                “ไหน ๆ คนนี้ไหนวะน้องแฮมของไอ้เสือ”

                เสือหันควับไปทันทีที่ได้ยินเสียง แล้วเขาก็เห็นเพื่อนสองคน เอ้และนะยืนอยู่ข้างหลัง กำลังมองมายังเด็กปีหนึ่งทั้งสองคนด้วยความสนอกสนใจ

                “อ้อ คนนี่สินะน้องแฮม”

                เอ้มองป้ายชื่อที่อยู่ในมือของเด็กผู้ชายตัวเล็ก หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ถึงจะผิดคาดที่น้องสุดหวงของเสือเป็นเด็กผู้ชาย แต่เขาก็เห็นด้วยที่ว่าน้องแฮมน่ารักมากจริง ๆ

                เสือมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนสลับกันด้วยความหงุดหงิดจนออกอาการ

                “พวกมึงนี่มัน...ตามกูมาทำไมวะ”

                เอ้ไม่สนใจอาการฮึดฮัดของเพื่อน เขาเดินเข้าไปใกล้น้องแฮมพร้อมกับส่งยิ้มให้

                “สวัสดีครับน้องแฮม พี่ชื่อพี่เอ้ เป็นเพื่อนของเสือ”

                น้องแฮมกระพริบตาปริบ ๆ เขาหันมามองพี่ชาย เห็นพี่เสือถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้าให้อย่างเสียไม่ได้ แฮมจึงหันมายิ้มกว้างแล้วยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคน

                “หวัดดีฮะ น้องแฮมเป็นน้องพี่เสือ”

                เสือมองด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นสายตาวาววับของไอ้เพื่อนชั่วที่มองเจ้าหนูแฮมของเขา

                “พี่ชื่อพี่นะ” นะเอ่ยแนะนำตัวบ้างก่อนจะหันไปมองเด็กปีหนึ่งอีกคนที่ยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ “แล้วคนนี้ใครเหรอครับ”

                โอ๊ตมองเพื่อนของพี่เสือด้วยความระแวง จากการรับหน้าที่คอยเป็นไม้กั้นหมาให้กับเพื่อนสนิทมาแรมปี ทำให้เขาพอจะรู้สึกได้ว่าสายตาคม ๆ ของรุ่นพี่คนนี้ที่มองมามันไม่น่าไว้ใจนัก

                “เพื่อนน้องแฮมชื่อโอ๊ต มาจากข้าวโอ๊ต”

                “แฮม”

                เจ้าหนูแฮมเพื่อนเขาดันแนะนำตัวแทนเขาเองไปเสร็จสรรพ แถมยังหันมายิ้มแฉ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีก

                ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ให้บอกใครว่าเขาชื่อข้าวโอ๊ต

                “ชื่อข้าวโอ๊ตเหรอ” รุ่นพี่ที่ชื่อพี่นะมองจ้องมาที่ใบหน้าของเขาก่อนจะยิ้มมุมปากชวนให้รู้สึกแปลก ๆ

                “ชื่อน่ารักเหมาะกับน้องดีนะครับ”

                โอ๊ตเผลอเม้มปากแน่น เขาไม่ชอบใจเลยจริง ๆ ไม่ชอบใจผู้ชายที่ชื่อนะคนนี้เลย

“แฮม ไปกันเถอะ”

โอ๊ตเอ่ยปากชวนเพื่อนกลับ เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้ต่อแล้ว รู้สึกอยากไปให้ไกลจากสายตากับรอยยิ้มของเพื่อนพี่เสือคนนี้

“อ้าว จะรีบกลับไปทำไม เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงน้ำก่อนดีกว่า เดินมาตั้งไกล”

เอ้รีบชวนน้องทั้งสองเอาไว้ ยังไม่ทันจะได้ทำความรู้จักคุ้นเคยเลย เขาอยากรู้ว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงหวงเด็กคนนี้นัก

“ไม่ต้องเลยมึง” เสือทำตาเขียวปั๊ดให้เพื่อนก่อนจะหันมาพูดกับน้องแฮมเสียงนุ่ม “พี่เสือว่าน้องแฮมรีบกลับไปคณะก่อนนะครับ”

“กลับเหอะ เดี๋ยวไปเรียนอีกวิชาไม่ทันนะแฮม”

โอ๊ตกระตุกแขนเสื้อเพื่อนให้เร่งตัดสินใจ

“งั้นน้องแฮมไปก่อนนะพี่เสือ เจอกันตอนเย็นนะ”

“ครับ”

โอ๊ตรีบลากแขนเพื่อนกลับไปทางคณะศึกษาศาสตร์ทันที น้องแฮมหันมาโบกมือหยอย ๆ ให้พี่ชาย รวมถึงเผื่อแผ่ยิ้มหวาน ๆ ให้กับเอ้และนะด้วย

“แม่ง...น่ารักชิบหาย” เอ้มองตามคนตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ที่เดินลับตาไปแล้ว

“ไอ้เอ้ มึงหยุดเลยนะ อย่ามายุ่งกับน้องกู”

เสือทำท่าเหมือนจะคำรามแล้วตะปบเพื่อน

“อะไร กูก็แค่อยากทำความรู้จักกับน้องเขาเอง มึงนี่ก็หวงจัง”

“น้ำหน้าอย่างมึงคิดอะไรอยู่ทำไมกูจะไม่รู้วะไอ้เอ้”

เสือชี้หน้าเพื่อนก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง

“ถ้ามึงยังอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่ คนนี้กูขอ อย่ายุ่งกับน้องกู”

เอ้เห็นเพื่อนดูไม่ได้ล้อเล่น  แววตาเคร่งเครียดนั่นทำราวกับจะฆ่าเขาได้ถ้าหากเขาเผลอไปยุ่งกับเด็กน้อยน่าเอ็นดูคนนั้น

“เอ่อ ๆ กูก็แค่ล้อเล่นเปล่าวะ มึงนี่ก็หวงเกิน”

“หึ”

นะเผลอส่งเสียงขำในลำคอให้ได้ยิน เสือหันไปมองไอ้คนที่ใบหน้ามีรอยยิ้มจาง ๆ อยู่เสมอด้วยความระแวง

“มึงไม่ได้คิดอะไรกับน้องกูใช่ไหมไอ้นะ”

นะส่ายหน้าอย่างเห็นเป็นเรื่องขำ

“กูไม่ยุ่งกับน้องมึงหรอก ไม่ใช่แบบที่กูสนใจ”

“เอ่อ งั้นก็แล้วไป”

เสือหันกลับไปมองเอ้ตาขวางอีกรอบ จนคนโดนมองเริ่มโวยวาย

“กูบอกว่าไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่งสินะ มึงนี่ก็ระแวงเกินไปแล้ว”

“ก็มึงมันไม่น่าไว้ใจนี่วะ”

นะได้แต่ยิ้มขำเดินตามเพื่อนสองคนที่กัดกันไปตลอดทางกลับห้องเรียน

น้องแฮมของเสือก็น่ารักดีอยู่หรอกนะ แต่เขาไม่สนใจเจ้าหนูใส ๆ แบบนั้นหรอก เจ้าลูกแมวตาวาว ๆ ที่อยู่ข้างกันนั่นตั้งหากที่ดูน่าสนใจกว่า เขายังไม่ทันจะทำอะไรก็ทำท่าเหมือนจะพองขนขู่เขาเสียแล้ว

แบบนั้นสิถึงจะน่าสนุก...

 

TBC...



นิยายเรื่องนี้เราแต่งขึ้นเพราะอยากจะแต่งอะไรสักอย่างตอนที่นึกนิยายอีกเรื่องไม่ออกน่ะค่ะ บอกตรงๆว่าเรื่องนี้ไม่มีพลอตที่คิดไว้ก่อนเลย เราแต่งเพราะความสนุกส่วนตัวของเราล้วนๆ อาจจะมีหลายจุดที่ไม่ดีนัก เราก็ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าหากเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นแบบที่อยากอ่าน ส่วนคนที่ชอบ เราก็ดีใจมากค่ะ มีกำลังใจที่ดีมากๆเลยค่ะ *ไหว้ย่อ*

 

               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 22:44:29 โดย Polkaneko »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องๆรู้จักกลัวอีพวกพี่บ้างก้อดีนะจ้องจะกลืนลงท้องตลอดเวลาเลย 55

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
พี่นะดูร้ายมาก ชอบคู่นี้ โอ๊ตจะตามเล่ห์เหลี่ยมพี่นะทันไหม
หรือได้แค่พองขน ฮา

 :pig4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เพื่อนพี่เสือดูโรคจิตไปนะ555

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ความน่ารัก มาได้เรื่อยๆ ..

ออฟไลน์ TheBig

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Polkaneko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
ตอนที่ 7 เสือร้าย


                “กูว่าน้องเขาใสซื่อเกินไปหรือเปล่าวะไอ้เสือ นี่เด็กมหาลัยแล้วนะเว้ย”

                หลังจากเอ้สาบานเป็นรอบที่ร้อยว่าจะไม่ยุ่งกับเด็กน้อยในสังกัดของเพื่อนรักแล้ว เสือถึงยอมวางใจและเล่าเรื่องราวของน้องให้พวกเขาฟัง

                “เอ่อ กูรู้”

                เสือกระแทกแก้วชาเย็นลงบนโต๊ะในโรงอาหาร ตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะกินข้าวกลางวันกันเสร็จ

                “ก็กูชอบที่น้องแฮมเป็นเด็กใส ๆ แบบนี้นี่ว่ะ กูเลี้ยงมากับมือเลยนะเว้ย ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม”

                กว่าจะเลี้ยงให้น้องแฮมบริสุทธิ์ไร้เดียงสาขนาดนี้มันไม่ใช่ง่าย ๆ เลยนะ เขาต้องค่อยเลี้ยงดูทะนุถนอมเจ้าหนูแฮมตั้งแต่เล็ก ๆ  พ่อของน้องแฮมเสียไปตั้งแต่น้องแฮมสามขวบ น้าขวัญที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงย้ายมาอยู่ข้างบ้านของเพื่อนสนิทซึ่งก็คือแม่ของเขา พ่อก็อยู่กลางทะเล นาน ๆ จะกลับมาบ้านสักที เสือจึงเป็นทั้งพี่ชายและพี่เลี้ยง และแน่นอนว่าเขาสกรีนทุกอย่างที่น้องแฮมจะต้องเจอ เขายอมรับก็ได้ว่าเขาชอบน้องแฮมตอนยังเป็นเด็กเล็ก ๆ ตาโตใสแจ๋ว เรียกพี่เสืออย่างงั้น พี่เสืออย่างงี้ น่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด

