ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18“อื้อออ.....” อึดอัด หายใจไม่ออกเหมือนคนกำลังสำลักน้ำ พยายามดิ้นให้หลุด เท้าก็ถีบแต่ดูเหมือนสิ่งที่ผมทำจะไม่สะเทือนผิวคนที่นอนคร่อมผมอยู่ซักนิด
“ยะ...หยุด ไม่แล้ว ไม่เอาแล้ว ผมหายใจไม่ออก” ผมรีบบอกพร้อมหายใจเหนื่อยหอบ โกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุดหลังปากเป็นอิสระ พอเอาหน้าหลบเป้าหมายก็ถูกเปลี่ยนเป็นซุกไซ้ลำคอแทน
ผมไม่ได้รังเกียจสัมผัสของพี่ชินแต่ผมกลัว กลัวความรุนแรงที่ได้รับ กลัวสายตาที่เย็นชาและดุร้ายเหมือนสัตว์ป่า มันไม่เหมือนสายตาของพี่ชินคนเดิมที่ผมรู้จัก ความหวาดกลัวทำให้ผมพยายามหนี หนีให้ถึงที่สุด
“กูบอกให้หุบปาก” เสียงแข็งกระด้างที่ได้ยินทำให้ความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นไปอีก
“พี่ชินปล่อย...ปล่อยผม ” ทั้งร้อง ทั้งดิ้นจนเกือบหมดแรง แต่มันก็ไม่ช่วยให้ร่างหนาของพี่ชินหยุดทำรุนแรงกับผม ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบสะเปะสะปะไปทั่ว ความรู้สึกเจ็บเกิดขึ้นเป็นระยะเมื่อโดนดูดจนเหมือนเนื้อจะหลุดติดปาก
“ไม่นะ พี่...พี่อย่าถอด” ผมตกใจอีกครั้ง เมื่อกางเกงถูกกระชากออกพ้นปลายเท้า ตามด้วยกางเกงใน ผ้าชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ ผมพยายามใช้เท้าถีบแต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อโดนทับไว้ทั้งตัวอีกครั้ง
“ไอ้พี่เหี้ย กูบอกให้ปล่อย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ ปล่อย!” ผมรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายตะโกนออกไปสุดเสียง ก่อนจะดิ้นสุดแรงอีกครั้ง
“อยู่นิ่งๆ มึงจะดิ้นทำไม เสียงแรงเปล่ายังไงมึงก็ต้องเป็นของกู” พี่ชินที่กำลังไล่จูบตามหน้าท้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนว่าเสียงนิ่ง
“ถึงตัวผมจะเป็นของพี่ พี่ก็จะได้แค่ตัวเพราะใจผมเป็นของคนอื่น”
“...” ไม่มีเสียงตอบโต้ใดๆ แต่การซุกไซ้เหมือนจะลดความรุนแรงลง
“พี่ไม่มีทางมีความสุขหรอก อย่าทำผมเลยพี่เชื่อผมเถอะ” ผมว่าเสียงอ่อนลงไม่มีแล้วแรงที่จะสู้ ในเมื่อตัวผมไม่ได้ใกล้เคียงกับร่างหนาๆของพี่ชินซักนิดแล้วผมจะเอาแรงที่ไหนไปสู้
“กูไม่เคยมีความสุขอยู่แล้วตั้งแต่รู้ว่ามึงรักคนอื่น หลังจากนี้ถ้ากูจะไม่มีความสุขต่อไปมันก็คงไม่เป็นไร”
“งั้นพี่อยากทำอะไรก็ทำเถอะผมจะไม่สู้ไม่ขัดขืนแล้ว แต่หลังจากนี้แม้แต่หน้าพี่ผมก็จะไม่มีวันมอง” ผมพูดอย่างสิ้นหวัง ก่อนน้ำตาที่แห้งไปนานเริ่มไหลอีกครั้ง
“...”ร่างหนาที่กำลังซุกไซ้ตามซอกคอผมหยุดชะงักนิดนึงก่อนไซ้ต่อ
“ผมเกลียดพี่”
เอ่ยออกไปเบาเท่าเสียงกระซิบ นึกว่าพี่ชินจะไม่ได้ยิน แต่เขาได้ยิน
