Chapter 19
อารมณ์หึง อารมณ์หวง... พรึด ~
...
พรึด ~
จ้อง...
พรึด ~
“...”
“ไอ้เหี้ยธาม !”
“ว่า ?”
“มึงจะมานั่งจ้องหน้ากูทำไมทุกวันวะ ไม่มีรงไม่มีเรียนงั้ย !?”
“ก็กูอยากเห็นหน้ามึงทุกวัน กูเลยโดดเรียนมา ”
“เออ งั้นดีเลย กูกำลังถอนหญ้าพอดี...”
“จะให้ช่วย ?”
“เปล่า จะให้แดก หน้าตาแม่งเหมือนควายขึ้นทุกวันนะมึงอ่ะ !”
ผมลุกขึ้นจากแปลงผักด้วยความอารมณ์เสีย หลังจากที่ตัวเองมานั่งถอนหญ้า ก็ยังคงมีไอ้ธามมาตามติดไม่เลิก จนตอนนี้ผมคิดว่ามันเป็นลูกแหง่ไปแล้ว ให้ตายสิ จะมาทั้งที มาตอนเวลาว่างก็ได้มั้ง จะโดดเรียนมาทำเพื่อ
“ไปไหน ?” มันถามขึ้นก่อนจะลุกตามผมมาติดๆ ผมจึงหันกลับไปมองหน้ามันแล้วมองด้วยสีหน้าดุๆ “อะไร ?”
“กลับไปเรียนก่อนไป !”
“กูขี้เกียจ”
“กลับไปเรียน !”
“...”
“ไอ้เหี้ยธาม ถ้ามึงไม่ไป ก็จะไม่คุยกับมึงสามวัน” ผมพูดขู่ไปงั้น ซึ่งไม่รู้จะใช้ได้ผลกับไอ้คนตรงหน้าหรือเปล่าด้วย ซึ่งมันเองก็เริ่มจะทำหน้าอารมณ์เสีย ยืนมองผมไม่วางตา ไร้ซึ่งความเกรงกลัวใดๆ
“คิดว่ากูกลัว ?”
“...”
“เออ ไว้เจอกันตอนเย็นแล้วกัน !”
พูดจบไอ้คนที่เคยทำหน้าโหดก่อนหน้านี้ก็ขยี้หัวตัวเองแรงๆ แล้วเดินออกไปจากตึกเกษตรทันที ซึ่งผมก็ได้แต่มองท่าทีของมันอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะกลับออกมานั่งเล่นตรงลานกว้างหน้าตึก ซึ่งตอนนี้เวลาบ่ายสองกว่าๆ และจริงๆ ผมก็เลิกเรียนตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว ที่ทำได้ตอนนี้นั่งรอไอ้ธามจนกว่ามันจะเลิกเรียนเท่านั้น เพราะช่วงนี้คือมันบอกให้กลับบ้านพร้อมๆ กัน และก่อนกลับก็ต้องหาอะไรกินด้วยกันอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของผมหรือเปล่า ที่อิ่มท้องได้ สบายกระเป๋าด้วย
ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเพื่อที่จะเล่นเกมรอ สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับแหวนเงินเรียบๆ ที่ไอ้ธามให้มาเมื่อวันก่อนพร้อมกับสร้อยหนึ่งเส้น ซึ่งมันบังคับให้ผมใส่ด้วย ส่วนตัวเวลาอยู่กับดินกับทรายการใส่แหวนมันจึงไม่ค่อยสะดวกนัก พอผมถามว่าทำไมต้องใส่ คำตอบที่ได้กลับมาก็ทำเอาผมอยากจะเขวี้ยงคืนใส่หน้ามันทันที
‘เวลาใครมายุ่งกับมึง ถ้ามันไม่เห็นสร้อย อย่างน้อยก็น่าจะเห็นแหวน มันจะได้รู้ว่ามีผัวแล้ว’
งี่เง่าสิ้นดี
“ทำไมยังไม่กลับ ?”
อยู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ผมหันไปมองไอ้ทิมที่ตอนนี้มันเดินมาใกล้ ก่อนจะมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมที่กำลังเล่นเกมเลยต้องหยุดเกมไว้แล้วเงยหน้าขึ้นคุยกับมัน
“ยังไม่อยากกลับ เบื่อหอ”
“เบื่อทำไม”
“จริงๆ ก็ไม่ได้เบื่อหอหรอก...”
