ตอนที่ 28 ชุดที่ชอบ...
หลังจากหนูรู้ตัวคนร้ายแบบไม่จำเป็นต้องหาพยานและหลักฐานให้เมื่อยตุ้ม น้องฐาก็นั่งดูละครต่อ(เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกครั้ง?) ระหว่างรอคอยคนร้ายย้อนกลับมายังสถานที่เกิดเหตุอย่างใจเย็น
และเมื่อเจอหน้าผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง นักสืบสาวสวย (มั่นใจมากค่ะตรงนี้) ก็เริ่มต้นสอบปากคำทันที
“นี่มันหมายความว่ายังไงคะ?” น้องฐาถามขึ้น ทั้งหน้าตาและน้ำเสียงใส่อารมณ์ราวกับจับได้ว่าสามีไปมีเมียน้อย ในมือยื่นมือถือของตัวเองไปตรงหน้าจำเลย
“หือ.... อะไรล่ะ ก็โทรศัพท์ไงคะ” พี่โต้งตอบกลับมากวนๆ แหม มุขบ้องตื้นแบบนี้ยังกล้าเล่นอีกเหรอคะคุณพี่
“ค่ะโทรศัพท์...แล้วข้อความที่อยู่ในโทรศัพท์นี่ล่ะคะ?” พี่โต้งชะโงกหัวสูงๆ ลงมามองแล้วขมวดคิ้วมุ่น
“พี่ไม่ได้เป็นคนส่งให้น้องฐาซะหน่อย แล้วพี่จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ?” เฉไฉไปไหนเนี่ย
“ค่ะ พี่ไม่ได้ส่งให้หนูแต่ส่งให้เพื่อนหนูแทน คิดได้ไงเนี่ย”
“แล้วไงล่ะ พี่ก็แค่ตัดไฟแต่ต้นลมเท่านั้นเอง น้องฐาบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเป็นเพื่อน ถ้าเป็นเพื่อนจริงๆ แล้วจะแคร์อะไรล่ะ” พี่โต้งถามกลับมา มองสบตาหนูเหมือนกำลังจับผิด ทำท่าจะหาเรื่องกวนประสาทอีกแล้วสิ อร๊ายยย มันอะไรกันนักกันหนาคะ สงสัยไม่ได้กินเพดดีกรีเลยอารมณ์บ่จอยกัดไม่เลือกแต่เช้าเลย
“ว่าแต่ข่าวเร็วจังเลยนะ พี่เพิ่งจะส่งไปก่อนน้องฐาตื่นแป๊บเดียวเอง ก็โทรกลับมาถามแล้วเหรอ แล้วแก้ตัวไปว่ายังไงล่ะ?” พี่โต้งถามกลับมา นั่นสินะถ้าอีโอ๋มันเป็นผัวหนูจริงๆ คงโทรมาโวยวายแล้วถ้าหนูหาทางไกล่เกลี่ยซะระหว่างที่พี่โต้งไม่อยู่ พี่โต้งก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
เดาได้แล้วอ่ะ ว่าเหตุผลที่ส่งข้อความนั้นไปคงไม่ใช่สกัดดาวรุ่งอะไรนักหรอก เพียงแต่อยากจะลองใจดูปฏิกิริยาของหนูมากกว่า ถ้าหนูโมโหเป็นทุกข์เป็นร้อนก็จะโดนคิดว่าโอ๋มันเป็นคนสำคัญและเป็นมากกว่าเพื่อน ร้ายจริงๆ เลย พ่อค้าคนนี้นี่ดีดลูกคิดรางแก้วเลยสินะ ชิ!! น้องฐาไม่หลงกลหรอกย่ะ เพราะยังไงมันก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับผู้บริสุทธิ์อย่างหนูอยู่แล้ว
“พี่อย่ามาเนียนดีกว่า ส่งข้อความแปลกๆ แบบนั้นไปใครๆ ก็ต้องงงทั้งนั้นแหละ แล้วที่หนูถามเนี่ย ไม่ได้เคืองที่ส่งข้อความแบบนี้ไปให้โอ๋มันหรอกนะคะ เพราะมันเป็นเพื่อนหนูจริงๆ แต่ที่ถามเนี่ยแค่อยากจะรู้ว่าทำไมถึงลงชื่อหนูอย่างนี้ต่างหาก” เปลี่ยนประเด็นไปเลยดีกว่า เพื่อทำให้คู่ต่อสู้งง