ได้ยินแน่ๆเพราะนอกจากทุกการกระทำจะหยุดลงแล้ว ผมยังรู้สึกถึงบางอย่างที่หยดลงบนหัวไหล่
น้ำตาของพี่ชินมันกำลังหยด ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ มีเพียงความเงียบระหว่างเรา
ข้อมือที่ถูกรวบไว้ตอนนี้มันเป็นอิสระแล้วแต่ผมก็ไม่คิดจะใช้มันผลักผู้ชายตรงหน้า
ผู้ชายที่กำลังร้องไห้ ผู้ชายที่ไม่เหลือท่าทีดุร้ายเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว
พี่ชินกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาเหมือนไม่ต้องการให้ผมเห็นแต่ผมก็เห็นมันแล้ว
“คำว่ารักกูยังไม่เคยได้ยินสักคำ แต่คำว่าเกลียดทำไมมึงถึงพูดง่ายนักนะ” พี่ชินพูดช้าๆเหมือนคนหมดแรง ก่อนลุกขึ้นนั่งริมขอบเตียงหันหลังให้ผมที่รีบคว้าผ้าห่มคลุมตัว
“พี่อยากให้ผมเกลียดไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ผมเกลียดพี่แล้วไง พี่ยังต้องการอะไรอีก” ถามทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ต้องการคำตอบ
“ไม่เลย กูไม่เคยต้องการ”
“...” ไม่ต้องการแล้วทำทำไม ผมให้ผมเจ็บ ทำให้ผมเกลียดทำไม ผมไม่เข้าใจว่าตอนนี้พี่ชินกำลังคิดอะไรอยู่
“ในเมื่อมึงไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตา ถ้ารักไม่ได้มันก็ต้องเกลียดเท่านั้นกูถึงจะมีตัวตนไม่ใช่อากาศธาตุ ไม่ใช่วิญญาณที่มึงมองไม่เห็นเหมือนทุกวันนี้”
“ไม่ใช่นะพี่ ผม...”
“ทั้งที่กูคิดแล้วว่าอยู่เพราะรักไม่ได้ กูก็จะทำให้มึงเป็นของกูแล้วอยู่ด้วยกันทั้งที่เกลียดนี่แหละ กูจะไม่ยอมให้มึงกับใคร หน้าไหนก็มาเอามึงไปไม่ได้ทั้งนั้น ทั้งที่ทำใจแล้วแต่แค่ได้ยินมึงบอกว่าเกลียด กูถึงกับเสียศูนย์อีกครั้ง
ไม่ว่าจะเบาแค่ไหนแต่กูกลับได้ยินชัดเจน
มันอยู่ตรงนี้ที่ใจกูนี่ ตอนนี้มันเหมือนจะขาดเลยว่ะ
ไปซะ รีบออกไปจากห้องซะก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจ”
พี่ชินไม่แม้แต่จะหันกลับมามองผมที่ตอนนี้พยายามลุกนั่งอย่างทุลักทุเล เพราะผ้าน่วมผืนใหญ่ที่ใช้หุ้มตัว
ร่างใหญ่ของพี่ชินสั่นน้อยๆถ้าไม่ได้สัมผัสคงไม่รู้ แต่ผมรู้เพราะตอนนี้กำลังเอื้อมมือออกไปโอบกอดพี่ชินจากด้านหลัง พี่ชินเหมือนสะดุ้งน้อยๆที่ผมทำอย่างนี้
จะว่าผมบ้าก็ได้แต่ผมไม่สามารถทิ้งพี่ชินในสภาพนี้ไปได้ พี่ชินที่ผมไม่เคยเห็น พี่ชินที่เหมือนคนหมดสภาพ
“พี่ผมขอโทษ” ขอโทษที่ผมไม่เคยรู้อะไรเลย ขอโทษที่ผมรักคนอื่นไปแล้ว
“มึงไม่ต้องขอโทษหรอก มึงไม่ผิดกูเองที่เป็นคนผิด ผิดเองที่รักมึงแล้วยังจะทำร้ายมึงอีก”
“ผมไม่ใช่คนดีอะไร พี่ไม่ควรรักผมเลย” ผมพูดเบาๆพร้อมหัวที่ซบลงด้านหนังของไหล่หนาๆ
“กูก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่ทำไงได้วะก็มันดันรักไปแล้ว” ผมควรดีใจหรือเสียใจดีวะเนี๊ยะ
“พี่ชิน...”
