Older Brother.....52
เมื่อเวลาผ่านไปอะไรๆก็ย่อมเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน ผมมองใครบางคนในห้องนั่งเล่น จากห้องทำงาน ร่างเล็กอยู่บนโซฟาสีหวาน นั่งพับกระดาษพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วย
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เดินเข้าไปหาร่างเล็ก ก่อนจะนั่งลงกอดเอวบางไว้อย่างห่วงแหงน
“ทำไมต้องพับไอ้นี้ทุกวันด้วยนะ”
“ก็ลีวายส์รักพี่ธารทุกวันนี้ฮะ” ฟังแบบนี้แล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มคนพูดเข้าให้สักฟอด
“ไม่เบื่อหรือไง”
“ไม่เลย และก็จะไม่เบื่อแน่ๆ” ตอบได้ดีต้องมีฟอดสองไม่สิ แค่สองคงไม่พอมั่ง ฟอดๆๆ “พี่ธาร พอแล้วฮะ แก้มช้ำหมดแล้ว”
“ไม่เห็นช้ำตรงไหนเลย หืม....ฟอด!” คราวนี้หอมแก้มไม่พอ คงต้องมีล่วงเกินกันบางล่ะ ก็ใครใช่ให้ทำตัวน่ารักแบบนี้ว่ามั้ย กดไลน์หน่อย(?)
จากที่หอมแก้มไปหลายฟอด เปลี่ยนมาเป็นจุมพิตแทน แต่ปากสีสดอ่อนนุ่มเกินจะขบกัดแรงๆได้ ผมจึงสอดลิ้นเข้าไปภายในแทน รสหอมหวานจนยากเกินจะหยุดยั้งได้ และเชื่อเถอะว่าผมไม่หยุดง่ายๆแน่
กริ๊งงง
“อ่ะ...พะ...พี่ธาร.....อุ๊บส์”
“อื๊ออ.....” แม้จะมีเสียงกริ่งหน้าห้องมารบกวนก็เถอะ ผมไม่ยอมหยุดและไม่สนใจ ในขณะที่ลีวายส์พยายามผละออก ก็ทำไม่ได้ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แค่ผมจูบ ร่างเล็กก็อ่อนยวบแล้ว
กริ๊งงงง
“ชิท์!!!......ใครมาเอาตอนนี้วะเนี่ย!” แต่ คงไม่ลืมกันใช่มั้ยว่าผมน่ะขี้รำคาญเป็นที่หนึ่ง
ลีวายส์เม้มปากมองผม มันแลบลิ้นใส่ ผมจึงก้มลงฉกลิ้นหวานด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตู
“หวัดดีคับ...”
“มาผิดห้องแล้ว กูไม่รู้จักมึง” ผมบอกผู้มาเยือนก่อนจะปิดประตูใส่หน้ามัน ผมไม่รู้จักครับและก็ไม่อยากรู้จักด้วย
Tru..............
ในขณะเดี๋ยวกันแม่ผมก็โทรมาพอดี
“ครับ”
‘ธาร น้องปอนด์ กลับมาจากต่างประเทศสองสามวันแล้ว บ่นว่าอย่าเจอลีวายส์ เลยไปหาแหนะ ฝากไปส่งน้องขึ้นเครื่องด้วยนะ’
“ห๊ะ!!! แม่....แต่ผม...”
‘แม่มี ประชุม แค่นี้ก่อนนะไว้จะโทรไปใหม่’ ท่านพูดจบท่านก็ว่าสายไปเลย เยี่ยม! นี่ผมจำต้องเปิดประตูใช่มั้ย เฮ้อออ
“เชิญ!!!”