“อ้าว แล้วจะให้ลงว่ายังไง” ถามกลับมาแบบงงๆ โดยยังไม่รู้ความผิดของตัวเองสักนิด
“ฐาค่ะฐา ฐา ฐ สัณฐานค่ะไม่ใช่ถ ถุง คราวหลังหัดเขียนชื่อแฟนตัวเองให้ถูกๆ หน่อยนะคะ หนูถือ” จีบปากจีบคอต่อว่าหน้ามุ่ย
“ถือทำไมล่ะ หนักออก” แทนที่จะสลดไม่มี้ ยังจะมาเล่นลิ้นได้อีก น่าอัดสักตุ้บนะคะเนี่ย
“เอ๊ะ...ไม่ขำอ่ะค่ะ” ตอบกลับไปหน้านิ่ง
“หึหึ....ค่ะๆ คราวหลังจะจำไว้.... ถ้าน้องฐามีกิ๊กใหม่คราวนี้ถ้าส่งข้อความไปจะลงชื่อไม่ให้พลาด”
“พี่โต้ง!!” หนูเสียงดังกลับไปทันที โอ๊ย... ยังอุตส่าห์กะการณ์ล่วงได้อีกนะคนอะไรเนี่ย ฟังแล้วปวดสมองจริ๊ง
“ฮ่า.... ล้อเล่นน่า อย่าเคืองเลยนะ” เก่งจริงนะเรื่องตบหัวแล้วแทงข้างหลัง เอ๊ย!! ลูบหลังค่ะ
“ไอ้เรื่องข้อความน่ะตัดไป แต่เบอร์ในเครื่องหนูมันผิดอะไรคะ ถึงลบออกซะเกลี้ยงเลย” ความผิดหลายกระทงนะคะเนี่ย คนๆ นี้..
“ไม่ได้ตั้งใจจะลบ แต่จะก๊อบเฉยๆ บังเอิญกดผิดอ่ะมันก็เลย.......ไป....หมด....เลย” ท้ายประโยคตอบกลับมาเสียงอ่อย ฮือ..... อยากจะร้องไห้....
ถอนใจเฮือกโต แล้วกัดริมฝีปากล่างย้ำๆ หลายครั้งอย่างขัดอกขัดใจ อยากจะวีนแรงๆ แต่ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี จะด่าก็คงไม่สำนึก....ได้แต่เชิดหน้าไปทางอื่นอย่างหมั่นไส้
“โอ๋......อย่างอนเลยนะ แต่ช้าแต่ งอนมากๆ ไม่ดีนะ ตุ๊กแกจะมากินตับนะคะ” หา..... ความเชื่อจากประเทศไหนเนี่ยไม่เคยได้ยิน
“ขมวดคิ้วมากๆ อ่ะ ตีนกาจะขึ้นเร็ว เครียดมากๆ เส้นเลือดในสมองจะพองขึ้นๆ” หนูขมวดคิ้วหนักเมื่อฟังเสียงจริงจังของอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ “ แล้วก็.... โพ๊ะ...... แตกกระจายกลายเป็นโกโก้ครันช์ในทุ่งข้าวเหนียว” มุขพี่ปัญญาอ่อนได้อีกค่ะ ได้อีกจริงๆ แต่....
“ฮะ ฮะ ฮะ บ้า มีที่ไหนเล่า” หนูกลั้นขำไม่ไหวค่ะ เอาคนนิ่งๆ มาเล่นมุขรั่วๆ แบบนี้มันดูขัดๆ แต่มันก็ขำอย่างประหลาด
“เอาน่าหายงอนนะ เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงเอ็มเคไง ชอบไหมเป็ดน่ะ” หนูมองหน้าพี่เขานิ่งแบบคนกำลังคิดถึงผลกำไรได้เสีย พอเงียบไปนานอีกฝ่ายก็เปลี่ยนเหยื่อล่ออันใหม่
“ไก่ล่ะคะชอบไหม” อือ.... มองหน้า “ไก่” ตรงหน้าแล้วมันก็ปฏิเสธไม่ได้อ่ะนะว่าชอบ “ตับไก่”
“ก็พอกินได้” ตอบอย่างดัดจริตที่สุดในรอบปี
“ดี งั้นเคเอฟซีก็ได้ ปะ อาบน้ำแต่งตัว” ตอบปั๊บ เร่งปุ๊บ อะไรจะรีบปานนั้นคะ?