“...?”
“แต่เบื่อไอ้เหี้ยนิมที่อยู่ห้องข้างๆ มากกว่า แม่งดูหนังโป๊ทุกคืน น่ารำคาญ !” ผมบ่นออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะมันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น อย่างที่เคยบอก ผนังห้องที่หอผมมันเป็นแค่แผ่นบางๆ ใครทำอะไรก็ได้ยินหมด โดยเฉพาะเสียงระหว่างผู้ชายกับผู้ชายนัวกันจากห้องข้างๆ มันเลยทำให้ผมขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
“ฮ่าๆ น่าสงสาร”
“เออ ซักวันกูจะเข้าไปซัดหน้ามัน ไม่ก็แจ้งให้เจ้าของหอไล่มันออกไปเลย !”
“โหด” ไอ้ทิมมันหัวเราะกับท่าทีหัวฟัดหัวเหวี่ยงของผมก่อนที่ตัวเองจะก้มหน้าเล่นเกมต่อ ตามมาด้วยเสียงของไอ้ทิมที่ดังขึ้นอีกครั้ง “เกียร์ ?”
“หือ ?” ทำเสียงสงสัย มือก็ยังกดเล่นเกม
“ที่คอมึงไง”
และคำพูดของอีกฝ่ายก็ทำให้ผมชะงักเล็กน้อย ก่อนจะกดหยุดเกมแล้วจับจี้เหล็กที่คอตัวเองเบาๆ “ไอ้จี้รูปเฟืองนี่อ่านะ”
“เกียร์ไง”
“เกียร์ ?” ผมมองหน้ามันงงๆ ก่อนจะดูจี้นี่อีกครั้ง ซึ่งมองยังไงมันก็เป็นรูปเฟืองชัดๆ “แล้วมันไม่ใช่เฟืองเหรอวะ”
“ก็นั่นแหละ ที่มึงใส่อยู่เขาเรียกเกียร์”
“เออ ช่างแม่งเหอะ” ผมพูดออกมาแบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะเล่นเกมต่อ ไอ้ทิมมันเลยหัวเราะออกมาเบาๆ จนผมต้องหยุดเกมแล้วเงยหน้ามองมันอย่างหาเรื่อง “หัวเราะไร ?”
“เปล่าๆ”
“แม่ง หัวเราะอยู่ชัดๆ” ผมบ่นออกมา เมื่อคนตรงหน้าปฏิเสธ แต่สิ่งที่ผมเห็นคือมันกำลังหัวเราะไม่หยุด
“ไม่มีไร กูไปทำงานละ”
“เออ จะไปไหนก็ไป” ผมโบกมือไล่มันด้วยอารมณ์หงุดหงิดนิดๆ ก่อนจะก้มหน้าเล่นเกมต่อ ไอ้ทิมมันลุกขึ้นก่อนไม่รู้ผีอะไรเข้าสิง มันผลักหัวผมแรงๆ จนตัวเกมในมือถือตกหลุมตายทันที “ไอ้เหี้ยทิมมม !”
“เขาอุตส่าห์ให้ใจมาแล้ว มึงก็รักษาไว้ดีๆ ด้วยล่ะ”
“ให้ใจเหี้ยไร มึงทำกูตายเนี่ย เห็นมั้ย !”
“กูไปละ ไว้เจอกัน”
“มึงนะมึง !”
ผมบ่นออกมาด้วยความหัวเสีย ไอ้คนที่เป็นต้นเหตุก็เดินออกไปด้วยท่าทีขำๆ จนผมถึงกับเลิกเล่นเกม แล้วเปลี่ยนเป็นส่องอะไรไร้สาระแทน ไม่นานนักก็มีร่างปริศนาเข้ามานั่งตรงข้ามกับผมอีกครั้ง และพอผมเงยหน้าขึ้นไปมองก็ถึงกับผงะถอยหลังอัตโนมัติ
ไอ้เหี้ยแซ็กส์ !
“ไงครับ น้องแทน”
“น้องเนิ้งอะไรวะพี่ ขนลุก !” ผมพูดขึ้นเมื่อเจอคำทักทายของมัน ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เจอกันอีก ทั้งๆ ที่เรียนก็คนละคณะ ซึ่งพี่แซ็กส์มันเรียนคณะวิศวะเหมือนไอ้ธามแต่แค่คนละสาขา แถมยังคนละปีกับพวกผมอีกต่างหาก จะเจอกันนี่ใช่เรื่องง่ายที่ไหน “มาทำไรที่ตึกเกษตรล่ะ ?”