“ใครมาฮะ พี่ธาร....โอ๊ะ! พี่ปอนด์” ลีวายส์จำได้แต่ทำไมผมจำไม่ได้วะ ก็ไอ้เด็กที่เจอที่รีสอร์ทไง
“หวัดดีคับลีวายส์ สบายดีมั้ยคับพี่มีของมาฝากด้วยนะ นี่คับ” มันนั่งลงข้างๆลีวายส์ด้วยล่ะ
“ฮู้ สวยจังฮะ เดี๋ยวจะเอาไปแขวนไว้ที่ระเบียง เนอะพี่ธาร” ผมมองของในมือลีวายส์ด้วยหางตา เป็นโมบายเปลือกหอยสำหรับบานประตูครับ
“น่ารำคาญ” ผมนั่งลง ดึงเอวลีวายส์เข้าหาตัว ทำเอาคนให้ทำหน้าไม่ถูก ลีวายส์เห็นแบบนั้นมันเลยตีแขนผม
“พี่ธารก็.....แล้วพี่ปอนด์มานี่ มีธุระอะไรหรือเปล่าฮะ”
“เปล่าคับ แค่มาหาลีวายส์เฉยๆ อีกสองชั่วโมงพี่ก็ต้องไปสนามบินล่ะ เลยจะมาสุขสันต์วันเกิดลีวายส์ก่อนกลับน่ะ” วันเกิด? จริงสิ วันมะรืนนี้นี่
“ขอบคุณฮะ งั้นเราไปส่งพี่ปอนด์กันนะพี่ธาร” ผมพยักหน้ารับ แต่ในหัวยังคิดเรื่องวันเกิดลีวายส์อยู่เลย
คือ...ของที่จะให้น่ะมีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าวันเกิดมันต้องทำอะไรให้บ้าง อย่างที่ผ่านมาก็แค่พาไปเที่ยว กินอาหารอร่อยๆ ตอนอยู่เมืองนอกน่ะนะ ก็แค่นั้น ส่วนของขวัญ ไอ้กายโน้น
“เดินทางปลอดภัยนะฮะพี่ปอนด์ ไว้คุยกัน” ผมกับลีวายส์มาส่งไอ้เด็กปอนด์ถึงสนามบินในเวลาต่อมา
“คับลีวายส์ เอ่อ..ขอบคุณครับที่มาส่ง สวัสดีครับพี่ธาร” ผมแค่พยักหน้ารับ จากนั้นรอจนเครื่องออกผมกับลีวายส์ถึงจะกลับ
“วันเกิดปีนี้อยากได้อะไร” ผมแค่ลองถามดู ในระหว่างขับรถออกจากสนามบินไปยังผับ
“ก็......ได้อยู่กับพี่ธารก็พอแล้ว ของขวัญไม่ต้องหรอกฮะ” ฉิบหายสิทีนี้ ผมก็นะ ลืมคิดไปว่าเดือนนี้วันเกิดมันเลยรับงานไว้ ยกเลิกไม่ได้ซะด้วยสิ
“คือ.....วันมะรืนนี้ มีงานต่างจังหวัดน่ะ” ผมมองลีวายส์นิดๆ กลัวว่ามันจะโว้ยเอาแต่ก็เงียบครับ
“งั้นหรอฮะ ก็ไม่เป็นไรนี่ เราอยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว”
“แน่นะ....งั้นเสร็จงานจะรีบกลับมาล่ะกัน ถ้า....ทัน” ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าวันนั้นจะกลับมาทันหรือเปล่าบางทีอาจจะต้องค้างต่างจังหวัดก็เป็นได้ ไม่น่าเลย แม่ง!!!
[ลีวายส์:Part]
“เอาล่ะ อยู่กับไอ้กายนะ อย่าซน อย่าดื้อ เข้าใจมั้ย”
“รู้แล้วนา ลีวายส์ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะฮะ” ลีวายส์บอกกับพี่ธาร ขณะรอพี่กายมารับ วันนี้พี่ธารต้องไปทำงานต่างจังหวัดอีกแล้ว
“ไม่เด็กเลย กูเห็นได้แผลตลอด ให้ไปอยู่กับไอ้กายไปอยู่กับไอ้เซฟดีกว่ามั้ง” คนแก่ขี้บ่นอ่ะ ประจำเลย ได้แผลนิดหน่อยทำเรื่องใหญ่
“ไอ้ธารมึงนี่มัน....” ไม่นานพี่กายก็มา
“หยุด ไม่ต้องพูดนะมึง กูรู้....กูไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว ดูแลมันดีๆละ ถ้ามีเรื่องมึงโดนคนแรก”