หนูอาบน้ำไม่นานก็เอาผ้าขนหนูห่อตัวเองเข้าไปเลือกเสื้อผ้าอยู่ในห้องนอนพี่โต้ง มีแต่เสื้อตัวโตๆ กางเกงขายาวๆ ทั้งนั้น แบบว่าไม่รู้จะใส่ตัวไหนเลยให้ตาย น้องฐารับไม่ได้.....
พอเดินออกมาจากห้องนอน แล้วพี่โต้งหันมาเห็นหนูก็ทำหน้าทรมานเพราะการกลั้นขำไว้ไม่อยู่ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่หยุด อย่าเซ่....หนูไม่อยากเป็น “ตลกหลวง” นะ ตาบ้า
“แน่ใจนะว่าจะไปข้างนอกแบบนั้นจริงๆ” พี่โต้งถามกลับมาพยายามกลั้นยิ้ม เป็นใครก็ต้องกลั้นขำค่ะ เพราะหนูไม่อยากใส่เชิ้ตยาวๆ ที่มีเต็มตู้เลยเลือกเอาเสื้อลายบั๊กบันนี่ตัวโตๆ ยาวเกือบถึงเข่ามาใส่ แบบนี้มันเหมาะใส่นอนมากกว่าใส่ออกไปเที่ยวอ่ะนะหนูว่า อีพี่บ้าก็ไม่มีกางกางขาสั้นบ้างเลย เอากางเกงมาใส่ก็ขายาวลากพื้นไปแล้ว ฮ่วย..... ขัดใจๆ
“แล้วจะให้หนูออกไปยังไงอ่า” หนูทำเสียงเศร้าเหมือนคนอยากจะร้องไห้ “ตัวอื่นมันก็ไม่ต่างกันหรอกน่า....” ตอบกลับไปหน้าหงิก
“งั้นมานั่งนี่” พี่โต้งบอก หนูยักย้ายวารไปนั่งข้างๆ พี่แกบนโซฟาด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้ง เหมือนเด็กเอาแต่ใจกำลัง พี่โต้งขยับไปคุกเข่าตรงหน้าหนูก่อนจะค่อยๆ จับขากางเกงที่หนูใส่พับม้วนขึ้นมาที่ตาตุ่มหนูได้แต่นั่งนิ่งมองดูอีกฝ่ายอย่างอึ้งๆ โอ๊ะ.... โรแมนติกแฮะ...ใจเต้นตึ้กตั้กเลยอ่ะ
“ใส่ไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวไปห้างแล้วค่อยไปซื้อเสื้อผ้าที่น้องฐาชอบแล้วกันนะคะ” พี่โต้งบอกแต่หนูฟังฟังแบบผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจมาก เพราะมัวแต่มองหน้าตอนกำลังก้มลงของอีกฝ่ายเพลินไปหน่อย
“เสร็จแล้ว” พี่โต้งบอกแล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหนูทำให้เราสองคนสบตากันปิ๊งๆ อยู่สองวินาทีก่อนที่หนูจะเป็นฝ่ายเสหันไปมองทางอื่นอย่างเขินๆ จากนั้นพี่โต้งก็ลุกขึ้นมานั่งข้างหนู ทั้งๆ ที่โซฟาก็ออกจะกว้างแล้วจะมาเบียดหนูทำม้าย แบบว่ามันร้อนๆ ยังไงไม่รู้อ่า ไม่ชอบให้มากระแซะแบบนี้เลยมันเหมือนมีกระแสไฟมาช๊อตแปล๊บๆ ที่แขนอ่า เลยขยับหนีอีกฝ่ายก็ยังขยับตามมาไม่เลิกจนในที่สุด...