“กูต้องทำยังไง มึงถึงจะรักกูได้บ้างวะ” ผมยังพูดไม่จบเสียงพี่ชินก็แทรกขึ้นมาก่อน
“...” ไม่รู้จะตอบว่าอะไร ตอนนี้ผมทำได้เพียงกอดพี่ชินไว้จากด้านหลัง อยากใช้อ้อมกอดนี้ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมด ถึงผมไม่ได้รักแต่ผมก็ไม่ได้เกลียดพี่ ไม่เคยเกลียดและไม่คิดจะเกลียดเลยซักนิด ที่ผมพูดเพราะอารมณ์แต่ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยจริงๆนะ
“ไปซะ ถ้าไม่รักก็อย่าทำแบบนี้กูจะมีความหวัง แล้วมึงจะไม่มีโอกาสได้ไปจากกูอีกเลย ตอนนี้อาจจะยังทันมึงไปทำตามหัวใจมึงเถอะ ถ้ารักก็สู้ให้ถึงที่สุดแต่ถ้าสู้แล้วรู้ว่ามันไร้ความหมายก็หยุดซะก่อนที่ใจมันจะเจ็บไปมากกว่านี้ อยากทำอะไรก็ทำแต่อย่าทำเรื่องที่ผิดเหมือนที่กูกำลังทำ” พี่ชินค่อยๆแกะมือผมที่กำลังโอบพี่ชินไว้ออกที่ละข้าง
มองไม่เห็นสีหน้าว่าพี่ชินกำลังรู้สึกอย่างไร แต่ที่แน่ๆผมรู้สึกใจหายที่ตอนนี้เป็นพี่ชินเองที่เหมือนกำลังไล่ผมให้ออกไปจากชีวิต
“ขอเวลากูหน่อยแล้วกูสัญญาว่าจะลืมมึง” พี่ชินว่าก่อนจะเดินไปยืนริมประตูระเบียงแล้วมองฝ่าความมืดออกไปอย่างไร้จุดหมาย ผมที่ยังอยู่บนเตียงมองตามด้วยความรู้สึกโหวงๆเมื่อได้ยินประโยคนี้ ผมควรจะดีใจสิที่พี่ชินลืมผมได้ แต่ทำไมมันไม่เป็นอย่างนั้นเลยไม่เลยซักนิดเดียว
“ขอบคุณครับที่พี่หยุด ขอบคุณที่พี่ไม่ทำอะไรผมมากกว่านี้” ผมเอ่ยขอบคุณก่อนลุกขึ้นหยิบกางเกงที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นสวม ต่อด้วยการหยิบเสื้อขึ้นมาดูว่ามันยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ แล้วก็ปรากฏว่ามันไม่เหลือกระดุมซักเม็ดแถมยังมีรอยขาดเป็นทางยาว
“ตอนนี้มืดแล้วมึงนอนที่นี่แหละ กูจะไปเอง” ตอนแรกไล่ให้ผมไปแต่ตอนนี้จะให้อยู่ซะงั้น เคยถามผมบ้างไหมว่าผมอยากอยู่หรืออยากไป
“ไม่เป็นไรครับผมกลับได้ ที่นี่เป็นห้องพี่ พี่จะออกไปทำไม” ผมบอกก่อนสวมเสื้อที่ไม่มีกระดุมซักเม็ดนั่นแหละครับ
“มึงอยากโดนข่มขืนจริงๆใช่ไหมถึงคิดจะออกไปทั้งสภาพแบบนี้” พี่ชินถามเสียงดังก่อนไล่สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดตีน
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น” ผมรีบตอบ
“ถ้าไม่คิดก็นอนที่นี่ซะอย่าเรื่องมาก
“แล้วพี่จะไปไหน” ผมถามเมื่อเห็นพี่ชินกำลังจะก้าวออกจากห้องที่เป็นของตัวเอง