“ไอ้.....เออ!!! ไปลีวายส์วันนี้อยากได้อะไร ทำอะไร บอกพี่กายเลย ส่วนมึงถ้ากลับมาเร็วๆได้ยิ่งดี อะไรกันวะแม่ง” เพราะวันนี้วันเกิดลีวายส์น่ะสิฮะ แต่พี่ธารไม่ว่าง พี่กายเลยเคือง
“ไปนะ แล้วจะรีบกลับ จุ๊บ!!!” พี่ธารขึ้นรถหลังจากจุ๊บแก้มลีวายส์โดยไม่อายพี่กายสักนิด เพราะถือเป็นเรื่องปกติ
“เดินทางปลอดฮะ”
“เฮ้อออ เมื่อกี้ก็ยิ้มอ่ะนะ ไหนตอนนี้หน้าบูดซะแล้วล่ะ” พี่กายโยกหัวลีวายส์ไปมาเบาๆ ตอนนี้เรากำลังจะไปเดินห้างกันฮะ แต่ลีวายส์รู้สึกไม่อยากไปเลย
“ไปหาพี่โอ๊ตกันมั้ยฮะ ลีวายส์ไม่อยากไปห้างแล้วอ่ะ”
“เอางั้นก็ได้” พี่กายพาลีวายส์มาหาพี่โอ๊ตที่บ้าน วันนี้พี่โอ๊ตอยู่บ้านคนเดียวเพราะพี่แมนก็ไปทำงานเหมือนกัน
“มีอะไรหรือเปล่า มาถึงนี้” ปกติลีวายส์จะเจอพี่โอ๊ตที่ผับ น้อยครั้งที่จะมาถึงบ้าน บ้านพี่แมนกับพี่โอ๊ตน่าอยู่มาก ข้างๆมีทะเลสาบกว้างๆด้วยล่ะ ลมเย็นอากาศดีมาก
“แค่อยากมาฮะ เราซื้อของกินมาด้วย วันนี้วันเกิดลีวายส์นะ”
“รู้แล้ว คิดว่าอยู่กับพี่ธาร” เดี๋ยวนี้เค้าสนิทกันฮะ พี่โอ๊ตเลยเรียกพี่ธารว่าพี่ แต่ก็ยังเรียกพี่แมนว่าไอ้และมึงเหมือนเดิม
ลีวายส์ก็เคยอยากจะเรียกพี่ธารแบบนั้นบางตอนอยู่เมืองนอกเพราะพี่กายเรียกก็คิดว่ามันดูสนิทกันดี แต่รู้มั้ยพี่ธารตบปากลีวายส์ด้วยล่ะ เลยเข็ด
“ก็ไอ้เหี้ยธารมัน......เออๆช่างเหอะ ทำไมพวกมันแม่ง เอาแต่ทำงานๆๆ เดี๋ยวกูของขึ้นขึ้นมาอีกรอบล่ะจะหนาว” ลีวายส์สบตากันกับพี่โอ๊ตและแอบอบยิ้มออกมา
“พี่กายอย่าของขึ้นเลยนา พี่หมอก็งานเยอะใช่มั้ยล่ะ เค้าทำเพื่อพวกเรานะ” ลีวายส์บอก แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ในวันสำคัญแบบนี้ ลีวายส์ก็ยัง....เฮ้อออ คิดถึงพี่ธารจัง T^T
“เอางี้ป่ะ จัดงานวันเกิดให้ลีวายส์กันดีกว่า ลีวายส์ชวนเพื่อนมาด้วยสิ” พี่กายเสนอ
“ที่นี้หรอฮะ มันไกลไปหรือเปล่า อีกอย่าง พวกเพื่อนๆจะมาหรอปิดเทอมอยู่อ่ะ”
“มาสิ อย่างน้องเพื่อนสนิทต้องมา เอานา จะมีกี่คนก็ช่าง มีแค่เราก็ได้ จัดกันสนุกๆ เดี๋ยวโทรพี่เซฟมาด้วย เนอะ” ลีวายส์ลังเลอยู่แป๊บหนึ่ง ก่อนที่พี่โอ๊ตพยักหน้าเห็นด้วย ลีวายส์เลยตอบตกลง
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายในเวลาหนึ่งทุ่มโดยประมาณ พี่กายเป็นแม่งานให้และมีพี่โอ๊ตช่วยจัดการเรื่องอาหารการกิน
“น้องลี ว้าวๆๆ ขนมๆเยอะโคตรอ่ะ” นายปอฮะ มากับเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างนายไอซ์ คู่นี้เค้าจิ้นกันทั้งโรงเรียนล่ะ
“เต็มที แต่ห้ามขโมยกลับบ้านนะ”
“ฮ่าๆๆ อ่ะ สุขสันต์วันเกิด นี้ของขวัญหารสองนะรู้ยัง คึคึ”นายไอซ์ส่งกล่องของขวัญมาให้ลีวายส์ แหม ของขวัญชิ้นเดียวแต่สองคนเนี่ยนะ คู่นี้คบกันชัวร์
“ลีวายส์.....วู้คิดว่าจะมาไม่ได้ซะแล้ว”