“มาหาคนถาม” พี่มันว่าก่อนจะยิ้มกว้าง ซึ่งไม่เข้ากับใบหน้าเถื่อนๆ นี่ซักนิด
“มีธุระอะไรกับผมอ่ะ ถ้าจะเอาหนังยางมาคืน ไม่ต้อง เอาไปทิ้งให้เลยจะดีกว่า” ผมพูดเสียงเรียบก่อนจะเลื่อนโทรศัพท์ของตัวเองไปเรื่อยๆ
ขอบอกเลย ยังไม่หายเคืองว่ะ ที่แม่งกัดหัวนมวันนั้น
“ขอไลน์หน่อยดิ”
“ห๊ะ ?” ในที่สุดผมก็หยุดเล่นโทรศัพท์ของตัวเองแล้วเงยหน้ามองคนตรงหน้าทันที “เอาไปทำไร ?”
“อยากได้เฉยๆ เอาไว้คุยเล่น”
“พี่คิดว่าผมว่างขนาดนั้นเลย ?” ผมพูดพลางมองหน้าไอ้พี่แซ็กส์ที่ตอนนี้หน้าเสียนิดหน่อย ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเอาไว้ส่งเกมก็ได้อยู่ ”
“งั้นส่งเกมก็ได้ มามะ” ไอ้พี่แซ็กส์มันยิ้มตาปิด ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ผมจึงรับมาก่อนจะจัดการพิมพ์ไอดีตัวเองลงไป แต่ยังไม่ทันจะพิมพ์เสร็จเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นทำให้ผมหยุดชะงักแล้วหันไปมอง รวมถึงพี่แซ็กส์ด้วย “อ้าว ไอ้ธาม”
“ทำอะไร ?”
“กูขอไอดีไลน์น้องแทนอยู่”
“บอกว่าอย่าเรียกน้องดิ๊ แม่งขนลุก !” ผมพูดกับมันเสียงฉุนก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนหลังจากพิมพ์เสร็จ ไอ้ธามมันได้แต่ยืนมองนิ่งๆ ก่อนจะเข้ามานั่งลงข้างๆ แล้วยกแขนขึ้นโอบไหล่โดยไม่แคร์สายตาของคนที่อยู่ตรงหน้า ผมจึงปล่อยเลยตามเลยแล้วหันไปถามมัน “เลิกเรียนแล้วงั้ย ?”
“อืม”
“เฮ้ยยย สองคนสนิทกันเหรอเนี่ย !?” อยู่ๆ ไอ้พี่แซ็กส์มันก็ถามพลางทำหน้าตาอึ้งๆ มองมาที่ผมกับไอ้ธามสลับกันไปมา “เมื่อก่อนเห็นว่าไม่ถูกกันนี่หว่า”
“นั่นมันเมื่อก่อนพี่ ตอนนี้รักกันดี ” และไอ้ธามก็เป็นคนตอบ ทำให้คนตรงหน้าถึงกับหน้าเหวอไปเล็กน้อย ผมจึงแอบหยิกที่ต้นขามันเบาๆ กับคำพูดนั่นจนเจ้าตัวครวญครางออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะเถียงอะไรกัน เสียงของไอ้พี่แซ็กส์ก็ดังขึ้นอีกครั้งราวกับตื่นเต้น
“เออ ดีๆ รักกันไว้ ทีนี้กูมีอะไรอยากรู้เกี่ยวกับน้องแทนก็ถามมึงได้อ่ะดิ”
“...”
“ดีเลยๆ”
“เฮ้ย พี่แซ็กส์ ถ้าได้ไลน์แล้วก็กลับไปซักที แล้วถ้าทักมาคุยเรื่องไร้สาระผมไม่คุยนะ”
“แล้วถ้าทักมาจีบล่ะ” คำพูดทีเล่นทีจริงของคนตรงข้ามทำเอาผมขนลุกเกรียว ก่อนที่กำลังจะอ้าปากด่าก็ต้องชะงักเมื่อไอ้ธามมันแทรกขึ้น
“ไอ้แทน”
และผมก็เลิกสนใจพี่แซ็กส์ แล้วหันไปตอบมันอย่างเผลอตัว “ห๊ะ ?”