“มึงไม่ต้องรู้หรอก กูบอกให้นอนก็นอนซะ กูจะไปไหนไม่สำคัญหรอก”
“สำคัญสิ ถ้าพี่ไม่อยู่ผมก็จะกลับเหมือนกัน จะให้ผมเป็นต้นเหตุให้พี่ไม่มีที่นอนได้ยังไง” ผมรีบพูดก่อนพี่ชินจะปิดประตู
“มึงรู้ได้ยังไงว่ากูไม่มีที่นอน ผู้หญิงกูมีออกเยอะแยะจะไปนอนกับใครซักคนก็ได้” รู้ว่ามีแต่จะพูดทำไมวะ แล้วคิดว่าผมเชื่อเหรอไม่มีหรอกคนที่บอกจะไปนอนกับสาวด้วยเสียงเศร้าขนาดนี้ ยิ่งดวงตาเศร้ากว่าเสียงอีกครับ
“ผมไม่ให้ไป”ผมบอกพร้อมเดินเข้าหามือเกือบจะคว้าแขนพี่ชินไว้ แต่นึกขึ้นได้ก่อนว่าผมไม่มีสิทธิ์เลยแค่หยุดยืนใกล้ๆ ใครจะยอมให้ไปทั้งเป็นห่วง ทั้งความรู้สึกแปลกๆตีกันให้วุ่น
“หึหึ ถ้ากูอยู่มึงจะไม่ปลอดภัย” รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนหน้าพร้อมเสียงเศร้าไม่หาย
“ผมรู้ว่าพี่จะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว ถ้าทำพี่คงไม่หยุดตั้งแต่แรก” รีบตอบด้วยความมั่นใจ
“มึงไว้ใจคนง่ายเกินไป” พี่ชินว่าก่อนเอื้อมมือมาโยกหัวผมเบาๆ ไม่รู้เพราะความลืมตัวหรืออะไร
“เฉพาะพี่หรอกที่ผมไว้ใจ นอนที่นี่เถอะผมไม่อยากให้พี่ออกไป”
“อืม มึงไปอาบน้ำซะจะเช้าแล้ว”
“พี่ชินจะไม่ไปไหนจริงๆนะ ถ้าผมอาบน้ำออกมาแล้วพี่ชินไม่อยู่ผมจะกลับห้อง” ผมไม่ค่อยไว้ใจเลยแอบขู่แต่ไม่รู้จะได้ผมหรือเปล่า
“กูไม่ไปไหนหรอก มึงรีบไปอาบน้ำซะกูง่วงแล้วเหนื่อยมาทั้งวัน” พอพี่ชินบอกเหนื่อยผมเลยรีบคว้าผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำด้วยความไว
อาบน้ำเสร็จผมขึ้นมานอนบนเตียงรอพี่ชินที่เข้าไปอาบต่อ ความเมาไม่มีเหลือแล้วครับแม่งเจอแต่เรื่องตื่นเต้น แถมตอนนี้ยังรู้สึกหน่วงๆกับความรู้สึกของพี่ชินที่ได้รู้ มันมีมากกว่าความเสียใจที่รู้ว่าพี่ตินณ์มีคนที่รักแล้วอีกครับ
“พี่ชินจะไปไหน” แต่งตัวเสร็จนึกว่าจะขึ้นมานอน แต่ผิดเพราะพี่ชินคว้าหมอนไปถือก่อนทำท่าจะเดินออกจากห้อง
“กูจะไปนอนข้างนอก มึงน่ะหลับได้แล้วเดี๋ยวตาก็ดำเป็นหมีแพนด้าหรอกมึง” ยังมีการมาว่าผมอีกนะ
“ไม่ต้องเลยพี่จะไปทำไม มานอนด้วยกันนี่แหละผมไม่อยากแย่งเตียงเจ้าของห้องหรอกนะ ถึงมันจะสบายก็เถอะแต่มันบาป”
“คนอย่างมึงไม่น่าจะกลัวแล้วนะบาปน่ะ นรกเท่านั้นที่รอมึงอยู่” โห ถ้าไม่ได้ยินกับหูผมจะไม่มีทางเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็น ผู้ชายคนเดียวกับที่บอกรักผมจะเป็นจะตายอยู่เมื่อกี้