“บุ๊คนั่นแหละ เรารอตั้งนานอ่ะ ของขวัญก็ไม่ได้เตรียมมา” บุ๊คกับเรเนสก็มาฮะ สองคนนี้คือเพื่อนสนิทของลีวายส์
“ไม่มาได้ไงล่ะ นี้ของขวัญ จริงๆ เตรียมจะเอาไปให้ที่คอนโดแล้วล่ะ ดีจังมีงานวันเกิดด้วย” ลีวายส์รับของขวัญกล่องใหญ่จากบุ๊คก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ
“คิดถึงทั้งสองคนเลย กอดๆๆ ขอบคุณนะที่มา เราดีใจมา ดีใจที่สู๊ดดดด”
มีเพื่อนๆในห้องมากันเยอะทีเดียว เพราะลีวายส์โพสต์ในไลน์กลุ่มห้องว่าจะจัดงานวันเกิดและมีไลน์กลุ่มชมรมด้วย
“ลีวายส์ นั่นพี่กายใช่ป่ะ ถ้าจำไม่ผิด แล้วพี่คนนั้นอ่ะ เค้าเป็นแฟนกันหรอ อ๊าย เขิน” เรเนสถาม หมู่นี้ไม่รู้นางเป็นไร ชอบมองผู้ชายแล้วเขินตลอด
“เปล่า นั้นพี่โอ๊ตเจ้าของบ้าน พี่โอ๊ตน่ะ เป็นแฟนกับ.....นั่นไงพี่แมนมาพอดี” ลีวายส์บุ้ยหน้าไปทางพี่แมนที่เพิ่งจะมาถึงก็ตรงดิ่งไปหาพี่โอ๊ตทันที
“แบดมาก อย่างกะนายแบบแหนะ งั้นพี่กายกับครูเซฟ...หรือเปล่านะ” >///<
“ไม่ใช่ๆ พี่กายมีแฟนแล้ว ส่วนพี่เซฟก็....เอ่อ....โสดมั้ง ไม่รู้สิ” ขืนบอกว่าเป็นแฟนกับนายแพ็คละก็ ลีวายส์ตายแน่ๆ พี่ธารสั่งไว้ว่าห้ามบอกใครให้เป็นเรื่องของเค้าสองคน อีกอย่างนายแพ็คได้กินหัวเอาน่ะสิ
“หว้า เสียดายจัง”
“ถ้าเห็นแฟนพี่กายล่ะก็ จะไม่พูดว่าเสียดายหรอก....พอๆ ไปเล่นทางโน้นกัน มีดอกไม้ไฟด้วย” ลีวายส์ดึงมือบุ๊คและเรเนสไปริมทะเลสาบที่มีเพื่อนๆ เล่นดอกไม้ไฟกันอยู่ สวยมากเลยฮะ เราก็เลยถ่ายรู้ลง ig กันหลายรูปเลย
“ลีวายส์ พี่ฟิวส์ มาด้วยล่ะ” ลีวายส์มองตามบุ๊ค พี่ฟิวส์มากับเพื่อนจริงๆด้วย
“หวัดดีคับลีวายส์ สุขสันต์วันเกิดครับ นี่ของขวัญ”
“ขอบคุณฮะ แล้วก็ขอบคุณที่มาฮะ” เพราะพี่ฟิวส์กับลีวายส์อยู่ชมรมเดียวกัน คงเห็นในไลน์กลุ่มแต่ไม่คิดว่าจะมา
“ต้องมาสิ น้องพี่ทั้งคน เอ่อ...พี่ชายของลีวายส์คงไม่ว่าใช่ป่ะ” คงหมายถึงพี่ธารล่ะ
“พี่ธารไม่อยู่หรอกฮะ พี่ธารติดงาน....ปอกับไอซ์อยู่โน้นน่ะ เชิญฮะพี่ฟิวส์” จริงๆลีวายส์รู้นะว่าพี่ฟิวส์อ่ะชอบลีวายส์แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไปงั้นแหละเลี่ยงๆไป ดีกว่ามองหน้ากันไม่ติด
สามทุ่มกว่าๆ นายแพ็คมากับพี่หมอ ไม่รู้ว่ามาด้วยกันได้ยังไงและพี่หมอก็มีเค้กก้อนโตมาด้วย เราเลยเป่าเค้กกัน เพื่อนๆมายืนล้อมวงให้ลีวายส์ด้วยล่ะ ลีวายส์ไม่เคยมีงานวันเกิดนะ ทุกๆปีจะมีแต่ของขวัญจากพวกพี่กายและก็ไปเที่ยว ทานข้าวกับพี่ธารแค่นั้น วันนี้ลีวายส์มีความสุขแต่จะมากกว่านี้ถ้ามี….พี่ธารอยู่ด้วย
“จะนอนที่นี่ก็ได้นะคะลีวายส์ พรุ่งนี้พี่ไปส่งเอง” พี่แมนบอกหลังจากงานเลิกตอนสี่ทุ่ม เพราะที่นี้ไกลจากตัวเมือง กลัวว่าเพื่อนๆจะกลับกันลำบากเลยเลิกเร็ว
“ไม่เป็นไรฮะ ลีวายส์อยากกลับไปนอนที่บ้าน” คอนโดก็คือบ้านของลีวายส์นั่นแหละฮะ ป่านนี้พี่ธารคงยังไม่กลับ ลีวายส์ก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากพี่ธารเลย