“ได้ใส่สร้อยที่กูให้มาป้ะ ?”
“ใส่”
“ใส่มาถูกเส้นหรือเปล่า ?”
“มึงก็ให้มาแค่เส้นเดียวไม่ใช่ ?” ผมงงกับคำพูดของไอ้ธามก่อนจะควักสร้อยนั่นออกจากคอเสื้อมาให้ดู ซึ่งคนตรงหน้าก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ “นี่ไง”
และก็มีสีหน้าอึ้งๆ ของไอ้พี่แซ็กส์ตามมาด้วยเช่นกัน
เมื่อไอ้ธามมันเห็นสร้อยนี่ มันก็หันไปยิ้มให้พี่แซ็กส์ พลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงยียวน พร้อมกับใบหน้าของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปทันที “สร้อยสวยเนอะพี่ ว่ามั้ย ”
“หะ...อะ...อืม”
“มองงี้อยากได้อ่อพี่ เอาเปล่า เดี๋ยวผมขายต่อ ”
“ไอ้เหี้ยมืด” และเสียงปรามก็ดังมาจากคนข้างๆ ทันที พร้อมกับดันหัวผมแรงๆ จนต้องหันไปจิ๊ปากใส่มัน นี่เป็นรอบสองของวันแล้วที่คนอื่นมาเล่นกับหัวผม แต่เมื่อเห็นสายตาโกรธๆ ของไอ้ธามผมจึงยอมเงียบปากลงแล้วยอมนั่งเงียบๆ แทน
และอยู่ๆ ไอ้พี่แซ็กส์มันก็พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เบาๆ ราวกับพึมพรำ ทำเอาผมถึงกับเงียบไป “จะอยากได้ทำไมวะ กูก็มี...”
“...”
“เออๆ งั้นไปละ ส่วนน้องแทนเดี๋ยวว่างๆ พี่จะทักมานะจ๊ะ จุ๊บ ~”
“ไอ้...!”
“...!”
พี่แซ็กส์มันลุกขึ้นก่อนจะใช้นิ้วแตะริมฝีปากตัวเอง และเอามาแตะที่ริมฝีปากผมด้วยความรวดเร็ว ท่ามกลางสีหน้าตกใจของผมและไอ้ธาม จนตัวเองต้องร้องออกมาด้วยความขยะแขยง จะอ้าปากด่าไอ้เหี้ยพี่แม่งก็วิ่งหนีไปไกลแล้ว จนตอนนี้ เหลือผมกับไอ้ธามที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ผมจึงยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากแรงๆ ก่อนที่ไอ้ธามมันจะคว้ามือผมไปแล้วบีบแน่น
เป็นอะไรของมันอีกวะ...
“มันมาจีบมึง ?”
“จีบเหี้ยไร กูเป็นผู้ชาย” ผมพูดเสียงเรียบกับคำถามไร้สาระนั่น ก่อนจะพยายามดึงแขนตัวเองที่ถูกมันจับไว้กลับมา “ปล่อย เจ็บ”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มึงให้ไอดีไลน์มันไปทำไม !”
“ก็พี่มันขอ...โอ๊ย ไอ้เหี้ยธาม !” ผมมองมันด้วยอารมณ์โกรธๆ เมื่อมันบีบแขนผมแรงขึ้นกว่าเดิมจนเจ็บไปหมด แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมออมแรงซักนิด ก่อนที่มันจะลุกขึ้นแล้วฉุดกระชากให้ผมลุกตาม ผมจึงสะบัดแขนมันออกจนคนที่นำอยู่หันมามองด้วยสีหน้าโกรธๆ ซึ่งไม่ต่างจากผมนัก “ที่นี่ที่ ม. อย่ามาทำอารมณ์แบบนี้ !”
“อารมณ์อะไร”
“ก็อารมณ์หะ...!” ผมหยุดชะงักตัวเองในขณะที่กำลังพ่นคำว่า ‘หึง’ ออกไป ซึ่งตอนนี้ไอ้ธามมันมองผมนิ่งๆ ราวกับรอฟัง ผมจึงได้แต่หุบปากตัวเองลงแล้วกลืนคำๆ นั้น พลางหลบสายตาและพูดขึ้นมาใหม่ “ก็อารมณ์งี่เง่าของมึงไง !”