                “งั้นมึงก็ไม่มีทางได้แดกน้องหรอก ปล่อยให้น้องใส ๆ แบบนั้นต่อไปเหอะ”

                เอ้สัพยอก มิน่าน้องมันถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย นิวหัวเราะก๊ากเมื่อเห็นเสือเหลือบมองเอ้ตาขวาง

                “แล้วทำไมมึงไม่สอนน้องมันละวะ”

                นะตบบ่าเสือเบา ๆ ก่อนจะยิ้มที่มุมปากด้วยท่าทางสบาย ๆ

                “สอนน้องให้รู้ทุกอย่างด้วยตัวมึงเอง ฟังดูน่าสนใจไหมละ”

                เสือใช้นิ้วหัวแม่มือลูบที่ริมฝีปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะยกยิ้ม

                เป็นความคิดที่ดีจริง ๆ

 

                ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว~

                “พี่เสือ น้องแฮมหนวกหู”

                เสือหันมามองคนที่นั่งอยู่เบาะข้าง ๆ ที่กำลังทำคิ้วย่นเพราะเสียงร้องเพลงที่ดังลั่นรถของเขา

                “ไม่เพราะเหรอ”

                เจ้าหนูแฮมส่ายหน้าแบบไม่รักษาน้ำใจกันเลย เสือก็เลยได้แต่ลดเสียงวิทยุให้เบาลง ก่อนจะเอ่ยชวนน้องแฮม

                “วันนี้ไปกินไอติมกันไหมครับ เดี๋ยวพี่เสือพาไป”

                เขากะว่าจะเอาใจน้องก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสสอนอะไรต่อมิอะไรให้เด็กน้อยของเขา

                น้องส่ายหัวทำหน้ามุ่ย ๆ เสือเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจว่าทำไมวันนี้เจ้าหนูแฮมไม่ยักกะสนใจไอศกรีมของโปรด แถมเจ้าตัวยังดูไม่ค่อยร่าเริงผิดกับเมื่อตอนที่แวะมาหาเขาที่คณะ

                “น้องเสือปวดท้อง อยากกลับบ้าน”

                “เอ๊ะ ไปกินอะไรมาเหรอถึงปวดท้อง”

                “ไม่รู้อ่ะ น้องแฮมก็กินข้าวที่โรงอาหารเหมือนเดิมนะ”

                “งั้นรีบกลับบ้านนะครับ”

                น้องแฮมพยักหน้า ก่อนจะพิงประตูอย่างเนือย ๆ เสือเหลือบมองคนที่นั่งข้าง ๆ ปกติน้องแฮมจะค่อนข้างพลังเยอะ ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา พอเจ้าหนูหงอย ๆ แบบนี้ก็อดสงสารไม่ได้

                เสือรีบขับรถกลับมาที่บ้านเมื่อจอดรถเรียบร้อยเขาก็หันไปถามน้องที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถ

                “น้องแฮมไหวไหม แล้วมียาหรือเปล่า”

                “ไหวฮะ มียาอยู่ในตู้ที่บ้าน น้องแฮมกลับก่อนนะพี่เสือ”

                เจ้าตัวเล็กเดินซึม ๆ กลับเข้าบ้านไป เสือมองจนน้องปิดประตูเข้าบ้านไปแล้วก็เข้าบ้าน เขาเดินเข้าไปในครัวเห็นแม่กำลังทำกับข้าวอยู่

                “กลับมาแล้วครับ”

                เสือเดินไปเปิดฝาชีที่ครอบกับข้าวไว้ วันนี้มีหมูทอดกระเทียมกับแกงจืดเต้าหู้ไข่แฮะ

                “กลับมาพร้อมน้องหรือเปล่าลูก”

                “ไปด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิครับ”

                “ดีจัง ตั้งแต่น้องแฮมไปเรียนมหาลัย พี่เสือก็กลับบ้านเร็วทุกวันเลย ถึงดึก ๆ จะแอบออกไปอีกก็เถอะ”

                เสือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หยิบหมูทอดในจานมาชิม

                “แม่มียาแก้ปวดท้องไหมครับ”

                “พี่เสือปวดท้องเหรอลูก”

                “น้องแฮมน่ะครับ ไม่รู้ที่บ้านมียาหรือเปล่า”

                “ยาธาตุอยู่ในตู้ยาน่ะลูก พี่เสือจะเอายาไปให้น้องก็เอาปิ่นโตที่แม่เตรียมไว้ไปให้ด้วยนะ เห็นน้าขวัญบอกจะกลับดึก”

                เสือคว้าปิ่นโตสามเถาที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินไปยังตู้ยาตรงบันได หยิบเอายาธาตุที่มีรูปกระต่ายกำลังบินออกมาแล้วเดินไปกดกริ่งบ้านที่อยู่ติดกัน

                เจ้าของบ้านเดินมาเปิดประตูรั้วด้วยสีหน้าที่ยังไม่ดี เสือลูบหัวน้องเบา ๆ

                “กินข้าวกินยาหรือยังครับ”

                “กินยาแล้ว กำลังจะหาข้าวกินแต่แม่ไม่ได้ทำอะไรไว้เลย แม่บอกจะกลับดึก น้องแฮมว่าจะต้มโจ๊กซองกิน”

                “ไม่ต้องแล้ว พี่เสือเอาปิ่นโตมาส่ง” เสือชูปิ่นโตที่ถือมาให้น้องดู

                “ดีเลย น้องแฮมก็ไม่อยากกินโจ๊กซอง”

                เจ้าหนูแฮมยิ้มตาหยี เห็นแบบนี้คนเป็นพี่ก็อุ่นใจว่าน้องไม่ได้เป็นอะไรมาก เขาเดินตามน้องเข้ามาในบ้าน จัดการแกะปิ่นโตวางไว้ที่โต๊ะให้เรียบร้อยในขณะที่เจ้าของบ้านเดินไปหยิบช้อนส้อม

                “พี่เสือกินด้วยกันไหม” แฮมหันไปถามพี่ชาย

                เสือส่ายหน้า เขาเปิดตู้เย็นเทน้ำใส่แก้วมาวางไว้ที่โต๊ะ “เดี๋ยวพี่กลับไปกินที่บ้านเป็นเพื่อนแม่”

                แฮมจึงหยิบอุปกรณ์ในการกินมาเพียงชุดเดียวก่อนจะลงมือ เสือยังนั่งอยู่เป็นเพื่อน มองน้องตักเต้าหู้ไข่เข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ

                “น้าขวัญบอกว่าจะกลับมากี่โมง”

                “แม่บอกอาจจะเกินห้าทุ่ม ถ้าน้องแฮมง่วงก็ให้นอนก่อนเลยไม่ต้องรอ”

                ห้าทุ่ม...งั้นก็มีเวลาอีกหลายชั่วโมงสินะ

                เสือยิ้มที่มุมปากเมื่อมองเจ้าหนูแฮมที่กำลังตักหมูทอดเข้าปาก

                “งั้นเดี๋ยวพี่เสือมาอยู่เป็นเพื่อนละกัน น้องแฮมจะได้ไม่ต้องอยู่บ้านคนเดียว”

                “อ้าว งั้นน้าปลาก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวสิ” น้องแฮมเงยหน้าขึ้นถามพี่ชายตาแป๋ว

                “ก็น้องแฮมไม่สบาย พี่เสือไม่อยากให้อยู่คนเดียวไงครับ”

                น้องแฮมพยักหน้างึกงักก่อนจะกินข้าวต่อ เสือรอจนน้องกินข้าวเสร็จก็เก็บปิ่นโตกลับบ้านมากินข้าวที่บ้านพร้อมกับแม่ ก่อนจะรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก่อนออกจากบ้านเขาตะโกนแม่ให้รู้ว่าไปอยู่ที่บ้านข้าง ๆ

                เสือเดินเปิดประตูรั้วเข้ามาเลยเพราะเมื่อกี้ตอนเขาออกไปไม่ได้ล็อคประตู พอเข้ามาในบ้านของแฮมก็เห็นเจ้าของบ้านนอนดูทีวีอยู่ตรงโซฟา

                “หายปวดท้องหรือยังครับ”

                เสือลงไปนั่งเบียดคนที่นอนอยู่ เขาเอามือแตะหน้าท้องของน้องผ่านเสื้อยืด

                “ก็ยังปวดอยู่หน่อย ๆ พี่เสือ”

                เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นนั่งเพื่อให้เสือขยับนั่งบนโซฟาได้มองขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะลงไปขดตัวนอนหนุนตักพี่ชายโดยหันหน้าออก ทำเอาเสือแอบอมยิ้ม น้องแฮมพอไม่สบายทีไรมักจะอ้อนแบบนี้ เขาปัดผมหน้าที่ปรกหน้าออกก็จะก้มลงจุ๊บหน้าผากด้วยความเอ็นดู

                แฮมหลับตาพริ้มตอนที่พี่เสือก้มลงมาจุ๊บเหม่ง เขาชอบสัมผัสอ่อนโยนแบบนี้เวลาที่ไม่สบาย มันช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้น คนตัวเล็กจึงขยับตัวขึ้นนอนหงายสบตาพี่ชาย ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้พี่เสือตาวาวขึ้นมา

                “พี่เสือ มาจุ๊บหน่อย”

                เสือมองคนที่นอนทำตาใสทำปากจู๋รอให้เขาก้มลงไปจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปาก ในฐานะพี่ที่ดีเขาก็ต้องทำตามที่น้องขอโดนการก้มลงจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปาก พอถอยออกมาก็เห็นรอยยิ้มชอบใจของน้องแฮม

                “จุ๊บอีก ๆ”

                เมื่อได้ยินแบบนั้นมีหรือที่พี่เสือจะปล่อยให้น้องต้องรอนาน เขาก้มลงแตะบนริมฝีปากของน้องเบา ๆ ก่อนจะบดริมฝีปากแรงขึ้นแล้วขบริมฝีปากล่างของน้องแฮมเบา ๆ ให้เผยอปากให้เขาเข้าไปชิมความหวานภายในจนพอดีถึงยอมปล่อยให้น้องได้หายอกหายใจบ้าง

                เสือก้มลงมองคนบนตักที่หายใจแรง ปากเล็ก ๆ นั่นเผยอและดูชุ่มชื้นไปด้วยน้ำลาย เสือจึงใช้นิ้วหัวแม่มือเช็คริมฝีปากให้น้อง

                “พี่เสือขี้โกง น้องแฮมบอกให้จุ๊บเฉย ๆ มากัดปากน้องแฮมทำไม”