“งั้น พรุ่งนี้เจอกันนะคะ จุ๊บ! ฝันดีคะ”
“เยอะ ไปแล้วมึง ถ้าพี่ธารอยู่คงไม่กล้าหรอก” พี่โอ๊ตพูด และไม่ได้โกรธที่พี่แมนจุ๊บหน้าผากลีวายส์ต่อหน้า เพราะรู้ดีว่าพี่แมนอ่ะแค่แกล้งเล่นเฉยๆ
“มึงไม่หึงบ้างล่ะ เออๆ กลับดีๆนะพวกมึง” ลีวายส์กลับกับพี่หมอและพี่กาย ส่วนพี่เซฟก็กลับกับแพ็คซึ่งต้องขับรถพี่กายที่พามาก่อนหน้ากลับไปด้วย จึงทิ้งมอไซค์ไว้ที่นี่แทน
“เอาล่ะ ลีวายส์นอนคนเดียวได้หรือเปล่า” พี่กายถามและนั่นก็ทำให้ลีวายส์แปลกใจนิดๆ ปกติ พี่กายต้องนอนเป็นเพื่อนลีวายส์ก่อน
“อ้าวกาย คุณไม่นอนเป็นเพื่อนลีวายส์ล่ะ เดี๋ยวพี่นอนที่นี่ก็ได้นะ พรุ่งนี้วันหยุดของพี่”
“เอ่อ นอนได้ฮะ นอนได้สบายมาก พี่กายกกลับไปพักผ่อนเถอะฮะ ขอบคุณสำหรับวันนี้มากๆนะฮะ ลีวายส์มีความสุขมากเลย รักพี่กายนะ จุ๊บ!”
“ครับ ฝันดีนะ พรุ่งนี้พี่มาหานะ” ลีวายส์พยักหน้ารับก่อนจะลงจากรถและขึ้นห้อง วังเวงดีแท้
ลีวายส์เปิดประตูห้องเข้ามาก็พบว่าในห้องไม่ใครเลย เงียบมาก มีแต่เสียงโมบายที่ดังอยู่ตรงประตูระเบียง เฮ๊ะ!!! โมบาย ลม ระเบียง
ลีวายส์เดินตรงไปยังระเบียงพบว่า....ประตูเปิดอยู่ โมบายถูกแขวนไว้ที่กรอบประตู มีเทียนหอมวางเรียงไปตามพื้น ความมืดทำให้เปลวไฟดูสวยงาม ส่องสว่างให้เห็นร่างสูงของใครบางคนยืนอยู่ ในมือถือเค้กปักเทียนเป็นตัวเลขบอกอายุของเจ้าของวันเกิดไว้
“แฮปปีเบิร์ดเดย์” ลีวายส์นิ่งฮะ หัวใจกำลังเต้นแรง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง พี่ธารกลับมา มาทันเวลา “เป่าเค้กสิ”
ลีวายส์ก้มลงเป่าเค้ก ในมือพี่ธาร ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงไว้แน่น ใจร้ายที่สุดเลย ไม่เห็นโทรมาบอกกันบ้าง
“อย่าร้องนะ เด็กอะไร ขี้แยชะมัด” พี่ธารบอก
“ป่าวซะหน่อย อึกๆ......ก็พี่ธารอ่ะ”
“หึ! พอแล้วๆ ไม่เอานา ก็มาแล้วนี้ไง งานวันเกิดสนุกมั้ยล่ะ” พี่ธารวางเค้กลงกับโต๊ะไม้ตัวยาว ก่อนจะดึงลีวายส์ให้นั่งลงบนตักแกร่ง
“สนุก....ถ้ามีพี่ธารอยู่ด้วย”
“ถ้ามีกู อาจจะไม่สนุกก็ได้ กินสิ คงหวานน่าดู” พี่ธารใช่นิ้วจิ้มเนื้อเค้กแตะปลายจมูกลีวาย ก่อนจะตักเค้กป้อนให้ เป็นเค้กไอศกรีมฮะ กินตอนกลางคืนหนาวดี อ่าๆๆๆ
“พี่ธารอ่ะ....ทำไมไม่โทรมาบอกล่ะ ลีวายส์จะโกรธพี่ธารแล้วรู้ยัง”
“ก็รู้ว่าคงไม่ทันไงเลย มารอที่บ้านดีกว่า เพื่อนมาเยอะล่ะสิ ลง ig กันเต็มเลยนะ แต่เอาไว้คิดบัญชีวันหลังก็แล้วกัน”
“อะไรอ่ะ ลีวายส์เปล่าทำอะไรเลยนะ”
“หรอ ไม่ทำก็ไม่ทำ” แล้วลีวายส์กับพี่ธารก็นั่งคุยกันต่ออีกแป๊บก่อนจะเข้ามาในห้องนอน
“ว้าวววว....ลูกโป้ง” ลูกโป้งเต็มห้องเลยฮะลอยอยู่บนเพดานเต็มไปหมด
“ชอบล่ะสิ หึ!”