“หนูว่าเรารีบออกไปกันเถอะค่ะ หนูหิวแล้วอ่ะ” หนูตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วหันมายิ้มหวานให้พี่เขา แบบว่าเขินมากไปหน่อยเลยหาเรื่องเบี่ยงเบนประเด็น
“จะรีบไปไหนล่ะ กว่าห้างจะเปิดก็สิบโมงครึ่งโน่น นี่ยังไม่สิบโมงเลย” พี่เขาตอบกลับมาทำให้น้องฐายิ้มแหยส่งไป ได้แต่เอามือรูดเส้นผมยาวๆ ของตัวเองไปมาระบายความเขิน ไม่อยากนั่งอยู่ใกล้ๆ เพราะกลัวจะกลายเป็นตัวหมากในเกมง่ายๆ เหมือนทุกครั้ง ถ้าปล่อยปละให้อารมณ์พาไปแล้วมันหยุดตัวเองไม่ได้ บอกแล้วนะว่าถ้า “เปลี่ยนใจมาง้อ” จะ “เล่นตัวเสียให้เข็ด”
“รู้แล้วว่าทำไมเราถึงชอบใส่ขาสั้น” อยู่ดีๆ พี่เขาก็พูดขึ้นมา คงเพราะหนูลุกขึ้นไปยืนโชว์หุ่นตรงหน้าล่ะมั้งเลยหาเรื่องแซวได้
“ทำไมเหรอคะ” หนูถามกลับไปอย่างงงๆ
“ก็ใส่ขาสั้นแล้วขามันดูยาว แต่ใส่ขายาวแล้วขามันเลย....หายไปแบบนี้ไง ฮ่า ฮ่า” ย่ะ พ่อคนสูง ดูถูกปมด้อยหนูแบบนี้เสียมารยาทนะคะ น้องฐาไม่ได้เตี้ยซะหน่อย เพียงแต่กางเกงพี่โต้งมันขายาวก็เท่านั้นเอง เห็นรอยยิ้มขำแล้วหมั่นไส้จนอยากจะเอาคืนบ้างจัง
และแล้วก็นึกอะไรดีๆ ออก ทั้งๆ ที่คำพูดแบบนี้ไม่ใช่สไตล์น้องฐาหรอกค่ะแต่เป็นการตอกกลับแบบสไตล์อีกิ๊งมันมากกว่า แบบว่าขอยืมเอามาใช้หน่อยละกัน (กิ๊งมันจะชอบชงมุขให้อีกฝ่ายถามว่าอะไรแล้วตอบกลับมาแบบแนวกวนๆ หรือทะลึ่งนิดๆ)
“ที่จริงแล้วมีชุดที่หนูชอบใส่มากกว่าขาสั้นอีกนะคะ พี่รู้ไหมคะว่าชุดอะไร” หนูยิ้มใส่ตาพี่โต้งที่แหงนเงยขึ้นมองหนูอยู่
“ชุดอะไรล่ะ กระโปรงเหรอ?” หนูยิ้มส่ายหน้าให้กับการคาดเดานั้น ค่อยๆ เบียดกายเข้าไปชิดร่างนั้นมากขึ้น วางเข่าข้างหนึ่งลงบนโซฟาแทรกกลางระหว่างขายาวๆ ของคุณพ่อค้าตับจอมหยิ่ง เอนกายลงไปหาจนเส้นผมยาวๆ เคลียแก้มของเขา อีกฝ่ายจ้องตาหนูนิ่งรอคอยคำตอบพร้อมไล้มือหนาไปตามแผ่นหลังของหนูเบาๆ
“นั่นก็ชอบค่ะ แต่มีชุดอื่นที่ชอบมากกว่านั้นอีก.....” หนูโน้มใบหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของคนฟัง
“ก็ชุดวันเกิดไงคะ” ฮุฮุ ฟังแล้วสยิวกิ้วกับเขาบ้างไหมคะเนี่ย บอกตามตรงถ้ามีใครมากระซิบบอกหนูแบบนี้นะหนูคงขนลุกสู้!! ชูชันด้วยความกระสันอยากโอวัลติน (เอ๊ยไม่เกี่ยว)
ตบมุขจบหนูก็ทำท่าจะลุกขึ้นค่ะ เอาพอหอมปากหอมค่ะไม่ได้คิดว่าจะให้มันเลยเถิดหรอกค่ะ แต่พอจะผละออกคนที่นั่งอยู่บนโซฟากลับรั้งแขนหนูไว้ หนูหันไปมองหน้าพี่เขาด้วยแววตาสั่นไหวนิดๆ แสดงถึงคำถาม
“พูด...แล้วก็ทำแบบนี้ แสดงว่าอยากใส่ชุดนั้นตอนนี้เลยใช่ไหม?” พี่เขาถามเสียงเข้มๆ คงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกกระตุกหนวดเสืออยู่ ถ้าบอกว่าอยากแล้วพี่จะทำไหมล่ะตาบ้า....