                น้องแฮมทำปากเบะ เมื่อกี้โดนพี่เสือกัดอีกละ แล้วก็มาดูดปากทำน้องแฮมหายใจไม่ออกอีกแล้ว หลัง ๆ ทำไมพี่เสือชอบทำแบบนี้ก็ไม่รู้

                คนเป็นพี่มองน้องด้วยความเอ็นดูก่อนจะอธิบายสิ่งที่เขาทำ นี่คงเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้สอนน้องให้เป็นงานเสียที

                “เมื่อกี้ที่พี่เสือทำเขาเรียกว่าจูบครับ”

                “จูบ” น้องแฮมลุกขึ้นนั่งเอ่ยทวนคำที่เขาบอก “แบบที่เขาทำกันในทีวีน่ะเหรอ”

                น้องแฮมเคยเห็นนะ ถึงแม่จะไม่ค่อยให้ดูก็เถอะ

                “แบบนั้นแหละครับ”

                “แล้วทำไมพี่เสือต้องจูบด้วยละ เราแค่จุ๊บกันไม่ได้เหรอ”

                จุ๊บกันเหมือนที่น้องแฮมจุ๊บกับแม่ จุ๊บกับคุณยายที่ตอนนี้อยู่บนสวรรค์แล้ว จุ๊บกับพะโล้แบบนั้นไม่ได้เหรอ

                “ก็เพราะน้องแฮมคือคนพิเศษของพี่เสือไงครับ”

                “คนพิเศษ” น้องแฮมทำหน้างง ๆ เขาก็เลยขยายความ

                “ใช่ครับ น้องแฮมเป็นคนพิเศษที่สุดของพี่เสือ พี่เสือก็เลยอยากทำอะไรกับน้องแฮมเป็นพิเศษไง”

                “คนพิเศษนี่เขาต้องจูบกันเหรอ”

                “ครับ จูบกัน น้องแฮมชอบจูบกับพี่เสือไหม”

                เสือคว้ามือนิ่มของน้องมาคลึงเล่นก่อนจะยกขึ้นจรดที่ริมฝีปากเบา ๆ เขารู้ว่าเจ้าหนูแฮมชอบสัมผัสอ่อนโยนแบบนี้

                น้องนิ่งไป คงกำลังใช้ความคิดอยู่ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก

                “น้องแฮมไม่รู้อ่ะ มันแฉะ ๆ แล้วก็หายใจไม่ค่อยออก แล้วก็หวิว ๆ เหมือนเวลาไปเล่นไวกิ้งเลย”

                “งั้นต้องทำบ่อย ๆ พี่เสือรับรองว่าน้องแฮมจะชอบ” พี่ชายยังคงล่อลวงเด็กน้อยต่อไป

                “ต้องทำบ่อย ๆ ด้วยเหรอ”

                “ใช่ครับ” ว่าแล้วพี่เสือก็จัดจูบไปอีกครั้งหนึ่ง เพื่อน้องจะได้รู้สึกชินและชอบจูบของเขาเร็ว ๆ

                เสือหลุดยิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นว่าพอเขาถอนริมฝีปากออก เจ้าหนูแฮมก็เอามือแตะที่ริมฝีปากพร้อมกับทำคิ้วยุ่งคล้ายกับกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่พวกเขาทำอยู่

                “ยังมีอย่างอื่นมากกว่าจูบอีกนะครับที่คนพิเศษเขาทำกัน”

                คนเจ้าเล่ห์ลองเกริ่นไว้ก่อน เพื่ออะไร ๆ จะได้ง่ายขึ้น

                “ทำอะไรเหรอ”

                เจ้าหนูจำไมถามตาแป๋ว นอกจากจูบนี่ยังมีอะไรอีกเหรอ ทำไมการเป็นคนพิเศษนี่ต้องทำอะไรเยอะแยะจัง

                “น้องแฮมอยากรู้เหรอ”

                “อือ”

                “งั้นน้องแฮมก็ต้องให้พี่เสือเป็นคนพิเศษของน้องแฮมเหมือนกันนะครับ”

                คนพิเศษเหรอ...

                น้องแฮมนิ่งก่อนจะพยักหน้ารับ

                “ได้ น้องแฮมให้พี่เสือเป็นคนพิเศษก็ได้”

                “ดีมากครับ”

                เสือโยกหัวน้องด้วยเอ็นดูพร้อมกับยิ้มละมุนขัดกับในใจเสือที่กำลังร้องคำรามด้วยความดีใจ

                หึ ๆ เริ่มต้นไปได้สวย...

 

                TBC...

               

            การล่อลวงเด็กก็เริ่มต้นขึ้น......คุกๆ...เอ๊ะ น้องแฮมสิบแปดแล้ว ไม่คุกแล้วสินะ หุหุ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอ้ยยยย พี่เสือสอนอะไรน้อง

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หลอกเต๊าะน้องแบบเนียนๆ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
กว่าจะได้สอน .. สงสัย

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่เสือคนเจ้าเล่ห์

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Polkaneko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
ตอนที่ 8 แมวเอ๋ยแมวเหมียว


                พอหมดคาบเรียนสุดท้ายของนักศึกษาปีหนึ่ง คณะศึกษาศาสตร์ แฮมและโอ๊ตก็เดินออกมารอพี่เสือที่หน้าคณะเหมือนทุกวัน สักพักรถซีอาร์วีสีดำก็มาจอดเทียบ แฮมโบกมือลาเพื่อนก่อนจะขึ้นรถไปกับเสือ

                โอ๊ตมองดูรถที่เคลื่อนออกไปแล้วก็เดินไปอีกทาง ส่วนตัวเขาเองก็แวะไปเอาหนังสือที่จองไว้ที่ห้องสมุดก่อนกลับหอที่อยู่ห่างมหาวิทยาลัยไปไม่ไกลนัก

                หลังจากออกมาจากห้องสมุดฟ้าก็เริ่มมืด โอ๊ตเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นเมฆครึ้มดำเริ่มลอยเข้ามาใกล้ เขากระชับกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ก่อนจะเร่งฝีเท้าออกเดิน หวังว่าเขาจะกลับถึงหอได้ทันก่อนฝนจะตก

                แต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่เป็นใจกับคำขอของเขา เพราะเมื่อเดินไปได้ไม่ถึงสิบนาที เม็ดฝนก็เริ่มร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า โอ๊ตมองหยดฝนในมือก่อนจะถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ รู้แบบนี้ให้พี่เสือแวะไปส่งที่ป้ายรถเมล์ตามคำชวนก็ดี วันนี้ดันลืมร่มไว้ที่ห้องด้วยสิ

                เอาวะ รีบวิ่งไปก็คงไม่เปียกเท่าไหร่หรอกมั้ง

โอ๊ตรีบวิ่งลัดเลาะไปตามทางเดินในมหาลัย แต่ไม่ทันไรฝนเจ้ากรรมก็ตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนเขาต้องวิ่งหูลูบเปียกซกไปหลบอยู่ที่บันไดใต้อาคารที่อยู่ใกล้ ๆ เขาปลดกระเป๋าเป้ลงมาดูว่ามีอะไรเสียหายหรือเปล่า โชคดีที่กระเป๋าเป็นผ้าแบบกันน้ำ พวกหนังสือและชีทเรียนที่อยู่ข้างในเลยไม่เสียหาย คนตัวเล็กมองสายฝนที่ไม่มีทีท่าจะหยุดตกง่าย ๆ แล้วก็ได้แต่เซ็ง คงต้องนั่งรออยู่ตรงนี้ไปก่อนจนกว่าฝนจะซาพอให้เขาเดินไปได้

คิดได้แบบนั้นโอ๊ตก็นั่งลงตรงบันไดขั้นบนสุด เอาวางกระเป๋าไว้บนตัก เสื้อนักศึกษาของเขาเปียกไม่น้อยเลย เห็นทีกลับไปคงต้องรีบอาบน้ำสระผมไม่งั้นจะเป็นหวัด แล้วนี่เย็นนี้เขาจะกินอะไรเป็นมื้อเย็นดีนะ ข้าวมันไก่หรือว่าข้าวหมูกรอบดี หลังว่าร้านป้าคงไม่รีบปิดนะ แวะซื้อน้ำเต้าหู้ไปกินก่อนนอนด้วยดีกว่า

โอ๊ตนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลาระหว่างที่นั่งรอ เนื่องจากเป็นตอนเย็นหลังเลิกเรียนแล้ว นักศึกษาส่วนใหญ่ต่างพากันกลับไปแล้ว บรรยากาศรอบตัวจึงค่อนข้างวังเวง ได้ยินแต่เสียงฝนที่สาดลงมาอย่างไม่ยอมหยุดเสียที

“เฮ้อ เมื่อไหร่จะหยุดเนี่ย หิวแล้วนะ”

โอ๊ตถอนหายใจและบ่นออกมาเสียงดังด้วยความเบื่อ

“กลับด้วยกันไหมครับข้าวโอ๊ต”

คนที่นั่งอยู่สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงทุ้ม ๆ ที่ข้างหู เขาหันขวับไปก็พบใบหน้าหล่อตี๋ที่ก้มลงมาในระยะประชิด โอ๊ตผงะยืนขึ้นและถอยห่างทันทีโดยอัตโนมัติจนเกือบจะตกบันได

นะส่งยิ้มให้กับเด็กปีหนึ่งต่างคณะที่ทำหน้าตาตื่นเมื่อเห็นหน้าเขา เขาเพิ่งลงมาจากตึกหลังจากคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องโปรเจ็คเสร็จ พอกำลังจะเดินไปที่รถสายตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีนักศึกษานั่งอยู่ตรงบันได เขาก็เลยเดินมาดูเผื่อมีอะไรให้ช่วย ไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าลูกแมวขนฟูที่เขาเจอเมื่อวันก่อน

“ติดฝนกลับไม่ได้เหรอครับ”

ดูจากสภาพน้องที่เปียกเป็นลูกแมวตกน้ำแบบนี้คงวิ่งตากฝนมาหลบอยู่ตรงนี้สักพักแล้วสินะ

โอ๊ตเม้มปากแน่น ตอนที่วิ่งมาเขาก็ไม่ทันได้ดูว่าตึกที่วิ่งเข้ามาหลบฝนคือตึกของคณะวิศวะ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าจะบังเอิญเจอกับเพื่อนพี่เสือคนนี้

คนที่เอาแต่ยิ้มอยู่ได้เกือบตลอดเวลา

นะมองคนที่ไม่ยอมพูดอะไร จะว่าน้องจำเขาไม่ได้ก็ไม่น่าจะใช่ แต่ไอ้ท่าทางระแวงตัวพองกอดกระเป๋าไว้แน่นแบบนั้นคืออะไรกัน นะได้แต่นึกขำในใจด้วยความเอ็นดู