“ที่สุด เพิ่งรู้ว่าพี่ธารก็ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยนะ คึคึคึ ฟอด!” ให้รางวัลเป็นหอมแก้มฟอดนึ่ง
“เปล่าทำ แค่โทรสั่งแม่บ้านไม่ถึงสองนาทีเอง”
“พี่ธารอ่ะ...ไม่รักเล่า!” ดูสิ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครว่าซะหน่อย มันน่าน้อยใจจริงๆเลย
“ล้อเล่นนา มานอนเถอะ ง่วงจะแย่” ร่างสูงดึงมือลีวายส์ให้นอนลงบนเตียง และกอดลีวายส์ไว้ในอ้อมแขน อ้อมแขนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
แหนะ รู้นะคิดไร คืนนี้พี่ธารกระซิบบอกว่า วันเกิดไม่อยากให้เจ็บตัวฮะ เลยแค่นอนเฉยๆ แต่ว่า....ค่อยทบในคืนถัดไปอันนี้ชักกลัวล่ะ ทบนี้คือ.....
..................................................................................................
เช้า.....................
“ตื่นแล้วทำไมไม่ลุกล่ะ” ผมผงกหัวมองร่างเล็กในอ้อมแขน ลีวายส์นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในมือ ผมเพิ่งตื่นครับ
“ขี้เกียจ วันนี้นอนทั้งวันเลยได้มั้ยฮะ”
“ฟอด! ได้ แต่ไม่ให้นอนเปล่าๆนะ หืม.....” ผมพลิกตัวเข้าหาร่างเล็กก่อนจะ หอมแก้มฟอดใหญ่ จากนั้นก็ ทำให้มันหันมาสนใจผมแทนโทรศัพท์ด้วยรสจูบแสนหวาน
“พี่ธาร...ไปล้างหน้าก่อน!”
“ตัวเองล้างแล้วหรอ ไม่ต้องหรอกนา ออกกำลังตอนเช้าดีต่อสุขภาพ ครูไม่สอนหรอ” ผมยักคิ้วให้แกะที่กำลังจะโดนกิน
“ไม่เอา....อุ๊บส์” ก็ต้องเอาสิ หึ! ผมไม่ปล่อยไปง่ายๆหรอก เนื้อติดอยู่ตรงริมฝีปากเสือจะไม่กินก็บ้าแล้ว ยิ่งเนื้อหอมๆล่ะก็ “อ่ะ...พี่ธารจะกินลีวายส์หรอฮะ กัดซะ.....”
“พูดมากจริง ปากว่างนี่...หรือจะ.....”
“ไม่ๆ ไม่เอานะ...ของพี่ธาร....อ๊ะ!!!” ลีวายส์สะดุ้งเมื่อ มือผมทำพิษ ถอดรูดกางเกงมันออกรวดเดียวเลย
“อ้าวหลุดมาได้ไงอ่ะ” ผมแกล้งพูดกับร่างเล็กที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีแดงแป๊ด ลีวายส์เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง เบือนหน้าหนี
“พี่ธารขี้โกง” >0<
“อ่ะๆ ยอมก็ได้ ให้อยู่บนมั้ยล่ะ” แค่นั้นล่ะครับ หันขวับมาทันที
“ไม่เอาอ่ะ!!! ไหนบอกไม่อยากให้เจ็บตัวไงฮะ”
“จำได้ว่า พูดไว้เมื่อคืนโน้นแหนะ...จุ๊บ....จ๊วบ” ผมจูบริมฝีปากสีสดย้ำๆ
“พี่ธาร! ขี้โกง โกรธแล้ว” ลีวายส์ ทำปากยื่นให้ผมและพลิกตัวหนี ผมมองไหล่เนียนใสที่โผล่ออกมาจากคอเสื้อกว้างๆของมัน ก่อนจะจูบลงไล่ไปถึงลำคอ
“กล้าโกรธหรอ หืม.....สุขสันต์วันเกิด” ผมหยิบกล่องเล็กๆออกมาจากโต๊ะข้างเตียงให้ลีวายส์ ทำให้ร่างเล็กพลิกตัวกลับมาก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
“อะไรฮะ”
“อยากรู้ก็เปิดสิ” ลีวายส์เปิดกล่องออกดู ถึงกับโผเข้ากอดผมเกือบหงายหลัง
“ขอบคุณฮะ รักพี่ธารที่สุด ที่สุดในโลกเลย รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“พอๆ รู้ว่ารัก โอเค เก็บดีๆล่ะ ถ้างายอีกล่ะก็ โดนแน่” ไม่ใช่แหวนหรอก แต่เป็นรูปของพ่อกับแม่ลีวายส์ที่เอามาจากออสเตรเลียแต่ดันหายไป มันร้องไห้อยู่สามวัน
ผมรับปากว่าจะหาให้แต่ก็หาไม่เจอซะที ผมก็เลยต้องให้แม่บ้านส่งมาและใส่ล็อกเก็ตเป็นจี้สร้อยคอให้เรียบร้อย เพราะคิดว่ามีค่ามากสำหรับลีวายส์
“รู้แล้วๆ จะเก็บอย่างดีเลย พี่ธาร...รักนะ”
“รักแล้วต้องทำไง หืม จุ๊บ!!!” ผมดันร่างเล็กลงบนเตียงอีกครั้ง ก่อนจะ....