“พี่แม่ง มานอนผมไม่อยากทะเลาะด้วยแล้ว”
“มึงนอนไปเถอะ”
“พี่นั้นแหละมานอนอย่าเรื่องมาก หรือกลัวผมจะปล้ำ”
“ปากดี เห็นกูไม่ทำหน่อยเอาใหญ่ เดี๋ยวจับปล้ำแม่งก็แหกปากร้องห้องแตกอีก” แล้วใครมันจะนอนแข็งนิ่งไม่แหกปากยอมให้ปล้ำง่ายๆบ้างวะ ถ้าแบบนั้นเค้าไม่เรียกปล้ำแล้ว
“โอเคๆ ผมยอมแพ้มานอนเถอะพี่” ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว ทำท่ายอมแพ้ก่อนเรียกพี่ชินมานอนอีกครั้ง พี่ชินทำท่าลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมขึ้นมานอนข้างๆเหมือนทุกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้พี่ชินมันหยิบหมอนข้างมากั้นกลางระหว่างผมกับตัวเองไว้ ผมก็มองเอือมๆก่อนล้มตัวลงนอนบ้าง หมอนข้างใบแค่นั้นมันจะกั้นอะไรได้ครับถ้าคนมันจะทำ มันอยู่ที่ใจมากกว่า ตอนนี้ผมรู้ว่าพี่ชินไม่มีทางทำผมแน่นอนผมถึงกล้าที่จะนอนด้วยอย่างสบายใจ
ชัดเลยครับ ไอ้ที่สงสัยมาตลอดว่ารอยแดง ม่วงๆเน่าๆเหมือนแมลงกัดที่ขึ้นตามตัวผมตลอดแล้วไอ้พี่ชินมันบอกว่าเป็นพรายย้ำห่าเหวอะไรนั่นไม่ใช่เลยครับ
ผมสงสัยมาตั้งแต่เมื่อคืนตอนอาบน้ำแล้วว่ามันคลายๆกันแต่ก็ไม่มีเวลาดู พอเช้ามาไม่ผิดแน่ครับ
ก็รอยที่ไอ้พี่ชินมันทำไว้เมื่อคืน ที่ผมเห็นแดงๆ ตอนนี้มันเป็นสีม่วงช้ำๆ เหมือนที่ผมเคยเป็นแล้วครับ แสดงว่าตลอดมาไอ้พี่ชินแม่งรวนลามผมมาตลอดโดยที่ผมไม่รู้ แล้วยังมาบอกหน้าซื้อตาใสว่าเป็นโรคเหี้ยไรนั้นอีก ถ้าไม่เรียกว่าเลวผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีแล้วครับ
“ไอ้พี่ชินตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนเรียกผู้ชายร่างสูงที่นอนเหยียดยาวบนเตียง พร้อมผ้าน่วมผืนหนาที่ปิดขึ้นมาถึงอกเพราะฝีมือผมเอง
เช้านี้ผมตื่นมาแบบไม่ค่อยสดใสนัก อาจจะเพราะเหล้าที่กินเข้าไปเมื่อคืนทำให้ผมรู้สึกหนักๆหัว แถวยังมีมือปลาหมึกของพี่ชินที่รัดผมแน่นจนฝันว่า โดนจับถ่วงน้ำแล้วกำลังสำลักน้ำ หายใจไม่ออกจนต้องตื่น
ตื่นมาก็รู้ว่าจริงๆไม่ได้โดนถ่วงหรอกครับ แต่เป็นไอ้พี่ชินที่รัดผมแน่นเหมือนงูกำลังรัดเหยื่อ ถ้ารัดแรงอีกหน่อยกระดูกผมแตกก็แดกได้เลย แล้วไอ้หมอนข้างที่สรรหามากั้นซะดิบดี ผมเห็นลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นเรียบร้อย ไม่รู้จะเอามาให้เกะกะตั้งแต่แรกทำไม