“อย่างไงติดรถพี่ไปลงตรงที่ต่อรถดีไหมครับ”

นะขยับตัวเข้าใกล้น้องอีกหน่อย โอ๊ตพอเห็นแบบนั้นก็รีบปฎิเสธ

“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้”

“จะดีเหรอครับ ดูสิเปียกหมดแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ”

“ผมไม่เป็นไร เปียกนิดหน่อยเดี๋ยวก็แห้ง”

พูดยังไม่ทันขาดคำ ลมเจ้ากรรมก็ดันพัดฝนให้สาดเข้ามาทางที่โอ๊ตยืนอยู่พอดี ทำเอาเขาเปียกยิ่งกว่าเดิมอีกและเขาก็ต้องเขยิบเข้ามาใกล้คนที่ยืนมองอยู่อย่างเสียไม่ได้

“ท่าทางฝนคงจะตกแบบนี้ทั้งคืน แล้วเดี๋ยวลุงยามก็จะมาปิดตึกแล้วนะครับ”

โอ๊ตเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ นี่ก็เกือบทุ่มแล้ว เอาอย่างไงดี เขามองเพื่อนพี่เสือที่เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวันก่อนด้วยความลำบากใจ ก่อนจะตัดสินใจในที่สุด

“งั้นผมขอติดรถไปลงตรงป้ายรถเมล์หน้ามอได้ไหมครับ”

นะยิ้มไม่ตอบ เขาหยิบร่มที่ติดมาในกระเป๋าสะพายออกมากางก่อนจะชวนอีกคนเข้ามาในร่มด้วย

“รถพี่จอดอยู่ตรงหน้าคณะนี่เอง”

“ครับ”

โอ๊ตตอบรับเสียงเบาก่อนจะจำใจเดินคู่กันไปกับรุ่นพี่ต่างคณะ เขาเว้นระยะระหว่างกันจนตัวแทบจะไม่อยู่ในร่มเลย จนนะเอาต้องเป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้แทน

“เขยิบเอามาอีกสิครับ เดี๋ยวก็โดนฝนหรอก”

คนตัวสูงเข้ามาใกล้จนโอ๊ตรู้สึกถึงไออุ่นจากร่างสูงใหญ่ของอีกคน เขาพยายามเร่งฝีเท้าเดินไปที่รถ นะกดรีโมตเปิดรถมาสด้าสีขาวที่จอดอยู่เพียงคันเดียว เขาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้น้องขึ้นไปนั่งก่อนที่ตัวเองจะอ้อมมาขึ้นรถ

“คาดเข็มขัดด้วยสิครับ”

นะหันไปมองคนที่ยังนั่งเฉยเมื่อเขาคาดเข็มจัดนิรภัยให้ตัวเองแล้ว

“เอ่อ เดี๋ยวผมก็ลงแล้วครับ”

“ไม่ได้นะ มันอันตราย ถึงจะใกล้ก็เถอะ” เขาเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี ก็จะพูดยิ้ม ๆ “หรือจะให้พี่คาดให้ครับ”

“ไม่เป็นไรครับ” โอ๊ตรีบคว้าสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดทันทีเมื่อเห็นว่านะไม่ได้พูดเปล่าแต่ทำท่าจะเอื้อมมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขาจริง ๆ

“หนาวเหรอครับ”

พอขับออกมาจากคณะ นะก็เอื้อมมือไปลดแอร์ลงเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งข้าง ๆ นั่งตัวสั่นกอดกระเป๋าเป้ไว้แน่น เจ้าของรถกดเปิดซีดีให้เล่นเพลงเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบจนเกินไป เพราะโอ๊ตเอานั่งทำหน้านิ่งไม่พูดอะไรเลย นะยิ้มมุกปากก่อนจะแอบมองเจ้าเด็กที่นั่งมาด้วยกันระหว่างขับรถ

ตาเรียวกับจมูกรั้นแบบนี้ท่าทางจะดื้อไม่ใช่น้อยเลยสินะ

“บ้านข้าวโอ๊ตอยู่แถวไหนเหรอครับ” นะลองชวนคุยดู เจ้าเด็กนี่คงไม่ปล่อยให้เขาพูดคนเดียวหรอกมั้ง

“ผมอยู่หอน่ะครับ” โอ๊ตตอบโดยไม่หันมามองคนถาม

“พี่ก็อยู่หอเหมือนกัน เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับบ้าน”

“แล้วนี่ข้าวโอ๊ตจะลงตรงไหนเหรอครับ” นะยังคงชวนคุยไปเรื่อย ๆ ตามนิสัยที่เป็นคนอัธยาศัยดี

“เรียกผมว่าโอ๊ตเฉย ๆ ดีกว่าครับ”

“ทำไมละ พี่ว่าชื่อข้าวโอ๊ตก็ฟังดูน่ารักดีนะครับ”

ก็เพราะมันฟังดูน่ารักมุ้งมิ้งเกินไปนั่นแหละ เขาถึงไม่อยากจะให้ใครเรียกชื่อนี้ ฟังดูหน่อมแน้มชะมัด

“มันเป็นชื่อที่เรียกกันตอนเด็ก ๆ น่ะครับ ตอนนี้ไม่มีใครเรียกชื่อนี้แล้ว”

“ถ้าอย่างงั้นขอพี่เรียกข้าวโอ๊ตก็แล้วกันนะครับ”

“เอ๊ะ” โอ๊ตทำหน้ายุ่ง

ทำไมถึงเข้าใจอะไรยากแบบนี้เนี่ย ก็เพิ่งบอกว่าไม่ให้เรียกก็ยังจะเรียกอีก กวนประสาทชะมัด

นะแสร้งทำเป็นมองกระจกมองข้าง ยิ้มขำกับท่าทางฮึดฮัดของเจ้าลูกแมว

“ตกลงข้าวโอ๊ตจะให้พี่ไปส่งตรงไหนเหรอครับ”

โอ๊ตพ่นลมหายใจออกมาอย่างขัดใจ เออ อยากจะเรียกอะไรก็เรียกไป อย่างไงคงไม่ได้พบเจอกันอีกละ

“เดี๋ยวจอดตรงป้ายรถเมล์หน้ามอที่อยู่ข้างหน้าครับ”

นะเปิดไฟเลี้ยวจะเข้าชิดข้างทาง เขาขะเง้อมองดูป้ายรถเมล์ที่มีคนยืนรออยู่สองสามคน

“ต้องนั่งรถไปไกลไหมครับ แล้วนี่จะเข้าหออย่างไง”

“นั่งวินตรงป้ายรถเมล์ไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วครับ”

“อืม แต่ไม่เห็นมีวินสักคันเลยนะครับ ฝนตกขนาดนี้เขาคงกลับบ้านไปหมดแล้วมั้ง”

คนที่มองหาวินมอเตอร์ไซค์อยู่เม้มปากแน่น จริงอย่างที่พี่เขาพูด ป่านนี้พวกพี่วินคงกลับบ้านไม่ออกมาแล้วละ และไอ้ฝนบ้านี่ก็ยังไม่หยุดสักที หรือว่าเขาจะต้องเดินกลับเอง ตรงหน้าปากซอยน้ำมักจะขังเวลาฝนตกหนักด้วยสิ

“เอางี้ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่หอดีกว่า” นะเสนอตัวอย่างใจดี

“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้” แต่อีกคนกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย

“ไม่ต้องเกรงใจ อย่างไงพี่ก็ผ่านทางนี้อยู่แล้ว” นะหันมายิ้มให้แบบสบาย ๆ

ไม่ได้เกรงใจเว้ย แต่ไม่อยากให้มาส่ง เข้าใจไหม

โอ๊ตได้แต่ส่งเสียงประท้วงอยู่ในใจ แต่ดูจากสายฝนที่แม้จะซาลงไปบ้าง แต่ถ้าให้เดินกลับจริง ๆ เขาก็คงมีสภาพไม่ต่างจากตกน้ำมา ก็เลยจำต้องยอมให้เพื่อนพี่เสือคนนี้ไปส่ง

 “เลี้ยวตรงไหนก็บอกพี่ก่อนนะครับ”

นะเหลือบดูเจ้าตัวเล็กที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ท่าทางจะไม่เต็มใจให้เขาไปส่งที่หอเท่าไหร่นัก เขาเห็นสายตาที่แอบมองมาที่เขาด้วยความไม่ไว้ใจ

                “เอ่อ เลี้ยวซ้ายซอยข้างหน้าครับ”

                รถมาสด้าสีขาวเลี้ยวเข้ามาในซอยที่มีหอพักเรียงรายอยู่ตามคำบอก โอ๊ตชี้ไปที่ร้านข้าวมันไก่ที่อยู่ซ้ายมือข้างหน้า

                “จอดตรงร้านนั้นก็ได้ครับ”

                “อ้าว แล้วไม่ให้พี่ไปส่งที่หอเลยละ”

                “ผมจะแวะซื้อข้าวก่อนน่ะครับ”

                นะจอดรถตรงริมฟุตบาทหน้าร้าน เขาเอื้อมมือไปที่เบาะหลัง หยิบร่มคันเดิมที่วางไว้มายื่นให้น้อง

                “งั้นข้าวโอ๊ตเอาร่มพี่ไปละกัน จะได้ไม่เปียกตอนเดินกลับหอ”

                โอ๊ตมองดูร่มสีน้ำเงินเข้มที่ถูกยื่นมาตรงหน้า นะเห็นน้องไม่ยอมรับเสียทีก็คว้ามืออีกฝ่ายมาแล้วยัดร่มใส่ในมือ

“ไม่ต้องห่วงว่าพี่จะตากฝน เพราะที่จอดรถอยู่ใต้หอ อย่างไงพี่ก็ไม่เปียก”

โอ๊ตมองร่มในมือพลางเหลือบมองเจ้าของร่ม

ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อย ที่เขาคิดมากอยู่คือถ้ารับร่มมาแล้วก็ต้องเอามาคืน แบบนี้ก็อาจจะต้องเจอกับเจ้าของร่มอีกน่ะสิ

โอ๊ตถอนหายใจก่อนจะยกมือไหว้คนที่อุตส่าห์มาส่งทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ขอ

“ขอบคุณนะครับ”

นะมองคนที่เปิดประตูลงรถไปแลtรีบวิ่งเข้าไปในร้านข้าวแล้วก็ขับรถออกมา เขาขับตรงเข้ามาในซอยเรื่อย ๆ ไม่ได้ขับเข้ามาเพื่อหาที่กลับรถอย่างที่โอ๊ตเข้าใจ แต่เขากลับเลี้ยวรถเข้าไปจอดใต้หอพักแห่งหนึ่งที่อยู่เลยเข้ามาอีกประมาณร้อยเมตร