กริ๊งงงงงงงงง กริ๊งๆๆๆๆๆ กริ๊งงงงงงงงง
“ชิท์!!!!! กดกริ่งแบบนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากไอ้กาย ไอ้เหี้ย! ผมกลอกตาไปมา ก้มลงจูบลีวายส์และก็...ลุกไปเปิด - -+
“ช้า มึงทำไรอยู่” ไม่ได้มาคนเดียวพี่หมอก็มา หอบกล่องของขวัญมาเต็ม
“ไม่ต้องรู้ รู้แค่ว่ามาขัด....แต่เช้าเลย เว้ย!!!” ผมหลีกทางให้มันเข้ามา พี่หมอยิ้มนิดหลังจากมองผมลงต่ำ ไอ้เหี้ยพี่หมอ
“รีบล้างหน้าเชียวนะ ออกไปก่อน กูอาบน้ำแป๊บ” ผมบอกกับลีวายส์ ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ จากนั้นไม่นานผมก็ออกมา และก็พบว่ามีแขกมาเพิ่มอีก
“อาบน้ำหรือทำอะไรวะช้าฉิบ” พี่หมอเล่นกูเลย
“จะยกโขยงมาเพื่อ ได้ข่าววันหยุด กูจะพักผ่อน” ผมบอกนั่งลงบนขอบโซฟาข้างๆลีวายส์
“เอาของขวัญมาให้เด็กน่ะสิ” ไอ้เซฟบอก มันมากับไอ้เด็กแพ็ค พวกมันคบล่ะ แม่งไอ้เซฟกินเด็ก(คือมันลืมตัว) เอ๊ะ!!! เอ่อ..
“พวกมึงจะอะไรกันนักหนา”
“ทำไม อ่ะนี่ของพี่แมนกับพี่โอ๊ตนะคะ แกะเลย” ไอ้นี่ก็อีกคน พูดดีเป็นแต่กับเมียกับลีวายส์เนี่ยแหละ
“วู้.....” เป็นรองเท้ากับหมวกแบรนด์ดัง คนได้ก็ดีใจใหญ่สิครับ “ขอบคุณฮะ รักพี่แมนกะพี่โอ๊ตที่สุด”
“นี่ของพี่กายกับพี่หมอนะ เปิดเลยๆ ลีวายส์ต้องชอบแน่ๆ” กล่องใหญ่ครับเกือบเต็มโต๊ะกลางโซฟา กูอยากเป็นหมอเหมือนกันนะ เดือนหนึ่งมันได้เงินกี่แสนวะเนี่ย
กล่องนี่เป็นเซ็ตเสื้อผ้าแบรนด์ดัง มีทั้งเสื้อกางเกงเสื้อนอกพร้อมกับแอคเซสเซอรี่อย่าสร้อยคอต่างหูและอีกมากมายอยู่ในกล่อง เอากันเข้าไป
“กูอยากได้” ทุกคนหันไปมองเสียงที่เกิดขึ้น เด็กไอ้เซฟเค้าล่ะ
“เดี๋ยวพี่ซื้อให้นะ” ไอ้เซฟกำลังเอาใจแฟนครับ เหอะๆ กูอยากรู้เรื่องมันไปถึงไหนกันแล้ว(นอกเรื่อง) “ส่วนนี้ของพี่ ไม่รู้ลีวายส์ชอบหรือเปล่าอ่ะ”
“ลีวายส์ชอบหมดทุกคนเลยฮะ....” ลีวายส์บอกก่อนจะเปิดกล่องของไอ้เซฟ “วู้...นาฬิกา” มีแต่ของแบรนด์ดังทั้งนั้นเลย ไอ้พวกนี้นี่มัน...