“เรียกทำไมวะ คนจะหลับจะนอน” พี่ชินว่าพร้อมดึงผ้าน่วมขึ้นคลุมหัว หนีเสียงรบกวนหรือแสงแดดที่ส่องเข้ามาจากประตูระเบียงเป็นนิสัยประจำที่ผมเห็นจนชิน
“ผมอยากรู้ว่าทำไมรอยแดงๆ มันถึงเต็มตัวผมขนาดนี้ เมื่อคืนตอนอาบน้ำมันยังไม่เยอะเท่านี้เลย” ผมถามเสียงดังพร้อมมือที่เอื้อมไปดึงผ้าน่วมออกจากตัว แต่พี่ชินพยายามขืนไว้
“กูจะไปรู้ไหมล่ะ ตัวมึงมาถามอะไรกู”
“ก็พี่นั่นแหละตัวดีเลย ถ้าพี่ไม่รู้แล้วใครจะรู้”
“กูก็แค่สั่งลา มึงจะอะไรนักหนาวะ เฮ้ย!ไม่ใช่มึงเป็นพรายย้ำอีกรึเปล่า” ฮ้วย พรายย้ำอะไรนี่มาอีกแล้ว หรือผมควรจะชกหน้าพี่ชินซักทีดี ไอ้พรายย้ำนี่จะได้ไปขึ้นที่หน้าพี่ชินบ้าง
“พี่แม่งถ้าจับไม่ได้คาตาไม่เคยยอมรับอะไรเลยว่ะ” ผมว่าพร้อมกอกตาไปมาใส่ผู้ชายหน้าหล่อที่กำลังนอนจ้องผมอยู่บนเตียง
“บ่นอะไรของมึงวะ เอะอะแต่เช้ากูไม่นอนแม่งแล้วไปอาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งไปล่ะเดี๋ยวไปส่ง” พูดเสร็จลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเลย ผมว่าจะอาละวาดเรื่องรอยนี่ซะหน่อยเลยอดเพราะจำเลยชิ่งซะดื้อ
ระหว่างรอพี่ชินอาบน้ำผมเก็บที่นอนก่อนออกมาชงกาแฟพร้อมปิ้งขนมปังให้เจ้าของห้องเหมือนทุกครั้งที่มาค้าง ไม่รู้อาบหรือไปนอนเล่นอยู่ในปลักกันแน่กาแฟชงจนหายร้อนยังไม่ออกจากห้องน้ำเลยครับ เปิดทีวีก็ไม่มีอะไรน่าดูผมเลยทำความสะอาดห้องฆ่าเวลาซะเลย
เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ถือว่าขี้เกียจมาก ถ้ามีแข่งขันโอลิมปิกขี้เกียจตัวเป็นขนประเภทบุคคลผมว่าผมนอนมารับรองได้รางวัลเหรียญทองมาครองแบบไม่ผิดผลาดแน่ๆ
แต่พอชีวิตลูกคุณหนูยาจกอย่างผมได้มาเป็นขี้ข้าพี่ชินมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่ขยันทำงานบ้าน ปัดกวาดเช็ดถูเห็นตรงไหนสกปรกไม่ได้เลยครับ ผมต้องเผลอจัดการซะทุกที ถือเป็นข้อดีข้อเดียวที่ผมคิดว่าได้รับจากงานเจเนอรัลเบ๊
ดูดฝุ่นในห้องรับแขกเสร็จก็เลยเข้ามาดูดในห้องนอนต่อรอพี่ชินที่เหมือนไม่ได้นอนเล่นในปลักซะแล้วครับนานขนาดนี้ไม่รู้ตายไปรึยัง แต่คงยังเพราะวันหยุดพี่ชินมันชอบนอนแช่ในอ่าง สงสัยเป็นคนชีวิตติดอ่าง