ใช่แล้ว เขาพักอยู่ซอยเดียวกับข้าวโอ๊ต

ถึงวันนี้จะไม่ได้ไปส่งเจ้าลูกแมวที่หอ แต่นะคิดว่าอยู่ซอยเดียวกันแบบนี้คงมีโอกาสบังเอิญเจอกันอีกบ่อย ๆ ไม่เป็นไร เขาไม่รีบ นะฮัมเพลงระหว่างเดินขึ้นห้องอย่างอารมณ์ดี

 

เช้าวันต่อมาระหว่างทางที่ขับรถออกจากซอย นะก็สังเกตไปด้วยว่าจะมีเด็กปีหนึ่งคณะศึกษาคนนั้นเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ หน้าหอแถวนี้บ้างหรือเปล่า แต่ดูเหมือนเรื่องบังเอิญคงไม่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ เขาจึงไม่เจอคนที่อยากเจอ

แต่พอเดินเข้าห้องเรียนไปสมทบกับเพื่อน ๆ ที่นั่งกันอยู่ก่อน เสือก็ยื่นร่มคันคุ้นตามาให้

“เอาไป โอ๊ตฝากมาคืน”

นะรับร่มคันสีน้ำเงินมา รอยยิ้มผุดขึ้นมาที่มุมปากเมื่อนึกถึงคนที่ฝากมา

นี่ใจคอจะไม่มาเจอกันเลยสินะ

“โอ๊ต...โอ๊ตนี่ใครวะ”

คนชอบยุ่งเรื่องของเพื่อนยืนหน้ามาถาม เอ้มองร่มในมือนะด้วยความสนใจ

“คนที่มึงเจอพร้อมน้องแฮมเมื่อวันก่อนไง”

“อ้อ แล้วทำไมร่มไอ้นะถึงไปอยู่กับน้องเขาได้ละวะ”

“กูจะไปรู้เหรอ มึงก็ถามมันสิ” เสือบุ้ยใบ้ไปทางเจ้าของร่ม

“ทำไมร่มมึงถึงไปอยู่กับน้องวะไอ้นะ”

นะส่ายหัวให้กับความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนก่อนจะนั่งลงข้างเสือ

“อ้าว ไม่ยอมบอกกูอีก” เอ้เริ่มโวยวายเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่สนใจ

“กูแค่บังเอิญเจอน้องตอนที่ฝนตกเมื่อวาน เห็นน้องมันไม่มีร่ม กูก็เลยให้ยืมร่มไปก็เท่านั้น”

“อ้อ กูก็นึกว่ามีอะไร” พอได้คำตอบ เอ้ก็เลิกสนใจ หันกลับไปคุยกับนิวเรื่องที่คุยกันค้างไว้ก่อนที่นะจะเข้ามา

คนที่มักจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอมองร่มที่อยู่ในมือ คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะไม่ต้องเจอเขาอีกงั้นเหรอเจ้าแมวน้อย

 

TBC...

 

เจ้าแมวน้อย~~

ขออภัยที่หายไปนานน้าาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2018 02:02:00 โดย Polkaneko »

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :mew1: คิดถึงน้องแฮมกับพี่เสือมากกกมายยยยค่ะ  o13

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ข้าวโอ๊ตเหมือนแมวเหมียวจริงๆด้วย น่าร๊ากกกก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Polkaneko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2
ตอนที่ 9 ชาติเสือต้องไว้ลาย



หลังจากวันที่น้องแฮมยอมตกลงเป็น ‘คนพิเศษ’ ตามคำล่อลวงของพี่เสือ พี่ชายข้างบ้านคนนี้ก็เริ่มสอนอะไรต่อมิอะไรให้กับน้องบ้าง

อย่างวันนี้...วันที่แม่ของพวกเขาทั้งคู่ออกไปช๊อปปิ้งตามประสาสาว ๆ

...ทางสะดวก

 

“น้องแฮมครับ”

“อือ”

น้องแฮมส่งเสียงขานรับเบา ๆ แต่ตากลมโตยังจ้องอยู่ที่หนังสือการ์ตูนในมือที่เสือเพิ่งซื้อมาเมื่อวานยกชุดเพราะวันก่อนได้ยินเจ้าหนูแฮมคุยกับโอ๊ตว่ามีเพื่อนผู้ชายที่คณะชวนน้องแฮมให้ไปอ่านการ์ตูนที่บ้าน พอน้องแฮมโบยมือบ๊ายบายแม่ที่หน้าบ้านเรียบร้อย พี่เสือก็พาเจ้าหนูแฮมขึ้นมาอ่านการ์ตูนบนห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไว้รอท่า

เมื่อเห็นว่าน้องแฮมยังนอนคว่ำหน้าอ่านการ์ตูนไม่สนใจเขาเลย เสือจึงขยับเข้าไปคร่อมตัวน้องวางปลายคางลงไปไหล่ของคนที่นอนอยู่

“สนุกไหมครับ”

เสือเอ่ยถามพลางดมกลิ่นแชมพูอ่อน ๆ บนเส้นผมอ่อนนิ่ม

“อือ สนุกอย่างที่กัซบอกจริง ๆ ด้วยละพี่เสือ”

“กัซ?” เสือเอ่ยทวนชื่อที่ไม่คุ้นหู

“กัซคนที่ชวนน้องแฮมไปอ่านการ์ตูนที่บ้านไง กัซบอกที่บ้านกัซมีการ์ตูนเยอะแยะไปหมดเลยนะพี่เสือ”

น้องแฮมหันมาเล่าเจื้อยแจ้วตาเป็นประกาย แต่พี่เสือได้ยินแล้วคิ้วขมวดไม่ชอบใจนัก

“ทำไมต้องไปที่บ้านด้วย เอามาให้ยืมอ่านที่มหาลัยก็ได้”

“กัซบอกเดี๋ยวยืมกันหลายคนแล้วหนังสือมันจะหาย ถ้าน้องแฮมอยากอ่านก็ไปอ่านที่บ้านกัซเอง”

เหอ...ไอ้เด็กเวร

นึกเหรอว่าเขารู้ไม่ทัน คิดจะมายุ่งกับเจ้าหนูแฮมของเขาอย่างงั้นเหรอ

“น้องแฮมไม่ต้องไปที่บ้านเพื่อนคนนั้นหรอก รบกวนเขาเปล่า ๆ เกรงใจคนที่บ้านเขาด้วย”

“แต่น้องแฮมอยากอ่านการ์ตูนอ่ะ” แฮมเอียงคอทำคิ้วย่นปากยื่น

เสือโอบคนที่อยู่ในอ้อมแขนก่อนจะยิ้มใจดีให้

“น้องแฮมอยากอ่านเรื่องไหนก็บอกพี่เสือนะครับ เดี๋ยวพี่เสือจะหามาให้”

“จริง ๆ นะ” น้องแฮมตาเป็นประกาย

“จริงสิ”

พี่เสือยอมทุ่มเงินเก็บในบัญชีเพื่อน้องแฮมเลยละ ยิ่งได้เห็นเจ้าหนูแฮมของเขายิ้มดีใจจนตาหยีแบบนี้พี่เสือยิ่งทุ่มสุดตัว ไหน ๆ ก็จ่ายไปเยอะสำหรับการ์ตูนยกชุดนี่ เขาขอถอนทุนคืนสักหน่อยเถอะ ว่าแล้วพี่เสือก็เอ่ยขอรางวัลกับน้องแฮม

“เนี่ย พี่เสืออุตส่าห์หาการ์ตูนมาให้น้องแฮมอ่าน น้องแฮมจะไม่ให้รางวัลพี่เสือบ้างเหรอ”

“รางวัลเหรอ” น้องแฮมหันมาทำหน้างง ๆ ก่อนจะร้องอ๋อ “ได้ ๆ เดี๋ยวน้องแฮมให้รางวัลพี่เสือน้า”

คนตัวเล็กวางการ์ตูนลงก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เสือที่นอนกอดน้องอยู่ก็พลอยลุกขึ้นตามไปด้วย สองมือของน้องแฮมประคองใบหน้าหล่อเข้มไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะจูบเบา ๆ ที่หน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะจุ๊บเบา ๆ ปิดท้ายที่ริมฝีปากหยัก  แล้วส่งยิ้มหวานให้กับพี่ชาย แต่มีหรือที่แค่นี้จะทำให้คนอย่างพี่เสือพอใจ เสือรวบเอวเล็กไว้ด้วยมือข้างเดียวแล้วมืออีกข้างก็ประคองท้ายทอยของน้องไว้ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปบนปากนุ่มนิ่ม เขาตักตวงความหอมหวานจนรู้ตัวอีกทีเจ้าหนูแฮมก็นอนทำตาปรือหลังติดเตียงไปแล้ว

แต่คิดเหรอว่าพี่เสือจะยอมหยุดแค่นี้ มันถึงเวลาที่ต้องไปไกลกว่าจูบแล้ว

มือของเสือถลกเสื้อยืดของน้องขึ้นก่อนจะลูบไล้ไปตามหน้าท้องเนียนขณะที่ริมฝีปากและจมูกก็วนเวียนสูดกลิ่นหอมหวานเหมือนขนมอบใหม่อยู่แถว ๆ ซอกคอขาว ก่อนที่มือซุกซนของเสือจะปลดกระดุมกางเกงขาสั้นแล้วเข้าไปทักทายส่วนที่อยู่ใต้ชั้นในสีขาว

“อือ...พี่เสือ”

น้องแฮมส่งเสียงประท้วงเมื่อเสือออกแรงสัมผัสมากขึ้น เขารีบคว้าข้อมือของพี่ชายเอาไว้

“ไม่จับตรงนั้นสิ”

“ทำไมละครับ”

เสืองับเบา ๆ ที่ริมฝีปากบาง

“น้องแฮม...รู้สึกแปลก ๆ” น้องแฮมเม้มปากก่อนจะพูดต่อเสียงเบา “มันน่าอายอ่ะ”

“น้องแฮมจะอายพี่เสือทำไมละ” รอยยิ้มใจดีถูกส่งให้น้องชาย ก่อนที่เสือจะล้มตัวลงนอนตะแคงข้าง “งั้นน้องแฮมก็จับของพี่เสือบ้างนะ จะได้ยุติธรรม”

เสือจับมือนิ่มของน้องเข้าไปในกางเกงบอลของตัวเอง ให้สัมผัสกับตัวตนของเขาที่อยู่ข้างในนั้น