“อะไรที่ทำให้มึงคิดว่ากูงี่เง่า ?”
“ก็...!”
“ก็อะไร ?”
“...”
คำถามของมันทำเอาผมถึงกับกัดปากแน่น ซึ่งภายในใจก็เหมือนจะรู้ถึงเหตุผลดี แต่จะให้พูดออกไปตรงๆ ก็ยังไงๆ อยู่ ที่สำคัญถ้าพูดออกไปแล้ว และมันพูดกลับมาว่า ‘ใครหึงมึง’ คงจะเป็นจุดแตกสลายในชีวิตผมสุดๆ ไปเลยล่ะ
เพราะฉะนั้นไม่พูดหรอก...
มันยืนเดาะลิ้นมองหน้าผม พลางถอนหายใจแรงๆ อยู่หลายรอบ ก่อนที่ร่างหนาตรงหน้าจะก้าวเข้ามาใกล้ พลางกัดฟันถามขึ้นอีกครั้ง “กูถามว่าเพราะอะไร”
...
“จะไปรู้หรือไง...”
“ไอ้แทน !”
“ก็บอกว่าไม่รู้ไง !”
“มึงนี่แม่งโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่ห๊ะ !”
“จะยังไงก็เรื่องของกูเถอะ” ผมพูดขึ้นโดยไม่มองหน้าคนตรงหน้าด้วยซ้ำ ไอ้ธามมันจึงถอนหายใจออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เหนื่อยกับกูขนาดนั้นเลย ?
...
“ต้องให้กูไปลากไอ้เหี้ยแซ็กส์กลับมา แล้วกระทืบให้มึงดูมั้ย ถึงจะรู้น่ะ ?” ไอ้ธามมันพูดเป็นเชิงคำถาม และเมื่อเห็นผมเงียบ เจ้าตัวเลยสบถออกมา แล้วกลับหันหลังทำท่าจะเดินออกจากตรงนี้ทันที ผมจึงรีบตะโกนถามแล้ววิ่งตามมันไป เพราะกลัวมันจะไปลากพี่แซ็กส์มาจริงๆ
“ไอ้ธาม มึงจะไปไหน”
“...”
“เดี๋ยวดิวะ !” ผมฉุดแขนมันแรงๆ จนร่างตรงหน้าหันกลับมา เผยให้เห็นสีหน้าที่เรียบเฉยนั่น ก่อนที่มันจะจับมือผมให้ปล่อย แล้วทำท่าจะเดินต่อ ผมจึงตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความโมโห “เออ กูรู้แล้ว !”
และคำพูดของผมก็ทำเอาร่างนั้นหยุดชะงักแล้วหันกลับมามองทันที
“รู้อะไร ?”
“ก็บอกว่ารู้ไงวะ !”
“แล้วรู้อะไรล่ะ”
“...!”
“...?”
“แม่ง...”
“รออยู่นี่นะ เดี๋ยวกูมา...”
“ก็รู้แล้วไง ว่ามึงหึง !!”
# หอแทน
...
...
...
“ห๊ะ ?”
ผมที่ยืนถือถ้วยมาม่ารอบดึกก่อนนอน มองคนที่ยืนอยู่หน้าห้องงงๆ ซึ่งตอนนี้เวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว และร้อยวันพันปีไอ้เหี้ยนิมมันก็ไม่เคยมาเคาะห้องผมซักครั้ง แต่วันนี้มันกับมายืนอยู่ตรงหน้าดึกๆ ดื่นๆ แล้วพูดจาไร้สาระ
“เราถามว่าไปดูหนังที่ห้องเราด้วยกันมั้ย...”
“...”
“...”
“ไม่ล่ะ กูง่วง...”
ปั้ง !
ผมปิดประตูใส่ร่างอ้วนท้วมตรงหน้าเสียงดังแบบไม่เกรงใจ ก่อนจะกลับเข้ามานั่งบนเตียงเหมือนเดิม พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่ามีไลน์ไอ้ธามเข้ามา แต่ยังไม่ทันที่จะกดเข้า เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ก๊อกๆๆๆ
อะไรอีกวะ !
ผมลุกไปเปิดด้วยความอารมณ์เสีย ก่อนจะมองร่างอ้วนตรงหน้าคนเดิม มันยืนนิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ไปดูหนังกัน...”
“ก็กูบอกว่าง่วงไงวะ !”