ระหว่างที่กำลังดูดฝุ่นตาผมก็ไปเห็นกล่องสี่เหลี่ยมแปลกๆขนาดเท่าลังเบียร์แต่เป็นสีน้ำเงินเข้มตั้งอยู่ทั้งที่ผมเข้ามาในห้องนี้บ่อยๆแต่กลับไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อคืนก็ไม่ได้สังเกต
ด้วยความอยากรู้ระดับสูงหรือที่เรียกว่าเสือกเลเวลสูงนั่นแหละครับ ผมจัดการเปิดเลย ตอนแรกคิดไว้ว่าคงเป็นอุปกรณ์ชิ้นส่วนสายไฟ วงจรอิกเล็กโทนิกส์ที่พี่ชินชอบเอากลับมาทำที่ห้องแต่ผิดครับ
ข้างในเป็นจดหมายที่ผมเขียนถึงพี่เทคหรือก็คือไอ้พี่ชินนี่แหละครับ ตอนที่ยังไม่รู้ว่าพี่ชินเป็นพี่เทคผมก็จะใช้วิธีเขียนจดหมายแล้วเล่าเรื่องราวที่ผมเจอมาในแต่ละวัน โดยส่งผ่านรุ่นพี่ปีสองคนไหนก็ได้ หน้าซองก็เขียนรหัสเทคไว้
เรื่องที่เล่าส่วนมากเป็นเรื่องที่ผมโดนซ่อมในกิจกรรมรับน้อง หรือบ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย เรื่องเรียนเป็นส่วนน้อยครับแต่ที่สำคัญผมแอบนินทาพี่ชินให้พี่เทคผมอ่านด้วย ก็ใครจะรู้ล่ะครับว่าคนเดียวกัน ถ้ารู้ผมไม่เขียนหาแม่งหรอก
แล้วใช่ว่าที่เขียนนี่ผมอยากเขียนเองนะ ผมเขียนเพราะผมได้รับจดหมายสั่งที่ให้มาพร้อมน้ำยาล้างห้องน้ำในคืนหนึ่งหลังเสร็จกิจกรรมรับน้อง จดหมายที่ได้ก็ไม่ได้ดีอะไรตัวหนังสือเหมือนเอาตีนเขี่ยๆไว้ในบิลค่าอาหารแล้วขยำมาให้ผม แต่ผมก็ไม่ได้คิดมากบอกให้เขียนก็เขียน 3 บรรทัดบ้าง 5 บรรทัดบ้าง บางวันขยันก็ครึ่งแผ่น
ผมเขียนเกือบทุกวัน แต่จดหมายตอบนี่ผมไม่เคยได้เลยครับ ผมเขียนจนถึงวันเปิดเทคหลังจากวันนั้นแล้วผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย เพิ่งมานึกออกตอนเห็นจดหมายที่เขียนนอนนิ่งอยู่ในกล่องนี่แหละครับ
นอกจากจดหมายแล้วยังมีอมยิ้มอีก 3-4 อันนอนนิ่งอยู่ด้วยกัน สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจไม่ใช่จดหมายแต่เป็นอมยิ้ม ทำไมพี่ชินถึงมีอมยิ้มอยู่ในกล่องนี้ เพราะคนที่ให้อมยิ้มผมมาตลอดคือพี่โย
ไม่น่าผิดเพราะมีวันนึงผมเจอพี่โยโดยบังเอิญแล้วพี่โยถามผมว่าได้อมยิ้มที่ฝากเพื่อนมาให้หรือเปล่าทั้งที่ช่วงนั้นผมไประยองกับพี่ชิน แต่พอกลับมาถึงห้องไอ้แบตก็เอาอมยิ้มมาให้ในส่วนของหลายวันที่ไม่อยู่ และจนถึงวันนี้ผมก็ยังได้อมยิ้มวันละอันเหมือนเดิมแม้ว่าบางครั้งมันจะมาหลายอัน แต่ก็ต้องกินวันละอันเท่านั้นเพราะผมกลัวฟันผุ