“น้องแฮมทำตามพี่เสือนะครับคนเก่ง” เสือกระซิบบอก

มือซุกซนของเสือกลับไปยังเป้าหมายเดิม คราวนี้เขารูดซิปกางเกงของน้องลง ลูบไล้สิ่งที่นูนอยู่ก่อนจะจัดการดึงขอบกางเกงชั้นในลงและกอบกุมไว้ในมือ น้องแฮมกระตุกตัวหนีแต่ถูกแขนของเสือโอบกอดไว้

“ทำแบบที่พี่ทำสิครับ”

แฮมหายใจถี่ มองหน้าพี่ชายแล้วก้มลงมองสิ่งที่มือเขาแตะอยู่ หัวใจของเขาเต้นแรงก่อนที่จะทำแบบเดียวกันกับที่พี่เสือทำกับเขา เสือส่งเสียงครางเบา ๆ ด้วยความพอใจเมื่อถูกสัมผัสด้วยมือนิ่มของน้อง แค่เพียงโดนน้องแตะเบา ๆ ของเขาก็แข็งขึ้นมาทันที เขาเห็นน้องก้มมองสิ่งที่อยู่ในมือหน้าตาตื่นก็นึกเอ็นดูจนขยับเข้าไปจูบที่ริมฝีปากอีกที เสือขยับมือและใช้นิ้วขยี้ที่ส่วนปลายของน้อง คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก็จะหลุดครางออกมา ปลายเท้าจิกงุ้มเมื่อพี่เสือขยับมือมากขึ้น

“ทำให้พี่เสือด้วยสิ”

เสือเอ่ยเตือน แฮมปรือตามองพี่ชายก่อนจะขยับมือแบบเดียวกันกับที่พี่ชายทำให้ตน เสือคำรามอย่างพอใจ เจ้าหมูแฮมของเขาเป็นเด็กหัวไว เขาทำแบบนั้น น้องก็เลียนแบบได้แบบเดียวกันไม่มีบกพร่อง เขาเร่งมือให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น จนในที่สุดเจ้าหนูแฮมน้อยในมือของเขาก็ปลดปล่อยออกมา น้องนอนหายใจหอบอย่างอ่อนแรง มือที่กอบกุมเขาอยู่ก็พลอยหยุดนิ่งไปด้วย

คงจะเหนื่อยเกินไปสำหรับมือใหม่แบบน้องแฮม เสือจึงวางมือทับลงบนมือของน้องแล้วจัดการรูดมันขึ้นลงด้วยตัวเอง จนในที่สุดพี่เสือก็สงบลงได้ภายใต้อุ้งมือของน้องสมใจอยาก

มันเยี่ยมมาก ดีกว่าที่เสือเคยจินตนาการไว้จริง ๆ

“น้องแฮมเก่งจัง”

เสือจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเป็นรางวัลให้กับน้องแฮมก่อนจะดึงน้องมากอด ให้น้องซบลงบนบ่า สูดกลิ่นแชมพูอ่อน ๆ บนผมนิ่ม

 “น้องแฮมทำให้พี่เสือมีความสุขที่สุดเลยรู้ไหมครับ น้องแฮมละชอบไหม”

เสือเอ่ยชมพลางลูบหลังของน้องเล่น แฮมเงยหน้าขึ้นมาพี่ชาย ทำหน้างง ๆ กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำกันระหว่างเขากับพี่เสือคืออะไร บอกไม่พูดว่าชอบไหม มันทำให้เขารู้สึกร้อนผ่าวและวาบหวามจนหัวใจเต้นแรงอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ไม่ใช่ความรู้สึกที่แย่หรืออะไรทำนองนั้น

                “พี่เสือ”

                แฮมดันตัวออกจากอ้อมกอดของเสือ ยกมือของตนข้างที่จับของพี่เสือเมื่อครู่นี้ขึ้นมาดู มองคราบขาวเปรอะที่ปลายนิ้วและอุ้งมือขาว

                “มือน้องแฮมเลอะแล้วมันก็เหนียว ๆ ด้วยอ่ะ”

                คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความสงสัยจนเสือหลุดขำ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปหยิบกล่องทิชชู่ที่วางบนโต๊ะมา จัดการเช็ดทำความสะอาดทั้งมือและตรงนั้นของเจ้าหนูแฮมจนสะอาด พร้อมทั้งดึงกางเกงน้องขึ้นมา จัดการรูดซิปติดกระดุมให้ด้วย ก่อนจะหันมาจัดการกับตัวเองต่อจนเรียบร้อย พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับดวงตากลมโตกำลังจ้องมองเขาด้วยความสนใจ เสือยิ้มก่อนจะเอ่ยถาม

                “มองพี่เสือทำไมครับ”

                “เมื่อกี้ทำไมพี่เสือไม่จับของตัวเองละ ทำไมต้องให้น้องแฮมจับ แล้วพี่เสือจับของน้องแฮมทำไม”

                แฮมเอียงคอถามด้วยความสงสัย เสือถอนหายใจ พอได้สติน้องแฮมของเขาก็กลายร่างเป็นเจ้าหนูจำไมทันที เสือลูบหัวน้องก่อนจะนึกหาคำอธิบาย

                “ก็เพราะเราสองคนเป็นคนพิเศษของกันและกันอย่างไงละครับ น้องแฮมจำที่พี่เสือบอกไว้ได้ไหม”

                “อือ” น้องแฮมพยักหน้า จำได้สิ น้องแฮมเป็นคนพิเศษของพี่เสือ แล้วพี่เสือก็เป็นคนพิเศษของน้องแฮม

                “ที่เราทำมันเป็นเรื่องที่คนพิเศษเท่านั้นที่จะทำกัน น้องแฮมจำไว้นะ”

                “ห้ามไปทำกับคนอื่นใช่ไหม น้องแฮมรู้น่า” เจ้าหนูทำจมูกย่นใส่พี่ชาย

                “ถูกต้อง ทำได้กับพี่เสือคนเดียวเท่านั้นนะ” เสือเอ่ยย้ำอีกที

                “ได้ ทำกับพี่เสือคนเดียว”

                เสือมองน้องชายที่พยักหน้างึก ๆ ด้วยความพอใจที่น้องเข้าใจอะไรง่าย ๆ

                “แล้วก็ห้ามทำคนเดียวด้วยนะ ถ้าน้องแฮมอยากทำอีก ต้องมาทำกับพี่เสือนะครับ”

                “จะทำอีกเหรอ” แฮมทำตาโต ต้องทำแบบเมื่อกี้กับพี่เสืออีกเหรอ

                “ทำอีกสิครับ แล้วพี่เสือจะสอนให้มากกว่านี้อีกนะ”

                “มีมากกว่านี้อีกเหรอ”

                “ไว้น้องแฮมก็จะรู้เอง”

เสือแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เขายังมีอะไรจะสอนเจ้าหนูแฮมของเขาอีกเยอะแยะ คราวหน้าจะสอนให้น้องทำอะไรดีนะ

                “ว่าแต่น้องแฮมหิวหรือยัง นี่ก็เกือบเที่ยงละ” เสือเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง

                “นิดนึงฮะ”

                น้องแฮมหยิบการ์ตูนที่อ่านค้างไว้เมื่อกี้มาอ่านต่อ

                “งั้นลงไปกินข้าวกันดีกว่า เมื่อเช้าแม่ทำทอดมันกุ้งไว้ให้น้องแฮมด้วยนะ”

                “เย้ ทอดมันกุ้ง ป่ะ ไปกินทอดมันกุ้งกันพี่เสือ”

                พอได้ยินว่ามีของโปรด น้องแฮมก็รีบลุกจากเตียงของเสือทันที เสือโยกหัวน้องด้วยความเอ็นดูก่อนจะพากันลงไปหาข้าวเที่ยงกินที่ชั้นล่าง

 

 

                เสือผิวปากเดินเข้าห้องเรียนอย่างอามรณ์ดีจนเพื่อน ๆ หันมามอง

“เดี๋ยวนี้หน้าตาสดชื่นนะไอ้เสือ” เป็นนิวที่เอ่อทักก่อนเป็นคนแรกเมื่อเสือเดินมาถึงที่โต๊ะ

                “นั่นสิ ดูมีความสุขเหลือเกิน มีอะไรดี ๆ ก็บอกกันมั้งนะพวก” เอ้ยังคงทำหน้าสนใจใคร่จะรู้เรื่องของเพื่อนเหมือนเดิม

                “ก็นิดหน่อย”

                เสือตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่

                “อย่ามาทำเป็นอมพะนำ มีอะไรก็รีบเล่ามาเลยมึง” เอ้เอาศอกกระทุกแขนเพื่อน

                “เจอสาวคนไหนเด็ดเหรอวะ”

                “สาวที่ไหน กูไม่เห็นไอ้เสือมันไปเที่ยวตั้งนานละ”

                นะส่ายหัวไม่เห็นด้วยกับที่นิวพูด ช่วงนี้ไอ้เสือของพวกเขาแทบจะไม่ไปสังสรรค์กับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ เอะอะก็รีบกลับบ้าน

                “นั่นสิ กูไปเที่ยวทีไร แม่งเจอแต่สาว ๆ ถามหาไอ้เสืออยู่นั่นแหละ” เอ้พยักหน้าเห็นด้วย

                “ไม่ใช่สาวที่ไหนทั้งนั้นแหละ”

                “ถ้าไม่ใช่สาว งั้นก็มีคนเดียวที่ทำให้มึงอารมณ์ดีขนาดนี้” นิวยกมือขึ้นชี้หน้าเพื่อน “น้องแฮมละสิ”

                เสือเพียงแต่ยิ้มกริ่มแต่ก็ไม่ปฏิเสธ เรียกเสียงโห่จากเพื่อน ๆ ด้วยความหมั่นไส้ รุมด่าว่าหลอกเด็ก ล่อลวงเด็กบ้างละ

                “พวกมึงด่าไปกูก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก กูรู้แต่ว่าน้องแม่งโคตรดีอ่ะ รู้งี้กูทำแบบนี้ตั้งหากละ”

                เสือยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านต่อคำด่าของพวกเพื่อน ๆ

                “ไอ้เลว ไอ้คนหลอกลวง ล่อลวงเยาวชนของชาติ”

                “ไม่ต้องมาด่ากูเลยไอ้เอ้ กูเห็นมึงแอบไปม่อเด็กสาธิตอยู่เลย มันก็ไม่ได้ดีกว่ากันหรอกว่ะ”

                “นั่นมันเพื่อนน้องสาวกูโว้ย มึงอย่ามาใส่ร้ายกู”

                เอ้รีบแก้ตัวโวยวายเสียงดัง เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะหูแดงบ่นอุบอิบว่า แค่น้อง ไม่ได้มีอะไร