“พวกมึงเยอะล่ะ มันตัวแค่นี้ จะให้อะไรพอตัวไม่ได้หรือไง”
“มึงมีปัญหาอะไร! ลูกกูอ่ะ ลูกจะให้” แม่มันของขึ้นครับ แตะไม่ได้เลยจริงๆ ลีวายส์ของกูไม่ใช่หรอวะ =_=
“รู้ป่ะ ถ้าไม่มีลีวายส์กูก็คงจะไม่ได้เจอกับพี่หมอ ไอ้แมนก็คงไม่ได้เจอกับโอ๊ต ไอ้เซฟก็ด้วย มึงรู้มั้ยการที่มีลีวายส์อยู่มันทำให้เรามีอะไรหลายๆอย่างเข้ามาในชีวิตมากมาย มึงก็ด้วย ถ้าตอนนี้ไม่มีลีวายส์ มึงก็คงยังจะเที่ยวเล่นไปวันๆอยู่เลย ลีวายส์น่ะ ทำให้เราได้รู้จักเป็นห่วงคนอื่น คิดถึงคนอื่น ดูแลคนอื่นเป็นและที่สำคัญ ได้...รักเป็น”
“หึ! นั่นสิ ถ้าไม่ใช่เพราะลีวายส์กูคงไม่เจอกับมึงจริงๆ โอ๊ต” ไอ้แมนบอก ในวันนั้นเพราะมันมาช่วยผมสินะ
“ใช่ ตอนไปไหน อย่างแรกที่ต้องคิดถึงคือ ลีวายส์จะอยู่กับใคร อยู่ยังไง ทานอะไร จะไม่สบายหรือเปล่า ถ้าไม่เรียกว่าเป็นห่วงคงไม่ได้” ไอ้เซฟ
“ขอบคุณไอ้ธาร ที่มึงไม่ทิ้งลีวายส์ ขอบคุณที่มึงทำให้เราได้รู้จักกับเด็กคนนี้ มาเร็วลีวายส์ มากอดที” ลีวายส์แทรกลงนั่งระหว่างไอ้กายกับไอ้แมนแล้วพวกมันก็กอดกัน
ไอ้กายพูดถูก ถ้าไม่มีลีวายส์ผมก็คงรักใครไม่เป็นจริงๆ และลีวายส์ก็คือ “ความรักของผม”
...
“เอาล่ะ นี่อะไร” อีธารส่งโทรศัพท์ในมือให้ลีวายส์ดู ทำให้ร่างเล็กเปิดตากว่างกับภาพที่อยู่บนหน้าจอ
“คือ...เอ่อ....ก็พี่ฟิวส์อ่ะ แค่ถ่ายรูปเอง ถ่ายกันหลายคนนะแต่ทำไมตัดมาแค่สองคน” ร่างเล็กบอกเสียงแผ่ว
“หึๆ งั้นหรอ เคยบอกหรือเปล่าว่าอย่าเข้าใกล้มัน อย่าคุยกับมัน อย่ามองหน้ามัน”
“พี่ธาร เยอะไปแล้ว”
“เยอะอะไร!!!” ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง ตอนนี้ทุกคนกลับไปแล้วด้วยสิ ไม่มีใครช่วยลีวายส์ได้เลย
“ก็.....ลีวายส์ของโทษ แค่รูปเอง นะๆ ลีวายส์ขอโทษๆๆๆ นะๆ จุ๊บ นะ จุ๊บ” ร่างเล็กพยายามทำให้ร่างสูงเย็นลงด้วยการจุ๊บแก้มซ้ายขาวและจูบซับไปทั่วหน้า
“ก็ได้.....” และก็ดูเหมือนจะได้ผล อีธารดึงลีวายส์ให้นั่งคร่อมลงบนตัก “บอกรักซิ”
“รักที่สุดฮะ”
“รักใคร”
“พี่ธารอยู่แล้ว”
“รักแล้วต้องทำไง”
“จุ๊บ...จุ๊บ...จุ๊บๆๆๆ”
“ไม่ใช่....รักแล้ว...ต้อง....ยอม!.....ต่างหาก.....อุ๊บส์!” >//////< (อนุญาตให้มโนตามสบาย ปล.ฆ่าคนอ่าน 55555)
.........................................................................
คู่ต่อไปใคร ตอบ!!! แต่งดีมั้ยน้า
โอ๊ะ!!! ล้อเล่น จะรีบแต่งนะครัชชชช