เฮ้อ.... คิดหนัก....จะตอบว่ายังไงดีล่ะ.....
ใจหนึ่งก็อยาก
แต่อีกใจก็...
กลัว....
กลัว.....
กลัว.....
กลัวพอมีอารมณ์แล้วจะมีอะไรมาขัดให้ไม่ได้กินตับอีกรอบ
ค้างบ่อยๆ หนูไม่ค่อยชินนะยะ........................
(แล้วคนอ่านล่ะ? ค้างกันบ่อยๆ ชินกันหรือยัง? ฮา
)
ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกคนค่ะ
และขอจบประเด็น Nc นะคะเพราะตอนนี้นิจัดการกับนิยายตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อความสบายใจ คือตัดฉากเรตของ ตุลย์ - ปอนด์ออกไปค่อนข้างเยอะ สำหรับคนที่เข้ามาอ่านก่อนลบก็โชคดีไป ฮาๆ
ส่วนน้องฐา ทีแรกนิเข้าไปย่อตัวอักษรตอนแรกๆ ให้ตัวเล็ก แต่ไม่ได้ตัด ตอนหลังนิคิดเข้าข้างตัวเองว่า ถ้าสังเกตดีๆ บทอัศจรรย์ของน้องฐา นิใช้การเปรียบเทียบในการเขียนซะส่วนใหญ่ (ให้เขียนแบบนี้ได้ใช่ไหม?) ดังนั้น.... เนื้อหาไม่น่าจะรุนแรงเกินไปนัก ไม่มีคำหยาบคายจนรับไม่ได้ (และตัดออกแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง) ขอสงวนไว้ตามเดิม ส่วนกันย์กิ๊ง ไม่ต้องพูดถึงเพราะคนละประเด็นเลย....เพราะมันน้อยมาก ฮาๆ
.............................
เออจะบอกว่า ตอนที่เริ่มแต่งนิยายใหม่ๆ ซีรี่ส์เกาหลี “หล่อน่ารัก” กำลังดัง
อิมเมจที่อยู่ในนิยายทั้งหมดของนิ เลยออกมาเป็นตัวละครชายเรื่องนี้ค่ะ
.... กิ๊ง.... จางกึนซอก
ที่มา http://www.blike.net/node/631
ปอนด์..... จองยงฮวา
ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mamo-reen&month=11-09-2010&group=2&gblog=4
ฐา ....ลีฮงกิ
ที่มา http://www.pingbook.com/news/view.php?id=5794
แต่ทำไมตอนลีฮงกิ แต่งญ. เป็นเจสสิก้า ไม่ขาวๆ ตามอิมเมจฐาเลยเนี่ย....
นิเลยไปหาอิมเมจฐาใหม่ ก็เลยเอารูปนี้มาใส่ แบบว่าหน้าคุ้น เป็นนักร้องวงไหนอ่า?
ช่วยบอกนิทีว่าสองรูปนี้คนเดียวกันไหม?
แล้วชื่ออะไรเหรอ? อยากเอามาเป็นอิมเมจน้องฐา
ที่มา http://gallery.showded.com/jesus/213791/441255_เมื่อดาราชายเกาหลี-แต่งหญิง
ขอบคุณคำตอบจากรีล่างๆค่ะ ได้ชื่อมาแล้วชื่อว่า ฮีซอล วงsj นะคะ น่ารักจริงๆ
“น่ารักอ่ะ”
มีอีกรูปที่ชอบ
เควิน
รูปนี้ก็น่ารักอ่ะ แต่ชอบรูปบนมากกว่า
ตามใจแล้วแต่คนอ่านจะจิ้นเลยนะคะ อิอิ