“ไปดูหนังกัน...” อยู่ๆ ไอ้นิมมันก็เอื้อมมือมาจับแขนของผมแล้วทำท่าจะดึงให้ตามมันไปที่ห้อง ผมจึงมองมันด้วยความอารมณ์เสีย ซึ่งมันก็ยังพยายามลากผมไม่เลิก จนผมเริ่มหมดความอดทน “ไปด้วยกันเถอะนะ...”
“พูดไม่รู้เรื่องงั้ยวะ”
“แทน...”
“กูบอกว่าไม่ไป !”
พลั๊ก !
ร่างอ้วนล้มคว่ำไปตามแรงถีบของผมทันที ก่อนที่ผมจะมองมันด้วยสายตาสมเพช พลางปิดประตูลง แล้วกลับมานั่งที่เตียงด้วยความหงุดหงิดสุดๆ อารมณ์แดกมาม่าก็ไม่มีแล้วด้วย ผมจึงเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดไลน์ของไอ้ธาม
Time : นอนยัง ?
Tan : ยัง อารมณ์ไม่ดี
ผมตอบกลับไปตามอารมณ์ของตัวเอง และทำท่าจะวางโทรศัพท์ลงแต่ยังไม่ทันวาง ไลน์จากฝั่งตรงข้ามก็เด้งขึ้นมาซะก่อน โดยไม่ปล่อยให้ผมต้องรอ
Time : เป็นอะไร ?
และคำถามของไอ้ธามมันก็ทำให้ผมถึงกับตั้งใจพิมพ์เลยทีเดียว
Tan : ไอ้เหี้ยนิมดิ มันจะลากกูไปดูหนังด้วย แถมยังเป็นหนังโป๊อีกต่างหาก
Tan : (สติ๊กเกอร์โกรธ)
Time : ก็ไปดิ ดีซะอีก ดูเสร็จจะได้ช่วยกันชัก
Time : (สติ๊กเกอร์หัวเราะ)
ผมมองสติ๊กเกอร์หัวเราะของไอ้ธาม ยิ่งเพิ่มอารมณ์หงุดหงิดเข้าไปอีก ก่อนจะพิมพ์ด่ามันด้วยความหมั่นไส้กับอาการหัวเราะเยาะนั่น
Tan : ชักเหี้ยอะไร มันชวนไปดูหนังโป๊เกย์ !
Time : …
กริบ...
และไลน์จากฝั่งตรงข้ามก็เงียบไปทันที ผมที่นั่งรอก็มองหน้าจอตัวเอง ซึ่งมันขึ้นแค่อ่านแล้วเท่านั้น เมื่อเห็นว่ามันเงียบอย่างผิดสังเกต เลยพิมพ์ไปอีกรอบ
Tan : เงียบทำไมวะ ?
กริบ...
นอกจากไม่ตอบแล้ว ครั้งนี้ก็ไม่อ่านด้วย ผมจึงทิ้งโทรศัพท์ลงด้วยความอารมณ์เสีย แล้วเลือกที่จะกลับมากินมาม่าของตัวเองต่อ
คนบ้าอะไร นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป !
ก็อกๆๆๆๆ
ผ่านไปซักพักเสียงเคาะประตูห้องก็ทำให้ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ เพราะนี่มันดึกเกินไปที่จะมารบกวนห้องข้างๆ แล้ว และผมที่เหลือสภาพแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเตรียมตัวจะนอนเต็มที่ก็ได้แต่ลุกขึ้นด้วยความอารมณ์ที่ขุ่นมัว คิดได้แค่ว่าถ้าเปิดประตูไปจะซัดหน้าไอ้นิมซักทีให้สลบจะได้ไม่ต้องมารบกวนกันอีก
“พูดไม่รู้เรื่องงั้ยวะ !”
แอ๊ด ~
“...”
“กูบอกแล้วไงว่ามะ...อะ...ไอ้ธาม !”
และคนที่มาอยู่หน้าห้อง ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ผมเรียกชื่อ มันมองร่างผมตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะส่งสายตาคมกริบมาให้ซึ่งทำเอาผมถึงกับเสียวสันหลังวาบ
หะ...เหี้ยละ
“มึงนี่มัน...”
“...”
“ดึงดูดตัวผู้จริงๆ สินะ !”
- แทน –
ก็รู้แล้วไง ว่ามึงหึง !!”
Thank You