                ระหว่างที่นั่งขำเอ้กันอยู่ นะก็สะกิดเสือเบา ๆ ก็จะกระซิบถามบางอย่าง

                “กูขอเบอร์ข้าวโอ๊ตหน่อยสิวะ มึงมีใช่ไหม”

                “หือ เบอร์โอ๊ตเพื่อนน้องแฮมน่ะเหรอ” เสือขมวดคิ้วด้วยความฉงน

“ก็คนนั่นแหละ มึงให้กูได้ไหมละ" นะตอบด้วยรอยยิ้มแบบที่มักจะเห็นอยู่ประจำ

นี่มันชักจะอย่างไง ๆ แล้วนะ ทำไมเพื่อนเขาถึงมาขอเบอร์เพื่อนของน้องแฮม เสือจึงถามเรื่องที่สงสัยออกไป

“นี่มึงสนใจโอ๊ตเหรอวะไอ้นะ”

“ก็ทำนองนั่น มึงจะให้กูได้เปล่าละ”

“ไอ้ให้มันก็ให้ได้ แต่กูไม่อยากเห็นมึงไปหลอกน้องมันว่ะ”

โอ๊ตเป็นเพื่อนสนิทของน้องแฮมที่เสือเองก็รู้จักมานาน เขาก็เห็นมันเหมือนน้องชายคนหนึ่ง

“มึงรู้ได้ไงว่ากูจะไปหลอกน้องมัน”

นะยังคงพูดด้วยรอยยิ้มที่แต้มบนหน้าเหมือนเดิม เสือพยายามจะมองเข้าไปในดวงตาสีเข้มของเพื่อน เผื่อว่าจะมองว่ามันกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่

“ก็...ไม่รู้สิ มึงจะบอกว่ามึงชอบโอ๊ตงั้นเหรอ”

“แล้วถ้ากูบอกว่าใช่ละ”

สายตาของนะที่มองตอบมาทำให้เสือตัดสินใจปลดล็อคโทรศัพท์มือถือแล้วยื่นหน้าจอที่โชว์ชื่อและเบอร์โทรที่เมมไว้ให้

“กูหวังว่ามึงจะไม่ทำน้องมันเสียใจนะ”

“ขอบใจว่ะ”

หวังว่าเขาคงมองเพื่อนตัวเองไม่ผิดนะ ไม่งั้นเขาคงรู้สึกผิดกับโอ๊ตมากแน่ ๆ

 

TBC...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2018 13:00:26 โดย Polkaneko »

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao7:  :hao7:  :hao7: อ๊ากกกกกก  :hao7: พี่เสือแผนเหนือเมฆมากกกก  :hao3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Polkaneko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-2

“ทำไมพี่เสือถึงยังไม่มีแฟน”

อยู่ ๆ น้องแฮมก็ถามขึ้นมาทันทีที่ขึ้นรถเมื่อเสือไปรับที่คณะ

“หือ อะไรนะครับ”

“น้องแฮมถามว่าทำไมพี่เสือถึงยังไม่มีแฟน พี่เสือยังไม่แก่สักหน่อยทำไมหูไม่ดีแล้วอ่ะ” น้องแฮมหันมาทำจมูกยู่ใส่พี่ชาย

“ทำไมอยู่ ๆ ถึงถามเรื่องนี้ละครับ”

“ก็พวกพี่ ๆ ผู้หญิงที่คณะเขาถามน้องแฮมว่าทำไมพี่เสือถึงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที เห็นแต่คั่วสาว ๆ ไปทั่ว”

วันนี้น้องแฮมเจอกับรุ่นพี่สาว ๆ แก๊งใหญ่ที่โรงอาหารคณะ พวกพี่ ๆ กวักมือเรียกน้องแฮมไปเลี้ยงน้ำเลี้ยงขนมแล้วก็เอาถามแต่เรื่องของพี่เสือ

“คั่วสาว ๆ นี่มันอย่างไงเหรอพี่เสือ เหมือนคั่วเกาลัดไหม”

เสืออึ้งไปก่อนจะหาคำตอบมาอธิบาย

“เออ...หมายถึงมีเพื่อนเป็นสาว ๆ เยอะน่ะครับ”

“อ้อ” น้องแฮมพยักหน้าเข้าใจ

“แล้วทำไมไม่มีแฟนอ่ะพี่เสือ”

ยังจะกลับมาคำถามเดิมอีก และดูน้องอยากจะรู้คำตอบจริงจังถึงได้จ้องเขาตากลมแป๋วแบบนี้

“พี่เสือไม่อยากมีแฟนเหรอ”

“ก็พี่เสือมีน้องแฮมแล้วนี่ครับ” เสือหันมายิ้มหล่อ ๆ ให้กับเจ้าหนูจำไมของเขา

“แต่น้องแฮมไม่ใช่แฟนพี่เสือนี่ น้องแฮมเป็นน้องพี่เสือตั้งหาก ไม่เหมือนกันสักหน่อย”

“แล้วน้องแฮมอยากเป็นแฟนพี่เสือไหมละครับ” เขาลองแหย่ถามดูเล่น ๆ

“แฟนพี่เสือเหรอ” คนตัวเล็กเอียงคอทำท่าคิดหนักก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วส่ายหน้ารัว ๆ

ปฏิกิริยาแบบนั้นมันแปลว่าอะไรน้องแฮม!

“ไม่เอาอ่ะ น้องแฮมไม่อยากเป็นแฟนพี่เสือ”

“ทำไมละ”

เป็นแฟนเขามันไม่ดีตรงไหน นี่พี่เสือหนุ่มฮอตสุดหล่อของคณะวิศวะเลยนะ น้องแฮมจะมาปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยแบบนี้ไม่ได้ สาว ๆ ครึ่งค่อนร้านเหล้าแถวมหาลัยต้องร้องไห้แน่ ๆ

“ก็พวกพี่ ๆ ที่คณะบอกว่าใครเป็นแฟนพี่เสือคงปวดหัวแย่เพราะพี่เสือเจ้าชู้ มีกิ๊กเต็มไปหมด น้องแฮมไม่อยากปวดหัวอ่ะ”

พวกรุ่นพี่คณะนี้มันเอาอะไรมาใส่หัวเจ้าหนูแฮมของเขาวะเนี่ย ท่าทางจะนินทาเขาให้น้องฟังเยอะแน่ ๆ

“น้องแฮมอย่าไปฟังที่พวกนั้นพูด เขาไม่ได้สนิทกับพี่เสือก็พูดไปเรื่อย น้องแฮมก็รู้ว่าพี่เสือเป็นคนดี ใจดีใช่ไหมครับ”

น้องแฮมนิ่งไปชั่วขณะ จนเสือใจหายวาบ ก่อนที่คนตัวเล็กจะพยักหน้างึกงัก

“อือ พี่เสือใจดีที่สุดเลย”

ใช่ ๆ พี่เสือใจดีมาก ๆ ขออะไรก็ให้ทุกอย่างเลย

“แบบนี้อยากเป็นแฟนพี่เสือหรือยังครับ”

“ไม่อยาก”

“อ้าว”

“ก็พี่เสือบอกน้องแฮมเป็นคนพิเศษแล้วไง ทำไมต้องเป็นแฟนอีกอ่ะ เป็นหลายอย่างจัง” น้องแฮมจำได้นะที่พี่เสือบอกว่าเขาคือคนพิเศษของพี่เสือ

“เอ่อ...ก็ใช่ครับ” พี่เสืออึ้งไปกับคำที่น้องย้อน

“แต่เป็นแฟนอีกก็ได้ไง“

“พี่เสืออยากเป็นแฟนน้องแฮมเหรอ”

น้องแฮมมองหน้าพี่ชายสุดหล่อ หรือจริง ๆ แล้วพี่เสือก็อยากจะมีแฟน แต่ว่าไม่กล้าขอคนอื่นเป็นแฟน ถึงได้มาเซ้าซี้ถามน้องแฮมแบบนี้

เสือชะงักกับคำถามของคนเป็นน้อง นั่นสิ เขารู้ว่าน้องแฮมเป็นคนพิเศษสำหรับเขา ที่อยากจะเก็บไว้ข้าง ๆ ตัว อยากจะกลืนกินไม่ให้เหลือ แต่กับคำว่าแฟน...

“พี่เสือ ๆ น้องแฮมจะกินไก่ทอด”

“ห๊ะ”

หันมาอีกทีก็เห็นน้องทำตาโตชี้ป้ายบิลบอร์ดข้างหน้าที่เป็นรูปโฆษณาไก่ทอดรสชาติใหม่

“แวะซื้อแบบนั้นไปกินกันนะพี่เสือ นะ ๆ น้องแฮมอยากกิน”

เสือยกมือข้างหนึ่งขยี้หัวน้องด้วยความเอ็นดู “โอเคครับ”

“เย้ ๆ ไก่ทอด ๆ”

น้องแฮมยิ้มแป้นดีใจ เสือมองดูก็อมยิ้ม ท่าทางเจ้าหนูคงจะลืมเรื่องที่ถามเมื่อกี้ไปแล้วสินะ

เหลือแต่เสือที่ยังคงติดค้างเรื่องนี้ไว้ในใจ…

 

หลังจากคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องโปรเจคเรียบร้อย เสือกับนิวก็เดินลงมาจากตึกพร้อมกัน

“อาจารย์ว่าไงมั้งวะ” นิวถามถึงโปรเจคของเสือที่เห็นเข้าไปคุยกับอาจารย์ตั้งนาน

“แกให้ไปหาข้อมูลมาเพิ่มว่ะ มันยังไม่พอถ้าจะทำเรื่องนี้จริง ๆ”

“เหรอวะ”

นิวสังเกตเห็นเสือดูนิ่ง ๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงตบไหล่หวังจะให้กำลังใจเพื่อน

“เฮ้ย มึงไม่ต้องเครียด เดี๋ยวกูช่วย ของกูหัวข้อผ่านละ”

“เอ่อ ขอบใจมึง กูแค่คิดเรื่องอื่นนิดหน่อยน่ะ”

“เรื่องน้องเหรอ”

เสือหันไปมองเพื่อนสนิทด้วยความประหลาดใจ นิวหัวเราะขำก่อนจะบอก

“ตั้งแต่รู้จักกันมา กูก็เห็นมึงสนใจอยู่ไม่กี่เรื่อง แล้วเรื่องน้องแฮมก็ดูมึงใส่ใจเป็นพิเศษ”

“เอ่อ ก็ประมาณนั้น”

“แล้ว...ตกลงมีเรื่องอะไรวะ”

นิวทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็นจนเสือส่ายหน้าระอา

“มึงนี่ขี้เสือกเหมือนกันเนอะ”

แต่นิวกลับหัวเราะชอบใจ ไม่ได้ถือสาอะไรที่โดนด่า เสือถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยอมบอก

“กูกำลังคิดว่ากับน้องแฮม กูควรจะทำอะไรให้มันชัดเจนเสียที”

“อย่างไงวะ”

“กูว่าจะขอคบกับน้องเป็นแฟน”

เสือก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าถ้าเขาคุยเรื่องนี้กับน้องแล้วจะเป็นอย่างไง แล้วที่บ้านของพวกเขาอีกจะว่าอย่างไงกับความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่

“เอางั้นเลยเหรอวะ” นิวถามเพื่อนให้แน่ใจ

“อือ”

“งั้นก็ขอให้มึงโชคดีละกัน”

เสือยิ้มมุมปากให้เพื่อนที่ตบไหล่เบา ๆ

ก็หวังว่าแม่ของเขาจะไม่ฟาดกบาลเขาแตกที่บังอาจไปยุ่งกับหลายชายสุดที่รักนะ...