ทั้งๆที่ผมแน่ใจว่าไม่ใช่ของพี่ชินแต่ทำไมมันถึงมีอยู่ในกล่องนี้ได้ เรื่องนี้ผมคิดว่าถ้าเจอพี่โยผมคงต้องถามซักหน่อย
ระหว่างที่กำลังค้นกล่องเพลินๆเสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นผมรีบปิดฝากล่องแล้วดันมันไว้ที่เดิม ก่อนทำการดูดฝุ่นต่อ
“อาบน้ำหรือไปชุบตัวในนรกมาพี่นานเป็นชาติขนาดนี้” ผมแกล้งว่าก่อนจะได้รับสายตาดุๆส่งมาให้
“ชาติเดียวก็เอาให้รอดเถอะมึงน่ะ ไม่ต้องมาเสือกมากเดี๋ยวจะได้ไปชาติหน้าก่อนวัยอันควร”พี่ชินแม่งปากร้ายอ่ะ
“กาแฟอยู่บนโต๊ะนะพี่ เดี๋ยวผมตามออกไป ดูดฝุ่นก่อน”
“อืม” ผมบอกก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับเบาๆในลำคอ ไม่นานพี่ชินก็เดินออกไปพอผมดูดฝุ่นเสร็จก็เดินตามออกมาเงียบๆ แล้วก็ได้เห็นพี่ชินที่นั่งเหม่อเหมือนคิดอะไรซักอย่าง กาแฟที่ตั้งไว้ไม่ได้ยุบลงเลย แล้วทำไมแววตาและบรรยากาศรอบๆมันถึงได้ดูเศร้าหมองขนาดนั้น ทั้งที่ก่อนออกมายังล้อเล่นกับผมอยู่เลย
“พี่ชิน พี่ชินครับ”
“ฮ๊ะ! มึงว่าอะไรนะ”
“ผมถามว่าเอากาแฟแก้วใหม่ไหม แก้วนี้มันเย็นหมดแล้วคงจะไม่อร่อย”
“ไม่เป็นไร กูกินแก้วนี้แหละ” พูดพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก แต่เห็นทีก็ทำให้ใจสั่นได้เสมอ ผมมองเพลินจนพี่ชินกินหมดแก้วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ครับ
“ไอ้วีกูขออะไรอย่างนึงได้ไหม” ระหว่างที่ผมกำลังล้างแก้วเสียงของพี่ชินก็ดังขึ้นจากโต๊ะอาหารใกล้ๆ
“พี่ว่ามาก่อนดิ” ขออะไรไม่รู้ไว้ใจได้รึเปล่า
“จ้างก็ได้” เริ่มน่าสนขึ้นมานิดนึง
“ผมไม่ใช่คนเห็นแก่เงินนะพี่ แต่ว่าเท่าไหร่ แล้วจ้างอะไร” เป็นอันว่าคำขอตกไว้เหลือเพียงคำว่าธุรกิจ
“หนี้ที่เหลือทั้งหมดของมึง”
“ห๊ะพี่ว่าอะไรนะ” ผมถามอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“หนี้ที่มีทั้งหมดของมึงจะหายไป แค่มึงทำตามที่กูขอ” ผมรู้สึกว่าคำขอนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆเพราะมันแลกด้วยจำนวนยอดหนี้ทั้งหมดและอิสระภาพของผม
“หนี้ทั้งหมดเลยเหรอ แล้วพี่จะให้ผมทำอะไรล่ะ” ผมถามเสียงเบา พร้อมรอลุ้นคำตอบ
“วันนี้ขอแค่วันนี้ช่วยแกล้งเป็นแฟนกับกูได้ไหม แค่วันเดียวเท่านั้นแล้วหลังจากนี้กูจะไม่รบเร้าอะไรมึงอีกเลย”
----- To be Con.-----
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ และการติดตามค่า