 

 

“ไอ้พี่เสือออออ”

ทันทีที่เสือลงจากรถก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อเขาดังลั่น มันตะโกนเสียคนจะหันมามองทั้งคณะแล้วมั้ง

“อะไรของมึงไอ้โอ๊ต”

“โอ้ย กูเจ็บ”

เสือร้องลั่นเมื่ออยู่ ๆ โอ๊ตก็วิ่งมาเตะขาเขาจนเกือบแทบทรุด น้องแฮมที่วิ่งตามหลังมาทำตาโตที่เห็นเพื่อนรักกระโดดเตะพี่ชาย

“ทำบ้าอะไรไอ้ลูกแมว”

“ก็ใครใช้ให้พี่เอาเบอร์ผมไปให้คนอื่นละวะ” โอ๊ตโวยวายอย่างเกรี้ยวกราด ขู่ฟ่อ ๆ ใส่พี่ชายของเพื่อนสนิท

เพราะไอ้พี่เสือเลย ผู้ชายคนนั้นถึงโทรมาหาเขาได้ เมื่อวานอยู่ ๆ ก็มีเบอร์แปลกโทรหา เขาก็ไม่ได้คิดอะไรจึงรับสายไป ถึงได้รู้ว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนไอ้พี่เสือ

ผู้ชายที่มีรอยยิ้มไม่ค่อยน่าไว้ใจคนนั้น…

“อะไร มึงรู้ได้ไงว่าเป็นกู มีกูคนเดียวหรือไงที่มีเบอร์มึง” เสือทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ก็ถ้าไม่ใช่พี่ แล้วเพื่อนพี่จะเอาเบอร์ผมมาจากหมาที่ไหน”

“อ้าว ไอ้นี่ กูเสือโว้ย ไม่ใช่หมา”

ไอ้ลูกแมวนี่เดี๋ยวเขาก็ตบคว่ำเลยนี่ ชักจะลามปามขึ้นทุกวัน ไม่น่ารักเอาเสียเลย ไอ้นะท่าทางจะเพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ

“เอ่อ กูให้ไอ้นะมันไปเอง แล้วจะทำไม มันโทรไปหามึงแล้วอย่างไง มันจีบมึงเหรอ”

“จีบบ้าอะไร” โอ๊ตพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด

“โอ๊ตใจเย็น ๆ อย่าดุพี่เสือสิ เพื่อนพี่เสือเป็นคนดีนะ”

น้องแฮมรีบห้ามศึก เพื่อนพี่เสือใจดีจริง ๆ นะ ทั้งพี่นิว พี่เอ้ แล้วก็พี่นะด้วย แถมหล่อเหมือนพี่เสือทุกคนเลยด้วย

“ดีกับผีอ่ะดิ”

“อ้าว โอ๊ตเป็นผีเหรอ เราก็เห็นพี่เขาดีกับโอ๊ตนะ” น้องแฮมเอียงคอถามเพื่อนตาแป๋ว

“โอ้ย พี่เสือเอาไอ้นี่กลับบ้านไปเลยไป”

โอ๊ตเริ่มจะพาลกับเพื่อนอีกคนแล้ว หันไปแยกเขี้ยวใส่

“น้องแฮมกลับกันเถอะ ปล่อยเพื่อนน้องแฮมเป็นบ้าไปคนเดียวเหอะ”

“งั้นเรากลับแล้วนะโอ๊ต เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“เออ ๆ กลับไปเหอะ”

โอ๊ตโบกมือไล่เพื่อนกับพี่ชายของมันให้กลับไปได้แล้วก่อนจะเดินไปโบกพี่วินให้ไปส่งแถวหลังมหาลัย วันนี้โอ๊ตมาช่วยงานที่ร้านกาแฟของรุ่นพี่ที่รู้จักกันซึ่งเพิ่งเปิดได้ไม่นาน เป็นการหาค่าขนมเพิ่ม

“มาแล้วเหรอโอ๊ต”

“หวัดดีครับพี่” โอ๊ตยกมือไหว้พี่นันเจ้าของร้านที่เอ่ยทัก

“เป็นอะไรวะ หน้าหงิกเชียว”

“เอ่อ หงุดหงิดอากาศมันร้อนน่ะพี่”

“เหรอวะ อย่าเผลอไปทำหน้าแบบนี้ใส่ลูกค้าพี่ก็แล้วกัน เดี๋ยวเขาจะกลัวกันหมด”

พี่นันเอ่ยเตือนขำ ๆ เพราะงานของพวกเขาเป็นงานบริการ ต้องใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ

“พี่ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ก็รู้ว่าผมยิ้มสั่งได้”

โอ๊ตยิ้มอวดก่อนจะกวาดตามองว่าในร้านมีลูกค้าอยู่พอสมควร เห็นแบบนั้นเขาจึงรีบเดินไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนใส่ชุดยูนิฟอร์มของร้านพร้อมกันผ้ากันเปื้อนก่อนจะออกมารับลูกค้าด้วยรอยยิ้มสดใสเหมือนก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเรื่องหงุดหงิดใจอะไรเลย

“สวัสดีครับ ไม่ทราบคุณลูกค้าจะรับอะไรครับ”

พี่นันเชื่อแล้วจริง ๆ ว่ายิ้มของเจ้าโอ๊ตมันสั่งได้จริง ๆ

 

ขณะที่โอ๊ตกำลังเก็บแก้วกาแฟบนโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไป เขาก็รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลัง เหลือบตามองก็เห็นรองเท้าหนังราคาแพง

“สักครู่นะครับคุณลูกค้า”

เห็นแบบนั้นโอ๊ตก็รีบเช็ดโต๊ะโดยเร็ว เขาไม่อยากให้ลูกค้าต้องยืนรอนาน พอจัดการเรียบร้อยเขาก็หันไปยิ้มกว้างให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“เชิญครับคุณลูกค้า”

“ขอบคุณนะครับข้าวโอ๊ต”

รอยยิ้มการค้าของโอ๊ตหุบทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่คือใคร

นะส่งยิ้มให้ วันนี้เขาโชคดีจริง ๆ ไม่คิดว่าการลองแวะเข้ามาร้านกาแฟเปิดใหม่จะทำให้เขาได้เจอกับข้าวโอ๊ต

“ข้าวโอ๊ตทำงานที่นี่เหรอครับ” นะนั่งลงบนเก้าอี้บุบนวม เงยหน้าขึ้นถาม

“ครับ”

ก็เห็นอยู่ว่าใส่ยูนิฟอร์มของร้านยังจะถามอีก

“ทำไมพี่โทรหาไม่รับสายเลยละครับ”

โอ๊ตแอบลมหายใจด้วยความเซ็งก่อนจะฉีกยิ้มให้

“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะรับอะไรครับ”

เมื่อเห็นว่าโอ๊ตเลี่ยงคำถาม นะก็ไม่เซ้าซี้ต่อ

“ข้าวโอ๊ตมีอะไรแนะนำบ้างละครับ”

“ก็มีพวกกาแฟ น้ำผลไม้ แล้วก็เค้กครับ”

“งั้นเอาอเมริกาโน่แล้วก็เค้กอะไรที่ไม่ค่อยหวานสักชิ้นหนึ่งก็แล้วกันครับ ข้าวโอ๊ตเลือกให้พี่หน่อยนะครับ”

“แค่นี้นะครับ รอสักครู่ครับ”

“พี่นัน อเมริกาโน่กับเลมอนพายโต๊ะสี่ครับ”

โอ๊ตเดินมาบอกที่เคาน์เตอร์ พี่นันชะโงกดูลูกค้ารูปหล่อเจ้าของออเดอร์ที่นั่งอยู่เพียงลำพัง

“คนรู้จักเหรอ”

“ก็ไม่ได้อยากรู้จักหรอกครับ” โอ๊ตทำหน้าเซ็ง

“สวัสดีครับ เชิญครับ”

พี่นันหัวเราะขำเมื่อเห็นลูกน้องทำหน้าเหม็นเบื่ออยู่แท้ ๆ พอได้ยินเสียงเปิดประตูร้านก็หันไปยิ้มแย้มได้อย่างเป็นธรรมชาติสุด ๆ

“อ่ะ เอาไปเสิร์ฟ แล้วยิ้มให้เขาด้วยละ” พี่นันยื่นถาดใส่กาแฟกับขนมให้

“ครับ ๆ รู้แล้วน่า”

“ขออนุญาตเสิร์ฟครับ”

โอ๊ตวางแก้วกาแฟและเลมอนพายลงบนโต๊ะโดยไม่ลืมยิ้มให้ตามที่เจ้านายสั่ง

“ขอบคุณครับ” นะเงยหน้าส่งยิ้ม

“ข้าวโอ๊ตยิ้มแบบนี้ก็น่ารักดีนะครับ”

คนที่ถูกชมว่าน่ารักหุบยิ้มทันที ทำเอานะกลั้นขำด้วยความเอ็นดูในปฏิกิริยาของเจ้าลูกแมวที่เดินหน้าบึ้งกลับไปเสียแล้วก่อนจะยกกาแฟขึ้นชิม

สงสัยเขาจะได้ร้านกาแฟร้านประจำร้านใหม่แล้วละ

 

TBC...



สนุกไม่สนุกอย่างไงติชมกันได้น้าาาา  :mew2:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
พี่เสือขอเจ้าหนูแฮมเป็นแฟน
แล้วน้องจะเข้าใจไหมล่ะเนี่ย
อยากอ่านพาร์ทน้องแฮมบ้างจัง

เอ็นดูข้าวโอ๊ต ยิ้มสั่งได้ ฮา
น่ารักน่าบีบมาก

 :pig4:


ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งานนี้ยากหน่อยนะพี่เสือ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด